Thursday, 15 May 2025
NewsFeed

‘แม่ภนิดา’ ได้เก็บรูป ‘แตงโม นิดา’ กลับบ้านแล้ว  พร้อมคืนพื้นที่ให้กับชุมชนท่าเรือพิบูลสงคราม

(7 ส.ค. 66) สำหรับคดีแพ่งอื่น ๆ ที่ทางอัยการนนทบุรียื่นฟ้องแก๊งสปีดโบ๊ทนั้น ยังคงดำเนินการต่อไป แต่ในส่วนของภาพความทรงจำถือว่าได้ปิดฉากลงแล้ว สำหรับ ‘แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์’ ดาราผู้ล่วงลับ ผลัดตกเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ล่าสุด ‘คุณแม่ ภนิดา ศิระยุทธโยธิน’ ได้คืนพื้นที่ให้กับชุมชนท่าเรือพิบูลสงครามและพาแตงโมกลับบ้าน

โดยล่าสุดกลุ่มเฟซบุ๊ก ‘คดีแตงโม ต้องได้รับความยุติธรรม’ โพสต์แจ้งว่า ‘แม่ภนิดา’ ได้นำรูปภาพแตงโมที่จัดแขวนไว้ที่ท่าเรือพิบูลสงครามบางส่วนกลับบ้าน และแฟนคลับบางท่านก็นำภาพบางส่วนกลับเช่นกัน เพื่อคืนพื้นที่ให้แก่สาธารณะ ซึ่งได้ระบุว่า…

“สวัสดีค่ะ ขออนุญาตเรียนแจ้งให้ FC ของพี่แตงโมทราบนะคะ วันนี้คุณแม่และแอดมิน ได้เข้าไปเก็บรูปภาพต่าง ๆ ของพี่แตงโม โดยคุณแม่ได้นำบางส่วนกลับบ้าน และภาพบางส่วนมี FC ขอเก็บไว้เป็นที่ระลึก คุณแม่ได้มอบรูปภาพเหล่านั้นให้เรียบร้อยค่ะ”

“ตอนนี้รูปภาพและสิ่งของต่าง ๆ ที่อยู่บริเวณท่าเรือ คุณแม่ได้พาพี่แตงโมกลับมาที่บ้านแล้วค่ะ (เราได้คืนสถานที่ให้ทางเทศบาลเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากขอใช้สถานที่ในการจัดวางสิ่งของต่าง ๆ มาเป็นเวลาปีกว่าแล้วค่ะ) หากใครคิดถึงก็สามารถไปเยี่ยมที่คริสตจักรเมธอดิสท์ รังสิตคลอง 4 กันได้นะคะ”

“คุณแม่ฝากขอบคุณแฟนคลับของพี่แตงโมทุกคนที่ติดตามคดี และไม่ลืมพี่แตงโมค่ะ ขอบพระคุณเทศบาลนนทบุรีที่อนุญาตให้แฟนคลับได้ใช้สถานที่เพื่อจัดวางสิ่งของต่าง ๆ ของพี่แตงโมค่ะ”

“ขอบพระคุณคุณอาสุรินทร์ ประธานชุมชนพิบูลสงคราม1 และพี่น้องในชุมชนเป็นอย่างสูง ตลอดปีกว่า ๆ ที่ผ่านมา พี่น้องชาวชุมชนช่วยกันดูแลสิ่งของต่าง ๆ ของพี่แตงโมเป็นอย่างดีเสมอมาค่ะ”

‘ม้า อรนภา’ ซึ้งใจ ‘ชมพู่’ พาลูกๆ ร่วมงานศพคุณแม่ พร้อมสวมกอด - ให้กำลังใจ ทำซาบซึ้งน้ำตาซึม

เรียกได้ว่าได้รับกำลังใจจากทั้งเพื่อนพ้องน้องพี่คนบันเทิงและแฟน ๆ อย่างล้นหลามเลยทีเดียว สำหรับพิธีกรรุ่นใหญ่อย่าง ‘ม้า อรนภา กฤษฎี’ หลังสูญเสีย ‘คุณแม่ประมวล แสงสาคร’ คุณแม่สุดที่รักวัย 99 ปี ไปอย่างไม่มีวันกลับ

ซึ่งนอกจากจะได้รับกำลังใจจากโซเชียลอย่างล้นหลามแล้ว ภายในงานสวดอภิธรรมของคุณแม่ ก็มีเหล่าเพื่อนพ้องน้องพี่คนบันเทิงเดินทางไปร่วมงานและร่วมอาลัยกันเนืองแน่น เช่นเดียวกับซุปตาร์สาว ‘ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต’ ที่ได้พา ‘น้องสายฟ้า-น้องพายุ’ ไปร่วมอาลัยและส่งกำลังใจให้กับคุณยายม้าอีกด้วย

