Wednesday, 7 May 2025
NewsFeed

ผู้ว่าฯพิจิตร สั่งเปิดยุทธการตาเถรกวาดลานทวงคืนวัดหลวงพ่อเงินบางคลานจากแก๊งทรชน

วันที่ 13 กรกฎาคม 2566 ความคืบหน้าสถานการณ์ที่ วัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร ที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 66 ที่มีชายชุดดำจำนวนนับสิบคน ปลุกระดมชาวบ้านใช้กำลังเข้าทำร้ายกรรมการและคนงานของวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน เข้าทำลายกล้องวงจรปิดและประกาศยึดวัดหลวงพ่อเงินบางคลานโดยตั้งตัวเป็นกลุ่มซ่องโจรอั้งยี่เข้าบริหารรับเงินทำบุญและเข้าควบคุมวิหารหลวงพ่อเงินจนเป็นข่าวใหญ่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างหวาดผวาไม่กล้าเข้าไปท่องเที่ยว หรือ เข้าไปทำบุญ ส่งผลทำลายภาพลักษณ์ของจังหวัดพิจิตรยืดเยื้อมายาวน่านจากวันนั้นถึงวันนี้นับระยะเวลารวม 97 วัน ที่ไม่มีใครบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังทั้งๆที่มีคำสั่งศาล มีคำสั่งบังคับคดี ต่างๆ แล้วก็ตาม

ล่าสุดวันนี้ นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าฯ พิจิตร ได้มอบหมายสั่งการให้ นายสิงหราช วงษ์เสงี่ยม รอง ผู้ว่าฯ พิจิตร , นายสุเมธ เมธีรัตนาพิพัฒน์ นายอำเภอโพทะเล เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์เปิดยุทธการตาเถรกวาดลาน โดยใช้กำลัง ทหาร-ฝ่ายปกครอง – อส. ประสานงานกับตำรวจจังหวัดพิจิตรนำกำลังนับร้อยคนพร้อมรถดับเพลิงอุปกรณ์ในการควบคุมฝูงชนเพื่อดำเนินการจะพา พระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ซึ่งได้รับการแต่งตั้งชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของคณะสงฆ์เข้าวัด

แต่ปรากฏว่าเมื่อกำลังตำรวจ-ทหาร- -ฝ่ายปกครอง- อส. เดินทางไปถึงก็พบว่าประตูทางเข้าวัดหลวงพ่อเงินบางคลานทุกจุดถูกกลุ่มอันธพาลและชาวบ้านปิดประตูสกัดกั้นไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไป โดยไม่เชื่อฟังคำสั่งของฝ่ายปกครองที่ชี้แจงเหตุผลว่า การกระทำที่ชาวบ้านเข้ายึดวัดหลวงพ่อเงินบางคลานในลักษณะนี้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย กลุ่มชาวบ้านซึ่งแท้ที่จริงเป็นพวกรับจ้างมาป่วนในวัดหลวงพ่อเงินบางคลานก็เริ่มใช้หนังสติ๊กยิงใส่กำลังของ ตำรวจ-อส.-ฝ่ายปกครอง จนโล่ที่ใช้กำบังควบคุมฝูงชนแตกเสียหาย รวมถึงได้รับบาดเจ็บไปตามๆกัน เมื่อการเจรจาไม่ได้ผลกำลัง ตำรวจ-อส.-ฝ่ายปกครอง จึงต้องใช้รถดับเพลิงฉีดน้ำใส่ฝูงชนที่มีประมาณเกือบ 100 คน  ที่เฝ้าประตูในแต่ละจุด 

การปฏิบัติการตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงบ่ายของวันนี้ กองกำลัง ตำรวจ-ทหาร- -ฝ่ายปกครอง- อส. ก็ยังไม่สามารถตีฝ่าวงล้อมของพวกชายฉกรรจ์และชาวบ้านที่ยึดวัดหลวงพ่อเงินบางคลานเพื่อจะนำพา พระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน เข้าไปในวัดได้

สำหรับการปฏิบัติการในครั้งนี้ มีรายงานว่าฝ่ายปกครองและฝ่ายบ้านเมืองจะลงมือตามลำดับความหนักเบาของสถานการณ์ โดยมีเป้าหมายต้องเข้าวัดหลวงพ่อเงินบางคลานเพื่อคืนความสงบสุขให้กับพุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใสศรัทธาเข้ามาสักการะบูชาหลวงพ่อเงินให้ได้เป็นปกติสุขตามกฎหมายต่อไปให้จงได้

‘นริศโรจน์’ ซัด!! เหล่าดารา-คนดัง หลังแห่เปิดหน้าแขวะ กกต. ฟาดแรง!! “คงเล่นละครมาก ไปจนไม่รู้อะไรทั้งนั้น”

