Tuesday, 10 June 2025
บิ๊กตู่

‘บิ๊กตู่’ บุกแปดริ้ว ไหว้ขอพรหลวงพ่อโสธรฯ ด้านแฟนคลับอธิฐานขอให้ลุงตู่กลับมาเป็นนายกฯ

(10 มี.ค. 66) พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางถึงวัดโสธรวรารามวรวิหาร โดยมี นายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ ส.ส.เขต 2 ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งจะย้ายมาสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ มาต้อนรับ และมีจ่าเอกยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 ฉะเชิงเทรา พรรครวมไทยสร้างชาติ และนายมติชน ชูทับทิม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ ให้การต้อนรับด้วย

ทันที่ลงจากรถ พล.อ.ประยุทธ์ได้โบกมือทักทายประชาชน พร้อมรับพวงมาลัยดอกมะลิจากบรรดาแฟนคลับ ขณะที่ประชาชนให้กำลังใจนายกฯ จากการรักษามืออักเสบให้หายไว ๆ สุขภาพแข็งแรง ให้นายกฯ สู้ ๆ และให้มาเป็นนายกฯ อีก

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มือยังเจ็บอยู่ แต่หมอบอกไม่เป็นอะไรแล้ว จากนั้น ได้ชูมือให้ประชาชนดู ซึ่งมือด้านขวายังใส่เฝือกอ่อน ขณะที่มือซ้ายใส่ที่พยุงข้อมือ เพื่อป้องกันการติดเชื้อบริเวณรอยที่ถอดท่อใส่ยาฆ่าเชื้อออก อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่ามือด้านขวาของนายกฯ มีอาการบวมลดลง

จากนั้น นายกฯ ได้ถ่ายภาพร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ หอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา (YEC Chachoengsao : Young Entrepreneur Chamber of Commerce) ที่มาต้อนรับ ก่อนเข้าไปสักการะหลวงพ่อพระพุทธโสธร และกราบนมัสการพระราชภาวนาพิธาน เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าสังเกตการณ์ ซึ่งคณะทำงานระบุว่า ขอให้เป็นการส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ พระราชภาวนาพิธาน เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ได้เจริญพระพุทธมนต์และให้ศีลให้พรกับนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีที่ร่วมเดินทางมา และได้มอบพระพุทธรูปหลวงพ่อพระพุทธโสธรจำลองปี 2566 รุ่น 1 ขนาดหน้าตัก 7 นิ้ว และเหรียญหลวงพ่อโสธรขึ้นจากน้ำ ปีที่ 250 พ.ศ.2563 รุ่น 10

‘บิ๊กตู่’ ชวนเที่ยวงาน ‘Andaman Craft Festival’ กระตุ้นเศรษฐกิจภูเก็ต พ่วงดันซอฟต์พาวเวอร์ไทย

(11 มี.ค. 66) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ไทย ตามยุทธศาสตร์ 5 F เพื่อเศรษฐกิจสร้างสรรค์และสอดคล้องแนวทาง BCG โมเดล จึงสนับสนุนนำซอฟต์พาวเวอร์มาส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดเม็ดเงินเข้าประเทศ เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ 

โดยเชิญชวนพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมงาน 'Andaman Craft Festival' ที่ลานมังกร ถนนคนเดิน จังหวัดภูเก็ตในวันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคมนี้ ซึ่งจัดโดย สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) เพื่อร่วมกิจกรรมและจับจ่ายใช้สอยผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทย ที่มาจากวิถีชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่น ไฮไลท์สำคัญคือ การเปิดตัวกางเกงมวยผ้าไหมไทยตัวแรกของโลก ที่ได้ 'บัวขาว บัญชาเมฆ' หรือ ร.ท.สมบัติ บัญชาเมฆ ยอดนักมวยไทยชื่อดังตำนานแชมป์โลก มาเป็นนายแบบ ต่อยอดศิลปหัตถกรรมไทยเป็นซอฟต์พาวเวอร์ระดับโลก ภายในงานยังมีกิจกรรมแฟชั่นโชว์ผ้าไทยโดย แอนนา เสืองามเอี่ยม Miss Universe Thailand 2022, ขบวนพาเหรดผ้าไทยและผ้าพื้นถิ่น โดย ไฮดี้ อมันดา Miss Grand Phuket เวิร์กช็อปงานหัตถกรรม และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ที่คาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจถึง 7 พันล้านบาท 

