Tuesday, 6 May 2025
NewsFeed

การเผชิญหน้า 'จลาจล-ประท้วง-เสรีภาพ' ของผู้นำหนุ่ม ในยุค 'วิกฤติเศรษฐกิจ-โซเชียลกำหนดวิธีคิด' ให้ผู้คนลุกฮือ

ไม่นานมานี้ YouTube ช่อง 'Kim Property Live' ได้โพสต์คลิป เล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ การประท้วง การจลาจล ในประเทศฝรั่งเศส โดยได้แสดงความคิดเห็นไว้ว่า ...

วันนี้จะมาชวนคุยเกี่ยวกับประเทศฝรั่งเศส การประท้วง การจลาจล การต่อต้านและความไม่สงบ ภายใต้บริบทของประเทศคิดที่มีความหลากหลาย และสร้างสรรค์ รวมทั้งเป็นเจ้าของแบรนด์หรู ต่างๆ มากมาย ซึ่งวันนี้ต้องเผชิญความท้าทายจากอำนาจของประชาชนภายใต้อิทธิพลสื่อที่ผู้นำหนุ่มแห่งฝรั่งเศสกำลังปวดหัว

โดยเราต้องทำความเข้าใจ เกี่ยวกับรากเหง้าและวัฒนธรรมการประท้วงของฝรั่งเศสกันก่อน ประเทศของเขามีการเคลื่อนไหวมาตั้งแต่ปีค.ศ 1789 ซึ่งเป็นการปฏิวัติฝรั่งเศส และนี่ก็คือเอกลักษณ์ของทางประเทศฝรั่งเศส ที่เกี่ยวกับ เสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพ ประเทศฝรั่งเศสมีการนัดกันหยุดงานและประท้วงกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาพลักษณ์ของประชากรในฝรั่งเศสเป็นคนที่ดูเข้มแข็ง และกล้าท้าทายต่ออำนาจ คนในฝรั่งเศสนั้นมีความรู้ มีการศึกษาค่อนข้างดี และก็ยังมีส่วนร่วมทางการเมืองที่เยอะอีกด้วย อีกทั้งทางด้านสหภาพแรงงานก็เข้มแข็ง ทำให้เกิดการประท้วง ทั้งในฝั่งของคนทำงานและบริษัท จึงทำให้เราเห็นภาพที่วุ่นวาย

อย่างไรก็ตาม ประเทศฝรั่งเศสนั้น ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว มีสินค้าแบรนด์ดัง แบรนด์หรูที่โด่งดังไปทั่วโลกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น หลุยส์วิตตอง Hermes Chanel ยิปแซง Peugeot ยางมิชลิน ห้างคาร์ฟูร์ เครื่องสำอางลอรีอัล Ibis axa แต่ก็แทบจะไร้ค่า เมื่อเทียบกับพลังของผู้คนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวิถีคิดแห่งเสรีภาพค้ำชู

กลับมาพูดกัน ในปัจจุบันของฝรั่งเศส มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง เหตุการณ์มันลุกลามกันมาตั้งแต่ เหตุการณ์เสื้อกั๊กเหลือง ที่คนประท้วงกันในเรื่องของนโยบาย โลกร้อน ขึ้นภาษีน้ำมัน ประชาชนไม่พอใจรัฐบาล ที่นโยบายเอื้อไปทางคนที่ร่ำรวย เพราะว่าประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง มาจากสายของการเงินธุรกิจ 

นอกจากนี้ตัวเขาก็ยังมีแนวคิดที่จะเลื่อนการเกษียณออกไปอีก 2 ปี เนื่องด้วยระบบบำนาญของฝรั่งเศส ดูแลประชาชนไม่ไหวแล้วประชาชนเริ่มที่จะแก่มากขึ้น เงินที่เข้ามาก็น้อย ดอกเบี้ยก็ต่ำ พอยืดเวลาเกษียณออกไปก็ทำให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ เกิดการหยุดทำงานการประท้วงไปทั่วฝรั่งเศส (สำหรับคนไทยนั้นอาจจะตกใจแต่สำหรับคนฝรั่งเศสการ Strike หยุดงานการเดินขบวนการประท้วงนั้น เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว)

ทว่า เหตุการณ์ล่าสุดที่เพิ่มความร้อนแรงให้กับประเทศฝรั่งเศส ทั้งในเรื่องของการเมืองและเรื่องของสังคมนั่นก็คือ การที่ตำรวจท่านหนึ่ง ทำการวิสามัญวัยรุ่นอายุ 17 ปี ซึ่งน้องคนนี้ก็ได้มาจากแอฟริกาเหนือ (ก็ต้องบอกว่าในประเทศฝรั่งเศสนั้นมีความแตกต่างทางด้านเชื้อชาติที่เยอะ มีผู้ที่อพยพเข้าเมืองมาเยอะ และถ้าดูจากแผนที่แล้วประเทศฝรั่งเศสนั้นจะอยู่ทางตอนบนของประเทศซีเรีย ตะวันออกกลาง) 

