Tuesday, 6 May 2025
NewsFeed

‘เจมส์ คาเมรอน’ เฉลยปริศนา ที่คนทั้งโลกสงสัยมา 25 ปี ภายใต้การทดลอง ที่ทำให้ 'แจ็ค' ต้องตายแบบไม่คาใจ

ผ่านมาถึง 25 ปีแล้ว สำหรับภาพยนตร์เรื่อง ‘ไททานิค’ สุดยอดผลงานอีกเรื่องหนึ่งที่คนทั้งโลกไม่เคยลืม จาก เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับชื่อดัง 

เชื่อว่าหลายคนที่มีโอกาสได้ดูหรือได้ย้อนกลับไปดูคงจะขัดใจไม่น้อยกับฉากเหตุการณ์ท้ายเรื่องที่ พระเอก แจ็ค ดอว์สัน (ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ) กับนางเอก โรส เดวิท บูเคเตอร์ (เคต วินสเล็ต) ลอยคออยู่ในทะเล แล้วก็เจอประตูไม้บานหนึ่ง โดย แจ็ค ดัน โรส ขึ้นไปก่อน เมื่อ โรส นอนบนประตูสำเร็จ แจ็ค ก็พยายามปีนตามขึ้นไป แต่ประตูเริ่มเอนเอียงและกระดกจน โรส เกือบตก แจ็ค เลยยอมอยู่ในน้ำ แต่ก็พยายามเกาะให้ตัวเหนือน้ำมากที่สุด แต่น่าเสียดายที่ไม่นานเขาก็แข็งตายต่อหน้าคนรัก

ฉากนี้ นำมาสูประเด็นถกเถียงจากแฟนภาพยนตร์ทั่วโลกที่ตั้งข้อสังเกตกันว่า หากช่วยกันให้ขึ้นไปอยู่บนบานประตูพร้อมกันทั้งสองคน ทั้ง แจ็ค และ โรส  อาจจะมีชีวิตรอดด้วยกันทั้งคู่ก็ได้

เชื่อว่า 'เจมส์ คาเมรอน' ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง ‘ไททานิค’ ก็คงจะรับรู้ถึงสิ่งที่แฟนภาพยนตร์คาใจ

เพราะในที่สุดเขาและทีมงานก็ได้โพสต์คลิปจำลองเหตุการณ์ของหนังออกมาเป็นวิดีโอตัวอย่างสั้น ๆ ความยาว 58 วินาที เพื่ออธิบายถึงโอกาสในการรอดชีวิตของ แจ็ค ที่ถูกหลายคนตั้งคำถาม ซึ่งโดยสรุปก็คือ เจมส์ คาเมรอน พยายามอธิบายว่า ยังไง แจ็ค ดอว์สัน ก็ไม่มีทางรอดชีวิตจากสถานการณ์ดังกล่าวได้ (ตามบท)

โดยในห้องส่งของช่อง National Geographic ที่ถ่ายทำถ่ายทอดเหตุการณ์จำลองโดยให้นักแสดงชายหญิงสองคนแต่งตัวคล้ายกับ แจ็ค – โรส พวกเขานั้นมีส่วนสูงและน้ำหนักใกล้เคียงตัวละคร นักแสดงสองคนถูกจับแช่ในสระน้ำที่มีอุณหภูมิเย็นเฉียบเท่าๆ กับทะเลในภาพยนตร์เรื่องไททานิค ซึ่งสิ่งที่เห็นคือ นักแสดงชายหญิงสองคนมีอาการหนาวสั่น และแทบไม่มีเรี่ยวแรง

เจมส์ คาเมรอน กล่าวอีกด้วยว่า ก่อนที่จะลงในมหาสมุทร แจ็ค เหนื่อยกับทั้งการวิ่งและการต่อสู้บนเรือมาประมาณหนึ่งแล้ว การลงไปในน้ำทะเลที่มีความหนาวระดับติดลบ แล้วต้องว่ายน้ำที่รอบข้างเต็มไปด้วยนํ้าแข็ง ถือเป็นเรื่องเสี่ยงตายมาก ส่วน โรส มีโอกาสรอดมากกว่าเพราะเธอมีเสื้อชูชีพ ไม่ต้องเปลืองแรงว่ายนํ้า

