Monday, 9 June 2025
ElectionTime

ซูเปอร์โพล เผย คะแนนนิยม 'บิ๊กตู่' สูสี 'อุ๊งอิ๊ง' ชี้ ปชช. ชอบใจวลีเด็ด "ซื้อบ้าน แถมสัญชาติ"

สำนักวิจัยซูเปอร์โพล ชี้คะแนนนิยมของประชาชนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังกลับมาเพิ่มสูงขึ้นจนจี้ติดคะแนนนิยมของ นางสาว แพทองธาร ชินวัตร

(19 ก.พ. 66) สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง ค้านถาม ลุงตู่ตอบ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,571 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 17 – 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนจากการกำหนดขนาดตัวอย่างบวกลบร้อยละ 5 ในช่วงความเชื่อมั่นร้อยละ 95

เมื่อถามถึงการอภิปรายนายกรัฐมนตรี กรณี ตู้ห่าว และทุนจีนสีเทา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 57.2 ระบุชอบวลีเด็ด ของ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่บอกว่า ซื้อบ้าน แถมสัญชาติ เชื่อมโยงกับ ธุรกิจครอบครัวพรรคการเมืองใหญ่ และพวกพ้อง ร้อยละ 55.6 ระบุนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอบโต้ได้ดี มีประเด็น ทั้ง ตู้ห่าวได้สัญชาติช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ ซื้อบ้านแถมสัญชาติ เกี่ยวโยงพรรคการเมืองใหญ่ ร้อยละ 54.8 ระบุนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอบโต้ด้วยข้อมูลใหม่ ไม่เคยรู้มาก่อน เช่น ตู้ห่าว ได้สัญชาติไทยในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ร้อยละ 54.3 ระบุการอภิปรายนายกรัฐมนตรี กลายเป็น บูมเมอแรง กลับไปยัง พรรคการเมืองใหญ่ฝ่ายค้าน และร้อยละ 45.5 ระบุ ฝ่ายค้านอภิปรายในเรื่องรู้มาก่อนแล้ว ไม่มีอะไรใหม่ ไม่ได้ประโยชน์อะไร

ที่น่าพิจารณา คือ ข้อเสนอแนะต่อนายกรัฐมนตรี จัดการปัญหา ทุนจีนสีเทา และพนันออนไลน์ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 75.7 ต้องการให้นายกรัฐมนตรี ถอนสัญชาติไทยของคนต่างชาติที่ทำผิดร้ายแรง ยึดทรัพย์ และห้ามเข้าประเทศอีก ถ้ากฎหมายเปิดช่องให้ทำได้ และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 75.5 ระบุ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องจัดการเด็ดขาดกับขบวนการพัวพัน ทุจริต ธุรกิจสีเทา และ พนันออนไลน์

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึง ถ้าเลือกได้ จะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรี พบว่า สูสีกันระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 28.5 กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 25.7 ในขณะที่ ตามมาติด ๆ คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 21.2 ทิ้งห่าง นาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 14.4 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ร้อยละ 3.8 และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้เพียงร้อยละ 2.7 ตามลำดับ

'ศักดิ์สยาม' ย้ำ!! 'อนุทิน' แคนดิเดตนายกฯ คนเดียวของ ภท. มั่นใจ!! มีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

'ศักดิ์สยาม' ย้ำ 'ภูมิใจไทยส่ง' ส่ง 'อนุทิน' เป็นนายกฯ คนเดียว ลั่น มีโอกาสเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลสูง

(19 ก.พ. 66) ที่ ร.ร.ชุมชนกระนวน อ.กระนวน จ.ขอนแก่น นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว. คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ขึ้นเวทีปราศรัยนโยบาย และแนะนำตัว นายชัชวาล โนนใหม่ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 จ.ขอนแก่น โดยช่วงหนึ่งนายศักดิ์สยาม ระบุว่า พรรคภูมิใจไทยต้องการอาสาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จากผลสำรวจที่ไลน์ทูเดย์ทำออกมาพบว่าเรามีโอกาส เพราะตัวเลข 33% เราจะได้ ส.ส.เข้าสภาฯจำนวนมาก ซึ่งเราสามารถเอานโยบายที่บอกกับพี่น้องประชาชนไปทำให้เกิดขึ้นจริงได้