ไม่ขายฝัน!! ‘เลขาฯ รทสช.’ ขอปชช. หนุน ‘บิ๊กตู่’ สานต่อนโยบายเดิม ย้ำ!! ทุกนโยบายทำได้จริง ซัดบางพรรคขายฝัน ทำไม่ได้

(12 มี.ค. 66) ที่บ้านเอื้ออาทร หัวหมาก ซอยกรุงเทพกรีฑา 7 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายเกรียงยศ สุดลาภา นายทะเบียนพรรค ลงพื้นที่พบประชาชนช่วย น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ อดีตส.ส.กทม. ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรครทสช.เขตบางกะปิ-วังทองหลาง หาเสียง มีผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านเอื้ออาทรหัวหมาก ร่วมรับฟังนโยบาย

นายเอกนัฏ กล่าวว่า พรรครทสช.ออกนโยบายมาหลายข้อ เพื่อสานต่อนโนบาย ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค อาทิ 5 นโยบายเด่นในการแก้ปัญหาปากท้องประชาชน การเพิ่มสิทธิบัตรสวัสดิการพลัสเป็น 1,000 บาทต่อเดือน และใช้สิทธิฉุกเฉินกู้ได้อีก 10,000 บาท การตั้งกองทุนฉุกเฉินประชาชนวงเงิน 30,000 ล้านบาท คืนเงิน 30% โครงการปลดหนี้ด้วยงาน โครงการคนละครึ่งจะทำต่อ และแก้กฎหมายที่รังแกประชาชน ที่เป็นอุปสรรคการทำกิน โดยนโยบายเหล่านี้สามารถทำได้แน่นอน หากพรรครทสช.เป็นรัฐบาลและ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เป็นนายกฯ ดังนั้นจะต้องเลือกผู้สมัครของพรรคเพื่อให้เข้าไปเป็นส.ส.เพื่อเลือกพล.อ.ประยุทธ์ไปเป็นนายกฯ

นายเอกนัฏ กล่าวว่า เรารู้ว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ นโยบายของพรรคเป็นนโยบายต่อเนื่องจากการที่พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯมา 8 ปี รู้ว่าจะมีงบประมาณดำเนินการหรือไม่ ทุกนโยบายพิจารณาอย่างดีแล้วว่าทำได้จริงและมีงบประมาณ ในช่วงใกล้ช่วงเลือกตั้งจะมีหลายพรรคการเมืองมาลงพื้นที่นำเสนอนโยบายต่างๆทั้งที่ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่ เป็นนโยบายที่สวยหรูแต่ไม่มีงบประมาณ ยิ่งเลือกตั้งเสร็จไม่ได้เป็นรัฐบาลนโยบายเหล่านั้นก็ไม่มีประโยชน์

นายเอกนัฏ กล่าวว่า ขอฝากทุกคนถ้าอยากได้ลุงตู่กลับมาเป็นนายกฯต้องเลือกบัตรทั้ง 2 ใบเลือกพรรครทสช.และน.ส.ฐิติพัฒน์ อดีตส.ส.ที่เกาะติดพื้นที่มาตลอด ต้องเลือกส.ส.เพื่อให้ส.ส.ไปเลือกนายกฯ การคัดเลือกผู้สมัครของพรรคแม้จะเป็นพรรคใหม่ แต่เราเลือกคนที่มีคุณภาพมาให้ประชาชนเลือก ยิ่งใกล้เลือกตั้งจะมีผู้สมัครหน้าใหม่จากหลายพรรคมาเสนอตัวอ้างสารพัด แต่พรรครทสช.เราเลือกคนที่มีจิตวิญญาณลงพื้นที่มาตลอดมาให้ท่านเลือกเวลาชาวบ้านเดือดร้อนต้องเลือกคนที่ช่วยเหลือได้

