Saturday, 10 May 2025
NewsFeed

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมคณะผู้แทนไทย ร่วมประชุมทวิภาคีไทย-กัมพูชา ร่วมแก้ปัญหาการเยียวยาเหยื่อค้ามนุษย์ ส่งต่อข้อมูลการคัดแยกเหยื่อ อย่างไร้รอยต่อ

(18 ม.ค. 66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ได้ร่วมกับคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมการประชุมทวิภาคีไทย-กัมพูชา เพื่อหารือการจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมสำหรับการดำเนินการตามขั้นตอนการปฏิบัติงานที่เป็นมาตรฐานในการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ณ เมืองเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 ม.ค.66 โดยมีผู้แทนจากหลายฝ่ายทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคม โดยมีนายประวิทย์ ร้อยแก้ว รองอธิบดีอัยการ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย นอกจากนี้ยังมีผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม กรมการปกครอง กระทรวงแรงงาน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมทั้งผู้แทนจากมูลนิธิต่างๆ อีกจำนวนมาก โดยมีองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) เป็นเจ้าภาพในการประสานงาน และมีท่านโช บุน เฮือง ปลัดกระทรวงมหาดไทย/รองประธานคณะกรรมการต่อต้านการค้ามนุษย์ เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายกัมพูชา

ในการประชุมนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้มีโอกาสในการนำเสนอผลงานการดำเนินคดีค้ามนุษย์ของประเทศไทยซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ทำงานบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อการช่วยเหลือและคุ้มครองสวัสดิภาพของผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ซึ่งล่าสุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจกำกับติดตามและช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เป็นประธานอนุกรรมการดังกล่าว ทำหน้าที่ในการติดตามการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหาย เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและเหมาะสม นอกจากนี้ยังได้กล่าวขอบคุณทางการกัมพูชา ซึ่งในปีที่ผ่านมาได้มีการประสานความร่วมมือกันในการช่วยเหลือเหยื่อคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับมาได้มากกว่า 1,105 คน 

'จาซินดา อาร์เดิร์น' นายกนิวซีแลนด์ประกาศลาออกฟ้าแลบ พ้อ!! "ฉันไม่มีพลังพอที่จะทำมันอย่างยุติธรรมอีกต่อไป"

จาซินดา อาร์เดิร์น ประกาศลาออกจากตำแหน่ง โดยบอกว่านี่เป็น “ความรับผิดชอบที่จะรู้ว่าเมื่อใดคุณเป็นคนที่เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำและเมื่อใดที่คุณไม่ใช่”

จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีหญิงของนิวซีแลนด์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งสายฟ้าแลบเมื่อวานนี้ (19 ม.ค.) โดยบอกว่าจะมีการเลือกตั้งนายกฯ คนใหม่ในเดือน ต.ค.

เธอให้เหตุผลการลาออกว่า “ฉันจะลาออก เพราะหน้าที่ที่ได้รับสิทธิพิเศษนั้นต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบ ความรับผิดชอบที่จะรู้ว่าเมื่อใดคุณเป็นคนที่เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำและเมื่อใดที่คุณไม่ใช่ ฉันรู้ว่างานนี้ต้องใช้อะไรบ้าง และฉันรู้ว่าฉันไม่มีพลังพอที่จะทำมันอย่างยุติธรรมอีกต่อไป มันง่ายมาก”

เดิมเธอจะครบวาระการดำรงตำแหน่งวันที่ 7 ก.พ. นี้ แต่เธอก็ตัดสินใจที่จะลาออกก่อนกำหนด และยังคงมีสถานะเป็นหนึ่งในสมาชิกรัฐสภาจนกว่าจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ในปลายปีนี้

“ฉันเป็นคน นักการเมืองก็เป็นคน เราให้ทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ตราบเท่าที่เราทำได้ และแล้วก็ถึงเวลา และสำหรับฉัน มันถึงเวลาแล้ว” เธอกล่าว

อาร์เดิร์น เสริมว่า เธอได้ไตร่ตรองในช่วงพักร้อนที่ผ่านมาว่า เธอมีพลังงานเหลือพอที่จะทำหน้าที่นี้ต่อไปหรือไม่ และเธอได้ข้อสรุปว่า “ไม่มี”

อาร์เดิร์นเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงที่อายุน้อยที่สุดในโลก เมื่อเธอได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีในปี 2017 ขณะอายุ 37 ปี เธอได้นำนิวซีแลนด์ฝ่าวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 และภัยพิบัติครั้งใหญ่ รวมถึงเหตุกราดยิงมัสยิด 2 แห่งในไครสต์เชิร์ชและภัยพิบัติภูเขาไฟระเบิดบนเกาะไวต์