(13 ก.ค. 66) นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า…

“รู้ว่าเป็น ‘ดารา’ แต่ถ้าดาราไม่รู้ว่า กกต.มีไว้ทำไม อันนี้คนทั่วไปคงตอบแทนเขาได้ คงเล่นละครมาก ไปจนไม่รู้อะไรทั้งนั้น”

ร้านอาหารอิตาเลียนกลางกรุง บรรยากาศอบอุ่น พร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนู จากฝีมือเซฟชาวอิตาลี

ใครชอบรับประทานอาหารอิตาเลียน หรือกำลังมองหาอาหารตะวันตกมาลิ้มลอง ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้ THE STATES TIMES ขอแนะนำร้าน ‘House of Tango’ ร้านอาหารอิตาเลียนที่บรรจงสร้างสรรค์หลากหลายเมนู โดยเน้นสีสันและรสชาติ ให้ถูกปาก ติดใจผู้คนที่ได้ลิ้มรส

ขอบอกก่อนว่า ‘House of Tango’ เกิดขึ้นจากฝีมือ คุณชัยยศ เพชรดาษดา (คุณยศ) นักออกแบบแห่งแบรนด์ TANGO ที่ตัดสินใจผันตัวมาทำร้านอาหาร แรกเริ่มจะเปิดแค่เล็ก ๆ แต่ไป ๆ มา ๆ ก็กลายเป็นร้านอาหารเต็มรูปแบบ แถมยังได้ Chef Frederic Farina เชฟหนุ่มใหญ่ชาวอิตาเลียนที่เคยเป็น Head Chef จากโรงแรมแกรนด์ฮแอทเอราวัณแบงค็อก (Grand Hyatt Erawan Bangkok) ผู้มีประสบการณ์มาเกือบ 30 ปี มาเป็นผู้วาง Concept ให้กับร้านด้วย

ภายในร้าน ‘House of Tango’ จะตกแต่งด้วยของที่ระลึกของคุณยศที่สะสมจากหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก โดยวางไว้ที่มุมต่าง ๆ ของร้าน คล้ายเป็นแกลอรีให้ลูกค้าได้ชื่นชม นอกจากนี้ยังตกแต่งร้านให้เกิดบรรยากาศที่อบอุ่น เสมือนอยู่ที่บ้านกับครอบครัว แต่ก็แฝงไปด้วยความหรูหรา สวยงาม เหมือนหลุดเข้าไปในมุมหนึ่งของอิตาลีด้วย

และสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เมื่อมาถึง ‘House of Tango’ ก็คือ ‘อาหาร’ ที่เป็นพระเอกนางเอกของร้าน ซึ่งมีหลากหลายเมนูขึ้นชื่อ เช่น

-Mixed Tomatoes Salad สลัดมะเขือเทศ เพิ่มเติมรสชาติให้กลมกล่อมมากกว่าเดิมด้วยแตงโม และทับทิม ปรุงรสเปรี้ยว ๆ เค็ม ๆ จุดเด่นคือมะเขือเทศ สายพันธุ์ดั้งเดิมจากอิตาลี นำมาปลูกในอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

-Blue Mussel หอยแมลงภู่จากชิลีนึ่งซอสไวน์ขาว อร่อยกลมกล่อม

-Sweet Pumpkin Ravioli, Truffle Cream Sauce ราวิโอลีแป้งสดทำเอง แต่เติมสีสันชวนลิ้มลองด้วยลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจจากแพตเทิร์น แพทเวิร์ค ใช้สีธรรมชาติจากผัก เสิร์ฟพร้อมซอสทรัฟเฟิล ได้รสหวานเล็กน้อยจากไส้ฟักทอง

-Thai River Prawn สปาเกตตีกุ้งแม่น้ำ ได้กลิ่นและรสชาติจากกระเทียม น้ำมันมะกอก ไวน์ขาว เส้นหมึกดำจากแป้งซีโมลินาที่นำเข้าจากอิตาลีตอนใต้ 

-Beef Wellington เนื้อสันในจากออสเตรเลีย ห่อด้วยสมุนไพรและแป้งพัฟ หั่นโชว์เนื้อนุ่มในระดับ Medium Rare ชุ่มฉ่ำด้วยซอสไวน์แดง

นอกจากอาหารคาวรสชาติอร่อยที่ยกตัวอย่างไปแล้วบางส่วน ทางร้าน ‘House of Tango’ ก็ยังมีของหวานให้รับประทานตบท้าย เช่น Milles Feuilles ขนมอบรสชาติหวานกำลังดี หรือจะเป็น Waffle with Chalongbay Cherry Jubilee วาฟเฟิลกรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยซอสเชอร์รี่ตุ๋นโฮมเมดเปรี้ยวหวานสุดลงตัว

