Tuesday, 10 June 2025
บิ๊กตู่

งดเข้าเยี่ยม!! ‘บิ๊กตู่’ พักฟื้นอาการมือขวาอักเสบ ภริยาดูแลอย่างใกล้ชิด ด้าน รพ.พระมงกุฎฯ งดให้เข้าเยี่ยม เพื่อนายกฯ ได้พักเต็มที่

(5 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ในช่วงบ่าย ที่อาคารสมเด็จย่า 90 โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังคงพักรักษาตัวจากอาการมือขวาอักเสบอยู่ภายในโรงพยาบาล เนื่องจากแพทย์ยังให้ยาปฏิชีวนะไม่ครบโดส โดยมีนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา ดูแลอย่างใกล้ชิด

‘บิ๊กตู่’ คล้อง Arm Sling เตรียมร่วมประชุม ครม. เผย ยังเจ็บแผลอยู่นิดหน่อย แต่พร้อมลุยงาน

(7 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ภายหลังออกจากโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า หลังเข้ารับการรักษาอาการมือขวาอักเสบจากการติดเชื้อว่า เมื่อเวลา 08.15 น.วันที่ 7 มี.ค. 66 พลเอกประยุทธ์เดินทางเข้ามาปฎิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาลด้วยรถยนต์ประจำตำแหน่ง ซึ่งวันเดียวกันนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า พลเอกประยุทธ์ได้ใช้หมอนรองคอนั่งมาในรถ เพื่อกันแรงสั่นสะเทือน ขณะที่มือด้านขวาได้คล้อง Arm Sling หรือสายคล้องแขน ประคองกระดูกและกล้ามเนื้อแขนสีดำ ที่บริเวณมือด้านซ้าย ยังคงมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยเฉพาะสายน้ำเกลือติดอยู่

จากนั้นเวลา 09.09 น. พล.อ.ประยุทธ์ เดินจากตึกไทยคู่ฟ้ามายังตึกสันติไมตรีทำเนียบรัฐบาล  เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีในเวลา 09:30 น. โดยมี นายธนากร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเดินประกบข้างนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ยกมือซ้ายขึ้นทักทายสื่อมวลชน ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

‘บิ๊กตู่’ สั่ง ติดตามการพัฒนาระบบคลาวด์กลางของ สธ. เชื่อมโยงข้อมูลแบบดิจิทัลให้เข้าถึงได้สะดวก-ปลอดภัย

(7 มี.ค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญระบบการดูแลสุขภาพของประชาชนทุกคนทั่วประเทศ สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามใกล้ชิด ย้ำการทำงานของรัฐบาลต้องพัฒนาระบบคลาวด์กลางด้านสาธารณสุขของไทย (National Health Information Platform) เชื่อมโยงข้อมูล เพิ่มความปลอดภัยให้กับทุกชีวิต และอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าถึงระบบสาธารณสุขอย่างทั่วถึง

นายอนุชา กล่าวว่า ตามผลการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566 เห็นชอบให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดำเนินโครงการพัฒนาระบบคลาวด์กลางด้านสาธารณสุขของไทย วงเงิน 1,514 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบบริการและระบบบริหารจัดการสุขภาพ เชื่อมโยงระบบการดูแลสุขภาพแบบดิจิทัลเพื่ออนาคต (Digitally connected health care system of the future) เชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ไร้รอยต่อและได้รับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย ตลอดจนประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของตนเอง

‘อนุทิน’ ขอบคุณนายกฯ แม้ป่วย ยังห่วง ‘ศักดิ์สยาม’

(7 มี.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงอาการป่วยของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ว่า ทราบข่าวจากสื่อก็เป็นห่วง และได้เขียนข้อความไปเยี่ยมแล้ว เข้าใจดีว่าเคยป่วยต้องนอนพักเยอะ ๆ หากรับแขกเยอะจะไม่ค่อยหาย

อยากไปก็ไป!! ‘บิ๊กป้อม’ ฉุน!! โดนจี้ถามปม ‘สมศักดิ์’ ย้ายซบ พท. เผย ยังไม่ได้คุยกันส่วนตัว แต่ถ้าจะไปก็ไป

(7 มี.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และรองหัวหน้าพรรค พปชร.และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และกรรมการบริหารพรรค พปชร. มีข่าวจะย้ายไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย ว่า “ไปถามเขาดู”

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า มีข่าวว่าจะไปพรรคเพื่อไทย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ถ้าจะไปก็ไป”

