Monday, 9 June 2025
ElectionTime

'เพื่อไทย' เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. อีก 16 คน ลั่น!! เลือกตั้งหนนี้ต้องชนะ 'แลนด์สไลด์'

(23 ก.พ. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค พร้อมด้วยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา และประธาน ส.ส.พรรค นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. และน.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรค แถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ จำนวน 16 คน

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรค พท. ได้ประกาศกลยุทธ์และเป้าหมายไว้อย่างชัดเจน ที่ต้องชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ ให้ได้จำนวน ส.ส.มากกว่ากึ่งหนึ่ง หรือ 250 คนขึ้นไปของสภาฯ เพื่อให้ได้อาณัติจากพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง ขอขอบคุณว่าที่ผู้สมัครที่อาสาเข้ามาทำงานร่วมกันกับเรา หลังจากนี้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่เปิดตัวไปแล้ว จะเข้าสู่กระบวนการสรรหาและฟังความเห็นของประชาชนในพื้นที่ และเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกของพรรคต่อไป ขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคน ซึ่งในวันที่ 7 พ.ค.นี้ ได้เลือกตั้งแน่นอน พรรค พท. พร้อมทำหน้าที่ตรงนี้เพื่ออนาคตของพวกเราทุกคน

ด้านนายวิสุทธิ์ กล่าวว่า พรรค พท. ถือเป็นพรรคที่มีความพร้อมมากที่สุด เราเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เกือบครบทุกเขตแล้ว ยังเหลือบางเขตที่ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากมีผู้สมัครเยอะมาก ประมาณ 8-10 คน ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา ทุกคะแนนเสียงมีความหมาย ทั้ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อและส.ส.ระบบเขต โดยเฉพาะ ส.ส.ระบบเขตมีความสำคัญมาก ที่จะยกมือโหวตนายกฯ จากพรรค พท. เพื่อชี้ชะตาอนาคตของประเทศชาติบ้านเมือง

“เราลำบากมา 8 ปี จะลำบากต่อไปหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน เราเคยทำได้ เราทำมาแล้ว และเราจะทำอีก เราจะทำให้พี่น้องประชาชนกลับมามีความสุขอีกครั้ง” นายวิสุทธิ์ กล่าว

'ครูแก้ว' ส่งภรรยาชิงเขต 1 จ.นครพนม ท้าชน 'ภูมิพัฒน์' ปักธงชัยพื้นที่เสื้อแดง

(24 ก.พ. 66) ความเคลื่อนไหวทางการเมืองของจังหวัดนครพนม มีดีกรีความเข้มข้นเพิ่มขึ้นแทบทุกวัน หลังมีการวางปฏิทินการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่จะครบวาระ 4 ปี ในวันที่ 23 มีนาคม 2566 บวกกับมีกระแส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อาจจะยุบสภาราวกลางเดือนมีนาคม ทำให้พรรคการเมืองใหญ่ต่างเอียงหูฟังเกี่ยวกับข่าวลือดังกล่าว พร้อมเร่งวางตัวผู้สมัคร และสร้างฐานการเมือง เพี่อสู้ศึกเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้

สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดนครพนม ประกอบด้วย อ.ศรีสงคราม, อ.บ้านแพง, อ.นาทม และ อ.นาหว้า ถือเป็นฐานที่มั่นของ 'สหายแสง' นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือ 'ครูแก้ว' พรรคภูมิใจไทย ที่สอดแทรกชนะการเลือกตั้งผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา โดยก่อนนี้ครูแก้วเคยพ่ายแพ้ให้กับนายยุทธจักร เรืองวรบูรณ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย หลังจากยุบพรรคพลังประชาชน นายศุภชัย โพธิ์สุ ทนแรงจีบของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยไม่ไหว จึงย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย โดยมีตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นของขวัญ หลังหมดวาระเมื่อปี 2554 จึงถูกประชาชนพิพากษาด้วยการเข้าคูหากาพรรคเพื่อไทย ครูแก้วหรือสหายแสงจึงกลายเป็นผู้แทนสอบตกพักงานยาวกว่า 7 ปี ภายหลังกลับมาชนะการเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2562

