Wednesday, 14 May 2025
NewsFeed

‘สรรพากร’ เตือน!! อินฟลูฯ – ค้าออนไลน์ ยื่นแบบภาษี หลีกเลี่ยง!! โดนค่าปรับ อ่วม!

(22 มี.ค. 68) การยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของผู้มีรายได้ปี 2567 กรมสรรพากร ได้กำหนดให้ผู้มีเงินได้ทุกอาชีพยื่นแบบแสดงรายการภาษี ภ.ง.ด. 90/91 ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 มีนาคม 2568 หากยื่นผ่านระบบออนไลน์ เช่น D-MyTax หรือ e-Filing สามารถยื่นได้ถึง 8 เมษายน 2568

นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ปัจจุบันการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาถือว่าเป็นรายได้อันดับ 3 ของกรมฯ โดยจัดเก็บอยู่ประมาณปีละ 4 แสนล้านบาท โดยในปีนี้หลังจากมีการเปิดให้ยื่นแบบภาษีแล้วประมาณ 3 เดือน

ปัจจุบันข้อมูลถึงวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมามีการยื่นแบบเข้ามาประมาณ 7.4 ล้านแบบสูงกว่าปีก่อน 13% มีการขอคืนประมาณ 3.5 ล้านแบบ หรือประมาณ 46.9% โดยกรมมีการคืนภาษีไปแล้วประมาณ 82% ส่วนที่เหลืออีก 18% ยังติดเกณฑ์ตรวจของกรมสรรพากรอาจเป็นเรื่องของเอกสาร หรือขั้นตอนที่กรมฯตรวจสอบพบว่ามีรายได้อื่น ๆ ส่วนที่ต้องจ่ายภาษีเพิ่มเติมนั้นคาดว่าส่วนใหญ่จะทยอยยื่นเข้ามาเพิ่มขึ้นหลังจากนี้

อธิบดีกรมสรรพากร ระบุว่า ในภาพรวมคนที่ยื่นแบบภาษีอยู่แล้วแบบที่เป็นมนุษย์เงินเดือนไม่น่าห่วงเท่ากับกลุ่มที่ไม่ยื่นภาษี คือมีเงินได้แต่ไม่เคยยื่นแบบภาษีเลย โดยจากข้อมูลในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาพบว่ากลุ่มที่ไม่ยื่นภาษีคือกลุ่มที่เป็นคนรุ่นใหม่ หรือเพิ่งเริ่มประกอบอาชีพ โดยเป็นกลุ่มอาชีพที่สอดคล้องกับกลุ่มที่ทำงานเกี่ยวกับดิจิทัล เช่น การขายของออนไลน์ การทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ อินฟลูเอนเซอร์ รับรีวิวสินค้า ซึ่งกรมฯก็มีการหารือกันว่าต้องให้ความสำคัญกับคนกลุ่มนี้เป็นพิเศษ

ทั้งนี้ จนถึงขณะนี้ก็เหลือเวลาประมาณ 10 กว่าวันในการยื่นแบบภาษีขอให้ยื่นแบบภาษี ส่วนยื่นผิดถูกนั้นยังสามารถคุยกันได้ แต่ถ้าไม่ได้ยื่นเลยอีก 2-3 ปี กรมฯตรวจเจอแน่เพราะในเรื่องของธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ทิ้งร่องรอยไว้อยู่แล้ว ขณะที่กรมฯเองในโครงสร้างก็มีหน่วยงานที่ตามเรื่องนี้โดยตรง

กลุ่มที่เป็นห่วงคือการขายของออนไลน์ การทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ อินฟลูเอนเซอร์ รับรีวิวสินค้า เพราะดูข้อมูลแล้วไม่ยื่นกันเลย เราอยากให้มีการยื่นภาษีให้ถูกต้องและให้ความสำคัญมากเพราะการมาเรียกปรับทีหลังไม่มีประโยชน์ต่อทั้งกรมฯและผู้เสียภาษี

กลุ่มอาชีพอินฟลูเอนเซอร์ ขายของออนไลน์ และรับรีวิวสินค้า ในการยื่นภาษีต้องดูว่าประเภทของรายได้เป็นอย่างไร ดังนี้

1.กรณีรับเป็นค่าจ้างก็เหมือนการยื่นแบบรายได้ปกติ 

2.กรณีมีต้นทุนในการรีวิวสินค้าก็หักค่าใช้จ่ายและยื่นรายได้ตามจริง 

3.กรณีเป็นผู้มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องจดทะเบียนภาษี VAT ที่ต้องนำภาษีส่งให้รัฐ 

4.กรณีรายได้ที่รับในรูปแบบสินค้า เช่น ที่พัก อาหารในโรงแรม ต้องคิดเสมือนเป็นเงินได้ และประเมินเป็นรายได้ที่นำส่งรายได้และต้องยื่นแบบให้ถูกต้องเช่นกัน

ทั้งนี้ อาชีพอินฟลูฯ ต้องยื่นรายได้กลางปีด้วยไม่ใช่แค่ยื่นภาษีต้นปีแล้วจบ รวมทั้งค่าลดหย่อนภาษีมีเช่นเดียวผู้มีเงินได้อื่น โดยขอลดหย่อนภาษีได้กว่า 20 รายการ คิดเป็นค่าลดหย่อนเต็มจำนวนสูงสุดมากกว่า 1 ล้านบาทต่อปี ซึ่งต้องบริหารจัดการการลดหย่อนภาษี โดยปรึกษาได้ที่กรมสรรพากรทั้งในสำนักงานสรรพากรพื้นที่และช่องทางออนไลน์