ย้อนเวลา 'เลือกตั้ง 2562' กับเรื่องราวที่เป็น 'ที่สุด'

การเลือกตั้งใหญ่ครั้งล่าสุด เมื่อ 24 มีนาคม 2562 นอกจากจะเป็นช่วงเวลาที่บรรยากาศของประชาธิปไตยในบ้านเรากลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะกับ 'ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งแรก' หรือ 'เฟิร์สไทม์โหวตเตอร์' หรือคนที่เกิดระหว่างปี 2537-2544 มากกว่า 7 ล้านคน นอกจากนั้นแล้ว  การกลับมาของการเลือกตั้งหนนี้ ยังนำพา 'ความพีค' ที่เป็นสถิติใหม่ๆ ในหลายประเด็น มีอะไรบ้าง มาย้อนดูกัน

#จำนวนพรรคการเมืองมากที่สุด!

ถ้าย้อนกลับไปดูบรรยากาศการเมืองก่อนปี 2540 ช่วงนั้นการเมืองไม่นิ่ง พรรคการเมืองขาดเสถียรภาพ เกิดหลากหลายกลุ่มก้อนนักการเมืองต่อรองผลประโยชน์ ส่งผลทำให้รัฐบาลไม่เข้มแข็ง บริหารงานยาก นำมาซึ่งการปฏิรูปการเมืองผ่านการจัดทำรัฐธรรมนูญปี 2540 โดยสร้างกลไกให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง มีพรรคการเมืองน้อย และทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ 

แต่สุดท้ายเกิดปัญหาใหม่ คือพรรคการเมือง และรัฐบาลที่ได้มาหลังการเลือกตั้ง เข้มแข็งจนอำนาจการตรวจสอบถ่วงดุลมีปัญหา เกิดภาวะ 'เผด็จการรัฐสภา' กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งทางการเมืองระลอกใหม่ ที่ยืดเยื้อยาวนานต่อเนื่องมานับสิบปี 

ตัดภาพกลับมาที่การเลือกตั้ง 2562 ด้วยระบบการเลือกตั้งแบบ 'จัดสรรปันส่วนผสม' ที่จำกัดจำนวน 'ส.ส.พึงมี' นัยว่าเป็นการถอดบทเรียนจากปัญหาการผูกขาดอำนาจในสภา และเสียงส่วนน้อยกลายเป็นเสียงที่ไร้ความหมายเพราะไม่ถูกนำมาใช้นับคะแนน

ระบบการเลือกตั้ง ปี 2562 จึงทำให้พรรคการเมืองขนาดใหญ่ได้สัดส่วนเก้าอี้สอดคล้องกับสัดส่วนที่ควรจะได้  ขณะเดียวกัน บรรดาพรรคเล็กก็จะได้ประโยชน์จากการคิดทุกคะแนนโดยไม่ทิ้งน้ำ เพิ่มโอกาสในการสอบผ่านเข้าสภา ทำให้เกิดการจดจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ๆ เป็นจำนวนมาก

จากข้อมูลของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. พบว่าวันแรกของการเปิดรับสมัคร ส.ส. เมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2562 มีพรรคการเมืองในสารบบจำนวนถึง 106 พรรค แต่มีเพียง 49 พรรคที่มีคุณสมบัติในการส่งผู้สมัคร กระทั่งเมื่อถึงวันสุดท้ายของการรับสมัคร ส.ส. มีพรรคการเมืองที่มีคุณสมบัติในการส่งผู้สมัคร ส.ส. จำนวนถึง 80 พรรค

และหลังเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 มีพรรคการเมืองที่ได้ ส.ส. เข้าสภามากถึง 27 พรรค  เรียกว่า 'มากที่สุด' ในรอบ 18 ปี นับจากการเลือกตั้ง ปี 2544 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งหนแรกหลังมีรัฐธรรมนูญ ปี 40 

#ผู้สมัครส.ส.มากที่สุด! 