โดยเมื่อวานนี้ (6 ส.ค. 66) อินสตาแกรมของโพลีพลัส ก็ได้เผยภาพทีม 3 แซ่บ ที่ได้ไปร่วมอาลัยคุณแม่ประมวล พร้อมกับเปิดคลิปนาทีอบอุ่บปนซึ้งที่ ‘ชมพู่’ และ ‘น้องสายฟ้า-น้องพายุ’ สวมกอดส่งกำลังใจให้กับ ‘ม้า อรนภา’ ซึ่งช็อตนี้ก็ทำเอาพิธีกรรุ่นใหญ่ซาบซึ้งน้ำตารื้นเลยทีเดียว

ขณะที่ ‘ม้า อรนภา’ ก็ได้โพสต์ภาพบรรยากาศในงานสวดอภิธรรมคืนที่ 3 พร้อมกับเขียนแคปชั่นบอกว่า “สวดอภิธรรมคุณแม่คืนวันที่ 3 อบอวลไปด้วยความรักที่มีต่อแม่และม้า ขอบคุณทุกคนที่มีความรักต่อกันมาเสมอ เป็นคืนทีร้องไห้ด้วยความปลาบปลื้มมากที่สุด” ท่ามกลางเหล่าคนบันเทิงและแฟน ๆ เข้ามาคอมเมนต์ส่งกำลังใจอย่างคับคั่ง

‘บี้ สุกฤษฎิ์’ มีติ๊กต็อกแล้ว!! ประเดิมคลิปแรกกราบพระโชว์ งานนี้ถูกใจแฟนคลับ ถึงขั้นบอก “คลิปต่อไปขอสวดมนต์”

(7 ส.ค. 66) กระแส TikTok มาแรงสุด ๆ แม้แต่ ‘บี้ สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว’ นักร้องซุปตาร์คนดังของเมืองไทย ก็ไม่สามารถต้านทานได้ เปิด TikTok ของตัวเองแล้ว หลังจากห่างหายวงการบันเทิงไปเข้าวัด อยู่กับชีวิตธรรมะธัมโมจนแฟนคลับคิดถึงหนุ่มบี้เพียบ

หนุ่มบี้ นักร้องดังจากบ้านเดอะสตาร์ ได้เปิด TikTiok ชื่อ ‘biesukrit_w’ โดยประเดิมช่องติ๊กต็อกด้วยคลิปแรกที่ทำเอาแฟนคลับฮาลั่น ตามมาถล่มคอมเมนต์และไลก์เพียบ หลังจากหนุ่มบี้โพสต์คลิปไป 1 วันเท่านั้น ล่าสุดยอดวิวคลิปทะลุ 5 แสนวิวไปแล้วเรียบร้อย

'นพดล' แจง!! สถานการณ์ตั้งรัฐบาลตอนนี้ไม่ง่าย ไม่ได้วิ่งอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ แต่จะทำให้ดีที่สุด 

(7 ส.ค. 66) นายนพดล ปัทมะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการเห็นชอบแคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ในการประชุมรัฐสภาครั้งต่อไป ว่า น่าจะเป็นไปอย่างเรียบร้อย ต้องให้เวลาตัวแทนพรรคที่ไปเจรจาหาเสียงตั้งรัฐบาล การล่าช้าออกไปไม่กี่วันคงไม่กระทบโรดแมปในการตั้งรัฐบาลเข้ามาขับเคลื่อนประเทศและแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

นายนพดล กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้สื่อและนักวิเคราะห์ถกเถียงกันว่าใครจะเป็นนายกฯ จะพลิกขั้วไหม แต่ที่พรรคเพื่อไทยกังวลคือปัญหาปากท้อง ราคาพลังงานสูงขึ้น รายได้ประชาชนหดหาย หนี้สินครัวเรือน ยาเสพติดระบาด ปัญหาภัยแล้งเอลนิโญ ปัญหาไทยเสียโอกาสในเวทีโลก เด็กหลุดจากระบบการศึกษา การจัดทำงบประมาณประทศ เป็นต้น พรรคคิดตลอดว่าทำอย่างไรจึงจะมีรัฐบาลมาแก้ปัญหาเหล่านี้ให้เร็วที่สุด เพราะเราเอาปัญหาประชาชนเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่ง่วนกับการตั้งรัฐบาลเพื่อมีอำนาจอย่างเดียว นอกจากนั้นนักธุรกิจ นักวิชาการหลายคนเห็นว่าควรมีรัฐบาลโดยเร็ว ทางเลือกที่ให้ทอดเวลาไปเกือบปีเพื่อให้ สว.หมดอำนาจโหวตนายกฯ แล้วค่อยให้สภาผู้แทนฯ โหวตนายกฯ น่าจะมีผลเสียมากกว่าผลดี

