Sunday, 18 May 2025
NewsFeed

'จุรินทร์' สวนฝ่ายค้าน พืชเกษตรไม่ได้ตกต่ำ ยัน ราคาดีทุกตัว ชี้ ส่งออกยังบวก ลั่น!! FTA ไทย กำลังไล่แซงเวียดนาม

(16 ก.พ. 66) ที่ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ขึ้นชี้แจงฝ่ายค้านประเด็นต่าง ๆ ในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (15 ก.พ. 66 เวลา 21.00 น.) โดยนายจุรินทร์ได้กล่าวว่า ประเด็นที่พาดพิงประเด็นแรกที่พูดถึงเงินเฟ้อ และของแพงทั้งแผ่นดิน เป็นประเด็นเดิมที่อภิปรายแล้ว ไทยเงินเฟ้ออยู่ในเกณฑ์ดีขึ้นเป็นลำดับ เงินเฟ้อลดลง เดือน ม.ค. 66 เหลือ 5% อัตราเฉลี่ยของโลก IMF คาดว่าปี 66 เงินเฟ้อโลก 6.5% แต่ไทยจะเฟ้อแค่ 2.8% ดีกว่าหลายประเทศ เพราะรัฐบาล กระทรวงพาณิชย์ และเอกชน กำกับราคาต้นทุนการผลิตบางอย่าง ราคาสินค้าดีตามสมควร

แม้ราคาน้ำมัน แก๊ส ค่าไฟยังไม่ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ จากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ที่บอกแพงทั้งแผ่นดิน ความจริงราคาสินค้าลดลงเยอะมาก 58 รายการจำเป็น ที่ติดตามทุกวัน ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เช่น หมูเนื้อแดง ที่เคยอภิปรายว่าจะ 300 บาท/กก. พบเฉลี่ย 165 บาท/กก., ผักชีลดลง 27%, กวางตุ้ง ลดลง 23%, ต้นหอม ลดลง 28%, น้ำมันปาล์ม 48-50 บาท/ขวด ลดลง 17%, ชุดตรวจ ATK ลดลง 28%, ฟ้าทะลายโจร ลดลง 63%, ข้าวสาลี ลดลง 21%, ปุ๋ยเคมีทำจากแก๊สธรรมชาตินำเข้า 100% เข้าไปกำกับดูแล แก้ปัญหาดังนี้

1.) ปุ๋ยไม่ขาด นำเข้าจากซาอุฯ หลายแสนตัน
2.) ราคาลดลง เช่น ยูเรีย 46-0-0 ลดลง 25% ประมาณ 400 บาท/กระสอบ, ปุ๋ยสูตร 21-0-0 ลดลง 30% ลด 300 กว่าบาท/กระสอบ, ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ลดลง 8% 100 กว่าบาท/กระสอบ เป็นต้น ที่บอกแพงทั้งแผ่นดินไม่เป็นอย่างนั้น

และที่สมาชิกอภิปรายว่า พืชเกษตรตกต่ำทุกตัว ตกต่ำมาตลอด ไม่จริง ราคาพืชเกษตเฉลี่ยดีเกือบทุกตัว โดยที่ประกันรายได้ ข้าวเปลือก เกือบ 10,000 บาท/ตัน, ข้าวหอมมะลิ 1,4000-15,000 บาท/ตัน, ข้าวเปลือกเหนียว 11,000-12,000 บาท/ตัน, มันสำปะหลัง ก่อนรัฐบาลนี้ กิโลกรัมละบาทกว่า วันนี้ 3 บาทกว่า/กก.

ล่าสุด ตนพาฟิลิปปินส์มาเซ็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 2,000,000 ตันที่นครราชสีมา ปากช่อง ยิ่งช่วยดีมากราคามีแนวโน้มดีขึ้น ปาล์มน้ำมันก่อนนี้ 10-12 บาท/กก. ตอนนี้ 5 บาทกว่า/กก. ก่อนรัฐบาลนี้ เพียง 2 บาทกว่า/กก., ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สมัยก่อน 6-7 บาท/กก. เดี๋ยวนี้ 12-13 บาท/กก., ผลไม้ยิ่งดี ราคาปีที่แล้ว ทุเรียนหมอนทองเฉลี่ย 145 บาท/กก., มังคุดเกรดส่งออก 60 บาท/กก., ลำไยช่อส่งออก เกรดเอเอ 42.50 บาท/กก. 

และกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์และรัฐบาล ประสานงานเกษตรกรผู้ปลูกลำไย ดูแลชดเชยไร่ละ 2,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 25 ไร่ ตนลงนามเข้า ครม.แล้ว รอพิจารณา เงาะโรงเรียน  20.50 บาท/กก., ลองกอง 12.50 บาท/กก., ลิ้นจี่ 75 บาท/กก., มะม่วงน้ำดอกไม้ 45 บาท/กก., ส้มเขียวหวาน 25 บาท/กก., หอมแดงแห้ง 48 บาท/กก. จาก 26 บาท/กก., กระเทียม 78 บาท/กก. ราคาพืชผลการเกษตรดีเกือบทุกตัว ยกเว้นยางพารา ตอนนี้ 45-49 บาท/กก. เนื่องจาก

1.) เศรษฐกิจโลกชะลอตัว รถยนต์ขายยากขึ้น ขายล้อรถน้อยลง
2.) สถานการณ์โควิดดีขึ้น ใช้ถุงมือยางลดลง แต่รัฐบาลนี้มีประกันรายได้ จ่ายเงินส่วนต่างให้เกษตรกรชาวสวนยาง 3 ปีที่ผ่านมา ชดเชยเงินส่วนต่างให้ แต่ปีนี้ช้าหน่อย ครม.กำลังจะพิจารณาในอีกไม่กี่สัปดาห์ จะชดเชยใช้ส่วนต่างให้ได้ต่อไปเหมือนที่ผ่านมา

‘ชลน่าน’ เย้ย ‘ประยุทธ์’ ทำงาน 8 ปีไม่มีผลงาน ซัด!! อ้างทำหมดทุกอย่าง แต่ผลลัพธ์เท่ากับล้มเหลว

(16 ก.พ. 66) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการอภิปรายในวันที่ 15 ก.พ.ว่า ฝ่ายค้านทำหน้าที่ได้อย่างดียิ่งในการนำเสนอข้อเท็จจริงสอบถามไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่วนที่นายกฯ จะตอบว่า สิ่งที่ฝ่ายพูดไม่ใช่ปัญหา ไม่ใช่ข้อเท็จจริงก็ต้องบอกกับสภาเอง และหลายเรื่องที่เราอภิปรายสามารถนำไปใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ แต่ครั้งนี้เป็นการอิปรายทั่วไปรัฐมนตรีก็ต้องไปดูว่าเป็นจริงตามที่เราพูดหรือไม่

เมื่อถามว่า ที่ระบุว่าบางประเด็นสามารถอภิปรายไม่ไว้ใจได้นั้น จะมีการนำไปยื่นให้องค์กรอิสระตรวจสอบหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ประเด็นที่นำมาพูดและมีหลักฐานชัด สามารถดำเนินการต่อเนื่องได้ เป็นแนวทางที่เราหารือไว้แล้ว ซึ่งมีหลายเรื่อง เช่นเรื่อง น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทยอภิปรายถึง การฮั้วการประกอบธุรกิจโดยมิชอบมีการเอื้อประโยชน์ แม้รัฐมนตรีไม่เกี่ยวเนื่องโดยตรงแต่มีเรื่องจริยธรรมอยู่

'ชัยวุฒิ' แจง รบ.กำลังเร่งปราบธุรกิจสีเทา ชี้ มีมานานแล้ว ป้อง 'บิ๊กป้อม' ไม่มีเอี่ยวทุนสีเทา หลังรูปถ่ายคู่เพื่อนตู้ห่าวโผล่

(16 ก.พ. 66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการอภิปรายวันแรก โดยเฉพาะปัญหาต่าง ๆ ที่ฝ่ายค้านเสนอแนะ ว่ารัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาอยู่ จะนำไปสู่นโยบายของพรรคการเมืองต่าง ๆ ด้วย ในการที่จะแก้ไขปัญหาให้ประชาชนในรัฐบาลหน้า เพราะรัฐบาลนี้คงทำไม่ทัน หลายเรื่อง

