Friday, 9 May 2025
NewsFeed

‘วันนอร์’ นั่งประธานสภาฯ ใต้แรงกดดันรอบทิศ หนุนแยกดินแดน-ไม่เคยมีพรรค 9 เสียงได้นั่งบัลลังก์

ทันทีที่กรณีมีรายงานว่า พรรคเพื่อไทย (พท.) เตรียมเสนอชื่อคนกลาง อย่าง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคและส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ (ปช.) ชิงตำแหน่งประธานสภาฯ ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม ว่ามีมากน้อยแค่ไหน?

แน่นอนว่า ในมุมของนายวันนอร์ฯ เอง แม้จะระบุว่า ยังไม่ได้ยินซุ่มเสียงที่เพื่อไทยเสนอเป็นประธานรัฐสภา แต่ถ้าให้รัฐบาลประชาธิปไตยเดินต่อได้ ก็จำเป็นต้องรับ

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เคยกล่าวไว้อย่างน่าสนใจ ถึงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหากไปตกอยู่ที่ นายวันนอร์ฯ ก็อาจจะไม่เหมาะนัก เนื่องจากพรรคประชาชาติเองก็มีเสียง ส.ส.เพียง 9 เสียงเท่านั้น การจะยกตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรควรยกให้กับพรรคที่มีเสียงข้างมาก เช่น พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล หรือพรรคที่มีเสียงที่พอฟัดพอเหวี่ยง

นั่นหมายความว่า หากพิจารณาโดยนำกรณีดังกล่าวนี้ไปเปรียบกับ ปี 2562 สมัยพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และมีการเสนอชื่อ คุณชวน หลีกภัย เป็นประธานสภาฯ จากพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยิ่งถือเป็นคนละกรณีกัน เพราะตอนนั้นพรรคประชาธิปัตย์ ได้เสียงกว่า 50 เสียง 

ยิ่งไปกว่านั้น หากมองแคนดิเดตโดยเนื้อแท้ เช่น ‘หมออ๋อง’ ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลกจากพรรคก้าวไกล , นายณัฐวุฒิ บัวประทุม จากพรรคก้าวไกล และ น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว ก็ล้วนแต่เหมาะสมกับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรทั้งสิ้น เพราะนายณัฐวุฒิ ถือเป็นคนมีเหตุผล ทำการบ้าน และเป็น ส.ส.ที่อภิปรายได้ดี เช่นเดียวกับ นพ. ชลน่าน ก็เคยเป็นถึงผู้นำฝ่ายค้าน มีฝีมือ เป็นดาวสภามาก่อน แต่หากทั้ง2 ฝ่ายตกลงกันไม่ได้ ก็คงต้องลุ้นในสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง ว่าจะมีการเสนอเชื่อประธานสภาฯ มากกว่า 1 รายชื่อหรือไม่

ฉะนั้น เมื่อวันนี้แคนดิเดตยังไม่ชัด และพร้อมเป็นปมซัดให้พรรคฝ่ายประชาธิปไตยเกิดภาพความขัดแย้งกระจายไปถึงเหล่าด้อมประชาธิปไตย การดันชื่อของ ‘นายวันนอร์’ ผุดขึ้นมา ที่ว่ากันโดยคุณสมบัติ และพรรษาการเมืองสูง ก็ดูเหมือนจะเป็นไป ‘ทางออก’ เพื่อยุติปัญหาระหว่าง ‘ก้าวไกล’ กับ ‘เพื่อไทย’ ที่ว่ากันว่าต้องมีการเอาตำแหน่งรัฐมนตรีไปต่อรองกัน ถ้าก้าวไกลหรือเพื่อไทยจะได้เป็นประธานสภาฯ อีกด้วย และหมากนี้ ‘เพื่อไทย’ อาจมีแต้มต่อ จากการที่เป็นอดีตคนคุ้นเคยกับก๊วนโทนี่

อย่างไรก็ตาม วิบากกรรมแห่งผู้นั่งบัลลังก์สูงสุดในสภาฯ ในเชิงของภาคประชาสังคม ก็น่าจะยังคงตั้งคำถามกับ นายวันนอร์ฯ หนักพอตัว หลังจากถูกกล่าวหาว่า พรรคประชาชาติสนับสนุนการทำประชามติแบ่งแยกดินแดนของนักศึกษา แม้นายวันนอร์ฯ เองจะชี้แจงว่าตนเพียงแค่ได้รับเชิญให้ไปพูดคุยทางวิชาการในมหาวิทยาลัย ส่วนเรื่องการทำประชามติเป็นเรื่องกิจกรรมของนักศึกษา และตนก็ไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับการทำประชามติแบ่งแยกดินแดน เพราะขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 1 ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้ก็ตาม...เพียงแต่แรงกระเพื่อมนี้ ก็ปฏิเสธไม่ได้ที่จะทำให้เกิดข้อกังขาจากสังคมต่อคุณสมบัติของนายวันนอร์ 

ทว่าเรื่องนี้จะจบลงเช่นไร ใครจะได้นั่งแท่นบัลลังก์ผู้นำสภาฯ เชื่อว่าอีกไม่กี่วันก็คงจะรู้ผล!!

‘ประชาชน’ พร้อมใจปักหลักรอรับเสด็จในหลวง-พระราชินี ทรงเป็นประธานในพิธีเปิดประชุมรัฐสภา ณ สัปปายะสภาสถาน

วันนี้ (3 ก.ค. 66) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดประชุมรัฐสภา ครั้งแรก ณ ห้องประชุมอาคารรัฐสภา ในเวลา 17.00 น. 

