Thursday, 12 June 2025
WORLD

Tencent-CATL ยืนยันไม่เกี่ยวกิจกรรมทหาร หลังกลาโหมสหรัฐฯ ขึ้นบันชีดำ 2 เทคฯ ยักษ์ใหญ่จีน

เทนเซ็นต์ (Tencent) บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่และคอนเทมโพรารี แอมเพอเร็กซ์ เทคโนโลยี จำกัด หรือซีเอทีแอล (CATL) ผู้ผลิตแบตเตอรี่ชั้นนำของจีน ออกมาโต้แย้งกรณีถูกรวมอยู่ในรายชื่อบัญชีดำของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ด้วยข้ออ้างว่าบริษัททั้งสองแห่งให้การช่วยเหลือกองทัพจีน

วันอังคาร (7 ม.ค. 68) เทนเซ็นต์เผยกับสำนักข่าวซินหัวของจีนว่าการรวมเอาเทนเซ็นต์ไว้ในรายชื่อบัญชีดำเป็นความผิดพลาดอย่างเห็นได้ชัด บริษัทฯ ปฏิเสธและยืนยันว่าเทนเซ็นต์ไม่ใช่บริษัทหรือซัพพลายเออร์ทางการทหาร โดยแม้ว่าการขึ้นบัญชีดำครั้งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเทนเซ็นต์ แต่บริษัทฯ จะทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสหรัฐฯ เพื่อแก้ไข “ความเข้าใจผิด” ครั้งนี้

ด้านซีเอทีแอลเรียกการขึ้นบัญชีดำครั้งนี้ว่าเป็นความผิดพลาดเนื่องจากบริษัทฯ ไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องในธุรกิจหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการทหาร

ซีเอทีแอลเผยว่าการถูกขึ้นบัญชีดำไม่ได้จำกัดบริษัทฯ จากการทำธุรกิจกับหน่วยงานอื่นนอกเหนือจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และคาดว่าจะไม่มีผลกระทบเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญต่อธุรกิจของซีเอทีแอล

ซีเอทีแอลทิ้งท้ายว่าจะเดินหน้าหารือร่วมกับกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เพื่อจัดการปัญหานี้ ซึ่งรวมถึงการดำเนินการทางกฎหมายหากจำเป็น เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นโดยรวม

'ทรัมป์' ส่งลูกชายเยือนกรีนแลนด์ เชื่อหวังฮุบน้ำมัน-ก๊าซธรรมชาติ

(8 ม.ค.68) โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ บุตรชายของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เดินทางเยือนกรุงนุก เมืองหลวงของกรีนแลนด์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หนึ่งวันหลังจากบิดาของเขากล่าวย้ำถึงความสนใจในเกาะกึ่งปกครองตนเองแห่งนี้ ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของเดนมาร์ก

รายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ส ระบุว่า ทรัมป์ จูเนียร์ ใช้เครื่องบินส่วนตัวเดินทางไปยังกรุงนุก โดยใช้เวลาอยู่ในพื้นที่ราว 4-5 ชั่วโมงโดยไม่มีการเข้าพบเจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นแต่อย่างใด เกาะแห่งนี้มีประชากรราว 57,000 คน และเป็นจุดหมายที่เขาเผยว่าตั้งใจจะเยี่ยมชมตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา

ทรัมป์ จูเนียร์ โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม X พร้อมวิดีโอจากห้องนักบิน ขณะเครื่องบินกำลังลงจอดบนดินแดนที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะว่า “กรีนแลนด์กำลังร้อน... แต่หนาวมาก!” เขาเสริมว่า การเดินทางครั้งนี้เป็นการมาเยือนในฐานะนักท่องเที่ยว และพ่อของเขาก็ฝากคำทักทายมายังชาวกรีนแลนด์ด้วย

ความสนใจของทรัมป์ต่อกรีนแลนด์สร้างความฮือฮา เนื่องจากเขาเคยกล่าวไว้ว่า การที่สหรัฐเข้าควบคุมเกาะแห่งนี้เป็นสิ่งที่ “จำเป็นอย่างยิ่ง” พร้อมโพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียว่า “ทำให้กรีนแลนด์ยิ่งใหญ่อีกครั้ง!” แนวคิดดังกล่าวถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายต่างประเทศที่ไม่ยึดติดกับกรอบทางการทูตแบบดั้งเดิม

ด้านนายกฯ เมตต์ เฟรเดอริกสัน ของเดนมาร์ก ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า เธอไม่เห็นด้วยกับการต่อสู้กับพันธมิตรใกล้ชิดอย่างสหรัฐ และย้ำว่า “กรีนแลนด์ไม่ได้มีไว้ขาย” 

นายกฯ มิวต์ เอเกเด ของกรีนแลนด์เองก็กล่าวในทำนองเดียวกันว่า อนาคตของกรีนแลนด์ขึ้นอยู่กับชาวกรีนแลนด์ และการแสดงความคิดเห็นจากต่างชาติไม่ควรทำให้ดินแดนแห่งนี้เปลี่ยนทิศทางการพัฒนาของตัวเอง

กรีนแลนด์ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของกองทัพสหรัฐ และยังเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ เช่น แร่ธาตุ น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจในปัจจุบันยังคงพึ่งพาการประมงและการสนับสนุนจากเดนมาร์กเป็นหลัก

สมาชิกสภาจากกรีนแลนด์ อาจา เคมนิตซ์ กล่าวชัดเจนว่า เธอไม่ต้องการให้เกาะแห่งนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของความทะเยอทะยานทางการเมืองของทรัมป์ พร้อมย้ำถึงความสำคัญของการปกป้องดินแดนนี้จากอิทธิพลภายนอก

การเดินทางของทรัมป์ จูเนียร์ แม้จะถูกระบุว่าเป็นเพียงการเยือนส่วนตัว แต่ก็ยิ่งทำให้กรีนแลนด์กลายเป็นประเด็นที่ทั่วโลกจับตามองอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงในเวทีการเมืองโลก

ผู้นำคนต่อไปใครจะมาแทน 'จัสติน ทรูโด นายกฯใหม่แคนาดา เปลี่ยนแค่หน้าหรือพลิกแนวทาง

(8 ม.ค.68) จัสติน ทรูโด ผู้เป็นนายกแคนาดา มานานเกือบ 10 ปี ประกาศลาออกท่ามกลางกระแสโกรธเกรี้ยวจากประชาชนแคนาดา ตลอดจนขาดเสียงสนับสนุนจากภายในพรรค และเรตติ้งที่ตกต่ำ ได้กลายเป็นที่จับตาว่า ใครจะเข้ามาแทนที่ทรูโดในฐานะนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของแคนาดา หนึ่งในชาติที่มีประเด็นข้อถกเถียงทางภูมิรัฐศาสตร์มากที่สุด ตั้งแต่ระดับเพื่อนบ้านอย่างสหรัฐอเมริกา ไปจนถึงท่าทีของแคนาดาต่อความขัดแย้งในยูเครน