เมื่อถามว่า ได้คุยกับนายสมศักดิ์ เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ไม่มี ๆ ไม่ตกลง”

เมื่อถามว่า หากนายสมศักดิ์ไม่อยู่ จะกระทบต่อ พปชร.หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า “ไม่รู้ ไม่ได้เจอกับตน มาถามอะไร ตอบไปตั้งหลายทีแล้ว” 

เมื่อถามถึงกรณีมีภาพพูดคุยกับ หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล เป็นอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ก็ตามนั้นแหละ”

ส่งเสริมบทบาทสตรี ‘บิ๊กตู่’ หนุนสร้างศักยภาพสตรี สู่พลังขับเคลื่อนพัฒนาประเทศ ย้ำ!! รบ. มุ่งยกระดับบทบาท-ส่งเสริมสิทธิสตรี ให้ครอบคลุมทุกมิติ

นายกฯ ปราศรัยวันสตรีสากล ปี 2566 ย้ำรัฐบาลเล็งเห็นศักยภาพสตรีเป็นพลังขับเคลื่อนพัฒนาประเทศ ยกระดับส่งเสริมบทบาทสตรีให้มีส่วนร่วมเป็นพลังทางสังคม รณรงค์ทุกภาคส่วน ปรับเปลี่ยนเจตคติต่อบทบาทสตรี บนพื้นฐานการเคารพศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นมนุษย์ 

(8 มี.ค. 66) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวปราศรัยเนื่องในโอกาสวันสตรีสากล ประจำปี 2566 ผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เนื่องในโอกาสวันสตรีสากล ประจำปี 2566 ที่บรรจบครบรอบอีกวาระหนึ่งในนามของรัฐบาล ขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังสตรีไทย และผู้ที่ปฏิบัติงานด้านการพัฒนาสตรีทุกคน ซึ่งองค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้วันที่ 8 มีนาคมของทุกปีเป็นวันสตรีสากล เพื่อให้ประเทศสมาชิกทั่วโลกได้ตระหนักถึงคุณค่า ความสำคัญ และการเคารพในศักดิ์ศรี รวมทั้งการพัฒนางานด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างความเสมอภาคทางสังคมให้แก่สตรี

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการสร้างโอกาสให้แก่ประชาชนทุกกลุ่มทุกช่วงวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสตรีซึ่งถือเป็นประชากรที่มีจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ โดยรัฐบาลได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของสตรีในการเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในหลากหลายมิติ จึงได้ยกระดับการส่งเสริมบทบาทสตรีให้สามารถมีส่วนร่วมในการเป็นพลังทางสังคม พร้อมทั้งการรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนในสังคมปรับเปลี่ยนเจตคติต่อบทบาทสตรี บนพื้นฐานของการเคารพศักดิ์ศรีและคุณค่าของความเป็นมนุษย์ 

เยือนแปดริ้ว!! ‘บิ๊กตู่’ เตรียมลงพื้นที่ฉะเชิงเทรา สักการะหลวงพ่อโสธรฯ พร้อมร่วมพิธีเปิดสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ 10 มี.ค.นี้ 

(9 มี.ค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ จังหวัดฉะเชิงเทรา ในวันศุกร์ที่ 10 มีนาคม 2566 เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ. 2562 โดยมี พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน, นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ร่วมคณะตรวจราชการ ซึ่งมีกำหนดการ ดังนี้

เวลาประมาณ 14.30 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ ออกเดินทางจากสนามเฮลิคอปเตอร์ กรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ ไปยังจุดจอด ฮ. ช.พัน.2 รอ. ค่ายศรีโสธร ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา โดยเฮลิคอปเตอร์ แล้วเดินทางไปยังวัดโสธรวารารามวรวิหาร เพื่อสักการะหลวงพ่อพระพุทธโสธร และกราบนมัสการพระราชภาวนาพิธาน เจ้าอาวาสวัดโสธรวารารามวรวิหาร

เติบโตต่อเนื่อง!! ‘บิ๊กตู่’ ปลื้ม!! อัญมณี-เครื่องประดับไทย ส่งออกพุ่งเกือบ 50% จ่อดัน ภาคอุตสาหกรรมฯ คาด ปี 66 โตเพิ่มอีก 10 - 15%

(9 มี.ค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานจาก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ถึงมูลค่าอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของประเทศไทย ปี 2565 ชื่นชมเป็นอีกอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการเติบโตที่สูง มีตัวเลขการส่งออกเป็นอันดับที่ 3 ของไทย โดยคาดการณ์ว่าภายในปี 2566 การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทย จะสามารถเติบโตได้อีกถึง 10 - 15%