สำหรับบรรยากาศโดยรอบอาคารรัฐสภา สื่อมวลชนทยอยมารออยู่บริเวณรอบนอก ส่วนทางด้านหน้ามีประชาชนสวมเสื้อสีเหลืองทยอยจับจองพื้นที่เพื่อรอรับเสด็จ แม้ช่วง 10.15 น. จะมีฝนโปรยปรายลงมาบ้าง แต่ก็ยังคงปักหลักไม่ลุกหนีไปไหน

หนึ่งในประชาชนที่มารอรับเสด็จฯ ‘นายธีรพงษ์ กองฉันทะ’ เดินทางมาจากเชียงรายตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม หลังได้ทราบข่าวจากกลุ่มจิตอาสาภาคประชาชน ตั้งใจมารอรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

ในขณะที่ ‘นางดวงใจ ตั้งตระกูล’ เดินทางผ่าฝนมาจากเขตหนองจอก โดยได้พายเรือออกจากบ้านตั้งแต่ตี 3 ต่อรถ ต่อเรือ เพื่อมารอรับเสด็จฯ เช่นกัน โดยนางดวงใจกล่าวว่า “ไม่ว่าฝนจะตก แดดจะออก ก็ไม่ถอย เพราะต้องการมาเป็นกำลังใจให้กับในหลวง ตนตื้นตันทุกครั้งที่ได้กล่าวคำว่าทรงพระเจริญ”

‘โบกี้ไลอ้อน’ เปิดใจ ‘โรคจิตเวชรุมเร้า-เคยดีไซน์การตายตัวเอง’ แต่มีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจไว้ คือ ‘อยากตายแต่เสียดายจินตนาการ’

(3 มิ.ย. 66) รายการ WOODY INTERVIEW กับศิลปินสาวเสียงดีที่มาแรงแห่งยุค โบกี้-พิชญ์สินี วีระสุทธิมาศ หรือ โบกี้ ไลอ้อน ใครจะรู้ว่าเบื้องหน้าบนเวทีที่ดูสวยเป๊ะ แต่ลึกๆ นั้นเธอเป็นคนที่ไม่มั่นใจในตัวเองอย่างมาก คิดว่าไม่สวยตั้งแต่เด็กจนโต อีกทั้งยังเป็นโรคทางจิตเวชรุมเร้า เคยคิดสั้นถึงขั้นอยากดีไซน์การเสียชีวิตด้วยตัวเอง เผยเรื่องเบื้องลึกชีวิตครอบครัว และความคลั่งรักถึงขั้นเคยขอแฟนแต่งงาน

>> ที่บอกว่าโบกี้มีปัญหาทางจิตเวชเป็นอะไรบ้าง

เป็นโรควิตกกังวล (Anxiety Disorder), โรคภาวะตื่นตระหนกเฉียบพลัน (Panic Disorder), โรคซึมเศร้า (Depress) และโรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive Compulsive Disorder)

>> สาเหตุเกิดจากอะไร เริ่มจากตรงไหน

เริ่มจากอาการนอนไม่หลับก่อน คือไม่สามารถพูดได้ว่าอันไหนคืออันแรก เพราะจริง ๆ น่าจะเป็นมาตลอดชีวิต แต่ไม่รู้ว่าสิ่งที่เป็นมันคือโรค โบเป็นคนแบบว่าชอบซื้อของไว้เยอะ ๆ สมมติชอบอะไรอย่างหนึ่งก็จะย้ำอยู่แต่แบบนั้น เช่น วันนี้ฉันจะซื้อสบู่ ในหัววันนั้นก็จะคิดซื้อสบู่ๆ จะกดสบู่ไปเรื่อยๆ ซื้ออีกๆ ทำให้อะไรก็ตาม สบู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน แม้กระทั่งต่างหูเสื้อผ้า จะมีซ้ำกันมากกว่า 10 ชิ้น ก็เราคิดว่าสิ่งนี้ปกติ ถ้าน้ำมันหมด หมดของคนอื่นอาจจะมีใกล้หมดจริงๆ ขีดแดง แต่หมดของโบคือเกินครึ่งถังแปลว่าหมด คือเป็นคนค่อนข้างล่วงหน้าอันนี้ก็คิดว่าเนี่ยอาจจะเป็นข้อดีของเราไหมเพราะว่าเราเป็นคนล่วงหน้ามากๆ แล้วก็เตรียมพร้อมไว้กับสถานการณ์ทุกอย่าง แต่ความจริงมันไม่ใช่มันเป็นโรค แล้วก็เรื่อง Depression ภาวะซึมเศร้า ก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นหรืออะไร แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเอง เห็นคุณค่าในตัวเองต่ำมาก ไม่สามารถหาข้อดีของตัวเองได้ตั้งแต่เด็กจนโต แล้วก็เวลาขึ้นเวทีส่องกระจกทีไร รู้สึกไม่สบอารมณ์ตลอดเลย เพราะรู้สึกว่าทำไมเราน่าเกลียดอย่างงี้ตั้งแต่เด็กจนโต หาข้อเสียของตัวเองเจอตลอดเวลา เราอาจจะคิดว่าเราร้องเพลงได้แต่ว่าเราก็ร้องเพลงไม่ได้ดีขนาดนั้น บางทีอาจจะคิดว่าเราสวยแต่ว่าเราสวยเพราะเราแต่งรูปอะไรแบบนี้ มันจะหาข้อโต้แย้งมาตลอด บวกถึงเรื่องการอยู่คนเดียวแล้วมีความรู้สึกแบบการคิดสั้น ไม่รู้ว่าเรียกว่าคิดสั้นได้หรือเปล่า อยากดีไซน์การเสียชีวิตด้วยตัวเองอะไรแบบนั้น รวมถึงอาการ Panic ก็คือกลัวอะไรบางอย่าง อย่างรุนแรง เช่น กลัวตัวเองเข้าโรงพยาบาล กลัวตัวเองป่วย แล้วก็อ่อนไหวกว่าชาวบ้าน จะเกิดอาการเมื่ออยู่ในที่แคบเข้าไปในลิฟต์แล้วติดลิฟต์บ้างหรือเข้าห้องน้ำแล้วเปิดประตูไม่ออก

