Thursday, 8 May 2025
NewsFeed

ชาวจีนแห่ตั้งรกรากที่โอซาก้า หวังชีวิตใหม่ในดินแดนอาทิตย์อุทัย หลังถูกบีบด้วยหนีภาษีทรัมป์–เศรษฐกิจชะลอ–ระบบการศึกษากดดัน

(8 พ.ค. 68) เศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญกับภาวะชะลอตัวยืดเยื้อ โดยได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ในยุคทรัมป์ ทำให้เกิดกระแสการอพยพของชาวจีนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเมืองโอซาก้าในญี่ปุ่นที่กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม

คำแสลง 'จุน' ที่ใช้กันในจีนซึ่งแปลว่า 'หลบหนีออกนอกประเทศ' สะท้อนความรู้สึกของชนชั้นกลางและผู้มีฐานะที่ต้องการหลีกหนีจากความกดดันทางเศรษฐกิจ สังคม และระบบการศึกษา โดยเฉพาะหลังมาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดในช่วงโควิด-19

ญี่ปุ่นกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ เพราะมีความใกล้ชิดกับจีน ค่าครองชีพต่ำ ค่าเงินเยนอ่อน และระบบการศึกษาที่ผ่อนคลายกว่าจีนอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ระบบสวัสดิการของญี่ปุ่นก็น่าเชื่อถือมากกว่า ทำให้ผู้อพยพรู้สึกมั่นใจในการตั้งรกรากระยะยาว

รายงานระบุว่า ค่าใช้จ่ายในการศึกษาระดับประถมในจีนอาจสูงถึง 12 ล้านเยนต่อปี (ราว 2.7 ล้านบาท) ขณะที่ในญี่ปุ่น ค่าใช้จ่ายต่ำกว่ามาก ส่งผลให้หลายครอบครัวจีนมองว่าการย้ายมาอยู่ญี่ปุ่นเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของลูก

ตัวอย่างเช่น ครอบครัวหนึ่งที่ย้ายมาโอซาก้า ลูกสาวคนโตสามารถปรับตัวกับชีวิตในโรงเรียนญี่ปุ่นได้ดี และรู้สึกว่ามีเวลาสำหรับกิจกรรมที่หลากหลายมากขึ้น ผู้ปกครองกล่าวว่า “ในจีนต้องใช้ความพยายาม 100% เพื่อเข้า ม.ดัง แต่ที่ญี่ปุ่น ลูกผมอาจใช้แค่ 70% แล้วใช้ที่เหลือพัฒนาทักษะชีวิต”

หมอธีระเตือน! โควิด-19 ระบาดหนักหลังหยุดยาว กรุงเทพฯ พบผู้ป่วยสูงกว่าไข้หวัดใหญ่ 6.7 เท่า เสี่ยงลามรับเปิดเทอม

(8 พ.ค. 68) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ จากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เปิดเผยสถานการณ์โควิด-19 ผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า หลังเทศกาลและช่วงหยุดยาว พบผู้ป่วยโควิด-19 ในกรุงเทพฯ สูงกว่าไข้หวัดใหญ่หลายเท่า โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา (27 เม.ย.–3 พ.ค.) มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาใน รพ. มากถึง 8,446 ราย ซึ่งยังไม่รวมผู้ติดเชื้อที่ไม่ได้เข้ารักษา

จากข้อมูลล่าสุดในสัปดาห์ที่ 19 ปี 2568 พบว่า ผู้ป่วยโควิด-19 มากกว่าไข้หวัดใหญ่ถึง 6.7 เท่า และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงาน และเด็กเล็กอายุ 0–4 ปี ที่พบว่าป่วยเพิ่มมากขึ้นอย่างน่ากังวล ในขณะที่ช่วง 3 วันที่ผ่านมา อัตราป่วยโควิดสูงกว่าไข้หวัดใหญ่ถึง 2 เท่า และมีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย

รศ.นพ.ธีระ ย้ำว่า โควิด-19 ยังคงต้องระวัง เพราะติดเชื้อได้ก่อนมีอาการ 2–3 วัน และตรวจหาเชื้อช่วงแรกอาจให้ผลลบ ต้องแยกตัวอย่างน้อย 5–10 วัน และควรใส่หน้ากากเมื่อต้องอยู่ใกล้ผู้อื่น โดยเฉพาะในสถานที่ปิดหรือระบายอากาศไม่ดี เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อในวงกว้าง

ทั้งนี้ ฝากถึงผู้ปกครองและสถานศึกษาที่กำลังจะเปิดเทอมให้ดูแลเด็ก ๆ อย่างใกล้ชิด และขอให้สถานที่ทำงานให้ความสำคัญกับการประเมินความเสี่ยงอย่างรอบคอบ อย่าเร่งให้ผู้ติดเชื้อกลับมาทำงานโดยไม่ป้องกันอย่างเหมาะสม เพราะอาจนำไปสู่การแพร่ระบาดซ้ำอีกระลอก

‘ทรัมป์’ เตรียมประกาศ ‘ข้อตกลงการค้าใหม่’ กับประเทศพันธมิตร สัญญาณแรกของการคลี่คลาย ‘สงครามภาษี’ ที่กระทบเศรษฐกิจโลก

(8 พ.ค. 68) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยผ่าน Truth Social ว่าจะมีการแถลงข่าวใหญ่ในเช้าวันพฤหัสบดี (เวลา 23.00 น. ตามเวลาในไทย) เกี่ยวกับข้อตกลงการค้าฉบับสำคัญกับ “ประเทศใหญ่ที่น่าเคารพนับถือ” ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการผ่อนคลายภาษีศุลกากรระดับสูงที่เคยสร้างความตึงเครียดในเศรษฐกิจโลก

แม้ทรัมป์จะไม่ได้ระบุชื่อประเทศ แต่ฝ่ายบริหารชี้ว่าอยู่ระหว่างการเจรจากับหลายชาติ รวมถึงสหราชอาณาจักร อินเดีย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น โดยที่ปรึกษาด้านการค้า ปีเตอร์ นาวาร์โร ชี้ว่าสหราชอาณาจักรอาจเป็นชาติแรกที่ลงนามข้อตกลงกับสหรัฐฯ

แหล่งข่าวจาก Financial Times ระบุว่า ข้อตกลงกับสหราชอาณาจักรอาจครอบคลุมถึงการยกเว้นสหรัฐฯ จากภาษีบริการดิจิทัล และในทางกลับกัน สหรัฐฯ อาจลดภาษีนำเข้าเหล็ก อลูมิเนียม และรถยนต์จากอังกฤษ ซึ่งจะเป็นก้าวแรกของการคลี่คลายมาตรการกีดกันทางการค้า

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าข้อตกลงที่ทรัมป์จะประกาศอาจยังไม่ใช่ “ข้อตกลงการค้าอย่างเป็นทางการ” แต่เป็นเพียงบันทึกความเข้าใจ ซึ่งไม่อาจให้ประโยชน์ระยะยาวเทียบเท่าข้อตกลงที่ผ่านขั้นตอนทางกฎหมายครบถ้วน

การประกาศครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และจีนในเจนีวา โดยรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ระบุว่าการพบปะครั้งนี้จะช่วยลดความตึงเครียด แม้ยังไม่มีสัญญาณว่าจะมีข้อตกลงชัดเจน ขณะที่ทรัมป์ยืนยันจะไม่ลดภาษีนำเข้าสินค้าจีนล่วงหน้า

ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่าหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย สหรัฐฯ อาจเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหากยังคงอัตราภาษีที่สูงซึ่งกระทบทั้งผู้บริโภคและภาคธุรกิจทั่วโลก

Alipay เผย ไทยยังเป็น 1 ในจุดหมายปลายทาง กลุ่มประเทศยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีน

ข้อมูลล่าสุดจาก Alipay และเครือข่ายพันธมิตร Alipay+ เผยให้เห็นถึงความคึกคักอย่างมากของภาคการท่องเที่ยวจีน ทั้งนักท่องเที่ยวที่เดินทางออกนอกประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าสู่ประเทศจีนในช่วงวันหยุดยาววันแรงงานและเทศกาล Golden Week ที่ผ่านมา

