Thursday, 8 May 2025
NewsFeed

ตำนานส่งลูกผูกใจของตระกูล'พัธโนทัย' ย้อนไปปี 1965 ช่วงต้นสถาปนา 'สาธารณรัฐประชาชนจีน'

ทางฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ มีบ้านหลังหนึ่งที่ชื่อว่า 'บ้านสิรินทร์' เจ้าของบ้านหลังนี้คือ สิรินทร์ พัธโนทัย ซึ่งมีชื่อภาษาจีนว่า ฉางหยวน หนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์แห่งความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-จีน

ย้อนไปเมื่อปี 1956 ช่วงต้นสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน สังข์ พัธโนทัย ผู้เป็นบิดาเคยส่งตัวสิรินทร์ในวัย 8 ปีพร้อม ‘วรรณไว พัธโนทัย’ พี่ชายวัย 12 ปีไปอยู่ภายใต้การดูแลของอดีตนายกรัฐมนตรีโจวเอินไหลในฐานะบุตรบุญธรรม เพื่อแสดงความจริงใจและมิตรภาพที่มีต่อจีน

ครอบครัวของฉางหยวนมีบทบาทพิเศษต่อการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-จีน และด้วยเหตุนี้ตระกูลพัธโนทัยจึงมีสายใยผูกพันกับจีนอย่างแยกไม่ขาด

สิรินทร์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่าตลอด 14 ปีที่เธอเติบโตในประเทศจีน เธอรู้สึกประทับใจที่ได้เป็นหนึ่งในบุตรบุญธรรมของโจวเอินไหล และได้รับความรักเฉกเช่นคนในครอบครัว ปัจจุบัน สิรินทร์ยังคงใช้ภาษาจีนสื่อสารกับบุตรหลาน และบุตรหลานของเธอก็พูดภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่ว

กระทั่งปี 1975 ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช นายกรัฐมนตรีของไทยในขณะนั้นได้ลงนามสร้างสัมพันธ์ทางการทูตกับโจวเอินไหล นับเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีนอย่างเป็นทางการ

‘ทรัมป์’ เปลี่ยนท่าที เตรียมลดภาษีนำเข้าจีน ยอมรับไม่อยากให้สงครามการค้ายืดเยื้อ

(23 เม.ย.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เผยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่า สหรัฐฯ เตรียมลดเพดานภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนจากระดับสูงสุด 145% พร้อมยอมรับว่าไม่ต้องการให้สงครามการค้าระหว่างสองชาติเศรษฐกิจยืดเยื้อ โดยระบุว่า “จะไม่เล่นไม้แข็ง” และต้องการให้เกิดข้อตกลงที่เป็นธรรม

ด้าน รัฐมนตรีคลัง สกอตต์ เบสเซนต์ ระบุว่าการเจรจากับจีนจะเป็นเรื่องท้าทาย แต่คาดว่าความตึงเครียดจะผ่อนคลาย ขณะที่ทรัมป์ยืนยันจะลดภาษีลง “อย่างมาก” แม้ไม่ถึงขั้นเป็นศูนย์ แต่จะอยู่ในระดับที่จีนสามารถยอมรับได้ โดยเขาและทีมจะร่วมกันพิจารณารายละเอียดด้วยตนเอง

ขณะเดียวกัน รศ.ดร. อักษรศรี พานิชสาส์น อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก 'Aksornsri Phanishsarn' เมื่อ 23 เม.ย. ชี้ว่า ทรัมป์เริ่มถูกเมินหนักจากจีน จึงเริ่ม 'อ่อย' ด้วยท่าทีอ่อนลง พร้อมระบุว่า “ทรัมป์บอกจะ Very Nice กับจีนจ้า”

ทั้งนี้ ทรัมป์ยังเปลี่ยนท่าทีต่อเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด โดยยืนยันว่า “ไม่เคยคิดจะปลด” แม้เพิ่งวิจารณ์เรื่องการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยล่าช้า

‘สนธิญา’ ยื่น ป.ป.ช. สอบจริยธรรม ‘พีระพันธุ์’ ปม อ้างองคมนตรี - ถือหุ้น 3 บริษัท หลังรับตำแหน่ง รมต.