สำหรับใครที่อยากตามไปลิ้มลอง ร้าน ‘House of Tango’ ตั้งอยู่ที่ ซอยเจริญกรุง 107 แยก 44 บางคอแหลม กรุงเทพฯ ร้านเปิดเวลา 17.00 -23.00 (อ.-อา) และ 12.00 - 15.00 (ส.-อา) ปิดทุกวันจันทร์ หรือโทรจองได้ที่เบอร์ 063-141-0999

'ส.ว.สมชาย' แฉ!! เจตนาก้าวไกลเรื่อง ม.112 ลั่น!! ดึงฟ้าลงดิน แต่ยังอ้างว่าแก้เพื่อปกป้อง

(13 ก.ค. 66) นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ได้พูดอภิปรายในรัฐสภา วาระการเสนอชื่อบุคคลเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ย้ำว่าจะไม่โหวต เลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมยกกรณีการเสนอร่างแก้มาตรา 112 ที่หลายคนอาจยังไม่เคยเห็น ว่า...

ผมอยากนำเสนอเอกสารจากทางพรรคก้าวไกล ซึ่งได้เสนอร่างกฎหมายแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล ตัวจริง ซึ่งพรรคร่วมทั้ง 7 ไม่เคยเห็น ประชาชนก็ไม่เคยเห็น ร่างที่บอกไม่เคยเสนอเข้าสู่สภาฯ ลงเลขที่ 27/2564 ของสภาฯ วันที่ 25 มีนาคม 2564 และลงเลขรับอีกครั้งวันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 

ทำไมถึงมีเลขรับ 2 ครั้ง และเหตุใด ส.ว.จึงไม่ไว้วางใจให้ก้าวไกลให้แก้ไข/ยกเลิกมาตรา112 และรัฐธรรมนูญมาตราที่เกี่ยวข้องกับชาติและสถาบันฯ ลองมาดูกันจะจะอีกครั้งครับ

ร่างกฎหมายดังกล่าว ถูกเสนอโดยพรรคก้าวไกลเข้าสภาผู้แทนราษฎร แต่ถูกท่านประธานสภาให้ไปปรับแก้ไข แต่ก้าวไกลก็ไม่ยอมแก้ไข และยืนยันจะเอาเข้าสภาฯ ให้ได้นั้น โดยในสาระสำคัญของร่างนั้น ได้แยกมาตรา 112 ที่ป้องไม่ให้ผู้ใดหมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้าย ต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี องค์รัชทายาท ออกจากกัน 

พร้อมทั้งลดโทษจำคุกลงเหลือแค่ไม่เกิน 6 เดือนไม่เกิน 1ปี และปรับลดโทษลงโดยไม่ต้องรับโทษเลย หากอ้างว่าทำเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือหากเป็นความจริง 

ทั้งนี้ หากแยกดูในบางรายละเอียดจะพบข้อความระบุโทษที่มีการปรับลดกฎหมายซึ่งถือเป็นกฎหมายคุ้มครองประมุขของแผ่นดินไว้ดังนี้… ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ จะระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 300,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

ผู้ใดหมิ่นประมาทดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระราชินีรัชทายาทหรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 200,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

>> ยิ่งไปกว่านั้น หากผู้ใดติชม แสดงความคิดเห็นหรือแสดงข้อความใดโดยสุจริต เพื่อประโยชน์สาธารณะ >> ‘ผู้นั้นไม่มีความผิด’ เพราะมองว่า ความผิดในลักษณะนี้ เป็นความผิดอันยอมความได้

หรือบางมาตราก็มีตัดโทษจำคุกทิ้งหมดเหลือแค่โทษปรับเล็กน้อย เช่น มาตราที่คุ้มครองพระราชอาคันตุกะ เจ้าพนักงาน ผู้พิพากษาในศาลยุติธรรม เป็นต้น

สิ่งเหล่านี้มีหลักฐาน เป็นลายลักษณ์อักษรในร่างกฎหมายที่พรรคก้าวไกลพยายามที่จะนำเข้าสู่สภาในสมัยที่แล้ว เพื่อที่จะแก้ไขถึง 2 ครั้งและก็ยังคงดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง

ผมจึงไม่ขอสนับสนุนให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตของก้าวไกล ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

‘ไอติม พริษฐ์’ ถามเหล่า ส.ส.กลางรัฐสภา “พร้อมจะเคารพเสียงของประชาชน 14 ล้านคน ที่ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งหรือไม่”

(13 ก.ค. 66) นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวอภิปรายในรัฐสภา ในวาระการเสนอชื่อบุคคลเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า…