ฉะนั้นเมื่อมีผู้อพยพเข้ามากันเยอะ เพื่ออาศัยลี้ภัยสงคราม เหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่เลือกปฏิบัติก็เริ่มมีการก่อตัวให้เห็นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ผู้อพยพนั้นก็เติบโตขึ้นมากเช่นเดียวกัน และนั่นก็ทำให้ประชาชนเริ่มไม่พอใจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ (ไม่ชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว) พอมีเหตุการณ์การวิสามัญของเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามา จึงทำให้เกิดความไม่พอใจเกิดขึ้น ทำให้ความรุนแรงปะทุขึ้นมา มีคนยิงพลุใส่ตำรวจ เผารถยนต์ของตำรวจ โดยล่าสุดมีการจับกุมผู้ประท้วงไปแล้ว ประมาณ 1,100 คนจากทั่วประเทศ และปัจจุบันเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 40,000 คนได้เข้าควบคุมสถานการณ์ 

แน่นอนว่า การประท้วงในครั้งนี้ ได้ท้าทายอำนาจของประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง ซึ่งก็ได้มีการเรียกประชุมฉุกเฉินและมีการขอให้ผู้ปกครองนั้นดูแลบุตรหลานให้ดี ให้อยู่กันแต่ในบ้าน ซึ่งทางฝ่ายค้าน ก็ได้ใส่ประธานาธิบดีมาครงทันทีว่าอ่อนแอ ควบคุมกฎหมายไม่ดีรักษาความสงบเรียบร้อยไว้ไม่ได้

ประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง ก็ปวดหัวพอสมควร ปัญหาเก่าก็มีสะสมมาเยอะอยู่แล้ว ทั้งปัญหาเงินเฟ้อ ที่สูงขึ้นไปถึง 6% ตอนนี้ก็ได้ลงมาอยู่ราวๆ 5% แล้ว ส่วนตัวเลข GDP นั้นถึงแม้จะไม่ติดลบแต่ก็ถือว่าแทบจะไม่โตเลย ตัวเลขอยู่ที่ 0.9% เมื่อเศรษฐกิจไม่ดี ค่าครองชีพสูง ประชาชนก็ย่อมจะมีความกดดันสูงอยู่แล้วและเมื่อมีเหตุการณ์ปะทุขึ้นมาอีก จุดเดือดนี้ ก็ได้แพร่ขยายออกไปได้ง่าย 

อย่างไรก็ตาม ในฝั่งของท่านประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง ก็ได้มี Action ต่างๆ เพื่อจะแก้ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องรายได้ ค่าครองชีพ ได้มีการเชิญชวนนักธุรกิจทั่วโลกให้มาตั้งโรงงานที่ประเทศฝรั่งเศส เพราะถ้าโรงงานการผลิตอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส ก็จะเกิดการจ้างงานทำให้คนฝรั่งเศสนั้นมีงานทำเพิ่มขึ้นอีกมากมาย ซึ่งประธานาธิบดีมาครง ก็เคยจีบอีลอนมัสก์ ให้มาสร้างโรงงานแบตเตอรี่ในประเทศฝรั่งเศส 

ขณะเดียวกัน ก็เคยชวนเจ้าสัวซีพีของไทยไปเปิดโรงงานที่ฝรั่งเศส เพราะนโยบายหลักของประธานาธิบดีมาครงนั้น เน้นไปที่พลังงานสะอาด ซึ่งเป็นนโยบายหลักของประเทศในทวีปยุโรปอยู่แล้วที่จะเน้นในเรื่องนี้ เขาไม่อยากจะซื้อพลังงานจากทางด้านประเทศรัสเซีย แต่การขึ้นภาษีดีเซลนั้นก็ยังติดขัดกับพวกเสื้อกั๊กเหลืองอยู่ คนฝรั่งเศสไม่เอาด้วย เพราะว่ามองว่าเป็นการรังแกคนที่จน คนทางภาคเกษตรกรรมนั้นใช้พลังงานดีเซลที่เยอะ แล้วต่อมาเหตุการณ์จลาจลในประเทศฝรั่งเศสนั้นก็ได้ลุกลามไปยังประเทศเบลเยียม ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เกิดการปล้นในเมืองโลซาน โดยยึดประเทศฝรั่งเศสเหมือนโมเดลในการประท้วงการเรียกร้องประชาธิปไตย ประชาชนในหลายประเทศดูฝรั่งเศสเป็นตัวอย่าง