สำนักข่าวสปุตนิกได้รวบรวมตัวเต็งที่น่าจับตามอง ในฐานะผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับเลือกเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของแคนาดา

คริสเทีย ฟรีแลนด์ จากพรรคลิเบอรัล เป็นหนึ่งในผู้ที่คาดว่าจะได้ขึ้นมาเป็นผู้นำพรรคลิเบอรัลคนใหม่แทนที่นายทรูโด โดยนางฟรีแลนด์ เคยเป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีต รมว.การคลังของทรูโด อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของเธอมีประวัติที่ชวนให้ถกเถียง เนื่องจากเธอเป็นหลานสาวของอดีตเจ้าหน้าที่นาซีเชื้อสายยูเครน โดยที่ผ่านมาฟรีแลนด์มีส่วนช่วยกระตุ้นการคว่ำบาตรรัสเซียของตะวันตกและเป็นผู้สนับสนุนยูเครนอย่างแข็งขัน ซึ่งช่วยเสริมสร้างการสนับสนุนจากแคนาดาต่อรัฐบาลเคียฟ

โดมินิค เลอบล็อง รัฐมนตรีกระทรวงการคลังคนปัจจุบันของแคนาดา ผู้สนับสนุนแนวทางของทรูโดในการให้ความช่วยเหลือยูเครนอย่างเด็ดขาด ในเดือนที่แล้วเขาผลักดันให้ส่งอาวุธที่ถูกห้ามใช้ในแคนาดาไปยังรัฐบาลเซเลนสกี้

มาร์ค คาร์นีย์ อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดา ผู้ที่ในปี 2022 เคยออกมาตำหนิว่าความขัดแย้งในยูเครนเกิดขึ้นเพราะรัสเซีย โดยนายคาร์นีย์เป็นนักการธนาคารและผู้แทนพิเศษด้านสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ แต่กลับมีแนวคิดขัดแย้งเพราะเขาสนับสนุนให้เพิ่มการลงทุนในพลังงานฟอสซิล ซึ่งจะเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อม

เมลานี โจลี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ เธอเองก็มีบทบาทในการระดมทุนจากภาษีของชาวแคนาดาไปช่วยยูเครนด้วยเงินช่วยเหลือทางทหารมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์

และสุดท้าย นางอนิตา อานันด์ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของแคนาดา ผู้สนับสนุนยูเครนอย่างเปิดเผย เธอรีบวิจารณ์การกระทำของรัสเซียในความขัดแย้งยูเครน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยสนใจการกระทำที่โหดร้ายเช่นเดียวกันจากฝ่ายรัฐบาลเคียฟที่กระทำต่อทหารฝ่ายรัสเซีย

ทั้งนี้ ใครจะเป็นผู้นำคนถัดไปของแคนาดา และพวกเขาจะสามารถแก้ไขปัญหาที่ประเทศกำลังเผชิญได้ดีขึ้นหรือไม่ 

ทรัมป์ปิ๊งไอเดีย เปลี่ยนชื่อ 'อ่าวเม็กซิโก' เป็น 'อ่าวอเมริกา' เผยฟังไพเราะดี แย้มแผนขยายดินแดนปานามา-กรีนแลนด์

(8 ม.ค.68) โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สร้างกระแสฮือฮาอีกครั้งเมื่อวันอังคาร (7 ม.ค.) ด้วยการประกาศแผนเปลี่ยนชื่อ 'อ่าวเม็กซิโก' เป็น 'อ่าวอเมริกา' โดยถือเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่เขาเสนอเพื่อสะท้อนอัตลักษณ์ของสหรัฐฯ ก่อนเข้ารับตำแหน่งในปลายเดือนนี้ 

พร้อมกันนั้น ทรัมป์ยังเปิดเผยถึงความเป็นไปได้ในการใช้กำลังทหารหรือมาตรการทางเศรษฐกิจเพื่อครอบครอง 'คลองปานามา' และ 'กรีนแลนด์' ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์การขยายดินแดนที่เขาพยายามผลักดันตั้งแต่ชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พ.ย.  

ทรัมป์ยังกล่าวถึงแนวคิดการผนวก 'แคนาดา' ให้กลายเป็นรัฐหนึ่งของสหรัฐฯ พร้อมระบุว่าจะกดดันพันธมิตรในองค์การนาโต (NATO) ให้เพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม และย้ำถึงความมุ่งมั่นในการเปลี่ยนชื่อ 'อ่าวเม็กซิโก'  

แม้ยังมีเวลาอีกสองสัปดาห์ก่อนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ แต่ทรัมป์ได้เริ่มร่างนโยบายต่างประเทศเชิงรุก โดยไม่ได้คำนึงถึงหลักการทางการทูตหรือความกังวลจากประเทศพันธมิตร  

เมื่อถูกถามในงานแถลงข่าวที่รีสอร์ตในฟลอริดา ว่าจะรับประกันได้หรือไม่ว่าจะไม่ใช้กำลังทหารหรือมาตรการทางเศรษฐกิจเพื่อยึดคลองปานามาและกรีนแลนด์ ทรัมป์ตอบว่า  

“ผมรับประกันไม่ได้ แต่สิ่งเหล่านี้จำเป็นต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของเรา”  

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังวิจารณ์การที่สหรัฐฯ ต้องสนับสนุนแคนาดาโดยไม่ได้รับผลตอบแทน พร้อมกล่าวถึงเส้นพรมแดนระหว่างสองประเทศว่าเป็นเพียง 'เส้นที่ใครบางคนขีดขึ้นมา'  

เขายังขู่จะตั้งกำแพงภาษีกับเดนมาร์ก หากเดนมาร์กไม่ยอมขายกรีนแลนด์ให้สหรัฐฯ โดยอ้างว่ากรีนแลนด์มีความสำคัญต่อความมั่นคงของชาติ ขณะที่ก่อนการแถลงการณ์ ดอน จูเนียร์ บุตรชายของทรัมป์ได้เดินทางเยือนกรีนแลนด์เป็นการส่วนตัว  

ด้านเดนมาร์กแสดงจุดยืนชัดเจน โดยเมตเต เฟรเดอริกเซน นายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก ย้ำว่า 'กรีนแลนด์' ซึ่งเป็นดินแดนปกครองตนเองในราชอาณาจักรเดนมาร์ก ไม่ได้มีไว้ขาย  