ข้อมูลจาก Alipay และเครือข่ายพันธมิตร Alipay+ เผยนักท่องเที่ยวจีนยังเดินทางใช้จ่ายในต่างประเทศต่อเนื่องในช่วงวันหยุดยาววันแรงงานและเทศกาล Golden Week โดยไทย ยังเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยม

สำหรับ เครือข่าย Alipay+ นับเป็นระบบชำระเงินระดับโลก ช่วยให้นักท่องเที่ยวจีนสามารถใช้แอปพลิเคชันกระเป๋าเงินดิจิทัล ชำระค่าสินค้าและบริการในกว่า 70 ประเทศทั่วโลกได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่ต้องแลกเงินสด

ทั้งนี้ ข้อมูลยอดใช้จ่ายผ่าน Alipay ชี้ว่าจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีน ได้แก่
* ฮ่องกง
* ญี่ปุ่น
* มาเก๊า
* เกาหลีใต้
* ไทย
* มาเลเซีย
* สิงคโปร์
* ฝรั่งเศส
* แคนาดา
* อิตาลี

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวจีนยังเริ่มมองหาประสบการณ์ที่แปลกใหม่และเฉพาะเจาะจงมากขึ้น โดยสวิตเซอร์แลนด์มียอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนสูงสุด และเกาหลีใต้มียอดใช้จ่ายต่อคนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่วนหนึ่งมาจากความนิยมในการทำศัลยกรรมความงาม

ขณะเดียวกัน ยังพบว่า นักท่องเที่ยวจีนยังนิยมใช้ระบบขนส่งสาธารณะในต่างประเทศมากขึ้น โดยยอดการทำธุรกรรมผ่าน Alipay เพิ่มขึ้นถึง 53% โดยเฉพาะในฮ่องกงและมาเก๊าที่นิยมใช้จ่ายค่ารถบัสและรถไฟใต้ดินผ่าน Alipay เหมือนกับการเดินทางในชีวิตประจำวัน ขณะที่ในยุโรปและญี่ปุ่นนิยมใช้ซื้อตั๋วรถไฟและเช่าจักรยาน

ส่วนบริการขอคืนภาษีแบบเรียลไทม์ผ่าน Alipay ก็มียอดคืนเงินเฉลี่ยต่อรายการเพิ่มขึ้น 33% และยอดการใช้โปรโมชั่นส่วนลดต่างๆ ผ่าน Alipay ก็พุ่งขึ้น 46% เมื่อเทียบกับช่วงหยุดยาวปีใหม่

อย่างไรก็ตาม จากมาตรการยกเว้นวีซ่าและนโยบายการคืนภาษีใหม่ของจีน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศจีนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยจำนวนธุรกรรมและมูลค่าการใช้จ่ายรวมในจีนผ่านแอปกระเป๋าเงินดิจิทัลต่างประเทศ 13 แพลตฟอร์ม เพิ่มขึ้นกว่า 100% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยแอปที่มีการใช้จ่ายสูงสุดคือ AlipayHK ตามมาด้วย Touch ‘n Go e-Wallet (มาเลเซีย), Kazpi.kz (คาซัคสถาน), MPay (มาเก๊า) และ TrueMoney (ไทย)

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติประชุมคณะกรรมการส่งเสริมงานสอบสวน หาแนวทางแก้ไขปัญหา พัฒนาระบบงานสอบสวนให้ครบถ้วนทุกมิติ และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในอนาคต

เมื่อวานนี้ (7 พ.ค.68) เวลา 15.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมงานสอบสวน ครั้งที่ 1/2568 ณ ห้องประชุม ศปก.ตร. ชั้น 20 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร.(รับผิดชอบงานกฎหมายและคดี) , พล.ต.ท.ณพวัฒน์ อารยางกูร ผู้ช่วย ผบ.ตร. , คณะที่ปรึกษาคณะกรรมการส่งเสริมงานสอบสวน ประกอบด้วย พล.ต.อ.วุฑฒิชัย ศรีรัตนวุฒิ , พล.ต.ท.จักรทิพย์ กุญชร ณ อยุธยา, พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน และ พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ทั้งในรูปแบบพบปะโดยตรงและผ่านระบบประชุมทางไกลอิเล็กทรอนิกส์ (Zoom)