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดการประท้วงการจลาจลแบบนี้ มันก็ส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจ ธุรกิจที่เปิดอยู่ก็ต้องปิดตัวลงไป จะทำการค้าการขายกันก็ไม่ได้ ทำให้เกิดการสูญเสีย ประมาณ 1 billion Euro หรือว่าประมาณ 1,000 ล้านยูโร ซึ่งก็คล้ายคลึงกับบ้านเราถ้าเกิดการประท้วงปิดห้างกันการค้าการขายระบบเศรษฐกิจของบ้านเราก็เสียหาย นอกจากนี้ยังส่งผลเสียต่อการท่องเที่ยวเพราะว่าคนไม่กล้ามาท่องเที่ยวกัน ทำให้เกิดการกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของฝรั่งเศสมากขึ้นไปอีก เพราะฝรั่งเศสนั้นก็เป็นประเทศที่เน้นการท่องเที่ยว ของที่เป็นแบรนด์เนมของที่เป็นแฟชันสัญลักษณ์ของความหรูหรา จนรัฐบาลของฝรั่งเศสจะต้องมาการันตีให้ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว

ถึงตรงนี้ ก็ต้องยอมรับว่า ฝรั่งเศส เป็นประเทศที่มีแนวคิดทางด้านการเมืองที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน มีความเข้มแข็งของประชาชน มีความเข้มแข็งของสหภาพ การมีส่วนร่วมทางการเมืองค่อนข้างสูง แต่อีกด้านหนึ่งก็มักทำให้เกิดการประท้วงการจลาจล ซึ่งต้องยอมรับว่าในช่วงหลัง Social Media ก็มีผลอย่างมากต่อการนำมาซึ่งความรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จากเมื่อก่อนที่เดินขบวนกันแบบสันติ แต่ปัจจุบันก็ได้ รุนแรง จนเกินต้านจากการปลุกปั่นในออนไลน์

‘ซีพีเอฟ’ ประเดิม 3 เมนูให้นักบินปลายปี 66 กระเพราไก่จานแรก ส่วนอีก 2 เมนูรอพัฒนา

นำร่อง ‘ไก่ไทย’ สู่อวกาศปลายปี 66 ซีพีเอฟประเดิม 3 เมนู ส่งกระเพราไก่จานแรก ส่วนอีก 2 เมนูอยู่ระหว่างการพัฒนา หลังเป็นสินค้าแบรนด์แรกของโลกที่ได้รับการยอมรับจากองค์การนาซาให้ส่งสินค้าให้นักบินรับประทาน

(11 ก.ค. 66) นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ‘ซีพีเอฟ’ (CPF) เปิดเผยว่า ซีพีเอฟจะเริ่มส่งอาหารให้กับองค์การนาซา สำหรับให้นักบินอวกาศรับประทานประมาณปลายปี 66

ทั้งนี้ เบื้องต้นจะเริ่มนำร่องส่ง ‘ไก่ไทย’ ด้วย 3 เมนู ได้แก่ กะเพราไก่ และอีก 2 เมนูอยู่ระหว่างการพัฒนา จากปกตินักบินอวกาศจะรับประทานอาหารเม็ด แคปซูล ที่ทางองค์การนาซาเป็นผู้ผลิตให้เท่านั้น

“ซีพีเอฟถือเป็นสินค้าแบรนด์แรกของโลกที่ได้รับการยอมรับจากองค์การนาซา ให้ส่งอาหารขึ้นไปให้กับนักบินอวกาศรับประทานด้วยเมนูไก่แปรรูป”

สำหรับการนำอาหารขึ้นไปบนอวกาศนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะนักบินอวกาศต้องการอาหารที่มีความปลอดภัยสูงสุด ผ่านการคัดเลือกอย่างถี่ถ้วนทุกขั้นตอน การนำไก่ไทยขึ้นไปสู่อวกาศได้ ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับอนาคตอาหารของประเทศไทย

รวมถึงเป็นจุดแข็งของคนไทยเรื่องการผลิตอาหารที่มีคุณภาพสูงให้คนทั่วโลก ดังนั้นการส่งอาหารขึ้นไปบนอวกาศจะทำให้ทั่วโลกได้รับทราบว่าอาหารของซีพีเอฟ มีมาตรฐานและความปลอดภัยสูง โดยช่วยแรกบริษัทได้รับมาตรฐานด้านไก่ สดที่ไม่มีสารปนเปื้อน การเลี้ยงที่ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ ขั้นตอนต่อไปอยู่ระหว่างขอมาตรฐานอาหารแปรรูป

