Wednesday, 18 June 2025
SPECIAL

'ผบช.ภ.9' แถลง รวบแก๊งค้ายาฯ ยึดเฮโรอีน หนัก 110 กก. ซุกรถกระบะ มูลค่า 300 ล้านบาท ปลายทางมาเลเซีย

เมื่อวานนี้ (5 ตุลาคม 2565) ที่ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า ภายในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9, แถลงว่า ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี, พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณรอง นายกรัฐมนตรี, พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., ให้หน่วยในสังกัด เร่งรัด กวดขัน จับกุม ยึดทรัพย์ เกี่ยวกับยาเสพติด ภายใต้การอํานวยการของ พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4, พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี, พ.ต.อ.กีรติ แวยูโซ๊ะ รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี และพ.ต.อ.ญาณพงศ์ อุบลบาน ผกก.สภ.เมืองปัตตานี

ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามนโยบายรัฐบาลให้มีการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง โดยให้ถือเป็นวาระแห่งชาติ โดยเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2565 เวลาประมาณ 23.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี ได้สืบสวนติดตามการลักลอบลำเลียงยาเสพติดรายใหญ่ ซึ่งได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการลักลอบลำเลียงขนยาเสพติด (เฮโรอีน) โดยใช้รถกระบะบรรทุก สีเขียว ไม่ทราบยี่ห้อ และ หมายเลขทะเบียน เพื่อจะนำเฮโรอีนไปส่งยังชายแดนไทย - มาเลเซีย ในช่วงเวลา ประมาณ 22.00 - 24.00 น.ของวันที่ 2 ตุลาคม 2565 

โดยบุคคลที่ลำเลียงเฮโรอีนมาเป็นบุคคลเพศชาย สัญชาติไทย วัยกลางคน จำนวน 2 คน ทาง พ.ต.อ.ญาณพงศ์ อุบลบาน ผกก.สภ.เมืองปัตตานี และ ร.ต.อ.ชูวิทย์ อ่อนขวัญเพ็ชร รอง สวป.สภ.เมืองปัตตานี หัวหน้า ชุด จับกุม จึงได้มีการวางแผนสกัดกั้นเพื่อจับกุม โดยตั้งจุดตรวจบริเวณถนนสาย 42 เมื่อผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ขับขี่ผ่านจึงได้เรียกตรวจแต่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ขับขี่หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุด จับกุมจึงไล่ติดตามจนสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางได้ที่บริเวณหน้าสถานีขนส่งจังหวัดปัตตานี ถนนสาย 42 ในพื้นที่ ต.ตะลุโบะ อ.เมือง จ.ปัตตานี ประกอบด้วย 

1.) นายลอดี เปาะเยะ อายุ 30 ปี ที่อยู่ 181 หมู่ที่ 5 ต.ไทรทอง อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี

2.) นายอาหะมะ ยามา อายุ 46 ปี ที่อยู่ 100 หมู่ที่ 5 ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี พร้อมของกลาง 

(​​1) เฮโรอีน น้ำหนักรวมประมาณ 110 กิโลกรัม

(2) รถยนต์กระบะตอนครึ่ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีเขียว รุ่นไทรตัน หมายเลขทะเบียน บน - 1521 ปัตตานี จำนวน 1 คัน

(​​3) โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ OPPO รุ่น A 54 สีน้ำเงิน จำนวน 1 เครื่อง

(​​4) โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ VIVO รุ่น 1610 สีดำ จำนวน 1 เครื่อง 

โดยกล่าวหาว่า 

1.) ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยกระทำเพื่อการค้า (ผู้ต้องหาที่ 1 และผู้ต้องหาที่ 2)

2.) (ผู้ต้องหาคนที่ 2) เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต สถานที่เหตุเกิด ริมถนนเพชรเกษมสาย 42 บริเวณหน้าสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดปัตตานี ต.ตะลุโบะ อ.เมือง จ.ปัตตานี ได้ตรวจยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 จำนวน 2 รายการ ดังนี้

1.) รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นสกุบปี้ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1 กต 7096 นราธิวาส จำนวน 1 คัน ราคาประมาณ 30,000 บาท

​​2.) รถยนต์กระบะตอนครึ่ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรตัน สีเขียว หมายเลขทะเบียน บน 1521 ปัตตานี จำนวน 1 คัน ราคาประมาณ 300,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สิน ที่ตรวจยึดประมาณ 330,000 บาท ​สำหรับมูลค่ายาเสพติด (เฮโรอีน)ที่สามารถตรวจยึดมาได้ เมื่อถูกนำส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านจะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 300,000,000 บาท ผบช.ภ.9 กล่าว

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม 2565 : สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช

อย่าสำคัญตน
ฝึกมองตัวเองให้เล็กเข้าไว้
หมายความว่า...
จงเป็นคนตัวเล็ก อย่าเป็นคนตัวใหญ่
จงเป็นคนธรรมดา อย่าเป็นคนสำคัญ
เวลาเกิดอะไรขึ้นกับเรา...
อย่าไปให้ความสำคัญกับตนเองมากเกินไป

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช

เฟ้นหา Miss Mobile Thailand 2022 สาวงามผู้เปี่ยมด้วยความสามารถ สมาร์ท และทันสมัย

วนมาบรรจบกันอีกครั้งกับเวทีการประกวด Miss Mobile Thailand 2022 โดย บริษัท เจมาร์ท โมบาย จำกัด ที่จัดมาอย่างต่อเนื่องมากกว่า 15 ปี เพื่อเฟ้นหาตัวแทนสาวงาม ภายใต้ชื่อการประกวด 'Miss Mobile Thailand' ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของตัวแทนของผู้หญิงสมัยใหม่ ที่มีความโด่นเด่นทั้งความงาม ความสามารถ และความทันสมัยทางด้านเทคโลโลยี    

เวทีการประกวด Miss Mobile ประจำปีนี้ มีขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจนถึงปลายเดือนกันยายน 2565 โดยในปีนี้เวที Miss Mobile จะเป็นสัญลักษณ์ของคนรุ่นใหม่ที่มีบุคลิกภาพที่ดี และมีทักษะ ความรู้ ความสนใจในเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สาย ซึ่งทางเจมาร์ท ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมให้เยาวชนรุ่นใหม่ ให้ใช้เวลาว่างอย่างเกิดประโยชน์ กล้าแสดงออกในทางสร้างสรรค์ รวมถึงต้องมีไหวพริบและท่วงท่าของสตรีที่สวยสง่า มีความนอบน้อม เฉลียวฉลาด และสื่อถึงแนวคิดของตัวเอง เพื่อปลุกความเชื่อมั่น ความมุ่งมั่นอันแรงกล้า ซึ่งสามารถนำไปใช้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคม และประเทศได้อีกด้วย

และในปีนี้ Miss Mobile Thailand 2022 ประจำปี 2022 จัดขึ้นที่ โรงแรม อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท จังหวัดเชียงใหม่ วันที่  30 กันยายน 2565 เวลา 17.00 น. 

ผบ.พล.ร.15 ปิดการฝึกหน่วยปฏิบัติภารกิจป้องกันชายแดน (บก.ควบคุม สุริโยทัย) เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับกำลังพลในการปฎิบัติภารกิจในปีงบประมาณ 2566 

วันที่ 29 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ค่ายกัลยาณิวัฒนา ตำบลกะลุวอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 เดินทางลงพื้นที่ เป็นประธานพิธีปิดการฝึกหน่วยปฏิบัติภารกิจป้องกันชายแดน (บก.ควบคุม สุริโยทัย) เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับกำลังพลในการปฎิบัติภารกิจในปีงบประมาณ 2566 ในพื้นที่ จังหวัดยะลา และ จังหวัดนราธิวาส เพื่อเป็นการปรับพื้นฐาน และทบทวน กำลังพลให้มีความรู้, ความเข้าใจหลักนิยม และพื้นฐานการปฏิบัติงานตามพันธกิจป้องกันชายแดน จนสามารถแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างมีประสิทธิผล โดยมีพันเอกยุทธนา สายประเสริฐ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 151  ตลอดจนผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองพลทหารราบที่ 15  เข้าร่วมในพิธี

ตามที่ กองพลทหารราบที่ 15 ได้กำหนดจัดการฝึกเตรียมความพร้อมให้กับหน่วยที่จะปฏิบัติภารกิจป้องกันชายแดน กองบังคับการควบคุมสุริโยทัยในพื้นที่จังหวัดยะลา และจังหวัดนราธิวาส มีกำหนดการฝึกตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ โดยได้จัดกำลังพลจากหน่วยขึ้นตรงกองพลทหารราบที่ 15  รวมทั้งสิ้น 410 นาย ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับพื้นฐาน และทบทวนกำลังพลให้มีความรู้ ความเข้าใจหลักนิยม และพื้นฐานการปฏิบัติงาน ตามพันธกิจป้องกันชายแดน 3 ประการของกองทัพบก ประกอบด้วย การเฝ้าตรวจ และป้องกันชายแดน การจัดระเบียบพื้นที่ และแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน  และการประสาน ความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้กำลังพลของหน่วย ทั้งเป็นบุคคล และเป็นหน่วย มีความรู้ในเรื่องของระเบียบวินัย การพัฒนาเสริมสร้าง สมรรถภาพร่างกาย ลักษณะทางทหารที่ดีและการปฏิบัติทางยุทธวิธี เป็นพื้นฐานต่อการฝึกขั้นสูงต่อไป เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ ในด้านต่างๆนอกเหนือจากความรู้ทางทหาร ให้กับกำลังพล สามารถปฏิบัติงาน ร่วมกับองค์กรต่างๆ ในพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม และมีประสิทธิภาพ เสริมสร้างปลูกฝัง อุดมการณ์ความรักชาติ เทิดทูนสถาบันหลัก คุณธรรมจริยธรรม และจิตวิญญาณของการเป็นทหารอาชีพ ให้เป็นที่ยอมรับ เชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนในพื้นที่ จชต. ตลอดจนเพื่อให้กำลังพลเข้ารับการฝึก ได้มองเห็นภาพของสถานการณ์ทางยุทธวิธี และปัญหาข้อขัดข้องต่างๆที่อาจจะต้องเผชิญ เมื่ออยู่ในสถานการณ์จริงให้ได้ใกล้เคียงมากที่สุด และสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆในเวลาปฏิบัติงานในพื้นที่จริง