ในการนี้ ผบ.ตร. ได้กล่าวเปิดการประชุม โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรับฟังความคิดเห็น ปัญหา ข้อเสนอแนะ และแนวทางแก้ไขปัญหาการขาดแคลนพนักงานสอบสวนจากผู้เข้าร่วมประชุม รวมถึงแนวทางในการสร้างขวัญกำลังใจให้พนักงานสอบสวนได้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถดำรงตนในความยุติธรรมได้อย่างสมศักดิ์ศรี และได้ร่วมพิจารณาแนวทางที่เหมาะสมอย่างยั่งยืนในการพัฒนาระบบงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ครบถ้วนทุกมิติ และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในอนาคต

'สมาคมช่างภาพผู้สื่อข่าวโทรทัศน์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์' แถลงข่าว คอนเสิร์ตไตรการ คอนเสิร์ตการกุศล เพื่อเชิดชูเกียรติประวัติครูเพลง สุรพล โทณวณิก ศิลปินแห่งชาติ 9 สิงหาคมนี้ ห้ามพลาด

บรรยากาศงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต 'ไตรกาล' เพื่อเชิดชูเกียรติประวัติศาสตร์ครูเพลง สุรพล  โทณะวณิก ศิลปินแห่งชาติ จัดโดยสมาคมช่างภาพผู้สื่อข่าวโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมี แจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์ ต้อมเรนโบว์ จิ๊บร.ด. นัทเลอทาน่า และ อลิศ ธนัชศลักษณ์ มาร่วมงานแถลงข่าวในวันนี้

โดยมี คุณพัฒนพงค์ หนูพันธ์ กรรมการผู้จัดการ ช่อง7HD ร่วมมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีในวันนี้อีกด้วย 

อนึ่งคือเดิมจะมีการจัดงานในวันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม 2568 เวลา 14.00-17.00 น. ณ mcc Hall เซ็ลทรัลลาดพร้าว

​แต่ด้วยการเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว สร้างความตกใจและยังหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของแฟนเพลง 

พี่แจ้-นายดนุพล แก้วกาญจน์ ศิลปินที่รับการดำเนินงานจัดงานครั้งนี้ ได้ประชุมและมีความเห็นว่า  ควรต้องเลื่อนการจัดงานออกไป 

โดยกำหนดจัดงาน เป็นวันที่ 9สิงหาคม 2568 โดยจัดสถานที่เดิมคือ BccHall เซ็นทรัลลาดพร้าว   

ผู้ที่สนใจซื้อบัตรได้ทาง 👉https://m.thaiticketmajor.com/concert/trikarn-gawee-pleng-3-paen-din.html

กิจกรรมเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาโลก ณ เมืองโฮจิมินห์ เวียดนาม ครั้งที่ 20

หลวงพ่อพระพรหมบัณฑิต คือ พระมหาเถระที่ยืนหนึ่งบนเวทีระดับโลก สิ่งที่เห็นและเป็นไป ในกิจกรรมเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาโลก ณ เมืองโฮจิมินห์ เวียดนาม ครั้งที่ 20 โดยใช้สมาคมสภาสากลวันวิสาขบูชาโลกบน Platform ในการทำหน้าที่เป็นสะพานในการเชื่อมชาวพุทธนานาชาติ ทั้งสามนิกาย: เถรวาท มหายาน และวัชรยาน เชื่อมทั้งศรีลังกา ไทย พม่า จีน เกาหลี เวียดนาม สู่ภูฏานและอินเดีย ข้ามสู่ยุโรป อเมริกา อเมริกาใต้ ออสเตรเลีย และประเทศอื่นๆ ในขณะที่ประเทศจีน โดยพุทธสมาคมจีน และรัฐบาล ได้เดินทางมาพบทั้งประเทศไทย และเวียดนามในช่วงการจัดงานวิสาขบูชา เพื่อยืนยันถึงความพร้อมของประเทศจีนในการเป็นเจ้าภาพ ครั้งที่ 21 