ปัจจุบันไก่เป็น 1 ในสินค้าส่งออกของไทยมากถึงปีละกว่า 1 แสนล้านบาท มากเป็นอันดับ 4 ของโลก โดยที่ซีพีเอฟส่งออกปีละประมาณ 25,000-30,000 ล้านบาท สัดส่วน 25% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งเป็นกลุ่มอาหารแปรรูป 50% ส่วนใหญ่ส่งออกไปอังกฤษ ญี่ปุ่น และเยอรมนี

ขณะที่ปีนี้จะเน้นสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าไก่ ให้เข้ากับแต่ละประเทศและการขยายโรงงานในประเทศฟิลิปปินส์ ที่เป็นธุรกิจไก่ หมู กุ้ง ไข่ เพิ่มเพื่อรองรับความต้องการที่ขยายตัว คาดว่าปีนี้มีรายได้รวม 660,000 ล้านบาท

‘อัญยา เมดิเทค’ ประกาศเดินหน้าธุรกิจ - ขยายตลาด พร้อมขึ้นแท่นผู้นำศูนย์บริการด้านสุขภาพเพื่อการนอนหลับ

อัญยา เมดิเทค มั่นใจพร้อมขึ้นแท่นผู้นำศูนย์บริการด้านสุขภาพ เพื่อการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ หลังดึงวรวุฒิ อุ่นใจ นักธุรกิจมือฉมัง ระดับแถวหน้าของประเทศร่วมลงทุน และให้คำปรึกษาในการบริหารจัดการ พร้อมผุดกลยุทธ์ขยายตลาด Healthcare เพิ่ม Co-Investors ทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกภูมิภาค ปรับโครงสร้างราคาเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้ารับการบริการได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ปักธงขยายบริการให้ครอบคลุมทั้งในส่วนเรื่องการนอนและการป้องกันโรคโดยเน้น เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ 

(11 ก.ค. 66) คุณทักษอร (อุ้ม) คงคาประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัญยา เมดิเทค จำกัด เปิดเผยว่า “ปัญหาการนอนไม่มีคุณภาพ เป็นภัยเงียบใกล้ตัว และคือหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โรคเรื้อรังไม่ติดต่อ เช่น เบาหวานความดัน หัวใจ อัลไซเมอร์ และโรคภัยต่างๆ อีกมากมาย การนอนไม่มีคุณภาพเป็นปัญหาที่ทุกคนไม่ควรนิ่งนอนใจและไม่สามารถเพิกเฉยได้ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (OBSTRUCTIVE SLEEP APNEA: OSA) มีการกล่าวถึงกันมากในปัจจุบัน เนื่องจากพบสถิติตัวเลขอุบัติการณ์ที่เป็นกันมากขึ้น คือ มีตัวเลขประชากรเกือบ 20% ที่อาจมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นนี้ รวมทั้งข้อมูลจากต่างประเทศพบว่า ประชากรทั้งโลกป่วยเป็นภาวะนี้ประมาณ 1 พันล้านคน หรือประมาณ 14% ของประชากรทั้งโลก ซึ่งจำนวนผู้ป่วยที่เป็นมากขึ้นในปัจจุบันทำให้เราต้องให้เกิดการ screening และ monitoring มากขึ้น

อัญยา เมดิเทค เรามุ่งเน้นการรักษาเชิง Preventive care ซึ่งเป็นศาสตร์ป้องกันโรค ตั้งแต่เรื่องการนอน จนถึงการดูแลรักษาที่เน้นความร่วมมือกับทีมบริษัทที่มีนวัตกรรมทางการแพทย์ ซึ่งในวันนี้เรามีความพร้อมที่จะที่จะขยายตลาด และฐานลูกค้าให้กว้างมากขึ้น โดยเราได้เริ่มดำเนินการมีแผนการขยายสาขาเปิดรับ Co-Investors ทั้งในประเทศ ครอบคลุมทุกภูมิภาคและต่างประเทศ ภายในสิ้นปีนี้เราตั้งใจว่าจะขยายไปยังเมืองใหญ่ต่าง ๆ ทั่วภูมิภาค โดยประเดิม Co investor ที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลาเป็นแห่งแรก ซึ่งกลุ่มลูกค้าจะเป็นคนในพื้นที่ รวมไปถึงนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซีย ประกอบกับกลยุทธ์ในการปรับโครงสร้างราคา ยิ่งทำให้เรามั่นใจว่าทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการรักษาได้มากขึ้น 

โดยในช่วงที่ผ่านมาอัตราการเติบโตของยอดจำหน่าย และการเข้ารับรักษานั้นเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมถึง 30% และคาดว่าจะยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องอีกแน่นอนค่ะ”