“การใช้มาตรการทางการเงินมาต่อสู้กันไม่ใช่ทางออกที่เหมาะสม เมื่อเรายังเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนที่ใกล้ชิด” เฟรเดอริกเซนกล่าวเพื่อตอบโต้แถลงการณ์ของทรัมป์ในคืนวันอังคารที่ผ่านมา

สหรัฐฯ แบล็กลิสต์ 'Tencent' ฐานทำงานให้กองทัพจีน

(7 ม.ค.68) กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เพิ่มชื่อบริษัทจีนหลายแห่งในบัญชีดำ โดยรวมถึง เทนเซ็นต์ (Tencent) และ CATL ซึ่งถูกกล่าวหาว่าทำงานให้กับกองทัพจีน แม้ว่าทั้งสองบริษัทจะปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว แต่การดำเนินการนี้ทำให้หุ้นของบริษัททั้งสองร่วงทันที

บัญชีดำของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือที่เรียกว่า Section 1260H ได้เพิ่มบริษัทยักษ์ใหญ่จากจีนหลายแห่ง ซึ่งถือเป็นคำเตือนให้บริษัทและองค์กรต่าง ๆ ในสหรัฐฯ พิจารณาความเสี่ยงในการทำธุรกิจกับบริษัทเหล่านี้ แม้บริษัทที่ถูกระบุในบัญชีดำจะไม่ได้รับคำสั่งห้ามทำธุรกิจในสหรัฐฯ โดยตรง แต่ก็เพิ่มแรงกดดันในการคว่ำบาตรบริษัทจีน

หลังจากการเปิดเผยรายงานดังกล่าว หุ้นของ Tencent ลดลง 7% ในเช้าวันที่ 7 มกราคม ส่วนหุ้นของ CATL ก็ร่วง 4% ทันที อย่างไรก็ตาม Tencent ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่าเป็นความเข้าใจผิด บริษัทยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือทำธุรกิจกับกองทัพจีน และการถูกขึ้นบัญชีดำจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท

ในทางเดียวกัน CATL ก็ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของสหรัฐฯ โดยระบุว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกองทัพจีน และทางการจีนก็ได้ตอบโต้คำกล่าวหาดังกล่าวว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมเหตุสมผลและเป็นการปราบปรามบริษัทจีนอย่างไม่ยุติธรรม

นายพลยูกันดา ลูกชายปธน. ประกาศกร้าวอยากตัดศีรษะผู้นำฝ่ายค้าน

(7 ม.ค.68) มูฮูซี ไคเนรูกาบา หัวหน้ากองทัพยูกันดา ซึ่งเป็นบุตรชายของประธานาธิบดีโยเวอรี มูเซเวนี ผู้นำคนปัจจุบันของยูกันดา ได้โพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดียอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายว่าเขาต้องการตัดศีรษะ 'บ็อบบี้ ไวน์' ผู้นำฝ่ายค้านที่มีชื่อเสียงของประเทศ

ไคเนรูกาบา ซึ่งคาดว่าจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งประธานาธิบดีจากบิดา ผู้ปกครองยูกันดามาตั้งแต่ปี 1986 มักจะโพสต์ข้อความที่กระตุ้นความโกรธในสื่อสังคมออนไลน์ โดยในปี 2022 เขาเคยข่มขู่จะบุกประเทศเคนยา ก่อนที่ในภายหลังเขาจะขอโทษและกล่าวว่าโพสต์บางรายการเป็นเพียงการประชดประชัน

ในโพสต์ล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ (5 ม.ค.) ไคเนรูกาบาได้กล่าวว่า พ่อของเขา 'มซี่' คือบุคคลเดียวที่ทำให้บ็อบบี้ ไวน์ ผู้นำฝ่ายค้านยังคงปลอดภัยจากเขา "หากมซี่ไม่อยู่ ผมจะตัดหัวเขาวันนี้" ไคเนรูกาบากล่าว

บ็อบบี้ ไวน์ ซึ่งมีชื่อจริงว่า โรเบิร์ต คยากูลันยี เคยได้รับคะแนนเสียงมาเป็นอันดับสองในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2021 ตอบโต้โพสต์ของไคเนรูกาบาโดยกล่าวว่า เขาไม่มองคำขู่ครั้งนี้เป็นเรื่องเล่น ๆ และไม่เคยละเลยความพยายามหลายครั้งในการลอบสังหารตน

ไคเนรูกาบาได้ตอบกลับว่า "ในที่สุด! ฉันปลุกคุณแล้วหรือ? ก่อนที่ฉันจะตัดหัวคุณ คืนเงินที่พวกเราเคยให้คุณยืม" โดยอ้างว่ารัฐบาลเคยจ่ายเงินให้ไวน์เพื่อหวังทำลายฝ่ายค้าน

โฆษกรัฐบาลยูซานดาเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าโพสต์ของไคเนรูกาบาในโซเชียลมีเดียควรถือเป็นความคิดเห็นที่ไม่ควรนำมาคิดจริงจังหรือมองว่าเป็นนโยบายของรัฐบาล

ไวน์ ซึ่งเคยเป็นนักดนตรีและได้ผันตัวมาทำการเมืองเป็นผู้ท้าชิงที่แข็งแกร่งในเวทีการเมืองของมูเซเวนี และได้ปฏิเสธผลการเลือกตั้งปี 2021 โดยอ้างว่ามีการทุจริตในการเลือกตั้งและการข่มขู่ประชาชน

นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนได้กล่าวหาว่ารัฐบาลมูเซเวนีมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างแพร่หลาย รวมถึงการทรมานและการกักขังโดยไม่มีการตัดสิน ขณะที่รัฐบาลยูซานดาได้ยืนยันว่าไม่เคยมีการทุจริตในการเลือกตั้งหรือการละเมิดสิทธิมนุษยชน

จีนเปิดตัวไฮสปีดเทรน 'ซีอาร์450' จ่อขึ้นแท่นเร็วสุดในโลก 450 กม./ชม.