เมื่อถามว่า มีคนวิจารณ์ท่าทีเพื่อไทยมากมายในช่วงนี้ นายนพดล กล่าวว่า เราเคารพความเห็นต่าง สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ก็นำมาคิดต่อ น่าเสียดายบางคนด่าล่วงหน้าไปแล้ว แต่ขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่าพรรคเพื่อไทยจะเลือกแนวทางที่ดีที่สุด สถานการณ์การตั้งรัฐบาลขณะนี้ไม่ใช่งานง่าย เราไม่ได้วิ่งอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ แต่ต้องทบทวนสิ่งที่พรรคเพื่อไทยทำมา ส.ส.ของพรรคเห็นชอบโหวตให้คุณพิธาครบ 141 เสียง และโหวตไม่เห็นด้วยกับญัตติที่ไม่ให้เสนอชื่อคุณพิธาเป็นครั้งที่ 2 ครบ 141 เสียง พรรคไม่ได้บิดพลิ้วเลย หลังจากที่พรรคก้าวไกลตั้งรัฐบาลไม่ได้ ก็ส่งไม้ต่อให้พรรคเพื่อไทย ซึ่งเราก็ต้องพยายามหาเสียงให้ครบ 375 เสียง ขณะนี้ก็ต้องดำเนินการขอเสียงสนับสนุน

"ผมขอความเป็นธรรมให้พรรคเพื่อไทยด้วยว่า พรรคไม่ได้มีทางเลือกมากมาย แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุด โดยยึดมั่นประโยชน์ของประเทศและประชาชนมาก่อนประโยชน์พรรค" นายนพดล กล่าว

จุกในอก!! ‘บีม กวี’ เผยวินาที ‘น้องพีร์’ ถาม “อาบิ๊กอยู่ไหน?”  งานนี้ทำเอาเหล่าแฟนๆ D2B ที่ได้ดูคลิปถึงกับน้ำตาริน

(7 ส.ค. 66) เรียกได้ว่าไม่มีใครไม่รู้จักกับวงบอยแบนด์ในตำนานอย่าง D2B ที่มีศิลปิน 3 คน อย่าง บิ๊ก ปาณรวัฐ กิตติกรเจริญ, แดน วรเวช ดานุวงศ์ และ บีม กวี ตันจรารักษ์ ซึ่งถือได้ว่า D2B เป็นกลุ่มบอยแบนด์ไทยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และได้รับฉายา ‘บอยแบนด์อันดับ 1 ตลอดกาลของไทย’

แต่กลับมีข่าวร้ายเมื่อในวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 บิ๊ก ปาณรวัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของวง D2B ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตกอยู่ในอาการโคม่า ทำให้วง D2B ถูกยุบลง และหลังจากการประสบอุบัติเหตุของบิ๊ก แดนและบีมได้แยกออกมาตั้งวงใหม่ในชื่อแดน-บีม และ D2B ได้สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการหลังจากบิ๊กเสียชีวิตในวันที่ 9 ธันวาคม ในปีเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม จากกระแสเรียกร้องจากแฟนคลับและความร่วมมือจากหลายฝ่าย ทำให้เกิดคอนเสิร์ตเพื่อรำลึกถึง D2B ขึ้นมาตลอดทุกปี และครั้งล่าสุดกลับมาอีกครั้งสำหรับงานคอนเสิร์ต แดน-บีม ครบรอบ 22 ปีวง ใน ‘D2B ETERNITY CONCERT : 22 ปีนับตั้งแต่วันที่ฉันรักเธอ’

โดยครั้งนี้ได้ใช้เทคโนโนโลยีพา บิ๊ก ปาณรวัฐ กลับมาอีกครั้ง โดยบนเวทีทำเอาขนลุกทั้งฮอลล์ เมื่อ บิ๊ก ปาณรวัฐ ได้ร่วมร้องเพลงกับทั้ง 3 คน เป็น D2B แบบครบวงอีกครั้ง ทำเอาแฟนคลับหลายคนถึงกับน้ำตาซึมกันเลยทีเดียว โดยต้องบอกเลยว่าทั้งภาพและเสียงนำเสมือนจริงมาก ๆเลยทีเดียว