ห่วงประชาชน!! ‘บิ๊กตู่’ สั่งเข้มทุกฝ่าย ยกระดับแก้ปัญหา PM 2.5 บังคับใช้ กม. ‘ติดตาม-ประเมิน-ปรับแผน’ ลดผลกระทบทุกด้าน

(13 มี.ค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ของประเทศไทย ห่วงใยประชาชนที่อาศัยและทำกิจกรรมในพื้นที่ที่สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 รุนแรง กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรุงเทพมหานคร ตลอดจนกระทรวงต่างประเทศและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทุกระดับ บูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในการเร่งแก้ไขปัญหา PM 2.5 ตามแนวทางปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” ภายใต้ 3 มาตรการสำคัญ คือการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ การป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง (แหล่งกำเนิด) และการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการมลพิษ รวมทั้งแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ภายใต้แผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี 2566  

นายอนุชา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกำชับให้ยกระดับเชิงปฏิบัติการให้เข้มข้นขึ้น ทั้งการปรับแผนเพิ่มตรวจสกัดรถควันดำ เข้มงวดเรื่องการก่อสร้าง ตรวจโรงงาน การบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้นจริงจัง ควบคู่ส่งเสริมการใช้รถไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงงดการเผาในที่โล่งทุกชนิด (เช่น พืชทางการเกษตร วัชพืชต่าง ๆ ขยะ และการเผาป่า) ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศ หากเผา มีความผิดตามกฎหมาย ทั้งนี้ ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ได้มีการประกาศห้ามเผา ปี 2566 ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือแล้วจนถึง 30 เม.ย. 66 ยกเว้นจังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดเพชรบูรณ์ที่ประกาศห้ามเผาที่ในโล่งถึง 16 เม.ย. 66 อีกทั้งนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำถึงการดำเนินการตามแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองปี 2566 ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็น Single Command ในการยกระดับการลดการเผาอย่างเด็ดขาดในช่วงวิกฤต รวมทั้งการบริหารจัดการเชื้อเพลิงผ่านโปรแกรม Burn Check เพื่อให้สามารถควบคุมจุดความร้อนได้ในระดับที่เหมาะสม ไม่ทำให้ค่า PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานจนสูงเกินไป เพราะเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อน เป็นอีกปัจจัยและสาเหตุสำคัญของปัญหา PM 2.5 ที่เกิดขึ้นขณะนี้ ทั้งนี้ ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการติดตามเฝ้าระวังและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อปรับแผนและการปฏิบัติให้สอดคล้องทันกับสถานการณ์ เพื่อลดผลกระทบด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชนให้มากที่สุด 

นายอนุชา กล่าวว่า จากรายงาน GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) (วันที่ 11 มีนาคม 2566) ระบุไทยพบจุดความร้อนจำนวน 1,061 จุด ซึ่งส่วนใหญ่พบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 383 จุด  พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 278 จุด พื้นที่เกษตร 192 จุด พื้นที่เขต สปก. 123 จุด พื้นที่ชุมชนและอื่น ๆ 78 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 7 จุด โดยจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุดคือแม่ฮ่องสอน 127 จุด ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ เมียนมา พบจุดความร้อนจำนวน 4,363 จุด สปป.ลาว 2,868 จุด กัมพูชา 1,182 จุด เวียดนาม 647 จุด และมาเลเซีย 32 จุด โดยสถานการณ์จุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดนเนื่องจากได้รับอิทธิพจากกระแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ซึ่งปัญหาไฟป่า หมอกควัน และ PM2.5 นอกจากส่งผลกระทบกับสุขภาพประชาชนแล้วยังส่งผลกระทบต่อระบบต่าง ๆ ด้วย ทั้งระบบเศรษฐกิจ และระบบสังคม เป็นต้น ดังนั้น การแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควันและ PM 2.5 นอกจากการบูรณาการร่วมมือร่วมใจกันภายในประเทศแล้ว นายกรัฐมนตรียังให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างยั่งยืนผ่านกลไกระหว่างประเทศเพื่อให้การป้องกัน และแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนมีประสิทธิภาพสูงสุด 

นายอนุชา กล่าวว่า ล่าสุดเมื่อเดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมา กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ขับเคลื่อนโครงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ฝึกซ้อมระดมพล ดับไฟป่าและจัดทำแนวกันไฟ 2 แผ่นดิน โดยส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาหมอกควันกับประเทศเพื่อนบ้าน (เมียนมา) ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งส่วนกลางและระดับพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดที่ติดกับพื้นที่บริเวณชายแดนประเทศเพื่อนบ้านให้ประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควันและ PM 2.5 อย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง เช่น ประสานขอความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้านในการใช้รถไฟฟ้า รวมถึงการปรับใช้พลังงานหมุนเวียน หรือพลังงานสะอาดเพิ่มขึ้นและลดใช้พลังงานหรือเชื้อเพลิงจากฟอสซิล ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาด้านพลังงานของทั่วโลกในการที่จะร่วมมือกันลดโลกร้อน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อไปสู่การพัฒนาและการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน

‘ปารีณา’ จี้ ‘บิ๊กตู่’ สั่ง จนท.หยุดปิดปาก-ลากตัวชาวบ้าน ลั่น!! โปรดเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

ปารีณา รับไม่ได้! เรียกร้อง บิ๊กตู่ สั่งเจ้าหน้าที่หยุดพฤติกรรม ฉุดกระชาก ลากดึงประชาชนเยี่ยงหมา ลั่นทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มันเกินไป

(4 มี.ค. 66) น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีตส.ส.ราชบุรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ ‘ปารีณา ไกรคุปต์’ ถึงกรณีหญิงสูงวัยรายหนึ่งยืนดักขบวน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระหว่างลงตรวจราชการที่อำเภอบ้างโป่ง จังหวัดราชบุรี เพื่อแสดงออก พร้อมตะโกนด่าและตำหนิการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ถูกเจ้าหน้าที่กระชาก ลากตัว และปิดปาก จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยข้อความระบุว่า…

“#เยี่ยงหมา

'เจ๊จุก คลองสาม' เปิดคลิปแฉ '2 ป้า' วางแผนโดดขวางรถนายกฯ หลักฐานมัด 'ไม่ป่วน-ไม่บุก-ไม่โวยวาย' ตำรวจจะไม่ทำอะไร

(14 มี.ค.66) จากกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางสักการะเจ้าแม่เบิกไพร ณ ศาลเจ้าแม่เบิกไพร อำเภอบ้านโป่ง ได้เกิดเหตุชุลมุนขึ้นระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ และประชาชนผู้เห็นต่างเป็นหญิงสูงอายุ 1 คน และหญิงวัยกลางคนอีก 1 คน จะมายืนดักขบวนนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงออกและตะโกนตำหนิการทำงานของพล.อ.ประยุทธ์ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงนอกเครื่องแบบ 2 นาย พยายามเข้าสกัด และได้กระชากหญิงสูงอายุเพื่อนำตัวออกไป โดยหญิงสูงวัยพยายามตะโกนช่วงที่ขบวนรถของพล.อ.ประยุทธ์ ผ่านพอดี ว่า “ไอ้ เ..ี้ย ตู่” ก่อนตำรวจหญิงได้ลากตัวขึ้นไปยังรถตู้ตำรวจเพื่อพาออกนอกพื้นที่

ขณะที่หญิงอีกรายซึ่งอยู่ในวงล้อมของเจ้าหน้าที่ และกลุ่มผู้สนับสนุน ได้ชู 3 นิ้ว แสดงความเห็นต่าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามห้ามไม่ให้เคลื่อนไหว​ นั้น

เจ๊จุก คลองสาม ทวิตข้อความแฉว่า เมื่อวาน ป้านา ให้สัมภาษณ์ สแตนดาก ว่าแค่จะไปหาซื้อกับข้าว พอรู้ว่าลุงตู่ #ประยุทธ์ จะมา เลยต้องการจะไปร้องเรียน WTF!!