ระบบจัดสรรปันส่วนผสม ทำให้ทุกคะแนนมีความหมาย ส่งผลให้แต่ละพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง พากันส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งให้ได้จำนวนมากที่สุด เพื่อเก็บทุกคะแนนที่ได้รับเลือก มาคำนวณสูตรสัดส่วน ส.ส. พึงมี  

บรรดาพรรคการเมืองใหญ่จะส่งผู้สมัครลงครบ 350 เขต ส่วนพรรคขนาดกลาง และขนาดเล็ก จะพยายามส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งให้ได้มากที่สุด ทำให้การเลือกตั้ง ปี 2562  มีจำนวนผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมดเกือบ 'หนึ่งหมื่นคน' มากกว่าค่าเฉลี่ยของการเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมา ซึ่งแต่ละครั้งจะมีจำนวนผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. เฉลี่ยเพียง 3,000 คนเท่านั้น 

พิธา นำทัพ 'ก้าวไกล' ลุยบางแสน เปิดแผงหวยนโยบาย ย้ำ!! ขอเป็น 'บ้านใหม่' อีกตัวเลือกให้ชาวชลบุรี

(19 ก.พ. 66) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พาชาวก้าวไกลลุยทะเลบางแสน พร้อมทัพส.ส.ก้าวไกล นำโดยอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล, เบญจา แสงจันทร์, คำพอง เทพาคำ, และวิโรจน์ ลักขณาดิศร อดีตส.ส.พรรคก้าวไกล เดินทักทายพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ใช้เวลาหยุดพักผ่อนสุดสัปดาห์ บริเวณชายหาดบางแสน อำเภอแสนสุข จังหวัดชลบุรี โดยระหว่างการเดินพบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่ มีพ่อค้าแม่ขายให้การต้อนรับและขอถ่ายภาพจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีประชาชนที่ผ่านไปมาสังเกตเห็นแผงหวยนโยบายที่พรรคก้าวไกลนำไปด้วย จึงเข้ามาขอชมและเลือกหวยนโยบายกลับบ้านไปด้วย ซึ่งพรรคก้าวไกลตั้งใจนำเอาแผงหวยนโยบายนำไปเปิดให้ประชาชนหยิบจับและเลือกนโยบายที่ตนให้ความสนใจในการเยี่ยมทักทายประชาชนวันนี้

ตัวอย่างนโยบายในแผงหวย เช่น เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ-ผู้พิการ เดือนละ 3,000 บาท ข้อดีของสวัสดิการนี้ คือไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ความจน งานสวัสดิการจะโอนตรงเข้าบัญชีผู้รับและมีการตั้งกองทุนดูแลผู้ป่วยติดเตียงอีกด้วย และนโยบาย ‘หวยใบเสร็จ’ ซึ่งสอดคล้องกับสภาพพื้นที่ที่มีผู้ค้ารายย่อยจำนวนมากให้บริการขายสินค้าอยู่บริเวณริมหาด หวยใบเสร็จเป็นนโยบายการซื้อสินค้าร้านค้ารายย่อยครบ 500 บาท ต่อหนึ่งใบเสร็จ ผู้ซื้อสินค้ารับฟรีหวย 1 ใบเพื่อไว้ชิงโชค เป็นโชค 2 ชั้น ได้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสินค้า ซึ่งนโยบายหวยใบเสร็จเป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย และเป็นการกระจายโอกาสไปยังธุรกิจฐานรากอีกด้วย

‘นาวิน คำเวียง’ ลง ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 ภูมิใจไทย ลั่น!! จะพูดแล้วทำ - ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

เมื่อวานนี้ (19 ก.พ. 66) ที่หอประชุมโรงเรียนอุบลรัตน์พิทยาคม จ.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย นำโดย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย จัดเวทีปราศรัยนโยบาย และแนะนำตัวนายเอกราช ช่างเหลา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 ขอนแก่น ท่ามกลางประชาชนที่มาฟังปราศรัยจำนวนมากจนล้นออกจากหอประชุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างปราศรัยมีการเซอร์ไพรส์เปิดตัว นายนาวิน คำเวียง อดีตสมาชิกครอบครัวเพื่อไทย และคนเสื้อแดง ที่จะลงสมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 ในนามพรรคภูมิใจไทย ซึ่งประกอบด้วย อ.หนองเรือ อ.บ้านฝาง และ อ.ภูเวียงบางส่วน