ล่าสุดต้องบอกเลยว่าทำเอาบีบหัวใจเมื่อทางด้าน บีม กวี ได้ออกมาโพสต์คลิป น้องพีร์ ถามหา “อาบิ๊กอยู่ที่ไหน” ก่อนจะตอบว่า “อาบิ๊ก เขาไปอยู่ที่สวยๆ เขาอยู่ไกลแล้ว” ทำเอาทางด้าน บีม กวี ถึงกับถามว่า “ใครสอนเนี่ยลูก” ทางด้าน น้องพีร์ ก็ได้ถามต่อว่า “อาบิ๊กอยู่ไหน ทำไมน้องพีร์ไม่เคยเห็นอาบิ๊กเลย” 

‘เด็จพี่’ แฉ!! ‘ชูวิทย์’ โกรธแสนสิริปฏิเสธซื้อที่ดิน ชี้!! ไฟแค้นสุมอก จึงรับงานดิสเครดิต ‘เศรษฐา’

(7 ส.ค. 66) ที่โรงแรมดิเอ็มเมอรัลด์ กรุงเทพฯ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ คณะทำงานด้านกฎหมายที่ได้รับมอบอำนาจจาก นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองดัง ระบุที่นายเศรษฐา มอบอำนาจให้ทนายความฟ้องดำเนินคดีกับนายชูวิทย์นั้น เป็นการฟ้องปิดปากว่า ขอชี้แจงว่าเรื่องนี้เป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย ไม่มีใครไปปิดปากคนอย่างนายชูวิทย์ได้ หากนายชูวิทย์ตรวจสอบนายเศรษฐาอย่างบริสุทธิ์ใจ

ตนขอตั้งข้อสังเกตว่า นายชูวิทย์มีข้อมูลเรื่องนี้มานานแล้ว แต่เหตุใดจึงไม่ตรวจสอบตั้งแต่ได้รับข้อมูลมา หรือก่อนที่นายเศรษฐา จะถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ตนเองในฐานะเป็นนักการเมือง และเคยตรวจสอบในคดีสำคัญ หากไม่มีวาระซ่อนเร้นเราต้องตรวจสอบอย่างนี้ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า สำหรับประเด็นที่นายชูวิทย์ แถลงเมื่อวันที่ 3 ส.ค. กล่าวหานายเศรษฐาว่าทำนิติกรรมอำพราง ไม่ซื่อสัตย์สุจริต รู้เห็นเป็นใจกับบริษัทที่ขายที่ดินให้กับ บ.แสนสิริ ทำให้รัฐเสียหายกว่า 500 ล้านบาท เรื่องนี้ตนขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่าไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอะไรเลย เป็นการจับแพะชนแกะ พูดความจริงครึ่งเดียวของนายชูวิทย์ คือผู้ขายได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการโอนแบ่งคืนให้ผู้ถือหุ้นคนละวันกัน จึงไม่ถือว่าบุคคลดังกล่าวได้กรรมสิทธิ์รวมในที่ดินพร้อมกัน ในทางกฎหมายอนุญาตให้ทำได้

ต่อมาเมื่อมีการขายให้บ.แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ก็เป็นไปตามกฎหมาย เป็นไปตามระเบียบของกรมที่ดินและระเบียบของกรมสรรพากร ซึ่งถ้าไม่ถูกระเบียบกรมที่ดินก็ไม่สามารถให้ผู้ขายโอนให้ได้ และกรมสรรพากรคงฟ้องร้องผู้ขายไปแล้ว ไม่ปล่อยให้เนิ่นนานขนาดนี้ ใครก็รู้ว่ากรมที่ดินและกรมสรรพากรล้วนมีระเบียบที่เคร่งครัด ไม่ถึงมือนายชูวิทย์หรอก

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการทั้งหมดเป็นไปตามกฎหมายมาตรา 56 แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป. 100/2543 ลงวันที่ 24 พ.ย. 2543 ข้อ 4 (2)

นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่านายชูวิทย์ซึ่งเป็นนักธุรกิจอสังหาฯ มีทีมกฎหมายเป็นที่ปรึกษา ก่อนมาแถลงข่าวกล่าวหานายเศรษฐาคงจะต้องศึกษารายละเอียดมาหมดแล้ว ว่าผู้ขายทั้ง 12 คนนี้ได้ที่ดินมาไม่พร้อมกัน นายชูวิทย์ก็รู้ แต่จงใจพูดข้อเท็จจริงเพียงบางส่วน เพื่อให้สังคมเข้าใจว่าได้ที่ดินมาพร้อมกันในวันที่แถลงข่าว เหมือนพูดความจริงครึ่งเดียว เหตุใดนายชูวิทย์จึงไม่พูดทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าที่ดินได้มาไม่พร้อมกัน นายชูวิทย์ปกปิดความจริงข้อนี้ เพื่อใช้เป็นช่องกล่าวหานายเศรษฐาใช่หรือไม่ เพราะหากนายชูวิทย์พูดความจริงตรงนี้ให้หมด ตัวเองจะกล่าวหานายเศรษฐาไม่ได้เลย

นอกจากนี้ขอตั้งข้อสังเกตต่อว่าผู้ซื้อเป็นนิติบุคคล เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีผู้บริหารหลายคน แต่เหตุใดนายชูวิทย์ จึงตั้งใจโจมตี ดิสเครดิตนายเศรษฐาเพียงคนเดียว ถามว่าหากไม่มีวาระซ่อนเร้นทำไมช่างบังเอิญเช่นนี้ ต่อมาก็กล่าวหานายเศรษฐา มีเงินทอน เป็นตัวการร่วมหรือรู้เห็นเป็นใจ

เรื่องนี้ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเลย ตนได้รับเอกสารข้อหารือลงวันที่ 9 มี.ค.58 ระหว่างกรมที่ดินกับกรมสรรพากรกรณีนี้ ซึ่งมีข้อสรุปออกมาเป็นไปตามคำสั่งกรมสรรพากรข้างต้น ดังนั้น การกล่าวหาว่านายเศรษฐารู้เห็นเป็นใจ หรือสมคบกับผู้ขายในการหลีกเลี่ยงภาษี มีเจตนากลั่นแกล้งและหวังผลทางการเมืองต่อตัวนายเศรษฐา

นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่กล่าวหาว่านายเศรษฐาไม่ซื่อสัตย์ กระทำผิดกฎหมาย มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินทอนในการซื้อขายที่ดินแปลงนี้โดยนายชูวิทย์อ้างถึงราคาที่ดินตารางวาละเกือบ 4 ล้านบาทนั้น ข้อเท็จจริงราคาที่ดินบริเวณดังกล่าวที่ บ.แสนสิริ ซื้อจากเอกชนนั้น ตั้งอยู่ที่ถ.สารสิน ตรงข้ามกับสวนลุมพินี เป็นทำเลทอง ซึ่งเป็นไปตามราคาตลาด นักธุรกิจที่อยู่ในแวดวงอสังหาฯ รู้ว่าเป็นราคาปกติ

เมื่อเปรียบเทียบกับที่ดินของนายชูวิทย์ ที่ขายในเดือนเดียวกันให้แก่ บ.ไรมอนแลนด์ บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่นายชูวิทย์อ้างผ่านสื่อว่าขายไป 2,000 ล้านบาท ราคาตารางวาละเกือบ 3.6 ล้านบาท ทั้งที่ที่ดินนายชูวิทย์ อยู่ในซอยสุขุมวิท 24 ที่ดินของนายชูวิทย์ก็ราคาไม่ต่างกับราคาที่ บ.แสนสิริ ซื้อ ฉะนั้น ข้อกล่าวหาใด ๆ ทั้งหมดที่นายชูวิทย์ได้แถลงมา จึงน่าจะเป็นความเท็จ ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ตนขอยืนยันว่านายเศรษฐาไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ไม่ได้ทำผิดจริยธรรมตามที่นายชูวิทย์กล่าวอ้างแต่อย่างใด

ขอตั้งข้อสังเกตถึงพฤติกรรมของนายชูวิทย์ ที่ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีความเจ็บแค้น ไม่มีปัญหา และไม่ได้ขายที่ดินของนายชูวิทย์ ให้บ.แสนสิริ รวมถึงไม่มีวาระซ่อนเร้นใด ๆ นั้น นายชูวิทย์อาจความจำสั้น วันนี้ผมจะมาจับโกหกนายชูวิทย์ ซึ่งผมมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายว่านายชูวิทย์ เคยไปพบผู้บริหาร บ.แสนสิริ พร้อมนายเศรษฐา เมื่อวันที่ 8 ก.ย.65 ภาพจากกล้องวงจรปิดก็มี เพื่อเสนอขายที่ดินแปลงของตนเองให้ บ.แสนสิริ