โดยเฉพาะธุรกิจสีเทาและมาเฟียต่าง ๆ รัฐบาลดำเนินการปราบปรามอยู่แล้ว วันนี้ที่เป็นข่าวเยอะ ๆ เพราะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงไปปราบปรามจริงจัง มีการจับกุมดำเนินคดี จริง ๆ แล้วทุนสีเทา ธุรกิจพวกนี้มันทำมานานแล้ว เป็นสิบ ๆ ปีแล้ว ไม่ได้เพิ่งมามีสมัยนี้ สมัยรัฐบาลในอดีตก็มี เสธ.คนนั้น เสธ.คนนี้ ใครจะทำธุรกิจสีเทาต้องไปคุยกับ เสธ.คนนี้ จำชื่อไม่ได้แล้ว เนื่องจากเสียชีวิตแล้ว เป็นเพื่อนอดีตนายกรัฐมนตรีด้วย

“มันมีมานานแล้ว อย่าไปคิดมากเลย ปัญหานี้มันเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง รัฐบาลไหนมามันก็วิ่งเข้ามาหา พวกทุนสีเทาชอบวิ่งมาหาผู้มีอำนาจ เพราะฉะนั้น เราต้องแก้ที่กฎหมาย กฎระเบียบ เพื่อจะลดปัญหาเหล่านี้” นายชัยวุฒิ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เนื้อหาการอภิปรายโยงไปถึง พปชร.หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ ไปตรวจสอบแล้วกัน คิดว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องตรวจสอบไป ผิดถูกว่าอย่างไรว่าไปตามกฎหมาย แต่ว่าหลักการที่อยากจะพูดให้ฟังคือ วันนี้ปัญหาในสังคมไทย มันคือเรื่องของกฎหมายและระเบียบที่มันเอื้อให้เกิดธุรกิจสีเทา มันมีกฎหมายที่บางทีปฏิบัติไม่ได้ ทำธุรกิจแล้วมันผิดกฎหมาย เขาต้องไปจ่ายส่วยเพื่อให้ทำธุรกิจนี้ได้ ดังนั้น หน้าที่ของเราคือ ต้องเอากฎหมายมาดู อะไรที่ล้าสมัยก็ปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้ธุรกิจไปได้และไม่ต้องมาจ่ายส่วย นี่คือสิ่งที่กำลังผลักดันเรื่องนี้ และคุยกันใน พปชร.อยู่ คิดว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้

เมื่อถามว่า เรื่องดังกล่าวจะมีผลต่อการตัดสินใจของประชาชนในการเลือกตั้งหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องถามประชาชน แต่คิดว่าธุรกิจสีเทามันมีมาทุกยุคทุกสมัย เขาจะวิ่งหาผู้มีอำนาจ รัฐบาลในอดีต อดีตนายกฯ ทุกคนก็มีความไปเกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้ทุกยุคทุกสมัย ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นในวันนี้

ยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ไม่ได้เกี่ยวข้อง ไม่ได้มีหลักฐานที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจสีเทา แต่ธุรกิจสีเทาพวกนี้พยายามวิ่งหาผู้มีอำนาจอย่างที่นำมาอภิปรายกัน มีภาพไปถ่ายรูปกับคนดังคนนั้นคนนี้ พวกนี้เขาทำธุรกิจกันมานานแล้ว ไม่ได้เพิ่งมาตั้งตัวกันได้ในสมัยรัฐบาลนี้ ไปดูเอาเถอะ ประวัติเขาแต่ละคน

'ธนกร' ซัดกลับ 'ก้าวไกล' ปมที่ตั้งตึก 'รทสช.' กล่าวหาไร้ข้อมูล ยัน เช่าถูกต้องตามกฎหมาย

(16 ก.พ. 66) ที่ทำเนียบฯ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายตามมาตรา 152 พาดพิงอดีต ส.ว.ทรงเอ ถูกโยงว่าเป็นเจ้าของที่ดินที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ ย่านซอยอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพฯ

โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค รทสช. ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา ตนก็ได้ดูการอภิปรายอยู่เช่นกัน ก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เป็นเรื่องไม่จริง และเรื่องต่าง ๆ เหล่านั้นเป็นข้อมูลที่นายกฯ ทราบอยู่แล้ว เพราะนายกฯ เป็นคนสั่งการให้ดำเนินคดีกับทุกฝ่ายทั้งคดีตู้ห่าว และเรื่องอักษรย่อต่าง ๆ และ ผบ.ตร.ก็รายงานนายกฯ มาโดยตลอด ซึ่งจะเป็นได้ว่ากระบวนการทุนจีนสีเทาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไปแล้ว

