Saturday, 10 May 2025
NewsFeed

'บิ๊กตู่' ชู เศรษฐกิจไทยแข็งแกร่งต่อเนื่อง หลัง 'จีดีพี-เงินเฟ้อ-ดอกเบี้ย' ตัวเลขสวย

(20 ม.ค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเปรียบเทียบ 4 เครื่องชี้เศรษฐกิจที่สำคัญ เป็นเครื่องยืนยันไทยยังคงมีแนวโน้มขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม สั่งการ ติดตามและประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อการกำหนดนโยบายที่มีประสิทธิภาพ และกำชับทุกหน่วยงานเร่งเดินหน้าตามนโยบายทางเศรษฐกิจที่ได้กำหนดไว้ ส่งเสริมความเชื่อมั่นของนักลงทุน ผู้ประกอบการ ส่งเสริม กระตุ้นทุกกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อพัฒนาประเทศ

นายอนุชา กล่าวว่า การเปรียบเทียบเครื่องชี้เศรษฐกิจที่สำคัญตัวแรก ได้แก่ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP Growth) ซึ่งพบว่า ในไตรมาสที่ 3 ปี 2565 ไทยมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง อยู่ที่ 4.5 %YoY และสูงกว่ากลุ่มประเทศ Big-4 สหรัฐฯ สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ซึ่งมีตัวเลขอยู่ที่ 1.9 %YoY 2.3 %YoY 1.5 %YoY และ 3.9 %YoY เรียงตามลำดับ 

ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อของไทยก็ต่ำกว่าสหรัฐฯ ยูโรโซน และค่าเฉลี่ยของ ASEAN-5 (สิงคโปร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย) โดยในปี 2564 อยู่ที่ร้อยละ 1.2 ในขณะที่ในเดือนพฤศจิกายน 2565 อยู่ที่ร้อยละ 5.5 และธันวาคม 2565 อยู่ที่ร้อยละ 5.9

‘ป๋าเทพ’ ประกาศขายที่ 13 ไร่ 13 ล้าน ไร่ผืนงาม บรรยากาศร่มรื่นลมเย็นตลอดปี

ไม่นานมานี้ เพจเฟซบุ๊ก ‘ขนมเปี๊ยะขั้นเทพ’ ของ ป๋าเทพ โพธิ์งาม ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

ขายด่วน!! ไร่ป๋าเทพ 13 ไร่กว่า จ.ราชบุรี อ.บ้านโป่ง ต.เขาขลุง ที่สวย บรรยากาศร่มรื่น ต้นไม้เยอะที่สุดในแถบนี้พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ที่สูงจากถนน น้ำไม่ท่วม พร้อมกิจการสวนอาหารไร่ป่าเทพ 13 ไร่กว่า ที่ป๋าตั้งใจสรรสร้างมายาวนานด้วยมือและใจของป๋าเอง ที่สวย บรรยากาศร่มรื่น มีลมเย็นสบายตลอดทั้งปีครับ ต้นไม้เยอะที่สุดในแถบนี้ ป๋าปลูกเองเกือบทุกต้น พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ราคา 13 ล้านบาท 🏞 สนใจติดต่อ Inbox ขนมเปี๊ยะขั้นเทพ หรือ ติดต่อเบอร์โทร 085-3954415/ 094-4161555 ครับ #ไร่ป๋าเทพ #เทพโพธิ์งาม

‘Yahoo Finance’ ยกไทยติด 1 ใน 12 ประเทศแห่งเอเชียที่มี 'ความก้าวหน้ามากที่สุด'

เมื่อไม่นานมานี้ช่องยูทูบ ‘Thailand & The World’ ได้เผยแพร่วิดีโอ การจัดอันดับ 12 ประเทศในเอเชีย ที่มีความก้าวหน้ามากที่สุด ซึ่ง 1 ใน 12 ประเทศนั้นมีประเทศไทยติดอันดับอยู่ด้วย โดยเนื้อหาในคลิปดังกล่าว สรุปใจความได้ว่า...