จับหัวโจกและสมาชิกแก๊งหาดวัดใต้ ก่อเหตุรุมทำร้ายคู่อริ พบเกี่ยวข้องกับกลุ่มยิงอาวุธสงครามกลางเมือง

จากกรณีเมื่อวันที่ 24 ก.ย. 65 สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดีย ได้นำเสนอคลิปวิดีโอ เกิดเหตุทำร้ายร่างกายกันที่บริเวณร้านอาหารซิ๊กตี้นายบาร์ เลขที่ 69 ต.ธาตุ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี โดยกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 10 คน ได้พังประตูร้านเข้าไปทำร้ายร่างกาย น.ส.จุฑามาศ หรือจูน คชนะ อายุ 23 ปี, นายปฏิวัติ บุญเสนอ อายุ 19 ปี และนายสุรวิสิฐ หรือโก้ วิจิตรพณิชยากุล อายุ 33 ปี พร้อมกับทำลายกล้องวงจรปิดภายในร้าน และนำฮาร์ดดิสของกล้องวงจรปิดของร้านที่เกิดเหตุไปด้วย 

โดยกลุ่มชายดังกล่าวมีความเกี่ยวพันกับแก๊งเอกมัยหรือแก๊งหาดวัดใต้ ที่เคยใช้อาวุธปืนสงครามยิงต่อสู้กับแก๊งคู่อริ มีผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ปรากฎเป็นข่าวดังเมื่อประมาณ เดือนสิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา นั้น
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. เร่งสืบสวนคลี่คลายคดีที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ลดความหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากคนร้ายก่อเหตุอย่างอุกอาจต่อหน้าประชาชนเป็นจำนวนมาก และยังมีความเกี่ยวพันกับกลุ่มแก๊งค์ที่เคยใช้อาวุธปืนสงครามก่อเหตุยิงถล่มกันใน พื้นที่ จ.อุบลราชธานี 

โดย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผบก.สส.ภ.3 และพล.ต.ต.สถาพร เอมโอษฐ์ ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี เร่งสืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย จากการรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบสวนปากคำผู้เสียหาย ทราบว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ที่ก่อเหตุ มีนายเอกรินทร์ หรือ เสี่ยเอก เป็นหัวหน้าแก๊ง โดยมีสาเหตุเกิดจาก น.ส.จุฑามาศฯ ผู้เสียหาย มีปากเสียงทะเลาะวิวาทกับหญิงคนสนิทของเสี่ยเอก ทำให้เสี่ยเอกโกรธแค้นยกพวกมารุมทำร้าย น.ส.จุฑามาศฯ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง จนได้รับบาดเจ็บ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 7 ราย ตามหมายจับศาลจังหวัดอุบลราชธานี มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1.) นายเอกรินทร์ หรือเอก สุนทราเมธากุล อายุ 45 ปี ที่อยู่ 33 ถ.ห่อบำรุ่ง ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี 
2.) นายกิรินทร์ หรือเดียร์ เกลียวทอง อายุ 25 ปี ที่อยู่ 31/2 ซอยสุขาอุปถัมป์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี  
3.) นายอรรถพล หรืออิฐ ทัศน์ศรี อายุ 30 ปี ที่อยู่ 41/3 ถ.เขื่อนธานี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี  
4.) นายยศกฤศ หรือเต๋า ตุยาสัย อายุ 29 ปี ที่อยู่ 97 ถ.เขื่อนธานี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี  
5.) นายวุฒิพงศ์ หรือบัวขาว ทองบ่อ อายุ 27 ปี ที่อยู่ 140 ม.5 ต.หนองขอน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี  
6.) นายสุรชาติ หรือหนุ่ย ตุยาสัย อายุ 27 ปี ที่อยู่ 97 ถ.เขื่อนธานี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี  
7.) นายชุมพร หรือเหลื่อม สะอาด อายุ 32 ปี ที่อยู่ 64 ม.8 ต.บุ่งไหม อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี 