‘สนธิญา สวัสดี’ ยื่นร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.สอบจริยธรรม ‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ ปมอ้างองคมนตรี - ถือหุ้น 3 บริษัท หลังเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี

(23 เม.ย. 68) นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ยื่นร้องเรียนต่อ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ไต่สวนตรวจสอบหาข้อเท็จจริง กรณี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ดังต่อไปนี้

1. มีการอ้างถึงองคมนตรี ซึ่งเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 12 หรือไม่ 

2. ประเด็นการถือหุ้นอยู่ในบริษัท จำนวน 3 บริษัท หลังจาก นายพีระพันธุ์ รับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2566  

นายสนธิญา เรียกร้องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการให้เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 และมาตรา235 เพื่อไต่สวนและมีความเห็น ว่า เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ในมาตรา 187 ประกอบมาตรา 170 (4) (5) และ มาตรา 219 การกระทำที่ฝ่าฝืน ต่อจริยธรรมร้ายแรง ในข้อที่ 7 ข้อที่ 8 ข้อที่ 11 ข้อที่ 17 ข้อที่ 21 ประกอบข้อที่ 27 

ทั้งนี้เพื่อไต่สวนและตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมีการกระทำการดังกล่าว ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง ก็ให้ ป.ป.ช. ดำเนินการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 235 ต่อไป 

นายสนธิญา กล่าวว่า เป็นการใช้สิทธิตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 41 (1)(2) ประกอบ มาตรา 50 เพื่อ ป.ป.ช. ไต่สวน และตรวจสอบหาข้อเท็จจริง อันเป็นที่ประจักษ์ ตามที่ได้รับการร้องเรียน จากประชาชนมา เพื่อเป็นไปตามกระบวนการรัฐธรรมนูญ และจริยธรรมของนักการเมือง และ คณะรัฐมนตรี 

เว็บพนัน 888 ปลด ‘สป.สายไหม’ พ้นพรีเซนเตอร์ หลังเจอวิจารณ์ร้อน เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม

(23 เม.ย. 68) จากกรณีที่เพจ 'สป.สายไหม' โพสต์รูปคู่กับนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ นายกเบี้ยว พร้อมข้อความตำหนิถึงอินฟลูเอนเซอร์ที่ทำตัวเป็นมาเฟีย สั่งตำรวจได้และชี้นำตำรวจ ทำตัวใหญ่กว่าศาลฯ 

ต่อมานายกัน จอมพลัง ได้โพสต์ตอบโต้ทันควัน ก่อนรวบรวมข้อมูลและหลักฐานการทำเว็บพนันจากเฟซบุ๊ก 'สป.สายไหม' เพื่อตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน isb888bet.com หรือไม่ โดยได้ส่งข้อมูลให้ตำรวจไซเบอร์ดำเนินการสอบสวน

ล่าสุดทางเว็บ 888 ได้ประกาศว่า เนื่องจากการก่อกวนจากผู้ไม่ประสงค์ดี บริษัทจึงขอแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยจะหยุดรับผู้เข้าเว็บไซต์ใหม่ชั่วคราว และขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมยืนยันว่าอินฟลูเอนเซอร์ที่มีประเด็นเป็นเพียงผู้ที่ถูกจ้างมาโปรโมตเท่านั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ทางเว็บยังกล่าวว่า บริษัทไม่มีประวัติเสียแม้แต่บิลใบเสร็จเดียว และขอให้ติดตามข่าวสารจากทางบริษัทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากแถลงการณ์นี้เผยแพร่ออกไป ก็มีผู้คนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์มากมาย