ในส่วนของการลงโทษคนที่ไม่เสียภาษีเงินได้ อธิบดีกรมสรรพากรระบุว่า จะมีทั้งโทษแพ่งและอาญาซึ่งในปัจจุบันมักจะใช้โทษทางแพ่งโดยมีทั้งส่วนของเบี้ยปรับและเงินเพิ่มโดยค่าปรับนั้นมีตั้งแต่ 0 – 2 เท่าของภาษีที่ต้องจ่าย นอกจากนั้นยังมีส่วนเงินเพิ่มคิดที่อัตรา 1.5% ต่อเดือน ซึ่งหากปรับกันเต็มที่นั้นอาจเกินกว่ามูลค่าภาษีที่ต้องเสียจริงกว่า 4 เท่า  ตรงนี้เชื่อว่าไม่มีใครอยากจ่าย ส่วนโทษทางอาญากรมฯก็ไม่อยากจะใช้โทษทางอาญายกเว้นว่าเป็นการกระทำที่มีความผิดร้ายแรงมาก

ผู้ช่วยฯ ผบ.ตร.พร้อมคณะแม่บ้าน ตรวจเยี่ยม ด.ต. เกษม บัวเทศผบ.หมู่ กก.ปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.ปัตตานี ได้รับบาดเจ็บฯจากเหตุระเบิดที่อ.สายบุรี 

(22 มี.ค.68) เวลา 10.00 น.ที่ห้อง 1421 ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ​ รพ.พระมงกุฎเกล้า พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.(บร 2)เปิดเผยว่า ตามนโยบายเน้นหนักของ ผบ.ตร. ข้อ 15 เรื่องสวัสดิการของข้าราชการตำรวจ ตามคำสั่ง ตร. ที่ 578/2567 ลง 26 พ.ย.2567 และคำสั่ง ตร. ที่ 609/2567 ลง 20 ธ.ค.2567 ประกอบบันทึกสั่งการ ผบ.ตร. ลง 24 ธ.ค.2567 ท้ายหนังสือ สง.รอง ผบ.ตร.(บร) ที่ 0001(บร)/20 ลง 23 ธ.ค.2567 เรื่อง การมอบอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบในงานบริหาร มอบหมายให้ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.(บร 2) รับผิดชอบกำกับการบริหารราชการ สกพ. รวมทั้งสั่งและปฏิบัติราชการแทน ผบ.ตร. ในลักษณะงานสวัสดิการ ตร. และตามนโยบายของสมาคมแม่บ้านตำรวจ โดยคุณกนกวรรณ  พันธุ์เพ็ชร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ได้ดำเนินโครงการ “ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน” (ด้านตำรวจทุพพลภาพ) ประจำปี 2568โดยให้ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญกำลังใจ ข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ จากการปฏิบัติหน้าที่  

พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวว่า ตามนโยบายเน้นหนักของ ผบ.ตร. ข้อ 15 เรื่องสวัสดิการของข้าราชการตำรวจ ตามคำสั่ง ตร. ที่ 578/2567 ลง 26 พ.ย.2567 และคำสั่ง ตร. ที่ 609/2567 ลง 20 ธ.ค.2567 ประกอบบันทึกสั่งการ ผบ.ตร. ลง 24 ธ.ค.2567 ท้ายหนังสือ สง.รอง ผบ.ตร.(บร) ที่ 0001(บร)/20 ลง 23 ธ.ค.2567 เรื่อง การมอบอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบในงานบริหาร มอบหมายให้ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.(บร 2) รับผิดชอบกำกับการบริหารราชการ สกพ. รวมทั้งสั่งและปฏิบัติราชการแทน ผบ.ตร. ในลักษณะงานสวัสดิการ ตร.และตามนโยบายของสมาคมแม่บ้านตำรวจ โดยคุณกนกวรรณ  พันธุ์เพ็ชร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ได้ดำเนินโครงการ “ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน” (ด้านตำรวจทุพพลภาพ) ประจำปี 2568โดยให้ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญกำลังใจ ข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ จากการปฏิบัติหน้าที่ 

โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.,พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร.(บร)มอบหมายให้ ตน พร้อมด้วยคุณนภัสนันท์ วุฒิจรัสธำรงค์กรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านตำรวจ ระดับ ตร./ประธานที่ปรึกษาโครงการฯเดินทางไปตรวจเยี่ยม ด.ต. เกษม บัวเทศ ผบ.หมู่ กก.ปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.ปัตตานี ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ จากเหตุระเบิดที่อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 15 เม.ย.65

พร้อมด้วย พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์  เฉลิมศรี ผบช.ภ.9,พล.ต.ท.หญิง อาภาพรรณ ชลศึกษ์ ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 9,พ.ต.อ.มนัส รุ่งนาค หน.สนง.สมาคมแม่บ้านตำรวจ ,ดร.นุชประวีณ์  ลิขิตศรัณย์ ผู้ช่วยเลขานุการสมาคมแม่บ้านตำรวจ พร้อมคณะ

