Thursday, 19 June 2025
SPECIAL

‘ตำรวจ’ แนะ 5 ทริก จับโป๊ะสลิปโอนเงินปลอม หลังระบาดหนัก ทำพ่อค้าแม่ขายหวาดผวา

(15 พ.ย. 65) ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.ท.ธเทพ ไชยชาญบุตร รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกรณี ชายหญิงตระเวนใช้สลิปปลอมหลอกซื้อของไปทั่วตลาด ที่ จ.อ่างทอง ​พ.ต.ท.ธเทพ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าวพ่อค้าแม่ค้าตลาดนัดต่างหวาดผวากันอย่างหนัก หลังมีหญิงสาวอายุราว 30 ปี กับชายวัยกลางคน ตระเวนซื้อของทั้งเสื้อผ้า ของใช้ภายในตลาดนัดในพื้นที่ จ.อ่างทอง โดยใช้วิธีชำระเงินโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร และแสดงสลิปการโอนเงินให้ตรวจสอบให้กับแม่ค้าดู แต่ปรากฏว่าหลังตรวจสอบยอดเงินปรากฏว่า ไม่มีเงินเข้ามาทั้งที่ตอนที่แสดงให้ดูก็มีการโอนเงินสำเร็จแล้ว ในกรณีดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝากเตือนพ่อค้าแม่ค้าระมัดระวัง หากมีการโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันก็ให้ตรวจสอบยอดเงินทันทีจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพเหล่านี้

สำหรับวิธีการตรวจสอบสลิปปลอมมีดังนี้

1.) สังเกตความละเอียดของ ตัวเลข หรือ ตัวหนังสือ หากเป็นสลิปปลอม แบบของตัวหนังสือบนสลิป ในส่วนของ ชื่อผู้โอน จำนวนเงิน วันที่ เวลา อาจจะเป็นตัวหนังสือคนละแบบ หรือความหนา บางของตัวอักษรจะไม่เท่ากัน หากเป็นเช่นนี้ อาจตั้งข้อสงสัยได้ว่าเป็นสลิปปลอม
2.) สแกน QR Code บนสลิปโอนเงินแบบ E-Slip สามารถตรวจสอบ ชื่อผู้โอน จำนวนเงิน วันและเวลาที่โอนเงินได้ หากยอดเงินไม่ตรง หรือไม่สามารถตรวจสอบได้ ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนเลยว่าเป็นสลิปปลอม

3.) ใช้บริการแจ้งเตือนของธนาคาร ซึ่งจะแจ้งเตือนเมื่อมียอดเงินเข้าบัญชี สามารถนำไปเทียบยอดเงินกับสลิปได้

4.) ใช้ระบบจัดการร้านค้าที่มีฟังก์ชันตรวจสอบสลิปการโอนเงินอัตโนมัติกรณีที่ร้านค้าออนไลน์มียอดการสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก และมีการโอนเงินเข้าหลายรายการ สามารถเลือกใช้ระบบจัดการร้านค้าที่มีระบบตรวจสอบสลิป และยอดเงินเข้าอัตโนมัติ เพื่อช่วยให้ร้านค้าประหยัดเวลา และลดขั้นตอนการตรวจสอบ สลิปปลอม

ตำรวจเข้ม ทริปน้ำไม่อาบ จับกุมรถ 200 กว่าคัน  สกัดไม่ให้สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชน

วันที่13 พ.ย.65 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร  ได้สั่งการให้พล.ต.ต.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ กวดขันวินัยจราจร ปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง กรณีกลุ่มรถจักรยานยนต์แก๊ง”น้ำไม่อาบ”ออกทริปในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์

จากกรณีปรากฎตามสื่อสังคมออนไลน์ การชักชวนออกทริปของกลุ่ม “น้ำไม่อาบ” ซึ่งเป็นการนัดหมายรวมตัวกันของกลุ่มวัยรุ่นผู้ที่ชื่นชอบในการขับขี่รถจักรยานยนต์ โดยมีการรวมตัวกันมาจากหลายพื้นที่ จุดหมายปลายทางไปร่วมกันทำกิจกรรมที่เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