ส่วนความเคลื่อนไหวของ สป.สายไหม หลังจากเคยให้สัมภาษณ์ในรายการโหนกระแสและอวดถึงอาชีพการพนัน รวมทั้งกล่าวถึงการเป็นขาใหญ่ในแดน 5 เรือนจำคลองเปรม ล่าสุดโพสต์ส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง ด้วยข้อความกล่าวอำลาลูกรัก “คิดถึงนะลูกรัก เดี๋ยวพ่อกลับเข้าไปโรงเรียนเก่าก่อนเดี๋ยวกลับมาหานะครับ”

‘กลุ่มก่อการร้าย’ กราดยิงนักท่องเที่ยวในรัฐจัมมูและแคชเมียร์ ดับสลด 26 ศพ เจ็บอีก 17 ราย ‘ทรัมป์’ โพสต์ประณามพร้อมหนุนอินเดีย

(23 เม.ย. 68) เกิดเหตุกราดยิงใส่กลุ่มนักท่องเที่ยวในเมืองปาฮาลกัม รัฐจัมมูและแคชเมียร์ ประเทศอินเดีย โดยกลุ่มมือปืนประมาณ 3-4 คน ใช้อาวุธปืนกราดยิงใส่นักท่องเที่ยวที่กำลังเดินทางอยู่ในพื้นที่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 คน และบาดเจ็บอีก 17 คน ถือเป็นเหตุโจมตีรุนแรงที่สุดในอินเดียในรอบหลายปี

ตามรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นชาวอินเดีย 25 คน และชาวเนปาล 1 คน การโจมตีเกิดขึ้นในทุ่งหญ้านอกถนน ก่อนที่กลุ่มมือปืนจะหลบหนีไป โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 เมษายน ตามเวลาท้องถิ่น

อย่างไรก็ตาม กลุ่ม 'กองกำลังต่อต้านแคชเมียร์' ได้ออกมารับผิดชอบการโจมตีนี้ผ่านทางโซเชียลมีเดีย โดยกล่าวถึงความไม่พอใจที่มีผู้คนจากภายนอกเข้ามาตั้งถิ่นฐานในแคชเมียร์

นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนซาอุดีอาระเบีย ได้ตัดสินใจกลับกรุงเดลีเพื่อดูแลสถานการณ์ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้โพสต์ประณามเหตุการณ์ดังกล่าว และแสดงการสนับสนุนอินเดียในการต่อสู้กับกลุ่มผู้ก่อการร้าย

📣 วธ. ประกาศศักยภาพของอาหารหมักดองไทย ให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล ผ่านโครงการ Thai Power Probiotics & Flavor of Thai Food.Health.Wellness 

🗓️ วันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๖๘ 
⏰ เวลา ๑๐.๐๐ น. 

นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม มอบหมายให้นางศศิฑอณร์ สุวรรณมณี หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานการแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ Thai Power Probiotics & Flavor of Thai Food.Health.Wellness โดยมี นางปิยะวดี พงศ์ไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านการเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกรมส่งเสริมวัฒนธรรม พร้อมด้วย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร (NFI) นายกสมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทยฯ และเครือข่ายพันธมิตร เข้าร่วมงาน ณ โรงแรมแบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์

นางศศิฑอณร์ สุวรรณมณี กล่าวว่า วันนี้นับเป็นโอกาสสำคัญที่เราจะได้ ประกาศศักยภาพของอาหารหมักดองไทย ให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล ผ่านโครงการ Thai Power Probiotics ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการส่งเสริม Soft Power ไทย โดยใช้ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และยกระดับคุณค่าของอาหารหมักดองไทยสู่ตลาดโลกกระทรวงวัฒนธรรมให้ความสำคัญกับการนำ ภูมิปัญญาท้องถิ่น มาต่อยอดเพื่อสร้าง มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอาหาร ซึ่งเป็นหนึ่งใน Soft Power หลักของไทย อาหารไทยไม่ได้เป็นเพียงแค่อาหาร แต่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สะท้อนอัตลักษณ์ของชุมชน และเป็น ทุนวัฒนธรรมที่สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ
ได้อย่างมหาศาล