โดยในการนี้ ตนพร้อมคณะได้เป็นตัวแทน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. มอบกระเช้าผลไม้ และเงินช่วยเหลือ จำนวน 20,000 บาท, คุณนภัสนันท์ วุฒิจรัสธำรงค์ กรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านตำรวจ ระดับ ตร. ได้เป็นตัวแทนของสมาคมแม่บ้านตำรวจ มอบเงินจำนวน  5,000 บาท และได้มอบเงินส่วนตัว 10,000 บาทและเงินช่วยเหลือของ ผบช.ภ.9 จำนวน 10,000 บาท เพื่อช่วยเหลือครอบครัวข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ อันเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน และส่งเสริมขวัญกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจ ที่ได้อุทิศตนเสียสละในการปฏิบัติหน้าที่

ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและสมาคมแม่บ้านตำรวจ ขอขอบคุณและชื่นชม ผบช.ภ.9 และประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 9 ที่เป็นแบบอย่างที่ดี ในการดูแลขวัญและกำลังใจให้ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับบาดเจ็บเป็นอย่างดีและขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป

‘เจือ ราชสีห์’ ร่วมกับ ‘กกพ.’ พี่น้อง อสม.ในเทศบาลนครสงขลา บูรณาการความร่วมมือ!! สร้างเครือข่ายคุ้มครอง ผู้ใช้ไฟฟ้า

(22 มี.ค. 68) นายเจือ ราชสีห์ ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรีและของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายเอกประพันธ์ อักษรพันธ์ ผู้อำนวยการเขต สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานประจำเขต 12 (สงขลา) และเครือข่ายสาธารณสุข รวม 70 คนเข้าร่วม โดยมีนายวรวิทย์ ศรีอนันต์รักษา กรรมการกำกับกิจการพลังงานเป็นประธานเปิดการเสวนาเพื่อบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ในการส่งเสริมการคุ้มครอง ผู้ใช้พลังงานที่เป็นผู้ป่วย ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าในการเดินเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อการรักษาพยาบาล ไม่ให้ได้รับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการงดจ่ายไฟฟ้า โดยมีเครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุข ในเขตเทศบาลนครสงขลาเข้าร่วมในการสร้างความเข้าใจ รวมถึงให้ข้อมูลครัวเรือนที่มีผู้ป่วยติดเตียง เพื่อร่วมป้องกันปัญหาการสูญเสียชีวิตจากการงดจ่ายกระแสไฟฟ้า กระทรวงพลังงาน พร้อมนำร่องไม่ดับไฟฟ้าในครัวเรือนที่มีผู้ป่วยติดเตียง ในจังหวัดสงขลา ป้องกันผู้ป่วยเสียชีวิต ในขณะที่ครัวเรือนที่ต้องดูแลผู้ป่วยติดเตียงต่างยินดี เพราะสามารถลดภาระในการดูแลผู้ป่วยติดเตียงได้มาก

"นายเจือ ราชสีห์ ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรีและของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า จากการลงพื้นที่นั้นพบว่าครัวเรือนที่มีผู้ป่วยติดเตียงนั้นมีความกังวลกับปัญหาไฟฟ้าดับ รวมถึงการถูกงดจ่ายกระแสไฟฟ้า ซึ่งบางรายนั้นต้องเช่าเครื่องปั่นไฟ บางรายต้องหอบหิ้วผู้ป่วยไปโรงพยาบาล จึงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องเติมเต็ม โดยจะเริ่มนำร่องในการไม่ตัดกระแสไฟฟ้าในครัวเรือนที่มีผู้ป่วยติดเตียง โดยขอให้ อสม.ประสานระหว่างครัวเรือนที่มีผู้ป่วยติดเตียงกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนำร่องในเขตเทศบาลนคร สงขลา และกระจายออกไปทั่วทั้งจังหวัด

ผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียงรายหนึ่งในเขตเทศบาลนครสงขลาบอกว่า ยินดีที่มีการนำร่องในประเด็นนี้ เพราะที่ผ่านมาหากมีไฟฟ้าดับ ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ก็จะใช้ถังออกซิเจนแทน แต่หากดับนานกว่า 1 ชั่วโมงก็จะต้องย้ายผู้ป่วยไปโรงพยาบาลซึ่งเป็นปัญหาและส่งผลกระทบต่อผู้ป่วย ซึ่งเมื่อมีการให้ข้อมูลกับทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในอนาคตหากมีการดับไฟที่ทราบล่วงหน้า ก็จะมีการเตรียมเครื่องปั่นไฟมาให้ใช้ และหากค้างค่าไฟฟ้า ก็จะไม่มีการงดจ่ายกระแสไฟฟ้า ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่มีความเห็นใจครอบครัวที่ต้องดูแลผู้ป่วยติดเตียง

โดยปัญหาการตัดไฟฟ้าเคยทำให้ผู้ป่วยติดเตียงที่จังหวัดนครพนมเสียชีวิตเมื่อเดือนตุลาคม 2567 ทำให้ครอบครัวที่มีผู้ป่วยติดเตียงกังวล และรู้สึกยินดี ปัญหานี้ถูกหยิบยกขึ้นมาให้ความสำคัญนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

ทีมงาน 'วีโอเอไทย' เปิดใจครั้งแรก หลัง 'ทรัมป์' พักงาน ยุติออกอากาศ ลั่น!! ทำงานเต็มที่ แม้มีอุปสรรค จากการเปลี่ยนแปลง ทางการเมือง