โดยกล่าวหาว่า ปล้นทรัพย์ และร่วมกันบุกรุกเคหสถานโดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย, โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป, ในเวลากลางคืนและร่วมกันทำให้เสียทรัพย์และซ่องโจร

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีนี้เป็นอีกคดีที่ได้รับความสนใจจากประชาชนและสื่อมวลชน กลุ่มผู้ก่อเหตุลงมือกระทำผิดโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย อีกทั้งยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ต้องหาที่เคยก่อเหตุใช้อาวุธสงครามยิงกันกลางเมืองอุบลราชธานีมาแล้ว เชื่อว่ายังมีผู้ก่อเหตุอยู่อีก 

ดังนั้นจึงต้องเร่งขยายผลจับกุมตัวมาดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดให้หมดทุกราย ซึ่งหลังจากนี้จะสั่งการให้ทางภ.จว.อุบลราชธานี มีมาตรการในการป้องกันเหตุลักษณะเช่นนี้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุรุนแรงเกิดซ้ำรอยขึ้นมาได้อีก พี่น้องประชาชนชาวอุบลราชธานีจะได้อยู่กันโดยสงบสุข มีความเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่านี้ ลดความหวาดกลัวภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด 

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน 2565 : หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป

ปัญญามากเกินไปขาดศรัทธา
กลายเป็น...ทิฐิมานะ
สมาธิมากเกินไปขาดปัญญา
กลายเป็น...โมหะ
ปัญญามากเกินไปขาดสมาธิ
กลายเป็น...ฟุ้งซ่าน

หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียนชี้แจงความคืบหน้ากรณีคนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่จังหวัดปัตตานี

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ขอเรียนชี้แจงถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายลอบวางระเบิดขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ไม้แก่น ได้ออกปฎิบัติหน้าที่บริเวณถนนสายไม้แก่น-ต้นไทร อ.ไม้แก่น จว.ปัตตานี ในเบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ดังนี้...

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 19.40 น. ของวันที่ 20 กันยายน 2565 ทาง สภ.ไม้แก่น ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายไม่ทราบชื่อ ไม่ทราบจำนวน ลอบวางระเบิด บริเวณบริเวณถนนไม้แก่น-ต้นไทร อ.ไม้แก่น จว.ปัตตานี ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจได้ออกปฎิบัติหน้าที่ในพื้นที่รับผิดชอบ ในเบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ในส่วนของผู้บาดเจ็บได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษา โดยหลังจากเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ EOD และเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อทำการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทำการพิสูจน์ทราบหาตัวคนร้ายเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายในการรักษาความสงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ภาครัฐและประชาชน ในการสอดส่องดูแลพื้นที่ชุมชนและสร้างเกราะป้องกันให้กับชุมชน รวมถึงหาข้อมูลในเชิงรุกเพื่อเป็นการป้องกันเหตุไปพร้อมกัน หากเกิดสถานการณ์ขึ้นก็ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี และเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ต่อไป 

เพื่อเป็นการสนองนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้กำชับสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยที่เกี่ยวข้องร่วมปฎิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง เร่งทำการสืบสวนสอบสวนหาข่าวเชิงรุก เพื่อเป็นการป้องกันเหตุ และเร่งหาตัวผู้กระทำความผิดอย่างเต็มที่ รวมถึงการใช้หลักนิติวิทยาศาสตร์ในการเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ การเก็บวัตถุพยานในสถานที่เกิดเหตุ และการตรวจพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งในการสอบสวนยังไม่ตัดประเด็นมูลเหตุจูงใจใดๆ และกำชับให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังในการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยให้มุ่งเน้นความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอแสดงความเสียใจต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากการปฎิบัติหน้าที่ พร้อมได้กำชับสั่งการให้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์และสวัสดิการที่เกี่ยวข้องให้เป็นอย่างดี ในส่วนของความเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป 

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน 2565 : หลวงปู่ชา สุภทฺโท

ถ้าความสุขของเรา
ขึ้นอยู่กับคนอื่น
รอให้คนอื่น
ทำให้ถูกใจเรา
เราจะไม่มีวัน...มีความสุข

หลวงปู่ชา สุภทฺโท

เปิดปฏิบัติการตรวจยึดทรัพย์ผู้ต้องหาเพิ่มอีกกว่า 309 ล้านบาท พร้อมสรุปสำนวนคดีทุจริตสหกรณ์พัทลุงส่งอัยการ