นายวรวุฒิ อุ่นใจ หนึ่งในผู้ถือหุ้น กุนซือใหญ่ บริษัท อัญยา เมดิเทค ได้กล่าวถึงการเข้ามาร่วมลงทุนในธุรกิจนี้ว่า “หลังวิกฤติโควิด-19 คลี่คลาย จนนำมาซึ่งการเปิดประเทศ ทำให้ผู้คนให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพกันมากขึ้นจนกลายเป็นเทรนด์สุขภาพ ในปี 2566 ดังนั้น จึงเป็นโอกาสสำหรับประเทศไทยที่จะเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาประเทศไทยแลนด์ 4.0 ที่ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร เป็น 1 ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายกลุ่ม New S-curve ซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต โดยการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมเพื่อพัฒนาเพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ตามความก้าวหน้าทางการแพทย์ ระบบสาธารณสุข และเทคโนโลยีของโลกที่มีการเติบโตขึ้น ซึ่งความก้าวหน้าของบริการทางการแพทย์เหล่านี้จะสร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมการแพทย์ นั่นจึงเป็นที่มาของการมาร่วมลงทุนดำเนินธุรกิจกับ อัญยา เมดิเทค ในครั้งนี้จะเพื่อเปิดประตูสู่การขยายธุรกิจ และเพื่อปูทางสู่การผลักดันการแพทย์ใหม่ๆ และนั่นทำให้ผมมั่นใจครับว่า การเข้ามาถือหุ้น และ ทำธุรกิจ อัญยา เมดิเทค นั้นมีโอกาสการเติบโตทางธุรกิจที่สูงมาก และเชื่อว่า เราจะทำให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงการรักษาได้ง่ายมากยิ่งขึ้นจากการปรับโครงสร้างราคาและการรุกตลาดตามแผนที่บริษัทฯ ได้วางไว้”

‘ตุรกี’ ไฟเขียว!! เปิดทางให้ ‘สวีเดน’ ร่วมเป็นสมาชิกใหม่นาโต พร้อมเร่งหารือกรณี ‘ยูเครน’ ขอร่วมพันธมิตรท่ามกลางภาวะสงคราม

(11 ก.ค. 66) สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม นายเรเจพ เทยิพ แอร์โดอาน ประธานาธิบดีตุรกียินยอมที่จะส่งเรื่องการขอเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ของสวีเดนเข้าสู่รัฐสภาตุรกีให้เร็วที่สุด ถือเป็นการสิ้นสุดประเด็นขัดแย้งที่สร้างความตึงเครียดให้กับนาโตนานหลายเดือน ขณะที่การสู้รบในประเทศยูเครนยังคงดำเนินต่อไป

ทั้งประเทศสวีเดนและฟินแลนด์ได้ยื่นขอเข้าเป็นสมาชิกนาโตเมื่อปีที่แล้ว เพื่อตอบสนองต่อการที่รัสเซียนำกำลังทหารเข้ารุกรานยูเครนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว แม้ฟินแลนด์ได้รับการอนุมัติให้เข้าเป็นสมาชิกของนาโตเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ทั้งประเทศตุรกีและฮังการียังคงขัดขวางการขอเข้าเป็นสมาชิกนาโตของสวีเดน ซึ่งทางสวีเดนเองก็กำลังเดินหน้าเพื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโตในการประชุมผู้นำชาติสมาชิกที่จัดขึ้นที่กรุงวิลนีอุส เมืองหลวงของประเทศลิทัวเนีย ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 11 กรกฎาคม

นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโตกล่าวในการแถลงข่าวว่า “ผมมีความยินดีที่จะประกาศว่า ประธานาธิบดีแอร์โดอานได้เห็นพ้องที่จะยื่นพิธีสารการเข้าเป็นสมาชิกของสวีเดนไปยังสมัชชาแห่งชาติให้เร็วที่สุด และทำงานกับสมัชชาแห่งชาติอย่างใกล้ชิด เพื่อรับรองการให้สัตยาบัน”

ประธานาธิบดีแอร์โดอานของตุรกีและนายอุล์ฟ คริสเตอซ็อน นายกรัฐมนตรีสวีเดนมีการหารือกันนานหลายชั่วโมงก่อนหน้าการประชุมผู้นำนาโตเพื่อหวังที่จะฝ่าทางตันในประเด็นดังกล่าวระหว่างทั้งสองชาติ หลังก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีแอร์โดอานของตุรกีกล่าวหาว่าสวีเดนไม่ได้พยายามมากพอที่จะจัดการกับสมาชิกพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน (พีเคเค) ที่ตุรกี สหภาพยุโรป (อียู) และสหรัฐฯ จัดให้เป็นองค์กรก่อการร้าย