วันวิสาขบูชาโลก  มุ่งสู่โอกาส World Wellness Complex: WWC  วันวิสาขบูชาโลก เป็นตลาดนัด หรือ Sunday Market ของชาวพุทธ ที่เดินทางมาพบปะแลกเปลี่ยน โดยใช้ความสัมพันธ์ที่ดีงามผ่านการทะลายกำแพง แล้วสร้างสะพานไปสู่ความร่วมมือในระดับพหุภาคี และทวิภาคีไปทำเรื่องอื่นๆ รวมถึงการนำหลักธรรม พลังความเชื่อ วัฒนธรรม วัดวาอาราม และวิถีปฏิบัติแบบสติ และสมาธิไปช่วยเป็นพลังในการเสริมสร้างความสุข สงบร่มเย็นเป็นสุขแก่ชีวิต โดยใช้การศึกษา การเผยแผ่ และสร้างสรรค์พลังร่วมมือและความสุขแก่ชาวโลก เวียดนาม ทุ่มงบ 200 กว่าล้าน ใช้วันวิสาขบูชาโลกเป็น Soft Power ดึงนักท่องเที่ยววิถีวัฒนธรรมและศาสนา

ประเทศไทยในปี 2548 โดยรัฐบาลไทย เคยใช้แนวนโยบายวิสาขบูชาโลกเป็น Soft Power มาก่อน ทุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้าน ดึงพลังทุกกระทรวง รวมถึงดึงศักยภาพของเอกชนมาสนับสนุนให้ผู้นำศาสนา ทั้งมหาเถรสมาคมและมหาจุฬาฯ โดยหลวงพ่อพระพรหมบัณฑืต เมื่อครั้งเป็นพระเทพโสภณ จัดกิจกรรมยกระดับวิสาขบูชาโลก เปิดประเทศดึงชาวพุทธทั่วโลกมาร่วมกิจกรรม นำสู่การท่องเที่ยวเชิงพุทธ ในขณะที่เวียดนามนั้น คณะสงฆ์และรัฐบาลก็นำใช้โมเดลดังกล่าวมาใช้ยกระดับการสร้างแบรนด์เพื่อสร้างคุณค่าให้กับประเทศ

ด้านคณะสงฆ์เวียดนาม ใช้วันวิสาขบูชาปลุกพลังศรัทธา ทุ่มพัฒนาการศึกษายกระดับสู่นานาชาติ การจัดพิธีเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา ณ มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาเวียดนาม หรือ Viet Nam Buddhist University ตีความเป็นอื่นไปไม่ได้  นอกจากการใช้พิธีนี้ เปิดมหาวิทยาลัยแห่งนี้อย่างเป็นทางการ ชี้นำให้ชาวโลกเห็นความพร้อมของการศึกษาพระพุทธศาสนาสมันใหม่ภายใต้การเชื่อมการศึกษาระดับนานาชาติของรัฐ สร้างความไว้ใจและแสดงความพร้อมสำหรับการศูนย์กลางการศึกษาพระพุทธศาสนาในระดับโลก

การสร้างชาติให้เติบโตอย่างมั่งคง ต้องไม่หลงลืมพลังศาสนา ไทยเคยแนวนโยบาย 3 พลังในการสร้างชาติไทย คือ การผนึกกำลังชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หลอมรวมให้เป็นหนึ่งจนประเทศไทยเคยสามารถยืนหนึ่งในอาเซียนอย่างมั่นคง ในขณะที่เวียดนามได้รวมพลังสร้างชาติมาตลอด 50 ปี หลัง 30 เมษายน 2518 ที่เป็นวันแห่งการปลอดปล่อยเวียดนามรวมเป็นหนึ่ง แล้วใช้แนวทางชาติกับศาสนาเสริมพลังกัน ตนเห็นชัดเจนในการจับงานฉลอง 50 ปีการสร้างชาติเวียดนามใหม่มารวมกับการจัดพิธีวิสาขบูชาโลกครั้งที่ 20 หลังยื่นขอเป็นเจ้าภาพมาร่วม 5 ปี ทั้งการล๊อบบี้และพูดในเวทีต่างๆ

