Sunday, 18 May 2025
NewsFeed

พีค of the week EP.2

สัปดาห์ก่อน เรื่องการข่าว มาทั้งเรื่องดีๆ และเรื่องดราๆ (หมายถึงดราม่า) ทั้งข่าวมาตรการเยียวยา หรือดราม่าพิมรี่พาย ยังมีอีกหลายข่าวที่เราคัดสรรมาแล้วว่า ‘มันพีคจริงๆ แม่!’ ไปดูกันซะก่อนจะหมดวันนี้ เพราะเดี๋ยวพรุ่งนี้ คุณจะคุยกับเขา ไม่...รู้...เรื่อง!!

.

พีค of the week EP.3

สัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวพีคๆ ให้พูดถึงอยู่หลายข่าว The States Times จับรวบตึงมาให้ชมกัน แต่พิเศษเพิ่มเติมอีกสักนี๊ด ข่าวพีคๆ ครั้งนี้ เป็น ‘พีคแบบลุงๆ’ ตามไปดูกันว่า มี ‘ลุง’ คนไหนพีคแบบจัดๆ กันบ้าง Let’s go!!

.

 

พีค of the week EP.4

ต้นสัปดาห์วนกลับมาอีกครั้ง เป็นการนัดหมายว่า เราจะกลับมาพร้อม รวมเด็ด ‘ข่าวพีคๆ’ ในรอบสัปดาห์ ซึ่งเมื่ออาทิตย์ก่อนมีข่าวร้อน ๆ มากมาย แต่เราขอพุ่งเป้าไปที่แวดวงบันเทิง อาทิตย์ก่อนดูจะมีข่าวฮอต ๆ กับวงการบันเทิงอยูไม่น้อย ไปดูกันว่า ข่าวพีคแบบบันเทิง ๆ จะมีข่าวไหนกันบ้าง Let’s go!!

.

พีค of the week EP.5

สัปดาห์ก่อน ยุ่งชุลมุนกันไปทุกวงการ การเมืองต่างประเทศที่พม่าก็ระอุตั้งแต่เปิดต้นเดือนกุมภาพันธ์กันมาเลย ส่วนที่เมืองไทยบ้านเราก็ไม่เบา มีเหตุการณ์ปะทะกันหลายวง ทั้งวงม็อบปะทะเจ้าหน้าที่ วงการเมือง ‘หมอวรงค์ปะทะธนาธร’ หรือแม้แต่วงบันเทิง ‘อ. ปะทะ ณ.’ แถมท้ายด้วยประโยคเด็ดประจำสัปดาห์ ‘อาวุธคือทิชชู่’ พีคกันซะขนาดนี้ ตามไปดูเรื่องราวกันในอีพีนี้กันได้เลย Let’s go!!

.

พีค of the week EP.6

ข่าวพีค ๆ มาอีกแล้วจ้า! วนกลับมาเจอกันตอนต้นสัปดาห์ เมื่อสัปดาห์ก่อนมีเหตุบ้านการเมืองร้อน ๆ เกิดขึ้นหลายเรื่องราว มาทั้งเรื่องการฟ้องร้อง การถูกถอดถอน การยุติบทบาท และไฮไลท์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ‘ม็อบตีหม้อ’ งานนี้พกหม้อมาจากบ้าน

ทั้งหม้อเล็ก หม้อใหญ่ หม้อบุบ หม้อดำ พกอาวุธ เอ้ย! พกอุปกรณ์มาซะขนาดนี้ เราเลยขอตั้งชื่ออีพีนี้เพิ่มเติมด้วยว่า ‘พีคแบบหนังจีน’ ตามไปดูว่าจะมีเรื่องอะไรได้จากคลิปนี้กันเลย Let’s go!!

.

คนไทยสุดล้ำ ยืนหนึ่งระดับโลก ทำการเงินผ่านมือถือ | BizMAX EP.27

จากข่าว "ไทยล้ำที่สุดในโลก!!! ยืนหนึ่งทำธุรกรรมการเงินผ่านมือถือ พ่วงช้อปสินค้าผ่านสมาร์ทโฟนเป็นอันดับ 2 ของโลก

Link ข่าว : https://thestatestimes.com/post/2021021203

จากการเปิดสถิติธุรกรรมการเงินในช่วงยุคโควิด พบว่าคนไทยใช้โมบายแบงก์กิ้งอันดับหนึ่งของโลก ธุรกิจออนไลน์กำลังรุ่งเรืองอย่างมาก ผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวอย่างไรและวิธีการสร้างมูลค่า สร้างกำไรให้กับแบรนด์ตัวเองในช่วงยุคโควิด มีวิธีการอย่างไรกับ หยก - สถาพร บุญนาจเสวี

.