(7 ม.ค. 68) บริษัท การรถไฟแห่งประเทศจีน จำกัด ได้เปิดตัวต้นแบบรถไฟหัวกระสุน ซีอาร์450 (CR450) ที่จะวิ่งด้วยความเร็ว 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในกรุงปักกิ่ง

รายงานระบุว่ารถไฟหัวกระสุน ซีอาร์450 สามารถวิ่งด้วยความเร็ว 450 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในการทดสอบหลายรอบ ซึ่งตอกย้ำความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีรถไฟของจีน

รถไฟรุ่นใหม่จะมีความเร็วในการเดินรถมากกว่ารถไฟความเร็วสูงฟู่ซิง ซีอาร์400 ที่ให้บริการในปัจจุบันอย่างมาก โดยรถไฟฟู่ซิง ซีอาร์400 วิ่งด้วยความเร็ว 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

บริษัทฯ จะจัดการทดสอบรถไฟต้นแบบบนทางรถไฟเส้นทางต่างๆ และปรับปรุงตัวชี้วัดทางเทคนิค เพื่อรับประกันว่าซีอาร์450 จะได้ให้บริการเชิงพาณิชย์โดยเร็วที่สุด

คาสซิม โจมาร์ต โตกาเยฟ ให้คำมั่นสร้างประเทศ สู่ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและอธิปไตยในปี 2025

(7 ม.ค.68) ประธานาธิบดีคาสซิม-โจมาร์ต โตกาเยฟ ได้กล่าวในตอนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ต่อหนังสือพิมพ์ Ana Tili เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2025 โดยในบทสัมภาษณ์ที่สะท้อนความสำเร็จและมองไปข้างหน้า ประธานาธิบดีคาสซิม-โจมาร์ต โตกาเยฟ ได้กล่าวถึงความสำเร็จที่สำคัญของคาซัคสถานในปี 2024 พร้อมทั้งแผนงานที่มุ่งมั่นสำหรับปีต่อไป โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของความสามัคคี ความยืดหยุ่น และการพัฒนาที่ยั่งยืน

ปี 2024 นับเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของคาซัคสถาน รัฐบาลได้ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานโดยก่อสร้างที่อยู่อาศัย 18 ล้านตารางเมตร และซ่อมแซมถนนกว่า 7,000 กิโลเมตร อุตสาหกรรมเหมืองแร่ ปิโตรเคมี และการผลิตได้ขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ภาคเกษตรกรรมบันทึกผลผลิตข้าวที่สูงที่สุดในรอบทศวรรษ

นโยบายสังคมยังคงเป็นลำดับความสำคัญ โครงการกองทุนแห่งชาติสำหรับเด็กได้เริ่มจ่ายเงินช่วยเหลือ เงินบำนาญและเงินเดือนข้าราชการได้รับการเพิ่มขึ้น รวมถึงการก่อสร้างโรงเรียนและศูนย์กีฬาจำนวนมาก โตกาเยฟเน้นว่านโยบายเหล่านี้เป็นการลงทุนในศักยภาพเชิงสร้างสรรค์ของประชาชน

ในเวทีระหว่างประเทศ คาซัคสถานยังคงเสริมความแข็งแกร่งในฐานะประเทศผู้ประสานงานเพื่อสร้างสันติภาพ ท่ามกลางสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ซับซ้อน

น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์ในปีที่ผ่านมาได้เปิดเผยข้อบกพร่องของระบบโครงสร้างพื้นฐาน และทำให้รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ มีแผนที่จะสร้างอ่างเก็บน้ำกว่า 40 แห่ง และปรับปรุงคลองชลประทานกว่า 14,000 กิโลเมตรภายในปี 2030 โตกาเยฟยังชื่นชมการร่วมมือจากอาสาสมัครทั่วประเทศในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย

แม้จะมีความก้าวหน้าในด้านเศรษฐกิจ โตกาเยฟยอมรับว่าจำเป็นต้องมีการตัดสินใจที่กล้าหาญมากขึ้นเพื่อให้เกิดการเติบโตที่ยั่งยืน การกระจายภาคอุตสาหกรรมและการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและการขนส่งเป็นหัวใจสำคัญของแผนยุทธศาสตร์ โดยโครงการขนาดใหญ่ เช่น การขยายเส้นทางรถไฟและพลังงานสีเขียว จะเปลี่ยนแปลงระบบการเชื่อมโยงของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ

ย้อนถึงเหตุการณ์เดือนมกราคมเมื่อสามปีที่ผ่านมา โตกาเยฟย้ำถึงความสำคัญของความยุติธรรมและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชาติ พร้อมทั้งเน้นว่าการเสริมสร้างหลักนิติธรรมเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาประเทศและสร้างเสถียรภาพ

การเสริมศักยภาพเยาวชนยังคงเป็นหัวใจสำคัญในวิสัยทัศน์ของโตกาเยฟ เขาเรียกร้องให้เยาวชนให้ความสำคัญกับการศึกษา ความเป็นมืออาชีพ และการมีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนาประเทศ ขณะเดียวกัน ภาษาและวัฒนธรรมคาซัคที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่สะท้อนถึงการเติบโตทางวัฒนธรรมของประเทศ

เมื่อเข้าสู่ปี 2025 วิสัยทัศน์ของโตกาเยฟชัดเจน เพื่อการเสริมสร้างอธิปไตย ดำเนินการปฏิรูป และส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยการเน้นโครงสร้างพื้นฐาน พลังงาน และบริการสังคม รัฐบาลมีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกคน

ด้วยความเป็นผู้นำเชิงกลยุทธ์และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน คาซัคสถานพร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคและพลังกลางในเวทีโลก เพื่อเชื่อมโยงความขัดแย้งและสร้างความร่วมมือในโลกที่ซับซ้อนมากขึ้น

เขย่าทิเบต ดับ 53 เจ็บ 62 ราย แรงสั่นสะเทือนไกลถึง ‘เนปาล-ภูฏาน-อินเดีย’

(7 ม.ค. 68) สำนักงานใหญ่การบรรเทาภัยพิบัติเขตปกครองตนเองทิเบต (ซีจ้าง) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน รายงานว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.8 ตามมาตราแมกนิจูด ที่อำเภอติ้งรื่อ เมืองรื่อคาเจ๋อ เมื่อเวลา 09.05 น. ของวันอังคารที่ 7 มกราคม ตามเวลาปักกิ่ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 53 ราย และผู้บาดเจ็บ 62 รายจนถึงช่วงเที่ยง

ทางกองบัญชาการยุทธภูมิตะวันตกแห่งกองทัพปลดแอกประชาชนจีน (PLA) ได้รายงานว่า ได้ส่งโดรนเข้าสำรวจพื้นที่จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว และกองทัพอากาศของกองบัญชาการฯ ได้เริ่มปฏิบัติการบรรเทาภัยพิบัติฉุกเฉินทันที โดยใช้เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ขนส่งและการแพทย์ รวมทั้งกองกำลังภาคพื้นช่วยเหลือการบรรเทาภัยพิบัติ

