Wednesday, 14 May 2025
NewsFeed

‘จา พนม’ สอน ‘แจ็คสัน หวัง’ เรียนท่าไหว้ครูมวยไทย ออกลวดลายอย่างจริงจัง ก่อนจบด้วยท่า ‘มินิ ฮาร์ท’

เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 66 ‘จา พนม’ นักแสดงชื่อดัง ซึ่งมีผลงานระดับฮอลลีวู้ดหลายเรื่อง โดดเด่นด้านศิลปะการต่อสู้ ได้โพสต์ภาพสอน ‘แจ็คสัน หวัง’ ศิลปินชื่อดังเรียนรู้พิธีไหว้ครูมวยไทย ในท่าปฐม เทพพนม พรหมสี่หน้า

ความพีคอยู่ที่ขณะที่ จา พนม กำลังสอนท่าพรหมสี่หน้าอยู่นั้น ปรากฏว่า ได้แกล้งแจ็คสันหวัง ที่กำลังจริงจัง เปลี่ยนจากท่ารำมวยจบด้วย มินิ ฮาร์ท ทำเอาแจ็คสันถึงกับอึ้ง ก่อนจะหัวเราะและโผเข้ากอด เรียกรอยยิ้มให้กับทั้งกองถ่าย และคนดู ด้านแฟนๆ อินเตอร์ก็เข้ามาเมนต์ให้พรึบ ที่ 2 ซุป’ตาร์มาเจอกัน เช่น

- One of the most dangerous men on the planet (หนึ่งในชายที่อันตรายที่สุดบนโลกนี้)
- Ong Back (องก์บาก)
- น่ารักกก ทั้ง 2 คนเลย
- Great Duo… Jaa and Team Wang (คู่ดูโอ้ที่ยอดเยี่ยม จา และ ทีมหวัง)
- ทั้ง 2 คน คือไอดอลของผม

‘อ.พงษ์ภาณุ’ วิเคราะห์ ผลกระทบเฟดขึ้นดอกเบี้ยระลอกใหม่ เชื่อ!! บีบไทยขึ้นตาม ในยาม ‘ส่งออกดิ่ง-ท่องเที่ยวทรง-ลงทุนเสี่ยง’

หลังจากที่ล่าสุดคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ซึ่งนับเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 11 ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 นั้น ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี 

แน่นอนว่าคำถามที่ตามมา คงหนีไม่พ้นประเด็นของผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย...

เกี่ยวกับเรื่องนี้ อ.พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์ฮิโรชิมะ ประเทศญี่ปุ่น อดีตปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และอดีตรองปลัดกระทรวงการคลัง ได้ทำการวิเคราะห์และให้มุมมองต่อนโยบายการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ผ่านรายการ ‘Meet THE STATES TIMES’ ประจำวันที่ 28 กรกฎาคม 2566 โดยระบุว่า…

การที่เฟดประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเพิ่มอีก 0.25% นี้ ถือว่าเป็นอัตราที่สูงสุดในรอบ 22 ปี ซึ่งมีทั้งในแง่ดีและแง่ที่ไม่ดี 

‘ในแง่ดี’ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยหนนี้ ไม่ต่างจากที่ตลาดคาดการณ์ และน่าจะเป็นการขึ้น ‘ครั้งสุดท้าย’ แล้ว หลังจากเฟดได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2022 จนถึงวันนี้ นับเป็นครั้งที่ 11 จากที่ระดับ 0% จนกระทั่งขึ้นมาอยู่ที่ 5.25% ส่วนที่ว่าครั้งสุดท้ายนั้น เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาได้ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

สังเกตได้จากการที่ตลาดเงินและตลาดหุ้นในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะตลาดในสหรัฐอเมริกาที่เริ่มมีการฟื้นตัวขึ้น ดัชนีดาวโจนส์ ดัชนี SME-Chinext 500 เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เป็นการแสดงออกถึงความมั่นใจของตลาดการเงินสหรัฐฯ ว่า เฟดเริ่มจัดการกับภาวะเงินเฟ้อได้ดีมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในข่าวดี มักมีข่าวร้ายแฝงอยู่เสมอ!!

‘ในแง่ร้าย’ ผมคิดว่า แม้ว่า ‘อัตราเงินเฟ้อทั่วไป’ (Headline Inflation) ที่เราพูดถึงจะเริ่มดีขึ้น แต่อัตราเงินเฟ้อที่เฟดใช้เป็นดัชนีในการทำนโยบาย เราเรียกว่า ‘อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน’ (Core Inflation) ซึ่งไม่รวมราคาพลังงาน และราคาอาหาร ที่อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงอยู่ โดยล่าสุดอยู่ที่ระดับ 4.8% ซึ่งยังอยู่ในระดับที่สูงกว่ากรอบเงินเฟ้อของเฟด เนื่องจากเฟดพยายามที่จะควบคุมเงินเฟ้อในอยู่ภายในระดับ 2%...