แต่ท้ายที่สุดทางแสนสิริปฏิเสธซื้อที่ดินของนายชูวิทย์ เป็นเหตุให้นายชูวิทย์โกรธ และดำเนินการในลักษณะนี้ใช่หรือไม่ ถามว่าจริงหรือไม่ที่ก่อนที่นายชูวิทย์จะมาแถลงข่าว ได้พยายามเสนอขายที่ดินให้ บ.แสนสิริ อีกครั้งหนึ่ง โดยเสนอราคาเพิ่มเป็น 2,000 ล้านบาทแต่ถูกปฏิเสธอีกครั้ง เรื่องนี้คือประเด็นที่ทำให้นายชูวิทย์ไม่พอใจใช่หรือไม่

“ภาพทั้งหมดเกิดขึ้นที่ บ.แสนสิริ เท่าที่ผมทราบนายชูวิทย์ ไม่ได้มีความสนิทสนมกับนายเศรษฐาถึงขนาดเข้าไปเยี่ยมกันถึงที่บริษัทได้ แต่ในภาพกลับจับมือ ดูสนิทสนม นี่คือพฤติกรรมของนายชูวิทย์ที่ตรงข้ามกับคำพูดที่ว่าแฉเพื่อชาติ” นายพร้อมพงศ์ กล่าว

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ตนอยากถามว่าวันนี้นายชูวิทย์ แฉเพื่อใครกันแน่ นายชูวิทย์ในฐานะที่เป็นคนมีความกว้างขวาง มีเพื่อนอยู่ทั้งในวงการทหาร และนักการเมือง ใคร ๆ ก็รู้ว่านายชูวิทย์ สนิทกับใคร ผู้มีอำนาจกลุ่มไหน อยากถามว่าที่นายชูวิทย์ ออกมาเป็นหัวขบวนเปิดเกมเขี่ยบอลสาดโคลนเป็นคนแรก เพื่อดิสเคดิตนายเศรษฐา ก่อนการโหวตนายกฯ เพียงไม่กี่วันว่าไม่มีความเหมาะสม

ถามว่า เป้าหมายของนายชูวิทย์เพื่อทำให้นายเศรษฐาขาดคุณสมบัติ ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 160(4) เรื่องจริยธรรม ถามว่านายชูวิทย์รับงานใครมา หวังผลทางการเมืองเพื่อให้ใครกลับมาเป็นนายกฯ อีกหรือไม่ นี่เป็นคำถามให้นายชูวิทย์ต้องตอบ

นายชูวิทย์กล่าวหานายเศรษฐาว่ามีพฤติกรรมอำพราง แต่ตนเห็นว่าคนที่มีพฤติกรรมอำพรางน่าจะเป็นนายชูวิทย์มากกว่า เพราะเวลานี้มีประเด็นที่ กทม. ร่วมกับอัยการต้องมานั่งประชุมกันในสิ่งที่นายชูวิทย์อำพรางไว้กรณีที่จะต้องติดคุก 5 ปี แลกกับการยกที่ดินเป็นสวนสาธารณะ แต่นายชูวิทย์กลับสู้กับ กทม.และอัยการว่าเป็นที่ของบริษัท ตัวเองจะไปยกให้สาธารณะได้อย่างไร และยังเสียภาษีอยู่ตลอด แถมกำหนดเวลาเปิด-ปิดสวนจน กทม.เข้าไปดำเนินการอะไรไม่ได้เลย

ขอถามว่าใครมีพฤติกรรมอำพรางกันแน่ สังคมสงสัยว่านายชูวิทย์ ลักษณะน่าจะเป็นโมฆบุรุษใช่หรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการแถลงข่าว นายพร้อมพงศ์ได้เรียกพนักงานจัดส่งเอกสาร ส่งภาพวันที่นายชูวิทย์ เข้าเจรจาขายที่ดินต่อ บ.แสนสิริ ซึ่งขณะนั้นมีนายเศรษฐา เป็นประธาน เป็นภาพที่ทั้ง 2 จับมือกันอย่างชื่นมื่น ไปให้นายชูวิทย์ถึงที่รร.เดวิสเพื่อทวนความจำของนายชูวิทย์ด้วย

‘อุ้ม ลักขณา’ รีโพสต์ไอจีน้องชาย พร้อมตัดพ้อ!! “ตายทั้งเป็น” หลัง ‘บอล กฤษณะ’ ออกมาสารภาพผิดว่าได้ทรยศต่อภรรยา