แผ่นดินไหวครั้งนี้ยังรู้สึกได้ที่กรุงกาฐมาณฑุของเนปาล ซึ่งอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางประมาณ 400 กิโลเมตร และทำให้ประชาชนต้องวิ่งหนีออกจากบ้านเรือน ขณะที่กรุงทิมพู เมืองหลวงของภูฏาน และรัฐพิหารในอินเดีย ซึ่งมีพรมแดนติดกับเนปาล ก็สามารถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้เช่นกัน

เจ้าหน้าที่จากอินเดียระบุว่า ยังไม่มีรายงานทรัพย์สินเสียหายจากแผ่นดินไหวในครั้งนี้

ภูมิภาคทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เนปาล และอินเดียเหนือ มักประสบกับเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงเนื่องจากอยู่บริเวณรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกอินเดียและยูเรเซีย

ก่อนหน้านี้ในปี 2008 แผ่นดินไหวรุนแรงที่มณฑลเสฉวนของจีนคร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 70,000 คน และในปี 2015 ก็เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ใกล้กรุงกาฐมาณฑุของเนปาล ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 9,000 คน บาดเจ็บหลายพันคน และถือเป็นแผ่นดินไหวที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเนปาล

ทรัมป์ได้ทีชวนแคนาดาร่วมเป็นรัฐที่ 51 หลังทรูโดลาออกจากนายกฯ

(7 ม.ค. 68) ไม่นานหลังจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ประกาศลาออกจากตำแหน่ง โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้แสดงความคิดเห็นว่า แคนาดาควรเข้ามาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ หลังจากที่ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาประกาศลาออกจากตำแหน่ง

ทรูโดได้ประกาศลาออกในวันจันทร์ที่ 6 มกราคม โดยอ้างถึง "การต่อสู้" ภายในพรรคลิเบอรัลของเขา แต่จะยังคงดำรงตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรีไปจนกว่าจะมีการเลือกผู้นำพรรคคนใหม่ ซึ่งจะเข้ามาทำหน้าที่ในช่วงเลือกตั้งทั่วไปที่มีกำหนดจัดขึ้นปลายเดือนตุลาคม

"ผู้คนจำนวนมากในแคนาดาต้องการให้ประเทศของพวกเขากลายเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ" ทรัมป์โพสต์ผ่านโซเชียลแพลตฟอร์มของตัวเองในช่วงบ่ายวันจันทร์ "สหรัฐฯ อาจไม่สามารถทนกับการขาดดุลการค้าขนาดใหญ่และการอุดหนุนที่จำเป็นเพื่อให้แคนาดายังคงอยู่ได้อีกต่อไป และจัสติน ทรูโดก็รู้เรื่องนี้ดี"

"หากแคนาดารวมเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ จะไม่มีการเก็บภาษี แคนาดาจะจ่ายภาษีที่ต่ำลง และจะได้รับการปกป้องเต็มรูปแบบจากภัยคุกคามของกองเรือรัสเซียและจีนที่คอยคุกคามพวกเขา" ทรัมป์กล่าว "เมื่อรวมกันแล้วมันจะกลายเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่"

การลาออกของทรูโดเกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันภายในพรรค ซึ่งส่วนหนึ่งเชื่อว่าเป็นผลมาจากการคุกคามของทรัมป์ที่จะเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก โดยทรัมป์ได้กล่าวหาว่าผู้อพยพ, อาชญากร และพวกค้ายาได้ลักลอบเข้ามาในอเมริกา ขณะเดียวกันก็มีการเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ผ่านการละเมิดสนธิสัญญาการค้าเสรี

นอกจากนี้ มาตรการเก็บภาษีของทรัมป์ยังเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ คริสเตียน ฟรีแลนด์ รองนายกรัฐมนตรีแคนาดาลาออก และส่งผลให้เกิดความตึงเครียดในพรรคลิเบอรัลมากขึ้น

ผู้นำแคนาดาได้พยายามหารือเรื่องนี้กับทรัมป์โดยตรง ถึงขั้นเดินทางไปพบทรัมป์ที่มาร์อาลาโกในช่วงต้นเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ได้กล่าวติดตลกว่า ทรูโดควรจะเป็น "ผู้การรัฐ" และว่าแคนาดาควรเข้าร่วมเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ

ทรัมป์ยังได้พูดถึงความเป็นไปได้ที่แคนาดาอาจถูกแบ่งเป็นสองรัฐ โดยรัฐหนึ่งจะเป็นรัฐเสรีนิยมและอีกรัฐจะเป็นรัฐอนุรักษนิยม นอกจากนี้ เขายังเคยพูดถึงการซื้อเกาะกรีนแลนด์ที่อยู่ในอาร์กติก ซึ่งเป็นดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์กและตั้งอยู่ใกล้กับชายฝั่งแคนาดา

ถึงแม้ว่าผู้บริหารของออตตาวาจะปฏิเสธข้อเสนอในการรวมชาติตามที่ทรัมป์พูดถึง แต่เควิน โอเลียรี นักลงทุนและดาราดังของแคนาดา ได้กล่าวว่า ราวครึ่งหนึ่งของชาวแคนาดาให้การสนับสนุนแนวคิดนี้

โพสต์ล่าสุดของทรัมป์เกี่ยวกับแคนาดามีขึ้นไม่นานก่อนที่สภาคองเกรสจะรับรองผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2024 โดยยืนยันว่าเขาจะสาบานตนเป็นประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า

BRICS ประกาศรับ 'อินโดนีเซีย' เป็นชาติสมาชิกเต็มรูปแบบรายล่าสุด

(7 ม.ค.68) รัฐบาลบราซิล ในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ของปีนี้ ได้ประกาศให้ประเทศอินโดนีเซียเป็นส่วนหนึ่งของ BRICS ในฐานะรัฐสมาชิกเต็มรูปแบบ ตามคำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศบราซิลเมื่อวันที่ 6 มกราคม

"ในฐานะที่บราซิลดำรงตำแหน่งประธานของกลุ่ม BRICS ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2025 รัฐบาลบราซิลได้ประกาศในวันนี้ว่า สาธารณรัฐอินโดนีเซียได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบของ BRICS" กระทรวงระบุ

การตัดสินใจรับอินโดนีเซียเข้าร่วมกลุ่มได้รับการเห็นชอบจากสมาชิก BRICS ทุกประเทศแล้ว กระทรวงการต่างประเทศบราซิลย้ำ

ทั้งนี้ สำหรับกลุ่ม BRICS เป็นกลุ่มความร่วมมือระหว่างรัฐบาลที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2006 โดยประเทศบราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีน ส่วนแอฟริกาใต้เข้าร่วมในปี 2010 ในปี 2024 BRICS มีการขยายกลุ่มครั้งที่สอง โดยรับสมาชิกใหม่ ได้แก่ อียิปต์ เอธิโอเปีย อิหร่าน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และซาอุดีอาระเบีย 