นายกรัฐมนตรีคริสเตอซ็อนของสวีเดนกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “นี่คือวันที่ดีสำหรับสวีเดน” แถลงการณ์ร่วมที่ออกโดยทั้งสวีเดนและตุรกีระบุว่า สวีเดนได้เน้นย้ำว่าจะไม่สนับสนุนกลุ่มชาวเคิร์ดและจะสนับสนุนความพยายามในการเข้าเป็นสมาชิกอียูของตุรกี ขณะที่แอร์โดอานกล่าวว่า “อียูควรที่จะเปิดทางให้กับการขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกอียูของตุรกี ก่อนที่รัฐสภาตุรกีจะอนุมัติการขอเข้าเป็นสมาชิกนาโตของสวีเดน”

ก่อนหน้านี้ เสนาธิการของนายวิกเตอร์ ออร์บัน นายกรัฐมนตรีฮังการีได้กล่าวเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่าจะไม่ขัดขวางการให้สัตยาบันขอเข้าเป็นสมาชิกนาโตของสวีเดนอีกต่อไป ทำให้การยินยอมของตุรกีจะเป็นการกำจัดอุปสรรคสุดท้ายในการเข้าร่วมนาโตของสวีเดน

นอกจากประเด็นเรื่องสวีเดนแล้ว บรรดาผู้นำของชาติสมาชิกนาโตเตรียมที่จะมีการหารือกันในการประชุมผู้นำที่กรุงวิลนีอุส เพื่อหวังที่จะก้าวข้ามความแบ่งแยกในเรื่องการที่ประเทศยูเครนขอเข้าเป็นสมาชิกของนาโตเช่นกัน โดยในการประชุมดังกล่าวจะมีการพูดคุยกันถึงผลสะท้อนของการที่รัสเซียส่งกองทัพเข้ารุกรานยูเครน โดยบรรดาผู้นำชาติสมาชิกเตรียมที่จะอนุมัติแผนครอบคลุมที่ระบุว่า ชาติสมาชิกนาโตจะตอบสนองต่อการโจมตีของรัสเซียอย่างไร ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นาโตมีการร่างแผนในลักษณะดังกล่าวขึ้นมานับตั้งแต่ช่วงสิ้นสุดสงครามเย็น

ถึงแม้ว่าสมาชิกนาโตหลายคนเห็นพ้องกันว่า ยูเครนจะยังไม่สามารถเข้าเป็นสมาชิกของนาโตได้ ขณะที่ยังมีสงครามกับรัสเซีย แต่พวกเขายังคงเสียงแตกว่ายูเครนจะสามารถเข้าเป็นสมาชิกนาโตได้เร็วที่สุด เมื่อใดหลังสิ้นสุดสงครามและภายใต้เงื่อนไขใด ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวด้วย ได้กดดันให้นาโตกำหนดแนวทางที่ชัดเจนในการเข้าเป็นสมาชิกนาโตของยูเครนในแถลงการณ์ของที่ประชุม เพื่อที่ยูเครนจะสามารถเข้าเป็นสมาชิกนาโตได้หลังสิ้นสุดสงครามกับรัสเซีย

บรรดานักการทูตระบุว่า การยืนยันว่ายูเครนมีตำแหน่งอันชอบธรรมในนาโต และจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกทันทีเมื่อเงื่อนไขต่าง ๆ เอื้อต่อการเข้าเป็นสมาชิก จะเป็นหนึ่งในข้อความที่จะมีการพูดคุยกันสำหรับแถลงการณ์ของที่ประชุม นอกจากนั้นแล้ว การเจรจาต่าง ๆ จะให้ความสำคัญไปที่เงื่อนไขการเข้าเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน และจะติดตามขั้นตอนการดำเนินการดังกล่าวอย่างไร

‘โบว์ ณัฏฐา’ กระเทาะมุมการเมือง ‘พอล ภัทรพล’ ชี้!! กดดัน 188 ส.ส.โหวตพิธา “มันไปกันใหญ่แล้ว”

(11 ก.ค. 66) จากประเด็นที่ ‘พอล ภัทรพล’ อดีตพิธีกรและนักแสดงชื่อดัง ได้ออกแสดงความเห็นทางการเมือง โดยการกดดัน ส.ส. 188 เสียง ให้มาโหวต ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ เป็นนายกฯ เนื่องจากบริบททางการเมืองที่ไม่ปกติ รวมถึงยังมีเสียงแตกของ ส.ว. เป็นการสื่อให้เห็นถึงการการเรียกร้องเพื่อที่จะทำให้เสียงข้างมากได้ทำงานนั้น ทาง ‘คุณโบว์ ณัฏฐา มหัทธนา’ ผู้ดำเนินรายการ Ringside การเมือง ได้กล่าวประเด็นดังกล่าว โดยมองว่ายังไม่ถูกต้อง