ศาลปักกิ่ง​ สั่งสามีจ่ายเงินชดเชยภรรยาร่วม 2 แสนบาท​ ฐานปล่อย​ 'ทำงานบ้านหนัก'​ อย่างโดดเดี่ยว​ ด้านชาวเน็ตท้วง​ จ่ายแค่นี้ยังน้อยไปกับสิ่งที่ภรรยาต้องแบก

นับเป็นคดีแรกภายใต้ประมวลกฎหมายแพ่งใหม่ของจีน เมื่อศาลแห่งหนึ่งของปักกิ่งได้สั่งสามีรายหนึ่งจ่ายเงินหลายหมื่นหยวน แก่ภรรยาที่กำลังหย่าร้างกัน เป็นเงินชดเชยจากการทำงานหนักและชีวิตแสนน่าเบื่อหน่ายตลอดเวลา 5 ปีของชีวิตสมรส ซึ่งเรื่องนี้กลายเป็นคดีที่จุดชนวนการโต้เถียงอย่างเผ็ดร้อนบนสื่อสังคมออนไลน์

ข้อมูลจาก China Women’s News ระบุว่าโจทก์แซ่หวัง ซึ่งเป็นภรรยาได้ยื่นขอหย่าจากสามีแซ่เฉินเมื่อปีที่แล้ว​ โดยเธออ้างว่าสามีไม่ใส่ใจหรือไม่มีส่วนร่วมใดๆ​ ในงานบ้านทั้งหลายเลย เขาออกไปทำงานทุกวัน ทิ้งให้เธออยู่บ้านเลี้ยงลูกตามลำพัง

และท้ายที่สุดศาลแขวงในกรุงปักกิ่ง ก็พิพากษาเข้าข้างเธอ สั่งให้ เฉิน จ่ายเงินชดเชย 50,000 หยวน​ (ราว 2.3 แสนบาท) โทษฐานละเลยแบ่งภาระหน้าที่ภายในครอบครัว

ภายใต้ประมวลกฎหมายแพ่งใหม่ของจีน ซึ่งมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม ระบุว่า​ สามีหรือภรรยา ซึ่งแบกกับความรับผิดชอบมากกว่าอีกฝ่าย ทั้งเลี้ยงลูก ดูแลญาติ ๆ​ คนชรา ทำงานบ้านหรือทำหน้าที่อื่นๆ​ ที่จำเป็น​ โดยบ่อยครั้งกลับเป็นหน้าที่ที่อีกฝ่ายมองไม่เห็นค่า เขาหรือเธอมีสิทธิ์เรียกเงินชดเชยจากอีกฝ่าย เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาคิดหย่าร้างกัน

กฎหมายสมรสใหม่นี้​ ถูกนำมาแทนที่ประมวลกฎหมายแพ่งเดิม ซึ่งกำหนดให้คู่สมรสที่กำลังหาทางหย่าร้าง สามารถเรียกเงินชดเชยกันได้ก็ต่อเมื่อทั้งคู่ลงนามในสัญญาก่อนสมรสเท่านั้น โดยสัญญาก่อนสมรสนั้นจะระบุเงื่อนไขต่าง ๆ​ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่ปฏิบัติกันนักในหมู่คู่รักชาวจีน

ด้าน จาง หยาน เลขาธิการทั่วไปของคณะกรรมการด้านกฎหมายสมรสและครอบครัวของสมาคมทนายความเสิ่นหยาง ให้ความเห็นว่ากฎหมายเงินชดเชยใหม่จะช่วยปกป้องสิทธิของแม่บ้านมากยิ่งขึ้น

"แม่บ้านไม่ใช่แค่ต้องแบกรับทำงานหนัก แต่การไม่มีงานทำ ก็ทำให้พวกเธอเจอกับปัญหาขาดการติดต่อกับสังคมในระยะยาว" จาง​ หยานกล่าวและว่า "ในแง่ของพลวัตในความสัมพันธ์ระหว่างสามีและภรรยา โดยทั่วไปแล้วฝ่ายหญิงจะอยู่ในฐานะที่อ่อนแอกว่า"

สำหรับเรื่องดังกล่าวได้หลุดไปถึงสื่อสังคมออนไลน์​ โดยบางส่วนบ่งชี้ว่า​ คำตัดสินของศาลเป็นก้าวย่างในทางบวก เพื่อมุ่งสู่การตระหนักถึงคุณค่าภาระหน้าที่ภายในครอบครัว แต่ก็มีหลายคนที่ประชดประชันว่า​ จำนวนเงินชดเชยที่เสนอนั้นค่อนข้างน้อย ไม่สมเหตุสมผลกับภาระอันหนักอึ้งที่เหล่าภรรยาชาวจีนต้องแบกรับ