นอกจากนี้ยังมีการจำลองว่า ถ้า แจ็ค กับ โรส ขึ้นไปอยู่บนบานประตูพร้อมกันจะเป็นอย่างไร ซึ่งผลก็คือประตูรับนํ้าหนักไม่ไหว และค่อยๆ จมลง ข้อถกเถียงเรื่อง ประตูใหญ่พอสำหรับสองคน จึงถูกปัดตกไปทันที เพราะถึงแม้ประตูจะกว้างก็จริง แต่รับน้ำหนักมากไม่ได้

ยิ่งไปกว่านั้น การสลับกันขึ้นไปอยู่บนบานประตู ก็เสี่ยงที่จะทำให้ประตูพลิก หรือทั้งคู่อาจจะหมดแรงในการปีนขึ้นบานประตูไป เนื่องจากในคลิปดังกล่าว แค่นักแสดงชายช่วยนักแสดงหญิงให้ขึ้นไปอยู่บนบานประตูก็ยากเย็นและมีความทุลักทุเลพอสมควร อีกทั้งการอยู่ในอุณหภูมิที่เย็นแล้วสลับไปอยู่ในน้ำที่เย็นเฉียบ (-2.2 องศาเซลเซียส) อาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทันจนช็อกได้

ดังนั้นเมื่อ โรส ขึ้นไปนอนบนบานประตูได้ และแจ็คเกาะประตูไว้ คือวิธีการที่ดีที่สุดแล้วในการรักษาชีวิต มันเป็นช่วงเวลาที่ทั้งสองคนได้ใช้พลังงานไปหมดแล้ว แทบจะไม่สามารถขยับตัวได้อีก ท่ามกลางสภาพอากาศเย็นเฉียบ ซึ่งอันที่จริงแล้ว การรอดชีวิตของ โรส ก็นับเป็นเรื่องปาฏิหาริย์อย่างมากด้วย

แน่นอนว่าเมื่อคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกมา ก็มีกระแสตอบรับที่ดีมาก ตัววิดีโอมียอดการรับชมมากกว่า 10 ล้านวิว และมีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก 

แฟนๆ THE STATES TIMES มีความคิดเห็นกันอย่างไรกันบ้างเกี่ยวกับเรื่องนี้ และหากตัดประเด็นฉากจบทิ้งไป พวกคุณชอบฉากไหนในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นพิเศษ หรือประโยคเด็ดในเรื่องที่คุณยังประทับใจไม่ลืม สามารถเข้ามาพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ที่ช่องแสดงความคิดเห็นข้างล่างนี้

แต่ส่วนตัวแล้ว ชื่นชอบช่วงนี้ “I figure life’s giff and I don’t intend on wasting it.”

“ชีวิตก็คือ ของขวัญ ผมไม่ต้องการเสียมันไปเปล่า ๆ”

(แจ็คกล่าวกับบรรดาผู้สูงศักดิ์ ในงานเลี้ยงที่ชั้นหนึ่งของเรือไททานิค)

‘อ.ไชยันต์’ ชี้!! ผู้ที่ใช้อำนาจข่มขู่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ ใช้ชีวิตของประชาชนมาต่อรอง เป็น ‘มาเฟีย’ มากกว่า ‘นักการเมืองที่ดี’

(13 ก.ค.66) ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า…

ถ้าการนำข้อกล่าวหาการขาดคุณสมบัติของนักการเมืองคนหนึ่งเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม รัฐจะต้องมี ‘ราคาที่ต้องจ่ายสูง’

มันไม่น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับประชาชนทุกคนในประเทศนะครับ

คุณจะเป็นตัวอย่างของคนที่ไม่ยอมรับการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม 

และใช้อำนาจอิทธิพลข่มขู่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งนำความสงบสุขในการทำมาหากินและใช้ชีวิตของประชาชนมาต่อรอง เป็นตัวประกัน

ผมว่าคุณเข้าข่าย ‘มาเฟีย’ มากกว่า ‘นักการเมืองที่ดี’