“คำถามที่สำคัญสำหรับสมาชิกรัฐสภา ไม่ใช่คำถามว่าพวกเรา 750 คนนั้น มีความคิดเห็นอย่างไรกับคุณสมบัติของคุณพิธา ในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือมีความคิดเห็นอย่างไรกับนโยบายของพรรคก้าวไกล แต่คำถามที่สำคัญที่สุด ต่อหน้าสมาชิกรัฐสภาทุกท่านในวันนี้ ก็คือ พวกเรา 750 คน พร้อมจะเคารพเสียงของประชาชน 14 ล้านคน ที่ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งหรือไม่”

‘มิกค์ ทองระย้า’ ผันตัวเป็นเด็กสวน โชว์ผลผลิตที่ลงแรงปลูกเอง ท่ามกลางแฟนคลับแห่ชื่นชม ‘ความเก่ง-ความขยัน’ ของเจ้าตัว

(13 ก.ค.66) อีกหนึ่งพระเอกชื่อดังมากฝีมืออย่าง ‘มิกค์ ทองระย้า’ เราจะเห็นผลงานของเธอมากมายผ่านจอแก้วและงานอีเวนต์ต่าง ๆ วันเวลาว่าง ๆ เขาได้ไปพักผ่อนหย่อนใจที่บ้านสวน ที่เจ้าตัวทำเกษตรกรรมด้วยการปลูกพืชผักไว้ที่เขาใหญ่

ล่าสุดโพสต์อินสตราแกรมส่วนตัว ‘@mik_thongraya’ โชว์ผลผลิตผักปลอดสารของตัวเอง พร้อมข้อความบอกว่า "รับผักหรือรับรักดีครับ" นอกจากนี้ได้แพ็กส่งไปให้กับคุณยายเองกับมือเลยด้วย ท่ามกลางแฟนคลับชื่นชมความขยัน และชมความเก่งของเขา

‘แอน ทองประสม’ เปิดใจหลังเข้าผ่าตัด ‘เนื้องอกในมดลูก’ ลั่น!! “เจอเพราะตรวจสุขภาพ ผ่าออกมาได้ 6-7 ซม.”

(13 ก.ค. 66) ทำเอาหลายคนตกใจว่าอยู่ดี ๆ ผู้จัดคนเก่ง ‘แอน ทองประสม’ ต้องเข้ารับการผ่าตัด แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทั้ง ๆ ที่ดูเป็นคนที่รักษาสุขภาพ และแข็งแรงมาก ๆ ล่าสุดได้เจอสาวแอน เลยสอบถามถึงสุขภาพในช่วงนี้หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล

เมื่อถามสาเหตุที่เข้าโรงพยาบาล แอน ทองประสม เผยว่า “ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ คนคิดว่าแอนน็อกวูบ เปล่าค่ะแอนเดินสวย ๆ เข้าโรงพยาบาล มันเป็นเนื้องอกมดลูกที่เกิดกับผู้หญิงทั่ว ๆ ไปอยู่แล้ว มันมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาก็เคลียร์ไป หมอนัดแล้วแอนเบี้ยวหมอมา 3 รอบแล้ว

หมอบอกถ้ารอบนี้เบี้ยวไม่ผ่าให้แล้ว แอนถ่ายละครเกมรักทรยศเสร็จก็เดินเข้าไปแค่นั้นเอง เอาเขาออก คนอื่นจะมองว่าเรื่องเล็กหรือใหญ่แอนก็ไม่รู้ แต่แอนไม่เอาไว้ดีกว่า ถ้าผ่าอายุเยอะอาจจะฟื้นตัวช้า ผ่าออกมาแล้วก็ไม่มีอะไร ก็ประมาณ 6-7 ซม.”

“เป็นครั้งแรกเลยในการโดนผ่าตัด มันก็ไม่ได้น่ากลัว เรากลัวไปเอง เราถ่ายละครเข้าห้องผ่าตัดมาเยอะ แต่มันก็ใจสั่นเหมือนจะเป็นลม สักแป๊บก็ไม่รู้ตัว ออกมาแล้ว มันก็ไม่ได้ขนาดที่เรากลัว แอนบอกกับตัวเองว่าจงรักษาสุขภาพตัวเองให้แข็งแรงอย่ามาโรงพยาบาลบ่อย ๆ”