นางศศิฑอณร์ฯ กล่าวต่อว่า อาหารหมักดองไทย ถือเป็นอีกหนึ่งมรดกทางวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น และมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันอาหารหมักดองที่อุดมไปด้วย
โพรไบโอติกส์ (Probiotics) ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในระดับโลก โครงการนี้จึงมีเป้าหมายในการพัฒนาอาหารหมักดองของไทยให้สามารถก้าวสู่ตลาดโลกอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยเฉพาะเมนู “ข้าวหมากไทย” เป็นอาหารที่ไม่ใช่แค่อร่อยแต่มีชีวิต“ เป็นหนึ่งใน Soft Power ที่สำคัญ เพราะสะท้อนทั้งวัฒนธรรม วิถีชีวิต และภูมิปัญญาการดูแลสุขภาพของคนไทยที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ซึ่งปัจจุบันมีงานวิจัยหลายฉบับจากทั้งในและต่างประเทศที่แสดงให้เห็นว่า สุขภาพลำไส้ มีความสัมพันธ์กับ สุขภาพจิต หรือ Mental Health ได้อีกด้วย เราจึงเชื่อว่า “ข้าวหมากไทย” สามารถก้าวไปไกลกว่าที่เคย ในฐานะ Functional Food ที่มีรากฐานทางวัฒนธรรมและศักยภาพทางสุขภาพที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของผู้คนยุคใหม่ นอกจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรมยังให้ความสำคัญกับ บทบาทของชุมชน ในฐานะแกนหลักของการขับเคลื่อน Soft Power ไทยโครงการ Thai Power Probiotics จึงเป็นมากกว่าการส่งเสริมสินค้า แต่เป็นการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับชุมชน โดยผ่านการสนับสนุนให้ผู้ผลิตจากท้องถิ่นสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้ได้มาตรฐานระดับสากลและมีช่องทางในการเข้าสู่ตลาดโลก การดำเนินโครงการในครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สถาบันอาหาร และพันธมิตรทุกภาคส่วน ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการทำให้ประเทศไทยเป็น ศูนย์กลางของ Gastronomy & Wellness Tourism หรือการท่องเที่ยวเชิงอาหารและสุขภาพ ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์สำคัญของโลก และสามารถช่วย ยกระดับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทย ผ่าน Soft Power อย่างเป็นรูปธรรม

ภายในงานแถลงข่าวครั้งนี้ ทุกท่านจะได้รับชมนิทรรศการ “Thai Power probiotics : Soft Power โพรไบโอติกไทยสู่ขุมพลังระดับโลก” และ Flavor of Thai Food.Health.Wellness : Grand Moment กับการท่องเที่ยวเชิงอาหารเพื่อสุขภาพ รับชมวีดิทัศน์ “Thai Power probiotics : Soft Power โพรไบโอติกไทยสู่ขุมพลังระดับโลก ต่อยอดการท่องเที่ยวเชิงอาหารเพื่อสุขภาพ Flavor of Thai Food.Health.Wellness รับฟังการเสวนาหัวข้อ “มิติใหม่ของ Thai Power probioticsและ Grand Moment ของการท่องเที่ยว
เชิงอาหารเพื่อสุขภาพ โดย นางสาวเยาวนิศ เต็งไตรรัตน์ ผู้อำนวยการกลุ่มสนับสนุนกิจการพิเศษ กองกิจการเครือข่ายทางวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม

กล่าวถึงบทบาทของโครงการในการผลักดัน Soft Power ด้านวัฒนธรรม , คุณอาชวันต์ กงกะนันท์ รองผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวถึงแนวทางต่อยอดสู่เส้นทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพแบบ Grand Moment  , คุณนุชจรินทร์ เกตุนิล ผู้อำนวยการฝ่าย ฝ่ายนวัตกรรมอาหารสถาบันอาหาร (NFI) กล่าวถึงการพัฒนาโพรไบโอติกจากวัตถุดิบไทยสู่ผลิตภัณฑ์ระดับสากล , นาวาโทหญิง พญ.อรวรรณ กิจเชวงกุล และ นายแพทย์สมนึก ศิริพานทอง ให้ข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์และสุขภาพของโพรไบโอติกที่ดีในอาหารหมักดองไทย โดยเฉพาะข้าวหมาก , เชฟไพศาล ชีวินศิริวัฒน์ กล่าวถึงบทบาทของอาหารหมักดองไทยในอุตสาหกรรมอาหารและ Fine Dining และคุณไอริณ  ทวีเกื้อกูลกิจ ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์ม ชิมไทย กล่าวถึงการส่งเสริมสินค้าอาหารชุมชนผ่านการตลาดสร้างสรรค์ ร่วมกิจกรรม Mini Workshop เชฟไพศาล ชีวินศิริวัฒน์ นำเสนอเมนูต้นแบบและการรังสรรค์อย่างถูกวิธี และ Experience ภูมิปัญญาอาหารหมักดอง และกิจกรรม Grand Moment Tasting Experience ชิมเมนูอาหารหมักดองไทยระดับพรีเมียม ๖ เมนูพิเศษ จากเชฟเอ็กซ์ อรรถพล ไนโต ถังทอง ได้แก่ ลุยสวนดอกไม้ซอสข้าวหมากงาคั่ว เมี่ยงคำลูกกะปิผักกาดดอง พานาคอตต้าข้าวหมาก แซนวิชหมูทอดคัตสึ ซอสตาต้ามะแขว่นดองเกลือ อกไก่พันเบคอนซอสครีมสับปะรดไซเดอร์ แซลมอนซูชิสอดไส้หน่อกระวานดอง

กระทรวงวัฒนธรรมขอเชิญชวนทุกท่านร่วมกันประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่าง ๆ ภายใต้โครงการ
Thai Power Probiotics & Flavor of Thai Food.Health.Wellness ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Thaipowerprobiotics

'รมว.ปุ๋ง' เผย สวธ.เตรียมยกการแสดงศิลปวัฒนธรรม 4 ภาค มาไว้ในงานใต้ร่มพระบารมี 243 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ 

ชมสายสัมพันธ์ชาติพันธุ์ล้านนา การแสดงทักษิณถิ่นหนังลุง และการแสดงโปงลาง สัมผัสมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของการแสดงพื้นบ้านไทย ระหว่างวันที่ 24 - 26 เมษายน 2568 ณ อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระนคร เพื่อร่วมสืบสาน และเผยแพร่เอกลักษณ์ความเป็นไทยจากภูมิปัญญาท้องถิ่นทุกภูมิภาคของประเทศ

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ด้วยกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ผนึกกำลังภาครัฐ เอกชน และเครือข่ายศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม จัดงาน “ใต้ร่มพระบารมี 243 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” ระหว่างวันที่ 23 - 27 เมษายน 2568 ณ อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวาระสำคัญแห่งประวัติศาสตร์ชาติ เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ครบรอบ 243 ปี ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้มีเป้าหมายเพี่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ผู้ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานีของไทย

นางสาวสุดาวรรณ กล่าวต่ออีกว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ร่วมสนับสนุนการแสดงพื้นบ้านของไทยเพื่อถ่ายทอดอัตลักษณ์ของชาติ และส่งต่อความภาคภูมิใจในรากเหง้าวัฒนธรรมไทยสู่สาธารณชน จึงได้จัดการแสดงศิลปวัฒนธรรม (การแสดง 4 ภาค) ในงานใต้ร่มพระบารมี 243 ปี ในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนและจัดโดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ระหว่างวันที่ 24 - 26 เมษายน 2568 โดยมีโดยมีหลากหลายกิจกรรมให้ร่วมรับชมอย่างงดงามตระการตา และสะท้อนจิตวิญญาณของความเป็นไทย อาทิ วันที่ 24 เมษายน 2568 จะได้พบกับการแสดงแสงเหนือล้านนา การแสดงข่วงศิลป์ถิ่นดอกเอื้อง การแสดงสืบศิลป์แผ่นดินทอง และการแสดงนาฎกรรมวิวัฒน์รัตนโกสินทร์ ณ อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และการแสดงดนตรีสากล ณ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระนคร วันที่ 25 เมษายน 2568 จะได้พบกับการแสดงสายสัมพันธ์ชาติพันธุ์ในล้านนา การแสดงทักษิณถิ่นหนังลุง และการแสดงโปงลาง ณ อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และวันที่ 26 เมษายน 2568 จะได้พบกับการแสดงดนตรีลูกทุ่ง ณ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระนคร  

ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรม ขอเชิญชวนทุกท่านรับชมการแสดงศิลปวัฒนธรรม (การแสดง 4 ภาค) สุดงดงาม ประทับใจ ในงานใต้ร่มพระบารมี 243 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์กรมส่งเสริมวัฒนธรรม: www.culture.go.th หรือ Facebook กรมส่งเสริมวัฒนธรรม หรือ สายด่วนวัฒนธรรม 1765

‘มาดามแป้ง’ ควัก 25 ล้านช่วย ส.บอล เคลียร์หนี้คดี ‘สยามสปอร์ต’ พร้อมมอบเพิ่มอีก 5 ล้าน ตั้งกองทุนลดภาระองค์กร

(23 เม.ย. 68) ที่อาคาร FA Thailand 'มาดามแป้ง' นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ แถลงความคืบหน้าหลังศาลฎีกามีคำพิพากษาให้สมาคมฯ แพ้คดี บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ต้องชำระค่าเสียหายรวมกว่า 360 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย โดยมาดามแป้งได้บริจาคเงินส่วนตัวจำนวน 25 ล้านบาท เพื่อชำระหนี้ก้อนแรก ตามคำพิพากษาศาล เป็นการแสดงเจตจำนงของสมาคมฯ ที่ต้องการปฏิบัติตามคำสั่งศาลอย่างครบถ้วน และเพื่อให้การบังคับคดีเป็นไปด้วยความราบรื่น

นอกจากนี้ มาดามแป้งยังมอบเงินส่วนตัวเพิ่มเติมอีก 5 ล้านบาท จัดตั้งเป็น 'กองทุนเพื่อความโปร่งใส' สำหรับใช้จ่ายที่จำเป็นของสภากรรมการ โดยมีคณะกรรมการ 4 คนดูแลกองทุน ได้แก่ นายยุทธนา หยิมการุณ, นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล, ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา และคุณระวิดา ซอโสตถิกุล โดยมีเป้าหมายให้กองทุนนี้ช่วยลดภาระรายจ่ายสมาคมฯ ที่อยู่ในช่วงฟื้นฟูทางการเงิน และสะท้อนความโปร่งใสในการบริหารงานของทีมบริหารชุดปัจจุบัน

เพื่อระดมทุนเพิ่มเติมสำหรับหนี้ก้อนที่เหลือ สมาคมฯ เตรียมจัดกิจกรรมหลายโครงการ เช่น การเปิดรอบพิเศษละครเวที 'อันธพาล 2499 The Musical' ซึ่งมาดามแป้งควักเงินส่วนตัวปิดรอบการแสดงวันที่ 29 พฤษภาคม ที่เมืองไทย รัชดาลัย เธียเตอร์ ตั้งเป้ารายได้ 30 ล้านบาท, การจำหน่ายเสื้อรุ่นพิเศษ 'คนไทยรักบอลไทย' ร่วมกับ Warrix ในช่วงฟีฟ่าเดย์เดือนมิถุนายน, การจัดแมตช์พิเศษ 4 ภาคทั่วประเทศ และเปิดรับบริจาคจากภาคเอกชนและประชาชนที่รักฟุตบอลไทยทั่วประเทศ

ในส่วนของแนวทางเจรจา สมาคมฯ และบริษัท สยามสปอร์ต เตรียมหารือร่วมกันอีกครั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 เพื่อหาข้อตกลงที่เป็นธรรมและนำไปสู่การชำระหนี้ที่เหลือโดยไม่กระทบต่อภารกิจหลักของสมาคมฯ ในการสนับสนุนและพัฒนาฟุตบอลไทยทุกระดับ