นายอนุชา กล่าวว่า อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย เป็นอุตสาหกรรมที่มียอดการส่งออกสูงสุด เป็นอันดับที่ 3 ของไทย โดยจากสถิติช่วงเดือน มกราคม-ธันวาคม 2565 อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ มีมูลค่าการส่งออกถึง 15,057.70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีการขยายตัวกว่า 49.82% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

ซึ่งสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ทองคำ, เครื่องประดับทอง, เพชรเจียระไน, เครื่องประดับเงิน, พลอยเนื้อแข็งเจียระไน และพลอยเนื้ออ่อนเจียระไน โดยมีตลาดการส่งออกที่สำคัญ (ไม่รวมการส่งออกทองคำ) ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, อินเดีย, ฮ่องกง, เยอรมนี, สหราชอาณาจักร, สิงคโปร์, สวิตเซอร์แลนด์, เบลเยียม, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และญี่ปุ่น ตามลำดับ

นายอนุชา กล่าวว่า มูลค่าตลาดการส่งออกของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย (ไม่รวมส่งออกทองคำ) ทุกตลาดมีมูลค่าเพิ่มขึ้นแตกต่างกันไป โดยจุดเด่นของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย อยู่ที่การออกแบบลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นงานฝีมือที่ต้องอาศัยความปราณีต ในการสร้างสรรค์ผลงานอย่างมาก

นอกจากนี้ จากข้อมูลในปี 2565 ได้มีผู้ประกอบการด้านอัญมณีและเครื่องประดับไทย เป็นจำนวนกว่า 12,892 ราย เพิ่มขึ้นกว่า 2.41% ซึ่งแสดงถึงการเติบโต ของภาคอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเป็นที่ยอมรับในตลาดต่างประเทศ

ตำรวจไซเบอร์ เตือนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดหนัก ล่าสุดแอบอ้างอดีต รอง ผบ.ตร. ข่มขู่ให้เหยื่อโอนเงิน

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ขอฝากเตือนภัยมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นอดีตข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดังนี้ 
ในปัจจุบันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้สร้างความเสียหาย และความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก เนื่องมาจากสามารถเข้าถึงประชาชนได้หลากหลายช่องทาง ไม่ว่าเป็นจากสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ จากการส่งข้อความสั้น (SMS) รวมไปถึงผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ โดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ (Call Center) ซึ่งมีรูปแบบการทำงานเป็นขบวนการ มีการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน หลอกลวงเหยื่อโดยการใช้ความกลัว ความโลภ และความไม่รู้ของประชาชนเป็นเครื่องมือ ที่ผ่านมาพบว่ามีหลากหลายรูปแบบ เช่น การแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่บริษัทขนส่งสินค้า แจ้งไปยังผู้เสียหายว่าบัญชีธนาคาร หรือพัสดุที่ส่งไปต่างประเทศมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด หรือบัญชีธนาคารของผู้เสียหายถูกอายัด เป็นหนี้บัตรเครดิต เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด การฟอกเงิน มีหมายจับ หรือหลอกลวงว่าได้เช็คเงินคืนภาษี หรือหลอกถามข้อมูลส่วนตัวเพื่อนำไปปลอมแปลงในการทำธุรกรรมต่างๆ รวมถึงการหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมเพื่อฝังมัลแวร์ควบคุมโทรศัพท์มือถือโอนเงินออกจากบัญชี เป็นต้น


ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวน บช.สอท. ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหายหลายรายว่าถูกมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง สร้างความน่าเชื่อถือโดยการแจ้งชื่อนามสกุล และหมายเลขพนักงานให้ผู้เสียหายทราบ แล้วแจ้งผู้เสียหายว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน เนื่องจากผู้เสียหายได้ใช้บัตรเครดิตธนาคารดังกล่าวที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก เป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท จากนั้นได้โอนสายต่อไปยังมิจฉาชีพอีกรายอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัด สภ.เมืองพิษณุโลก ให้ผู้เสียหายแอดไลน์บัญชีไลน์ตำรวจปลอม ข่มขู่ว่าผู้เสียหายว่าจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ให้โอนเงินที่มีในอยู่บัญชีมาให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบเส้นทางการเงิน รวมถึงมีการส่งเอกสาราชการปลอมให้ผู้เสียหายตรวจสอบ มีการสร้างสภาพแวดล้อมให้ผู้เสียหายได้ยินเสียงว่ามิจฉาชีพอยู่ที่สถานีตำรวจจริง ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารที่มิจฉาชีพเตรียมไว้