“จริง ๆ ร่างกายแอนแข็งแรง แต่มันเป็นเรื่องผู้หญิงที่ร่างกายมันสะสมมานานมันก็มี แต่แอนไม่ได้ป่วยไข้ ตรวจเจอเพราะตรวจสุขภาพ ไม่ได้เป็นอะไรเลย ถ้าไม่ได้ตรวจก็ไม่เห็น พอเราผ่าปุ๊บถึงเพิ่งรู้ว่า ‘โบว์-เมลดา’ ก็ผ่า นักแสดงคนนั้นคนนี้ก็ผ่า บางคนเป็นช็อกโกแลตซีสต์ เนื้องอก อาการของผู้หญิง แต่เราไม่เคยเปิดเรื่องนี้กับใคร เขาบอกว่าเป็นเรื่องปกติ”

เมื่อถามถึง ‘พอเป็นตรงมดลูกมีผลต่อการมีลูกไหม’ ซึ่ง แอน ทองประสม ได้ตอบกลับมาว่า  “ไม่มีผลค่ะ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ไม่ได้ตัดมดลูกทิ้ง แอนไม่ยอมนะ บอกหมออย่าตัดมดลูกแอนนะ”

‘แพทริเซีย กู๊ด’ แต่งสวยจัดเต็ม!! อวดหุ่นคุณแม่หลังคลอด ควงคู่สามีออกงาน จนชาวเน็ตตั้งคำถาม “เพิ่งคลอดจริงเหรอ?”

(13 ก.ค. 66) ตอนท้องว่าสวยกว่าตอนที่ยังไม่ท้อง แต่พอเป็นคุณแม่ลูกอ่อน ความสวยของ ‘แพทริเซีย กู๊ด’ ยิ่งดูมีออร่ามากขึ้นแบบผิดหูผิดตา และมีน้ำมีนวลขึ้นมาก

ล่าสุด ‘แพทริเซีย’ ควงสามีสุดหล่ออย่าง ‘โน้ต วิเศษ’ ออกงานคู่กัน ทำเอาหลายคนถึงกับสงสัยว่านี่คุณแม่ลูกอ่อนจริงหรือ ทำไมหุ่นถึงเข้าที่ได้เร็วขนาดนี้ 

ซึ่งแฟน ๆ ต่างก็เข้ามาคอมเมนต์ ว่า แม่ลูกอ่อนสวยมากลูกดูเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล, สวยเกิ้น สวยอะไรขนาดนี้ ออร่าเปล่งประกายมากก, คุณแม่คนสวย, แม่สวยแบบตะโกนมากกกก, สวยกว่าเดิมอีก สวยม้ากกกค่ะ ฯลฯ

‘ศาสตรา ศรีปาน’ ย้ำจุดยืน ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ ไม่เลือกนายกฯ ชื่อ ‘พิธา’

‘ศาสตรา ศรีปาน’ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ อภิปรายในการประชุมรัฐสภา ย้ำจุดยืน พรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่เลือกนายกฯ ชื่อ ‘พิธา’ เหตุต้องปกป้องสถาบันหลักของชาติตามอุดมการณ์ของพรรคที่ไม่หนุนคนมีแนวคิดแก้ ม.112 ลั่น!! มีคนจำนวนมากพร้อมยอมตายเพื่อสถาบันฯ จึงอย่ามาขู่กันว่าจะลงถนน ถามกลับชอบหรือ? ชัยชนะบนซากปรักหักพัง

(13 ก.ค. 66) ที่รัฐสภา นายศาสตรา ศรีปาน ส.ส.สงขลา พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ได้เป็นตัวแทนพรรคอภิปรายระหว่างการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ว่า วันนี้ตนเป็นตัวแทนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ขอแสดงจุดยืนของพรรคในการเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย เสียงที่ตนส่งไปให้สมาชิกในสภาฯ และประชาชนนอกสภาฯ ขอเรียนให้ทราบว่าไม่ได้มีอคติหรือมีเรื่องใด ๆ ส่วนตัว แต่เป็นเรื่องของคนไทยที่รักชาติรักแผ่นดิน ที่จะมาบอกว่าวันนี้อุดมการณ์ของพรรครวมไทยสร้างชาติ คือความชัดเจนมาตั้งแต่เริ่มต้นว่า เราจะปกป้องและดำรงไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ ดังนั้น เราจึงไม่สนับสนุน พรรคการเมืองใดหรือนักการเมืองคนใด ที่มีนโยบายในการแก้ไขมาตรา 112 เพราะเราเห็นว่าบ้านเมืองวันนี้ ก็สามารถเดินไปข้างหน้าได้สามารถพัฒนาไปข้างหน้าได้ โดยไม่จำเป็นต้องแก้ไขมาตรานี้เลย และไม่จำเป็นต้องมาทำลายขนบธรรมเนียมไทยหรือต้นทุนทางวัฒนธรรมไทยที่มีมานานตั้งแต่ในอดีต