ส่วนการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2566 ที่จะมาถึงนี้ ต้องยอมรับว่า 'สหายแสง' นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือ ครูแก้ว ส.ส.เขต 1 จ.นครพนม พรรคภูมิใจไทย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง พกความเชื่อมั่นในศักยภาพของตน หวังล้มช้างอย่างพรรคเพื่อไทย เพื่อดับฝันแลนด์สไลด์ โดยประกาศตัวข้ามจากเขต 1 นครพนมอันเป็นฐานที่มั่นเดิม ย้ายไปลงสมัคร ส.ส. เขต 2 นครพนม ชิงตั๋วเข้าสภากับ ดร.มนพร เจริญศรี หรือ 'เดือน' แชมป์เก่าจากพรรคเพื่อไทย โดยมีพื้นที่ อ.ท่าอุเทน, อ.โพนสวรรค์ และอำเภอเมืองนครพนม (เฉพาะตำบลในเมือง ต.หนองแสง, ต.อาจสามารถ, ต.นาราชควาย, ต.หนองญาติ และตำบลท่าค้อ) โดยปูฐานทางการเมืองกับกลุ่มองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และ อสม. รวมถึงพ่อค้า นักธุรกิจภาคเอกชน

ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 1 ครูแก้วส่งภรรยาคู่ชีวิต คือ นางพูนสุข โพธิ์สุ หรือ 'ครูตุ่น' อดีตข้าราชการครู อดีตรองนายก อบจ.นครพนม ลงสมัครแทน โดยชิงชัยกับ ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ อดีต ส.ส.แบบสัดส่วน พรรคภูมิใจไทย และในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เคยเป็นเลขาธิการพรรคเพื่อชาติ ภายหลังหันมาสังกัดพรรคเพื่อไทย ลงสมัครชิง ส.ส.เขต 1 นครพนม แทนนายยุทธจักร เรืองวรบูรณ์ ที่ยอมถอยจากการถูกชกใต้เข็มขัดเมื่อครั้งที่ผ่านมา

ดังนั้น ในการเลือกตั้งที่จะมาถึง ถือเป็นการวัดบารมีครั้งสำคัญ ว่า พรรคภูมิใจไทยจะปักธงชัยล้มแลนด์สไลด์พรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ หากไม่สามารถฝ่าด่านความรักความผูกพันของประชาชน งานนี้ปัญหาต้องตกมาที่พรรคภูมิใจไทยในพื้นที่ จ.นครพนม อย่างแน่นอน อีกทั้ง ครูแก้วจะต้องฝ่ากระแสดรามา เพราะภาษาพาไปในการปราศรัยกล่าวหา ส.ส.พื้นที่จังหวัดใกล้เคียงที่ไม่เลือกภูมิใจไทย ว่า 'ไอ้โง่' เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565

รวมถึงประเด็นการตรวจสอบ เรื่องการครอบครองป่าดงพะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ที่ถูกตรวจสอบเรื่องจริยธรรม ถึงแม้เจ้าตัวยืนยันในการครอบครองชอบด้วยกฎหมาย แต่จะต้องพิสูจน์ตัวเองให้ถึงที่สุด เพราะยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงของหน่วยงานเกี่ยวข้อง ที่อาจจะกระทบต่อความเชื่อถือของพี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ ตัวชี้วัดสำคัญในทิศทางความได้เปรียบเสียเปรียบ เชิงการเมือง ต้องยอมรับว่า พรรคภูมิใจไทยมีความเสี่ยงสูง ที่จะถูกกระแสต้าน ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ที่เลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเคยประกาศจะไม่ร่วมกับฝ่ายเผด็จการ สุดท้ายต้องมาร่วมจับมือกับพลังประชารัฐ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยต้องทำความเข้าใจกับประชาชน ให้เข้าใจถึงอุดมการณ์การเมือง แต่ที่แน่ ๆ พรรคภูมิใจไทยใช้มุกเก่าไม่ได้อีกแล้ว

นอกจากนี้ สหายแสง นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือ ครูแก้ว ต้องยอมทิ้งฐานคะแนนถิ่นเก่า มาสร้างฐานคะแนนใหม่ในเขตเลือกตั้งที่ 2 ชนกับแชมป์เก่า คือ ดร.มนพร เจริญศรี หรือเดือน พรรคเพื่อไทย ที่ครูแก้วจะต้องมีทั้งคะแนนนิยม ทั้งส่วนบุคคลและทั้งพรรค เนื่องจากเป็นฐานที่มั่นของพรรคเพื่อไทยมาตลอด ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 3 นครพนม อ.เมืองนครพนมบางส่วน อ.ธาตุพนม และ อ.เรณูนคร พรรคภูมิใจไทยส่ง นายแพทย์ อลงกต มณีกาศ ชนกับ ดร.ไพจิต ศรีวรขาน แชมป์ 12 สมัย พรรคเพื่อไทย ที่มีทั้งคะแนนนิยมพรรค และคะแนนนิยมส่วนบุคคล โอกาสที่พรรคภูมิใจไทย จะชิงความได้เปรียบคงมีโอกาสน้อย