ต่อมาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ข่มขู่ผู้เสียหายอีกว่าจะต้องถูกดำเนินดดี และต้องถูกฝากขัง 90 วัน แต่ผู้กำกับการ สภ.เมืองพิษณุโลก สามารถช่วยเหลือไม่ให้ไม่ถูกดำเนินคดีได้ แนะนำให้แอดไลน์ไปพูดคุยขอความช่วยเหลือ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้แอดไลน์บัญชีตำรวจปลอมดังกล่าว ภายหลังทราบว่ารูปภาพโปรไฟล์ และชื่อบัญชีไลน์ดังกล่าว เป็นรูปและชื่อของอดีตข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ระดับรอง ผบ.ตร. ซึ่งในระหว่างที่พูดคุยกันนั้น มิจฉาชีพเพิ่มความน่าเชื่อถือโดยการไลน์วิดีโอคอลมายังผู้เสียหาย และทำการส่งภาพว่ากำลังตรวจสอบเงินที่ผู้เสียหายโอนมาให้ตรวจสอบ มิจฉาชีพข่มขู่เหยื่ออีกว่าต้องโอนเงินมาประกันตัว ให้รายงานตัวทุกๆ 2 ชม. อ้างว่ามีระบบติดตามตัว ห้ามหลบหนี ผู้เสียหายเกิดความกลัวจึงโอนเงินไปให้มิจฉาชีพได้รับความเสียหายจำนวนมาก 


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยจากมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐโทรศัพท์ไปหลอกลวงเอาทรัพย์สินของประชาชน สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง


สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งรับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ได้กำชับสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง รวมถึงวางมาตรการป้องกันสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ


ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชาผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบ
การกระทำลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันเป็นซ่องโจร, ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน ” หรือกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง 


โฆษก บช.สอท. กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ได้ร่วมกันหาแนวทาง และวางมาตรการป้องกันในการแก้ไขปัญหาภัยออนไลน์ต่างๆ ไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ไม่ว่าจะเป็นโครงการไซเบอร์วัคซีน การทำบันทึกข้อตกลง (MOU) การแก้ไขการรับจ้างการเปิดบัญชีม้า การครอบครองซิมโทรศัพท์มือถือ การอายัดบัญชีธนาคารให้ทันท่วงที การตรวจจับบัญชี หรือธุรกรรมการเงินที่ต้องสงสัย และการยืนยันตัวตนก่อนทำธุรกรรมการเงินที่มีวงเงินสูง เป็นต้น  
 

‘จาตุรนต์’ ซัด!! สาเหตุที่ ‘บิ๊กตู่’ ไม่รีบยุบสภา เหตุหวัง ‘หาคนเข้าพรรค - หาเสียงให้ รทสช.’

(10 มี.ค. 66) นายจาตุรนต์ ฉายแสง คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวภายหลังพบหนังสือรายชื่อรัฐมนตรีที่เดินทางไปตรวจราชการพร้อม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่จังหวัดฉะเชิงเทราว่า ใครดูรายชื่อผู้ร่วมคณะนายกฯ ไปตรวจราชการที่จังหวัดฉะเชิงเทราแล้วก็จะเข้าใจทันทีว่าทำไม พล.อ.ประยุทธ์ จึงไม่ยุบสภาสักที แต่จะรอจนนาทีสุดท้ายก่อนสภาฯ จะครบเทอมโน่นเลย ไม่ทราบว่า นายกฯ และคณะจะไปตรวจราชการเรื่องอะไร

ทั้งนี้ จ.ฉะเชิงเทรา มีอาชีพทางการเกษตรหลายอย่างที่เจอปัญหาต่างกัน เช่น ข้าว มะม่วงหมู และกุ้ง เป็นต้น มีอุตสาหกรรมอยู่พอสมควรและยังเป็นส่วนหนึ่งของอีอีซีด้วย แต่ไม่เห็นมีรัฐมนตรีหรือข้าราชการประจำของกระทรวงเกษตรฯ อุตสาหกรรมหรือสภาพัฒน์ไปด้วยเลย มีแต่รัฐมนตรีในโควตา พล.อ.ประยุทธ์และข้าราชการการเมืองที่ พล.อ.ประยุทธ์ เพิ่งตั้งก่อนที่คนเหล่านี้จะมาเป็นกำลังสำคัญของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เท่านั้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top