ในศตวรรษที่ 21 ถือว่าเป็น ‘ศตวรรษแห่งทวีปเอเชีย’ เพราะมีการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจที่รวดเร็วเมื่อเทียบกับประเทศตะวันตก โดย ‘McKinsey’ บริษัทที่ปรึกษาด้านการจัดการที่มีชื่อเสียงระดับโลก ได้ประเมินว่า เอเชียจะมี GDP มากกว่า 50% ของโลก ภายในปี 2040 และผู้บริโภคจากเอเชีย จะเป็นตัวขับเคลื่อนกว่า 40% ของการบริโภคทั้งโลกภายในปีดังกล่าวเช่นกัน 

ทั้งนี้ ความต้องการบริโภคที่สูงขึ้น เป็นผลมาจากการขยายตัวของชนชั้นกลาง โดย World Economic Forum ได้ทำการประเมินไว้ว่า ภายในปี 2030 หรืออีกเพียง 7-8 ปีข้างหน้า ‘2 ใน 3 ของชนชั้นกลาง’ จะเป็นชาวเอเชีย

ล่าสุด ‘Yahoo Finance’ ก็ได้เผยผลการจัดอันดับ ‘12 ประเทศในเอเชีย’ ที่มีความก้าวหน้ามากที่สุด เราจะมาดูกันว่า ประเทศไทยของเรา ทำได้ดีแค่ไหนในการจัดอันดับครั้งล่าสุดนี้

โดยวิธีการวิจัยการจัดอันดับในครั้งนี้ ทำขึ้นมาโดยการประเมินสัดส่วนของงบประมาณในการวิจัยและพัฒนา หรือ R&D ต่อ GDP ที่เป็นข้อมูลจากธนาคารโลก และระดับการพัฒนามนุษย์ จาก Human Developemtn Index หรือ HDI ของปี 2021-2022 ซึ่ง HDI มีการวัดจาก 3 ปัจจัยด้วยกันคือ 1. อายุคาดเฉลี่ย 2. ระดับการศึกษา และ 3. รายได้ต่อหัว หรือ GDP Per capita นอกจากนั้นยังมีการพูดถึงการมีอยู่ของบริษัทขนาดใหญ่ในประเทศนั้นๆ อีกด้วย

สำหรับ 12 อันดับประเทศในเอเชีย ที่มีความก้าวหน้ามากที่สุด มีดังต่อไปนี้...

อันดับที่ 12 อินโดนีเซีย Yahoo ระบุว่า อินโดนีเซีย เป็นประเทศจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีคะแนนดัชนีการพัฒนามนุษย์ HDI 0.718 สอดคล้องกับมาตรฐานการครองชีพที่สูง โดยมีการใช้งบประมาณในการวิจัยและพัฒนา R&D ต่อ GDP 0.28% ในปี 2020 โดยมีบริษัทยักษ์ใหญ่ระบบโลกตั้งอยู่ โดยมี Alphabet ที่บริษัทแม่ของ Google, Toyota, ExxonMobil เป็นต้น การลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ เติบโตขึ้น 64% ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2022 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งได้รับแรงหนุนหลักมาจากความสามารถในการจัดการทรัพยากรของประเทศ

อันดับที่ 11 จอร์เจีย จอร์เจียมีที่ตั้งอยู่ระหว่างยุโรปและเอเชีย โดยในปี 2020 ประเทศได้ใช้งบประมาณในการวิจัยและพัฒนา R&D ต่อ GDP 0.30% โดยมีระดับคะแนนดัชนีการพัฒนามนุษย์ HDI 0.802 ซึ่งถือว่าสูงมาก ในช่วงที่มีการสำรวจในปี 2021-2022 โดยในปี 2022 ที่ผ่านมา จอร์เจียได้รับเงินลงทุนจากต่างประเทศ 1,670 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 26%

อันดับที่ 10 ไทย อีกหนึ่งประเทศจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ภาคการบริการมีการเติบโตสูง คิดเป็น 58.3% ของ GDP ประเทศในปี 2020 ผลประกอบการของภาคการผลิตทางอุตสาหกรรมในปี 2021 เติบโตจากปีก่อนหน้า 7.31% คิดเป็นรายได้ที่ 137,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ 

ส่วนคะแนนดัชนีการพัฒนามนุษย์ HDI ในช่วงปี 2021-2022 มีระดับที่สูงมาก อยู่ที่ 0.800 

นอกจากนั้น ประเทศยังมีการลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนาเป็นอย่างมากในปี 2020 ซึ่งอยู่ที่ 1.14% ต่อ GDP และถ้าเจาะลึกลงไปทั้ง 3 หลักเกณฑ์ ในการพิจารณาคะแนนดัชนีการพัฒนามนุษย์ HDI ที่ใช้ในการวัดผลจะพบว่า คนไทยมีอายุขัยเฉลี่ยที่ 78.7 ปี ในระยะเวลาการศึกษา 15.9 ปี และมีรายได้ต่อหัวอยู่ที่ 619,000 ต่อปี