นายเอกราช ได้กล่าวแนะนำนายนาวิน และเชิญนายศักดิ์สยาม เป็นผู้สวมเสื้อพรรคภูมิใจไทย เพื่อเป็นการต้อนรับนายนาวิน เข้าพรรคอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางเสียงปรบมือของประชาชนอย่างกึกก้อง โดยนายศักดิ์สยามขอให้ชาวขอนแก่นเลือกทั้งนายเอกราชและนายนาวิน เป็น ส.ส. เข้าสภาฯ ให้ได้

'เพลงแบบลุงตู่' ผู้นำประเทศที่ 'แต่งเพลงเอง' เพื่อให้กำลังใจและสื่อสารไปสู่ประชาชน

8 ปี มีหนึ่งในภาพจำ ที่เชื่อว่า ประชาชนชาวไทยมักจะจดจำ 'ความเป็นลุงตู่' กันได้ดี นั่นคือ การเป็นนายกรัฐมนตรีที่สร้างสรรค์ผลงานเพลงออกมาเป็นจำนวนมาก หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ 'ลุงตู่' แต่งเพลงออกมาเพื่อประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการให้กำลังใจ หรือแม้แต่การสื่อสารเรื่องราวหลายๆ อย่างในสังคม

'ลุงตู่' แต่งเพลงสื่อสารกับประชาชนจำนวนราวๆ 10 เพลง อาทิ คืนความสุขให้ประเทศไทย, เพราะเธอคือประเทศไทย, ความหวังความศรัทธา,สะพาน, สู้เพื่อแผ่นดิน, ใจเพชร ฯลฯ โดยเพลงที่เรียกว่าเป็น 'ซิกเนเจอร์' หรือเพลงอันเป็นที่จดจำ นั่นคือ คืนความสุขให้ประเทศไทย

“เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน” นี่เป็นประโยคทองในเพลง “คืนความสุขให้ประเทศไทย” ที่เปิดดังขึ้นมาเมื่อไร เป็นต้องนึกถึง 'ลุงตู่' อย่างแน่นอน แม้ว่าจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์แกมเหน็บแนมเกี่ยวกับการแต่งเพลงของนายกรัฐมนตรี แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า แทบทุกคนร้องเพลงของลุงตู่เพลงนี้กันได้ทั้งสิ้น

'พิพัฒน์ รัชกิจประการ' รมต. Low Profile แต่ High Profit พลิก 'กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา' เดินหน้าฟื้นเศรษฐกิจประเทศ

ก่อนปี 2562 ชื่อของ 'พิพัฒน์  รัชกิจประการ' เป็นที่รู้จักในฐานะนักธุรกิจเจ้าของกิจการปั๊มน้ำมัน และกิจการเรือประมงขนาดใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้

แต่ในทางการเมือง หลังเลือกตั้ง 62 เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาล ชื่อเดียวกันนี้ กลับแทบไม่มีใครรู้จัก เมื่อเขาเข้ามารับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในโควต้าของพรรคภูมิใจไทย 

'พิพัฒน์' เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อ ว่าเขาเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยเปิดเผยตัวเอง จึงไม่ค่อยมีใครรู้จัก ขนาดที่ว่าพอได้รับการประกาศชื่อเป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรี สื่อต่างๆ พยายามหาข้อมูลและถึงกับลงรูปของเขาผิด เรียกว่านักข่าวก็ยังงง ว่าเขาเป็นใครในห้วงเวลานั้น 

ถ้าดูในประเด็นการเมือง 'พิพัฒน์' ดูจะมีบทบาท และพื้นที่น้อยกว่ารัฐมนตรีคนอื่นๆ  แต่ในประเด็นของการทำงาน เดินหน้านโยบายการท่องเที่ยวและกีฬา ฟื้นเศรษฐกิจในช่วงที่ไทยเริ่มกลับมาเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวหลังโควิด 19 ขณะเดียวกันก็เห็นเนื้อเห็นหนังในการยกระดับ มาตรฐานทางด้านการกีฬาอยู่ไม่น้อย ลองย้อนไปดู 'ผลงาน' แบบตึงๆ ของ รมต.คนนี้กัน