“นี่เป็นช่วงเวลา 5 ปีครึ่งที่เติมเต็มชีวิตของฉันมากที่สุด แต่ก็มีความท้าทายเช่นกัน ในวาระการประชุมเรื่องที่อยู่อาศัย ความยากจนของเด็ก และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เราพบกับหตุการณ์ก่อการร้ายในประเทศ ภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ โรคระบาด และวิกฤตเศรษฐกิจ” เธอกล่าว

เมื่อถูกถามว่าเธออยากให้ชาวนิวซีแลนด์จดจำความเป็นผู้นำของเธออย่างไร อาร์เดิร์นตอบว่า “ในฐานะคนที่พยายามมีเมตตาเสมอ”

“ฉันหวังว่าฉันจะทิ้งความเชื่อไว้ให้ชาวนิวซีแลนด์ว่า คุณสามารถเป็นคนใจดีแต่เข้มแข็ง เห็นอกเห็นใจแต่เด็ดขาด มองโลกในแง่ดีแต่มีสมาธิ และคุณสามารถเป็นผู้นำในแบบของคุณเองได้ คือผู้ที่รู้ว่าถึงเวลาต้องไป” อาร์เดิร์นกล่าว

แลกหมัดนโยบาย แบบหมัดต่อหมัดระหว่าง นโยบายเพิ่มเงินบัตรประชารัฐ 700 บาท จากพรรคพลังประชารัฐ กับ นโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท จากพรรคเพื่อไทย

ซึ่งนโยบายเพิ่มเงินบัตรประชารัฐ 700 บาท จากพรรคพลังประชารัฐ ก็เพื่อปรับปรุงระบบสวัสดิการและบริการพื้นฐานเพื่อลดช่องว่างของความยากจน ให้เกิดการกระจายรายได้ที่เท่าเทียมกันให้มากขึ้น ส่วนนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท จากพรรคเพื่อไทย ก็เพื่อให้รัฐบาลกระจายรายได้ ขยายโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ และพัฒนาประเทศให้หลุดพ้นประเทศรายได้ปานกลาง 

ส่วนจุดแข็งของ นโยบายเพิ่มเงินบัตรประชารัฐ 700 บาท จากพรรคพลังประชารัฐ คือ เป็นโครงการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ส่งตรงจากรัฐบาลถึงมือประชาชนทันที ทำให้การช่วยเหลือถูกกลุ่มเป้าหมายและเกิดประโยชน์สูงสุดโดยภาครัฐมีข้อมูลในการติดตามประเมินผลได้ ส่วนจุดอ่อน คือ ไม่สามารถคัดกรองประชาชนยากจนจริง ๆ กับประชาชนที่ไม่ได้ยากจนได้ เนื่องจากไม่มีระบบตรวจสอบทรัพย์สินของประชาชนที่รัดกุม และมีข้อกังวลว่าอาจมีการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการเอกชนบางรายที่เข้าร่วมโครงการ

เวที 'มิสแกรนด์ ไทยแลนด์' ประกาศชัด!! ไม่รับผู้สมัครที่เคยผ่าน เวทีมิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์

เมื่อวันที่ (19 ม.ค. 66) มีรายงานว่าเพจ 'Miss Grand Thailand' ได้ประกาศเงื่อนไขการรับผู้สมัครผู้เข้าประกวด Miss Grand Thailand ทั้ง 77 จังหวัด โดยมีรายละเอียดว่า...

ตามที่ บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ( มหาชน) ผู้จัดการประกวด Miss Grand Thailand ได้กำหนดเงื่อนไขรับสมัครผู้เข้าประกวดมิสแกรนด์ประจำจังหวัด เรื่องคุณสมบัติของผู้เข้าประกวด ตามที่ระบุในสัญญาแล้วนั้น

บัดนี้ กองประกวด Miss Grand Thailand ขอแจ้งเงื่อนไขเพิ่มเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายและบริบทเวทีการประกวด Miss Grand Thailand

โดยไม่อนุญาตให้ท่านรับสมัครผู้เข้าประกวดที่ผ่านการประกวดจากเวที มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นไป และ นางสาวไทย ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป รวมไปถึงผู้เข้าประกวดนางสาวไทยในระดับจังหวัด 77 จังหวัด ถึงแม้ไม่ได้ตำแหน่งก็ตาม

'ส.ว.สมชาย' แจ้งข่าวดีคอหวย เก็บสลากเกินราคาทุกใบไว้ แล้วใช้เป็นหลักฐานแจ้งความ ได้รับเงินรางวัลใบละ 1 พัน