จากกรณีเมื่อวันที่ 24 ม.ค.65 ที่ผ่านมา กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นสมาชิกสหกรณ์จังหวัดพัทลุง ได้รวมตัวกันยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจาก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ช่วยติดตามคดีการทุจริตภายในสหกรณ์ออมทรัพย์จังหวัดพัทลุง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและครอบครัวที่เป็นสมาชิกได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก และคดีนี้ยังมีความสลับซับซ้อน แม้มีเจ้าหน้าที่หลายคนถูกพบว่ากระทำผิด แต่ยังสามารถทำงานในสหกรณ์ได้ ซึ่งอาจทำให้พยานหลักฐานต่างๆ สูญหายหรือถูกแก้ไขไปอีก ความเสียหายโดยรวมมีมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท นั้น

จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.เร่งสืบสวนและสอบสวนคดีที่เกิดขึ้น และได้ออกคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 293/2565 ลงวันที่ 22 มิ.ย.65 แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตามคำสั่งดังกล่าว มีอำนาจในการสืบสวนคดีร่วมกันทุจริตเงินสหกรณ์ออมทรัพย์พัทลุง จำกัด โดยประสานความร่วมมือกับ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง เลขา ป.ป.ง., พ.ต.ท.ธีรพงษ์ ดุลยวิจารณ์ ผอ.คด.4 ปปง., นางชลธิชา ดาวเรือง ผอ.คด.3 ปปง. เจ้าหน้าที่ ปปง. เพื่อเร่งคลี่คลายคดีและติดตามทรัพย์สินที่ถูกประทุษร้ายกลับคืนให้กลุ่มผู้เสียหายและดำเนินคดีกลุ่มผู้ต้องหาในความผิดฐานฟอกเงิน

พฤติการณ์ในคดี กล่าวคือ เมื่อปี พ.ศ.2563 ทางสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ได้มีการเปลี่ยนตัวผู้จัดการสหกรณ์ , คณะกรรมการดำเนินการชุดใหม่ และได้จัดให้มีการตรวจสอบหลักฐานทางบัญชีของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง พบความผิดปกติทางบัญชี การเงิน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทุจริตของคณะกรรมการดำเนินการ ฝ่ายจัดการเจ้าหน้าที่และบุคคลภายนอก จึงได้มีการร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และจากการสอบสวนพยานบุคคล และรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ปรากฏพบผู้ต้องหากับพวก ซึ่งเป็นคณะกรรมการดำเนินการ ผู้จัดการ เจ้าหน้าที่ ของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด และบุคคลภายนอก มีพฤติการณ์ร่วมกัน ตกลง วางแผน แบ่งหน้าที่กันทำ กระทำความผิดหลายกรรมหลายวาระต่างกัน เป็นเวลาต่อเนื่องกันมาเป็นเวลายาวนาน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2544 จนถึงปี พ.ศ.2563  โดยมีรูปแบบการกระทำความผิดและวิธีการ มากกว่า 10 วิธีการ เช่น การตกแต่งบัญชีของสมาชิกและไม่ได้เป็นสมาชิก การตกแต่งบัญชีลูกหนี้และลูกหนี้ที่ไม่มีตัวตน หรือตกแต่งบัญชีเกินความเป็นจริง การปลอมใบเสร็จรับเงิน เป็นต้น รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ  1,489,572,427.14 บาท
ในคดีนี้ได้มีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาไปแล้วทั้งสิ้นจำนวน 27 ราย แบ่งเป็น...

- เป็นผู้จัดการและเจ้าหน้าที่สหกรณ์ฯ จำนวน  12 ราย (คดีอาญา) 

- เป็นข้าราชการตำรวจ อยู่ในราชการ จำนวน 6 ราย ขณะกระทำความผิดมีตำแหน่งเป็นประธานกรรมการ รองประธาน และเหรัญญิก ซึ่งมีอำนาจลงนามสั่งจ่ายเช็ค (คดีอาญา) ร.ต.ต.พันธ์ชัยฯ รอง สว.(ป) สภ.เมืองพัทลุง, พ.ต.ท.วิเชียรฯ สว.กก.2 บก.ส.๑
ด.ต.ชุณฐกฤตม์ฯ รอง สว.กก.สส.ภ.จว.พัทลุง, ร.ต.อ.ธนเวทย์ฯ รอง สว.กก.สส.ภ.จว.พัทลุง, ร.ต.ท.หญิง อรุชาฯ รอง สว.ธุรการ สภ.โคกชะงาย และ ด.ต.สุทัศน์ฯ ผบ.หมู่ ป.สภ.ควนขนุน

- เป็นอดีตข้าราชการตำรวจ เกษียณแล้ว จำนวน 3 คน 

ขณะกระทำความผิดมีตำแหน่งเป็นประธานกรรมการ รองประธาน และสมาชิกสมทบ (คดีอาญา), พ.ต.อ.ชำนาญฯ อดีต ผกก.กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.พัทลุง, ร.ต.ต.ใจฯ อดีต ผบ.หมู่ ป.สภ.ควนขนุน และ ด.ต.วิชาฯ อดีต รอง สว.(ป) สภ.ศรีบรรพต เป็นสมาชิกสมทบ/ผู้นำเช็คไปขึ้นเงิน