… ดังนั้น ระดับ 4.8% ยังถือว่าเป็นระดับเงินเฟ้อที่สูงมาก ในเรทของเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่รวมพลังงานและอาหาร

นอกจากนี้ ตลาดแรงงานทั่วโลก ในขณะนี้มีความตึงตัวมากเป็นพิเศษ หลังจากที่ปิดตัวไปหลายปี เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้แรงงานบางส่วนในตลาด ออกไปประกอบอาชีพอื่น ๆ แทน โดยเฉพาะในภาคงานบริการที่มีปัญหาในเรื่องของความตึงตัวของแรงงานที่ค่อนข้างสูง… 

… เพราะฉะนั้น อัตราค่าจ้างแรงงาน มีแนวโน้มที่จำเป็นจะต้องมีการปรับให้สูงขึ้นทั่วโลก ซึ่งอาจเป็นแรงกดดันภาวะเงินเฟ้อในระยะต่อไปได้

ทีนี้มองดู ‘ประเทศไทย’ เราเองนั้น ยังมีความอ่อนแออย่างเห็นได้ชัดอยู่ โดยเศรษฐกิจไทยถือว่าประสบปัญหาพอสมควร นอกเหนือจากปัญหาทางด้านการเมืองแล้วนั้น ประเทศไทยยังมีตัวเลขการส่งออกที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา โดยตัวเลขการส่งออกของไทยมีอัตราติดลบ พร้อม ๆ ไปกับอัตราการเติบโตที่ติดลบตามเช่นกัน

นอกจากนี้ ในภาคการท่องเที่ยวที่มีความคาดหวังว่า จะมีการฟื้นตัวเร็วขึ้น จากที่จีนเริ่มกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งนึง แต่ก็ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวังไว้นัก โดยอาจจะฟื้นตัวในช่วงไตรมาสแรก ๆ ของปี แต่พอเข้าช่วงไตรมาสที่ 2 เริ่มมีการชะลอลง ซึ่งผมคิดว่า อาจเป็นเพราะเศรษฐกิจของประเทศจีนเองนั้นก็ยังมีปัญหาอยู่ด้วยไม่น้อย เนื่องจากสภาพของหนี้ในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของจีน ยังไม่มีการฟื้นตัว และยังมีหนี้เสียอยู่เป็นจำนวนมาก…

… ดังนั้น โอกาสที่จีนจะกลับมาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และส่งนักท่องเที่ยวมาเยือนประเทศไทยจำนวนมาก จึงมีความเป็นไปได้ที่น้อยอยู่

ในส่วนของ ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ผ่านมานั้น ได้มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ช้ากว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ เป็นอย่างมาก อัตราดอกเบี้ยของประเทศไทยตอนนี้อยู่ที่ 2.5% เพราะฉะนั้น เมื่อสหรัฐฯ ประกาศขึ้นดอกเบี้ย ก็ย่อมสร้างแรงกดดันโดยเฉพาะตลาดอัตราการแลกเปลี่ยน ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย อาจมีแนวโน้มที่จำเป็นจะต้องขึ้นดอกเบี้ยในระยะต่อไป ซึ่งก็อาจจะเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ได้ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังไม่การฟันธงอย่างแน่ชัดว่าจะมีการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อไหร่

และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในครั้งนี้ ที่คาดว่าจะเป็นครั้งสุดท้าย ก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ค่อนข้างสูง ว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ หรือไม่ โดยเฉพาะในภาวะสงครามในยุโรปที่ยังมีความยืดเยื้ออยู่ อีกทั้ง ราคาพลังงาน และราคาพืชพันธุ์อาหารต่างๆ ที่ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้ว่าจะมีการกระโดดขึ้นราคาอีกเมื่อไหร่

นายพงษ์ภาณุ ยังได้กล่าวถึงผลกระทบจากการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ที่มีต่อตลาดหุ้นและตลาดการลงทุน โดยเฉพาะคริปโตอีกด้วยว่า…

แน่นอนว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีผลทำให้การใช้จ่ายในภาคครัวเรือนที่การอุปโภค-บริโภค และภาคธุรกิจที่มีการลงทุนนั้น เกิดการหยุดชะงัก เพราะฉะนั้น การบริโภคและการลงทุนนั้น มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลง นักลงทุนเองก็คงจะต้องมีการชั่งน้ำหนักมากขึ้นในการลงทุนแต่ละครั้ง ว่า เมื่อต้นทุนของเงินแพงขึ้น ก็ย่อมต้องมีการคาดการณ์ในเรื่องของผลตอบแทนการลงทุนสูงขึ้นไปด้วย ทำให้ต้องมีการตัดสินใจลงทุนอย่างระมัดระวังมากขึ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากการลงทุนในโครงการใดก็ตาม มีระยะเวลายาวนาน ก็คงจะได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน เนื่องจาก ‘อัตราคิดลด’ (Discount Rate) นั้นสูงขึ้น ซึ่งหากคิดเป็นมูลค่าปัจจุบันแล้วก็จะเกิดการลดลง อีกทั้ง ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น อาจทำให้นักลงทุนพึงที่จะต้องคงสภาพคล่องทางการเงินไว้มากเป็นพิเศษ

ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจในภาพรวม โดยเฉพาะเศรษฐกิจไทยที่กำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนสูงในอนาคตอันใกล้นี้ มีความจำเป็นที่รัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะเข้ามาบริหารประเทศนั้น ต้องเตรียม ‘มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ’ (Economic Stimulus Measures) ซึ่งเป็นมาตรการทางการคลังที่จะเข้ามากระตุ้นทั้งในภาคของการบริโภค และภาคการลงทุน ให้สามารถพยุงเศรษฐกิจไทยไม่ให้อ่อนแอลงไปมากกว่านี้

ยิ่งไปกว่านั้น หากมองไปที่สถานการณ์ตลาดคริปโตแล้ว ก็ร่วงลงอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด เนื่องจากทุกตลาดมีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกันหมด จึงทำให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างอย่างเท่าเทียมกันหมดอีกด้วย

‘McDonald’s’ สาขาหนึ่งในญี่ปุ่น ประกาศห้ามเด็กทั้งโรงเรียนเข้าร้าน เหตุมี นร.บางกลุ่มเข้ามาก่อกวนลูกค้าในร้าน แถมคุณครูยังเพิกเฉย!!