ทั้งหมดคือสิ่งที่เห็นจากการเข้ามาคลุกคลีและช่วยชาวพุทธเวียดนามเตรียมการจัดงานมาตลอดทั้งปัที่ผ่านมา และขอแสดงความชื่นชม ทั้งพี่น้องชาวพุทธเวียดนามที่มุ่งมั่นนำพุทธศาสนามาปักธงในประเทศนี้ โดยมีท่านติ๊ก กว่าง ดึ๊ก ได้เสียสละเผาตัวตายให้ชาวโลก และชาวเวียดนามได้ลืมตาตื่นขึ้นมารักษาภูมิปัญญาที่ยิ่งใหญ่ใหญ่ ทิ้งหัวใจไว้เตือนใจให้ชาวพุทธเวียดนามได้ตระหนัก รักษาพุทธให้คงอยู่คู่กับชาวเวียดนามและชาวโลกตลอดไป

‘เกาหลีเหนือ’ ยิง ‘ขีปนาวุธพิสัยใกล้’ หลายลูกลงทะเลญี่ปุ่น หลังผู้นำ ‘คิม จองอึน’ เยี่ยมโรงงานกระสุนที่เพิ่มกำลังผลิต 4 เท่า

(8 พ.ค. 68) สื่อเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้หลายลูกจากเขตวอนซาน ทางตะวันออกของประเทศ ลงสู่ทะเลญี่ปุ่น โดยยังไม่ระบุพิสัยหรือจำนวนที่แน่ชัด ขณะกองทัพเกาหลีใต้และสหรัฐฯ กำลังวิเคราะห์รายละเอียดเพิ่มเติม

การยิงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 7 พ.ค. คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เดินทางเยี่ยมชมโรงงานผลิตกระสุนขนาดใหญ่ของประเทศ ซึ่งรายงานว่าได้เพิ่มกำลังการผลิตกระสุนปืนใหญ่ขึ้น 4 เท่าจากระดับเฉลี่ย และเกือบ 2 เท่าของระดับสูงสุดก่อนหน้า

ก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายน เกาหลีเหนือได้ทดสอบระบบอาวุธบนเรือรบใหม่ พร้อมประกาศแผนส่งมอบเรือพิฆาตหนัก 5,000 ตันให้กับกองทัพเรือต้นปีหน้า โดยคิมย้ำถึงเป้าหมายในการเพิ่มขีดความสามารถนิวเคลียร์ทางทะเลของประเทศ

นอกจากนี้ สื่อทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า โรงงานกระสุนดังกล่าวอยู่ภายใต้คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจที่สอง ซึ่งดูแลอุตสาหกรรมทหารโดยตรง ซึ่งผู้นำคิมจองอึนแสดงความหวังว่าการผลิตกระสุนที่เพิ่มขึ้นจะช่วยขยายกำลังรบของกองทัพ

ขณะเดียวกัน มีรายงานจากตะวันตกว่า เกาหลีเหนือได้ส่งกระสุนปืนใหญ่ให้รัสเซียระหว่างสงครามในยูเครนแล้วกว่า 4–6 ล้านลูก ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นสัญญาณของความร่วมมือทางทหารที่ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นระหว่างสองประเทศ

PETA โพสต์อีกระลอก! อ้างลิงไทยโดนบังคับเก็บมะพร้าว ชี้บางแบรนด์น้ำกะทิไทยยังคงใช้ ‘แรงงานลิง’ ทั้งที่มีทางเลือกอื่น

(8 พ.ค. 68) องค์การพิทักษ์สัตว์ PETA โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กพร้อมภาพประกอบ ระบุว่า “It's true💔 Some Thai coconut milk brands use forced monkey labor…” กล่าวหาว่าบางแบรนด์ของน้ำกะทิไทยยังคงใช้ 'แรงงานลิง' เพื่อเก็บมะพร้าว แม้จะมีทางเลือกทางจริยธรรมอื่นให้ใช้แทนแล้วก็ตาม