โดย พล.ต.ต.ฐเดช ได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันปราบปรามการแข่งรถในทางของ ศปข.ตร. ในพื้นที่ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทางที่ทำกิจกรรม เพื่อเข้มงวดกวดขันตั้งด่านสกัดกดดันกลุ่มผู้ขับขี่ดังกล่าว ไม่ให้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านผู้ใช้รถใช้ถนนตลอดเส้นทาง ซึ่งมีผลการปฏิบัติเป็นที่น่าพอใจ ดังนี้

 

สตม.ระดมกวาดล้างอาชญากรรม ห้วงระหว่างวันที่ 10 ต.ค. - 12 พ.ย.65

ตามที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมระดับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค หรือความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation : APEC) ประจำปี พ.ศ.2565 (APEC 2022 Thailand) ในห้วงระหว่างวันที่ 14 - 19 พ.ย. 65 ประกอบกับนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  หักพาล รอง ผบ.ตร., และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ที่กำชับให้ สตม. ดำเนินการระดมกวาดล้าง สืบสวนจับกุม ผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 โดยเน้นการกระทำความผิดเกี่ยวกับการ   อยู่เกินกำหนดอนุญาต (Overstay) และความผิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง
เพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัยในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ที่กำลังจะมีขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ อีกทั้งทำให้การปฏิบัติงานด้านการป้องกันปราบปราม สืบสวนจับกุม เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์    ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.อภิมุข กานตยากร รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ รอง ผบก.สส.สตม. จึงดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค  โดยมีเป้าหมายหลัก เป็นคนต่างด้าวที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง และเมื่อมีการจับกุมผู้กระทำความผิดได้แล้ว ให้ขยายผลการจับกุมทุกรายเพื่อให้ทราบถึงผู้ร่วมกระทำความผิด เครือข่ายของผู้กระทำความผิด และให้ดำเนินการติดตามจับกุมผู้ร่วมกระทำความผิด/เครือข่ายของผู้กระทำความผิด ต่อไป

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน 2565 : หลวงตามหาบัว ญาณสมุปนฺโน

ยึดในสิ่งใด...
ย่อมตกเป็นทาสของสิ่งนั้น
เมื่อไม่ยึดก็ไม่ทุกข์
เมื่อไม่ถือก็ไม่หนัก
เหตุของความทุกข์ก็มีเพียงเท่านี้
รู้แล้ว..วางเป็น ..ก็เย็นสบาย

'ตำรวจ' รวบ นักลวงผ่านแอปฯ ไลน์ พบประวัติหลอกเหยื่อออนไลน์โชกโชน

วันที่ 12 พ.ย. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น.ดูแลงานสืบสวน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. จับกุมนายเอกชัย คนึงคิด อายุ 26 ปี ชาวจ.พะเยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงธนบุรี ที่ 271/2564 ลงวันที่ 5 ต.ค. พ.ศ.2564 ข้อหา 'ฉ้อโกง' จับกุมตัว บริเวณลานจอดรถ ภูผาทองอพาตเม้นท์ หมู่ 6 ทางคู่ขนาน ถนนพหลโยธิน ต. เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2565 เวลา 18.30 น. ที่ผ่านมา      

สืบเนื่องจากชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนนครบาล IDMB กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ทำการสืบสวนจับกุมตัวคนร้ายที่เป็นตัวการในการก่อเหตุใช้แอปพลิเคชันไลน์ชื่อบัญชี 'รับจำนำรถยนต์' ทักไปลวงผู้เสียหายซึ่งได้มีการไปโพสต์ประกาศตามหารถยนต์ส่วนตัวซึ่งหายไปเมื่อประมาณปี 2562 ในเพจซื้อขายรถยนต์มือสองต่างๆ พร้อมกับให้ข้อมูลติดต่อกลับไว้ 