อันดับ 9 มาเลเซีย มาเลเซียมีคะแนนดัชนีการพัฒนามนุษย์ HDI ที่สูงมากเช่นกัน โดยอยู่ที่ 0.803 และจากข้อมูลล่าสุดของธนาคารโลกในปี 2018 ประเทศมีการลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนา อยู่ที่ 1.04% ต่อ GDP สำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่มีการลงทุนที่นั่น ได้แก่ Alphabet, Microsoft เป็นต้น

อันดับที่ 8 ตุรกี เช่นเดียวกับจอร์เจีย ประเทศนี้มีที่ตั้งอยู่ระหว่างยุโรปและเอเชีย แต่มากถึง 97% ของพื้นที่ อยู่ในเขตเอเชีย ตุรกีมีคะแนนดัชนีการพัฒนามนุษย์ HDI ในปี 2022 ที่สูงมาก คือ 0.838 มีงบประมาณในการวิจัยและพัฒนา ที่ 1.09% ต่อ GDP ในปี 2022 อุตสาหกรรมทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อบริษัท startup ต่าง ๆ อย่าง keteers ที่ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2015 มีมูลค่าบริษัทสูงถึง 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2022 อีกบริษัทหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ บริษัททางด้าน E-Commerce สัญชาติตุรกี ที่ชื่อ D market ซึ่งอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย ส่วนบริษัทยักษ์ใหญ่จากต่างประเทศที่มีการลงทุนที่นั่น ได้แก่ Microsoft, apple เป็นต้น ตุรกียังมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโดรนอีกด้วย ซึ่งได้เป็นผู้จัดหาโดรนให้กับยูเครน ในการสนับสุนนการต่อสู้กับรัสเซียได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อันดับที่ 7 รัสเซีย เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีที่ตั้งคาบเกี่ยวระหว่างยุโรปและเอเชีย โดยพื้นที่กว่า 75% อยู่ทางฝั่งเอเชีย รัสเซียมีคะแนนดัชนีการพัฒนามนุษย์ HDI ที่สูงถึง 0.822 ในงบประมาณในการวิจัยและพัฒนาในปี 2018 ที่ 1.10% ต่อ GDP รัสเซียโดดเด่นในเรื่องเทคโนโลยีทางด้านการทหาร ที่เทียบเท่ากับเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกาในด้านการพรางตัว และเหนือกว่าในด้านเทคโนโลยีความเร็วเหนือเสียง ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ รัสเซียเป็นบ้านเกิดของบริษัทอย่าง Yandex, Auto, VK และ Y berry ศูนย์บริษัทต่างชาติที่มีชื่อเสียง ได้แก่ Microsoft, apple และ Alphabet ที่ตอนนี้ ทั้งหมดได้ถอนตัวออกจากประเทศไปแล้ว หลังจากที่รัสเซียได้เข้าทำสงครามกับยูเครน

อันดับที่ 6 จีน ในปี 2022 จีนเป็นประเทศที่มีขนาดเศษรฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และคาดว่าจะสามารถแซงหน้าสหรัฐอเมริกาได้ในอีกไม่นาน คะแนนดัชนีการพัฒนามนุษย์ HDI ของจีน อยู่ที่ 0.768 ซึ่งยังต่ำกว่าไทย แต่สูงกว่าอินโดนีเซีย รัฐบาลได้มีการลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนา ด้วยงบประมาณสูงถึง 2.40% ต่อ GDP มีส่วนแบ่งทางการตลาดในอุตสาหกรรมที่ใช้ความรู้และเทคโนโลยีอย่างเข้มข้น ในระดับที่สูงมาก โดยมีการส่งออกในด้านนี้สูงถึง 17% ของ GDP ทั้งประเทศ ในปี 2018 และเช่นเดียวกับรัสเซีย จีนมีแต้มต่อเหนือสหรัฐอเมริกาในด้านเทคโนโลยีความเร็วเหนือเสียง ในแง่ของเทคโนโลยีสารสนเทศ จีนมีบริษัทขนาดใหญ่อย่าง Alibaba ที่เป็นคู่แข่งโดยตรงของ amazon จากสหรัฐอเมริกา