‘พิธา’ ตั้งโพเดียมกลางน้ำ เปิดนโยบายสิ่งแวดล้อม ลั่น!! เอาจริง แก้ปัญหาโลกร้อน ทั้งเชิงรุกและเชิงรับ

(24 ก.พ. 66) ที่ชุมชนปากคลองรังสิต จังหวัดปทุมธานี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงเปิดนโยบาย 'สิ่งแวดล้อมไทยก้าวหน้า' ซึ่งเป็นชุดนโยบายที่ 7 จากทั้งหมด 9 ชุดนโยบาย

การเปิดนโยบายครั้งนี้ มีจุดเด่นคือ การตั้งโพเดียมกลางน้ำ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากการกล่าวถ้อยแถลงของรัฐมนตรีการต่างประเทศ ของประเทศตูวาลู ในช่วงการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP 26) โดยพิธากล่าวว่าเป็นการแสดงให้เห็นว่า ปัญหาโลกร้อนเป็นเรื่องใกล้ตัวของทุกคนมากกว่าที่คิด และส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตประชาชน เช่น ปัญหาน้ำท่วมที่รุนแรงและถี่ขึ้น

จากตัวอย่างพื้นที่ปทุมธานี ที่เป็นสถานที่แถลงนโยบาย คนในชุมชนนี้บอกว่าในอดีตน้ำท่วม 2-3 เดือนต่อปี แต่ปัจจุบันน้ำท่วม 5-6 เดือนต่อปี หรือเมื่อ พ.ศ. 2549 พื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากมี 10 ล้านไร่ ตอนนี้เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าเป็น 27 ล้านไร่ ซึ่งสอดคล้องกับรายงานของธนาคารโลกที่ระบุว่าปี 2011-2045 (พ.ศ. 2554-2588) โลกร้อนจะสร้างความเสียหายต่อภาคเกษตรไทยราว 3 ล้านล้านบาท ผลิตพืชต่าง ๆ ได้น้อยลง เช่น ข้าวน้อยลง 13% มันลดลง 21% อ้อยลดลง 35%

หัวหน้าพรรคก้าวไกลระบุว่า รัฐบาลอาจบอกว่าเราสามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับสหประชาชาติ แต่ตัวเลขเหล่านั้น เราเก็บเอง เขียนรายงานเอง ต่างจากการประเมินโดยองค์กรระหว่างประเทศ ที่บอกว่าการรับมือในเรื่องนี้ของไทยอยู่ในระดับ ’ไม่เพียงพอขั้นวิกฤติ’ (Critically Insufficient) และหากทำตามนโยบายปัจจุบันของรัฐบาลต่อไป จะทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น 4 องศา ในขณะที่ความพยายามของทั้งโลก ต้องการให้ต่ำกว่า 2 องศา

“ปัญหาโลกร้อนเป็นภัยความมั่นคงของยุคปัจจุบัน นี่คือศัตรูตัวจริงของรัฐบาล ไม่ใช่ความมั่นคงทางทหารแบบเดิมอีกต่อไป ดังนั้น พรรคก้าวไกลต้องการประกาศศึกกับภาวะโลกร้อน โดยมีนโยบายที่ชัดเจน ทั้งในเชิง ‘รับ’ เพื่อรับมือผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้วและมีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้นจากสภาพอากาศที่แปรปรวน และในเชิง ‘รุก’ ที่รุกไปที่ต้นตอของปัญหา เพื่อลดก๊าซเรือนกระจกให้ได้จริง ควบคู่กับสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับการรักษาสิ่งแวดล้อม” พิธากล่าว

สำหรับชุดนโยบาย ’สิ่งแวดล้อมไทยก้าวหน้า’ ของพรรคก้าวไกล ต้องการเอาจริงกับปัญหาโลกร้อน ผ่านนโยบายเชิงรุกและเชิงรับ ต่อไปนี้

(A) เชิงรุก : เร่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 (พ.ศ. 2593)

ด้านการผลิตไฟฟ้า = เปิดตลาดเสรี ส่งเสริมไฟฟ้าสะอาดพลังงาน :
1.) หลังคาสร้างรายได้ เปิดเสรีโซลาร์เซลล์ครัวเรือน
2.) ปลดล็อกระเบียบ สร้างตลาดซื้อ-ขายไฟฟ้าเสรีของประชาชน
3.) ประกันราคา ไฟฟ้าพลังงานสะอาด สำหรับครัวเรือน
4.) ปลดระวางโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งหมด ภายใน 2035 (พ.ศ.2578)