เมื่อผู้ต้องหาเห็นโพสต์ประกาศตามหารถยนต์ของผู้เสียหาย จึงได้ใช้แอปพลิเคชันไลน์ชื่อบัญชี 'รับจำนำรถยนต์' ทักไปแจ้งกับผู้เสียหายว่ารถยนต์คันที่ผู้เสียหายตามหานั้น ณ เวลานั้นอยู่กับตนโดยเป็นรถที่มีคนนำมาจำนำและหลุดจำนำแล้ว ถ้าผู้เสียหายอยากได้รถคือให้ผู้เสียหายมาติดต่อรับด่วน โดยได้ให้ผู้เสียหายส่งเอกสารเกี่ยวกับรถคันดังกล่าวให้ แต่ต้องโอนเงิน จำนวน 75,000 บาท (โดยแบ่งเป็นเงินต้น 70,000 บาท และดอก 5,000 บาท) มาให้เพื่อรับรถคืน เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินจำนวน 75,000 บาท ให้คนร้ายครบ คนร้ายจึงได้ทำการปิดกั้นการติดต่อกับผู้เสียหาย 

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ตลอดจนการซักปากคำรับสารภาพของผู้ต้องหายังพบข้อมูลว่า ณ ปัจจุบัน คนร้ายที่ถูกจับกุมยังมีพฤติกรรมสร้างบัญชีเฟซบุ๊กเข้าไปหลอกขายอาวุธปืนผิดกฎหมายในกลุ่มคนเล่นปืนกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่มสมาคมคนรักปืน, กลุ่มสมาคมคนรักอาวุธปืน V.1, กลุ่มสหายคนรักปืน, กลุ่มชมรมคนรักลูกโม่, กลุ่มสมาคมคนรักGUN 

ผบ.ตร.ส่งชุดปฎิบัติการพิเศษ ภ.จว.ลำปาง บุกจับ ชายคลั่ง มือยิงกล่องข้าวน้อย กลางทุ่งนาดับ 1 เจ็บ 1 ตำรวจเข้าระงับเหตุถูกยิงอีก 1 ล่าสุดจับกุมตัว คุมสถานการณ์ได้แล้ว 

กรณีชายคลั่งยิงคนกลางทุ่งนา ตาย 1 เจ็บ 1 ตำรวจเข้าระงับเหตุถูกยิงเจ็บอีก 1 โดยเหตุอุกอาจดังกล่าว เกิดขึ้นวานนี้ (9 พ.ย.65) เวลา 15.30 น. นายพีระ อมรศิริวัฒนา หรืออาห่า อายุ 55 ปี ซึ่งมีอาการทางจิต เกิดคลั่งใช้อาวุธปืนพกปืนสั้น ยิงคนกลางทุ่งนา ขณะกำลังเกี่ยวข้าวในพื้นที่ หมู่ที่ 9 ต.จางเหนือ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง 

เกี่ยวกับความคืบหน้า ล่าสุด วันนี้ (10 พ.ย. 65) เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.เปิดเผยว่า หลังจากที่สั่งการด่วนให้ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 และ พล.ต.ต.มงคล สัมภะวะผล  ผบก.ภ.จ.ลำปาง นำชุดปฏิบัติการพิเศษ ร่วมกับกำลังตำรวจ สภ.แม่เมาะ ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดลำปาง กำลังอส. และนปพ. ประมาณ 100 นาย เข้าไล่ล่าและกดดันมือปืนผู้ก่อเหตุ พร้อมทั้งนำโดรนขึ้นบินค้นหา 

ขณะนี้ ตำรวจได้จับกุมตัวนายพีระ อมรศิริวัฒนา หรืออาห่า ควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณแนวป่าลึก ที่คนร้ายหลบหนีไปซ่อนตัว 