ทั้งนี้​ ขัอมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน บ่งชี้ว่าในปี 2018 ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วต้องทำงานบ้านเฉลี่ยแล้ว 3 ชั่วโมง 20 นาทีต่อวัน มากกว่าฝ่ายสามีถึงราว ๆ 1 ชั่วโมงครึ่ง

ขณะเดียวกันจากผลสำรวจทางออนไลน์ของสื่อมวลชนแห่งหนึ่ง พบว่า 93% ของผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 40,000 คน บอกว่าฝ่ายโจทก์ควรได้รับเงินมากกว่า 50,000 หยวน สำหรับการตรากตรำทำงานหนักนานหลายปี


ที่มา: https://mgronline.com/around/detail/9640000018222

คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เห็นชอบ ปรับอัตราเงินอุดหนุนรายบุคคลนักเรียนพิการภาคเอกชน 4,359 คน เพิ่มขึ้น 35% จากเดิม 16,552.50 - 35,932.50 บาท เพิ่มเป็น 32,540 - 51,935 บาท ขึ้นอยู่กับระดับการศึกษาและหลักสูตร

นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบปรับอัตราเงินอุดหนุนรายบุคคลของนักเรียนพิการในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ที่เป็นโรงเรียนเอกชนประเภทอาชีวศึกษา

โดยแต่ละคนจะได้รับเงินอุดหนุนเพิ่มขึ้นจากเดิม 16,552.50 - 35,932.50 บาท เพิ่มเป็น 32,540 - 51,935 บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับระดับการศึกษา ประเภทการเรียนและหลักสูตรการเรียน ดังนั้น จึงคิดเป็นเงินอุดนหนุนที่เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 35 จากฐานเดิม ทั้งนี้ ในปัจจุบัน สช.มีนักเรียนพิการทั้งที่อยู่ในโรงเรียนการศึกษาพิเศษ และโรงเรียนสามัญทั่วไป จำนวน 4,359 คน โดยข้อมูลเงินอุดหนุนรายหัวนักเรียนพิการพบว่ามีการเบิกจ่ายงบประมาณเงินอุดหนุนรายบุคคลของนักเรียนพิการปีละประมาณ 100,613,194 บาท ซึ่งหากมีการปรับอัตราเงินอุดหนุนรายบุคคลของนักเรียนพิการตามที่เสนอขอก็จะต้องใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้นประมาณ 30 ล้านบาท

ขณะที่ในส่วนของโรงเรียนเอกชนประเภทอาชีวศึกษานั้น ข้อมูลเมื่อปี 2563 มีนักศึกษาพิการระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ได้รับเงินอุดหนุน รวม 342 คน เบิกจ่ายงบประมาณเงินอุดหนุนรายบุคคลของนักเรียนพิการปีละประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งหากมีการปรับอัตราเงินอุดหนุนรายบุคคลของนักเรียนพิการตามที่เสนอขอก็จะต้องใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้นประมาณ 7 ล้านบาท

“อย่างไรก็ตาม การปรับเพิ่มเงินงบประมาณดังกล่าวจะเป็นงบประมาณที่สามารถบริหารจัดการกับวงเงินงบทั้งหมดในภาพรวมของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ เรามองว่าหากไม่มีการปรับอัตราเงินอุดหนุนนี้อาจทำให้โรงเรียนเอกชนไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายการจัดการศึกษาพิเศษได้ ต้องหยุดกิจการงดรับนักเรียนพิการ อีกทั้งโรงเรียนการศึกษาพิเศษของรัฐก็จะต้องแบกรับภาระนักเรียนพิการมากขึ้น รวมถึงเกิดความเหลื่อมล้ำทางการเข้าถึงบริการสาธารณจากรัฐ และขาดการเสมอภาคในการรับการศึกษาที่มีคุณภาพสำหรับผู้พิการ” รมช.ศธ. กล่าว

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ชี้! ต่างชาติอยากเที่ยวเมืองไทยหลังได้รับวัคซีนโควิด-19 พร้อมดึงนักท่องเที่ยวจิ้มเข็มแล้วเข้าไทยไตรมาส 3 ปี 64 นี้

นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานต่างประเทศของ ททท. ถึงแนวโน้มการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยประเทศไทยยังเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวสนใจเดินทางมาเที่ยวหลังจากมีการฉีดวัคซีนอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวในตลาดยุโรป ซึ่ง ททท. จะเร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหน่วยงานทางด้านสาธารณสุข เพื่อเตรียมความพร้อมและสรุปแนวทางการดูแล โดยตั้งเป้าหมายว่า จะดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มที่ฉีดวัคซีนแล้วเข้ามาได้ในไตรมาสที่ 3 ปีนี้