- บุคคลภายนอก จำนวน 5 คน (คดีอาญา) 
เป็นสมาชิกสมทบ/ผู้นำเช็คไปขึ้นเงิน/รับโอนเงิน จำนวน 3 ราย (นางสารภีฯ, นายศิรัฐโรจฯ และนางมณฑาฯ) เป็นโปรแกรมเมอร์ จำนวน 1 ราย (นายวิเชียรฯ) เป็นผู้ตรวจสอบบัญชีภาคเอกชน จำนวน 1 ราย (นางพรศรีฯ)  

โดยกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป, ร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรืออยู่ในความครอบครองของนายจ้าง, ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกันปลอมเอกสาร และใช้เอกสารปลอม และดำเนินคดีในความผิดเป็นเจ้าพนักงานทุจริตต่อหน้าที่

- เป็นอดีตข้าราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ฯ เกษียณแล้ว จำนวน 1 ราย (ส่ง ปปช.)    

นางพัชราฯ ตำแหน่ง ผอ.ฯ ผู้ตรวจสอบบัญชีภาครัฐ
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 ส.ค.65 ได้มีปฏิบัติการเข้าตรวจค้น 74 เป้าหมายในพื้นที่ 9 จังหวัด เพื่อตรวจยึดและอายัดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด ซึ่งสามารถยึดอายัดทรัพย์สินได้มูลค่ากว่า 694 ล้านบาท มีรายละเอียด ดังนี้...

1.อายัดบัญชี ผู้ต้องหาจำนวน 37 บัญชี เงินคงเหลือในบัญชี  4,369,867.76 บาท  
2.ตรวจยึดบ้านพร้อมที่ดิน 28 หลัง 
3.ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 28 หลัง 
4.ห้องชุด 6 ห้อง 
5.ที่ดินเปล่า(โฉนด) 13 แปลง 
6.ที่ดินเปล่า (นส.3 ก.) 11 แปลง 
7.รีสอร์ต 1 แห่ง (หัวหิน) 
8.ตลาดสดนาโยง จ.ตรัง (6 ไร่) 
9.อายัดทุนเรือนหุ้นสหกรณ์ (ผตห.6ราย) 
10.รถยนต์ 19 คัน รถจักรยานยนต์ 12 คัน 

ต่อมาเช้าวันที่ 13 ก.ย.65 ได้เข้าตรวจค้นเพิ่มเติมอีก 25 จุด ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี, นครศรีธรรมราช, ตรัง และพัทลุง สามารถยึดอายัดทรัพย์สินได้เพิ่มเติมอีกกว่า 309 ล้านบาท
โดยทรัพย์สินที่สามารถติดตามยึดอายัดมาได้ในคราวนี้ ประกอบด้วย...

1. บ้าน จำนวน 7 หลัง โฉนดที่ดิน 5 แปลง (เพิ่ม)
2. ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 5 จุด
3. ที่ดินตามโฉนดที่ดิน จำนวน 18 จุด
4. อายัดหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ มูลค่า 52,311,640 บาท

รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกยึดอายัดในคราวนี้ 309,311,640 บาท

รวมมูลค่าทรัพย์สินตรวจยึดได้ทั้งหมด 1,003,753,140 บาท

อีอีซี ผนึกกำลัง อบจ.ระยอง ตรงเข้าพื้นที่คลายทุกข์ผู้ประสบอุทกภัย พร้อมเตรียมร่วมบูรณาการฯ วางแผนป้องกันระยะยาว

วันที่ 11-12 กันยายน 2565 นางธัญรัตน์ อินทร รองเลขาธิการฯ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พร้อมด้วยนางสาวพจนี อรรถโรจน์ภิญโญ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ด้านนโยบายและแผน และนายธัชพล กาญจนกูล รองเลขาธิการฯ และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี ลงพื้นที่ ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง (อบจ.ระยอง) เพื่อเร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งมีสาเหตุหลักจากปริมาณฝนจำนวนมาก ที่ตกลงอย่างหนักและต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดระยอง จนเกิดผลกระทบให้กับประชาชนในพื้นที่ และชุมชนในวงกว้าง 

'เพื่อไทย' ระดม 'ส.ส.-ว่าที่ผู้สมัคร-ส.ก.-ทีมงาน' ลงพื้นที่ช่วยปชช. หลังน้ำท่วมกรุงหนัก