ดังนั้น เมื่อเกิดคดีใหม่ก็ต้องให้เครดิตนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ออกมาเปิดเผยข้อมูล ซึ่งคดีนี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เป็นผู้จับกุมครั้งแรก และมีการขยายผลเมื่อนายชูวิทย์เปิดเผยข้อมูล ผบ.ตร.ก็ได้ดำเนินคดีอย่างเต็มที่ นายชูวิทย์ก็ชื่นชม ผบ.ตร. และ ผบ.ตร.ก็ได้รายงานนายกฯ โดยตลอด นายกฯ จึงกำชับดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ไม่ช่วยเหลือปกป้องใครทั้งนั้น สุดท้าย อัยการสั่งฟ้อง เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว สิ่งที่ ส.ส.รังสิมันต์ อภิปรายมาจึงไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด และนายกฯ ก็เต็มที่กับเรื่องนี้ สั่งการอย่างเด็ดขาด เมื่อพบว่ามีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องก็ไล่ออก ปลดออกไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า มีการโยงที่ดินและอาคารที่ทำการพรรค รทสช. เกี่ยวโยงกับ ส.ว.คนดังกล่าว นายธนกร กล่าวว่า "ตรงนี้เป็นการกล่าวหาที่ไร้ข้อมูลมาก ๆ เรื่องนี้ผมก็ทราบมาก่อนว่า ตึกที่พรรค รทสช.ไปเช่าถูกต้องตามกฎหมาย และอดีต ส.ว.มีชื่อครอบครองตั้งแต่ปี 60-62 แต่ตอนนี้ปี 66 แล้วไม่มีชื่อเขา ดังนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับตึก รทสช. และหัวหน้าพรรคก็เป็นอดีตผู้พิพากษารู้กฎหมายดี มีความซื่อสัตย์สุจริต เช่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ เราไม่ไปเกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้ เป็นการกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรม

หากผมบอกว่า พรรคก้าวไกล หรือพรรคอนาคตใหม่ เดิมเช่าตึกไทยซัมมิทอยู่ แล้วเจ้าของตึกมีคดีรุกป่า มีคดีน้องชายติดสินบนใต้โต๊ะพนักงานที่สำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ถ้าผมกล่าวหาอย่างนี้ ก็คงไม่ถูก เพราะพรรคก้าวไกลเองก็คงไม่ทราบว่าเจ้าของตึกไปทำอะไรมา จึงต้องให้ความเป็นธรรมด้วย มิใช่พูดเอามันอย่างเดียวโดยไม่สนใจอะไรเลย

และสุดท้ายก็จะไปตัดคลิปอะไรสั้น ๆ แล้วบอกว่า รทสช.เกี่ยวพัน ตัดบางท่อนที่นายกฯ พูดบ้าง ผมพูดบ้างแล้วไปบิดเบือน ส่งไปในโลกโซเชียลเป็นการเมืองที่ตรรกะวิบัติที่สุด ทำการเมืองแบบนี้ตลอด พฤติกรรมแบบนี้ไม่ใช่แนวทางคนรุ่นใหม่ ควรเลิกได้แล้ว หรือแม้แต่พรรคเพื่อไทยที่เช่าตึกชินวัตรอยู่เหมือนกัน ทั้งที่เจ้าของตึกก็กระทำความผิดมากมาย แล้วเราจะไปกล่าวหาพรรคเพื่อไทยอย่างนั้น ผมก็คิดว่าไม่เป็นธรรมกับพรรคเพื่อไทย อย่างนี้เป็นการกล่าวหาตีหัวเข้าบ้าน มันไม่ถูก"

‘เพื่อไทย’ เดินหน้าอัดบิ๊กตู่ ปม ‘ตู้ห่าว-หลานชาย’ แถมประเด็นอดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ ‘เก็บส่วย’

(16 ก.พ. 66) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้แจ้งกรอบเวลาในการอภิปรายวันแรกว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านใช้ไป 12 ชั่วโมง 58 วินาที พรรคร่วมรัฐบาลใช้เวลาไป 19 นาที 40 วินาที คณะรัฐมนตรี (ครม.) ใช้เวลาไป 2 ชั่วโมง 3 นาที 33 วินาที รวมเวลาที่ใช้ไปทั้งหมด 14 ชั่วโมง 24 นาที 11 วินาที โดยในวันนี้เหลือเวลาอีก 15 ชั่วโมง พรรคร่วมฝ่ายค้านจะใช้เวลาอภิปราย 12 ชั่วโมง ครม.และพรรคร่วมรัฐบาลจะใช้เวลาชี้แจงและอภิปราย 3 ชั่วโมง