อันดับที่ 5 ไต้หวัน ไต้หวันเป็นประเทศในเอเชียตะวันออก มีงบประมาณในการวิจัยและพัฒนาสูงถึง 3.63% ของ GDP ทั้งประเทศ ในปี 2020 มีคะแนนดัชนีการพัฒนามนุษย์ HDI ที่สูงถึง 0.916 ในปี 2022 ไต้หวันมีบริษัทผลิตชิป อย่าง TSMC ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดทั้งโลกในด้านนี้ สูงถึง 53% ในปี 2022 ส่วนบริษัทขนาดใหญ่จากต่างประเทศที่มีการลงทุนในไต้หวัน ได้แก่ ASC Group, United Microelectronics Corporation เป็นต้น

อันดับที่ 4 ฮ่องกง คะแนนดัชนีการพัฒนามนุษย์ HDI ของฮ่องกง สูงถึง 0.952 ในช่วงปี 2021-2022 แต่มีงบประมาณในการวิจัยและพัฒนา เพียง 0.99% ของ GDP ในปี 2020 ฮ่องกงถือเป็นประเทศที่รองรับธุรกิจ startup ได้ดีมาก โดยมีการเติบโตถึง 12% ในปี 2021 ทำให้มีบริษัทประเภทนี้ รวมแล้วถึง 3,755 บริษัท

‘น้องอุ้ม’ พยาบาล รพ.อุ้มผาง ถอดท่อที่คอแล้ว เผยอาการล่าสุด หายใจเอง – นั่งได้ – กำลังฝึกยืน

‘พยาบาลอุ้ม’ ถอดท่อที่คอได้แล้ว หายใจได้เองเป็นปกติ กินอาหารทางสายยางอยู่ ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ใบหน้าสวยงามแบบในรูปนี้ ขยับร่างกายด้านขวาได้ ยิ้ม ชูสองนิ้ว นั่งได้ และกำลังฝึกยืน 

เพจ ‘เรื่องเล่าหมอชายแดน’ โพสต์รายงานความคืบหน้าอาการ และความช่วยเหลือ ‘น้องอุ้ม’ ปุณยวีร์ ศรีดวงแปง พยาบาล โรงพยาบาลอุ้มผาง ที่ประสบอุบัติเหตุ และขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ราชวิถี ว่า 

1 ปีที่ผ่านไปกับชีวิตใหม่ของน้องอุ้ม 

ย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่น้องอุ้ม พยาบาลโรงพยาบาลอุ้มผาง ประสบอุบัติเหตุในการปฏิบัติหน้าที่รีเฟอร์ส่งผู้ป่วยบนถนน สายแม่สอด-อุ้มผาง ตอนนี้ก็ครบ 1 ปีแล้วที่น้องอุ้มได้รับการผ่าตัดและฟื้นฟู โดยรักษาที่โรงพยาบาลแม่สอดในช่วงแรก หลังจากที่อาการทรงตัว ได้ย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี โดยความช่วยเหลือจากกรมการแพทย์ (โดยเฉพาะท่านรองอธิบดี นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สอด ท่านช่วยเหลือประสานงานให้โดยตลอด) และสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่เป็นต้นสังกัด ทางสำนักพระราชวังที่รับน้องอุ้มเป็นผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์ พระราชทานความช่วยเหลือกับน้องอุ้มและครอบครัว ที่จะลืมไม่ได้เลยคือ ท่านผู้อำนวยการ คณะแพทย์ พยาบาล ทีมกายภาพบำบัด และทุกหน่วยงานของโรงพยาบาลราชวิถีที่ดูแลน้องอุ้มเป็นอย่างดี

ตอนนี้น้องอุ้มถอดท่อที่คอ (Tracheostomy) ได้แล้ว สามารถหายใจได้เองเป็นปกติ ได้รับการใส่เครื่องควบคุมการเต้นของหัวใจ เนื่องจากหัวใจเต้นช้า อันเนื่องมาจากความผิดปกติของสมอง กินอาหารทางสายยางอยู่ ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ใบหน้าสวยงามแบบในรูปนี้เลย สามารถขยับร่างกายด้านขวาได้ ทำตามคำสั่งง่าย ๆ ได้ เช่น ยิ้ม ชูสองนิ้ว นั่งได้ และกำลังฝึกยืน นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากเพราะในวันนั้นพวกเราถอดใจ คิดว่าน้องอุ้มมีโอกาสเสียชีวิตสูงมากและมากที่สุด อาจเป็นได้เพียงเจ้าหญิงนิทรา