เมื่อวันที่ 11 กันยายน นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานครพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายวราวุธ ยันต์เจริญ คณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานครพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่นำอาหารไปมอบให้พี่น้อง ชุมชนเลียบคลองเปรมประชากร ที่ประสบภัยน้ำท่วม ร่วมกับ นายตกานต์ สุนนทวุฒิ ส.ก.เขตหลักสี่ และ นายสมบัติ กนกทิพย์วรรณ ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ จากนั้น นายสุรชาติ เทียนทอง ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย และนายตกานต์ ได้ลงพบปะกับผู้ประสบภัยน้ำท่วมต่อ รับฟังปัญหาเพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือพร้อมกับคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครมหานคร และผู้อำนวยการเขตหลักสี่ ในชุมชนคลองเปรมพัฒนา ชุมชนมิตรประชา และชุมชนเปรมสุขสันต์ ซึ่งเป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ติดกับคลองเปรมประชากร

ขณะที่ ส.ส. ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. และส.ก. ของพรรคเพื่อไทย ได้ระดมกำลังและทีมงานลงพื้นที่ต่อเนื่อง โดยนายสุธนพจน์ กิจธนาภิทักษ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขตดอนเมือง และนางกนกนุช กลิ่นสังข์ ส.ก.เขตดอนเมือง พรรคเพื่อไทย  นำอาหารกล่องไปมอบให้กับชุมชนซอยอิ่มละมัย ชุมชนสะพานปูน และชุมชนร่มเย็นที่ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมประสานแก้ปัญหาเบื้องต้นให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมหาแนวทางแก้ไขเพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้น 

เขตลาดกระบัง น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวานิช ส.ส.เขตลาดกระบัง พรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่ พร้อมประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้เจ้าหน้าที่นำเรือผลักดันน้ำมาช่วยพร่องน้ำในคลอง เนื่องจากประสานไปทางกทม. แล้วแต่ ยังไม่ได้คำตอบว่าจะสามารถดำเนินการหรือไม่ อย่างไร ตอนไหน ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมส่งหนังสือขอความช่วยเหลือไปยังกองทัพเรืออีกครั้ง 

เขตบางกะปิ น.ส.นภัสสร พละระวีพงศ์ ส.ก.เขตบางกะปิ พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมเช่นกันโดยเร่งประสานงานช่วยเหลือประชาชน ทั้งนึ้ น.ส.นภัสสร กล่าวว่า ขอขอบคุณนายนพ ชูสอน ผู้อำนวยการเขตบางกะปิ และเจ้าหน้าที่ทุกๆท่าน เร่งสูบน้ำ เร่งบรรจุกระสอบทรายเพิ่ม เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนที่น้ำท่วมเข้าบ้าน  และนำไปปิดอุดรอยรั่วที่เป็นฟันหลอ ป้องกันน้ำทะลักเข้าท่วม ด้านเจ้าหน้าที่เทศกิจได้นำรถออกบริการประชาชน

มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก จัดตั้งโรงครัวพระราชทานช่วยผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.ระยอง

เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่บริเวณสถานีรายงานบ้านเพ ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมสูงในหลายพื้นที่ของจังหวัดระยอง ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนมาก มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ได้จัดตั้งโรงครัวพระราชทานเพื่อประกอบอาหารข้าวกล่องเมนูข้าวกระเพราหมู-ไข่ต้ม มอบให้แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ จ.ระยอง โดยมีนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง และนายศุภมงคล รัตนจิตร ผู้จัดการแผนกปฏิบัติการ สายงานปฏิบัติการภัยพิบัติ มูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ร่วมปรุงอาหารข้าวกล่องดังกล่าว พร้อมกับมอบถุงยังชีพของสภากาชาดไทยให้ผู้บริหาร  อปท.ผู้นำ กำนัน และ ผญบ.ไปแจกจ่ายประชาชนผู้ได้รับผลกระทบทุกครัวเรือนต่อไป 

ต่อมานายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง ลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ต.บ้านนา ต.ทุ่งควายกิน ต.ทางเกวียน อ.แกลง พบบริเวณถนนสายโพธิ์ทอง-บ้านนา ที่ถูกน้ำท่วมน้ำหนัก น้ำลดลงเกือบแห้งแล้ว มีบางจุดที่เป็นที่ลุ่มยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ โดยได้ร่วมกับทุกภาคส่วนนำถุงยังชีพพระราชทาน จากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ จำนวน 2,000 ถุง มอบให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้วย 

'วิโรจน์' ชี้ แค่ขุดลอกคูคลองไม่เพียงพอแก้ปัญหาน้ำ แนะ!! ในปีงบฯ หน้าต้องเร่งปรับปรุง 'อุโมงค์ระบายน้ำ' 

(11 ก.ย. 65)​ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับการแก้ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ โดยมีรายละเอียดดังนี้