เมื่อไม่นานนี้ ได้มีร้าน ‘McDonald’s’ สาขาหนึ่งในจังหวัดคะนะงะวะของประเทศญี่ปุ่น กลายเป็นไวรัล เพราะมีผู้ไปพบเห็นว่าร้านขึ้นป้ายประกาศแบนนักเรียนทั้งหมดจากโรงเรียนมัธยมต้นแห่งหนึ่ง เนื่องจากเด็กโรงเรียนนี้มาทำ ‘พฤติกรรมก่อกวน’ อยู่บ่อยครั้ง ทำให้รบกวนลูกค้าคนอื่น ๆ และอาจเป็นอันตรายต่อพนักงาน จนทางร้านรับไม่ได้!! เห็นแล้วก็ทำให้อดสงสัยไม่ได้เลยว่าทางร้านเจออะไรเข้าไปถึงถึงได้ตัดสินใจเช่นนี้!!

ว่ากันว่าทางร้านนั้นประกาศไม่ต้อนรับเด็กโรงเรียนดังกล่าวมาเป็นเวลา 6 เดือนแล้ว แต่เพิ่งมาเป็นข่าวจนกลายเป็นไวรัล หลังมีผู้นำประกาศดังกล่าวมาโพสต์แชร์บนโลกออนไลน์ ทำให้บางคนจะมองว่าไม่ควรจะแบนนักเรียนแบบเหมาเข่งแบบนี้ และควรแบนเฉพาะนักเรียนที่ก่อกวนร้าน

แต่หลายคนดูเหมือนจะเห็นใจทางร้านมากกว่า เพราะมองว่าร้าน McDonald’s คงจะจับตามองนักเรียนเป็นรายคนไม่ไหว และเนื่องจากเครื่องแบบแต่ละโรงเรียนนั้นมีเอกลักษณ์ จึงเห็นได้ว่าเด็กโรงเรียนไหนทำพฤติกรรมซ้ำ ๆ กันอยู่บ่อยครั้ง จึงง่ายกว่าที่จะแบนโรงเรียนนั้น ๆ ไปเสียเลย และชื่นชมที่ทางร้านปกป้องสวัสดิภาพของพนักงานและสิทธิ์ของลูกค้าคนอื่น ๆ

ขณะเดียวกัน ความเห็นส่วนหนึ่งก็วิพากษ์วิจารณ์รองครูใหญ่ของโรงเรียนดังกล่าว เพราะดูเหมือนจะเพิกเฉยไม่สนใจคำร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมของนักเรียนที่ร้าน McDonald’s แห่งนี้ ให้ร้านไปแจ้งตำรวจแทน และปฏิเสธไม่แสดงความเห็นใด ๆ ทั้งสิ้นเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้เนื่องจากคณะกรรมการการศึกษาสั่งมา แต่บอกแค่ว่านักเรียนของโรงเรียนได้รับการว่ากล่าวตักเตือนแล้ว

ทั้งนี้ ชาวเน็ตบางคนบอกว่ารู้จักเด็กนักเรียนโรงเรียนนี้ และอ้างว่าบางคนมาสั่งอาหารที่ร้านแล้วนั่งแช่ยาว ๆ บางคนก็ไม่ซื้ออะไรเลยเพราะเอาข้าวกล่องจากที่อื่นมากินเอง แล้วใช้ Wi-Fi ฟรีของร้านเพื่อเรียนออนไลน์ด้วยแทบเล็ตของโรงเรียน บางทีก็คุยโหวกเหวกเสียงดังและเล่นเกม เหมือนยึดร้านเป็นของตัวเอง ทำให้รบกวนลูกค้าคนอื่น ๆ อย่างมาก และมีรายงานด้วยว่าเคยมีเหตุถึงขั้นต้องเรียกตำรวจและคุณครูมาห้ามนักเรียนเกเรเหล่านี้

ก็อาจจะไม่แฟร์เสียทีเดียวสำหรับนักเรียนโรงเรียนนี้คนอื่น ๆ ที่ไม่ได้ก่อกวนทางร้าน แต่หากทางร้านเจอกับพฤติกรรมแบบนี้บ่อย ๆ และขอความร่วมมือจากทางโรงเรียนไม่ได้ผล ก็คงต้องเข้มงวดมากขึ้นเพื่อไม่ให้คนส่วนมากได้รับผลกระทบ

บิ๊กป้อม’ ลั่น!! ไม่ไปไหน ขออยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร พปชร. แจง ยังไม่ได้เจอใคร หลัง ‘ทักษิณ’ ประกาศกลับไทย