ขณะที่ด้านพิธีกรร่วมอย่าง คุณตรีณปางศ์ มณีชาตรี ก็ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “เรามองเห็นว่า ‘คุณพอล’ เป็นบุคคลที่มีศักยภาพที่จะให้ความเห็นในเรื่องของการลงทุน หรือการเทรดเงินต่าง ๆ ซึ่งอันนี้ก็ต้องยอมรับว่าเขามีความรู้ในเรื่องนี้จริง แต่พอมาให้ความเห็นในเรื่องทางการเมือง เขายังไม่รู้จริงในหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งมันก็สะท้อนให้เห็นได้ง่าย ๆ ผ่านข้อความที่เหมือนกับถูกสคริปต์มา จากข้อมูลที่ไปได้มาอีกด้านหนึ่ง ซึ่งเจ้าตัวไม่ได้มองเห็นบริบททางการเมืองทั้งระบบ เพราะฉะนั้นเราเองก็รู้สึกว่าแค่พอฟังได้”

ด้าน ‘โบว์ ณัฏฐา’ เสริมต่อว่า “รับฟังได้ แต่รู้สึกว่ามันฟังไม่ขึ้น เพราะล่าสุดที่ได้ฟังมารู้สึกเลยว่า ในเชิงหลักการมันผิด อย่าง ส.ส. แต่ละคนจากพรรคการเมืองที่อยู่ในด้าน 188 เสียง ตอนเขาไปหาเสียง เขาพูดอะไร? นี่คือคุณรวมพวกแบบรวมไทยสร้างชาติด้วยนะ อย่างรวมไทยสร้างชาติตอนไปหาเสียงมันก็ตรงกันข้ามกับก้าวไกลและคุณพิธา คือไม่เอาแนวทางนำพาบ้านเมืองแบบนี้ และประชาชนก็ได้เลือกเขามา และคนเหล่านั้นเป็นประชาชนเช่นกัน เมื่อถึงเวลาคุณจะมาบอกให้เขาเอาเสียงที่ได้รับมาจากประชาชน เพื่อไปโหวตให้กับสิ่งที่ตรงกันข้ามกับเจตนารมณ์ของโหวตเตอร์เขาเหรอ? มันไปกันใหญ่แล้ว”

‘ภรรยา’ สุดเศร้า พาลูก 2 คน รับศพ ‘วิศวกร’ สะพานถล่ม เผย สามีเป็นคนรักงานมาก รับจากกันเร็วเกินกว่าจะทำใจได้

(11 ก.ค. 66) ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ นางวินุด แสนสีมล อายุ 38 ปี ภรรยา พร้อมลูกชาย 2 คน วัย 6 ปี และ 13 ปี รวมถึงญาติพี่น้องของนายฉัตรชัย ประเสริฐ วิศวกรโครงการก่อสร้างสะพานทางยกระดับอ่อนนุช-ลาดกระบัง ที่เสียชีวิตจากเหตุสะพานถล่ม เดินทางมายื่นเอกสาร เพื่อขอรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดพังกิ่ง ตำบลสมหวัง อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง

นางวินุด เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจมาก การจากไปของสามีเกิดขึ้นรวดเร็วเกินกว่าจะทำใจได้ สามีเป็นคนรักงานในอาชีพวิศวกรเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้ทำงานอยู่ที่ จ.สตูล โดยจะเดินทางกลับบ้านที่ กทม. 1-2 เดือนครั้ง กระทั่งย้ายมาทำงานที่โครงการดังกล่าวได้ประมาณ 4 เดือน ถือเป็นโอกาสดีที่ได้มาอยู่ใกล้บ้านและครอบครัว

นางวินุด กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเขารักและทุ่มเทกับการทำงานเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้ไม่มีลางสังหรณ์อะไร สามีออกไปทำงานตามปกติ ส่วนสาเหตุตนยังไม่ทราบและไม่กล้าจะฟันธง ที่ผ่านมาทางบริษัทได้เข้ามาติดต่อพูดคุยแสดงความเสียใจแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ขอให้จัดการงานศพให้เสร็จสิ้นเรียบร้อยก่อน

สำหรับผลการชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นเกิดจากของแข็งกระแทกบริเวณศีรษะ ทางครอบครัวจะเคลื่อนร่างกลับไปบำเพ็ญกุศลยังภูมิลำเนา ในวันพรุ่งนี้ (12 ก.ค.) เนื่องจากรอบิดาและมารดาของผู้เสียชีวิตที่กำลังเดินทางมาจาก จ.พัทลุง เพื่อมารับศพกลับไปบำเพ็ญกุศล

‘ต๋อง ศิษย์ฉ่อย’ เล่านาทีโดนหลอกจนสูญเงิน 3.2 ล้าน เผย!! ช่วงแรกผวา ‘นอนไม่หลับ-กินข้าวไม่ลง’ รู้สึกเหนื่อย