(22 มี.ค. 68) ทีมงานวีโอเอไทย ซึ่งเป็นสื่อภายใต้ Voice of America ที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ เผยแพร่จดหมายเปิดใจครั้งแรกในวันนี้ (22 มี.ค.) หลังผ่านไปราว 1 สัปดาห์ ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งตัดงบประมาณ พักงานพนักงาน จนทำให้ต้องยุติออกอากาศ รวมทั้งภาคภาษาไทยด้วย โดยเนื้อหาในจดหมายระบุว่า

เรียนเพื่อน ๆ สื่อมวลชน และผู้ติดตามวีโอเอไทย 

ทีมงานวีโอเอไทยเขียนจดหมายฉบับนี้เป็นการส่วนตัว ไม่ใช่ในฐานะทางการที่เป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน 

เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เต็มที่ทีมงานวีโอเอไทยไม่สามารถออกอากาศได้ หลังจากมีคำสั่งพักงานเจ้าหน้าที่เกือบทั้งหมดราว 1,300 คนภายในองค์กร

เราตกใจและเสียใจอย่างยิ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้น 

ภาคภาษาไทยเป็นหนึ่งในภาคภาษาแรก ๆ ของวีโอเอในช่วงเริ่มการก่อตั้งเมื่อ 83 ปีก่อน และมีประวัติการทำงานเคียงคู่กับความเป็นไปในสังคมไทยและเหตุการณ์ต่าง ๆ ของโลกมายาวนาน

จุดเริ่มต้นนั้น คือต้นทางแห่งบรรทัดฐานหน้าที่การเสนอข่าวสารตามข้อเท็จจริง ตลอดเวลาอันยาวนาน ทีมงานปัจจุบันรับไม้ต่อจากรุ่นก่อน ๆ ด้วยเจตจำนงเดียวกัน คือให้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ ตรงไปตรงมา ช่วยเป็นสะพานเชื่อมระหว่างคนไทยในสหรัฐฯ กับพี่น้องในประเทศไทย และไม่อยู่ภายใต้การแทรกแซงหรือปิดกั้น 

เราทำงานตามหน้าที่แม้มีอุปสรรค โดยเฉพาะจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทยที่นำมาซึ่งการเซนเซอร์เนื้อหาที่อ่อนไหวแต่มีความสำคัญ เราพยายามทำให้เสียงของคนที่ถูกกดทับได้ดังก้องขึ้น เพื่อให้สังคมรับรู้และพยายามเข้าใจพวกเขามากขึ้น

ในประวัติศาสตร์ของวีโอเอ เราเคยต้องทำงานในชั่วโมงที่ข่าวสารโดนปิดกั้นเกือบเบ็ดเสร็จในประเทศไทย แต่เรายังสามารถทำหน้าที่เป็นช่องเล็ก ๆ นำทางให้แสงลอดไปท้าทายความมืดมิด

จึงเป็นที่น่าเสียดายและเสียใจยิ่งที่เราไม่สามารถทำงานได้ ในเวลานี้ ที่ไทยเพิ่งถูกลดอันดับลงมาเป็น "ไม่เสรี" ในดัชนีเสรีภาพของ Freedom House เราเชื่อเสมอว่าสื่อเสรีเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ขาดไม่ได้ของประชาธิปไตย และการหายไปอย่างฉับพลันของข่าวสารข้อเท็จจริง เป็นเครื่องชี้ถึงความอ่อนแรงลงของชุมชนสื่อ และโลกเสรีโดยรวม

เราขอขอบพระคุณทุกกำลังใจ และความเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ของพวกเรา #SaveVOA

ทีมงานวีโอเอไทย

ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วยกรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านตำรวจ เยี่ยมบำรุงขวัญกำลังใจตำรวจ EOD ภ.จว.ปัตตานี ที่บาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่...

ตามที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบนโยบายให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับดูแล ช่วยเหลือ สร้างขวัญกำลังใจ ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด และมอบหมายให้ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ดูแลลักษณะงานสวัสดิการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และด้านสมาคมแม่บ้านตำรวจ คุณกนกวรรณ พันธุ์เพ็ชร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ได้มีนโยบายในการสนับสนุนภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของครอบครัวตำรวจ โดยได้จัดทำโครงการหลายโครงการที่มุ่งเน้นช่วยเหลือข้าราชการตำรวจและครอบครัว เช่น โครงการ “ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน” (ด้านตำรวจทุพพลภาพ) ที่จะดูแลช่วยเหลือ บำรุงขวัญกำลังใจข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ หรือทุพพลภาพ จากการปฏิบัติหน้าที่