(29 ก.ค. 66) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกระแสข่าวการลาออกจากหัวหน้าพรรค พปชร.ว่า พรรคบอกให้ตนลาออกก่อน เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรคขึ้นมาใหม่ ซึ่งใครจะมาดูตนก็ไม่ทราบ แต่ตนยืนยันว่าจะอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับพรรค พปชร.ต่อไป ไม่ไปไหน

ผู้สื่อข่าวถามถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) จะเสนอ นายเศรษฐา ทวีสิน ในวันที่ 4 สิงหาคม พรรค พปชร.จะมีทิศทางการโหวตเป็นอย่างไร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ยังไม่ทราบ คงรอมติที่ประชุมพรรค

เมื่อถามว่า ได้มีการติดต่อกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังประกาศเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 10 สิงหาคมนี้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ผมยังไม่ได้เจอใครทั้งนั้น”

‘รมว.สุชาติ’ ปลื้ม!! หลังเด็กไทยคว้า 15 เหรียญ จากเวทีแข่งขันแรงงานอาเซียนครั้งที่ 13 ที่สิงคโปร์

(29 ก.ค. 66) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีมอบเกียรติบัตร เงินรางวัลแก่เยาวชน และโล่ขอบคุณผู้สนับสนุนการแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 13 ที่สาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยมีนายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ร่วมในพิธี ณ ห้องประชุม ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในนามรัฐบาล และ ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรี ผมขอแสดงความยินดีกับผู้เข้าแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 13 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ที่ประสบความสำเร็จได้คว้ารางวัลเหรียญเงิน จำนวน 3 รางวัล เหรียญทองแดง จำนวน 3 รางวัล อีกทั้งรางวัลเหรียญฝีมือยอดเยี่ยม จำนวน 9 รางวัลกลับมายังประเทศไทย ซึ่งมีผลคะแนนรวมเป็นที่ 4 ในระดับอาเซียน และขอชื่นชมเยาวชนทั้ง 24 คน ผู้เชี่ยวชาญ 22 คน ที่ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ รวมไปถึงขอขอบคุณผู้สนับสนุนทุกท่านที่ให้การสนับสนุนตลอดมาทั้งด้านงบประมาณ สถานที่ บุคลากร วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ และเครื่องจักรที่ทันสมัยในการเก็บตัวฝึกซ้อม ซึ่งมีเป้าหมายเดียวกันกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน ในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิต สังคม และระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างเต็มความสามารถจนประสบความสำเร็จในครั้งนี้

ในวันนี้ทางกระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จึงจัดพิธีมอบเกียรติบัตร และเงินรางวัลให้แก่เยาวชน โดยเหรียญเงิน จะได้รับเงินรางวัลจำนวน 75,000 บาท เหรียญทองแดง จำนวน 40,000 บาท และเหรียญฝีมือยอดเยี่ยม (รางวัลชมเชย) จำนวน 20,000 บาท ในส่วนของน้อง ๆ ที่พลาดเหรียญรางวัลในการแข่งขันครั้งนี้ จะได้รับเงินรางวัลเป็นทุนการศึกษารายละ 10,000 บาท เพื่อเป็นกำลังใจและเกียรติประวัติให้แก่น้อง ๆ  พร้อมทั้งมีการมอบโล่ขอบคุณให้แก่ผู้สนับสนุนทั้ง 29 แห่ง ที่ทำให้การส่งเยาวชนเข้าร่วมแข่งขันสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า การพัฒนาฝีมือแรงงานผ่านการแข่งขันฝีมือแรงงานทั้งในระดับชาติ อาเซียน เอเชีย และระดับนานาชาติ ถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการชี้วัดระดับความสำเร็จในการพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงานจะเป็นหน่วยงานหลักในการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กร สมาคมต่าง ๆ ในการนำความรู้และประสบการณ์จากการแข่งขันมาพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรม และการศึกษาด้านอาชีพให้แก่สถาบันการศึกษาที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนให้มีความทันสมัยตรงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมการผลิตและภาคบริการโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะต้องเน้นพัฒนาทักษะในสาขาที่เกี่ยวกับระบบอัตโนมัติ ดิจิทัล และการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งโลกแห่งอนาคต ข้อมูลถือเป็นทรัพย์สินที่มีค่าสำหรับการลงทุนในอุตสาหกรรมต่าง ๆ การแข่งขันฝีมือแรงงานเป็นการเพิ่มโอกาสในการจ้างงานทั้งในและต่างประเทศ และที่สำคัญจะส่งผลให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของแรงงานไทย

นางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวเสริมว่า การแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 13 นี้ จะประสบความสำเร็จไม่ได้เลย หากไม่มีพันธมิตรที่ดีทั้งหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนทั้ง 29 แห่ง ประกอบด้วย