'ปภ.' จับมือมูลนิธิร่วมกตัญญู ลงนามบันทึกความร่วมมือในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

วันนี้ (12 ก.ค. 66) เวลา 13.30 น.  ที่ห้องประชุม1 กรม ปภ. นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และ ดร. รัตนา สมสกุลรุ่งเรือง ประธานกรรมการมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยมี ดร. ทวีชัย จริยะเอี่ยมอุดม, นายพรเทพ เมธาขจรกุล รองประธานกรรมการมูลนิธิร่วมกตัญญู, นายสมศักดิ์ ปาลวัฒน์ ผู้จัดการมูลนิธิร่วมกตัญญู, ผู้บริหารของ ปภ. และมูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน

ในช่วงที่ผ่านมา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะหน่วยงานกลางของรัฐในการบูรณาการบริหารจัดการสาธารณภัยของประเทศ ได้ให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการสาธารณภัย โดยมุ่งสร้างเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และองค์การสาธารณกุศล และที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิร่วมกตัญญู และมูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งเป็นองค์กรสาธารณกุศลขนาดใหญ่ มีเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครปฏิบัติงานในกรุงเทพมหานครและหลายจังหวัดเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้ร่วมมือกันในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ช่วยเหลือประชาชนจนประสบผลสำเร็จด้วยดีมาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับการลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับความร่วมมือของทั้งสองหน่วยงานในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งนอกจากจะสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาท ภารกิจภายใต้ระเบียบ กฎหมาย องค์ความรู้ ทักษะ การปฏิบัติหน้าที่และการบูรณาการจัดการในภาวะฉุกเฉินแล้ว ยังจะทำให้ทั้งสองหน่วยงานประสานการปฏิบัติและบูรณาการจัดการในภาวะฉุกเฉินได้อย่างความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งจะได้ร่วมกันพัฒนาศักยภาพมาตรฐานในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครให้มีความพร้อมช่วยเหลือประชาชนให้ปลอดภัยจากสาธารณภัยต่อไป

นอกจากนี้ อธิบดี ปภ. ได้มอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ “สดุดีป้องกันภัย” ให้แก่บุคลากรของมูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชนมาเป็นระยะเวลาต่อเนื่องยาวนาน จำนวน 4 ท่าน  ได้แก่

1) นายกฤษดา อินทร์พาเพียร หัวหน้าอาสาสมัครจังหวัดสระบุรี (ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย)
2) นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ
3) นายเอกพัน บรรลือฤทธิ์ หัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิฯ
4) นายพิมพ์ชนก ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ฝ่ายดาราและประชาสัมพันธ์  ซึ่งเป็นบุคคลที่ให้ความช่วยเหลือการปฏิบัติงานในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและปฏิบัติงานพิเศษที่ได้รับมอบหมายจากทางราชการเป็นที่ประจักษ์ ด้วยความเสียสละ กล้าหาญ ทุ่มเท จนเกิดประโยชน์แก่สังคมและประชาชนมาเป็นระยะเวลาต่อเนื่องยาวนาน

สำหรับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ “สดุดีป้องกันภัย” เป็นไปตามระเบียบกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยว่าด้วยเครื่องหมายเชิดชูเกียรติสำหรับผู้ปฏิบัติหน้าที่หรือช่วยเหลือด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2565  ซึ่ง ปภ. จะพิจารณามอบให้แก่บุคคลที่เป็นผู้ช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย ด้วยความเสี่ยงภัยหรือเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตด้วยความเสียสละ กล้าหาญ เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ปฏิบัติหน้าที่หรือช่วยเหลือในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยหรือคุณประโยชน์แก่การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จนเกิดประโยชน์แก่ทางราชการและประชาชน

‘เลยดูดี-GMMTV’ จ่อผลักดัน Soft Power ไทยสู่ตลาดสากลมากยิ่งขึ้น หลังแฟนมีต 9 หนุ่มซีรีส์ ‘My School President’ ได้ผลตอบรับเกินคาด!!