#ไอเดียเปิดผับตีสี่ - ทุ่ม 200 ล้านดึง 'ลิซ่า' เคาท์ดาวน์ภูเก็ต  

หลังเข้ารับตำแหน่งเจ้ากระทรวงการท่องเที่ยวไม่นาน เดือนสิงหาคม ปี 2562 เจ้ากระทรวงการท่องเที่ยวฯ คนนี้ ก็ผุดไอเดีย ขยายเวลาเปิดผับถึงตี 4 ออกมาโยนหินถามสังคม โดยแนวคิดเบื้องต้นเกิดจากความต้องการช่วยพยุงรายได้ด้านการท่องเที่ยวในช่วงที่เศรษฐกิจไทยชะลอตัว

ทันทีที่ไอเดียนี้ถูกสื่อสารออกไป ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์หนัก เจ้าตัวใช้คำว่า 'โดนอัดกลับมาเยอะ' โดยเฉพาะจากภาคประชาชนอย่างเครือข่ายต้านน้ำเมา ที่เข้ายื่นหนังสือคัดค้าน  

แม้ว่า 'รัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ' จะอธิบายว่าแนวคิดขยายเวลาปิดสถานบันเทิงจาก ตี 2 ไป ตี 4 นั้น แค่ต้องการจัดโซนนิ่งเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ แต่เขายังรับฟัง ทำความเข้าใจ และ 'ยอมถอย' เพื่อกลับมาพิจารณาศึกษาทบทวนให้ถี่ถ้วนขึ้น

หลังจากกลับไปทำการบ้านอยู่เป็นปี ๆ จนเมื่อกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ศึกษาข้อมูลแล้วพบว่า การขยายเวลาปิดสถานบันเทิงไปถึงตี 4 จะช่วยเพื่อการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 25% ล่าสุด 'พิพัฒน์' นำแนวคิดนี้กลับมาอีกครั้ง ชงเข้าที่ประชุม ครม. เพื่อขอความเห็นชอบ โดยเสนอนำร่องที่ถนนบางลา อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติแห่งเดียวก่อน เพื่อศึกษาผลกระทบ และประเมินมาตรการอีกครั้ง พร้อมเสนอเก็บค่าเหยียบแผ่นดินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ และผลักดันการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นประเทศ เป็นวาระแห่งชาติด้วย

ส่วนอีกกรณี ที่ชิงพื้นที่พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งอยู่หลายวัน คือการวางแผนจัดงาน 'เคาท์ดาวน์ 2565' ที่รัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ ออกมาประกาศลั่น ว่ากำลังจะทุ่มงบฯ 200 ล้าน ดึง 'ลิซ่า แบล็กพิงค์' มาร่วมฉลองปีใหม่ที่สะพานสารสิน จ.ภูเก็ต และเชิญ 'อันเดรอา โบเซลลี' นักร้องโอเปร่าระดับโลกขาวอิตาลี มาฉลองคืนข้ามปีที่ท้องสนามหลวง ซึ่งมีฉากหลังเป็นวัดพระแก้ว ทั้งนี้เพื่อเป็นการดึง 'บิ๊กอีเว้นท์' กลับมา ในช่วงที่บ้านเรากำลังจะเริ่มเดินหน้าเปิดประเทศหลังวิกฤติโควิด-19 ที่ยาวนานกว่า 2 ปีเริ่มคลี่คลาย 

ทันทีที่ประกาศ นอกจากจะถูกวิจารณ์หนักสุด ๆ เรื่องการทุ่มงบประมาณมหาศาล ไปกับการจัดงานคืนเดียวแล้ว ไม่กี่วันถัดมาหลังมีการประกาศยืนยัน ว่า 'ลิซ่า' ตอบรับมาร่วมงานแล้ว รัฐมนตรี 'พิพัฒน์' ก็ออกมากล่าวขอโทษ แอ่นอกรับแบบตรงๆ ว่า ลิซ่า 'ติดคิว' มาร่วมงานไม่ได้ ซึ่งเกิดความผิดพลาดในด้านการประสานงานของทางกระทรวงเอง อย่างไรก็ตาม มีการปรับแผนในการจัดงานโดยใช้ความเป็นท้องถิ่น ในการจัดงานฉลองปีใหม่กันแบบไทยๆ แทน เป็นอันจบดราม่า ทั้งเรื่องการใช้งบประมาณ และรอลุ้นว่าศิลปินระดับโลกจะมาเคาท์ดาวน์ในบ้านเราหรือไม่

