Sunday, 15 June 2025
SPECIAL

‘จุลพันธ์-วิสาระดี’ ขออาสากระจายเศรษฐกิจที่ดี ให้ทั่วทุกพื้นที่ ชี้!!อยากให้คนไทยอยู่กับครอบครัวทุกวัน

(14 เม.ย. 66) เฟซบุ๊ก ‘พรรคเพื่อไทย’ ได้โพสต์ประกาศขออาสาสร้างเศรษฐกิจ ที่นำพาความเจริญมาสู่คนไทยแบบกระจายไปทุกพื้นที่ ไม่ใช่แค่เมืองหลวง หวังอยากทำให้ปชช. ได้อยู่กับครอบครัว โดยระบุว่า

วันครอบครัวต้องไม่ใช่แค่เทศกาล พี่น้องคนไทยต้องมีโอกาสใช้ชีวิตและทำงานที่บ้านเกิด มีวันครอบครัวได้ทุกวัน

ที่ผ่านมาประเทศไทยพึ่งพากรุงเทพฯ เป็นเขตเศรษฐกิจหลักมาโดยตลอด ความเจริญจึงกระจุกตัว มีเพียงกรุงเทพฯ ที่มีโครงสร้างพื้นฐานพรั่งพร้อมสำหรับการทำธุรกิจ ตลาดแรงงานในเมืองหลวงของประเทศจึงเติบโตและมีความหลากหลายทางอาชีพมากกว่าจังหวัดอื่นๆ 

เมื่อไม่มีโอกาสหารายได้ที่บ้านเกิด คนวัยทำงานจากทุกภาคของประเทศไทยจึงจำเป็นต้องโยกย้ายพลัดถิ่นไปแออัดกันอยู่ที่กรุงเทพฯ เพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว เกิดเป็นปัญหาอื่นๆ ตามมา เช่น ท้องถิ่นสูญเสียคนคุณภาพที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจและทำงานพัฒนาพื้นที่บ้านเกิด และที่สำคัญ หลายครอบครัวสูญเสียโอกาสที่จะได้อยู่กันอย่างพร้อมหน้า จะเจอกันได้ก็เพียงช่วงเทศกาลสำคัญอย่างสงกรานต์เท่านั้น

จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 5 เบอร์ 7 เห็นปัญหานี้จากการลงพื้นที่พบปะประชาชนมาโดยตลอด “พี่น้องเขาจะชอบพูดกัน ถ้าไปหางานทำที่กรุงเทพฯ จะมีตัวเลือกกว่า 50 ทาง แต่ถ้าหาที่บ้านเกิดเขาจะมีเหลือเพียงแค่ 5 ทางเท่านั้น น่าเสียดายที่บางจังหวัดอย่างเชียงใหม่หรือเชียงรายมีสถาบันการศึกษาคุณภาพที่ผลิตบัณฑิตเก่ง ๆ เยอะมาก แต่ตลาดแรงงานในพื้นที่ไม่เพียงพอ ไม่มีงานรองรับ” 

ปัญหาการพลัดถิ่นไปทำงานที่อื่นและต้องแยกจากครอบครัวเป็นสิ่งที่ วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย เขต 4 เบอร์ 4 พบเห็นในพื้นที่จังหวัดเชียงรายเช่นกัน แต่ทั้งจุลพันธ์และวิสาระดีเชื่อมั่นในหลักการเดียวกันว่า ความอบอุ่นและความเข้มแข็งของครอบครัวคือรากฐานความสำเร็จของบุคลากรและชุมชน ในการลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคราวนี้ ทั้งสองจึงตั้งใจผลักดันนโยบาย “เขตธุรกิจใหม่” (New Business Zone) ให้เกิดขึ้นจริง โดยเฉพาะในหัวเมืองที่มีศักยภาพที่จะเติบโตได้ เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลา และอุดรธานี

วิสาระดีกล่าวด้วยว่า การสร้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนคือทางออกของปัญหาคุณภาพชีวิตและหนี้สินในครัวเรือน “ผู้เฒ่าผู้แก่หลาย ๆ ครอบครัวในต่างจังหวัดมีหน้าที่เลี้ยงเด็กเพียงลำพัง รุ่นไหนโตก็ส่งเข้าไปทำงาน เด็กเกิดมาก็ส่งกลับมาให้เลี้ยง ไม่ใช่ว่าเขาไม่รักลูก แต่สังคมไม่เอื้อให้ครอบครัวได้อยู่อย่างพร้อมหน้า งานในจังหวัดไม่สามารถให้รายได้ที่พวกเขาสามารถเลี้ยงครอบครัวได้อย่างมีศักดิ์ศรี เราอยากให้ประชาชนได้อยู่กันพร้อมหน้า มีรายได้เพียงพอต่อการใช้ชีวิต และมีคุณภาพชีวิตที่ดี”

การสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่นเป็นไปได้ด้วยวิสัยทัศน์ที่ “คิดใหญ่ ทำเป็น” แบบพรรคเพื่อไทย “เขตธุรกิจใหม่” เป็นไปได้แน่นอน โดยเริ่มต้นจากการ “สร้าง” 3 ข้อต่อไปนี้ 

1. สร้างกฎหมายเกื้อหนุนผู้ประกอบการ
กฎหมายดั้งเดิมจำนวนมากเป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ต้องแก้ไขด้วยการออกกฎหมายใหม่ที่เหมาะสมกับยุคสมัยและเงื่อนไขการทำธุรกิจในปัจจุบันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายการเข้าสู่ธุรกิจ กฎหมายแรงงาน กฎหมายป่าไม้ กฎหมายอุทยาน กฎหมายการโรงแรมและการท่องเที่ยว มีระบบ One Stop Service เพื่อให้พี่น้องประชาชนเข้าถึงง่ายดาย สามารถเปิดธุรกิจใหม่ได้โดยใช้เวลาน้อยที่สุด 

2. สร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการ
เปิดคลังข้อมูล Open Data ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงความรู้ของธุรกิจใหม่ๆ ไปต่อยอดศักยภาพพัฒนาธุรกิจดั้งเดิมที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเกษตรหรือสินค้าทางวัฒนธรรม คนที่เคยออกไปทำงานนอกจังหวัดสามารถเห็นลู่ทาง เห็นโอกาสที่มากกว่าคนอื่นในการกลับมาลงทุนทำธุรกิจ สร้างงานสร้างอาชีพที่จังหวัดบ้านเกิด มีนโยบายที่ช่วยสนับสนุนในการเข้าถึงทุนจากรัฐ สร้างแต้มต่อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันกับธุรกิจต่างชาติในตลาดเดียวกันได้อย่างทัดเทียม 

'จิ๊บ ศศิกานต์' ชี้!! สงกรานต์เงินสะพัด 1.2 แสนล้าน ความจริงที่เกิดจากผลงาน 'ลุงตู่' วอนบางคนอย่าบิดเบือน

สงกรานต์ เงินสะพัดกว่า 1.2 แสนล้าน ‘จิ๊บ ศศิกานต์’ ชี้ ฝีมือ ‘ลุงตู่’ พาชาติพ้นวิกฤตวอนนักการเมืองเลิกสร้างวาทกรรมบิดเบือนหลอกประชาชน

จากกรณีที่ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2566 การจัดกิจกรรมด้านต่างๆ นั้นจะทำให้เกิดเงินสะพัดในช่วงสงกรานต์ อยู่ที่ประมาณ 125,203 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขนี้เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับ ช่วงปี 2559 ถือว่าใกล้เคียงกันมาก ทำให้มองได้ว่าเศรษฐกิจนั้นเริ่มกลับมาดีเหมือนเดิมแล้วนั้น

ล่าสุด นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขต 30 บางแค ภาษีเจริญเบอร์ 7 จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้กล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวนั้นเป็นเครื่องชี้วัดที่สะท้อนให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า เศรษฐกิจของไทยได้ฟื้นตัวแล้ว แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารประเทศของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ในภาวะวิกฤตซ้อนวิกฤต ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาต่อเนื่องกันตั้งแต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อเนื่องมายังการสู้รบสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบเศรษฐกิจของทั้งโลก วิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำ คนตกงาน อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น ซึ่งทุกประเทศก็ได้รับผลกระทบนี้เหมือน ๆ กัน แต่ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลของประเทศไหนนั้นจะบริหารประเทศ ให้ผ่านพ้นวิกฤตและฟื้นตัวได้ดีกว่ากัน 

ซึ่งจากตัวเลขข้างต้นนั้นก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าประเทศไทยนั้น เป็นประเทศที่สามารถผ่านพ้นวิกฤตและฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วก่อนประเทศอื่นๆ อีกหลายประเทศ สังเกตได้จากไทยเป็นประเทศแรก ๆ ในโลกที่เปิดรับนักท่องเที่ยว ซึ่งตัวเลขนักท่องเที่ยวในปัจจุบันนั้นก็ถือว่าใกล้เคียงกับตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในช่วงก่อนจะเกิดโรคโควิด-19แล้ว

‘ชวน’ ลุยหาเสียงคลองท่อม ช่วย ‘พิมพ์รพี’ หาเสียง ยอมรับ!! หนักใจ-วิตกกังวล เหตุผลโพลพรรครั้งท้าย

ชวน ลงพื้นที่ตลาดคลองท่อม ช่วย ผู้สมัคร ส.ส. กระบี่ เขต 3 หาเสียง ยอมรับหนักใจ ผลโพลพรรครั้งท้าย พร้อมวิตกกังวล มีการเงินอย่างหนักมาก