ด้านการเกษตร = ป้องกันการเผา เปลี่ยนก๊าซเรือนกระจกเป็นรายได้ :
5.) กำจัดการเผาภายใน 3 ปี งบปรับตัวตำบลละ 3 ล้านบาท 1,000 ตำบล
6.) เปลี่ยนการเผาเป็นเงินในกระเป๋าเกษตรกร งบอุดหนุนปลูกข้าว ’เปียกสลับแห้ง’ แทนการเผา สร้างอุตสาหกรรมแปรรูปฟางข้าว-ซังข้าวโพดแทนการเผา
7.) 1 ฟาร์มปศุสัตว์ 1 บ่อหมักก๊าซชีวภาพ (เป็นอย่างน้อย) เปลี่ยนมีเทนเหลือทิ้งให้เป็นพลังงาน

ด้านอุตสาหกรรม = จำกัดการปล่อยมลพิษอุตสาหกรรม :
8.) กำหนดเพดานและเปิดตลาด (Cap & Trade) การปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายอุตสาหกรรม เปิดตลาดค้าขายแลกเปลี่ยนโควตา
9.) PRTR – กฎหมายเปิดข้อมูล บังคับให้ทุกโรงงานเปิดข้อมูล สารพิษอันตรายและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ด้านการขนส่ง = ปรับปรุงการขนส่งให้สะอาดที่สุด :
10.) รถเมล์ไฟฟ้าทุกจังหวัด ภายใน 7 ปี
11.) วันขนส่งฟรี รณรงค์ลดใช้รถยนต์ส่วนตัว
12.) เปลี่ยนรถไฟดีเซลเก่าเป็นไฟฟ้า
13.) ตรวจสภาพรถยนต์ฟรี! ปีละครั้ง
14.) ควบคุมปริมาณรถบรรทุกในเขตเมือง

‘ภูมิใจไทย’ จัดทัพปราศรัยใหญ่ 3 จว. ภาคใต้ ตั้งเป้าขยายฐานเสียงใหม่ สู้ ‘ปชป. - รทสช.’

(24 ก.พ. 66) รายงานข่าวจากพรรคภูมิใจไทยแจ้งว่า ช่วงวันหยุดศุกร์-เสาร์ นี้ พรรคภูมิใจไทย นัดเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร และเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ 3 จังหวัดรวด มีพัทลุง-สงขลา-นครศรีธรรมราช

โดยพรรคภูมิใจไทยขนทัพหลวงจากส่วนกลางเข้ามาร่วมเวทีปราศรัย ทั้งนายอนุทิน ชาญวีระกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรค, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเลขาธิการพรรค, นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา รองหัวหน้าพรรค, ดร.นาที รัชกิจประการ เหริญญิกพรรค, นายศุภชัย ใจสมุทร กรรมการบริหารพรรค เป็นต้น

โดยเวทีแรกจะเริ่มขึ้นเย็นวันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่จังหวัดพัทลุง โดยพัทลุงพรรคภูมิใจไทยส่งครบทุกเขต เดิมพรรคภูมิใจไทยมี ส.ส.พัทลุงอยู่แล้วสองคน แต่มีปัญหาด้านคุณสมบัติ จึงส่งทายาทลงสมัครรับเลือกตั้งแทน และเป็นพื้นที่เป้าหมายว่าจะต้องรักษาไว้ให้ได้ทั้งสองเขต และอาจเพิ่มเป็นสามเขต แต่คู่แข่งสำคัญยังคงเป็นประชาธิปัตย์ ทั้งนายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย สุพัชรี ธรรมเพชร และเลือดใหม่ทายาทนักการเมืองดัง ดร.เดย์ สุพรรณชนะบุรี ลูกสาวของสานันท์ สุพรรณชนะบุรี อดีต ส.ส.พัทลุง 2 สมัย และอดีตนายกฯ อบจ.พัทลุง 2 สมัย ก็ถือว่าไม่ธรรมดาเช่นกัน