เมื่อไม่นานมานี้ จากความสำเร็จกับงานแฟนมีตติ้งที่กัมพูชาของเหล่านักแสดง จากซีรีส์สุดฮอต แฟนผมเป็นประธานนักเรียน (My School President) บริษัท เลยดูดี สตูดิโอ จำกัด ยังคงจับมือกับ จีเอ็มเอ็ม ทีวี เดินหน้า พาทั้ง 9 หนุ่ม ได้แก่ เจมีไนน์-นรวิชญ์ ฐิติเจริญรักษ์, โฟร์ท-ณัฐวรรธน์ จิโรชน์ธิกุล, วินนี่-ธนวินท์ ผลเจริญรัตน์, สตางค์- กิตติภพ เสรีวิชยสวัสดิ์, ฟอร์ด-อรัญญ์ อัศวสืบสกุล, พร้อม-ทีปกร ขวัญบุญ, กัปตัน-พีระวิชญ์ กุลกั้ง, มาร์ค-ภาคิน คุณาอนุวิทย์ และ อั๋น-ณภัทร พัชรชวลิต โกอินเตอร์อย่างต่อเนื่อง

โดยครั้งนี้บุกไปถึงประเทศสิงคโปร์ที่จัดขึ้นจำนวน 2 รอบ และได้รับการตอบรับจากแฟนสิงคโปร์และแฟนอินเตอร์ของทั้ง 9 หนุ่ม ที่มาให้กำลังใจอย่างล้นหลามเช่นเคย และจากความประทับใจทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น ส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ นั่นคือบริษัทผู้จัด โดย เอ๋-ศุภกร เหรียญสุวรรณ CEO บริษัท เลยดูดี สตูดิโอ จำกัด ได้เผยว่า “ในครั้งนี้ถือเป็นประเทศที่ 2 ที่เราได้พาน้อง ๆ ทั้ง 9 คนไปหาแฟนคลับในต่างประเทศ โดยในครั้งนี้ถือว่าเป็นความท้าทายอย่างมากที่ตัดสินใจมาที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งก่อนหน้านี้เรามีความกังวลใจว่าแฟนที่สิงคโปร์จะอินกับ กิจกรรมต่าง ๆ ที่เราจัดขึ้นมาเสิร์ฟหรือไม่

แต่สุดท้ายแล้วกระแสตอบรับที่ได้นั้น ดีกว่าที่คิดไว้มาก ๆ ทั้งแฟนสิงคโปร์และแฟนอินเตอร์ ที่มาร่วมงานทุกคนเอ็นจอยกับงานตั้งแต่ต้นจนจบ มอบรอยยิ้มและความสุขกลับมาให้กับทีมนักแสดงและผู้จัดอย่างเรามาก ๆ โดยทาง เลยดูดี สตูดิโอ มีจุดเริ่มต้นในการจัดงานแฟนมีตติ้งที่ต่างประเทศด้วยแนวคิดที่ต้องการเป็น ส่วนหนึ่งในการผลักดัน Soft Power ของไทย โดยการพาศิลปินนักแสดงออกไปสู่ตลาดต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น และนอกจากงานแฟนมีตติ้งแล้ว ทางเลยดูดี สตูดิโอ ยังมีแผนขยายไลน์ไปสู่การจัดคอนเสิร์ตในต่างประเทศ โดยเร็ว ๆ นี้  จะมีงาน Krist Solo Concert Asia Tour และปลายปี 2566 จะมีคอนเสิร์ต Side by Side ของไบร์ท-วิน ที่กัมพูชา”

‘วราวุธ’ ย้ำจุดยืน ไม่เลือกพรรคหนุนแก้ ม.112 ยัน!! ไม่กดดัน แม้ม็อบชุมนุมหน้ารัฐสภาฯ