มูลนิธิเอสซีจี, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา, มหาวิทยาลัยรังสิต, วิทยาลัยดุสิตธานี, คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตสารสนเทศเพชรบุรี, อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่, วิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น, วิทยาลัยเทคนิคระยอง, วิทยาลัยเทคนิคสงขลา, วิทยาลัยการอาชีพบ้านไผ่, วิทยาลัยการอาชีพพล, วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก (อี.เทค), วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคล้านนา เชียงใหม่, วิทยาลัยเทคโนโลยีสยามบริหารธุรกิจ (SBAC) วิทยาเขตสะพานใหม่, ร้านโอเอซิสซาลอน, โรงเรียนออกแบบทรงผมอาดัม, สถาบันธงชัยแฮร์เทรนนิ่งเซ็นเตอร์, ศูนย์การเรียนรู้การเขียนโปรแกรมและนวัตกรรมหุ่นยนต์ EasyKids Robotics, บริษัท เมช แมคคานิสซึ่ม ดีไซน์ จำกัด, บริษัท โค้วยู่ฮะมอเตอร์ จำกัด, บริษัท สแกนเนอร์สสามมิติ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท Autodesk Asia Pte.Ltd, บริษัท เฟสโต้ จำกัด, โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ชะอำ บีช รีสอร์ท หัวหิน, โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว, บริษัท เอเอสที มอเตอร์ จำกัด, บริษัท โตโยต้า ขอนแก่น จำกัด และบริษัท แอสเวลล์ โซลูชั่นส์ จำกัด

ในการสนับสนุนด้านงบประมาณ สถานที่ บุคลากร วัสดุ อุปกรณ์ที่ทันสมัยในการฝึกซ้อมของน้อง ๆ เยาวชน ในฐานะผู้จัดส่งน้อง ๆ เข้าแข่งขัน ขอขอบคุณทุกท่านกับความสำเร็จนี้เป็นอย่างยิ่ง และหลังจากนี้ขอให้ชาวไทยร่วมส่งแรงใจให้กับน้อง ๆ เยาวชนที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ต่อไป เพื่อเข้าแข่งขันฝีมือแรงงานเอเชีย ครั้งที่ 2 ณ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 24 พฤศจิกายน–1 ธันวาคม 2566 และไปแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ ครั้งที่ 47 ณ สาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 10-15 กันยายน 2567 ต่อไป

‘ตร.ปคม.’ บุกรวบแอดมินกลุ่มลับ ‘Little Angel’ ขายคลิปลามกอนาจารเด็ก อ้างหาเงินเลี้ยงลูกสาว

(29 ก.ค. 66) พ.ต.อ.กึกก้อง ดิศวัฒน์ ผกก.5 บก.ปคม., พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ สว.กก.5 บก.ปคม. นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ปคม. จับกุมนายอภิสิทธิ์ อายุ 29 ปี ตามหมายจับศาลศาลจังหวัดพัทยา ที่ 391/2566 ลงวันที่ 27 ก.ค. 2566 ข้อหาครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อ แสวงหาประโยชน์ในทางเพศ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก จับกุมได้ที่บ้านพักในพื้นที่ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

สืบเนื่องจากก่อนหน้าตำรวจ ปคม.ได้จับกุมผู้ต้องหาล่อลวงเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี มากระทำอนาจารก่อนแอบถ่ายคลิปวีดิโอ แล้วนำไปจำหน่ายทางสื่อโซเชียลต่าง ๆ จึงขยายผลต่อเนื่องจนทราบว่าคลิปจะถูกนำไปเผยแพร่ในกลุ่มไลน์ลับใช้ชื่อว่า ‘Little Angel’

โดยในกลุ่มดังกล่าวจะมีไฟล์คลิปอนาจารของเด็กสาวมากกว่า 1,000 ไฟล์ เพื่อเรียกเก็บเงินค่าสมาชิก ตั้งแต่รายละ 1-3 ร้อยบาท จึงส่งสายลับแฝงตัวเข้าไป ก่อนทราบว่าแอดมินผู้ดูแลกลุ่มคือ นายอภิสิทธิ์ จึงรวบรวมหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ ก่อนนำมาสู่การตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

สอบสวนนายอภิสิทธิ์ ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ตั้งกลุ่มไลน์ Little Angel และจำหน่ายสื่อลามกเด็กจริง ส่วนคลิปลามกเด็กตนซื้อต่อมาจากกลุ่มไลน์อื่น และมาตั้งกลุ่มวีไอพี เพื่อหาลูกค้าอีกต่อหนึ่ง จากการกระทำดังกล่าว เพียงเพื่อต้องการเลี้ยงลูกสาววัย 10 ขวบ เบื้องต้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปคม. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

‘นิว-จิ๋ว’ เปิดตัวซิงเกิลใหม่ ‘ที่ดีก็ไม่ได้ ที่ได้ก็ไม่ดี’ ปล่อยของจัดเต็ม!! สมมงดูโอดีวาตัวแม่แห่งวงการเพลง

‘นิวจิ๋ว’ มาแล้ว ดูโอดีวาตัวแม่ตัวมัม ‘นิว-จิ๋ว’ ได้แก่ ‘นิว’ นภัสสร ภูธรใจ และ ‘จิ๋ว’ ปิยนุช เสือจงพรู สังกัด White Music ในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ ปล่อยเพลงแต่ละทีจะธรรมดาไม่ได้

รอบนี้เรียกได้ว่าเอาใจเพื่อนสาวแบบสุดๆ กับเพลงใหม่ ‘ที่ดีก็ไม่ได้ ที่ได้ก็ไม่ดี’ คงคอนเซ็ปต์ความเป็นตัวแม่เหมือนเคย