อย่างไรก็ตาม ซาอุดีอาระเบียยังไม่ได้ดำเนินการขั้นสุดท้ายในการเป็นสมาชิก แต่ได้เข้าร่วมการประชุมของกลุ่ม BRICS แล้ว

ก่อนหน้านี้ช่วงปลายปี 2024 รัสเซียในฐานะประธานกลุ่ม BRICS เมื่อปีที่แล้ว ได้ให้การรับรอง ไทย มาเลเซีย และชาติอื่น ๆ อีก 9 ประเทศร่วมเป็นประเทศหุ้นส่วนพันธมิตรอย่างเป็นทางการ

ความน่าสนใจของกลุ่มประเทศBRICS คือ การมีสมาชิกที่เป็นชาติมหาอำนาจอย่าง จีนและรัสเซีย รวมทั้งอีกหลายประเทศที่ทรงอิทธิพลในแต่ละทวีป เช่น แอฟริกาใต้และบราซิล

ขณะเดียวกัน เมื่อกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจแห่งนี้มีจำนวนสมาชิกมากขึ้น จะทำให้ครอบคลุมประชากรราว 3.5 พันล้านคน หรือราว 45% ของประชากรโลก

หากพิจารณาในแง่มูลค่าทางเศรษฐกิจแล้ว ขนาดเศรษฐกิจของกลุ่ม มีมูลค่ากว่า 28.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 28% ของมูลค่ารวมของเศรษฐกิจโลก ที่สำคัญ คือ ประเทศสมาชิกกลุ่มบริกส์ยังเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบป้อนตลาดโลกราว 44% อีกด้วย

'ทรูโด' ลาออกนายกแคนาดา หลังคะแนนนิยมร่วง สมาชิกพรรคไม่หนุน

(6 ม.ค. 68) นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ประกาศลาออกจากตำแหน่งหลังดำรงตำแหน่งมานานเกือบ 10 ปี โดยเขาเผชิญกับกระแสความไม่พอใจจากประชาชนเกี่ยวกับค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงปัญหาราคาอสังหาริมทรัพย์ที่พุ่งทะยาน นอกจากนี้ แคนาดายังประสบวิกฤตผู้อพยพและปัญหาความวุ่นวายภายในรัฐบาล ซึ่งเห็นได้จากการลาออกอย่างกะทันหันของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ พรรคฝ่ายค้านถึง 3 พรรคได้ประกาศชัดเจนว่าจะร่วมกันลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลในการประชุมสภาครั้งหน้า

นายทรูโดระบุว่า เขาจะยุติบทบาทนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีนิยมคนใหม่เสร็จสิ้น โดยยืนยันว่าเขาไม่สามารถทำหน้าที่หัวหน้าพรรคในการเลือกตั้งครั้งต่อไปได้ เนื่องจากความขัดแย้งภายในพรรค

“ผมไม่ใช่คนที่ยอมถอยง่ายๆ โดยเฉพาะในเรื่องที่มีความสำคัญต่อพรรคและประเทศชาติ” ทรูโดกล่าวในแถลงการณ์ “แต่ผมเชื่อว่าผมได้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีเพื่อประชาชนและส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยอย่างเต็มที่แล้ว ผมเชื่อมั่นว่าหัวหน้าพรรคคนใหม่จะสานต่อคุณค่าและอุดมการณ์ของพรรคเสรีนิยมเพื่อการเลือกตั้งครั้งต่อไป”

ความเห็นจากพรรคเสรีนิยมและฝ่ายค้าน

นายซาชิต เมห์รา ประธานพรรคเสรีนิยม กล่าวขอบคุณนายทรูโดสำหรับบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศด้วยนโยบายสำคัญ เช่น นโยบายดูแลเด็กในราคา 10 ดอลลาร์ต่อวัน โครงการดูแลสุขภาพฟัน และแผนการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมระบุว่า พรรคจะจัดการประชุมเพื่อเลือกหัวหน้าคนใหม่ในสัปดาห์หน้า

ด้านนายปิแอร์ ปัวลีแวร์ ผู้นำพรรคอนุรักษนิยม โพสต์วิดีโอบน X (เดิมชื่อ Twitter) ระบุว่า “ชาวแคนาดารู้สึกเหมือนได้หลุดพ้นจากยุคมืด” พร้อมตำหนิผู้สมัครรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีนิยมว่าเป็นผู้ร่วมมือกับทรูโดในการทำลายประเทศในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน นายจักมีต ซิงห์ ผู้นำพรรคประชาธิปัตย์ใหม่ กล่าววิจารณ์ว่า “ไม่สำคัญว่าใครจะขึ้นมาเป็นผู้นำพรรคเสรีนิยม เพราะพวกเขาทั้งหมดจะทำให้ประชาชนผิดหวัง พรรคเสรีนิยมไม่ควรได้รับโอกาสอีกต่อไป”

การลาออกของทรูโดนับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเวทีการเมืองแคนาดา ซึ่งต้องจับตาดูว่าพรรคเสรีนิยมจะสามารถฟื้นตัวและนำพรรคเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งต่อไปได้หรือไม่

นักวิทย์จีนตั้งชื่อแมงมุมชนิดใหม่ 16 สายพันธุ์ ตามเพลงฮิตของนักร้องดัง 'เจย์ โชว์'

(6 ม.ค. 68) เจย์ โชว์ (Jay Chou) หรือ โจวเจี๋ยหลุน เป็นนักร้องป๊อปชื่อดังชาวจีนที่มีพรสวรรค์ด้านดนตรี เขาคือผู้สร้างสรรค์ผลงานเพลงที่ถ่ายทอดความโรแมนติก ความคิดถึงวันวาน และเสน่ห์ของวัฒนธรรมจีนดั้งเดิม อย่างไรก็ตามหากแฟนๆ เปิดฟังเพลงของเขาในช่วงนี้ อาจจะนึกถึงสิ่งใหม่ๆ อย่างเช่น “แมงมุม”

งานวิจัยวิทยาศาสตร์ฉบับล่าสุดที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนเพลงชาวจีน จากการตั้งชื่อแมงมุมสายพันธุ์ใหม่ 16 สายพันธุ์ตามชื่อเพลงที่โด่งดังของนักร้องวัย 45 ปีรายนี้