(14 เม.ย. 66) ตลาดคลองท่อม อำเภอคลองท่อมจังหวัดกระบี่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นางสาวพิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล นายสาคร เกี่ยวข้อง และนายธวัช ภูเก้าล้วน ผู้สมัคร ส.ส. ในพื้นที่ จ.กระบี่ ทั้ง 3 เขต

ลงพื้นที่หาเสียงในตลาดคลองท่อม อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ พบปะชาวบ้านพี่น้องประชาชนในเขต 3 ท่ามกลางบรรยากาศตลาดนัดยามเช้าในพื้นที่ซึ่งมีประชาชนเดินทักทายหาเสียงช่วย นางสาวพิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 3

จับตายุทธการล้ม 'ชลน่าน' รวมไทยสร้างชาติจ่อคอหอย ฟากบ้านใหญ่ชลบุรี แอบหวั่น!! มาดามเบียร์ถูกคว่ำ

'เล็ก เลียบด่วน' พบกับท่านสัปดาห์ละ3ครั้ง...เลียบการเมือง วิเคราะห์การเมืองเบื้องลึก...แต่จากนี้ไปจำเพาะวันศุกร์สุดสัปดาห์ ท่านบก.กระซิบบอกให้ช่วยเลาะขอบสนามเลือกตั้งแบบว่า หยิบกอสซิป หรือไฮไลต์เลือกตั้งที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟังบ้าง...ก็จะขอดำเนินการตั้งแต่บัดนาว...

ประเดิมเริ่มแรกขอโฟกัสไปที่ภาพรวมเลือกตั้ง..นาทีนี้พรรคเพื่อไทยเร่งทำผลสำรวจด้วยตัวเอง พร้อมๆ กับแสวงหาผลสำรวจสำนักต่างๆ กันจ้าละหวั่นเพราะอยากรู้ว่า หลังยิงปืนใหญ่นโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทออกมา...บวกลบคูณหารแล้วขาดทุนหรือกำไร...คะแนนพุ่งหรือพัง...คิดใหญ่ทำเป็นยังขลังหรือไม่...เพราะดูเหมือนแรงต้านจะมีมากเหลือเกิน..

พรรคเพื่อไทยอีกซักข่าว...ข่าวนี้ถ้าเป็นไปได้จริงก็ถือว่าเป็นการล้มช้างกันเลยทีเดียว...นั่นคือมีการปิดกันให้แซ่ดว่า พรรครวมไทยสร้างชาติหมายมั่นปั้นมือที่จะปลุกปั้นให้ 'พิชิต โมกศรี' ผู้สมัครส.ส.น่านเขต 2 ของพรรคเข้าวิน...เบียดส.ส.5 สมัยอย่างนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ให้ตกเหวการเมืองสอบตกเป็นสมัยแรกให้ได้...ซึ่งหากดูโปรไฟล์ของอดีตปลัดเทศบาลเมืองแพร่อย่างพิชิต โมกศรี ก็ไม่ธรรมดา เคยลงสมัคร นายกอบจ.น่าน เมื่อปี 2563 มาแล้ว ได้ลำดับสอง แพ้ไปเพียง 2 หมื่นกว่าคะแนน...

เลือกตั้งหนนี้ ทั้ง 'แม่เลี้ยงติ๊ก' ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู, เสธ.หิ-ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ...ขุนพลภาคเหนือของพรรคลุงตู่ แว่บไปเมืองน่านถี่ยิบ...ลุ้นระทึกยิ่งกว่าลงสมัครเองเลยทีเดียว...

ครับ...ถ้าล้มหมอชลน่านได้จริงก็เป็นเรื่องใหญ่ เพราะหมอชลน่านเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นส.ส.เขตแบบชนะขาดมาแทบทุกครั้ง รอบนี้เป็นหัวหน้าพรรคคนเดียวที่ลง ส.ส.เขต ไม่ยอมลงปาร์ตี้ลิสต์ โดยให้เหตุผลว่าหากให้คนอื่นลงมีโอกาสแพ้...และจะทำให้พรรคเสียที่นั่ง ตัวเองจะรู้สึกผิด...อะไรประมาณนั้น...อย่างไรก็ตามหลายคนก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าความที่เป็นหัวหน้าพรรค ต้องเดินทางไปปราศรัยช่วยลูกพรรคทั่วประเทศ อาจทำให้หมอชลน่านเกิดอาการ 'ห่วงหน้าพะวงหลัง'...ดีไม่ดีอาจพลาดท่าเสียเก้าอี้ได้เหมือนกัน...