ล่าสุดวันนี้ (22 มี.ค.68) เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย คุณนภัสนันท์ วุฒิจรัสธำรงค์ กรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านตำรวจ ระดับ ตร./ประธานที่ปรึกษาโครงการ“ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน” (ด้านตำรวจทุพพลภาพ) และ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) พร้อมด้วย พล.ต.ท.หญิง อาภาพรรณ ชลศึกษ์ ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 9 , พ.ต.อ.มนัส รุ่งนาค หัวหน้าสำนักงานสมาคมแม่บ้านตำรวจ และคณะสมาคมแม่บ้านตำรวจ เยี่ยมบำรุงขวัญกำลังใจ ด.ต.เกษม บัวเทศ ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) กก.ปพ.ภ.จว.ปัตตานี ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ รักษาตัวที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2565 เวลาประมาณ 03.10 น. เกิดคนร้ายลอบวางระเบิดริมถนนสายชนบท หมู่ 6 บ้านแป้น กับหมู่ 8 บ้านละหาร อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เช้าวันรุ่งขึ้นหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) กก.ปพ.ภ.จว.ปัตตานี เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบวัตถุต้องสงสัยวางอยู่ริมถนน ระหว่างพยายามปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุ ได้เกิดระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ EOD ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ซึ่ง 2 ราย อาการดีขึ้นสามารถกลับไปพักรักษาตัวที่บ้านได้ ส่วน ด.ต.เกษมฯ อยู่ใกล้จุดระเบิดมากที่สุด มีบาดแผนฉีกขาดบริเวณต้นขาขวา มือซ้ายหัก นิ้วมือด้านซ้ายฉีกขาด ได้รับบาดเจ็บบริเวณตาทั้งสองข้าง อาการสาหัส ต้องรักษาอาการอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ซึ่งล่าสุดอาการดีขึ้นตามลำดับ และแพทย์อนุญาตให้กลับไปพักรักษาตัวที่บ้านในเร็วๆ นี้

โอกาสนี้ พล.ต.ท.ธนายุตม์ฯ เป็นตัวแทน ผบ.ตร. มอบกระเช้าสิ่งของอุปโภคบริโภค และเงินช่วยเหลือ  , คุณนภัสนันท์ฯ เป็นตัวแทนนายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ มอบเงินช่วยเหลือของสมาคมแม่บ้านตำรวจ และมอบเงินส่วนตัว รวมทั้ง ผบช.ภ.9 และประธานชมรมแม่บ้านตำรวจ ภ.9 ได้ร่วมมอบเงิน เพื่อช่วยเหลือ ด.ต.เกษมฯ และครอบครัว อันเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน และส่งเสริมขวัญกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจที่ได้อุทิศตนเสียสละในการปฏิบัติหน้าที่

‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ใจป้ำ!! เสนอให้จ่าย ‘ค่าล่วงเวลา’ สองนักบินอวกาศ ที่ติดอยู่ในอวกาศ!! นาน 9 เดือน

(23 มี.ค. 68) หลังจากที่สองนักบินอวกาศ Barry 'Butch' Wilmore และ Sunita 'Suni' Williams เดินทางกลับมาสู่โลกจากที่ต้องติดอยู่ในสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) เป็นเวลานานถึง 9 เดือน โดยแผนการเดินทางที่กำหนดเอาไว้เพียง 8 วันเท่านั้น  

หลังจากออกเดินทางสู่ ISS เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2024 เพื่อ 'การเดินทางระยะเวลา 8 วัน' แต่ในที่สุดแล้ว Wilmore และ Williams ก็ลงเอยด้วยการกลับคืนสู่พื้นโลกเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา (18 มีนาคม 2025) แม้ว่าทั้งคู่จะถูกบังคับให้ขยายเวลาในการอยู่ในอวกาศโดยไม่มีทางเลือก แต่โฆษกของ NASA ระบุว่า "เมื่อนักบินอวกาศของ NASA อยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) พวกเขาจะได้รับเงินเดือนจากการทํางาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยไม่ได้รับค่าล่วงเวลาหรือวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดอื่น ๆ สําหรับเวลาในอวกาศที่ไม่ได้มีการวางแผนเอาไว้”

อย่างไรก็ตาม การที่ต้องติดอยู่ในสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) เป็นเวลานานถึง 9 เดือนย่อมส่งผลกระทบต่อชีวิตของนักบินอวกาศ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว แผนการ จิตใจ และหรือสุขภาพร่างกาย สาเหตุที่ทั้งคู่ไม่สามารถกลับสู่โลกได้นั้น เป็นผลมาจากความผิดปกติของยานอวกาศที่จะนำทั้งคู่กลับมาและต้องได้รับการช่วยเหลือจากยาน SpaceX Crew Dragon โฆษกของ NASA กล่าวเสริมว่า "พวกเขายังอยู่ในภารกิจชั่วคราวระยะยาว (Temporary Duty : TDY) และได้รับเบี้ยเลี้ยง TDY ตามจำนวนวันที่พวกเขาอยู่ในอวกาศ ซึ่งเบี้ยเลี้ยง TDY สําหรับการเดินทางไปยังสถานที่ใด ๆ ในปัจจุบันคือ วันละ $5"

Cady Coleman อดีตนักบินอวกาศของ NASA เปิดเผยว่า เธอเคยได้รับเบี้ยเลี้ยง TDY 'ประมาณ $4 ต่อวัน' จากสถานการณ์ในลักษณะเดียวกัน โดยอิงจากภารกิจ 159 วันของเธอในปี 2010-11 ซึ่งเธอได้รับเบี้ยเลี้ยง TDY ประมาณ $636 ต่อมาลูกสาวของ Wilmore ได้โพสต์ TikTok อ้างว่า พ่อของเธอถูกกําหนดให้ได้รับเบี้ยเลี้ยง TDY $5 พิเศษ รวมเป็น $1,430 บวกกับเงินเดือนคร่าว ๆ อีกประมาณ '$152,258.00 ต่อปี' 