>> Anxiety กับ Panic แยกกันไหม

สำหรับโบ ไม่ได้คล้ายขนาดนั้น แต่ก็มีตัวเชื่อมกัน Anxiety จะมาในชีวิตประจำวันโบเลยตั้งแต่เด็กจนโตโดยที่ไม่สังเกต สมมติวันนี้โบล็อกกรงหมาแล้วโบก็ออกจากบ้าน แล้วทั้งวันจะคิดอยู่แค่ล็อกกรงหมาหรือยัง ทั้งๆ ที่มันเห็นว่าล็อกแล้ว ซึ่งวิธีแก้ก็คือซื้อกล้องวงจรปิดมาดูเลย แต่บางทีมันก็ยังไม่มีความเชื่อตัวเองอยู่มันอาจจะเชื่อมกันหมดเลย ก็คือโรคอาจจะเป็นจิตเวชประเภทเดียวกัน แต่ว่าอาจจะมีความแตกต่างกันในลักษณะการเจอ น่าจะมาจากความไม่มั่นใจในตัวเอง ว่าได้ทำสิ่งนั้นสำเร็จจริงหรือเปล่าก็จะมีความย้ำคิดย้ำทำกับอะไรเดิมๆ เช่น ดูกระจกตลอดเวลา ซึ่งคาแร็กเตอร์การส่องกระจกบนเวทีไม่ได้มาจากความอยากเฟียซหรืออะไรทั้งนั้น มันมาจากความที่โบไม่สามารถรับได้จริงๆ คือไม่คิดว่าตัวเองสวยอยู่แล้วถ้าเลือกได้อยากเลือกเวทีที่มันเป็นกระจกรอบด้าน ในทีมผู้จัดการของโบมีอยู่ 4 คนต่างคนต่างก็จะมีหน้าที่พิเศษ เราก็จะเชื่อใจเขา เพราะว่าเราเชื่อใจคนอื่นมากกว่าตัวเอง

>> ในวัยเด็กมีเหตุการณ์อะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นใครบางคนอาจจะบอกเราว่า ไม่สวยพอ ไม่ดีพอ เราไม่ใช่

มีเยอะมาก มีทั้งสถานการณ์ในครอบครัว ไม่แน่ใจว่าที่บ้านอาจจะวางแผนมีลูกคนเดียวหรือเปล่า แล้วเราดันเป็นอีกคนที่ออกมาแล้วเราก็เกิดก่อนกำหนด มีความบกพร่องหลายๆ อย่างทางร่างกาย แล้วเราเองก็หน้าตาไม่ได้น่ารักตั้งแต่เด็ก ความไม่มั่นใจทางร่างกายก็อาจจะมีความพิเศษนิดหนึ่งก็คือ เคยโดนคนที่บ้านซ้อมตอนเด็กแล้วก็ทำให้ขาลาย เรื่องนี้ไม่ค่อยได้เล่าที่ไหนเพราะว่าตัวเองก็ไม่ได้โฟกัสเรื่องนี้ ไม่ได้อยากเรียกร้องความสงสารหรืออะไร เพราะมันผ่านมานานแล้ว แต่ว่าเราเพิ่งฉุกคิดได้ตอนโตว่าสิ่งนี้มันคือการซ้อม แล้วก็ร่องรอยตามขาตามตัวของเราที่ไม่มั่นใจในทุกวันนี้มันก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิต แผลบางอย่างทั้งทางร่างกายและจิตใจมันก็เป็นแผลเป็นมาถึงตอนโตเนอะ แล้วรู้สึกว่าก่อนหน้านี้สักประมาณ 2-3 ปี โบไม่ใช่ โบกี้ ไลอ้อนแบบนี้ โบเป็นคนที่ทำผมทรงเดิมๆ คือฟูๆ สิงโต แล้วเสื้อก็จะใส่แบบเดิมๆ กับกางเกงเอวสูง คือจะเป็นคนไม่ใส่กางเกงขาสั้นหรืออะไรสั้นเลย เพราะรู้สึกว่าหลังก็ต้องปิดเพราะมีรอยสิว ส่วนขาก็จะมีร่องรอยแผลเป็นเยอะมาก บางอย่างที่มันช้ำ มันก็ช้ำอยู่อย่างงั้นมาจนโต บางสิ่งที่มันหายไปแล้วบางทีก็อยู่ในใจเนอะ เรารู้สึกว่า ตอนนี้เรามีข้อบกพร่องหลายอย่างในตัว แล้วเรามองเห็นมันด้วย เราก็รู้สึกว่าปิดเถอะ

>> โมเมนต์ไหนบนเวทีที่ทำให้เรารู้สึกฟิน

ทุกตอนเลย บางวันหนูรู้สึกว่าชีวิตไม่ค่อยมีความหมายเท่าไหร่ มันมีช่วงหนึ่งที่หนูรู้สึกว่าทำงานทุกวัน มันเป็นจุดที่ไม่ว่าเราจะขึ้นไปสูงเท่าไหร่ ยิ่งรู้สึกว่ามันอ้างว้างเหลือเกิน มันไม่ได้มีครอบครัวที่คอยภูมิใจในตัวเราขนาดนั้น เหมือนรู้สึกว่าวังเวงมากๆ นี่เราทำอะไรอยู่ แต่พอขึ้นเวทีไปความรู้สึกดาวน์ เศร้า หรือนอยด์ ทุกอย่างหายไปเลย แค่ได้ยินเสียงคนที่มารอดู พูดแล้วอาจจะดูเวอร์แต่ว่าทุกครั้งที่รู้สึกว่าไม่อยากอยู่บนโลกนี้ อย่างเดียวที่ยึดโบไว้ที่นี่คือ...“อยากตายแต่เสียดายจินตนาการ” เสียดายที่จะส่งต่อความรู้สึกของตัวเองผ่านบทเพลงให้คนอื่นต่อไป เสียดายที่จะอดฟังเสียงคนดูที่ร้องเพลงที่เราแต่งขึ้นมา โบรู้สึกขอบคุณโรคต่างๆ เหมือนกันนะ ตอนแรกโบก็ค่อนข้างเซ็งที่เราต้องเจออะไรแบบนี้สุดท้ายแล้วถ้าเราไม่เศร้า ถ้าเราไม่ย้ำคิดย้ำทำจนจดนู่นจดนี่ เราก็ไม่ได้มีเพลง