ซื้อกับข้าวบ้านป้าสิค่ะ ที่ชวนๆ คนอื่น ในไลฟ์อีเฟินเนี่ย ชวนกันไปทำอาหารต่อเหรอคะ

ทำไมกล้าตอแหล แบบนั้นคะ ส่วนสื่อ here ก็เอามาลงแบบไม่เช็คเลย

บุกปลายด้ามขวาน!! ‘บิ๊กตู่’ ฟิตจัด!! เตรียมลุย ‘นราธิวาส’ 15 มี.ค.นี้ ร่วมพิธีเปิดแพขนานยนต์ พบปะผู้นำศาสนา-ปชช.

(14 มี.ค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดนราธิวาส ในวันพุธที่ 15 มีนาคม 2566 โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน, นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมการลงพื้นที่ตรวจราชการ

ทั้งนี้ มีกำหนดการดังนี้ เวลา 11.00 น. นายกรัฐมนตรี และคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนราธิวาส ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศ แล้วเดินทางไปสักการะพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล (วัดเขากง) ตำบลลำภู อำเภอเมืองนราธิวาส นมัสการพรพระเทพศีลวิสุทธิ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 เพื่อความเป็นสิริมงคลในโอกาสเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดนราธิวาส

ทั้งนี้ พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล เป็นพระพุทธรูปประทับนั่งปางประธานพร สร้างตามแบบพุทธศิลป์สกุลช่างอินเดียใต้ สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2512 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมบรรจุดินจากสังเวชนียสถาน เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2513 และพื้นที่นี้ยังเป็นที่ตั้งของพุทธมณฑลแห่งเดียวของภาคใต้อีกด้วย

จากนั้น นายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิธีเปิดแพขนานยนต์ ณ ด่านศุลกากรอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาสได้จัดสรรงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 จำนวน 38,569,000 บาท เพื่อจัดสร้างแพขนานยนต์ (ต่อแพ) ลำใหม่ทดแทนแพขนานยนต์ลำเดิม ซึ่งมีสภาพชำรุดทรุดโทรม เพื่อให้บริการรับส่งสินค้า ยานพาหนะ และผู้โดยสารข้ามฟากแม่น้ำสุไหงโก-ลก ระหว่างด่านศุลกากรตากใบ อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส กับด่านศุลกากรบ้านเปิงกาลังกูโบร์ อำเภอตุมปัต ประเทศมาเลเซีย รองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การค้า การคมนาคมขนส่ง และการท่องเที่ยวของอำเภอตากใบ และจังหวัดนราธิวาส โดยแพลำใหม่สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 30 คน บรรทุกยานพาหนะ (รถยนต์) ขนาด 2,500 กิโลกรัมต่อคัน ได้ไม่น้อยกว่า 9 คัน

'ป้าเจี๊ยบ' ยกกรณีป้านา หากผู้นำที่มีสติปัญญา จะมีวิธีการรับมือผู้เห็นต่างอย่างเหมาะสม

'อมรัตน์' ชี้กรณีป้านา หากผู้นำที่มีสติปัญญาจะมีวิธีการรับมือผู้เห็นต่างอย่างเหมาะสม ซัดประยุทธ์ ไร้วุฒิภาวะ ไม่เหมาะสมแคนดิเดตนายก 

(14 มี.ค.66) อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แสดงความคิดเห็นต่อกรณีที่ตำรวจเข้าจับกุม ‘ป้านา’ วันทนา โอทอง โดยใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ขัดขวางการแสดงออกทางการเมืองและมีการตั้ง 3 ข้อหาหนัก โดยอมรัตน์กล่าวว่า ตนเข้าใจความจำเป็นในหน้าที่รักษาความปลอดภัยผู้นำ แต่การใช้กำลังรุนแรงปิดปากฉุดกระชากลากถูกับหญิงผู้สูงอายุคนเดียว ต้องถามว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมหรือไม่