“ภายในเดือนมีนาคมทุกอย่างต้องออกมาชัด เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา ฝ่ายขายของททท. ได้ไปสำรวจตลาดแล้วพบว่า มีความต้องการมากและกำลังคุยกันซื้อจองของล่วงหน้า เช่น ตลาดกอล์ฟควอรันทีน ในตลาดระยะไกลมีนักกอล์ฟจากประเทศสวีเดนสนใจมาก รวมทั้งฟินแลนด์ มีจองเข้ามาแล้ว 20 คน ตั้งใจจะเดินทางใน เดือนกุมภาพันธ์นี้แต่ขอเลื่อนไปก่อน เพราะเรื่องการกักตัวที่ยังไม่ชัด

“เช่นเดียวกับตลาดตะวันออกกลาง ตอนนี้มีสัญญาณที่ดี เพราะกำลังจะเข้าช่วงเดือนรอมฎอน ทำให้หลายประเทศเร่งการฉีดวัคซีน เพื่อให้เดินทางได้ ซึ่งช่วงเวลาอย่างนี้ ไทยต้องเร่งเตรียมตัวรองรับความต้องการที่มีอยู่ และหวังว่า จะมีแนวทางในการบริหารจัดการเรื่องนี้ออกมาโดยเร็ว”

ทั้งนี้จากผลสำรวจพฤติกรรมนักท่องเที่ยวในตลาดต่าง ๆ เช่น ททท. ลอนดอน แจ้งว่า นักท่องเที่ยวกว่า 75% มีการวางแผนการเดินทางท่องเที่ยว และยินดีเข้ารับการฉีดวัคซีน โดย 41% วางแผนไปเที่ยวต่างประเทศ ส่วนใหญ่อยากให้กักตัวไม่เกิน 5 วัน โดย 9 % หรือประมาณ 6 ล้านคน สนใจเลือกเดินทางมาประเทศไทยในปีนี้

เช่นเดียวกัน ททท. สต็อกโฮล์ม สำรวจชาวฟินแลนด์ 62% สนใจเดินทางมาเที่ยวไทยในช่วงฤดูหนาวปีนี้และปีหน้า โดยจังหวัดภูเก็ต กระบี่ และเขาหลักยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม แต่ส่วนใหญ่จะยังไม่ตัดสินใจเดินทางหากมีเงื่อนไขการกักตัว รวมทั้งชาวฝรั่งเศสเองก็ค้นหากรุงเทพฯ เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตที่มีคนค้นหาข้อมูลรองลงมาจากดูไบ และมาราเกซ

เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สรุปจากที่ประชุม โรงเรียนเอกชนทั่วไทย 524 แห่ง ยอมคืนค่าธรรมเนียมอื่นรวมเป็นเงินกว่า 561 ล้านบาท ใช้คืนเป็นเงินสด หรือส่วนลดปีถัดไป

นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เปิดเผยในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ว่า ได้มีการรายงานเรื่องการคืนค่าธรรมเนียมการศึกษาและค่าธรรมเนียมอื่นของโรงเรียนเอกชนให้ผู้ปกครอง โดยมีโรงเรียนที่คืนค่าธรรมเนียมอื่นจำนวน 524 แห่ง รวมเป็นเงินกว่า 561 ล้านบาท เช่น ค่าอาหาร ค่าอาหารเสริม ค่าอาหารว่าง ค่ารถรับส่ง ค่าเรียนเสริมวิชาการ ค่าเรียนสอนเสริมภาษาต่างประเทศ เป็นต้น

โดยวิธีการคืนค่าธรรมเนียมจะมี 2 ลักษณะ คือ คืนเป็นเงินสด หรือ คืนในรูปแบบเงินเครดิต เพื่อใช้เป็นส่วนลดค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ในปีการศึกษาต่อไป ส่วนโรงเรียนเอกชนบางแห่งที่ไม่มีการคืนค่าธรรมเนียมการศึกษาและค่าธรรมเนียมอื่น นั้น เนื่องจากโรงเรียนมีการจัดการเรียนการสอนชดเชยให้นักเรียนตามจำนวนเวลาเรียนที่ขาดไปจนครบหลักสูตร

ส่วนกรณีที่มีโรงเรียนเอกชนบางแห่งที่ไม่คืนค่าธรรมเนียมการศึกษาและค่าธรรมเนียมอื่น และมีการจัดสอนเสริมให้แก่เด็กเรียนจำนวนมากกว่าปกติ จนเกิดความกังวล ว่า เป็นการเพิ่มภาระและความเครียดให้กับบุตรหลานมากเกินไปหรือไม่ นายอรรถพล มองว่าต้องพิจารณาเป็นโรงเรียนไป เพราะ โรงเรียนเอกชนส่วนใหญ่มีการปฏิบัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนได้ออกมาตราการไปเป็นที่เรียบร้อย เลขาฯ กช.กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top