โพสต์ดังกล่าวอ้างว่า ลิงเหล่านี้ถูกพรากจากครอบครัวตั้งแต่ยังเล็ก และถูกฝึกให้ทำงานอย่างหนักเหมือนเครื่องจักรเก็บมะพร้าว เพื่อผลผลิตในอุตสาหกรรมอาหาร ข้อความของ PETA นี้ ได้วิพากษ์วิจารณ์อย่างชัดเจนว่า “พวกมัน (ลิง) ถูกขโมยจากครอบครัว และถูกปฏิบัติเหมือนเป็นเครื่องจักรเก็บมะพร้าว”

ที่ผ่านมา PETA เคยเปิดเผยข้อมูลและทำแคมเปญรณรงค์ในประเด็นนี้หลายครั้ง ส่งผลให้ซูเปอร์มาร์เก็ตและแบรนด์ต่างประเทศหลายแห่งแบนผลิตภัณฑ์จากไทยบางยี่ห้อที่เข้าข่ายใช้แรงงานลิง แม้หน่วยงานในไทยจะเคยออกมาโต้แย้งและยืนยันว่ากรณีดังกล่าวมีเพียงส่วนน้อย

“จนกว่าอุตสาหกรรมมะพร้าวไทยจะปลอดจากการใช้แรงงานลิงโดยสิ้นเชิง ทาง PETA ขอเรียกร้องให้ผู้บริโภคเลือกซื้อน้ำกะทิจากแบรนด์ที่ได้รับการรับรองจาก PETA เท่านั้น”

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีคำชี้แจงจากแบรนด์หรือหน่วยงานทางการไทยต่อโพสต์ล่าสุดของ PETA แต่ประเด็นนี้อาจจุดกระแสให้กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง โดยเฉพาะในตลาดส่งออกสินค้ามะพร้าวของไทยในสหรัฐฯ และยุโรป

กกต.สั่งถอนชื่อผู้สมัคร 'สท.ศรีราชา' เหตุเคยต้องโทษจำคุกคดีค้ายาเสพติด

พรรคประชาชนฉาวอีก หลัง กกต. สั่งถอนชื่อ 'สิทธิชัย สัมฤทธิ์' ผู้สมัคร สท.ศรีราชา เหตุขาดคุณสมบัติต้องคำพิพากษาจำคุกคดีค้ายาเสพติด

(8 พ.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีมีการเผยแพร่คำวินิจฉัยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้มีการถอนชื่อนายสิทธิชัย สัมฤทธิ์ สมาชิกพรรคประชาชน ออกจากการเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ หมายเลข 13 เขตเลือกตั้งที่ 1 อำเภอเมืองศรีราชา จ.ชลบุรี เนื่องจากขาดคุณสมบัติในการลงสมัครนั้น น.ส.มนัสนันท์ วิทนา ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดชลบุรี ยอมรับว่า กกต.มีมติสั่งถอนชื่อนายสิทธิชัย ออกจากการเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์จริง และได้แจ้งไปยังผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์แล้ว

โดยนายสิทธิชัยต้องคำพิพากษาในคดีเก่า ซึ่งเป็นเหตุทำให้ไม่มีคุณสมบัติในการลงสมัครและเข้าข่ายรู้อยู่แล้วว่าตนเองไม่มีสิทธิ์สมัครแต่ยังมาลงสมัครตามมาตรา 120 พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 ที่กำหนดโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาทและให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้นั้นมีกำหนด20 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามคำวินิจฉัยของ กกต.ระบุว่า นายสิทธิชัยเคยต้องคำพิพากษาศาลจังหวัดพัทยาซึ่งพิพากษาว่ากระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด และสั่งลงโทษจำคุกลงโทษจำคุก 4 ปี 6 เดือน ปรับ 300,000 บาท จะมี พ.ร.บ.ล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรม มีพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธ.ค. 2550 ก็ไม่ได้เป็นผลให้การกระทำอันเป็นเหตุให้ถูกลงโทษลบล้างไปด้วยนายสิทธิชัย จึงเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง สภาเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ เขตเลือกตั้งที่ 1 อำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี ตามพ.ร.บ.การเลือกสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 50 (10)


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top