ทั้งนี้หากประยุทธ์เป็นผู้นำที่มีสติปัญญาควรมีการซักซ้อมทำความเข้าใจกับทีมตนเองว่าเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินควรมีแนวปฏิบัติอย่างไร ต้องมีการเจรจาพูดคุยทำความเข้าใจ และใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักอย่างเหมาะสมไม่ใช่ใช้มุมมองแบบทหาร มองเพื่อนร่วมชาติที่มีจุดยืนการเมืองคนละขั้วเป็นอริราชศัตรู แบบที่มองภัยจากภายนอกประเทศ” อมรัตน์กล่าว


ส่วนประเด็นการตั้งข้อกล่าวหาหนักต่อป้านา ว่าขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ตนอยากถามว่าการที่พล.อ.ประยุทธ์ไปตรวจราชการที่ อ.บ้านโป่งครั้งนี้ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรี หรือใช้ตำแหน่งนายกฯ เป็นข้ออ้างไปติดตามงานเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง เพราะรู้กันอยู่ว่าบ้านโป่งเป็นเขตพื้นที่ส.ส.ย้ายพรรคจากปชป.ไปซบพรรครวมไทยสร้างชาติ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ส่วนประเด็นที่พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงคนที่ชู 3 นิ้วว่าให้ไปหาหมอป่วย และมาเพราะต้องการอะไรสักอย่าง 
อมรัตน์ให้ความเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ก็รู้นี่ว่าประชาชนที่มารอพบท่านมาเพราะต้องการอะไรบางอย่าง
เลยต้องถามว่าเมื่อทราบแล้วในฐานะผู้นำเคยออกมารับฟังพวกเขาไหม
และนี่ขนาดกำลังจะเข้าสู่ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังไม่เปลี่ยนวิธีคิด วิธีทำ ทั้งที่มีบทเรียนอยู่แล้ว 

‘เพื่อไทย’ จวก ‘บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม’ ใช้งบ 6 แสนล้าน ยังแก้ภัยแล้งไม่ได้ เชื่อปีนี้แล้งหนัก จี้ เร่งแก้ปัญหา ก่อนกระทบไร่-นาชาวบ้านนับหมื่น

(14 มี.ค. 66) นายนพพล เหลืองทองนารา ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย (พท.) จากภาพรวมของสถานการณ์น้ำในพิษณุโลกน่าเป็นห่วง กังวลใจว่าปีนี้ภัยแล้งจะมาเร็วและมาแรงกว่าปีที่ผ่านมา พบว่าในหลายจังหวัดใกล้เคียง เกษตรกรเริ่มประสบปัญหาภัยแล้งแล้ว ดังนั้น ในพื้นที่พิษณุโลก หากรัฐบาลยังไม่เร่งแก้ปัญหา จะกระทบพื้นที่นาข้าวนับหมื่นไร่และเกษตรกรหลายหมื่นครัวเรือนอย่างแน่นอน

ส่วนที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติหรือ กนช. อ้างว่าตั้งแต่เป็นรัฐบาลไม่เคยมีเกษตรกรที่ไหนมาร้องเรียนเรื่องภัยแล้ง หากเป็นเช่นนั้นจริง พล.อ.ประวิตร คงหูดับหรือก้มหน้าก้มตาอ่านแต่รายงานที่ลูกน้องรายงานมา ในความเป็นจริงความแห้งแล้งเกิดขึ้นหลายจังหวัด เกษตรกรประสบปัญหาภัยแล้งที่รุนแรง เกษตรกรหลายหมื่นครัวเรือนต้องยืนดูต้นข้าวแห้งตาย เพราะไม่มีน้ำมาหล่อเลี้ยงนาข้าวที่เกษตรกรลงแรงปักดำหวังรายได้จากนาข้าวของตนเอง ส่งผลให้เกษตรกรในหลายพื้นที่ต้องลงขันระดมทุนจ้างบริษัทเอกชนมาขุดบ่อสูบน้ำบาดาลทำนากันแล้ว