ประธานาธิบดี Trump ได้กล่าวถึงเรื่องนี้โดยบอกกับผู้สื่อข่าวระหว่างการแถลงข่าวเมื่อเช้าวันที่ 21 มีนาคม 2025 ว่า นับเป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินว่านักบินอวกาศไม่ได้รับเงินค่าล่วงเวลา และหาก NASA ทำไม่ได้ เขายินดีที่จะจ่ายเงินค่าล่วงเวลาให้นักบินอวกาศทั้งสองด้วยเงินส่วนตัว ประธานาธิบดี Trump บอกว่า: "ไม่มีใครเคยบอกถึงเรื่องนี้กับผมเลย ถ้าจําเป็นผมจะใช้เงินส่วนตัวของผมจ่ายเอง” นักบินอวกาศทั้งคู่กลับบ้านหลังจากผ่านไป 286 วัน โดยประธานาธิบดี Trump ได้ขอให้ Elon Musk 'ไปรับ' Wilmore และ Williams ผู้ที่ประธานาธิบดี Trump อ้างว่าถูก 'ทอดทิ้งโดยฝ่ายบริหารของ Biden ในอวกาศ' ซึ่งตอนนั้น ประธานาธิบดี Trump ได้โพสต์สรุปใน Truth Social ของเขาว่า "พวกเขารออยู่ที่สถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) มาหลายเดือนแล้ว Elon จะดำเนินการเร็ว ๆ นี้ หวังว่าทุก ๆ อย่างจะเรียบร้อยและปลอดภัย ขอให้โชคดีนะ Elon!!!" 

‘แอร์เอเชีย’ เปิดตัว 5 สาวเกิร์ลกรุ๊ป ‘Véra (เว-ร่า)’ พร้อม!! เทคออฟ จากพนักงานต้อนรับภาคพื้น พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ตัวจริง

(22 มี.ค. 68) ‘แอร์เอเชีย’ เปิดตัว 5 สาวเกิร์ลกรุ๊ป วงใหม่ ‘Véra (เว-ร่า)’ จากพนักงานต้อนรับภาคพื้นและพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินตัวจริง ประกอบไปด้วย

‘เพลง ธนิสสา’ อดีตสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปดังวง ‘GAIA-ไกอา’ ลูกสาวคนเก่งของศิลปินระดับตำนาน เสือ ธนพล รับหน้าที่ลีดเดอร์วง พร้อมเป็น Main Vocal 

‘มายด์ ดลยา’ แรปเปอร์สาวสุดเท่ หน้าเก๋ชิค ที่มีพลังล้นเหลือพร้อมชายด์ในทุกสเตจ 

‘เอมมา นพนภา’ Visual สาวสวยที่พร้อมขโมยใจทุกคน เมนเเดนซ์ที่โชว์ performance สะกดทุกสายตา 

‘มินทร์ ญาสุมินทร์’ แอร์ฯ สาวหวานสายร้อง น่ารักเก่งครบเครื่อง 

‘เจ็นเน่ กัลยกร’ ผู้พกพาความสดใส มั่นใจ มีความมุมานะพยายามสู่ประสบการณ์ใหม่ในการเป็นศิลปิน

5 สาวพร้อมเทคออฟแล้ว…กับการเดบิวต์โชว์สเตจเเรก ในงาน Véra  Ready to Take Off ณ ลาน Block I ติดอาคารสยามสเคป ใจกลางสยามสเเควร์ วันที่ 21 มีนาคม 2568 ซึ่งงานนี้ศิลปินชื่อดังคุณพ่อเสือ ธนพล ก็ดอดมายืนให้กำลังใจ น้องเพลง ลูกสาวสุดรักอยู่ข้างเวที รวมถึงอดีตสมาชิกวง 'GAIA-ไกอา' ที่มามอบดอกไม้แสดงความยินดีอีกด้วย โดยซิงเกิล 'TICK-TOCK(say it)' นี้เป็นเพลงสนุกพร้อมท่อนฮุก ที่สามารถเต้นตามได้ สไตล์ T-POP ที่ต้องการบอกกับทุกคนว่า “เวลาของเรามีค่าและสำคัญที่สุด” ในขณะที่เวลาเดินไปข้างหน้าไม่หยุดนิ่ง อย่ามัวแต่ให้เวลาผ่านไปหรือรออะไรที่มันไม่ใช่ รีบตัดสินใจและหาทางที่ใช่ของตัวเราเอง!!

โดย Véra เป็น Project พิเศษที่ทางแอร์เอเชีย ต้องการสื่อถึงความใส่ใจเรื่องความตรงเวลา และอยากให้ทุกคนให้ความสำคัญเรื่องเวลา ผ่านบทเพลงและพนักงานของเราที่แอบซ่อน Talent อยู่ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ หรือ กลุ่ม Gen Z โดยมีทีมงานมืออาชีพเข้ามาช่วยปลุกปั้นอย่าง Rising Entertainment รวมถึง โปรดิวเซอร์เเละนักเเต่งเพลง T-POP ชื่อดังอย่าง “Benlussboy” และ MV Director โดย “เบสท์ ณัฏฐา”

ทิ้งช่วงเวลานี้ไปคงน่าเสียดาย…ติดตาม Véra ได้ทุกช่องทางเเล้วตั้งเเต่วันนี้ ได้ที่
ทุกช่องทางของ AirAsia ทั้ง Facebook IG TikTok Youtube และฟังได้ทางสตรีมมิ่ง ทั้ง spotify, Apple music ฝากช่วยกันให้กำลังใจ และสามารถเต้นตามท่า TiCK-TOCK ของพวกเราได้