รวบแล้ว ‘ตัวตึงนครพนม’ หลอนยาบ้า ซิ่งรถปล่อยมือหวาดเสียว โดนตั้ง 10 ข้อหาหนัก

ตามที่ปรากฎในข่าวกรณีชายวัยกลางคนขับขี่รถจักรยานยนต์ปล่อยมือกางแขนเซไปมาบนท้องถนน สร้างความอันตรายบนท้องถนน ล่าสุดตำรวจตามรวบตัวได้แล้ว โดนตั้ง 10 ข้อหาหนัก

ล่าสุดวันนี้ (10 พ.ย. 65) เวลา 09.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง (ผอ.ศปข.ตร.), พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปข.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม ตรวจสอบ โดยได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ชัยพร พงษ์ศักดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม และ พ.ต.อ. แสวง คนคล่อง ผกก.สภ.ท่าอุเทน ตรวจสอบและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่

จากการตรวจสอบทราบว่าบุคคลดังกล่าว คือ นายสำราญชัย สอนสา อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 23 หมู่ 13 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

จนต่อมาเมื่อวันที่ (8 พ.ย. 65) เวลาประมาณ 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอุเทน ชุดจับกุม ได้ตรวจสอบทราบว่า นายสำราญชัยฯ ไปทำงานกรีดยางที่สวนยางพาราท้ายหมู่บ้านปุ่งแก หมู่ 13 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม จึงได้ติดตามไปพบนายสำราญชัยฯ นั่งอยู่ข้างกระท่อมในสวนยางพารา เมื่อพบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แสดงท่าทางมีพิรุธต้องสงสัยว่าจะมีสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ จึงได้เข้าควบคุมตัวและแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจค้นตัวและรถ จยย. ผลการตรวจค้นตัว พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) จำนวน 1 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในปลอกปากกาเมจิกสีฟ้าซ่อนอยู่ในกระเป๋าข้างเอวด้านขวา 

ตำรวจบุกจับครูหนุ่มรร.ดัง ย่านสมุทรปราการ เปิดกลุ่มลับในแอปฯ VK ขายคลิปลามกเด็ก

ตำรวจไซเบอร์ บุกจับครูประถม  รร.ดังย่านสมุทรปราการ เปิดกลุ่มลับใน  VK ตั้งชื่อตามหนังดัง WAKANDA และ T’Challa เผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็ก และล่วงละเมิดทางเพศเด็ก

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผบด.ตอท. พ.ต.อ.รุ่งเลิศ คันธจันทร์ ผกก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท.พ.ต.ต.เขมอธิษฐ์ ทองคำ สว.พ.ต.ต.ณัฐพงค์ เผือกเนียม สว., พ.ต.ต.กวิน  นิติธรรมตระกูล สว. กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท นำกำลังจับกุมนายณัฐดนัย (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ครูสอนวิชาสังคมศาสตร์ ป.4. โรงเรียนชื่อดังย่านสมุทรปราการ ในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามก, 2. ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น และ3. เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ , คอมพิวเตอร์ , ซิมโทรศัพท์ และบัญชีธนาคาร รวม10 รายการ จับกุมได้ที่คอนโด ภายใน ซอยสุขุมวิท 105 ถนนสุขุมวิท แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กทม.

ตร. บุกตรวจจับกุมค้าปืนออนไลน์ 10 จุดทั่วกทม. ยึด ‘ยาเสพติด - ปืน 40 กระบอก - กระสุน 2,000 นัด’

(9 พ.ย. 65) เวลา 11.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผบช.น., พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รองผบช.น., พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผกก.ดส.บช.น., พ.ต.ท.นราธิป คงเพ็ชร์, พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล, พ.ต.ท.ชยุต ยอดยิ่งนาทกุล รองผกก.ดส.บช.น., พ.ต.ต.หญิง พรรัมภา พัฒนาวาท สว.กก.ดส พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.2 กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร.ชป.2 และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส.บช.น. แถลงผลระดมปิดล้อมตรวจค้นผู้ค้าอาวุธปืนออนไลน์การกระทำความผิดในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 10 จุด 