แมงมุมสายพันธุ์ใหม่เหล่านี้ซึ่งถูกจัดอยู่ใน 6 สกุล ได้รับการค้นพบที่สวนพฤกษศาสตร์เขตร้อนสิบสองปันนา แห่งสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน (CAS) ในมณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ จวบจนถึงปัจจุบัน จีนพบแมงมุมทั้งหมด 920 สายพันธุ์ในสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ที่มีขนาดใหญ่ 11 ล้านตารางเมตร และได้รับการยกย่องว่าเป็นสถานที่ที่มีความหลากหลายของสายพันธุ์แมงมุมมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ชื่อของแมงมุมเหล่านี้ได้แก่ “อันจิ้ง” (Silence-เงียบสงบ), “หลงเฉวียน” (Dragon Fist-หมัดมังกร), “เย่ฉวี่” (Nocturne-บทเพลงแห่งรัตติกาล), “ไฉ่หง” (Rainbow-สายรุ้ง) และ “เต้าเซียง” (Rice Field-นาข้าว) ซึ่งนักวิจัยบันทึกชื่อเหล่านี้ด้วยพินอินในเอกสารภาษาอังกฤษที่ตีพิมพ์ในวารสาร “การวิจัยด้านสัตววิทยา : ความหลากหลายและการอนุรักษ์” (Zoological Research: Diversity and Conservation) เมื่อเดือนธันวาคมของปี 2024

เมื่อถูกถามถึงแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อ หลี่ซูเฉียง หัวหน้าทีมวิจัยจากสถาบันสัตววิทยา แห่งสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีนได้ให้คำตอบที่น่าประทับใจ โดยกล่าวกับนักข่าวซินหัวว่าสมาชิกในทีมของเขาทุกคนที่เกิดช่วงปี 1980-2000 ล้วนเป็นแฟนเพลงตัวยงของนักร้องและนักแต่งเพลงจากไต้หวันรายนี้ “พวกเขาเติบโตมากับการฟังเพลงของเจย์ โจว” หลี่กล่าว พร้อมเสริมว่าทีมงานมักฟังเพลงของเจย์ โจวในเวลาว่าง อันนำไปสู่การตัดสินใจตั้งชื่อสายพันธุ์แมงมุมทั้ง 16 ตามชื่อเพลงของเขา

ส่วนการเลือกชื่อให้แมงมุมแต่ละตัว หลี่เผยว่าไม่ได้ยึดหลักเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์แต่อย่างใด แต่เป็นการสุ่มเลือกโดยไม่มีความเกี่ยวข้องกับลักษณะของแมงมุม

หมี่เสี่ยวฉี ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยถงเหรินในมณฑลกุ้ยโจวผู้เขียนหลักของงานวิจัยชิ้นนี้ ก็เป็นผู้ที่ชื่นชอบในตัวเจย์  โจวเช่นกัน หมี่ในวัยไล่เลี่ยกับเจย์ โจว กล่าวว่าเขาเคยตั้งชื่องานที่ค้นพบจากลักษณะทางกายภาพของสัตว์ แต่ในปี 2022 เนื่องจากชื่อที่เขาตั้งนั้นไปซ้ำกับงานวิจัยชิ้นก่อนหน้าของคนอื่น ทำให้บทความของเขาไม่ได้รับการตีพิมพ์อย่างราบรื่น “ตั้งแต่นั้นมาผมจึงระมัดระวังมากขึ้นในการตั้งชื่อแมงมุม ครั้งนี้ผมจึงเลือกวิธีตั้งชื่อที่แตกต่างออกไปเพื่อป้องกันชื่อซ้ำ” หมี่กล่าว

หมี่กล่าวเสริมว่าการตีพิมพ์การค้นพบสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่ 16 สายพันธุ์ในวารสารวิชาการพร้อมๆ กันนั้นไม่ใช่เรื่องยากสำหรับนักวิจัยที่มีประสบการณ์หลายปี “ผมคุ้นเคยกับสายพันธุ์แมงมุมทั้งหมด แค่มองแวบเดียวก็สามารถบอกได้ว่าสายพันธุ์นั้นอยู่ในหมวดหมู่ใดและเป็นสายพันธุ์ใหม่หรือไม่”

ในสายตาของนักวิจัยแมงมุมชาวจีน สายพันธุ์แมงมุมมากมาย อันรวมถึงสายพันธุ์ที่เพิ่งค้นพบนี้ มีลักษณะเฉพาะที่น่าสนใจ เช่น แมงมุมตัวเมียโตเต็มวัยที่สามารถมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ได้หลายเท่า การค้นพบแมงมุมสายพันธุ์ใหม่จึงสะท้อนถึงความหลากหลายทางชีวภาพของจีน ตลอดจนความสำเร็จในการปกป้องระบบนิเวศ

หลังผลงานวิจัยนี้กลายเป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หมี่กล่าวว่าเขารู้สึกพอใจกับความสำเร็จของทีมที่ทำให้ผลงานวิทยาศาสตร์ใกล้ชิดกับสาธารณชนมากขึ้น และหวังว่าผู้คนจะสนใจงานวิจัยของทีมและสนับสนุนการอนุรักษ์ธรรมชาติกันมากขึ้น

ชาวเน็ตจีนในโซเชียลยกให้หมี่เป็น “แฟนตัวพ่อ” ของเจย์ โจว และชมวิธีการตั้งชื่อแมงมุมสายพันธุ์ใหม่ของเขาว่าเป็นวิธีการตามดาราหรือศิลปินที่สุดแสนจะสร้างสรรค์ ขณะที่แฟนๆ ของเจย์ โจวหลายคนยังพบว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นักร้องเพลงป๊อบรายนี้มีอิทธพิลต่อแวดวงวิทยาศาสตร์ เพราะเมื่อปี 2020 มีนักศึกษาปริญญาโทจากสถาบันธรณีวิทยาและบรรพชีวินวิทยาหนานจิง ได้ค้นพบไทรโลไบต์ (กลุ่มของสัตว์ทะลขาปล้อง) ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ อายุประมาณ 500 ล้านปี และตั้งชื่อมันว่า “แฟนตาซี”  (Fantasy) เนื่องจากได้รับแรงบันดาลใจจากอัลบั้มที่สองของเจย์  โจว โดยนักวิจัยผู้นี้บอกกับสื่อว่าการตั้งชื่อดังกล่าวเป็นวิธีสุดโรแมนติกในการแสดงความยกย่องไอดอลของตน ขณะที่เมื่อปี 2009 นักดาราศาสตร์สมัครเล่น 4 คน ที่หลงใหลในเพลงของเจย์ โจว ก็ได้ค้นพบดาวเคราะห์น้อยดวงหนึ่งและตั้งชื่อให้มันตามชื่อของเขา