Youtube:  https://youtu.be/fY7WE3A9TPw?si=zTlHVBoFrTnjKdik

Facebook: Fly AirAsia

Instragram: flyairasia.th

TikTok: Fly AirAsia

รวมทั้งสตรีมมิ่งผ่าน Spotify และ Apple Music

‘ครูธัญ’ พรรคประชาชน หนุน!! ทบทวนกฎหมาย หลัง ‘ผู้หญิงข้ามเพศ’ ที่ภูเก็ต ถูกตำรวจรวบ!! แจ้งข้อหา สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ในที่สาธารณะ

(22 มี.ค. 68) นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงเหตุการณ์การจับกุมผู้หญิงข้ามเพศจำนวน 37 รายในจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2568 ว่าได้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมต่อการใช้กฎหมายมาตรา 397 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งกำหนดโทษต่อการกระทำที่ก่อให้เกิด 'ความเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณะ' โดยเฉพาะในกรณีที่ส่อไปในทางล่วงละเมิดทางเพศ

จากรายงานข่าวสื่อมวลชน ตำรวจภูเก็ตเข้าควบคุมตัวกลุ่มผู้หญิงข้ามเพศในย่านซอยบางลา โดยอ้างว่าพฤติกรรมของกลุ่มดังกล่าวรบกวนและส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัด อย่างไรก็ตาม ข้อกล่าวหานี้ก่อให้เกิดคำถามต่อสังคมว่า “อะไร” คือความเดือดร้อนรำคาญตามนิยามของกฎหมาย และการกระทำของกลุ่มผู้หญิงข้ามเพศเข้าข่ายความผิดจริงหรือไม่

นายธัญวัจน์ กล่าวว่าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397 วรรคสอง ระบุถึงโทษสำหรับการกระทำในที่สาธารณะหรือลักษณะที่ส่อไปในทางล่วงละเมิดทางเพศ แต่เมื่อพิจารณาจากกรณีนี้ การตีความว่าการแต่งกายหรือการยืนในพื้นที่สาธารณะของผู้หญิงข้ามเพศเป็นการ 'เดือดร้อนรำคาญ' กลับสะท้อนถึงอคติทางเพศมากกว่าการกระทำผิดจริงตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับบุคคลอื่นในพื้นที่เดียวกันที่ไม่ได้ถูกดำเนินคดี

นายธัญวัจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่าสิทธิและเสรีภาพของบุคคลในพื้นที่สาธารณะ ตามรัฐธรรมนูญไทยมาตรา 28 ให้ความคุ้มครองสิทธิในชีวิตและร่างกาย รวมถึงเสรีภาพในการแสดงออกทางเพศและการแต่งกายในพื้นที่สาธารณะ ตราบใดที่การกระทำไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่นหรือผิดกฎหมายอย่างชัดเจน การใช้มาตรา 397 ในกรณีของผู้หญิงข้ามเพศที่เพียงแค่ยืนหรือเดินในพื้นที่สาธารณะ ย่อมเป็นการจำกัดเสรีภาพเกินสมควร

“การเลือกใช้กฎหมายกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง โดยไม่มีฐานจากพฤติกรรมที่เข้าข่ายความผิดอย่างแท้จริง เป็นการตอกย้ำอคติที่ฝังรากลึกในสังคมมากกว่าการใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม การเหมารวมว่ากลุ่มผู้หญิงข้ามเพศคือ “ต้นเหตุของความเดือดร้อน” หรือ “ปัญหาภาพลักษณ์” จึงเป็นการใช้อำนาจรัฐที่สืบทอดมาจากทัศนคติอคติ ไม่ใช่การคุ้มครองสาธารณะตามหลักสิทธิมนุษยชน“ นายธัญวัจน์กล่าว

นายธัญวัจน์ ได้เสนอว่ากรณีนี้ควรเป็นจุดเริ่มต้นของการทบทวนการใช้มาตรา 397 ให้มีความชัดเจน เป็นกลาง และปราศจากการเลือกปฏิบัติ รวมถึงการพัฒนาความรู้และทัศนคติของเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศและสิทธิมนุษยชน เพื่อไม่ให้กฎหมายกลายเป็นเครื่องมือของการกดทับกลุ่มเปราะบาง

“หากมีความกังวลเรื่องภาพลักษณ์ของประเทศ การขจัดอคติในกระบวนการยุติธรรม และส่งเสริมความเท่าเทียมในพื้นที่สาธารณะต่างหาก ที่จะช่วยสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกของประเทศไทยได้มากกว่า” นายธัญวัจน์ กล่าวทิ้งท้าย

‘จีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้’ เห็นพ้อง!! เสริมสร้างความไว้วางใจ กระชับความร่วมมือ เน้น!! สร้างเสถียรภาพ การพัฒนาระดับภูมิภาค ท่ามกลาง เศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้า

(22 มี.ค. 68) สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า ‘หวังอี้’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวว่าจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้เห็นพ้องที่จะเสริมสร้างการสื่อสาร เพิ่มความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และกระชับความร่วมมือให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

หวังกล่าวถ้อยคำข้างต้นขณะพบปะกับสื่อมวลชนร่วมกับทาเคชิ อิวายะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น และโช แทยูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ หลังจากเข้าร่วมการประชุมระดับไตรภาคีของรัฐมนตรีต่างประเทศจีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ ครั้งที่ 11 ในกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น