(7 ส.ค. 66) ท่ามกลางกระแสข่าวลือเตียงหักที่ยังคลุมเครือ ‘บอล กฤษณะ อมิตรสูญ’ ออกมาโพสต์ยอมรับผิดต่อ ‘อุ้ม ลักขณา อมิตรสูญ’ ที่ทรยศภรรยาและครอบครัว แม่ของอุ้ม ก็โพสต์เดือดว่า “จะพูดอะไรลับหลังช่วยเล่าเรื่องจริงด้วยนะ อย่าใส่ร้ายใส่ไฟคนอื่น เพื่อให้ตัวเองดูดี ทุเรศ! พูดว่าตรูจะเอาเงินเมิง ที่ไหนเมื่อไหร่?! สลึงบาทไม่เคยขอ อย่าว่าแต่ขอเลย ขอยืมยังไม่เคยสักครั้ง ‘มีแต่ให้ยืม’ ทีละล้านสองล้าน ไม่แมนเลยนะเมิง บอกแล้วนะว่าอย่าให้ตรูพูด #ความลับไม่มีในโลก #อย่ามาเห่าลับหลัง”

“งานนี้แม้คุณแม่ไม่ได้บอกว่าหมายถึงใคร แต่โลกออนไลน์ก็จับโยงไปถึงลูกเขยเรียบร้อยแล้ว ด้าน ‘อุ้ม’ เองก็แชร์ข่าวที่แม่ออกมาฟาดเดือด ๆ ผ่านสตอรี่อีกด้วย

ล่าสุด ‘จูเนียร์’ น้องชาย ‘อุ้ม ลักขณา’ ก็ได้โพสต์ไอจีสตอรี่ ภาพพร้อมหน้า อุ้ม และหลานสาว พร้อมแคปชันว่า "เห็นใบหน้ายิ้มร่าเริงอยู่ แต่ความรู้สึกพี่หนู ICU แล้วนะ"

ซึ่ง ‘อุ้ม ลักขณา’ ก็ได้รีโพสต์สตอรี่ของน้องชาย พร้อมใส่ข้อความว่า "ตายทั้งเป็น"

‘ธัญญ่า’ ฮาลั่น!! ‘เป๊ก สัณณ์ชัย’ ยอมให้ลูกสาวจับแปลงโฉม สวมบท ‘พ่อเกรซ’ ในมาตาลดา ชาวเน็ตเห็นแล้วเอ็นดูไม่ไหว

(7 ส.ค. 66) ‘ธัญญ่า ธัญญาเรศ’ โพสต์คลิปน่ารัก ‘น้องลียา’ ลูกสาวอินเทรนด์ละครดังอย่าง ‘มาตาลดา’ ได้จับ ‘พ่อเป๊ก สัณณ์ชัย’ มาถ่ายคลิปโคฟเวอร์เป็น ‘พ่อเกรซ’ ของมาตาลดา งานนี้พ่อเป๊กก็แอคติ้งเป็นพ่อเกรซแบบเนียนๆ ขนาดเมียตัวเองยังอดขำไม่ไหว จนโพสต์คลิประบุข้อความไว้ว่า…

“ขำไม่ไหว..โดนลียาจับใส่ผ้าพันคอ..ทาปาก ตอนแรกลูกจะใส่ที่คาดผมให้ด้วย พ่อบอกพ่อมาเฟียนะลูก ไว้หน้าพ่อบ้าง @_liyahengtrakul @pegliyah #มาตาลดา #พ่อเกรซ”

งานนี้พระเอกในเรื่องอย่าง ‘เจมส์ จิรายุ’ ก็ยังเข้ามาคอมเมนต์ด้วยว่า “น่าร๊ากกกก” ด้าน ‘จ๋า ยศสินี’ ผู้จัดละครก็ถึงกับร้องลั่นเรียกทั้งพ่อทั้งลูกว่า “ลียาลู๊กกกกกกกกกก คุณพ๊อออออออ” นอกจากนั้นยังมีทั้งคนบันเทิงและแฟน ๆ แห่คอมเมนต์กันรัว ๆ ทั้งขำทั้งเอ็นดูสองพ่อลูก

'เสี่ยหนู' ชูไอเดียรับมือ 'สังคมผู้สูงวัย' พุ่ง!! ดัน 1 ตำบล 1 บ้านพักคนชรา เป็นวาระแห่งชาติ

(7 ส.ค. 66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์สังคมผู้สูงวัย ที่ควรผลักดันให้เป็น ‘วาระแห่งชาติ’ ระหว่างการเป็นประธานในงานเปิดการประชุมวิชาการด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุและวิทยาการผู้สูงวัย มหกรรมสุขภาพผู้สูงอายุ ครั้งที่ 4 ‘The 4th Thailand Elderly Health Service Forum 2023’ ณ อาคารอิมแพคฟอรัม เมืองทองธานี 