(11 ก.ค.66) สืบเนื่องจากกรณีข่าวแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นตำรวจหลอกลวง นายวัฒนา ภู่โอบอ้อม หรือ ‘ต๋อง ศิษย์ฉ่อย’ ให้โอนเงินสูญเงินไป 3.2 ล้านบาท

ล่าสุด ‘ต๋อง ศิษย์ฉ่อย’ ได้มาเปิดใจผ่านรายการ ‘คุยแซ่บ Show’ เผยนาทีโดนหลอกสูญเงิน 3.2 ล้าน ท้อใจโอกาสได้เงินคืนไม่ถึง 1%

ต๋อง เผย ชีวิตหลังโดนหลอกรู้สึกเข่าแทบทรุด การใช้ชีวิตหลาย ๆ อย่างเปลี่ยนไป ต้องไปปิดอายัดบัญชีธนาคารทั้งหมด เบอร์โทรศัพท์มือถือก็ต้องเปลี่ยนใหม่ ผลกระทบที่เกิดขึ้นเยอะมาก และเราก็ต้องประหยัดขึ้น ทำอะไรระวังตัวเองมากขึ้น ยอมรับว่าช่วงเกิดเหตุ 2 สัปดาห์แรกนอนหลับไม่สนิท กินข้าวก็ไม่ลง รู้สึกเหนื่อย และใช้ความคิดค่อนข้างเยอะ บอกเลยว่าไม่โดนด้วยตัวเองไม่มีทางเข้าใจ

‘บิ๊กป้อม’ กร้าว!! ไม่เอาพรรคแก้ ม.112 ย้ำ ส.ส. ในพรรค ออกเสียงโหวตเป็นเอกภาพ

(11 ก.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า ในที่ประชุม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเป็นประธาน ใช้เวลาหารือถึงทิศทางการโหวตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 13 ก.ค.นี้ ค่อนข้างนาน และได้เปิดให้ ส.ส.แสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย โดยช่วงหนึ่ง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “พรรคเราต้องเป็นเอกภาพ เราจะไม่เอาคนที่ไม่เอามาตรา 112 และวันที่ 13 ก.ค.นี้ อาจจะโหวตงดออกเสียง” 

ขณะที่ ส.ส.อาวุโสรายหนึ่งได้แสดงความเห็นว่า มองว่าการงดออกเสียงก็เหมือนกับไม่เห็นชอบแล้ว ขณะนี้กระแสสังคมค่อนข้างแรง ถ้าโหวตไม่เห็นชอบเลยอาจจะมีผลกระทบ ต่อส.ส.ในพื้นที่ 

ด้านร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือได้ แสดงความเห็นว่าส.ว.หลายคนออกมาให้สัมภาษณ์ว่าจะลงมติงดออกเสียง จนพล.อ.ประวิตร ระบุว่า ค่อยว่ากันอีกทีในวันโหวต ทั้งนี้ระหว่างประชุม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ประกาศวางมือทางการเมือง และลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โดยเมื่อนายมิ่งขวัญเห็นข่าว จึงได้แจ้งกับที่ประชุมว่า พล.อ.ประยุทธ์วางมือทางการเมือง แต่ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้พูดอะไร เช่นเดียวกับ ส.ส.ที่ไม่ได้แสดงความเห็นอะไรต่อเรื่องนี้

อ๋อม - สกาวใจ พูนสวัสดิ์ นักแสดงชื่อดัง อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย โพสต์อินสตาแกรม oomsakaojai

(12 ก.ค. 66) จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศวางมือทางการเมือง

ล่าสุด อ๋อม - สกาวใจ พูนสวัสดิ์ นักแสดงชื่อดัง อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย โพสต์อินสตาแกรม oomsakaojai ระบุว่า ประกาศวางมือแล้วยังไม่พอนะ แต่ต้องสำนึกผิดและขอรับโทษกับการก่อกรรมที่ทำไว้ด้วย และย้ายบ้านซะ เปลืองงบว่ะ จะดีกว่าแค่วางมือ

‘ท่าน ว.วชิรเมธี’ อาลัยโยมพ่อ ‘อุ้ยติ๊บ บุญถึง’ ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ ในวัย 92 ปี

(12 ก.ค. 66) หลังป่วยมาหลายปี ล่าสุดมีรายงานว่าพ่ออุ้ยติ๊บ บุญถึง ซึ่งเป็นโยมพ่อของพระนักพูด-นักเขียนชื่อดัง ‘ว.วชิรเมธี’ หรือ ‘พระเมธีวชิโรดม’ ได้เสียชีวิตลงแล้วอย่างสงบในวัย 92 ปี

สำหรับพิธีศพของพ่ออุ้ยติ๊บ บุญถึง จะจัดขึ้นที่สุญญาตาคาร ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน ตำบลห้วยสัก อำเภอเมืองเชียงราย เชียงราย ก่อนจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top