แว่บไปดูแนวรบด้านตะวันออกกันหน่อย...วันก่อนโน้นดีเบตที่ชลบุรีเดือดพล่าน...เมื่อ 'เสี่ยเฮ้ง' สุชาติ ชมกลิ่น  แม่ทัพพรรค รทสช.ลุกขึ้นชี้หน้า ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ  แห่งค่ายก้าวไกล...ซึ่งอันที่จริงคู่ชิงเก้าอี้เมืองชล 10 ที่นั่งนั้นไม่ใช่พรรคก้าวไกลที่อาจจะรักษาเก้าอี้ไว้ได้ซัก 1 ที่นั่ง คือ จรัส คุ้มไข่น้ำ...แต่สนามนี้ปีนี้มวยคู่หลักคือ 'บ้านใหญ่' นำโดย แป๊ะ-สนธยา คุณปลื้ม กับ 'บ้านใหม่' นำโดย 'เสี่ยเฮ้ง' สุชาติ ชมกลิ่น ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้สูสีดู๋ดี๋ระดับที่อาจจะต้องแบ่งครึ่งกัน....

‘บิ๊กป้อม’ ขอบคุณจนท.-พนง. ผู้เสียสละความสุขส่วนตัว ช่วยดูแลความปลอดภัยประชาชน ช่วงสงกรานต์

‘บิ๊กป้อม’ ขอบคุณจนท.-พนง.ให้บริการ ดูแลความปลอดภัยปชช.ช่วงสงกรานต์ ยก ผู้อยู่เบื้องหลังความสุขของคนไทย

(14 เม.ย.66) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ขอบคุณเจ้าหน้าที่และพนักงานให้บริการประชาชน ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร พนักงานรักษาความปลอดภัย แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ อาสาสมัคร หน่วยกู้ชีพ กู้ภัย พนักงานขับรถสาธารณะ และพนักงานให้บริการอื่น ที่ยังคงต้องทำงานรับผิดชอบต่อภารกิจ คอยอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนทั่วไปในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ปี 2566 โดยไม่ได้เดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อน ร่วมสังสรรค์กับครอบครัว พ่อแม่ ญาติสนิท มิตรสหาย

‘ช่อ พรรณิการ์’ ร่วมเล่นน้ำสงกรานต์ กับชาวหนองคาย ปชช. แห่ถ่ายรูป-ให้กำลังใจ พร้อมรับฟังปัญหาคนในพื้นที่

‘ช่อ พรรณิการ์’ เล่นสงกรานต์ริมโขง ประชาชนรุมกรี๊ด-ถ่ายรูปแน่น 

(14 เม.ย. 66) พรรณิการ์ วานิช กรรมการมูลนิธิคณะก้าวหน้า ร่วมฉลองสงกรานต์กับพี่น้องประชาชนริมฝั่งโขง จังหวัดหนองคาย โดยได้ร่วมรดน้ำดำหัวผู้เฒ่าผู้แก่ พร้อมร่วมรำวงกับผู้สูงอายุฉลองสงกรานต์ ที่อำเภอท่าบ่อ ต่อด้วยการร่วมฉลองสงกรานต์ที่อำเภอท่าบ่อ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการเฉลิมฉลองเล่นน้ำคึกคักที่สุดแห่งหนึ่งในหนองคาย

‘สมชัย’ จี้ถาม!! ‘กกต.’ ได้เอกสารแล้ว จะตอบตอนไหน หลังขู่ทุกพรรคแจงนโยบายหาเสียงไม่ทำ ปรับเงิน-ตัดสิทธิ์เลือกตั้ง

กกต. สั่งทุกพรรคแจงนโยบายหาเสียง งบที่ใช้ ไม่ทำปรับ 5 แสน พร้อมตัดสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี ด้านสมชัยถามกลับ ถ้าได้เอกสารแล้ว กกต.จะตอบตอนไหน

เมื่อวันที่ (13 เม.ย.66) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมหนังสือที่ กกต. ส่งจดหมายถึงทุกพรรคการเมือง โดยระบุข้อความดังนี้

กกต. ให้ชี้แจงถึงรายละเอียดของนโยบายที่หาเสียง ในเรื่องจำนวนเงินงบประมาณที่ใช้ ที่มาของงบประมาณ ความคุ้มค่าและประโยชน์ที่ได้รับ ผลกระทบและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น พร้อมให้ระบุว่าได้ผ่านการรับฟังความเห็นจากสมาชิกพรรคในภูมิภาคแล้ว

‘บิ๊กป้อม’ รับพรสงกรานต์ เด็กรุ่นใหม่เชียร์เป็นนายกฯ ตอบรับ ‘คุณก็เลือกสิ’ ฝากชาวไทยช่วยก้าวข้ามความขัดแย้ง

เมื่อวันที่ (13 เม.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก FC ลุงป้อมโพสต์คลิปภารกิจของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดโอกาสให้เยาวชน ประชาชนและเพื่อน ๆ ของ พล.อ.ประวิตรเข้าพบเพื่ออวยพรเนื่องในเทศกาลสงกรานต์และวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ที่สนามกอล์ฟกองทัพบก รามอินทรา โดยมีตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย และเริ่มดำเนินธุรกิจหลากแขนง เช่น นายนพนธ์ สิงหพันธุ์ นายเวหา ตั้งสมบูรณ์ นายชนะชัย ประมวลทรัพย์ น.ส.ชนากานต์ บูรณพรชัย นายยศกร สังข์ธีรธิติ น.ส.วายุน ลีปายะคุณ นายรวิน ชอบใช้ และนักศึกษาจีน 3 คน ที่มาศึกษาต่อในประเทศไทย ร่วมรดน้ำอวยพร