จากนั้น ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) ประกอบด้วย น.ส.มนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม น.ส.ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย และนายจตุพร เจริญเชื้อ ส.ส.ขอนแก่น ได้ฉายภาพรวมการแพร่ระบาดของยาเสพติดในประเทศไทย ส่งผลต่อสังคมเกิดเหตุในครอบครัวรายวันมีทั้งลูกฆ่าพ่อ ลูกฆ่าแม่ นำไปสู่การสูญเสีย ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ไม่ได้ปราบปรามและดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจัง

ต่อมานายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรค พท. ได้เปิดคลิปหนึ่งที่มีการเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย โดยมีนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือหาวเจ๋อ ตู้ กำลังสนทนากับคนกลุ่มหนึ่งโดยระบุว่า เมืองไทยถ้ามีเงินทำได้ทุกอย่าง มีเงินเท่านั้น อัยการก็สั่งไม่ฟ้อง

จากนั้นนายวิสาร กล่าวว่า ที่นายตู้ห่าวพูดจายิ่งใหญ่ได้ถึงเพียงนี้ เพราะทำค้าขายและประกอบธุรกิจกับบริษัทหลานชาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ ที่ธุรกิจของนายตู้ห่าวเติบโตก่อร่างสร้างตัวได้นั้นด้วยเพราะอาศัยอำนาจ และความใกล้ชิดจากหลานของ พล.อ.ประยุทธ์ใช่หรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิสารยังได้กล่าวถึงบริษัทหลาน พล.อ.ประยุทธ์ว่าได้จดทะเบียนวัตถุประสงค์ของบริษัทว่าเป็นเพียงรับเหมาก่อสร้าง แต่ปรากฏภายหลังว่าได้ทำธุรกิจเช่ารถทัวร์ 50 คัน ที่เกี่ยวโยงกับนายตู้ห่าวด้วย ซึ่งพบความผิดปกติ เช่น ทุนจดทะเบียนตั้งบริษัทเพียง 3 ล้านบาท แต่ไปเช่ารถทัวร์มีวงเงินถึง 175 ล้านบาท อีกทั้งสำนักงานคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ยังมาบอกภายหลังว่าหารถซึ่งเป็นหลักฐานไม่เจอ ยอมรับตามตรงว่ารู้สึกเป็นห่วงและกังวลว่าคดีนี้จะจบลงอย่างไร และอยากถามว่าแบบนี้ใครฟอกเงินกันแน่ จีนเทามาให้เราฟอกหรือหลานท่านไปฟอกให้

‘ชินจีฮยอน‘ นางฟ้าหน้าเบื่อโลก ตะลุยเช็กอินเมืองไทย เก็บทุกเม็ด ทั้งแหล่งเที่ยว-อาหาร-พาหนะ ยันจิ้งจกใน รร.!!

(16 ก.พ. 66) ‘ชินจีฮยอน‘ สาวเกาหลีคนดัง ผู้มีฉายา ‘นางฟ้าหน้าเบื่อโลก‘ เช็กอินเที่ยวเมืองไทยแบบเก็บทุกเม็ด ตั้งแต่แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต ของกินสุดฮอต พาหนะยอดนิยม ไปจนถึงน้องจิ้งจกบนผนังของโรงแรม!!

อีกหนึ่งสาวเกาหลีที่มาเที่ยวเมืองไทยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา คือ ‘ชินจีฮยอน‘ เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังของเกาหลีใต้ ‘NONERD’ และได้รับฉายา ‘นางฟ้าหน้าเบื่อโลก‘ จากสไตล์การถ่ายภาพและไลฟ์สไตล์เท่ ๆ ของเธอ และเมื่อครั้งที่ได้เดินทางมาเที่ยวที่เมืองไทย ชินจีฮยอน ก็ได้โพสต์ภาพเช็กอินตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม, ย่านท่าเตียน, ร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา, ย่านเมืองเก่าภูเก็ต, หาดกะตะ, เกาะพีพี และยังมีภาพบนรถตุ๊กตุ๊ก แท๊กซี่ มอเตอร์ไซค์ที่เช่ามาสำหรับขี่บนเกาะภูเก็ต