น้ำท่วม กทม. แก้แค่เส้นเลือดฝอยเอาไม่อยู่ ต้องทะลวงเส้นเลือดใหญ่ด้วย

ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ของปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ กทม. ในปี 2565 นี้ นั้นเกิดจากฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง จนเกินกว่าขีดความสามารถของระบบระบายน้ำที่มีอยู่ ซึ่งแตกต่างจากปี 2554 ที่เกิดจากน้ำเหนือที่หลากลงมาจากการพายุที่เข้าประเทศไทยถึง 5 ลูก โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าปริมาณฝนเฉลี่ยตลอดปี 2565 น่าจะพอๆ กับ ปี 2564 (ปี 65 น้อยกว่าปี 64 อยู่เล็กน้อย) แต่น่าจะมากกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 30 ปี

ที่ผ่านมา ส.ก.ก้าวไกล ได้ติดตาม และกำกับการตระเตรียมระบบระบายน้ำของ กทม. อย่างใกล้ชิด ยืนยันว่าฝ่ายบริหารก็พยายามเร่งรัดการลอกท่อระบายน้ำอย่างเต็มที่ และในหลายพื้นที่ก็พบปัญหาท่อระบายน้ำอุดตัน เนื่องจากไม่ได้ลอกท่อมานาน

ผมเข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบกับปัญหาน้ำท่วมขังเป็นอย่างดี และยืนยันว่าประชาชนสมควรที่จะไม่พอใจ และติติงระบบระบายน้ำของ กทม. แต่ผมคิดว่ายังเร็วเกินไปที่จะกล่าวโทษผู้ว่าที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งเพียงไม่กี่เดือน

สิ่งหนึ่งต้องยอมรับกันตรงๆ ก็คือ ศักยภาพในการระบายน้ำของ กทม. นั้นมีปัญหาจริงๆ และลำพังแค่การลอกท่อระบายน้ำ ที่เป็นเส้นเลือดฝอย นั้นอาจไม่เพียงพอ เพราะในหลายพื้นที่แม้ว่า ส.ก.ก้าวไกล จะได้เร่งรัดการลอกท่อระบายน้ำไปแล้ว มีเครื่องสูบน้ำไปประจำการแล้ว แต่น้ำก็ยังระบายได้ช้า และท่วมขังอยู่

น้ำที่ท่วมขัง ณ วันนี้ เป็นหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า แค่เส้นเลือดฝอย เอาไม่อยู่แน่ครับ

'รัฐบาล' เร่งผลักดัน 'มวยไทย' สู่เวทีโลก ต่อยอดให้เป็นที่นิยม เพิ่มมูลค่าทางศก. ให้ประเทศ

(11 ก.ย. 65) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า รัฐบาลสนับสนุนการจัดทำแผนแม่บทส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์สำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยยกมวยไทยเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์สำคัญวางแผนประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จัก ส่งเสริมให้เป็นกีฬาเชิงศิลปะป้องกันตัวในระดับนานาชาติ โดยจะบูรณาการการทำงานทุกภาคส่วนเพื่อต่อยอดกีฬาของไทยให้เป็นที่นิยมในวงกว้าง ซึ่งจะช่วยเผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรมไทยและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศด้วยซอฟต์พาวเวอร์ โดยกำหนดส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ 5 หมวด (5F) ได้แก่ อาหาร (Food), ภาพยนตร์ (Film), เทศกาล (Festival), แฟชั่น (Fashion) และการต่อสู้ (Fighting) ซึ่งสามารถขยายประเภทออกเป็นสินค้าและบริการท่องเที่ยวได้จำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กีฬามวยไทย ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้ได้รับความนิยม มีความงดงามในท่วงท่าการเคลื่อนไหว รวมทั้งยังนำไปประยุกต์ใช้ในการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ทุกคนสามารถฝึกฝนได้อีกด้วย

'ลุงป้อม' ปลื้ม!! นักตบลูกยางสาวไทยชนะต่อเนื่อง ชื่นชมความท็อปฟอร์ม แสดงถึงฝึกซ้อมมาเต็มที่

รองโฆษกรัฐบาล เปิดเผย 'พล.เอกประวิตร' ปลื้มผลงานนักตบลูกยางสาวไทยชนะต่อเนื่อง นัดที่ 2 ชนะรวด 3 เซ็ต ชมท็อปฟอร์มแสดงถึงฝึกซ้อมมาเต็มที่

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการนายกรัฐมนตรี ได้ติดตามชมเพื่อเป็นกำลังใจเชียร์ทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยที่ลงสนามแข่งนัดแรกของการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงอาเซียน กรังด์ปรี 2022 ครั้งที่ 2 มาตลอด และวันนี้ (10 กันยายน 2565) ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติอินโดนีเซีย ทีมชาติสาวไทยก็สามารถเอาชนะไปได้ 3-0 เซ็ต


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top