จากโจทย์ตั้งต้นของการทำเพลงให้ นิว-จิ๋ว ได้กลับมาร้อง Battle กันอย่างเชือดเฉือนอีกครั้ง หลังจากเคยมีเพลงดวลกันอย่าง ‘ฉันก็รักของฉัน’ เมื่อปี 2014 ที่เป็นอีก 1 ลายเซ็นสำคัญของนิว-จิ๋ว สร้างกระแสฮิตไปทั่วประเทศ

ถึงแม้เพลง ‘ที่ดีก็ไม่ได้ ที่ได้ก็ไม่ดี’ จะมาในแนวเพลงเศร้า นุ่มนวลกว่าเพลงก่อนๆ แต่การฟาดฟันพลังเสียงและแอตติจูด ก็ยังจัดเต็มมาให้ผู้ฟังได้เต็มอิ่มไม่ผิดหวังแน่นอน

ซึ่งเพลงนี้ได้โปรดิวเซอร์คู่บุญเจ้าเก่าเจ้าประจำ ที่สร้างผลงานเพลงฮิตร่วมกันมานับไม่ถ้วนอย่าง ‘แม็ค ศรัณย์’ กลับมาสร้างความพิเศษให้กับเพลงนี้อีกครั้ง

โดย ‘แม็ค’ ได้ทำการบ้านและตีโจทย์นี้ออกมา โดยอยากให้เกิดการร้องแบบโต้ตอบกันภายในเพลง ไม่ได้ห้ำหั่นอย่างดุเดือดแบบคนทะเลาะ

แต่ให้เป็นเหมือนคน 2 คน ที่ต่างมีเรื่องราวของตัวเองกำลังคุยกันมากกว่า จึงได้ไอเดียเพลงที่เล่าถึงเรื่องราวความรัก 2 มุมมอง แบบ Contrast กัน แต่กำลังสื่อสารในเรื่องเดียวกันอยู่ เหมือนกับชื่อเพลง ‘ที่ดีก็ไม่ได้ ที่ได้ก็ไม่ดี’

เนื้อหาเล่าถึงความรักที่ไม่ได้ดั่งใจ เป็นเรื่องราวความรักของใครหลายๆ คนที่ผ่านพบเจอ บางทีเราอาจจะเจอความรักที่เป็นไปตามใจอยาก แต่ไม่สามารถครอบครองเอาไว้ได้ หรือบางครั้งเราอาจจะอยู่ในความสัมพันธ์รักไม่ได้สมบูรณ์และสมหวังอย่างที่เราวาดฝันไว้

ทุกเหตุการณ์คือความผิดหวังและเสียใจ ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นเพลงนี้ ผ่านดนตรีจากแรงบันดาลใจในยุค 90s มีกลิ่นอายความเป็น R&B และเมโลดี้ที่ไพเราะ เข้ากับกระแส Y2K ที่กำลังฮิตในยุคนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกของ ‘นิว-จิ๋ว’ กับการร้องเพลงโต้ตอบ ในมุมดนตรีหวานๆ

นอกจากเนื้อหาจะกระแทกใจ และดนตรีสุดละมุนแต่เข้าถึงอารมณ์ได้อย่างดี ด้านการดีไซน์การร้องครั้งนี้ ‘นิว-จิ๋ว’ และ ‘แม็ค’ ได้คิดไลน์ประสานที่ท้าทายความสามารถมากขึ้น ด้วยการโชว์ High Note แบบสูงมากๆ ทับซ้อนไล่กันไปมา ให้คนฟังได้อินและเข้าถึงเพลงได้มากขึ้นตามไปด้วย

และนอกจากตัวเพลงจะน่าสนใจมากๆ แล้ว งานแฟชันคอสตูมของเพลงนี้ก็ยังจัดเต็ม ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง พร้อมกับการอัพเกรดความอลังการยิ่งใหญ่แปลกตายิ่งกว่าเดิม สมมงตัวแม่วงการดีวาแห่งประเทศไทย

ซึ่งทุกคนสามารถเข้าไปรับชมความยิ่งใหญ่จัดเต็มได้ในมิวสิกวิดีโอ ที่เพิ่งปล่อยออกมาให้ได้รับชมกันแล้วในตอนนี้

ติดตามฟังเพลง ‘ที่ดีก็ไม่ได้ ที่ได้ก็ไม่ดี’ ของ นิว-จิ๋ว ได้แล้วที่ YouTube : Official White Music : https://youtu.be/dIFN0Y5OKI4

‘รัสเซีย’ ยิงขีปนาวุธถล่มเมืองทางตะวันออกของ ‘ยูเครน’ อาคาร-บ้านเรือนพังยับ พบผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 5 ราย

เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 66 สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มอาคาร 2 แห่ง ในเมืองดนีโปรซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของยูเครน ส่งผลให้อาคารดังกล่าวเสียหายอย่างหนัก และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 5 คน

นักข่าวภาคสนามของบีบีซียืนยันว่า ชั้นบนสุดของอาคารพักอาศัยขนาดใหญ่ถูกทำลายเกือบจนย่อยยับจากการโจมตีของรัสเซียเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 28 กรกฎาคม

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวด้วยว่า อาคารแห่งหนึ่งของหน่วยงานด้านความมั่นคง (SBU) ของยูเครนก็ถูกโจมตีเช่นกัน ซึ่งเขาได้กล่าวโทษรัสเซียที่ยิงขีปนาวุธจนทำให้อาคารทั้ง 2 เสียหาย