(13 ก.ค. 66) ที่รัฐสภา นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของพรรคชาติไทยพัฒนา ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยคำร้องนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และพรรคก้าวไกล เข้าข่ายล้มล้างการปกครองว่า พรรคชาติไทยพัฒนายังยึดมั่นจุดยืนเดิมในเรื่องมาตรา 112 และมองว่าในที่ประชุมรัฐสภาวันนี้คงจะมีการถกกันในหลาย ๆ ความเห็น ส่วนจะให้ความเห็นชอบหรืองดออกเสียงนั้น พรรคชาติไทยพัฒนาต้องไปพิจารณากันอีกที 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะไม่สนับสนุนนายพิธาใช่หรือไม่ เพราะสนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112 นายวราวุธ กล่าวว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นเราคงต้องยึดตามจุดยืนเดิมของพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งแต่ละพรรคมีจุดยืนแตกต่างกันไป 

เมื่อถามว่า สถานการณ์วันนี้ควรเลื่อนการโหวตนายกฯ ออกไปก่อนหรือไม่ เพื่อรอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีของนายพิธาก่อน นายวราวุธ กล่าวว่า ในที่ประชุมรัฐสภาคงมีการหารือกันในประเด็นนี้ ทั้ง ส.ส. และ ส.ว. มีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างไร ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนามีเพียง 10 เสียงเท่านั้น คงต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ แต่หากจะโหวตกันวันนี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะมองว่าในอนาคตหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเราก็เคารพคำวินิจฉัยของศาล แต่ในขณะเดียวกัน ก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นว่านายพิธาเองก็ถูกสังคมจับตามอง และมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น ซึ่งเข้าใจในสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม คนที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกฯ นั้นต้องมีความโปร่งใส และชัดเจนในระดับหนึ่ง เมื่อถามว่า จำเป็นต้องเลื่อนการประชุมรัฐสภาไปเป็นวันที่ 19 ก.ค.หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า คงต้องหารือกัน เพราะการจะประชุมรัฐสภา 750 คนไม่ใช่เรื่องง่าย 

เมื่อถามถึงการชุมนุมหน้ารัฐสภาของกลุ่มคนที่มาสนับสนุนนายพิธาในวันนี้ นายวราวุธ กล่าวว่า ถือเป็นการแสดงออกแบบหนึ่ง แต่การแสดงออกต้องเคารพสิทธิของประชาชนเสียงส่วนใหญ่ด้วย แสดงออกได้ แต่ต้องมีกรอบและแนวทางชัดเจน และไม่เลยเถิดไปประเด็นอื่น 

เมื่อถามว่า ทางพรรคชาติไทยพัฒนาและนายวราวุธได้รับแรงกดดันจากการชุมนุมหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ตนอยู่การเมืองมาทั้งชีวิต โดนทั้งกดทั้งดันมาตลอด ฉะนั้น ไม่มีปัญหา แต่ตนเข้าใจความต้องการของประชาชนแต่ละฝ่ายว่ามีความต้องการเช่นไร การแสดงออกก็จะแตกต่างกันออกไป

🚨ตำรวจไซเบอร์เตือนภัย🚨

🚨ตำรวจไซเบอร์เตือนภัย🚨

🏡มุกใหม่มิจฉาชีพ หลอกยกเลิกสัญญาซื้อขายบ้าน-ที่ดิน ยอมโดนยึดมัดจำ ลวงผู้เสียหายผิดนัด

⚠️ กลลวงมิจฉาชีพ เริ่มต้นจะขอซื้อบ้านหรือที่ดิน โดยจวางเงินมัดจำเป็นจำนวนที่สูง มีการระบุวันโอนขายที่ดินไว้
⚠️ ก่อนถึงวันโอนบ้านหรือที่ดิน มิจฉาชีพจะโทรศัพท์มาแจ้งผู้ขาย ขอยกเลิกการซื้อขาย และยอมให้ยึดเงินมัดจำ จนผู้เสียหายหลงเชื่อและไม่ไปสำนักงานที่ดินเพื่อโอนตามสัญญา
⚠️ วันโอนตามสัญญา มิจฉาชีพจะไปสำนักงานที่ดินและนั่งรอผู้ขายตั้งแต่เช้า เพื่อให้กล้องวงจรปิดบันทึกภาพ และมีพยานบุคคล ซึ่งส่งผลให้ผู้ขายเข้าข่ายผิดสัญญาจะซื้อจะขาย และมิจฉาชีพสามารถเรียกค่าปรับได้ตามที่ระบุไว้ในสัญญา ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่สูงกว่าเงินมัดจำ