โดย พล.อ.ประวิตรวันนี้มีสีหน้าสดใส สวมเสื้อฮาวายสีฟ้า แจ๊คเก็ตสีดำ กางเกงยีนส์และรองเท้าผ้าใบ อารมณ์ดียิ้มแย้มแจ่มใสต้อนรับประชาชนอย่างเป็นกันเอง

ขณะที่ น.ส.ชนากานต์กล่าวอวยพร พล.อ.ประวิตรว่า ขอบคุณที่ทำหน้าที่ในรัฐบาลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในการดูแลประเทศและประชาชน โดยเฉพาะช่วงที่รักษาการนายกรัฐมนตรี เพราะตอนที่ พล.อ.ประวิตรสั่งการการทำงานของภาคส่วนต่างๆ ให้แก้ปัญหาของประเทศได้รวดเร็ว ส่งผลให้ธุรกิจของพวกตนฟื้นและเดินหน้าได้ตั้งแต่ตอนนั้นถึงปัจจุบัน

'ดร.ธนชาติ' ซัด!! ทีมงานนโยบายแจกเงินดิจิทัลเพื่อไทย อึ้ง!! เคยเห็นโพสต์ "อยากเห็นเศรษฐกิจไทยพังพินาศ"

13 เม.ย.2566 - ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ประธานกรรมการกำกับความเสี่ยง ธนาคารธนชาติ และอดีตนายกสมาคม สมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวแสดงความคิดเห็นต่อนโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทของพรรคเพื่อไทย ซึ่งปรากฏเอกสารภายในพรรคเพื่อไทย มีชื่อ นายภาคิไนย์ ชมสินทรัพย์มั่น หรือ บอล เป็นหนึ่งในคณะทำงานสถาบันต้นไม้แห่งประชาธิปไตย นำเสนอนโยบายเหรียญดิจิทัลเพื่อไทย

ดร.ธนชาติ ระบุว่า "เห็นเอกสารที่คนส่งมาเรื่อง นโยบายดิจิทัลวอลเลตพรรคเพื่อไทย และเห็นชื่อคณะทำงานแล้ว ไปค้นชื่อคนทำแผนมาจากหลายสาขาวิชา แต่พอเห็นชื่อบางคน เช่นรายนี้มีประวัติเคยโพสต์อยากเห็นเศรษฐกิจไทยพินาศ ก็เลยงงว่าให้มาร่วมทำงานได้ไง"

รู้จัก 'เท่ห์-พิทักษ์เดช' เบอร์ 1 เขต 3 เมืองคอน ขอเชื่อมทุกความร่วมมือ พาความเจริญสู่พื้นที่

หลายคนสอบถามมาว่า “เท่ห์-พิทักษ์เดช เดชเดโช' เป็นใครมาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เขต 3 (หัวไทร-ปากพนัง) สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ 

ก็บอกตามตรงว่า “ส่วนตัวไม่รู้จักกัน” แต่ผมรักพ่อเขา “วิฑูรย์ เดชเดโช” อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช (ผู้ล่วงลับ) กับ “กนกพร เดชเดโช” นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช คนปัจจุบัน

เท่ห์ เป็นทายาทคนที่ 3 จาก 4 คนพี่น้อง “เดชเดโช” จบมัธยมปลาย จากโรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงเรียนชายอันดับหนึ่งของนครศรีธรรมราช ถ้าเป็นโรงเรียนหญิงก็จะเป็นโรงเรียนกัลยาณี 

ระบบการศึกษาแบบ “แพ้คัดออก” เมื่อเท่ห์ของเข้ามหาวิทยาลัยระบบปิดไม่ได้ จึงมุ่งหน้าสู่มหาวิทยาลัยเปิด “ตลาดวิชา” อย่างมหาวิทยาลัยรามคำแหง เข้าเป็น “ลูกพ่อขุน” ตามพี่ชาย “แทน-ชัยชนะ เดชเดโช” เข้าเลือกเรียนนิติศาสตร์ และจบเป็นนิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง และต่อด้วยปริญญาโทนิติศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง 

ขณะกำลังศึกษา ได้เข้าร่วมกับกลุ่มเพื่อนนักศึกษา ทำกิจกรรมทางการเมือง ออกให้ความรู้ทางด้านกฎหมายกับพี่น้องประชาชนที่ขาดความรู้ในทางด้านกฎหมาย ถือว่าเป็นนักศึกษากิจกรรมคนหนึ่ง