ครั้งหนึ่ง ‘โรเจอร์ เฟเดอเรอร์’ ตำนานนักเทนนิส เคยปฏิเสธดีล Nike ก่อนกลายเป็นหุ้นส่วน On Running สร้างทรัพย์สินระดับพันล้าน

(23 เม.ย. 68) ผศ.ดร.หฤษฎ์ อินน์ทะกนก อาจารย์ผู้สอนด้านกลยุทธ์ธุรกิจ วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Dr Harit แชร์เรื่องราวของ สุดยอดนักหวดลูกสักหลาดระดับตำนานชาวสวิสฯ อย่าง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ที่ครั้งหนึ่งเคยตัดสินใจปฏิเสธสัญญากับทาง Nike ซึ่งเป็นบริษัทรองเท้ากีฬาและเครื่องแต่งกายสัญชาติอเมริกันชื่อดังของโลก

ในปี 2018, Nike เสนอการต่อสัญญาใหม่ให้ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ในมูลค่าเพียง 5 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี เป็นข้อเสนอที่ต่ำกว่าความคาดหวังของเขามาก เฟเดอเรอร์ จึงตัดสินไม่ต่อสัญญา

หลังจากนั้น Uniqlo ก็เข้ามาเซ็นสัญญากับเขา ด้วยมูลค่าสูงถึง 300 ล้านเหรียญสหรัฐ (เฉพาะเรื่องเสื้อผ้า) แต่ 'สิทธิ์ในการสวมรองเท้า' ยังคงเปิดอยู่

และนั่นเอง คือช่วงเวลาที่แบรนด์สัญชาติสวิสเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า On Running ตัดสินใจก้าวเข้ามา

ในตอนนั้น On Running เป็นบริษัทที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังห่างไกลจากขนาดของ Nike หรือ Adidas แทนที่จะให้เฟเดอเรอร์เป็นแค่พรีเซนเตอร์ พวกเขาเสนอสิ่งที่ใหญ่กว่านั้น คือการเป็นเจ้าของร่วม

เฟเดอเรอร์ ตัดสินใจลงทุนใน On Running กลายเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้น และยังทำงานร่วมกับทีมพัฒนาสินค้าอย่างใกล้ชิด รวมถึงการเปิดตัวไลน์รองเท้าของตัวเอง ที่ชื่อว่า 
'The Roger'

ผลลัพธ์คือ On Running เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2021 ด้วยมูลค่ากว่า 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หุ้นที่เฟเดอเรอร์ถือไว้ตั้งแต่ต้น ทำให้เขามีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นอีกหลายร้อยล้านเหรียญ มากกว่าที่เขาจะได้จากการเซ็นสัญญาพรีเซนเตอร์ทั่วไปเสียอีก

บทเรียน: การเดินออกจาก 'เงินก้อนสั้น ๆ' ในวันนี้ อาจเป็นการเปิดประตูสู่ 'ความมั่งคั่งระยะยาว' ในอนาคต

โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ไม่ได้เป็นแค่คนใส่รองเท้าแบรนด์นี้ แต่เขา กลายเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างมันขึ้นมา

กลับมาแล้ว!! ใบหยกบุฟเฟต์ ทุเรียนฟีเว่อร์

โปรบุฟเฟต์แห่งปี หนึ่งปีมีครั้งเดียว ใบหยกยืนหนึ่ง จัดอย่างต่อเนื่อง เป็นปีที่ 9 รวม 2 บุฟเฟต์ยอดนิยม บุฟเฟต์ทุเรียน + บุฟเฟต์ทะเลยกชั้น ในราคาเพียง 1,290 บาทเน็ท/ท่าน*

(โปรจำนวนจำกัด เมื่อจองและชำระเงินล่วงหน้า) จากราคาปกติ 1,490 บาทเน็ท/ท่าน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top