>> เป็นคนที่ตรงไปตรงมาในโซเชียลมีเดีย

ตรงค่ะ จริงๆ หนูตรงมากๆ เลย แต่ว่ามันไม่ใช่แค่ตรงอย่างเดียว เมื่อก่อนย้อนไปน่าจะ 5 ปี หนูค่อนข้างเป็นคนตลกไง แล้วหนูก็ใช้คำหยาบเยอะมากๆ แม่เตือน ทางค่ายก็เตือนว่าเป็นภาพลักษณ์ของเรา หนูก็คิดก็มันตลกอ่ะ บางทีมันมีอรรถรส พอเราโตขึ้นๆ เราก็รู้สึกว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นเรื่องจริงนะ มันตลกจริงแต่ในกลุ่มคนบางกลุ่มที่เสพไม่ใช่กลุ่มคนส่วนใหญ่ในประเทศ เพราะว่ายังมีคนหลากหลายช่วงอายุที่ติดตามเรา หนูยอมรับว่าหนูมาร้องเพลงไม่ได้มาเป็นตัวอย่างให้ใคร การกระทำมันก็เป็นส่วนของการกระทำแต่ผลงานก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งเราก็ไม่ได้เอาคำหยาบไปใส่ในผลงาน สุดท้ายการอยู่ตรงนี้ก็ยอมรับจริงๆ ว่าทุกคนบนโลกถ้าเขาชอบศิลปินหรือมีใครเป็นต้นแบบเขา เราก็ควรจะประพฤติตนให้มันเหมาะสมและวุฒิภาวะที่หนูอาจจะยังไม่ค่อยมี ตอนนี้ก็ดีขึ้นมากแล้วค่ะ บางอย่างที่ไม่จำเป็นต้องตอบโต้ก็จะไม่ตอบโต้

>> เลิกกับแฟนที่คบกันมา 6 ปี? ได้เขียนเพลงถึงเขาบ้างไหม

ใช่ค่ะ เรื่องที่เขียนมาจากเรื่องในชีวิตทั้งหมดเลยค่ะ มีเขียนถึงแฟนด้วย แล้วก็มีเขียนถึงอะไรก็ตามที่ผ่านมาในชีวิต

>> เป็นคนรักแฟนแบบไหน

หนูเป็นคนคลั่งรักนะ ใน 6 ปี มันไม่ได้มีอะไรที่แย่เลยค่ะ เราคบกันแทบไม่ได้มีการทะเลาะกัน ทะเลาะกันเรื่องเดียวคือเรื่องงาน แต่มันแค่มีความรู้สึกว่าเป้าหมายในชีวิตบางจุดไม่ตรงกัน นี่พูดตรงๆ เคยขอเขาแต่งงาน แล้วแฟนช่วงนั้นก็ไม่ได้พร้อม แต่เป็นช่วงที่เรารู้สึกจริงๆ ไม่พร้อมตอนนี้แล้วจะตอนไหน จริงๆ นี่เป้าหมายหลักในชีวิตนะ ไปเจอพ่อเขาก็ ป๊าคะ หนูอยากแต่งงานแล้วค่ะ หนูขอเลยได้ไหมคะ คุณแม่คะหนูขอได้เลยไหมคะ อะไรแบบนี้ แต่เขาก็น่าจะเป็นห่วงเราในเรื่องของอนาคตเรื่องการงาน เขาก็ไม่ได้เชิงปฏิเสธ แต่ก็อารมณ์แบบว่าสมมุติว่าเป็นปีนี้มันก็จะถูกเลื่อนๆ ไป เราก็เป็นคนที่ค่อนข้างหมุนตามโลกของเขา ที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีอะไรไม่ดี แต่ว่าสุดท้ายโบก็โทษตัวเองนะ โบแค่รู้สึกว่าพอมันผ่านอะไรมาเยอะๆ แล้ว โบเองเป็นคนเลือกที่จะไม่ค่อยพูดกับเขาเท่าไหร่ พอไม่พูดมันกลายเป็นปมอะไรบางอย่างในใจ กลัวพูดแล้วเดี๋ยวจะผลกระทบแบบนี้ เสียอารมณ์กัน ก็เลยไม่มีการทะเลาะกัน ไม่มีการคุยกันด้วย เอาจริงๆ เขายังเป็นหนึ่งคนที่คอยสนับสนุนกันและกันเสมอ เขารู้จักเราในทุกจุดอ่อน ในทุกความกลัว ในทุกความฝัน เพราะฉะนั้นเราไม่เคยเกลียดแฟนเก่าเลย เราจะสนับสนุนเขาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้ามีแฟนใหม่เราก็บอก

พล.เอก เสริมศักดิ์ ประธานมอบรางวัล คนดีศรีแผ่นดิน แห่งชาติปี 2566 ผอ.ฟ้า รับ 2 รางวัล

วันนี้ 2 ก.ค.  2566 เวลา 13.00 น. ที่โรงแรมอมารีดอนเมืองแอร์พอร์ต  ห้องดอนเมืองบอลรูม ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ 

พล.อ.เสริมศักดิ์ วิเศษไชยศรี อดีตหัวหน้าฝ่ายเสนาธิการ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม นายกสมาคมธุรกิจอาเซียน เป็นประธานพิธีประกาศเกียรติคุณ คนดีของแผ่นดินเดินตามรอยพระยุคลบาท ครั้งที่ 12 พ.ศ.2566 รางวัล ญาณสังวร 'คนดีศรีแผ่นดิน' 

โดยมี ดร.อำนาจ หมัดสดาย ประธานสมัชชานักจัดรายการข่าววิทยุโทรทัศน์หนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (สว.นท)ร่วมแจกรางวัล วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการรณรงค์และส่งเสริมให้เกิดการทำดีในสังคมอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นขวัญกำลังใจและยกย่องบุคคลที่ทำความดีจากหลากหลายสาขาอาชีพทั่วประเทศ ทั้งข้าราชการ พระภิกษุ นักธุรกิจ ประชาชนทั่วไปตลอดจนเด็กเยาวชนเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีต่อบุคคลและวงศ์ตระกูลสืบต่อไป