นอกจากนี้ เซเลนสกีกล่าวว่า ตนได้มีการประชุมฉุกเฉินกับ SBU กระทรวงกิจการภายใน หน่วยบริการฉุกเฉิน และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

‘เซอร์ฮีย์ ไลซัก’ (Serhiy Lysak) ผู้ว่าการภูมิภาคดนีโปรแปตร็อวสก์ กล่าวว่า มีเด็กสองคนอายุ 14 ปี และ 17 ปี อยู่ในกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งกำลังได้รับการรักษาที่บ้าน และว่า ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากการยิงขีปนาวุธของรัสเซียครั้งนี้ ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 20.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น

‘บอริส ฟิลาทอฟ’ (Boris Filatov) นายกเทศมนตรีเมืองดนีโปร กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งล่าสุดถือเป็นการโจมตีครั้งที่สามที่อาคารของหน่วยงาน SBU ตกเป็นเป้าหมายของรัสเซีย ส่วนอาคารที่อยู่อาศัยที่ถูกขีปนาวุธทำลายนั้นเพิ่งสร้างเสร็จและกำลังปล่อยขายห้องว่าง อย่างไรก็ดี ขณะเกิดเหตุไม่ค่อยมีผู้คนอยู่ด้านในอาคารทั้ง 2 แห่ง

ทั้งนี้ การโจมตีในเมืองดนีโปรมีขึ้นหลังจากที่รัสเซียกล่าวเมื่อวันศุกร์ (28 ก.ค.) ว่าได้ยิงสกัดกั้นขีปนาวุธยูเครนจำนวน 2 ลูก เหนือภูมิภาครอสตอฟทางตอนใต้ซึ่งมีพรมแดนติดกับยูเครน มอสโกกล่าวว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 15 คน จากซากปรักหักพังที่ร่วงลงมาในเมืองท่าทางทาแกนร็อก (Taganrog)

กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า ขีปนาวุธเอส-200 (S-200) ลูกแรกมีเป้าหมายโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางที่อยู่อาศัยในเมืองทาแกนร็อก ที่มีประชากรประมาณ 250,000 คน หลังจากนั้นไม่นาน มอสโกกล่าวว่า ได้ยิงขีปนาวุธ S-200 ลูกที่สองตกใกล้กับเมืองอซอฟ (Azov) โดยมีเศษชิ้นส่วนตกลงในพื้นที่ที่ไม่มีผู้คนอยู่อาศัย

‘ศปปส.’ บุกยื่นหนังสือสอบพฤติกรรม ‘พระพยอม’ ชี้!! ทำประชาชนแตกแยก ส่ออาบัติสังฆาทิเสส

(29 ก.ค. 66) นายอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) พร้อมตัวแทนประมาณ 10 คน เดินทางมายังวัดบัวขวัญ ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี เพื่อนำหนังสือร้องเรียนถึงประพฤติกรรมในการเทศน์ของ ‘พระพยอม กัลยาโณ’ ที่ทางกลุ่มมองว่าไม่เหมาะสม เพราะมีการพูดพาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์และการเมืองเข้าเกี่ยวข้อง จึงยื่นหนังสือให้กับ พระเทพวชิรนันทาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดบัวขวัญ ในฐานะเจ้าคณะสงฆ์จังหวัดนนทบุรี ตรวจสอบและลงโทษทางวินัยกับพระพยอมต่อไป

นายอานนท์ กล่าวว่า หลังจากก่อนหน้านี้ทางกลุ่มได้เดินทางไปยื่นเรื่องกับสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มาแล้วอาทิตย์หนึ่งแต่ยังไม่ได้รับคำตอบ วันนี้จึงรวมตัวกันเดินทางนำหนังสือร้องเรียนพฤติกรรมของพระพยอม กัลยาโณ มายื่นให้กับเจ้าคณะสงฆ์จังหวัดนนทบุรี ในฐานะผู้ปกครอง ดำเนินการสอบสวนในเรื่องนี้ต่อไป

นายอานนท์ กล่าวต่อว่า แต่ปรากฏว่าเมื่อทางกลุ่มมาถึง ทางเจ้าคณะจังหวัดนนทบุรีกลับไม่ออกมารับหนังสือ เดินหนีหายไปไหนก็ไม่รู้ หรือว่าท่านเห็นว่าเรื่องนี้ไม่มีความสำคัญ ทั้ง ๆ พระพยอมซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ไปพูดจาพาดพิงถึงเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์และการเมือง ทำให้สังคมซึ่งเกิดความแตกแยกกันอยู่แล้ว แตกแยกกันหนักยิ่งขึ้นไปอีก

นายอานนท์ กล่าวอีกว่า ซึ่งมติมหาเถระสมาคมเมื่อวันที่ 2 ม.ค.2538 มีมติไม่ให้พระสงฆ์ไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่พระพยอมกลับไปพูดถึงนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในทำนองชื่นชมราวกับคนที่ฝักใฝ่ทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดและขัดกับคำสั่งของมหาเถระสมาคมเป็นอย่างมาก แต่ทางเจ้าคณะก็ไม่ออกมารับหนังสือจากทางกลุ่ม ทั้ง ๆ ที่ได้มีการประสานเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ทางกลุ่มมาแค่ยื่นหนังสือร้องเรียนไม่ได้มาคุกคาม