‘เม พรีมายา’ โพสต์ไม่กล้าเอาชีวิตมาเสี่ยงทำสิ่งไม่ดี ยัน!! ทุกงานที่ทำ ‘เพราะความรัก’ ไม่ใช่หน้าที่

(20 ม.ค.66) จากเพจ ‘Phitnari Tantiwit’ ได้โพสต์ข้อความหลังได้ประกันตัวจากกรณีถูกตั้งข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ระบุว่า... 

วันนี้เมไม่ได้ยืนหยัดกับการสู้ชีวิตมากมายขนาดนี้แค่เพื่อตัวเองหรอกนะคะ แต่เมเห็นความรักและความหวังอีกมากมายที่ฝากไว้กับผู้หญิงคนนี้ ไม่มีเหตุผลอะไรเลยจริง ๆ ค่ะ ที่จะไม่ต่อสู้ เดินหน้าเพื่อพวกเราทุกคน เราทำกันมาได้ขนาดนี้ ทุกคนสู้ ตั้งใจ ทุ่มเทมามากมายจนมันทำให้เมยอมแพ้และอ่อนแอไม่ได้เลยเหมือนกัน 

เมขอขอบคุณทุกคนที่รักกันจริง ๆ การกระทำของพวกเรา(เพื่อนพี่น้อง คนใกล้คนไกล คนที่รักและหวังดี)ต่างก็เป็นกำลังใจให้กันและกันมาเสมอ มันคอยตะโกนออกมาจนเมสัมผัสได้ทุกช่องทาง ‘บอสเมสู้ ๆ’ เมรู้และเมก็เชื่อว่าคนอื่นก็รับรู้ได้ที่เมก็คอยส่งกำลังใจและหวังดีให้พวกเรามาโดยตลอดเช่นกัน

เมทำงานตรงนี้ เมื่อก่อนมันก็คงทำเพราะคำว่า ‘หน้าที่’ จนตอนนี้มันกลายเป็นความรักความหวังดี พลังที่ยิ่งใหญ่ที่พร้อมจะทำทุกอย่างด้วยหัวใจ และทุ่มให้สุดกำลังใจและกายที่มี เพื่อทุกคนในครอบครัวพรีมายาจริง ๆ ยิ่งทุกคนรัก ยิ่งทุกคนเชื่อใจเมมากเท่าไหร่ มันยิ่งทวีคูณพลังของเมที่จะไม่ทำให้คนที่รักเมเสียใจและมันทำให้เมรักทุกคนมากขึ้นทุกวัน

ปัญหาอุปสรรค ตลอดการทำงาน ทำให้เมได้เรียนรู้ปรับตัวแก้ไข ที่จะเป็นเมเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นในทุกๆ วันเสมอ จากเด็กคนนึงอายุ 22-23 หาเงินใช้เลี้ยงตัวเองได้ จนสามารถแบ่งเบาภาระครอบครัว และภูมิใจที่สุดในชีวิตคือเราสามารถเป็นส่วนนึงที่จะส่งต่อสิ่งดีๆ ให้โอกาสกับคนในสังคมอีกเยอะแยะมายมาย รู้ตัวอีกทีก็วุ่นๆ กับการสร้างตัวมานี่ไม่กี่วันก็จะอายุ 30แล้วนะ เวลา7ปีที่ผ่านมา ได้อะไรมาเยอะแยะมากมาย แต่ที่เสียไปก็เป็นอะไรที่ย้อนเอาคืนมาไม่ได้เหมือนกัน มันแลกมาด้วยทุกอย่าง ไม่มีอะไรง่ายเลยจริง ๆ

เมมีวันนี้ได้ มาจากความเข้าใจเสมอที่ว่าอุปสรรคเป็นส่วนนึงของความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ขนาดของอุปสรรคมาพร้อมกับขนาดของธุรกิจ เมเข้าใจทุกอย่างที่เกิดขึ้นโดยไม่เคยตั้งคำถามว่าทำไม? เพราะทุกอย่างมันเข้าใจได้จริงๆ ทำงานเยอะโอกาสล้มเหลวโอกาสผิดพลาด โอกาสสำเร็จก็เยอะมากเท่านั้น ทำงานแล้วเจอปัญหา ไม่ว่าจะใหญ่จะเล็ก มันก็เกิดขึ้นได้เสมอค่ะ อย่างเช่นครั้งนี้ก็เช่นกัน