หวังระบุว่าทั้งสามประเทศเห็นพ้องถึงความคืบหน้าเชิงบวกที่เกิดขึ้นในความร่วมมือ นับตั้งแต่การประชุมสุดยอดไตรภาคีจีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ ครั้งที่ 9 และตระหนักถึงความจำเป็นและความรับผิดชอบในการเสริมสร้างการสื่อสาร เพิ่มความไว้วางใจซึ่งกันและกัน กระชับความร่วมมือ และจัดสรรปัจจัยที่เอื้อต่อการสร้างเสถียรภาพสำหรับสันติภาพและการพัฒนาระดับภูมิภาค ท่ามกลางฉากหลังของภูมิทัศน์ระหว่างประเทศที่สลับซับซ้อนและปั่นป่วน กอปรกับเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้า

ประการแรก หวังกล่าวว่าทั้งสามฝ่ายตกลงเสริมแกร่งแนวโน้มความร่วมมือ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้จะยึดมั่นในเจตนารมณ์เดิมของความร่วมมือ มุ่งเน้นที่วิสัยทัศน์ความร่วมมือไตรภาคีสำหรับทศวรรษหน้า (Trilateral Cooperation Vision for the Next Decade) รวมถึงขยับขยายพื้นที่ใหม่ บ่มเพาะแรงขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ และสร้างจุดเด่นใหม่ของความร่วมมือ บนพื้นฐานของความร่วมมือที่มุ่งเน้นประเด็นสำคัญ 6 ด้านซึ่งกำหนดโดยการประชุมผู้นำเมื่อปีที่แล้ว อีกทั้งมีการหารือถึงการจัดการประชุมสุดยอดไตรภาคีจีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ ครั้งที่ 10 ภายในปีนี้ และจะมุ่งมั่นสร้างเงื่อนไขและบรรยากาศที่เอื้ออำนวยเพื่อจุดประสงค์ข้างต้น

ประการที่สอง ทั้งสามฝ่ายตกลงส่งเสริมการบูรณาการทางเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยจะเดินหน้าติดต่อสื่อสารเกี่ยวกับการเริ่มต้นการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีไตรภาคีใหม่ ส่งเสริมการขยายตัวของความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) พร้อมรักษาเสถียรภาพและความราบรื่นของห่วงโซ่การผลิตและอุปทานในภูมิภาค จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้จะก้าวตามยุคสมัยเพื่อสร้างพื้นที่ด้านนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในเอเชีย และส่งเสริมการพัฒนาพลังการผลิตใหม่ที่มีคุณภาพ

ประการที่สาม ทั้งสามฝ่ายตกลงกระชับการแลกเปลี่ยนและการเรียนรู้ร่วมกันอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยจะจัดปีแห่งการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างจีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้อย่างราบรื่นในปี 2025-2026 มุ่งมั่นเพิ่มการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนเป็น 40 ล้านคนภายในปี 2030 และส่งเสริมฐานความคิดเห็นสาธารณะสำหรับความร่วมมือไตรภาคี อีกทั้งเล็งเห็นว่าการเสริมสร้างความร่วมมือด้านสวัสดิการสังคม การพัฒนาสีเขียวและคาร์บอนต่ำ และด้านอื่นๆ จะเอื้อประโยชน์มากขึ้นแก่ประชาชนของสามฝ่าย

ประการที่สี่ ทั้งสามฝ่ายตกลงเสริมสร้างความร่วมมือพหุภาคี โดยจะยกระดับการประสานงานและความร่วมมือภายใต้หลายกลไก เช่น อาเซียนบวกสาม และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ส่งเสริมความร่วมมือไตรภาคีร่วมกับภูมิภาคโดยรอบ และขับเคลื่อนการพัฒนาร่วมกันในภูมิภาค พร้อมสนับสนุนกันและกันในการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค ส่งเสริมภูมิภาคนิยมแบบเปิด ยึดมั่นในพหุภาคีและการค้าเสรี ทั้งผลักดันโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์และครอบคลุมมากขึ้น

หวังกล่าวเสริมว่าจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้เห็นพ้องกับการทำงานของสำนักงานเลขาธิการความร่วมมือไตรภาคี และตกลงขยายระยะเวลาดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการที่ปรึกษาสำนักงานฯ โดยหวังว่าสำนักงานเลขาธิการจะมีบทบาทมากขึ้นในการส่งเสริมความร่วมมือไตรภาคี

‘ผบ.ตร.’ สั่งทบทวน!! ‘ส.ต.อ.’ ใส่ขาเทียม สอบติด ‘นายร้อย’ ถูกปัดตก ชี้!! ต้องคำนึงถึงการปฏิบัติหน้าที่ที่ผ่านมา ความตั้งใจในการรับราชการ

(22 มี.ค. 68) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการในการประชุมบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา ให้ฝ่ายบริหารของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ , กองบัญชาการศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาทบทวนผลการสอบเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร ของ ‘ส.ต.อ.’ นายหนึ่ง ใส่ขาเทียม ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างระยะเวลาที่ยื่นอุทธรณ์ได้ ขอให้พิจารณาด้วยความละเอียด รอบคอบ มีความเหมาะสมตามสายงาน เป็นไปตามระเบียบและกฎหมาย

ให้คำนึงถึงการปฏิบัติหน้าที่ที่ผ่านมา ความตั้งใจในการรับราชการ แล้วรายงานให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทราบโดยด่วน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top