ในงานนี้  ทาง ผอ.ฟ้า พรทิพา สุพัฒนุกูล เจ้าของสถานีทีวีดาวเทียมจานดำช่อง 160 สายบุญ ได้เข้ารับ 2 รางวัล ด้วยกันประกอบด้วย 1.รางวัลแห่งแผ่นดิน 'ปรัชญานิยม' สาขาผู้ทำคุณประโยชน์ต่อศาสนาและสังคมดีเด่น บุคคลตัวอย่าง 2.รางวัล 'อัครบุคคลไทย' สาขาผู้ทำคุณประโยชน์ต่อศาสนาและสังคมดีเด่น พร้อมด้วยพระครูกิตติปทุมากร เจ้าคณะตำบลหนองเสือ เจ้าอาวาสวัดป่าคลอง 11 

นอกจากนั้นแล้วยังมี ดร.ประชา เทศพานิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วีชายน์ เทเลคอม จำกัด ผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ดาวเทียมในประเทศ และต่างประเทศ พร้อม คุณ อุรารัตน์ ไชยรังษี คุณเล็ก ภรรยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท วีชายน์ เทเลคอม จำกัด ร่วมรับรางวัลในครั้งนี้อีกด้วย

ดร.อำนาจ กล่าวว่า การจัดงานนี้ก็จัดมาอย่างต่อเนื่อง แต่ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเป้าหมายที่เรามุ่งมั่นในการที่จะส่งเสริมบุคคลและส่งเสริมสังคมที่เป็นแบบอย่างและเป็นผู้นำที่ดี และประชาสัมพันธ์ได้ดีมีแรงขับเคลื่อนพัฒนาสังคมและประเทศชาติ 

สำหรับการให้รางวัลแก่บุคคลหลากหลายอาชีพ ทั้งบุคคลมีความรู้ความสามารถประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานแล้วหลายท่านก็ยังทำคุณประโยชน์ต่อสังคม รวมไปถึงในส่วนของการส่งเสริมธุระกิจและเศรษฐกิจ ซึ่งจะมีพี่น้องชาวกัมพูชาและประเทศลาว เพื่อนบ้านมารับรางวัลนี้หลายท่าน เป็นการรณรงค์ในการทำดีและเพื่อเป็นกำลังใจในทุกด้านที่ทำดีและเป็นตัวอย่างที่ดี ให้ประสบความสำเร็จ 

การที่จะมาถึงจุดนี้ได้ก็ต้องมีการบริหารการจัดการที่ดี อย่างน้อยก็ต้องมีหลักศีลธรรมคุณธรรมหลักธรรมภิบาลในการบริหารจัดการ สมควรที่จะเป็นแบบอย่างให้กับคนรุ่นใหม่และบางคนที่อาจจะท้อแท้ จะได้มีกำลังใจว่าอาจจะมีบางคนที่เขาเล็งเห็นและให้กำลังใจอยู่

ด้าน ผอ.ฟ้า กล่าวว่า จริงๆแล้ววันนี้ก็เหมือนทุกครั้งที่บอกว่าภูมิใจ เพราะว่าท่าน ดร.ท่านทำจริง เพราะว่าเวลาที่แจกรางวัลเสร็จแล้ว ก็จะมีการแจกผ้าห่มลงพื้นที่ในการที่จะส่งตัวแทนหรือไปเองบ้าง ก็ถือว่าบุญที่ยิ่งใหญ่ที่เราเองได้เป็นสะพานบุญที่มาร่วม ก็ถือว่าเป็นโครงการที่น่าสนับสนุน จริงๆท่าน ดร.อำนาจท่านทำรางวัลนานมากแล้ว ครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่16 แต่ว่ามีเยอะหลายองค์กร 233 องค์กร ที่เป็นมูลนิธิและชมรมต่างๆ 

สิ่งที่สำคัญที่สุดท่าน ดร.ท่านจะเก่งหลายด้านโดยเฉพาะสายบุญในด้านธรรมะธัมโม ถ้าท่านไม่ได้อยู่ในงานท่านก็จะใส่แต่ชุดขาว เหมือนกับคุณประชาและก็คุณเล็ก มีความรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ถ้าบังเกิดว่าเราไม่ได้สร้างบุญหรือว่าอดีตชาติไม่ได้สร้างบุญกันสิ่งเหล่านี้ก็จะไม่เกิด 

ถือว่าบุคคลที่อยู่ตรงนี้เป็นคนที่ปฏิบัติโดยเฉพาะคนที่อยู่ในศีล ผอ.ฟ้าก็ดีใจในการที่ได้สนับสนุนท่าน ดร. และท่านดร.ก็เป็นท่านหนึ่งที่อยู่ในการคร่ำหวอดของวงการในประเทศไทยที่มีชื่อเสียง 

คุณ ประชา  และ คุณเล็กภรรยา กล่าวว่า ตนมาร่วมงานวันนี้ก็เป็นงานที่ทรงเกียรติ เป็นงานที่เราภาคภูมิใจ และเป็นการชื่นชมบุคคลตัวอย่าง บุคคลที่มีคุณสมบัติที่ควรจะยกย่องเชิดชูและให้กำลังใจกับหลายๆหน่วยงาน หลายๆบุคคล หลายๆองค์กร งานนี้ถือว่าจัดแล้วเกิดประโยชน์สร้างสรรค์สังคม และให้กำลังใจกับคนในสังคม และเป็นการเฟ้นหาคนดีแบบอย่างให้กับคนในสังคม และให้กับทั้งผู้ใหญ่ เด็กและเยาวชนให้เห็นแบบอย่างที่ดีว่าในสังคมไทยก็ยังมีคนที่เป็นต้นแบบเป็นแบบอย่างทำคงามดีความงาม ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติ

ขอกราบขอบคุณท่าน ดร.อำนาจ และ ผอ.ฟ้า ที่ให้มีกิจกรรมดีๆแบบนี้ขึ้นมา ช่วยส่งเสริมและให้กำลังใจกับคนที่ทำดีในสังคม และตอนนี้คนก็จะได้เห็นว่าการทำดีก็ได้ดี และเป็นขวัญและกำลังใจให้คนที่ทำดียิ่ง ๆ ขึ้นไป

ก.แรงงาน ติวเข้มเจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หวังไทยขยับเทียร์ 1

วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 เวลา 09.30 น. นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ 

นายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส รองปลัดกระทรวงแรงงานและโฆษกกระทรวงแรงงาน เป็นประธานพิธีกล่าวเปิดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ฉบับปี พ.ศ.2565) รุ่นที่ 6 (พนักงานเจ้าหน้าที่รุ่นที่ 65) ซึ่งฝึกอบรมระหว่างวันที่ 3 - 8 กรกฎาคม 2566 โดยมี นางสาวโสภณา บุญ-หลง ผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการศูนย์บัญชาการป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การฝึกอบรม ณ ห้องแกรนด์พาโนรามา ชั้น 14 โรงแรม ดิเอมเมอรัลด์ ถนนรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร  

นายวรรณรัตน์ กล่าวว่า กระทรวงแรงงานเป็นหน่วยงานสำคัญและเป็นหน่วยงานหลักในการต่อต้านการค้ามนุษย์ ภายใต้ยุทธศาสตร์ 20 ปี ด้านความมั่นคง โดยรับผิดชอบเป็นเจ้าภาพหลักในการป้องกันการค้ามนุษย์ของประเทศไทย ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ได้กำหนดเป็นวาระแห่งชาติ ในการยกระดับมาตรฐานการคุ้มครองดูแลและป้องกันไม่ให้แรงงานไทยและแรงงานต่างด้าวตกเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้กำหนดนโยบายกระทรวงแรงงาน “MOL พลิกโฉมตลาดแรงงานไทย” ได้กำหนดให้ “เร่งรัดการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวและป้องกันการค้ามนุษย์ เพื่อมุ่งสู่การเป็น Tier 1” และได้มอบหมายให้หน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคนำมาตรฐานการปฏิบัติงาน (SOP) ในการคัดกรองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ด้านแรงงานและการบังคับใช้แรงงาน และการนำแผนปฏิบัติการว่าด้วยกลไกการส่งต่อระดับชาติฯ (NRM) นำไปใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการบังคับใช้แรงงานหรือบริการและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ซึ่งการปฏิบัติงานดังกล่าว มีความจำเป็นที่จะต้องมีการเพิ่มศักยภาพด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ให้แก่เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทีมสหวิชาชีพ ให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติงาน และได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อให้สามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น    

นายวรรณรัตน์ กล่าวต่อว่า กระทรวงแรงงาน พร้อมที่จะร่วมผนึกกำลังกับทีมสหวิชาชีพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ในการยกระดับการขับเคลื่อนการต่อต้านการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ และการค้ามนุษย์ในประเทศไทย เพื่อให้ประเทศไทยสามารถปฏิบัติตามมาตรฐานขั้นต่ำของสหรัฐฯ และได้รับการจัดอันดับในรายงานการค้ามนุษย์ให้อยู่ในระดับ Tier 1 ต่อไป

รมว.พิพัฒน์ เป็นประธานเปิดงานวันเกษตรและของดีอำเภอปลายพระยา ประจำปี 2566

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดงานวันเกษตรและของดีอำเภอปลายพระยา ประจำปี 2566 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และประชาสัมพันธ์ผลผลิตทางการเกษตรและของดีอำเภอปลายพระยา ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและเชิงวัฒนธรรมของอำเภอปลายพระยาให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย สร้างโอกาสให้เกษตรกรได้นำผลผลิต สินค้าเกษตร และผลิตภัณฑ์ชุมชนต่างๆ มาวางจำหน่าย เป็นการเสริมสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและชุมชน เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าทางการเกษตร และยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนและเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน โดยมี นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการ อพท. , นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายสุรัตน์ จรณโยธิน  ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น และหน่วยงานพันธมิตรเข้าร่วม ณ สนามหน้าที่ว่าการอำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่

รมว.พิพัฒน์ กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ ทำให้ทราบถึงการบูรณาการของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อมุ่งมั่นและมีเจตนคติที่ดีต่อการพัฒนาความอยู่ดี กินดีของประชาชนอำเภอปลายพระยา ในการส่งเสริมอาชีพทางการเกษตรให้มีคุณภาพ และประชาสัมพันธ์ผลผลิตทางการเกษตร และของดีอำเภอปลายพระยา ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย สร้างโอกาสให้เกษตรกรได้นำผลผลิตสินค้าเกษตร และผลิตภัณฑ์ชุมชนต่างๆ มาวางจำหน่าย เสริมสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและชุมชน เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าทางการเกษตร และกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน และเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน นอกจากนี้ ยังเป็นการประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและเชิงวัฒนธรรมของอำเภอปลายพระยา อันสะท้อนให้เห็นถึงความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ท้องถิ่นของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดียิ่ง

สำหรับการจัดงานครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมและพัฒนาผลิตผลทางการเกษตร โดยเฉพาะปาล์มน้ำมัน ทุเรียน และผลไม้อื่นๆ ของอำเภอปลายพระยา อีกทั้ง ในงานมีกิจกรรมหลากหลายทั้งด้านวิชาการและการบันเทิง ซึ่งเกิดจากการบูรณาการของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ผมมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าจะทำให้ของดีอำเภอปลายพระยาเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในกลุ่มผู้ร่วมงานและประชาชนทั่วไป

ซึ่งก่อนหน้านี้ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬาและคณะได้เดินทางไปเยี่ยมชมไร่กาแฟภูตะวัน ซึ่งมีกาแฟสายพันธ์โรบัสต้า เป็นสายพันธุ์ที่เกษตรกรชาวสวนกาแฟนิยมปลูก เนื่องจากให้ผลผลิตดี มีรสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอมกรุ่น ฉบับกาแฟสายพันธุ์ใต้ นิยมปลูกมากในแถบ อ.คลองท่อม อ.ลำทับ และ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่

จากนั้นคณะเดินทางไปที่สวนทุเรียนแปลงใหญ่บ้านทะเลหอย หมู่ที่ 10 บ้านทะเลหอย เพื่อเยี่ยมชม “สวนทุเรียนทะเลหอย” “สวนทุเรียนไทรงาม” ซึ่งเป็นสินค้าเกษตรที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดกระบี่ 