รวมเรื่องน่ารู้ 'พรรคพลังประชารัฐ'

ศึกเลือกตั้งใหญ่ 2566 กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หนึ่งในพรรคการเมืองที่ถูกจับจ้องมากไม่แพ้ใคร ๆ คงต้องยกให้กับ 'พรรคพลังประชารัฐ' ซึ่งหากย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีก่อน เมื่อคราวเลือกตั้งใหญ่ 2562 นี่คือพรรคการเมืองที่ร้อนแรงที่สุดในเวลานั้น แม้อายุของพรรคจะไม่มากมาย แต่สมาชิกภายในพรรค ล้วนเต็มไปด้วยเหล่าคนทำงานทางการเมืองที่มากไปด้วยประสบการณ์ของแท้

กับการเลือกตั้งใหญ่หนล่าสุดนี้ พรรคพลังประชารัฐ ที่นำโดยหัวเรือใหญ่ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังเต็มไปด้วยพลังของความมุ่งมั่นสร้าง 'ประเทศ' ให้เป็นปึกแผ่น ตามสโลแกน 'พลังประชารัฐ พลังเพื่อชาติไทย' แถมยังพร้อมเดินหน้า 'สานต่อ' ภารกิจที่ลงมือทำเอาไว้ในสมัยเป็นรัฐบาลที่ผ่านมา อาทิ สวัสดิการประชารัฐ, เศรษฐกิจประชารัฐ และสังคมประชารัฐ

TIME TO CHANGE เมื่อประเทศเปลี่ยนไป

หากใครเคยผ่านไปบริเวณสะพานพระพุทธยอดฟ้า เขตพระนคร คงคุ้นเคยกันดีว่า ยังมีอีกหนึ่งสะพานที่ตั้งอยู่คู่ขนานกัน นั่นคือ สะพานพระปกเกล้า หรือที่หลายคนเรียกสั้นๆ ว่า สะพานพระปก 

บริเวณสะพานพระปกเกล้า ยังมีสะพานที่ถูกสร้างมาด้วยกันตั้งแต่ปี 2527 เพื่อรองรับโครงการรถไฟฟ้าลาวาลิน แต่ต่อมาเมื่อโครงการถูกระงับ สะพานจึงไม่ถูกสร้างต่อ ไม่มีทางขึ้นและทางลง และถูกปล่อยร้างไม่ได้ใช้งานมากว่า 30 ปี จนถูกเรียกขานว่าเป็น 'สะพานด้วน'

ต่อมากรุงเทพมหานครได้ดำเนินโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ทางสัญจรบนโครงสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเหตุให้บริเวณช่องกลางสะพานพระปกเกล้า หรือที่เรียกว่า สะพานด้วน ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ กระทั่งกลายเป็นสวนสาธารณะลอยฟ้าที่เชื่อมการสัญจรฝั่งธนบุรีเข้ากับฝั่งพระนคร

และถูกเรียกขานกันภายใต้ชื่อว่า 'พระปกเกล้าสกายปาร์ค' หรือสวนลอยฟ้าเจ้าพระยา ซึ่งเหมือนเป็นการ 'ชุบชีวิต' สะพานร้างที่ไร้ประโยชน์ ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง แถมยังกลายเป็นแลนด์มาร์คของคนกรุงเทพอีกแห่งหนึ่ง ให้ได้มาใช้ประโยชน์ ทั้งการสัญจร การออกกำลังกาย หรือแม้แต่ได้พักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางวิวสวยริมแม่น้ำเจ้าพระยา