เวทีที่สอง ขยับไปจังหวัดสงขลา จะเปิดเวทีปราศรัยที่ อ.สะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เขตเลือกตั้งของนายณัฏฐชนน ศรีก่อเกื้อ ที่พรรคภูมิใจไทยปักธงได้ในเขตเลือกตั้งนี้ และในการเลือกตั้งรอบที่จะมาถึงพรรคภูมิใจไทย ก็หมายมั่นปั้นมือว่าจะขยายฐานเพิ่มขึ้นให้ได้ และถ้าดูปูมหลัง พลิกอ่านประวัติแล้ว ถือว่ามีโอกาสเป็นไปได้ แต่บางเขตก็ต้องเจอกับคู่แข่งอย่างประชาธิปัตย์ และรวมไทยสร้างชาติ ที่ ส.ส.เดิมจากพรรคพลังประชารัฐ ย้ายมาร่วมขบวนด้วย แต่สำหรับนายณัฏฐชนน 4 ปีกับการทำหน้าที่ ส.ส.มีฐานการเมืองที่แข็งแกร่ง โดยนายศิริโชค โสภา อดีต ส.ส.เขตนี้ก็ตามทวงแชมป์คืนในนามประชาธิปัตย์

'เพื่อไทย' ปล่อยคลิป ยกระดับ '30 บาท รักษาทุกโรค' ชูระบบเทคโนโลยีทันสมัย บริการได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

(24 ก.พ. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 23 ก.พ. พรรคเพื่อไทย (พท.) เผยแพร่คลิปวิดีโอผลงานโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค ระบุข้อความว่า โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ประสบความสำเร็จมาแล้ว โดยในอนาคต คือ การยกระดับโครงสร้างสาธารณสุขไทยทั้งระบบ ให้สมบูรณ์และดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

ใกล้ใจ - เลือกหมอ เลือกโรงพยาบาลด้วยตัวเอง
ง่ายดาย - บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทั่วไทย
ครบครัน - ใช้ฐานข้อมูล Cloud ทั้งระบบ
รวดเร็ว - รักษาและจ่ายยาออนไลน์
ปลอดภัย - ข้อมูลผู้ป่วยไม่รั่วไหล
สะดวก - นัดคิวออนไลน์ ไม่ต้องรอคิวนาน ๆ
ทันใจ - ตรวจเลือดคลินิกใกล้บ้าน เจอหมออีกวันได้เลย
โปร่งใส - ลดภาระของผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์

ระดมฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกฟรีให้เด็กหญิงอายุตั้งแต่ 9-11 ปีทุกคน และผู้หญิงที่ยังไม่เคยรับเชื้อ HPV

ป้องกันมะเร็งท่อน้ำดี-มะเร็งตับ ตรวจคัดกรองพยาธิใบไม้ในตับและไวรัสตับอักเสบ ซี รับยา รักษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

Mental Health สุขภาพจิตคนไทยจะไม่ถูกละเลย มีการให้คำปรึกษาจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยาคลินิก ทั้งที่โรงพยาบาลและผ่านระบบ Telemedicine

'บิ๊กตู่' อารมณ์ดี เตรียมปราศรัยใหญ่เวทีบ้านเกิด วอนทุกคนเป็นหูเป็นตา ตรวจพรรคการเมืองขายฝัน

(24 ก.พ. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทาง และยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ในวันเสาร์ที่ 25 ก.พ.นี้ มีอะไรไปเซอร์ไพรส์บนเวทีบ้านเกิดว่า อย่างน้อยได้ไปเยี่ยมบ้านเกิด ซึ่งไม่ได้ไปนานแล้ว ตนเกิดและโตอยู่ที่นั่น ความผูกพันมีอยู่ตลอด ซึ่งเราต้องนึกถึงบ้านเกิดเมืองนอน ถ้าจะให้พูดวันนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีก

ผู้สื่อข่าวถามว่า อยากให้นายกฯ พูดทักทายเป็นภาษาโคราช เพื่อเป็นน้ำจิ้มก่อนเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “สบายดีเด้อ” ผู้สื่อข่าวบอกเป็นภาษาโคราชว่า “สบายดีแมะ“ ซึ่งแปลว่า “สบายดีไหม“ พล.อ.ประยุทธ์ พยายามพูดตาม พร้อมกล่าวว่า “สบายดีไหม“ ก่อนจะขำเนื่องจากพูดภาษาโคราชผิด ๆ ถูก ๆ พร้อมกล่าวว่า มันจะผสมกันไปหมดแล้ว

เมื่อถามว่า วันที่ 25 ก.พ. ที่จะถึงนี้ จะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสาน ทั้ง 132 เขตหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทางพรรคเตรียมไว้แล้ว

เมื่อถามว่า นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เสนอนโยบายด้านพลังงานน้ำมัน คิดว่าจะทำได้จริงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาพูดอะไรก็ได้ แต่ต้องมาดูกติกากฎหมาย สัญญาต่าง ๆ เพราะทุกอย่างเป็นสัญญา ถ้าจะทำอะไร ก็ต้องไปแก้กฎหมายกันใหม่ตรงโน้น ฉะนั้น เราต้องเริ่มต้นใหม่ ถ้าจะทำอะไรใหม่ ๆ ก็ต้องทำให้ดี ของเดิมก็ต้องขอความร่วมมือกันบ้าง ช่วยเหลือกันบ้าง

เมื่อถามว่า พรรคจะลดราคาน้ำมันได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พูดอีกแล้ว รอดูแล้วกัน ไม่ต้องรวมไทยสร้างชาติ ในตอนนี้ นายกฯ จะดูแลให้ มากน้อยเดี๋ยวดู ได้คุยกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และ รมว.พลังงานไว้แล้ว จะลดได้เท่าไหร่ อย่างไร แต่ต้องดูว่าจะมีปัญหาในภาพรวมหรือไม่ ยืนยันว่าจะลดให้ ไม่ใช่การหาเสียง เพราะตนพูดในนามของนายกฯ

เมื่อถามว่า หลายพรรคมีนโยบายขายฝันจะทำได้มากน้อยแค่ไหน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พวกเราก็ตรวจสอบกัน ดูว่าให้อะไรเท่าไหร่ หาตัวเลขมาว่า คนแต่ละกลุ่มใช้เงินเท่าไหร่ คูณตัวเลขมา พอเพียงหรือไม่ วันนี้งบประมาณรายรับเรามีเท่าไหร่

ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ปรากฎว่า ขาตั้งไมโครโฟนของสื่อ เอนใส่หน้าอก ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ชะงัก ก่อนพูดติดตลกและถามว่า “ไอ้นี้พวกใครวะ พวกเราหรอ กระแทกแบบนี้” จากนั้น ได้แกล้งดึงไมโครโฟนออกจากขาตั้งแล้วใส่กลับเข้าที่เดิม พร้อมกล่าวว่า “อย่าถือสา แหย่เล่นกัน เรามันพวกเดียวกันอยู่แล้ว“

‘ศุภชัย’ ชู ผลงาน ‘3 กระทรวงหลัก’ พิสูจน์แล้ว 'ภท.' พูดแล้วทำ หนุน 'อนุทิน' นั่งนายกฯ ฟื้นประเทศ

(24 ก.พ. 66) นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เปิดเผยว่า เกือบ 4 ปีที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทยได้เข้าไปบริหารกระทรวงหลัก 3 กระทรวง คือ กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นกระทรวงหลักที่ทำให้พี่น้องประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สร้างให้ประเทศไทยของเราดีขึ้น

"ผมมั่นใจว่า ถ้าพี่น้องประชาชนให้โอกาสกับพรรคการเมืองที่ชื่อ 'ภูมิใจไทย' ที่นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค เราจะสามารถทำให้ประเทศพลิกฟื้นและประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่า 4 ปีที่ผ่านมา ด้วยคำมั่นสัญญาของพรรคการเมืองที่พูดแล้วทำ" นายศุภชัย กล่าว

‘กรณ์’ เปิดตัว 3 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ‘ร้อยเอ็ด-มหาสารคาม’ ตัวแทนคนรุ่นใหม่ อาสาเป็นกระบอกเสียงให้ชาวบ้าน

(24 ก.พ.66) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย ผศ.ดร. เอราวัณ ทับพลี รองเลขาธิการพรรค นายปรีชญา ฉ่ำมณี หรือ หำโจ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค เดินทางไปจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อจัดตั้งตัวแทนและที่ทำการพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมเปิดตัว ‘เอม อภัสรา’ นางสาวดนิตา มาบุญธรรม หมอลำชื่อดัง เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ดเขต 1 

นายกรณ์ กล่าวว่า ถ้า เอม อภัสรา ได้มีโอกาสได้เข้าไปเป็นผู้แทนราษฎร ก็จะเป็นความภาคภูมิใจของคนร้อยเอ็ด เพราะเอม เป็นลูกชาวบ้านที่อาสามาเป็นผู้แทน และมีเจตนารมณ์เดียวกันกับพรรคคือ ไม่ขายความขัดแย้ง ไม่ทะเลาะกับใคร ไม่สะสมประโยชน์ส่วนตัว เราเน้นทำงานเพื่อแก้ปากท้องของพี่น้องประชาชน สร้างอนาคตให้ลูกหลาน ดูแลผู้สูงอายุ เราสู้ตั้งแต่ยังไม่มี ส.ส.และกล้าชนกับเรื่องปัญหาราคาน้ำมัน ปัญหาคนไทยติดแบล็กลิสต์บูโร สนับสนุนเกษตรกรให้ทำเกษตรพรีเมียม เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร รวมถึงการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ วัฒนธรรมไทย ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศให้เข้ามาสัมผัสในสิ่งที่เขาหาชมที่ไหนไม่ได้ ซึ่งหมอลำ ตอบโจทย์อย่างชัดเจน และเชื่อว่าเอม อภัสรา มีศักยภาพพอที่จะสามารถทำให้ หมอลำ โกอินเตอร์ได้อย่างแน่นอน