นายศาตรา อภิปรายว่า ตนได้เห็นการขับเคลื่อนการเดินสายพูดถึงประวัติศาสตร์ที่สร้างบาดแผลให้กับชาติไทย ทำให้เกิดความสงสัย เช่น การแบ่งแยกดินแดน การแบ่งแยกแผ่นดิน สิ่งเหล่านี้ทำให้คนไทยและสังคมไทยดีขึ้นหรือไม่ ไม่มีเลย มีแต่สร้างความแตกแยกแบ่งแยกคน ออกเป็นฝักเป็นฝ่าย ไม่ได้มีประโยชน์ใด ๆ เลย รูปที่มีอยู่ทุกบ้าน ตนเชื่อว่ามีอยู่ในบ้านของใครหลาย ๆ คนข้างนอก โครงการพระราชดำริ เช่นที่อำเภอหาดใหญ่ มีโครงการพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ทำให้เราไม่ต้องสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน วันนี้มีนักเรียนทุนจากคนยากจน พวกเขายังซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังนั้นอย่าเหยียบย่ำหัวใจคนไทยไปมากกว่านี้เลย

“ผมขอได้ไหมไม่แก้มาตรา 112 ไปแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนยังมีอีกจำนวนมากที่จะเสนอการแก้ไขกฎหมาย เพื่อช่วยพี่น้องประชาชนได้ การแก้มาตรา 112 มีแต่สร้างความแตกแยก คุณบอกว่า 14 ล้านเสียงพร้อมจะลงถนน อีกกว่า 20 ล้านเสียงของผู้มีสิทธิเลือกตั้งก็พร้อมยอมตายถวายชีวิตเพื่อสถาบันฯ ฉะนั้น การแก้ไขมาตรา 112 จะสร้างแต่รอยร้าวรอยแตกแยกให้กับประเทศไทย คนลงถนนบ้านเมืองจะอยู่อย่างไร มีแต่พังพินาศ ชัยชนะบนซากปรักหักพังชอบกันหรือ ผมว่ามันไม่มีประโยชน์อันใด ถึงคุณจะบอกว่า 151 เสียงที่ได้มาหรือแม้แต่ทั้งรัฐสภา 750 เสียง คุณก็ไม่มีสิทธิ์ในการทำลายสิ่งที่บรรพบุรุษเขาสร้างกันมาตั้งแต่ต้น นี่คือประเด็นที่ประชาชน ที่อยู่ด้านนอกเขาคิด ฉะนั้นต้องฟังด้วย ไม่ว่าจะเป็นเสียงส่วนน้อยเสียงส่วนใหญ่ก็ต้องฟัง” นายศาสตรากล่าว

นายศาสตรา อภิปรายต่อว่า การที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ อย่ามาโทษใครทั้งสิ้น อย่ามาโทษส.ส. อย่ามาโทษกกต. หรือศาลรัฐธรรมนูญ อยู่ที่ตัวของนายพิธาเองที่ต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ เพราะวันนี้กฎหมายเขียนชัดเจนว่า การจะเป็นนายกรัฐมนตรีจะเป็นส.ส.ห้ามถือหุ้นสื่อเขียนไว้ชัดเจนตั้งแต่ก่อนพรรคอนาคตใหม่จะตั้งขึ้นมาพอเขาบอกว่าให้ถอนร่างแก้ไข ก็ถอนได้แต่ทำไมไม่ถอนออกตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องมีการอภิปราย จะได้เลือกนายกคนที่ 30 กันเลย ดังนั้น ไม่ต้องโทษใครทั้งสิ้น และวันนี้นายพิธาก็ต้องตอบสังคมให้ได้ เพราะวันหนึ่งบอกว่ามาตรา 112 จะแก้ไข อีกวันหนึ่งบอกว่าจะยกเลิก บางวันขึ้นเวทีติดสติ๊กเกอร์บอกว่าแก้ไขแล้วค่อยไปยกเลิก แล้วจะให้พวกตนคิดอย่างไร?

“นักการเมืองที่ปากอย่างใจอย่างถามว่าประชาชนจะเชื่อได้หรือไม่? นี่คือสิ่งที่คุณต้องตอบ และผมเชื่อว่า ประชาชนก็ติดตามอยู่ โดยเฉพาะร่างแก้ไขมาตรา 112 ร่างมาจนไม่เหลือความคุ้มครองอะไรเลย และไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญมาตรา 6 ที่บัญญัติว่า องค์พระมหากษัตริย์ให้ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่สักการะผู้ใดจะละเมิดไม่ได้” ส.ส.สงขลา พรรครวมไทยสร้างชาติกล่าว