'ส.ว.สมชาย'แจ้งข่าวดีคอหวย สลากกินแบ่งเกินราคา 80 บาท ทุกใบมีค่าอย่าทิ้ง นำเป็นหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีที่สถานีตำรวจทุกท้องที่ทั่วประเทศ ผู้แจ้งจะได้รับเงินรางวัลใบละ1พันบาท

(20 ม.ค. 66) นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า

#ข่าวดีข่าวด่วน
#สลากเกินราคาทุกใบมีค่าอย่าทิ้ง
#รางวัลนำจับเกินราคาใบละ1พันบาท
#แจ้งความดำเนินคดีมีรางวัล

แจ้งให้ผู้ที่ผิดหวังจากซื้อสลากเกินราคา 80 บาท จากทุกแพลตฟอร์มหวยเถื่อนออนไลน์ที่ขายเกินราคาว่า ท่านถูกรางวัลทุกคนแล้วครับ

‘อนุทิน’ ลงนามร่วมมือ ‘สหราชอาณาจักร’ พัฒนาจีโนมิกส์ มุ่งเป้าวิจัยโรควินิจฉัยยาก - มะเร็ง - โรคติดเชื้อ

‘อนุทิน’ เป็นผู้แทนประเทศไทยลงนามความร่วมมือกับสหราชอาณาจักรพัฒนาด้านจีโนมิกส์ พุ่งเป้าวิจัยกลุ่มโรควินิจฉัยยาก มะเร็ง โรคติดเชื้อ สนับสนุนการให้บริการและส่งเสริมเป้าหมายศูนย์กลางทางการแพทย์ของไทย

(20 ม.ค. 66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 19 ม.ค. 66 ตามเวลาท้องถิ่น กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เป็นผู้แทนประเทศไทยในการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ประเทศไทยและกระทรวงสาธารณสุขและการดูแลทางสังคม แห่งสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือว่าด้วยความร่วมมือด้านจีโนมิกส์ ซึ่งในการนี้ Lord Nick Markham CBE รมช.สาธารณสุขและการดูแลทางสังคม ได้เป็นผู้แทนลงนามในฝ่ายของสหราชอาณาจักร

ทั้งนี้ การลงนามได้มีขึ้นที่กระทรวงสาธารณสุขและการดูแลสังคม สหราชอาณาจักร โดยมีผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้ง 2 ประเทศเข้าร่วม ฝ่ายไทยมีผู้เข้าร่วม อาทิ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายธานี ทองภักดี เอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และ นพ.นพพร ชื่นกลิ่น ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส) ทางด้านสหราชอาณาจักรมีผู้เข้าร่วม อาทิ ผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุขและการดูแลทางสังคม, National health services (NHS), Genomics England, National health services (NHS), UK Health Security agency, และหน่วยงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

นายอนุทิน กล่าวว่า MOU ฉบับนี้เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญสำหรับความร่วมมือด้านจีโนมิกส์ทางการแพทย์ระหว่างไทยและสหราชอาณาจักร ซึ่งภายใต้ความร่วมมือจะมุ่งให้ความสำคัญกับการวิจัยโรคหายาก มะเร็ง เภสัชพันธุศาสตร์ โรคไม่ติดต่อ และโรคติดเชื้อ

'พล.ท.นันทเดช' เตือน โฆษณาเพื่อหวังผลทางการเมือง ต้องทำได้จริงและหางบประมาณมาอุดตามที่โม้ไว้ได้

(20 ม.ค. 66) พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า การหาเสียงที่ไร้คุณธรรม 2 รูปแบบ

การโฆษณาเพื่อหวังผลทางการเมืองนั้นมีขอบเขตควบคุมไว้ คือ จะต้องทำได้จริง และ สามารถหางบประมาณมาทตามที่โม้ไว้ได้ โดยไม่ก่อผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ

เช่นเรื่องการขึ้นค่าแรง 600 บาท แต่มีเงื่อนไขติดมาเพื่อที่จะสามารถชี้แจงต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ว่าจะไปขึ้นเอาอีก 3 – 4 ปีข้างหน้า

‘แอดหมู’ ยุติบทบาทมือไลฟ์คู่กาย ‘ชัชชาติ’ ย้ำ ไม่มีปัญหากับใคร แค่จะไปทำงานที่ชอบ