นายอานนท์ กล่าวว่า นอกจากนี้ พระพยอมยังไปพูดเห็นด้วยกับการแก้ไขกฎหมาย ม.112 ของพรรคก้าวไกลในทำนองที่เห็นด้วย ทั้ง ๆ ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ตีความออกมาแล้วว่าการไปปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ถือเป็นการล้มล้างการปกครอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำ แล้วยิ่งพระพยอมซึ่งมีผู้คนนับถือเป็นจำนวนมากมาพูดชี้นำแบบนี้ก็ทำให้ผู้คนหลงเชื่อกันไปใหญ่ ยิ่งทำให้เกิดความแตกแยกตามมาก

นายอานนท์ กล่าวด้วยว่า ซึ่งในกฎของสงฆ์มีข้อห้ามเอาไว้ว่า การทำให้สงฆ์แตกแยกถือเป็นอาบัติสังฆาทิเสส ดังนั้นการที่พระพยอมออกมาพูดแล้วทำให้คนในสังคมเกิดความแตกแยกแบบนี้ถือเป็นอาบัติสังฆาทิเสสหรือไม่ กลุ่มจึงเดินทางมายื่นหนังสือกับเจ้าคณะสงฆ์จังหวัดนนทบุรีเพื่อทำการตรวจสอบพระพยอมในเรื่องนี้

นายอานนท์ ยังกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาพระพยอมเป็ยฝ่ายกองเชียร์คนเสื้อแดงมากว่า 10 ปีแล้ว แต่มาในวันนี้กลับกลายเป็นคนเสื้อส้ม ถึงขั้นเห็นด้วยกับกฎหมายที่พรรคก้าวไกลพยายามจะแก้ไข ม.112 จนถึงขั้นเอานายพิธาไปเปรียบเทียบกับอดีตพระมหากษัตริย์บางพระองค์ เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง แล้วหลังจากที่พระพยอมได้พูดชี้นำ พาดพิง จนกลายเป็นข่าวไปแล้วนั้น ตนยังไม่เห็นเลยว่าพระพยอมจะออกมาขอโทษกับทางสังคมเลย

นายอานนท์ กล่าวว่า มีแต่ไปพูดกับสื่ออีกว่า จะเลิกพูดเกี่ยวกับการเมืองหลังเข้าพรรษาไปแล้วแค่นั้น ตนและกลุ่มจึงเห็นว่าเรื่องนี้ทางเจ้าคณะสงฆ์จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นผู้ปกครองโดยตรงของพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ควรดำเนินการตรวจสอบเพื่อลงโทษทางวินัยต่อไป แต่ทางเจ้าคณะจังหวัดไม่ออกมารับหนังสือ ทางกลุ่มก็จะเดินทางไปยื่นและติดตามเรื่องกับทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติต่อไป

‘อ้วน รังสิต’ บุกง้อเมียถึงเกาหลี เจอแม่ยายเทศน์ชุดใหญ่ ทำเอาน้ำตาลูกผู้ชายไหล ลั่น!! เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก

(29 ก.ค. 66) หลังจากก่อนหน้านี้ ที่หนุ่ม ‘อ้วน รังสิต’ ออกมาโพสต์คลิปวิดีโอลงในเฟซบุ๊ก บอกเล่าถึงปัญหาครอบครัว ว่าเจ้าตัวนั้นเวลาทะเลาะกับ ‘มะม่วง’ ภรรยาสาวทีไร ก็จะเอ่ยปากไล่ภรรยากลับเกาหลีทุกครั้ง จนล่าสุด ภรรยาไม่ทนหอบลูกกลับเกาหลีทันที จนเจ้าตัวรู้สึกผิดได้ออกมาอัดคลิปขอโทษภรรยาและจะตามง้อถึงเกาหลี

ล่าสุด อ้วน รังสิต ได้โพสต์คลิปบุกง้อเมีย ถึงเกาหลีลงในเฟซบุ๊กอีกครั้ง ซึ่งภายในคลิปอ้วนก็ง้อเมียได้สำเร็จมะม่วงบอกว่าช่วงนี้เราสองคนทะเลาะกันบ่อยบวกกับที่อ้วนให้กลับเกาหลีเราเลยถือโอกาสกลับมาพักผ่อนด้วยเลยเราไม่เลิกกันเพราะเรามีลูกที่ต้องดูเเล

โดยในคลิป คุณเเม่ของมะม่วงได้พูดสอนเปิดใจกับลูกเขยด้วยว่า “ห้ามพูดคำไม่ดี ห้ามพูดว่ากลับเกาหลีเลย คุณไม่ได้ผิดคนเดียว มะม่วงก็ผิด เเต่คำว่ากลับเกาหลีสิ ห้ามพูด อย่าพูดเเบบนี้ เเม่เชื่อใจอ้วน อย่าร้องไห้ ขอร้องสองคนอย่าทะเลาะกัน อย่าพูดไม่ดีสัญญาได้ไหม เเม่ก็ว่ามะม่วงเเล้ว เเม่บอกว่ามะม่วงไม่ดีเหมือนกัน”

ด้านอ้วน รังสิต ก็บอก ขอโทษทุกคน ขอโทษที่สุดคือพ่อเเม่มะม่วง ตอนที่อยู่คนเดียวได้คิด จะไม่ทำอีก เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top