‘บิ๊กป้อม’ ลงพื้นที่ ‘พิษณุโลก-นครสวรรค์’ ตรวจดูการบริหารจัดการน้ำ-พัฒนาบึงบอระเพ็ด

(20 ม.ค. 66) ที่อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง นายวิรัช รัตนเศรษฐกิจ และคณะ เดินทางตรวจราชการ พื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ที่จ.พิษณุโลก และ จ.นครสวรรค์ เพื่อติดตามการขับเคลื่อนการบริหารจัดการน้ำและการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อติดตามการก่อสร้างประตูระบายน้ำท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก และโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำน่าน ต.พลายชุมพล อ.เมือง โดยมีผวจ.พิษณุโลก และ จ.นครสวรรค์ เลขาสทนช. หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรอต้อนรับ

โดยพล.อ.ประวิตร รับฟังบรรยายสรุปความคืบหน้าการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่และการก่อสร้างประตูระบายน้ำ 4 แห่ง ได้แก่ ประตูระบายน้ำท่านางาม ท่าแพ บ้านวังจิก และโพธิ์ประทับช้าง ที่เก็บกักน้ำปริมาณกว่า 38 ล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่รับประโยชน์กว่า 2 แสนไร่ ซึ่งความคืบหน้าการก่อสร้างประตูระบายน้ำท่านางงาม สำหรับรองรับพื้นที่ 5 ตำบล 1 อำเภอ พื้นที่รับประโยชน์ 51,375 ไร่ 

จากนั้นพร้อมพบประชาชนและรับฟังปัญหาประชาชนในพื้นที่ จากประชาชนในพื้นที่บางระกำ ที่เดินทางมาให้กำลังใจและขอบคุณพล.อ.ประวิตร ที่ช่วยแก้ปัญหาและบรรเทาผลกระทบจากน้ำท่วมและน้ำแล้งอย่างจริงจัง ทำให้มีน้ำใช้เพื่อการเกษตร การดำรงชีพอย่างพอเพียงในฤดูแล้ง

‘อภิชา’ ไขก๊อก ‘ส.ส.’ พร้อมออกกลุ่มไลน์ ภท. เซ็ง!! สภาล่มบ่อย ขอไปทำงานพื้นที่ดีกว่า

‘อภิชา’ ลาออก ‘ส.ส.-ดีดตัวออกกลุ่มไลน์พรรค’ เจ้าตัวระบุ ยังสังกัด ‘ภูมิใจไทย’ ขอรอดู ‘กำนันป้อ’ ก่อนตัดสินใจย้ายไปพรรคไหน

(20 ม.ค. 66) นายอภิชา เลิศพชรกมล ส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็น ส.ส. ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และมีผลในวันนี้ (20 ม.ค.) เนื่องจากสภาล่มบ่อย จึงไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่ต่อ ขอไปทำพื้นที่ดีกว่า ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในสังกัดพรรคภูมิใจไทย ยังไม่ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคแต่อย่างใด 

เมื่อถามว่า เตรียมตัวจะย้ายสังกัดไปพรรคอื่นหรือไม่ นายอภิชา กล่าวว่า ยังไม่ได้คิด รอดูนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.คมนาคม ก่อน เพราะนายวีรศักดิ์สุขภาพไม่ค่อยดี จะยุติบทบาททางการเมือง ตนก็เลยออกมาตั้งหลัก สภาก็ล่มบ่อยด้วย ตอนนี้ยังอยู่พรรคภูมิใจไทย ยังไม่ได้ออกจากภูมิใจไทย หลังจากลาออกจาก ส.ส.ก็จะเน้นลงพื้นที่เป็นหลัก 

นายอภิชา เปิดเผยอีกว่า ได้แจ้งเรื่องการลาออกจาก ส.ส.กับนายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทยแล้ว ซึ่งนายสรอรรถ ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเห็นว่าเป็นการตัดสินใจที่เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.