นายศาสตรา อภิปรายย้ำว่า ตนเกิดมารุ่นราวคราวเดียวกับนายพิธา 40 ปี ไม่เคยโดนฟ้องมาตรา 112 เลย กฎหมายก็อยู่ในส่วนของกฎหมายไม่มีนิติสงคราม มีแต่นิติรัฐทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น ฉะนั้น วันนี้พรรคก้าวไกล มีการยื่นเสนอ มีนโยบายที่จะแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งขัดกับอุดมการณ์ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเราเห็นว่า การแก้มาตรา 112 มีแต่สร้างความเกลียดชังและแตกแยกของคนในสังคมไทย และกระทบต่อความรู้สึกของคนไทยในช่วงที่ประเทศชาติต้องการความรักความสามัคคี ดังนั้นพรรครวมไทยสร้างชาติตัวแทนของประชาชนคนไทย ผู้ที่รักและเทิดทูนสถาบันฯ จึงไม่ขอโหวตสนับสนุน นายกคนที่ 30 ของประเทศไทยชื่อ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’

‘หนองบัวลำภู’ พบ ‘ซากฟอสซิล’ ไดโนเสาร์ 3 ชนิด กรมทรัพยากรธรณี คาด!! อายุกว่า 150 ล้านปี

(13 ก.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณเทือกเขาภูผาน้อย บ้านห้วยทราย ต.หนองบัว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู เขตรอยต่อเทือกเขา อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี และ จ.หนองบัวลำภู มีพระภิกษุออกธุดงค์ พร้อมกับชาวบ้านได้ไปพบโครงกระดูกจึงนำกลับมาเก็บรักษาไว้ที่วัดป่าห้วยทรายทองนาคชัยพร โครงกระดูกไดโนเสาร์ที่พบ พระอาจารย์ทองคำ สันตะกาโย เจ้าอาวาสองค์ก่อน ได้เดินออกธุดงค์ประมาณปี 2562 ได้พบโครงกระดูกดังกล่าวฝังอยู่ในดินเป็นจำนวนมาก ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้าน ประมาณ 1 กิโลเมตร  

และต่อมานายสมเจตน์ จงศุภวิศาลกิจ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมคณะ และเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 2 กรมทรัพยากรธรณี ได้ออกมาสำรวจและแจ้งว่าชิ้นส่วนของกระดูกที่สงสัยว่าจะเป็นสัตว์ยุคดึกดำบรรพ์ ซึ่งในเบื้องต้นเป็นไดโนเสาร์ 3 ชนิด คือ ชนิดกินพืช ชนิดกินปลา และชนิดที่กินเนื้อเป็นอาหาร ตรวจสอบพบตัวอย่างซากดึกดำบรรพ์ในชั้นหินทรายเนื้อปนปูน อายุประมาณกว่า 150 ล้านปี ประกอบด้วย กระดูกไดโนเสาร์มีลักษณะคล้ายไดโนเสาร์กลุ่มซอโรพอด คอยาว หางยาว เดิน 4 ขา กินพืชเป็นอาหาร และที่น่าสังเกตคือด้านข้างจะมี ‘บ่อน้ำซับ’ แหล่งน้ำที่ผุดขึ้นตลอดทั้งปี  

โดยนายธงชัย บุตรดี เป็นโยมอุปัฏฐากของวัดป่าห้วยทรายทองนาคชัยพร ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังถึงความลี้ลับว่า ก่อนหน้านี้มีอยู่วันนึ่งภรรยาตนเองได้ฝันว่า มีคนมาชวนไปทำบุญ มาขอต้นกล้วยมาขอใบตอง แต่ในความฝันเขาไม่บอกว่าวัดไหน มีคนมาชวนและจูงแขนภายในความฝัน และบอกภรรยาว่าให้รีบไปทำบุญใหญ่ของบ้านเรา ภรรยาตนเองจึงสอบถามย้ำว่าวัดชื่ออะไร จึงมีคนบอกว่าอยู่บ้านเชียงคาน และวัดในหมู่บ้านชื่อว่าวัดทรายทอง และก่อนหน้านี้ที่บ่อน้ำซับจะมีนายพรานที่ออกล่าสัตว์ เห็นผู้หญิงแต่งตัวสวยงามเดินขึ้นมาจากบ่อน้ำ 4 คน นุ่งสบงเหมือนกับชาววัง ต่อมานายพรานคนดังกล่าวก็มานอนเฝ้าทุก ๆ คืนในวันพระ เพื่อจะได้เห็น เพราะคลั่งไคล้หลงใหลในความสวยงามของหญิงสาวในฝัน แต่วันแล้ววันเล่านายพรานก็ไม่พบเห็นหญิงสาวเหล่านั้นอีกเลย ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีการก่อตั้งวัดป่าห้วยทรายทองนาคชัยพร