เท่ห์ เกิดในครอบครัวนักการเมือง เลือดในกายจึงผสมด้วยกลิ่นอายทางการเมือง เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาปัญหาการดำเนินงานในการบริหารจัดการทรัพย์สินและการบริหารจัดการหนี้ ปัญหาหนี้สินจากการบังคับคดี และปัญหาหนี้นอกระบบ

“พูดจริงๆ เท่ห์ เขาไม่อยากเข้ามาทำงานการเมืองมากนัก เขาอยากอยู่เบื้องหลัง ดูแลพี่ๆ น้องๆ ดูแลธุรกิจมากกว่า แต่ทางครอบครัวขอร้องว่าถึงเวลาแล้ว และเขาก็ตัดสินใจด้วยตัวเองเอง” แทน กล่าวถึงน้องชาย

ช่วงเปิดตัวใหม่ๆ เท่ห์ประสงค์จะลงเขต 1 (เมือง) แต่เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้ “ราชิต สุดพุ่ม” อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี มาลงสมัคร เท่ห์จึงเปิดทางให้ และขยับไปเขต 2 ซึ่งเดิมจะติดอำเภอปากพนังไปด้วย แต่เมื่อ ส.ส.เพิ่มเป็น 10 กกต.แบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ปากพนังทั้งอำเภอถูกจัดให้เป็นเขต 3 ร่วมกับอำเภอหัวไทร เท่ห์จึงขอลงเลข 3 

เมื่อได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่เลือกตั้ง เขาก็ทำหน้าที่ได้ดี และตั้งใจ ขยันลงพื้นที่ พวกเราก็ไม่ผิดหวัง และเชื่อว่า ถ้าเขาได้รับเลือกตั้งก็จะทำหน้าที่ได้ดีเช่นกัน

อยากให้พี่น้องประชาชนได้ผู้นำที่เข้าใจ เข้าถึง รู้ถึงปัญหาของพื้นที่อย่างแท้จริง และ ต้องการให้การบริหารและการพัฒนาเท่าเทียมกันอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อสนองความต้องการของพี่น้องประชาชนในแต่ละพื้นที่ โดยที่จะต้องได้คำว่า “ผู้นำแห่งความร่วมมือ” นี้เป็นเจตนารมย์ของเท่ห์ในการตัดสินใจกระโดดเข้าสู่เวทีการเมือง

กล่าวสำหรับเขตเลือกตั้งที่ 3 แล้ว เดิมทีก่อนหน้านี้ น้อย-วิทยา แก้วภารดัย จากพรรคประชาธิปัตย์ เป็น ส.ส.อยู่ แต่ในการเลือกตั้งปี 2562 น้อยแพ้ให้กับสัญหพจน์ สุขศรีเมือง จากพรรคพลังประชารัฐ แบบ “หักปากกาเซียน” พูดได้ว่าเป็นเขตล้มช้าง ล้มอดีตรัฐมนตรีว่าการกนะทรวงสาธารณะสุข ดีกรี ส.ส.เขตนี้ 8 สมัย แต่เลือกตั้งครั้งครานี้ “น้อย-วิทยา” แยกตัวไปจากประชาธิปัตย์ ไปร่วมกับพรรค “ลุงตู่-รวมไทยสร้างชาติ” ส่ง “นนทิวรรธน์ นนทภักดิ์” คนสนิทมาลงสมัครรับเลือกตั้งแทน

'ลุงป้อม' มาหา 'สรยุทธ' วันนี้พี่ยุทธบอก "ผมเกร็งกว่าท่านอีก"

'ลุงป้อม' มาหา 'สรยุทธ' วันนี้พี่ยุทธบอก "ผมเกร็งกว่าท่านอีก"
 

‘สุวัจน์-กรณ์’ นำทัพ ‘ชพก.’ ขอพรวัดบวรฯ เสริมสิริมงคล พร้อมเล่นน้ำกับปชช. อย่างใกล้ชิด เผย!! เหมือน 14 อีกครั้ง

ไพรีพินาศ! ‘สุวัจน์-กรณ์’ พาผู้สมัคร ส.ส.กทม.ขอพรวัดบวรฯ เจ้าอาวาสมอบพระไพรีพินาศ อวยพรให้ชนะทุกสิ่ง พร้อมเล่นน้ำสงกรานต์ถนนข้าวสาร ‘กรณ์’ กล่าว รู้สึกเหมือน 14 อีกครั้ง! 