นายนพพล กล่าวต่อว่า ปัจจุบันน้ำต้นทุนในเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ ดูแลน้ำเพื่อการเกษตรให้กับเกษตรกรใน 4 จังหวัด คืออุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตรและนครสวรรค์จะมีปัญหา เพราะมีน้ำต้นทุนเพียง 4,000 ล้านลบ.ม. แต่ใช้ได้เพียงเหลือเพียง 2,700 ล้านลบ.ม.เท่านั้น กังวลว่าปริมาณน้ำจะไม่เพียงพอต่อการทำการเกษตร พล.อ.ประวิตรต้องเร่งบริหารจัดการน้ำ หรือหาแหล่งน้ำรองรับปัญหาที่จะเกิดขึ้น อย่ามาอ้างว่าเป็นช่วงปลายรัฐบาลทำอะไรไม่ได้ เพราะท่านยังมีอำนาจบริหารจัดการจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่

ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ พล.อ.ประวิตร อย่ามัวแต่เอาเวลาไปเดินสายหาเสียงจนไม่รับรู้ความเดือดร้อนของประชาชน รัฐบาลต้องทำงานให้ประชาชน อย่าเอาเรื่องการเมืองนำหน้าการแก้ปัญหาให้ประชาชน

‘บิ๊กตู่’ จ่อลงพื้นที่ จ.ระนอง 16 มี.ค.นี้ เร่งติดตามปัญหาน้ำแล้ง-น้ำท่วม ก่อนยุบสภาฯ

(15 มี.ค. 66) เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2566 ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ประกอบด้วย นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, พล.อ.อนุพงษ์เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน, นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ไปยังท่าอากาศยานนราธิวาส ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส เพื่อตรวจเยี่ยมราชการที่จังหวัดนราธิวาส

อย่างไรก็ตาม วันเดียวกันนี้ พล.อ.อนุพงษ์ ซึ่งเดินทางร่วมคณะไปกับนายกรัฐมนตรี สวมแว่นกรองแสงทางการแพทย์ พร้อมเปิดเผยว่า เจ็บตาเนื่องจากไปพบแพทย์และลอกตามา ซึ่งไม่เป็นอะไรมาก

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนยุบสภา พี่น้องทั้ง 3 ป. มีอาการป่วยครบแล้วทั้ง 3 คน โดย พล.อ.ประยุทธ์เจ็บมือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เจ็บขา และล่าสุด พล.อ.อนุพงษ์ เจ็บตา

โดยเวลา 13.15 น. นายกรัฐมนตรี สักการะพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล และนมัสการพระเทพศีลวิสุทธิ์ ที่ปรึกษา เจ้าคณะภาค 18 ณ พุทธมณฑลจังหวัดนราธิวาส  ตำบลลำภู อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส ก่อนเป็นประธานในพิธีเปิดแพขนานยนต์ ณ ด่านศุลกากรตากใบ ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส

เวลา 16.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ พบปะหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนาในเขตพื้นทีจังหวัดนราธิวาส ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส และเดินทางกลับกรุงเทพฯ

ด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางไปตรวจราชการจังหวัดระนอง ในวันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม 2566 เพื่อติดตามการดำเนินงานสำคัญตามนโยบายรัฐบาล รวมถึงอุปสรรคปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อพัฒนาปรับปรุงการขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามแผนและเป้าหมายที่กำหนดไว้ เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งเกิดความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณของประเทศ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างแท้จริง

โดยมีกำหนดการ ดังนี้ โดยเวลา 09.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ ออกเดินทางท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานระนอง ตำบลราชกรูด อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศ จากนั้นเดินทางไปตรวจติดตามสภาพปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค และพบปะประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค ณ อาคารอเนกประสงค์ ที่ว่าการอำเภอสุขสำราญ ตำบลกำพวน อำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนอง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top