ทางด้านนายสุชาติ คุณวงษ์ ผู้ใหญ่บ้านห้วยทราย ได้กล่าวว่า เริ่มแรกชาวบ้านได้ออกไปหาของป่าบนเขาก็ไปพบซากฟอสซิล ต่อมาพระอาจารย์ทองคำ สันตะกาโย เจ้าอาวาสองค์ก่อน พร้อมกับชาวบ้านได้นำซากฟอสซิล หรือโครงกระดูกที่พบมาเก็บรักษาไว้ที่วัดป่าห้วยทรายทองนาคชัยพร และต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 2 กรมทรัพยากรธรณี ขอนแก่น พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ออกมาพิสูจน์พบว่าเป็นชิ้นส่วนของกระดูกสัตว์ยุคดึกดำบรรพ์ ซึ่งในเบื้องต้นเป็นไดโนเสาร์ 3 ชนิด ประมาณกว่า 150 ล้านปี จึงอยากให้มาสร้างพิพิธภัณฑ์ เก็บรักษาไว้ให้ลูกหลาน หรือนักท่องเที่ยวได้เห็น ที่ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นของจริงอยากให้มาเห็นด้วยสายตาตนเอง  

โดยพระอาจารย์ปรีชา ปัญญาสาโร รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าห้วยทรายทองนาคชัยพร ได้กล่าวว่า เนื่องจากเจ้าอาวาสองค์ก่อนได้ย้ายไปจำวัดที่อื่น ทำให้ตำแหน่งเจ้าอาวาสที่วัดแห่งนี้ได้ว่างลง ต่อมาชาวบ้านบ้านห้วยทราย ตำบลหนองบัว อำเภอเมืองจังหวัดหนองบัวลำภู จึงได้เข้าไปพบหลวงพ่อทองพูน ที่วัดป่าภูกระแต เพื่อจะขอพระให้ขึ้นมาจำวัดที่นี่เพื่อให้พาญาติโยมได้ปฎิบัติธรรม โดยหลวงพ่อทองพูนได้ส่งอาจารย์และหลวงปู่ พร้อมกับพระลูกวัดอีก 2 รูป ซึ่งเป็นปฏิปทาของพ่อแม่ครูอาจารย์อยู่แล้ว ในการพาชาวบ้านสวดมนต์ และปฎิบัติธรรมเป็นปกติ 

มาอยู่ช่วงแรก ๆ อาตมาฝันเกือบทุกวันจะฝันเห็นสีกา ลงมาที่วัดวันละ 1 คน บ้าง 2 คนบ้าง ลงมาทุกวัน เป็นพระถ้าฝันแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องไม่ดี จะอยู่ตรงนี้ได้หรือเปล่าน้อ ซึ่งถ้าฝันเห็นสีกาจะไม่ใช่ทางของธรรมะ จากนั้นจึงเล่าความฝันให้ญาติโยมฟัง ญาติโยมจึงได้ไปสร้างกุฎิหลังเล็ก ๆ ให้อยู่บนภูเขาห่างจากที่เดิม ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยฝันเห็นสีกาหรือผู้หญิงอีกเลย ส่วนในความฝันพระอาจารย์มีความรู้สึกว่า ผู้หญิงคนที่พบเห็นเขาเป็นเชื้อพระวงศ์ที่อยู่ในสมัยโบราณ ดูจากการแต่งกายในฝัน ซึ่งตรงนี้อาจจะเป็นเมืองเก่าที่ผู้หญิงคนนี้เคยพักอาศัยอยู่ ซึ่งอาจารย์ก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน

โดยผู้สื่อข่าวได้ตั้งข้อสังเกตว่า อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการ โดยโครงกระดูกไดโนเสาร์ที่พบอายุกว่า 150 ล้านปี ให้คณะนักวิจัยได้นำกระดูกไปทำการวิจัย จนเวลาล่วงเลยมาเกือบ 3 ปี ยังไม่มีการเข้ามาพัฒนาใด ๆ หากการวิจัยศึกษาเรียบร้อย น่าจะสร้างพิพิธภัณฑ์ เพื่อเก็บรักษาร่วมกันพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้ และแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก มาเที่ยวในเมืองรองบ้านเราบ้าง ที่มีสิ่งดี ๆ อีกเยอะเหมาะกับการมาเที่ยวชม และเพื่อเป็นการศึกษาเรียนรู้ให้กับนักเรียนนักศึกษา เดินทางสำรวจแหล่งท่องเที่ยวสายมูตามความเชื่อเกี่ยวกับพญานาค ณ ‘บ่อน้ำซับ’ แหล่งน้ำที่ผุดขึ้นตลอดทั้งปี และเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดหนองบัวลำภูต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top