ข้อควรระวัง
✅ ผู้ขายควรตรวจสอบประวัติของผู้ที่มาติดต่อขอซื้อบ้านหรือที่ดิน เพื่อป้องกันการถูกหลอกจากกลุ่มมิจฉาชีพ

 ❌ไม่เชื่อ  ❌ไม่รีบ  ❌ไม่โอน

 "ตำรวจไซเบอร์ ให้ความรู้ รู้ทันความคิดมิจฉาชีพ"

#ตำรวจไซเบอร์ #เตือนภัยออนไลน์ #ซื้อขายบ้านหรือที่ดิน #กรมที่ดิน

💌 ด้วยความห่วงใย จากตำรวจไซเบอร์
☎️ ปรึกษาสอบถามโทร 1441 หรือ 081-866-3000
🌐 แจ้งความออนไลน์ www.thaipoliceonline.com
📱 Line:@police1441 แชทบอทกับหมวดขวัญดาว ตลอด 24 ชั่วโมง

กองทัพเรือจัดกิจกรรมเสริมสร้างสุขภาพที่ดีและเพิ่มทักษะการปฐมพยาบาลฟื้นคืนชีพพื้นฐาน ในพื้นที่ทัพเรือภาคที่ 3 เพื่อให้กำลังพลมีสุขภาพที่ดี เป็นกำลังรบที่พร้อมปฏิบัติงานในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามันทุกภารกิจ

วันที่ 12 ก.ค.66 พลเรือเอก สุวิน  แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานพิจารณาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการปฏิบัติงานและการพัฒนาคุณภาพชีวิตกำลังพลกองทัพเรือ ตรวจโครงสร้างพื้นฐาน และร่วมกิจกรรมเสริมสร้างสุขภาพที่ดีและเพิ่มทักษะการปฐมพยาบาลฟื้นคืนชีพพื้นฐาน รวมทั้งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือได้ตรวจโครงสร้างพื้นฐานในส่วนของโรงพยาบาลฐานทัพเรือพังงา และอาคารกองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 3 ณ ฐานทัพเรือพังงา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องต่อไป

การจัดกิจกรรมครั้งนี้นอกจากเป็นการกระตุ้นให้กำลังพลใส่ใจในการดูแลสุขภาพแล้ว ยังให้ความรู้แก่กำลังพลในการดูแลสุขภาพ และการช่วยฟื้นคืนชีพอย่างถูกต้อง จากบุคคลากรจากกรมแพทย์ทหารเรือ  โดยกรมแพทย์ทหารเรือจะนำผลการตรวจสุขภาพกำลังพลกองทัพเรือมาจัดทำเป็นฐานข้อมูลในโปรแกรม NMD+ เพื่อติดตามและกำหนดแนวทางในการดูแลสุขภาพของกำลังพลได้อย่างเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้การที่กำลังพลมีสุขภาพที่ดีนั้นย่อมส่งผลถึงความพร้อมของกำลังรบ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความพร้อมของทัพเรือภาคที่ 3 ต่อทุกภารกิจในพื้นที่รับผิดชอบฝั่งทะเลอันดามัน และจะส่งผลดีต่อการปฏิบัติงานในภาพรวมของกองทัพเรือ

กำลังพลของหน่วยในทัพเรือภาคที่ 3 ที่เข้าร่วมกิจกรรม ประกอบด้วย กองบังคับการฐานทัพเรือพังงา , กองเรือปฏิบัติการฯ , หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (กองพันรักษาฝั่งที่ 11 และกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22) จำนวน 409 นาย เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 7 กิจกรรม ประกอบด้วย 
- การตรวจวัดและประเมินสภาพร่างกาย
- การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
- การอบรมความรู้เรื่องการออกกำลังกายและลดน้ำหนัก
- การให้ความรู้เกี่ยวกับอาหารที่ควรบริโภค
- การสาธิตและการฝึกการช่วยฟื้นชีพขั้นพื้นฐาน (CPR) 
- การให้ความรู้เรื่้องการป้องกันและปฐมพยาบาลเบื้องต้นโรคลมร้อน (Heat Stroke) 
- การเดินวิ่งเพื่อสุขภาพ