‘สาธิต’ ชัดเจน!! ยังอยู่ ‘ประชาธิปัตย์’ เช่นเดิม พร้อมเปิดตัว ‘ทีมสาธิต’ ทำงานเพื่อ 8 จว.ตะวันออก

เมื่อวานนี้ (20 ก.พ.66) ที่หาดแหลมเจริญ จ.ระยอง นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำทีมเปิดโยบายส่งเสริมศักยภาพจังหวัดภาคตะวันออก ภายใต้แนวคิด ‘คิดนำ ทำจริง’ ที่สอดคล้องกับการเป็นส่วนหนึ่งของ EEC พร้อมเปิดตัว ‘ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคตะวันออก’ พรรคประชาธิปัตย์ ในนาม ‘ทีมสาธิต’

โดยนายสาธิต ขึ้นเวทีเปิดใจการเมืองท่ามกลางการจับตาไปที่ทิศทางการเมือง ว่า 20 ก.พ.เป็นวันที่เรานัดหมายกันผมทราบดีว่าคอการเมืองทั้งประเทศ กำลังติดตามว่าการตัดสินใจทางการเมืองของผมวันนนี้ซึ่งถือว่าเป็นวันสำคัญอย่างที่สุด 

ผมเรียนกับทุกท่านว่าสถานการณ์การเมืองปัจจุบันไม่ว่าผมจะอยู่พรรคการเมืองไหนมีคำถามมากมายทำไมต้องเป็น 20 ก.พ.จะย้ายพรรคหรือไม่ ถ้าย้ายไปอยู่พรรคอะไร มีสื่อสารมวลชนได้พยายามสื่อสารไปสร้างความสับสนให้กับคนทั้งประเทศรวมทั้งคน จ.ระยอง เป็นอย่างมาก บางสื่อบอกว่านายกช้าง (ปิยะ ปิตุเตชะ) ย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทย บางสื่อบอกว่าแบ่ง 2 คนลงอีกพรรคหนึ่ง แล้วอีก 3 คนจะลงอีกพรรคการเมืองหนึ่ง

“ผมไปที่ไหน บอกใครว่าไม่ย้ายพรรค คนเขาไม่เชื่อ เพราะเขาได้ซึมซับข้อมูลผ่านสื่อสารมวลชนที่เข้าเชื่อเกิดความลังเลขึ้นในสังคมเป็นจำนวนมากนี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ต้องบอกกับพี่น้องคนไทยทั้งประเทศว่าผมจะต้องมีความชัดเจน และความชัดเจนนี้ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานความลังเลใด ๆ ทั้งสิ้น แต่อยู่บนพื้นฐานของการตัดสินใจบนข้อมูลอย่างครบถ้วนรอบด้านมีความจำเป็นอย่างที่สุดที่เราจะพยายามให้พี่น้องทั้งในพื้นที่จ.ระยองและพื้นที่ต่าง ๆ ได้เข้าใจสถานการณ์” นายสาธิต กล่าว

- ผนึก ‘ทีมสาธิต’ สู้เพื่อ 8 จังหวัดตะวันออก

นายสาธิต ยังกล่าวอีกว่า ผมทราบว่าทุกคนรอคอยคำตอบว่าผมจะตัดสินใจทางการเมืองครั้งสำคัญนี้อย่างไร ขอย้ำว่าการตัดสินใจของครั้งนี้อยู่บนพื้นฐานของเพื่อนร่วมทีม อยู่บนพื้นฐานของคนส่วนใหญ่ในจ.ระยอง คน จ.ระยอง ให้โอกาสผมมา 20 ปีเต็ม ผมไม่ตัดสินใจภายใต้ความคิดผม วันนี้จะมีความชัดเจนที่สุดและเราจะเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ผมย้ำว่าผมร่วมตัดสินใจกับ ‘ทีมสาธิต’

“ผมอยู่ไหนไม่สำคัญเท่าทีมสาธิตจะทำอะไรให้กับคนภาคตะวันออก ทีมสาธิตจะทำอะไรให้กับคนประเทศนี้ และทีมสาธิตจะต้องทำอะไรให้กับ 8 จังหวัด โดยเฉพาะคนระยองที่ไว้วางใจผมมาตลอดระยะเวลา 20 ปี” นายสาธิตกล่าว