ในแวดวงการวิชาการ การตั้งชื่อสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่หรือชนิดใหม่ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาการทั่วไป และยึดถือหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เช่น ชื่อจะต้องไม่ซ้ำกับชื่อของสายพันธุ์ที่มีอยู่เดิม และไม่ควรก่อให้เกิดความเข้าใจผิดหรือความขุ่นเคืองใจ

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีพื้นที่สำหรับ “ความคิดสร้างสรรค์” เพราะการผสมผสานวิทยาศาสตร์เข้ากับความเป็นมนุษย์เป็นแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมในหมู่นักวิจัยทั่วโลก โดยเฉพาะนักวิจัยรุ่นใหม่ที่มีความสร้างสรรค์ในการตั้งชื่อ

ระหว่างการสำรวจใต้ทะเลลึกในปี 2019 นักวิทยาศาสตร์ค้นพบแอมฟิพอด (Amphipod) หรือสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังขนาดจิ๋วในทะเลลึกชนิดใหม่ และตั้งชื่อมันว่า “โดโรเธีย” (Dorotea) ตามตัวละครที่งดงามและจิตใจดีในนวนิยายระดับโลกเรื่อง “ดอน กิโฆเต้” (Don Quixote) ในทำนองเดียวกัน เมื่อปี 2018 ก็มีหนอนทะเลลึกชนิดหนึ่งที่ถูกตั้งชื่อว่า “โฮดอร์ โฮดอร์” (Hodor hodor) เพื่อยกย่องตัวละครที่ได้รับความนิยมจากซีรีส์แฟนตาซีสัญชาติอเมริกันเรื่องเกมออฟโธรนส์ (Game of Thrones)

หนังสือพิมพ์จีนฉบับหนึ่งแสดงความเห็นว่าการนำเอาองค์ประกอบของเพลงป๊อปมาใส่ในชื่อของสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่ไม่เพียงแต่เป็นแนวทางที่น่าสนใจ แต่ยังช่วยดึงดูดให้ประชาชนหันมาสนใจวิทยาศาสตร์ และสร้างแรงบันดาลใจให้อยากออกไปสำรวจความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ

ปักกิ่งเปิดแผน 'ไมโครดรามาพลัส' ส่งเสริมเศรษฐกิจเชิงวัฒนธรรมสู่ชาวโลก

(6 ม.ค. 68) สำนักบริหารวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติจีนเปิดตัวแผนปฏิบัติการไมโครดรามาพลัส (micro drama plus) โดยมีเป้าหมายผสมผสานละครขนาดสั้นออนไลน์หรือไมโครดรามาเข้ากับหลายอุตสาหกรรม เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมทางวัฒนธรรมและการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ปัจจุบันละครขนาดสั้นออนไลน์ ซึ่งมีจุดเด่นที่การเล่าเรื่องรวดเร็ว มีธีมหลากหลาย และต้นทุนการผลิตที่ไม่สูงมากนัก ได้กลายมาเป็นศิลปะสำคัญรูปแบบใหม่ในภูมิทัศน์วัฒนธรรมของจีน

แผนริเริ่มไมโครดรามาพลัสมุ่งใช้ประโยชน์จากศิลปะรูปแบบนี้เพื่อเสริมสร้างภาคส่วนต่างๆ กระตุ้นความสร้างสรรค์ และเสริมสร้างวัฒนธรรม โดยจะผลิตละครขนาดสั้นออนไลน์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ราว 300 เรื่องในปีนี้

แผนริเริ่มข้างต้นประกอบด้วยหลายโครงการ เช่น “การเดินทางผ่านละครสั้น” ซึ่งออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการฟื้นฟูชนบทด้วยการผลิตละครสั้นออนไลน์ 100 เรื่องที่เกี่ยวกับสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรม ทิวทัศน์ธรรมชาติ และแหล่งท่องเที่ยวในเมือง

เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยไกล ตกทะเลญี่ปุ่น คาดยิงโชว์ 'ทรัมป์' ก่อนรับตำแหน่ง

(6 ม.ค. 68) สื่อท้องถิ่นเกาหลีใต้รายงานว่า ทางการเกาหลีเหนือได้ทำการยิงขีปนาวุธพิสัยไกลตกลงในทะเลญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกของปี 2025

ตามข้อมูลจากคณะเสนาธิการร่วม (JCS) ของเกาหลีใต้ ขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือยิงในครั้งนี้บินไปได้ไกลถึง 1,100 กิโลเมตร (683.5 ไมล์) ก่อนจะตกลงในทะเลญี่ปุ่น

การยิงขีปนาวุธครั้งนี้เป็นครั้งแรกในปี 2025 และเกิดขึ้นหลังจากการยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ (SRBM) เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 ที่ผ่านมา

ขีปนาวุธดังกล่าวตกลงนอกเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น โดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวรัฐบาลญี่ปุ่นที่รายงานว่าไม่พบความเสียหายจากเหตุการณ์นี้

หน่วยงานยามชายฝั่งญี่ปุ่นยืนยันว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธข้ามทะเลจริง และหลังจากหกนาที หน่วยงานดังกล่าวได้ออกแถลงการณ์ว่า ขีปนาวุธได้ตกลงแล้ว พร้อมทั้งเรียกร้องให้เรือทุกลำรายงานชิ้นส่วนที่พบ แต่ห้ามเข้าใกล้พื้นที่ดังกล่าว

ทางทหารเกาหลีใต้ได้เพิ่มการเฝ้าระวังและความเข้มงวดในการควบคุม โดยเตรียมพร้อมรับมือกับการยิงขีปนาวุธเพิ่มเติม พร้อมแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับขีปนาวุธของเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยยังคงรักษาความพร้อมรบเต็มที่ ตามรายงานจากคณะเสนาธิการร่วม (JCS)

การทดสอบขีปนาวุธครั้งนี้อาจเป็นการแสดงแสนยานุภาพของเกาหลีเหนือ ก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคมนี้

คณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้กล่าวว่า “กองทัพยังคงรักษาท่าทีเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ โดยแบ่งปันข้อมูลที่เกี่ยวกับขีปนาวุธของเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิดกับสหรัฐฯ และญี่ปุ่น พร้อมทั้งเพิ่มการเฝ้าระวังและเตรียมรับมือหากเกิดการยิงขีปนาวุธเพิ่มเติม”

ญี่ปุ่นยังได้ประกาศว่า เกาหลีเหนือได้ยิงสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นขีปนาวุธ ซึ่งคาดว่าวัตถุดังกล่าวได้ตกลงมาแล้ว

การยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 ซึ่งเป็นขีปนาวุธพิสัยใกล้ (SRBM) และถือเป็นการยิงครั้งสุดท้ายก่อนที่ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะออกมา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top