ซึ่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพ รวมถึงทักษะการปฐมพยาบาลช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน ซึ่งการมีสุขภาพที่ดีส่งผลถึงความพร้อมขององค์บุคคล ถือได้ว่าเป็นองค์ประกอบของความพร้อมรบที่สำคัญยิ่ง เปรียบเสมือนการสร้างเหล็กในคนที่สำคัญกว่าเหล็กในเรือ นอกจากนี้ยังส่งผลดีต่อการปฏิบัติงานในภาพรวมของกองทัพเรือ และเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างผู้บังคับบัญชากับกำลังพลอีกด้วย โดยจะให้มีการจัดกิจกรรมนี้ในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพเรือทั่วประเทศ

เป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือด้านกำลังพลในการส่งเสริมสุขภาพให้กำลังพลของกองทัพเรือมีสุขภาพที่ดี มีร่างกายแข็งแรง พร้อมปฏิบัติงานเพื่อขับเคลื่อนกองทัพเรือได้อย่างมีพลังด้วยความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

ชื่นชม!! 6 นักเรียนไทยคว้าเหรียญรางวัล ในการแข่งขัน ‘คณิตศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ’

เมื่อวานนี้ (12 ก.ค. 66) เพจ ‘Olympic ipst’ โพสต์ข้อความแสดงความยินดีกับนักเรียนไทยคว้าเหรียญรางวัลในการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ (64th IMO 2023) โดยระบุว่า..

ผลการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ประจำปี พ.ศ. 2566 (64th IMO 2023) ระหว่างวันที่ 3 - 13 กรกฎาคม 2566 ณ เมืองชิบะ ประเทศญี่ปุ่น 

ผู้เข้าแข่งขันจากประเทศไทย จำนวน 6 คน มีผลการแข่งขัน ดังนี้
1. นายทยากร สุวานิช โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ได้รับรางวัลเหรียญทอง 🥇
2. นายวรวัฒน์ รุ่งอร่ามศิลป์ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ได้รับรางวัลเหรียญเงิน 🥈
3. นายพัฒนแสง พินิจพิชิตกุล โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ได้รับรางวัลเหรียญเงิน 🥈
4. นายนิธิวิทย์ ศิริมาลัยสุวรรณ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ได้รับรางวัลเหรียญเงิน 🥈
5. นายธรรมรักษ์ กอสกุลธรรม โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ได้รับรางวัลเหรียญทองแดง 🥉
6. นายสิรวิชญ์ พิพิธธนาบรรพ์ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ได้รับรางวัลเกียรติคุณประกาศ

และคณะอาจารย์ผู้ควบคุมทีม ประกอบด้วย
1. ดร.นิธิ รุ่งธนาภิรมย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวหน้าทีม
2. ผศ.ดร.ธีระเดช กิตติภัสสร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รองหัวหน้าทีม
3. ดร.สริตา บุณย์ศุภา McKinsey & Company ผู้ช่วยหัวหน้าทีม 
4. ผศ.ดร.เป็นหญิง โรจนกุล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้ช่วยหัวหน้าทีม 
5. ดร.ศุภณัฐ คำตื้อ Yau mathematical Sciences Center ผู้ช่วยหัวหน้าทีม 
6. นายจเร ปานเมือง สสวท. ผู้จัดการทีม

‘นันทิวัฒน์’ ย้อนบทเรียนคดีถือหุ้นสื่อ ‘ธนาธร’ สู่ ‘พิธา’ ชี้ สะดุดตีนล้มเอง อย่าชวนคนลงถนนเพื่อปกป้องตนเอง

13 ก.ค. 66) นายนันทิวัฒน์ สามารถ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ ‘วิบากกรรม’ มีเนื้อหาระบุว่า...