‘สาธิต’ ชี้!! 'ปดิพัทธ์' ยังไม่เหมาะนั่งประธานสภาฯ เชื่อ!! คุณสมบัติที่มีควรเป็นรัฐมนตรีมากกว่า

(3 ก.ค. 66) นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า…

ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นประธานรัฐสภา ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ 1 ใน 3 อำนาจเสาหลักของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในระบบรัฐสภาควรมีคุณสมบัติอย่างไร

ส่วนตัวผมในฐานะที่เป็น ส.ส. มาหลายสมัย และศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย ผมคิดว่า ตำแหน่งดังกล่าวจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีความน่าเชื่อถือ มีความเป็นผู้ใหญ่ ‘มีความเป็นกลางแบบเป็นที่ประจักษ์’ และพร้อมที่จะประสานงานได้กับทุกพรรคการเมือง รวมถึงสมาชิกวุฒิสภา และฝ่ายบริหาร

ในทางกลับกัน ถ้าคุณสมบัติของตำแหน่งคือโดดเด่นแปลกไม่เหมือนคนอื่นๆ เก่งเชี่ยวชาญด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ ไม่ประนีประนอม รุนแรงในการแสดงออกในทุกเรื่องจะเหมาะสมหรือไม่?

รวมถึงการคัดเลือกบุคคลดังกล่าวไม่ควรถูกเลือกโดยพรรคการเมืองใดเพียงเพราะมีโควต้าแล้วจะเสนอใครที่มีคุณสมบัติอะไรก็ได้ แต่ควรพิจารณาจากคุณสมบัติที่กล่าวมาแล้ว

ด้วยความเคารพเท่าที่ผมเคยสัมผัสพูดคุย และติดตามงานในสภาฯ ของท่านปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือ ‘หมออ๋อง’ เพื่อน ส.ส.รุ่นน้อง

ท่านเป็นคนหนุ่มที่มีความมั่นใจสูง เป็นตัวของตัวเอง มีความรู้ ความสามารถ พูดจาแสดงออกได้อย่างตรงไปตรงมา ท่านน่าจะทำงานได้ดีในตำแหน่งที่ต้องใช้การตัดสินใจ ความกล้าคิด กล้าทำ และโดดเด่นไม่เหมือนใคร ท่านน่าจะเหมาะสมกับงานบริหารงานในตำแหน่งรัฐมนตรี กระทรวงใดกระทรวงหนึ่งมากกว่า

“เขาไม่เหมาะกับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นประธานรัฐสภา ประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติครับ”

'สุริยะใส' ฟันธง!! วันนอร์ฯ ไม่ใช่ตัวกลางยุติปัญหา แต่เป็นเกม 'เพื่อไทย' บีบการตัดสินใจของ 'พรรคส้ม'

หลังจากที่มีข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อคนกลาง อย่าง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ชิงตำแหน่งประธานสภา เพื่อเป็นทางออกและแก้ปัญหาข้อยุติทั้งหมด

อย่างไรก็ตามข้อเสนอดังกล่าวนี้ก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุม ส.ส. รวมทั้งที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยว่าจะมีมติยืนตามนี้หรือไม่

ทั้งนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ถือเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุด เพราะมีประสบการณ์ เคยดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภา และไม่มีความด่างพร้อย น่าจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเป็นกลาง เป็นที่ยอมรับและได้รับความเคารพจากบรรดา ส.ส.

จริงหรือ??? ที่วันนอร์ฯ จะมาเป็นตัวกลางยุติปัญหาเก้าอี้ประธานสภาในครั้งนี้ หรือจะเป็นเกมส์การเมืองของพรรคเพื่อไทย ถ้าเป็นอย่างนั้นพรรคก้าวไกล จะเเก้เกมนี้อย่างไร 

ผศ.ดร.สุริยะใส กตะศิลา คณบดี วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ให้สัมภาษณ์กับ THE STATES TIMES ในประเด็นนี้ว่า น่าจะเป็นการเสนอเพื่อแก้ปัญหาความไม่ลงตัวที่กำลังจะกลายเป็นประเด็นความขัดแย้งแตกแยกของ 8 พรรคร่วมรัฐบาลมากกว่า และเป็นการชิงไหว ชิงพริบ ที่เรียกว่า "เซียนเหยียบเมฆ" ของพรรคเพื่อไทย ที่อาจจะทำให้พรรคก้าวไกลตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง 

แม้พรรคเพื่อไทยจะไม่เสนอคนของพรรค แต่ไปเสนอนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา โดยอ้างว่าเป็นคนกลางของ 8 พรรคร่วมรัฐบาล แต่ก็รู้กันดีว่านายวันนอร์ฯ เป็นอดีต ส.ส. ของพรรคไทยรักไทยมาก่อน ก่อนจะมาตั้งพรรคประชาชาติ ก็เปรียบเสมือนเป็นคนของพรรคเพื่อไทย ฉะนั้น หมากเกมนี้ต้องกลับไปถามก้าวไกล ว่าจะยอมเล่นตามเกมเพื่อไทยหรือจะส่งคนสู้ แต่ถ้าส่งคนสู้ต้องมองว่าใครจะชนะ อาจจะไปหวยออกที่คนที่ 3 ต้องจับตามอง โดยส่วนตัวมองว่าไม่ว่าจะเป็นวันนอร์ฯ หรือนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก ของพรรคก้าวไกล ไม่น่าจะมีใครชนะใคร จริง ๆ ตำแหน่งประธานสภาฯ ไม่ได้มีอำนาจอะไรมากนัก แต่ทางการเมืองก็จะมีจังหวะที่ทำให้เป็นประโยชน์ทางการเมืองได้อยู่ไม่น้อย 

การที่เพื่อไทยเสนอแบบนี้ นั่นหมายความว่า เพื่อไทยไม่ได้ยอมทำตามข้อเสนอของพรรคก้าวไกล เช่นเดียวกันก้าวไกลก็อาจจะไม่ยอมทำตามข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย เกมนี้อาจจะลามไปถึงการเลือกนายกรัฐมนตรีที่ต้องติดตามกันต่อ

ผศ.ดร.สุริยะใส กล่าวต่อว่า ถ้าเกิดนายวันนอร์ฯ ได้เป็นประธานสภาจริง ๆ พรรคก้าวไกลต้องตอบตัวเองว่า ตำแหน่งประธานสภา ต้องเป็นของพรรคก้าวไกล ถ้าไม่ได้แล้วจะอย่างไรต่อ จะอธิบายประชาชนและผู้สนับสนุนพรรคอย่างไร  อีกประเด็นจะมั่นใจได้อย่างไร ว่าในอนาคตว่า MOU ที่ลงนามกันด้วยความชื่นมื่นเป็นเกมลวงทางการเมืองหรือไม่!!!