 (13 เมษายน) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า และนายนันทพันธ์ ศุภณ์ภัทรพงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต1 กทม. และคณะผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรค เดินทางไปยังวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร เพื่อเข้าสักการะพระไพรีพินาศ และสรงน้ำพระธรรมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร จากนั้นได้เดินเล่นน้ำที่ถนนข้าวสารซึ่งจัดกิจกรรมเล่นน้ำสงกรานต์  ก่อนที่จะร่วมขบวนตุ๊กตุ๊กทักทายพี่น้องประชาชน ตามถนนย่านเมืองเก่า  

นายสุวัจน์ กล่าวว่า วันนี้ได้เข้ากราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิที่วัดบวรนิเวศวิหาร เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสวันปีใหม่ไทยหรือวันสงกรานต์ ท่านเจ้าอาวาสได้มอบพระไพรีพินาศให้กับคณะด้วย ซึ่งวันนี้มาพร้อมกับผู้สมัคร กทม.หลายท่าน ก็ขอให้ทุกคนชนะทุกสิ่ง ชนะทุกเรื่อง   

นายสุวัจน์ กล่าวว่า ประเพณีสงกรานต์ ถือว่าเป็นซอฟท์พาวเวอร์ของไทย ที่โลกรู้จัก ว่าเป็นวันปีใหม่ของไทย ที่มีมีความรื่นเริงสนุกสนาน ซึ่งพรรคชาติพัฒนากล้าเองมีนโยบายที่ส่งเสริมซอฟท์พาวเวอร์อยู่แล้ว ก็อยากให้โลกได้รู้จักเรามากขึ้นผ่านประเพณีสำคัญ ๆ 

นิพนธ์ นำทีมอ้อนขอคะแนน ปชป. วันสงกรานต์ ทั้งคน ทั้งพรรค ยันนโยบายประชาธิปัตย์มุ่งสร้างคน สร้างครอบครัวให้อบอุ่น

วันนี้ 13 เม.ย.66 นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นรถแห่ ออกเยี่ยมเยือนพี่น้องประชาชนเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ในเขตเลือกตั้งที่ 1 เขตเลือกตั้งที่ 2 และเขตเลือกตั้งที่3  พร้อมเป็นตัวแทนพรรคปชป. ขอคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชนทั้ง 3 เขตเลือกพรรคประชาธิปัตย์เบอร์ 26  จะได้นายชวน หลีกภัย  นายบัญญัติ บรรทัดฐาน  นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  นายนิพนธ์ บุญญามณี และเลือกผู้แทนของพรรคประชาธิปัตย์ทุกเขต ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566  ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีบัตรสองใบคือ เลือกผู้แทนเขต กาเบอร์ 4 และเลือกพรรคประชาธิปัตย์กาเบอร์ 26  

ฟิล์ม' แจง 'บัตรลุงป้อม700' ช่วยตรงเป้าไม่หว่านมั่ว ชี้!! มีที่มาของเงินชัดเจน แตะงบไม่ถึง 2 แสนล้านต่อปี

(13 เม.ย.66) จากการที่นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวพาดพิงถึงนโยบายบัตรประชารัฐ 700 บาท หรือบัตรลุงป้อม ของพรรคพลังประชารัฐ ที่นายเศรษฐา กล่าวว่าใช้เงินงบประมาณมากถึง 8 แสนล้านบาทนั้น นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์มผู้สมัคร ส.ส. เบอร์ 1 เขต 22 สวนหลวง ประเวศ ของพรรคพลังประชารัฐก็ได้ออกมาตอบโต้โดยระบุว่า ไม่น่าเชื่อว่าคนระดับนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยนั้นจะออกมาให้ข้อมูลที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนได้อย่างสิ้นเชิง 

โดยประการแรกบัตรประชารัฐนั้น จะเป็นสวัสดิการที่ดูแลคนไทยผู้เข้าหลักเกณฑ์ประมาณจำนวน 14 ล้านคน ไม่ใช่ 20 ล้านคน โดยตัวเลข 20 ล้านคนนั้นคือตัวเลขของผู้ที่ลงทะเบียนทั้งหมด แต่หลังจากที่หน่วยงานราชการได้ทำการคัดกรองแล้วพบว่ามีผู้ที่ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นเพียงประมาณ 14 ล้านคนเท่านั้น จากการวางหลักเกณฑ์ที่รัดกุม ยกตัวอย่างเช่นจะไม่ได้ดูเฉพาะตัวผู้ที่มาลงทะเบียนเท่านั้น แต่จะต้องดูรายได้รวมของคนในครอบครัวด้วย และผู้ที่จะมีสิทธิ์ได้รับการช่วยเหลือนั้นก็จะต้อง เป็นผู้ที่อยู่ใต้เส้นความยากจน หรือก็คือจะต้องมีรายได้ต่ำกว่า 1 แสนบาทต่อปี แตกต่างกับทางพรรคเพื่อไทยที่แจกทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ไม่วาจะมีรายได้น้อยหรือคนรวยก็ได้หมด 

ซึ่งทางพรรคพลังประชารัฐก็ได้คำนวณมาแล้ว การดูแลในส่วนนี้ จะใช้งบประมาณอยู่ที่ 9,800 ล้านบาทต่อเดือน หรือไม่ถึง 2 แสนล้านบาทต่อปี และเป็นการใช้เงินแบบทยอยใช้ มิใช่จ่ายหมดในครั้งเดียวจึงไม่มีปัญหาในเรื่องของการตั้งงบประมาณ โดยงบประมาที่ใช้นั้นก็จะนำมาจาก กองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม

'โภคิน' ฉะ!! แจกเงินดิจิทัลไม่ช่วยให้เศรษฐกิจยั่งยืน วอน!! อย่าหลงเชื่อบางพรรค อาจพาประเทศเสียหาย

‘โภคิน’ มองแจกเงินดิจิทัล 10,000 ไม่สร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ “ไทยสร้างไทย” ขอดูแลคนไทยทุกช่วงวัยอย่างเป็นระบบ โดยสร้างประชาชน ให้มีความรู้ ทักษะ มีสุขภาพดี อยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี มีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพ

(13 เม.ย.66) - นายโภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) แถลงข่าวกรณีที่พรรคเพื่อไทยมีนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านวอลเล็ต โดยตั้งคำถามว่า นโยบายการแจกเงิน ถูกต้องหรือไม่ ควรทำในระดับที่จำกัด เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในและความฝืดเคืองช่วงต้นๆ เพราะไม่ก่อให้เกิดผลผลิตใดๆ และเงินดิจิทัล คืออะไร ควรแจกทุกคนหรือไม่ ถ้าเท่าเทียมตามรัฐธรรมนูญ ทำไมต้องแจกตั้งแต่อายุ 16 ขณะเดียวกันเห็นว่า Decentralization Finance หรือการเงินแบบไม่รวมศูนย์มีการสร้างเงินตราขึ้นใหม่ จนทำให้เงินล้นโลก แต่อยู่ในมือคนเพียง 10% 

นายโภคิน กล่าวอีกว่า เงิน QE หรือ นโยบายทางการเงินที่ฉีกกฎนโยบายแบบดั้งเดิม ไม่ทราบว่าเพิ่มเท่าใด ส่วนเงินดิจิทัล คิดเป็นมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ จึงเกิดภาวะเงินเฟ้อที่ Fed (The Federal Reserve) ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตลอดตั้งแต่ปี 2565 จนวิตกกันว่าจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจถดถอย และเกิดการต่อต้านการครอบงำของ USD แจกให้คนจนทั่วโลกโดยเฉพาะช่วง Covid 19 ใน รูปแบบต่างๆ แต่ก็กลับไปที่คนรวยอีก

พรรคไทยสร้างไทย เห็นว่า รัฐธรรมนูญและกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกำหนดสิทธิของประชาชนในการมีชีวิตที่ดีไว้อย่างไร ในครรภ์ มาตรา 48 สิทธิของมารดาช่วงก่อนและหลังตลอด มาตรา 54 รัฐต้องให้เด็กทุกคนได้เรียนฟรี 12 ปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษาภาคบังคับอย่างมีคุณภาพ ก่อนวัยเรียนและ วัยเรียน โดยในวรรค 2 เด็กเล็กได้รับการดูแลและพัฒนาก่อนเข้ารับการศึกษา วรรค 3 ประชาชนได้รับการศึกษาตามความต้องการ วรรค 5 ตามวรรคและ 2 และ วรรค3 ช่วยผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งจะมีกองทุนให้

ส่วนในมาตรา 77 วัยทำมาหากิน ยกเลิกหรือปรับปรุงกฎหมายที่หมดความจำเป็น เป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตหรือการประกอบอาชีพโดยไม่ชักช้าเพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ประชาชน มาตรา 48 วรรค 2 วัยเกษียณ บุคคลซึ่งมีอายุเกิน 60 ปีและไม่มีรายได้เพียงพอแก่การยังชีพ และบุคคลผู้ยากไร้ย่อมมีสิทธิได้รับความช่วยเหลือที่เหมาะสมจากรัฐตามที่กฎหมายบัญญัติ

นายโภคิน กล่าวว่า ดังนั้นโยบายพรรคไทยสร้างไทย จึงสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ชีวิตของประชาชน ให้มีชีวิตที่มีศักดิ์ศรี มีความมั่นคงทุกช่วงวัย ต้องสร้างประชาชน ให้มีความรู้ ทักษะ มีสุขภาพดี ต้อง Liberate และ Empower ประชาชน ต้องสถาปนาความยุติธรรม ต้องขจัดคอรัปชันและธุรกิจสีเทา ซึ่งผลของสงครามการเมือง 2 ขั้ว ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ยากจน ความใหญ่โตและสิ้นเปลืองหรือการกดทับของรัฐราชการ การทุจริตคอรัปชัน

ธุรกิจสีเทาสีดำ การผูกขาด ทุนนิยมพรรคพวก จนทำให้ประชาชนพ่ายแพ้เจ็บปวดมาตลอด 17 ปีและเสพติดการแจก การช่วยเหลือแบบครั้งคราวเฉพาะหน้า ไม่ยั่งยืน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top