'กองทัพอากาศ' จัดเครื่องบิน Airbus 340-500 นำส่งสิ่งของพระราชทานไปยัง 'สาธารณรัฐตุรกี'

พลอากาศเอก อลงกรณ์  วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พร้อมด้วย นาวาอากาศเอกหญิง พรรณประภา วัณณรถ นายกสมาคมแม่บ้านทหารอากาศ และ นายนฤชัย นินนาท รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ รับฟังการบรรยายสรุปแผนการบิน พร้อมให้กำลังใจนักบินและเจ้าหน้าที่ของกองทัพอากาศ ที่ปฏิบัติภารกิจบินนำส่งสิ่งของพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปยังสาธารณรัฐตุรกี เพื่อนำไปช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนชาวตุรกีที่ประสบเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหว เมื่อวันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 21.30 น. ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง

ทั้งนี้ กองทัพอากาศ จัดเที่ยวบินพิเศษ เครื่องบินลำเลียงแบบที่ 19 (Airbus 340-500) ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ในคืนวันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 23.20 น. ไปยังสนามบินอังการา สาธารณรัฐตุรกี ใช้เวลาบิน 10 ชั่วโมง 15 นาที โดยปฏิบัติภารกิจบินนำส่งสิ่งของพระราชทาน ได้แก่ เครื่องปั่นไฟขนาดเล็กซึ่งมีความจำเป็นในสถานการณ์ปัจจุบัน ถุงนอนกันหนาวที่กันความเย็นได้ถึงอุณหภูมิติดลบ 24 องศาเซลเซียส เต็นท์นอนขนาดใหญ่ สำหรับ 5 - 6 คน ผ้านวมกันหนาว อาหารแห้ง นม และน้ำดื่ม 

โดยในเที่ยวบินขากลับ จะรับคนไทยที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศ ซึ่งในเบื้องต้นได้รับแจ้งจากกระทรวงการต่างประเทศว่ามีจำนวน 38 คน และลำเลียงร่างผู้เสียชีวิต จำนวน 1 ร่าง โดยมีกำหนดออกเดินทางจากสนามบินอังการา สาธารณรัฐตุรกี ในวันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.00 น. (เวลาท้องถิ่น) และเดินทางถึง ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ในเวลา 21.10 น. (เวลาประเทศไทย)

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสตูล จัดโครงการฝึกอบรมจัดตั้ง ทสปช. ด้านการเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ

เมื่อวันที่ (15 ก.พ. 66) ที่ผ่านมา ที่ นกน้ำรีสอร์ท ต.ควนโพธิ์ อ.เมืองสตูล จ.สตูล พ.อ.พิเชษฐ์  ชุติเดโช รอง ผอ.รมน. จังหวัด สตูล (ท.) ประธานในพิธีจัดโครงการฝึกอบรมจัดตั้ง ทสปช. ด้านการเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ โดยมีพันเอก สุรศักดิ์ พรหมสุทธิ์ หัวหน้าฝ่ายการข่าว กลุ่มงานนโยบายแผนและการข่าว กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดโครงการฝึกอบรมจัดตั้ง ทสปช. ด้านการเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ ประจำปี 2566 และมีกลุ่มเป้าหมาย ผู้เข้ารับการอบรม ประกอบด้วย ปลัดอำเภอประจำตำบล, ประชาชนจิตอาสา รวม 7 อำเภอ 12 ตำบล จำนวน 48 คน สำหรับการอบรมครั้งนี้ จัดขึ้นห้วงวันที่ 15 – 16 ก.พ. 66 และมอบเกียรติบัตร, เครื่องหมาย ทสปช.ให้กับผู้เข้ารับการอบรมทุกคน การอบรมครั้งนี้มีการบรรยายเรื่อง “การเสริมสร้างอุดมการณ์ความรักสถาบันหลักของชาติ และบทบาทหน้าที่พลเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” โดยวิทยากรจาก ศูนย์จิตอาสาพระราชทานจังหวัดสตูล และห้วงที่สอง การจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามความมั่นคงด้านสถาบันหลักของชาติ ของ ทสปช.ตำบล 