หลังจากนี้ตนมองว่า ก้าวไกลคงต้องเดินหน้าสู้ อยู่ ๆ จะไปยกตำแหน่งประธานสภาให้คุณวันนอร์ฯ ตามข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย มันก็จะดูเป็นยอมง่ายไป จะไปอธิบายประชาชนที่เลือกตนเข้ามาทั้ง 14 ล้านเสียงอย่างไร สู้แล้วแพ้ยังพอตอบประชาชนได้ ครั้งนี้พรรคก้าวไกลต้องตอบโจทย์ที่พรรคเพื่อไทยโยนมาให้แล้วว่า จะเดินเกมยังไงต่อ แต่ที่แน่ ๆ พรรคก้าวไกลไม่น่าจะพร้อมเป็นฝ่ายค้าน เพราะเดินสายขอบคุณในนามพร้อมจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้นต้องมองว่าพรรคก้าวไกลจะไปร่วมรัฐบาลในบริบทไหน สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ต้องน่าจับตามอง

เรื่อง: พัฒน์นรี ชัยเดชารัตน์ Content Manager

‘แอฟ’ ไม่แคร์!! ปมในจอบวมกว่าตัวจริง เผยช่วงหลังโดนทักแบบนี้มาตลอด

(3 ก.ค. 66) ช่วงนี้ไม่ว่าจะขยับตัวไปทางไหน ออกมาเคลื่อนไหวอะไร ก็กลายเป็นข่าวใหญ่ ข่าวเมาท์กันให้ว่อนโซเชียล สำหรับนางเอกคุณแม่ลูกหนึ่งอย่าง ‘แอฟ ทักษอร’ ที่ก่อนหน้านี้ก็เจอชาวเน็ตโยงเรื่องความรักซุ่มมีความสัมพันธ์กับ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ ทั้งยังจับจิ้นกับหนุ่มรุ่นน้องอย่าง ‘นนกุล’ หรือ นน ชานน แม้ว่าเจ้าตัวจะออกมายืนยันว่า สถานะเป็นเพียงเพื่อนพี่น้องคนสนิทเท่านั้นก็ตาม ไม่วาย ‘แอฟ ทักษอร’ ก็ยังโดนเปรียบเทียบในเรื่องของตัวจริงและในจอทีวีตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาอีกด้วย

ล่าสุด ‘แอฟ ทักษอร’ ได้ออกมาเผยใน รายการ 3 แซ่บ เอาไว้ว่าโดนทักแบบนี้มาตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะคำว่า "ตัวจริงตัวเล็กนิดเดียวเองเนาะ ในทีวีตัวเบ้อเร้อเลยอ่ะ" อันนี้คือประโยคเบสิกที่ได้ยินมาตลอด เราก็จะบอกว่า “อ๋อใช่ค่ะ เวลาเราออกทีวีเราจะบวมขึ้นอีก 30%” และเราก็ไม่ได้ตอบด้วยอารมณ์ที่ไม่พอใจ เราตอบด้วยความจริงว่าออกกล้องเราจะดูใหญ่ขึ้น

สาวมาเลฯ แชร์ประสบการณ์ใช้ถนนเมืองไทยเลี่ยงรถติด ชี้ สภาพถนนดีแถมใช้ฟรี ประหยัดน้ำมัน ย่นเวลาเดินทาง

(3 ก.ค. 66) เพจเฟซบุ๊ก ‘World Forum ข่าวสารต่างประเทศ’ ได้เผยแพร่เรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางกลับบ้านโดยใช้ถนนประเทศไทยเพื่อเลี่ยงรถติด โดยระบุว่า…

🚗 สาวมาเลเซีย 🇲🇾 รีวิวการกลับบ้านโดยใช้ถนนเพื่อนบ้าน ประเทศไทย หลบรถติดจากเมืองอลอร์สตาร์ รัฐเคดาห์ ไปยังสุไหงโก-ลก เข้าชายแดนกลันตัน ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองด่านทุเรียนบูรุง
การเดินทางไปชายแดนสุไหงโก-ลก รัฐกลันตัน ใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมง 30 นาที จากชายแดนบ้านประกอบประเทศไทย 

เธอโพสต์ลงติ๊กต็อก ปัจจุบันมีคนเข้าชมมากกว่า 7 แสนคน เพราะใช้เวลาเดินทางไวกว่าเส้นทางปกติที่ต้องขึ้นภูเขาหลายลูก รถติด เธอยังรีวิวเส้นทางน่าสนใจ ขับง่าย มีของหลายอย่างขายตามข้างถนน เรื่องราวสื่อหลายสำนักในท้องถิ่นนำไปลงข่าวหลายสำนัก 

🚗โดยปกติผู้คนฝั่งเคดาห์ ผ่านประเทศไทย เข้ากลันตัน ด้วยเหตุผล 5 อย่าง (รีวิวผู้ใช้ก่อนหน้า) 
1.ใกล้กว่าเส้นทางปกติ 100 กม.
2.คุณภาพถนนไทย เหมือนทางหลวงมาเลเซียเสียเงิน
3.ระยะเวลาไวกว่า 2 ชม. หากเทศกาลอาจมากกว่า 
4.ถนนฟรี ไม่ต้องเสียเงิน 
5.ประหยัดน้ำมัน 50%

**หมายเหตุ 
-มีค่าผ่านแดน ตม. / ค่าประกันรถยนต์ 
-แต่รวมแล้วคุ้มกว่าเวลาปกติไวกว่า 2 ชม. หากเทศกาลในความเห็นบอก 12-24 ชม. ก็เคยมี


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top