ผู้ใช้บัญชีติ๊กต๊อก jar Hom โพสต์คลิป ‘แอดมินหมู’ หรือ  นายวิทยา ดอกกลาง มือไลฟ์คู่กาย ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ครั้งลงพื้นที่หาเสียงผู้ว่าฯกทม. เปิดใจยุติบทบาทแอดมิน ให้กับทางผู้ว่าฯชัชชาติ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยระบุว่า ขณะนี้ ตนเองได้ยุติบทบาท แอดมินเพจอาจารย์ชัชชาติ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และหลังจากนี้จะทำงานในเส้นทางของตนเองต่อ ขณะที่งานของกทม. ก็ยังจะไม่ทิ้ง หากมีโปรเจ็คอะไรที่สามารถเข้าไปช่วยได้ ก็จะยังร่วมมือได้เหมือนเดิม แม้ว่าจะไม่ได้ทำหน้าที่แอดมินช่วยไลฟ์สดแล้วก็ตาม แต่หากอาจารย์ชัชชาติหรือทีมงาน ต้องการให้ช่วยทำโปรเจ็คอะไรก็ยินทำช่วยเสมอ โดยในช่วงนี้ก็มี ส.ก. บางท่านให้เข้าไปช่วยทำบ้างแล้ว

อดีต ส.ส.'ประนอม โพธิ์คำ' ทิ้ง 'พปชร.' ซบ ‘รวมไทยสร้างชาติ’ ตามคำชวน 'แรมโบ้'

อดีต ส.ส. ‘ประนอม โพธิ์คำ’ ออกจากพลังประชารัฐ เข้าสมัครสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติแล้ว ตามคำชวน ‘แรมโบ้’ มั่นใจได้ผู้มีความรู้ ความสามารถ นำพาพรรคชนะเลือกตั้ง ‘โคราช’

(20 ม.ค. 66) นายประนอม โพธิ์คำ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เข้ายื่นใบสมัครสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติกับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค เมื่อวานนี้ (19 ม.ค.) ตามคำเชิญชวนของนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ

ชวนชม!! นิทรรศการ 'แดนสนธยา 3' การคัมแบ็กสุดยิ่งใหญ่ในรอบ 4 ปี

หากใครชื่นชอบงานศิลปะ ห้ามพลาดอย่างยิ่งกับ นิทรรศการ ‘แดนสนธยา ๓’ โดยนิทรรศการนี้เป็นการกลับมาจัดแสดงผลงานอย่างยิ่งใหญ่ในรอบ 4 ปี ของ ‘ช่วง มูลพินิจ’ ศิลปินผู้ได้รับฉายาว่า ‘จิตรกรผู้มองเห็นมดยิ้มสวย’ จากศิลปินแห่งชาติ และนักเขียนผู้มีชื่อเสียงของไทย ‘รงค์ วงษ์สวรรค์ 

สำหรับประวัติของช่วง มูลพินิจ ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ประจำปี พ.ศ. 2556 เป็นศิลปินผู้มีชื่อเสียง เกิดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2483 ที่จังหวัดสมุทรสงคราม จบอนุปริญญาจากคณะ จิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เมื่อปี พ.ศ. 2505

ผลงานที่สร้างชื่อให้กับช่วงมาจากการเขียนภาพปกและภาพประดับในหนังสือและนิตยสารชั้นนำของไทยในยุคสมัยนั้น อาทิ ช่อฟ้า, ชาวกรุง, เฟื่องนคร และสยามรัฐสัปดาหวิจารณ์ จนเริ่มเป็นที่รู้จักด้วยผลงานเขียนลายเส้นแบบฟรีแฮนด์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงได้เขียนลายเส้นที่หน้าปกหนังสือ เสเพลบอยชาวไร่ ของ ‘รงค์ วงษ์สวรรค์ และหน้าปกหนังสือ กามนิต วาสิฏฐีด้วย จากนั้นได้ลาออกจากกระทรวงอุตสาหกรรมหลังจากทำอยู่ 9 ปี เพื่อเริ่มงานใหม่ ที่บริษัทโฆษณาอีก 3 ปี และหลังจากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็นศิลปินอิสระแบบเต็มตัว

งานของช่วงในระยะแรกเริ่มจากภาพลายเส้นที่ประยุกต์ความอ่อนช้อยของลายไทย เข้ากับรูปทรงแบบเหมือนจริงได้อย่างกลมกลืน ต่อมาจึงได้พัฒนามาใช้เทคนิคสีน้ำและสีน้ำมัน แต่ยังคงเอกลักษณ์เรื่องลายเส้นผสมผสานเข้ากับศิลปะสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ช่วงได้สร้างสรรค์ผลงานอย่างมากมายทั้งงานออกแบบ จิตรกรรม ประติมากรรมและสถาปัตยกรรม ส่วนใหญ่แสดงถึงเรื่องราวของดอกไม้ แมลง สัตว์ มนุษย์ ทั้งในแง่อีโรติก ไปจนถึงนัยการมองเห็นในวัฏสงสารของชีวิต เป็นการผนึกเรื่องราวทางอุดมคติกับธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกันอย่างงดงาม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top