นายสาธิต ยังกล่าวว่า มีคำถามว่าทำไมตะวันออกต้องพิเศษ? ขอย้ำว่าไม่ได้หมายความว่าภาคอื่นไม่สำคัญ ทุกภาคมีความสำคัญ แต่ภาคตะวันออกสำคัญที่สุดมันจึงต้องพิเศษกว่าที่อื่น ถ้าเปรียบประเทศไทยเป็นบ้านหลังหนึ่งพื้นที่ตะวันออกเปรียบเสมือนห้องครัวของบ้านหลังนั้น 

คนภาคตะวันออก 8 จังหวัดมีอัตราการเสียชีวิตจากการเป็นมะเร็งสูงขึ้น ขณะที่การลงทุนของบีโอไปในพื้นที่ EEC 3.8 แสนล้านบาท มีภาษีที่เก็บไปเลี้ยงคนทั้งประเทศจุด 5 ของจีดีพีของประเทศ แต่คนที่นี่กลับได้รับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากการพัฒนา การถมทะเล การทำท่าเรือแต่เราไม่สามารถปฏิเสธการพัฒนาได้  

ฉะนั้นประชาชนที่อาศัยใน 8 จังหวัดจะต้องได้รับการดูแลดีกว่าที่อื่นให้สมกับที่แบกรับผลกระทบ เหล่านี้คือสิ่งที่ทีมสาธิตจะร่วมกันเรียกร้องถ้าเป็นรัฐบาลต้องทำให้ได้ที่สำคัญจะต้องทำให้ภาคการลงทุนมาช่วยประชาชน เกษตรกร และผู้ที่ไม่มีงานทำ

วันนี้ข้อเสนอต่าง ๆ ยังไม่ได้รับการตอบสนองเท่าที่ควรทั้งปัญหาช้าง ปัญหาผลไม้ รวมถึงคุณภาพชีวิตแต่ต้องทำให้ได้ภายใต้ ‘ทีมสาธิต’

>> ชูธง ‘ระยอง’ เป็นจังหวัดจัดการตนเองเป็นแห่งแรก ดัน ‘เลือกตั้งผู้ว่าฯ’

นายสาธิต กล่าวว่า “ถ้าผมได้กลับไปเป็นรัฐบาลภายใต้ทีมสาธิต สิ่งที่จะต้องทำคือเก็บภาษีส่วนกลางกลับมาที่บ้านเราให้มากกว่านี้ นั่นคือจังหวัดจัดการตัวเอง ‘ทีมสาธิต’ ต้องทำและอาจนำไปสู่การเลือกตั้งผู้ว่าฯ ผ่านประชาชนจังหวัดแรก จังหวัดที่ 2 และจังหวัดที่ 3 ต้องเกิดขึ้นให้ได้ภายในพื้นที่ 8 จังหวัด” 

นายสาธิต ยังกล่าวต่อว่า ผมยืนยันว่าคนที่ยืนอยู่กับผมวันนี้ไม่มีสีเทา ยืนยันว่าเราจะเดินหน้าภายใต้ทีมสาธิตเพื่อแก้ไขปัญหาคนภาคตะวันออก โดยชี้แจงให้คนทั้งประเทศเห็นว่าไม่ได้เลือกปฏิบัติ 

“สถานการณ์การเมืองวันนี้ผมมีความกดดันสูงมากมันเป็นรอยต่อของการตัดสินใจอย่างแน่วแน่ทางการเมืองหลายปีที่ผ่านมา ช่วงเวลาที่ผ่านมาพรรคการเมืองอ่อนแอทุกพรรค การเมืองอ่อนแอหมด ผมไม่แน่ใจว่ามีความตั้งใจหรือมันเกิดโดยธรรชาติ แต่ผมย้ำกับทุกท่านว่า ในฐานะที่ท่านไว้ใจผม ท่านทราบดี หลายคนที่มานั่งฟังรู้จักผมดี การเมืองสุจริตของผมย้ำกับทุกท่านว่านักการเมืองที่ชื่อสาธิตได้รับการเลือกตั้งจากพี่น้องคนระยองโดยไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงแม้แต่บาทเดียว” นายสาธิต กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top