โดยนายอนุทินได้กล่าวในตอนหนึ่งว่า “กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้ปี พ.ศ. 2566 เป็นปีแห่งสุขภาพสูงวัยไทย เนื่องด้วยเราได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ เรียบร้อยแล้ว และแนวโน้มของอัตราส่วนผู้สูงวัยในโลก จะมีแต่เพิ่มขึ้น ไม่ลดลง

สำหรับประเทศไทย ประชากรผู้สูงอายุของเราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นร้อยละ 20 ของประชากรรวม หรือประมาณ 13.5 ล้านคน เรากำลังเผชิญกับความท้าทายในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ด้านระบบสวัสดิการสังคม ระบบบริการสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ ค่าใช้จ่ายด้านบริการสุขภาพและสังคม เป็นต้น”

พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการคุ้มครองสิทธิและสวัสดิภาพ ตลอดจนการเพิ่มความมั่นคงในชีวิตให้กับผู้สูงอายุ ซึ่งจะต้องอาศัยองค์ประกอบทุกมิติ และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

นอกจากนี้ นายอนุทินได้กล่าวถึงแนวคิดว่าการรับมือกับสังคมผู้สูงวัยในระยะยาวนั้นควรเป็น ‘วาระแห่งชาติ’ ที่จะต้องมีแนวทางอย่างบูรณาการ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับแรงงานที่อาจต้องมีการเอื้อให้มีแรงงานต่างชาติเข้ามาเติมส่วนขาดในประเทศได้ดีขึ้น ขณะที่คุ้มครองสิทธิของแรงงานไทยไปด้วย กฎหมายสวัสดิการผู้สูงวัย การพัฒนาการออกแบบเมืองและที่อยู่อาศัยให้ตอบรับกับวิถีชีวิตของผู้สูงอายุ งานด้านสาธารณสุข การดูแลกันในชุมชน ซึ่งในอนาคตอาจมีความต้องการบริการแบบ 1 ตำบล 1 บ้านพักคนชรา เป็นต้น

สุดท้ายรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้พูดถึงบทบาทของตนในช่วงรัฐบาลรักษาการว่า ตนได้หารือกับผู้บริหารกระทรวงตลอดเวลาว่าต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานในระดับของส่วนราชการให้มีความมั่นคงเข้มแข็ง แล้วฝ่ายบริหารที่จะเข้ามาจะได้สามารถไปต่อยอดในส่วนของนโยบายเพื่อให้การดูแลผู้สูงอายุสามารถดำเนินการไปได้อย่างบูรณาการและมีประสิทธิภาพสูงสุดได้

BLACKPINK จัดคอนเสิร์ตที่ฮานอย 2 วัน ดึงเงินเข้าเวียดนามได้ถึง!! 920 ล้านบาท

(7 ส.ค. 66) คอนเสิร์ตครั้งแรกในเวียดนามของวงเกิร์ลกรุ๊ปเคป็อบระดับโลกอย่าง BLACKPINK สำหรับ ‘BORN PINK WORLD TOUR’ ซึ่งจัดขึ้น 2 รอบ เมื่อวันที่ 29 - 30 กรกฏาคมที่ผ่านมา ณ My Dinh National Stadium ในกรุงฮานอย มีผู้เข้าชมกว่า 170,000 คน ส่วนยอดจำนวนของผู้เข้าชมจากต่างประเทศอยู่ที่ 30,000 คน

โดยการท่องเที่ยวของฮานอยรายงานว่า มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็น 8% ในช่วงที่จัดคอนเสิร์ต BLACKPINK ซึ่งคิดเป็นจำนวนเงิน 26.5 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 920 ล้านบาทไทย จากชาวต่างชาติที่เข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นของประเทศเวียดนามได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ คอนเสิร์ตของ BLACKPINK ยังส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมการบริการของฮานอยด้วย เช่น โรงแรมในบริเวณใกล้เคียง My Dinh National Stadium ซึ่งมีอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นที่ 20% ในขณะที่ ‘BORN PINK WORLD TOUR’ ยังสร้างสถิติใหม่เป็นทัวร์คอนเสิร์ตของกลุ่มศิลปินหญิงที่สร้างรายได้สูงสุด โดยมีรายได้อยู่ที่ 78.5 ล้านดอลลาร์ จากการแสดงคอนเสิร์ต 26 รอบ ตามรายงานของ Touring Data


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top