‘รัสเซีย’ ยิงขีปนาวุธถล่มเมืองทางตะวันออกของ ‘ยูเครน’ อาคาร-บ้านเรือนพังยับ พบผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 5 ราย

เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 66 สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มอาคาร 2 แห่ง ในเมืองดนีโปรซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของยูเครน ส่งผลให้อาคารดังกล่าวเสียหายอย่างหนัก และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 5 คน

นักข่าวภาคสนามของบีบีซียืนยันว่า ชั้นบนสุดของอาคารพักอาศัยขนาดใหญ่ถูกทำลายเกือบจนย่อยยับจากการโจมตีของรัสเซียเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 28 กรกฎาคม

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวด้วยว่า อาคารแห่งหนึ่งของหน่วยงานด้านความมั่นคง (SBU) ของยูเครนก็ถูกโจมตีเช่นกัน ซึ่งเขาได้กล่าวโทษรัสเซียที่ยิงขีปนาวุธจนทำให้อาคารทั้ง 2 เสียหาย

นอกจากนี้ เซเลนสกีกล่าวว่า ตนได้มีการประชุมฉุกเฉินกับ SBU กระทรวงกิจการภายใน หน่วยบริการฉุกเฉิน และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

‘เซอร์ฮีย์ ไลซัก’ (Serhiy Lysak) ผู้ว่าการภูมิภาคดนีโปรแปตร็อวสก์ กล่าวว่า มีเด็กสองคนอายุ 14 ปี และ 17 ปี อยู่ในกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งกำลังได้รับการรักษาที่บ้าน และว่า ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากการยิงขีปนาวุธของรัสเซียครั้งนี้ ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 20.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น

‘บอริส ฟิลาทอฟ’ (Boris Filatov) นายกเทศมนตรีเมืองดนีโปร กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งล่าสุดถือเป็นการโจมตีครั้งที่สามที่อาคารของหน่วยงาน SBU ตกเป็นเป้าหมายของรัสเซีย ส่วนอาคารที่อยู่อาศัยที่ถูกขีปนาวุธทำลายนั้นเพิ่งสร้างเสร็จและกำลังปล่อยขายห้องว่าง อย่างไรก็ดี ขณะเกิดเหตุไม่ค่อยมีผู้คนอยู่ด้านในอาคารทั้ง 2 แห่ง

ทั้งนี้ การโจมตีในเมืองดนีโปรมีขึ้นหลังจากที่รัสเซียกล่าวเมื่อวันศุกร์ (28 ก.ค.) ว่าได้ยิงสกัดกั้นขีปนาวุธยูเครนจำนวน 2 ลูก เหนือภูมิภาครอสตอฟทางตอนใต้ซึ่งมีพรมแดนติดกับยูเครน มอสโกกล่าวว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 15 คน จากซากปรักหักพังที่ร่วงลงมาในเมืองท่าทางทาแกนร็อก (Taganrog)

กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า ขีปนาวุธเอส-200 (S-200) ลูกแรกมีเป้าหมายโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางที่อยู่อาศัยในเมืองทาแกนร็อก ที่มีประชากรประมาณ 250,000 คน หลังจากนั้นไม่นาน มอสโกกล่าวว่า ได้ยิงขีปนาวุธ S-200 ลูกที่สองตกใกล้กับเมืองอซอฟ (Azov) โดยมีเศษชิ้นส่วนตกลงในพื้นที่ที่ไม่มีผู้คนอยู่อาศัย