‘อนุทิน’ ถก สหราชอาณาจักร ชวนลงทุนอีอีซี พร้อมช่วยหนุนไทยเป็นเจ้าภาพ Expo 2028 ที่ภูเก็ต

‘อนุทิน’ นำทีมคุย รัฐมนตรีช่วยการค้าสหราชอาณาจักร เล็งเพิ่มมูลค่านำเข้า-ส่งออก 2 ประเทศ ชวนลงทุนอีอีซี 3 ด้าน การแพทย์ ดิจิทัล เศรษฐกิจหมุนเวียน พร้อมขอเสียงสนับสนุนไทยเป็นเจ้าภาพ Expo 2028 Phuket  Thailand

(20 ม.ค. 66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 66 ที่กระทรวงการค้าระหว่างประเทศ Department for International Trade (DIT) กรุงลอนดอน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้พบกับนาย Nigel Huddleston รมช.การค้าระหว่างประเทศ (Minister for International Trade) แห่งสหราชอาณาจักร เพื่อหารือในประเด็นความร่วมมือด้านการค้า เศรษฐกิจและการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ โดยมีคณะผู้แทนจากประเทศไทยเข้าร่วม อาทิ นายพลพีร์ สุวรรณฉวี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายธานี ทองภักดี เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงลอนดอน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้หารือในประเด็นการค้าที่ขณะนี้สหราชอาณาจักรถือเป็นคู่ค้าอันดับ 4 ในยุโรปสำหรับประเทศไทย ซึ่งประเทศไทยมีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้มูลค่าทั้งการนำเข้าและส่งออกระหว่าง 2 ประเทศให้มากขึ้น ผ่านความร่วมมือที่ใกล้ชิดทั้งระดับรัฐบาลผ่าน คณะกรรมการร่วมเศรษฐกิจและการค้าไทย-สหราชอาณาจักร หรือ Thailand-UK Joint Economic and Trade Committee (JETCO) ตลอดจนความร่วมมือของเอกชนโดยสภาผู้นำธุรกิจไทย-สหราชอาณาจักร หรือ Thai-UK Business Leadership Council (TUBLC)

‘ก้าวไกล’ หาเสียง-เปิดตัวผู้สมัคร เมืองปากน้ำโพ กร้าว!! ไม่จับมือพรรคสืบทอดอำนาจ ‘ป้อม-ตู่’

(20 ม.ค. 66) ที่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ทีมงานพรรคก้าวไกล นำโดย ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมเดินสายพบปะพี่น้องประชาชนรอบตลาดบ่อนไก่ แสดงความพร้อมของพรรคก้าวไกลในการสู้ศึกเลือกตั้งพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ และแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครสวรรค์ เขต 1 คือ ‘กฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี’ โดยได้รับกำลังใจล้นหลามจากประชาชน ที่ต่างบอกว่าอยากเลือกตั้ง และถึงเวลาแล้วที่ประเทศต้องเปลี่ยนให้คนรุ่นใหม่ขึ้นนำแทน

ด้าน กฤษฐ์หิรัญ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครสวรรค์ เขต 1 พรรคก้าวไกล กล่าวยืนยันว่า ตนและพรรคก้าวไกล จะไม่จับมือกับพรรคการเมืองที่สืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รวมถึงไม่จับมือกับพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติเด็ดขาด

‘ภูมิใจไทย’ แชมป์พรรคการเมือง หลังได้รับเงินบริจาคมากที่สุด

เมื่อวันที่ (19 ม.ค. 66) ที่ผ่านมา เว็บไซต์คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่บัญชีเงินบริจาคพรรคการเมือง ประจำเดือนพฤศจิกายน 2565 รวมทั้งหมด 14 พรรค โดยพรรคที่ได้รับเงินบริจาคสูงสุดคือ ‘พรรคภูมิใจไทย’ จำนวน 26,000,000 บาท รองลงมา คือ พรรคเพื่อไทย 16,000,000 บาท

ส่วน พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรค และเพิ่งเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นสมาชิกพรรค เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 ได้รับบริจาค 3,000,000 บาท

สำหรับผู้บริจาคที่น่าสนใจของพรรคภูมิใจไทย พบว่า ปรากฏบริษัทเอกชนหลายรายร่วมบริจาค ได้แก่ หจก.น้ำก่ำก่อสร้าง ร่วมบริจาคสูงถึงจำนวน 10 ล้านบาท บริษัท บีเอสซี โอเปอเรชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด บริจาค 1 ล้านบาท บริษัท ธนาวิส 2020 จำกัด จำนวน 1 ล้านบาท


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top