ตั้งแต่พุทธศักราช 2505  เป็นต้นมา พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในภูมิภาคต่างๆ ทุกภาค ทรงประจักษ์ในปัญหาของราษฎรในชนบท ที่ดำรงชีวิตด้วยความยากจนลำเค็ญ และด้อยโอกาส ทรงพระวิริยะอุสาหะ หาทางแก้ปัญหาตลอดมา ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ที่เปี่ยมด้วยพระอัจฉริยภาพและสายพระเนตรอันก้าวไกลด้วยความรักและความห่วงใยในทุกข์สุขของพสกนิกรตลอดมา  จากปรากฏการณ์ การเปลี่ยนแปลงทางสังคมยุคใหม่ ในปัจจุบันการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ไม่ถูกต้อง (Fake news) ด้วยเครื่องมือหรือเทคโนโลยีต่าง ๆ ส่งผลต่อกระทบต่อเสถียรภาพทางสังคม และเสถียรภาพการเมืองไทย โดยเฉพาะข่าวสาร/ข้อมูลด้านสถานบันหลักของชาติ อันประกอบด้วย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ถูกละเมิดและบิดเบือนไปจากความจริง

อาจารย์ CAMT มช. รุกความร่วมมือต่างประเทศ

อาจารย์ CAMT รุกความร่วมมือต่างประเทศ เข้าร่วมประชุม ASTRA Project Steering Committee Meeting และต่อยอดความร่วมมือโครงการอื่น ๆ ณ ประเทศอิตาลี

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อรวิชย์ ถิ่นนุกูล ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิจัยและความร่วมมือพร้อมด้วย อาจารย์ ดร.อัจฉรา คำอักษร ผู้ปฏิบัติหน้าที่ช่วยคณบดีด้านการบริหารระบบ ISO30401และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภัทรพร คูวุฒยากร อาจารย์ประจำวิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี ตัวแทนจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการกำกับการดำเนินโครงการ ครั้งที่ 2 (The 2nd Project Steering Committee Meeting) เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการ ASTRA (Advancing Strategic Management, Leadership and Fundraising in Higher Education in Asia) ร่วมกับพันธมิตรจากสหภาพยุโรปและเอเชียอีก 7 สถาบัน เมื่อวันที่ 9-10 กุมภาพันธ์ 2566 ณ Department of Social and Political Sciences, University of Florence ประเทศอิตาลี

สำหรับโครงการ ASTRA ได้รับการสนับสนุนจากสหภาพยุโรป (European Union: EU) ภายใต้กรอบการดำเนินงานของ Erasmus+ โปรแกรมเสริมสร้างขีดความสามารถแก่บุคลากรในสถาบันอุดมศึกษา (Capacity Building in Higher Education: CBHE) ซึ่งวัตถุประสงค์ของการประชุมในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อติดตามความก้าวหน้าภาพรวมของโครงการ หลังจากการดำเนินงานและร่วมกันขับเคลื่อน ASTRA ให้บรรลุภารกิจการส่งมอบผลลัพธ์ต่าง ๆ เป็นระยะเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา

พปชร. โต้เดือด 'เจี๊ยบก้าวไกล' หลังใช้คำไม่เหมาะ ถาม 'บิ๊กตู่' พูดหมาๆ อย่างนั้นได้อย่างไร

(16 ก.พ. 66) เมื่อเวลา 12.15 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาญัตติเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีโดยไม่มีการลงมติ ตามม.152 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560

นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้อภิปรายตอนหนึ่งช่วง โดยเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้กับผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมือง ทั้งมาตรา 112 มาตรา 116 และพ.ร.บ.คอมพ์ทั้งหมด

"เมื่อเร็วๆ นี้พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ ระบุ ว่า จะปิดประตู นิรโทษกรรม ดิฉันขอถามว่าท่านพูดหมาๆอย่างนั้นได้อย่างไร" นางอมรัตน์ กล่าว

ทำให้นายศุภชัย ซึ่งทำหน้าที่ประธาน ขอให้นางอมรัตน์ ถอนคำพูด “นายกฯ พูดหมาๆ” โดยนางอมรัตน์ได้ถอนคำพูดพร้อมระบุซ้ำว่า “ขอถอนคำพูดว่านายกฯ พูดหมาๆ” นางอมรัตน์ กล่าว

นายศุภชัย จึงติงว่า ให้ถอนคำพูดก็พอไม่ต้องย้ำ ในสภาฯ แห่งนี้เป็นสภาทรงเกียรติถึงแม้เราจะไม่พอใจกันเป็นการส่วนตัวแต่ก็ควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่ควรจะนำคำพูดที่ไม่เหมาะสมมาใช้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top