วิบากกรรม

กรณีถือครองหุ้นสื่อ ทำไมนักการเมืองที่อยากเป็นนายกฯ มันถึงได้ทำผิดแล้วผิดอีก และมาจากพรรคเดียวกันเสียด้วย น่าสงสัยที่ปรึกษากฎหมายของพรรคนี้มืออ่อน ผู้นำพรรคทำผิดซ้ำซาก คุณธนาธรก็ทีนึงแล้ว ยังมาเจอคุณพิธาอีก วิบากกรรมจริงๆ

ถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้หยุดปฏิบัติหน้าไว้ก่อน ก็เป็นการหยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ ส.ส. ไม่ได้ตัดสิทธิในการถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ นอกจากถูกสมาชิกทักท้วงว่าทำไม่ได้ เพราะมาตรา 160(6) บัญญัติถึงคุณสมบัติคนที่จะมาเป็นรัฐมนตรี นายกฯ ถือว่าเป็นรัฐมนตรีคนหนึ่ง ต้องไม่มีคุณสมบัติที่ขัดต่อมาตรา 98(3) ที่ห้ามถือหุ้นสื่อ มันย้อนกลับไปสู่คุณสมบัติต้องห้ามในการถือหุ้นสื่อ 

นั่นแสดงว่ารัฐธรรมนูญตั้งใจเขียนรัดเอาไว้ไม่ให้นักการเมืองถือหุ้นสื่อจริงๆ เพราะเขียนล้อ ผูกตรึง (โยง) กันไปหมด

คนที่อาสาจะมาเป็นผู้บริหารประเทศ เป็นถึงนายกรัฐมนตรีไม่น่าทำผิดแบบปลาตายน้ำตื้นขนาดนี้เลย มีอย่างที่ไหนมีหุ้นสื่ออยู่ในมือ (คงจะรวยมากจนจำไม่ได้ว่า มีสมบัติซุกไว้ที่ไหนบ้าง) กรณีคุณธนาธรไม่ทำให้ฉุกใจคิดบ้างเลยหรือ

อาสามาเป็นผู้นำประเทศนะครับ ไม่ใช่เล่นขายขนมครกนะ ต้องเตรียมตัวให้พร้อม ผู้นำต้องบริหารประเทศตามกฎหมาย เป็นนิติรัฐ

พลาดท่าเสียทีด้วยความสะเพร่าของตนเอง ไม่มีใครกลั่นแกล้งยัดหุ้นสื่อใส่มือคุณพิธาแน่นอน ไม่มีใครเตะตัดขา ไม่มีการสร้างหลักฐานเท็จ สะดุดตีนล้มเอง ไม่มีนิติสงคราม

คุณพิธาไม่ใช่คนแรกที่โดนคดีถือหุ้นสื่อ คุณธนาธรก็โดน และยังมีนักการเมืองอีกหลายคนที่ถูกถอดถอนและถูกตัดสิทธิทางการเมือง

คนที่จะมาเป็นนายกต้องรอบคอบ

อย่าชวนคนลงถนนเพื่อมาปกป้องตนเองเลย มันทำไม่ได้ ประการสำคัญคนที่อยากเป็นผู้นำต้องไม่พาคนไปตาย อย่าเหยียบศพเพื่อนเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำ

‘หมอพรทิพย์’ โพสต์ ก่อนโหวตนายกฯ ชี้ วาระนี้ คงเป็นกรรมจัดการ ลั่น!! “รับใช้แผ่นดินมาทั้งชีวิต ขอทำหน้าที่จนกว่าชีวิตจะหาไม่”

(13 ก.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รัฐสภา เตรียมประชุมวาระเลือกนายกฯ โดยประชาชนต่างสนใจการลงคะแนนของ ส.ว.ที่เป็นตัวแปรในครั้งนี้

โดย พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ เป็น ส.ว.อีกหนึ่งคนที่ถูกจับตาตั้งแต่ประกาศผลการเลือกตั้ง

ซึ่งล่าสุด พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ได้โพสต์อินสตาแกรม ระบุว่า…

“ทั้งชีวิตก็เลือกทำงานรับใช้แผ่นดิน ผ่านมาหลากหลายรัฐบาล ปากว่ารักชาติ รักแผ่นดินกันทั้งนั้น วาระนี้คงเป็นวาระกรรมจัดการ จะขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุดจนกว่าชีวิตจะหาไม่”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top