'อุ๊งอิ๊ง' นำทีม ‘เพื่อไทย’ ปราศรัยใหญ่ จ.เชียงราย ชาวบ้านแห่ต้อนรับ ตะโกนเชียร์ “เพื่อไทย แลนด์สไลด์”

กองเชียร์ส่งเสียงแลนด์สไลด์กระหึ่ม สนามบินแม่ฟ้าหลวง ‘เพื่อไทย-แพทองธาร’ บุกหาเสียงปราศรัยใหญ่เชียงราย ลุยพบปะประชาชนที่แม่สาย ก่อนปราศรัยใหญ่ อำเภอเทิง จังหวัดเชียงรายเย็นวันนี้

(25 ก.พ. 66) ที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรค, น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยพร้อมคณะ เดินทางมาถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง โดยมีประชาชนสวมเสื้อสีแดงสัญลักษณ์พรรค พท. คอยรอให้กำลังใจพร้อมมอบดอกไม้ และยังมี ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย พรรค พท. ประกอบด้วย ร.ต.อ.ธนรัช จงสุทธานามณี ,นายวิกรม เตชะธีราวัฒน์ น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ น.ส.ละออง ติยะไพรัช น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช มารอรับคณะของพรรค พท. ด้วย ทันทีที่ น.ส.แพทองธาร พร้อมคณะเดินทางออกจากอาคารผู้โดยสารขาออก มีประชาชนส่งเสียงเชียร์ดังสนั่นว่า “แลนด์สไลด์ ครอบครัวเพื่อไทย” พร้อมทั้งมอบดอกไม้ให้กับ น.ส.แพทองธาร และคณะ

สำหรับกำหนดการของพรรค พท. ในวันนี้ เวลา 10.00 น. น.ส.แพทองธารและคณะจะเดินทางไปพบปะประชาชนและพ่อค้าแม่ค้า ที่จุดผ่านแดนถาวรแม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ของนายอิทธิเดช แก้วหลวง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย จากนั้นจะเดินทางไปปราศรัยใหญ่ที่เวทีสนามกีฬา รร.ปล้องวิทยาคม อ.เทิง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ของ นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย โดยจะมีนพ.ชลน่าน น.ส.แพทองธาร นาย จาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์ พรรค และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ขึ้นปราศรัยบนเวทีเพื่อหาเสียงเลือกตั้งกับประชนชน ต่อจากนั้น คณะของพรรค พท. จะลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน ที่ถนนคนเดิน อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ของ ร.ต.อ.ธนรัช จงสุทธานามณี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย


ที่มา : https://www.naewna.com/politic/713527

‘สุวัจน์’ เปิดงาน ‘เดิน เดิ่น โคราช’ หนุน Soft Power ดันสตรีทฟู้ดไทยสู่ระดับโลก หวังดึง นทท. - กระตุ้น ศก.

(25 ก.พ. 66) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานเปิดงาน ‘เดิน เดิ่น โคราช’ ประจำปี 2566 เมื่อเวลา 17.00 น.ของวันที่ 24 ก.พ.66 ที่ผ่านมา โดยมี นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า, นายวัชรพล โตมรศักดิ์ สส.นครราชสีมา เขต 2 พรรคชาติพัฒนากล้า, นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา พร้อมคณะผู้บริหาร สท.ผู้นำชุมชน, นักธุรกิจ, พ่อค้า, แม่ค้า และพี่น้องประชาชนร่วมงานจำนวนมาก ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และสวนอนุสรณ์สถานวีรกรรมท้าวสุรนารี

นายสุวัจน์ กล่าวว่า งานถนนคนเดิน เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อสร้างความสุข กระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างบุคลิกคาแรคเตอร์ให้กับเมืองโคราช ที่เราเรียกว่า ‘เดิน เดิ่น โคราช’ คือ เดินชมเมืองโคราช เดินชมร้านค้า เดินชมดนตรี เดินไปตามถนนที่สวยงามย่านอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เดินชมอนุสรณ์สถานคุณย่าโม เดินไปท่ามกลางสตรีทฟู้ดที่มีอาหารดี ๆ พื้นบ้าน พื้นเมืองของคนโคราช เดินไปท่ามกลางสินค้าโอทอป สินค้าที่หลากหลายแล้วก็มีดนตรี มีอะไรมากมาย ที่ถือว่าเป็นการผสมผสานกันระหว่าง Night Market บวกกับ Streetfood บวกกับถนนวัฒนธรรม รวมแล้วเลยกลายเป็น ‘เดิน เดิ่น โคราช’

ซึ่งทางเทศบาลนครนครราชสีมา จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์นี้ และเห็นว่าจะจัดกันเป็นประจำทุกศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ จัดกันไปเรื่อยๆ ก็จะทําให้เมืองมีความคึกคัก มีสีสัน มีบรรยากาศของการท่องเที่ยวและก็รองรับนักท่องเที่ยวที่เริ่มกลับมาประเทศไทย รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย และเป็นการอวดของดีเมืองโคราช ของดีทางด้านสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม Soft Power ของดีทางด้านอาหารการกิน สินค้าโอทอป ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ดี แล้วก็จะนําไปสู่เรื่องเศรษฐกิจ ทําให้พ่อค้า แม่ค้า คนขายของที่ระลึก คนขายโอทอป คนขายอาหาร ทุกคนได้ขายสินค้า พี่น้องประชาชนได้ออกมาเที่ยวจับจ่ายใช้สอย นักท่องเที่ยวก็อยากจะมาที่โคราช ถือว่าเป็นโมเดลที่ดี ซึ่งทุกจังหวัดก็จะมีของดีอย่างนี้ แล้วก็ร่วมกันจัดงานลักษณะนี้จะเป็นถนนวัฒนธรรม ถนนคนเดิน หรือจะเป็นถนนสําหรับสตรีทฟู้ด

“เมืองไทยมีชื่อเสียงทั่วโลกพอพูดถึงเรื่องสตรีทฟู้ด ทุกคนจะนึกภาพเมืองไทยมาอันดับหนึ่ง สตรีทฟู้ด ขนาดมิชลิน สตาร์ บ้านเรายังมีอยู่ที่สตรีทฟู้ด ถ้าเราส่งเสริมเรื่องสตรีทฟู้ด ไปทุกตําบล ทุกเมือง ให้มีสตรีทฟู้ด แล้วเอาของดีมาอวด หรือส่งเสริมพวกมิชลิน สตาร์ เพราะนักท่องเที่ยวชอบไปกิน คือ เป็นการแนะนําของอร่อยที่เซอร์ติฟายด์โดยมิชลิน ส่งเสริมให้ มิชลิน สตาร์ Michelin เข้ามาให้ดาวให้เพจ ไปตามร้านอาหารดัง ๆ เมืองท่องเที่ยว ทุกจังหวัด ทุกอําเภอ ต่อไปเมืองไทยก็จะมีชื่อเสียงเหมือนเป็นเมืองของกินของโลก เมืองอาหารอร่อยของโลก สตรีทฟู้ดของโลก จะช่วยส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวได้มาก” นายสุวัจน์ กล่าว

นายสุวัจน์ กล่าวว่า วันนี้การท่องเที่ยวเป็นหัวใจสําคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเงินจากนักท่องเที่ยวมาเร็ว มาแรง มาทั่วถึง ไปทุกหมู่บ้าน ไปทุกตําบล วันนี้เราจะอาศัยการลงทุนจะต้องรอจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจ ถดถอย เงินเฟ้อ ดอกเบี้ยแพง ผลกระทบ ใช้เรื่องการลงทุนจะค่อนข้างชะลอ แต่เรื่องท่องเที่ยว เรื่องปาก เรื่องท้อง เรื่องอยากไปเที่ยว คิดได้ทุกวัน ขออย่างเดียว บ้านเมืองคุณปลอดภัย คุณมีสตรีทฟู้ด มีอาหารอร่อยๆให้ผมทานหรือเปล่า ผมก็อยากจะมา ฉะนั้น สตรีทฟู้ด เป็นเสน่ห์ของเมืองไทยมากขอให้ส่งเสริมให้ดีกันเยอะๆ ในทุกเมืองท่องเที่ยวจะเป็นประโยชน์ เพราะการท่องเที่ยวเป็นหัวใจในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้กลับมา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top