ได้จับกุมนายเรืองวิทย์ คุปตพันธ์ อายุ 25 ปี, นายนพเก้า สายโสภา อายุ 33 ปี, นายศิรศิลป์ ศรีมะเริง อายุ 32 ปี, นายอัฐพันธ์ คงสกุล อายุ 20 ปี, นายเอ อายุ 16 ปี และนายธัญพิสิษฐ์ บุณยธรรม อายุ 24 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนและอุปกรณ์ส่วนควบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดปืนพกสั้น 28 กระบอก ปืนลูกซอง 12 กระบอก ปืนยาวไรเฟิล 1 กระบอก แม็กกาซีน ขนาด 5.56 มม. จำนวน 5 อัน กระสุนปืนรวม 2,248 นัด ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) จำนวน 2 ถุง น้ำหนักรวม 48.64 กรัม ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 59 เม็ด จับกุมได้เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา 

พล.ต.ต.นิตินันท์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องทางพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีนโยบายปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนทางออนไลน์ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ดำเนินการเพื่อป้องเหตุที่จะเกิดขึ้นช่วงประชุมเอเปก จากการสืบสวนทางชุดสืบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร.ชป.2 และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส.บช.น. ได้ทำการขออนุมัติศาลขอหมายค้น 10 จุดทั่วกรุงเทพมหานคร จับกุมผู้ต้องหาได้ 6 ราย อาวุธปืน 41 กระบอก กระสุนปืน 2,248 นัด ยาเสพติดจึงนวนหนึ่ง จากการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่า กลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวได้มีการสั่งปืนออนไลน์จากผู้กระทำความผิดที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเคยได้จับกุมไปก่อนหน้านี้ จากนั้นจึงได้มีการขยายผลการจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าว

‘ลูกชายบุญทรง’ ขอท้าชน ‘ตระกูลชินวัตร’เข้าสังกัด พปชร. ชิงเก้าอี้ ส.ส. เชียงใหม่

ย้อนปูมยิ่งลักษณ์ - บุญทรง..กับการโกหกคำโต ปล่อยลูกน้องติดคุกเดียวดายไร้การเหลียวแล สุดท้ายกลายเป็นรอยแค้น ส่งผ่านถึงทายาทบุญทรง เตรียมลงชิงเก้าอี้ ส.ส. เชียงใหม่ เขต 5 หรือลูกจะชำระแค้นแทนพ่อ

กลายเป็นประโยคอมตะทางการเมืองไปแล้ว สำหรับประโยคบอกเล่า แต่เป็นการเล่าความเท็จหรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า ‘โกหกหน้าด้าน ๆ’ ประโยคนั้นคือ “พี่คะ..รอหนูแป๊บ.. ใกล้ถึงแล้วค่ะ” แล้วคนพูดก็หายตัวไปโผล่อีกทีที่ต่างแดน ทิ้งให้คนรอเดินคอตกเข้าคุกยาว จนป่านนี้ก็ยังไม่ได้ออกมา

คำว่า ‘หิริโอตัปปะ’ หรือความละอายต่อบาปคงใช้กับสองพี่น้องตระกูลชินวัตรไม่ได้ พี่ชายหักหลัง ‘สมัคร สุนทรเวช’ หลอกให้แต่งชุดขาวเต็มยศมารอเก้อ ส่วนคนน้องก็หลอกลูกน้องมารอหน้าศาล แล้วล่องหน

ส่วนคำโกหกอีกครั้ง ของพี่น้องตระกูลชินวัตร เกิดขึ้นภายหลังจากพรรคเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ซึ่งในครั้งนั้นพรรคเพื่อไทยได้จำนวน ส.ส. 265 คน  

การเลือกตั้งครั้งดังกล่าวส่งผลให้ ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย โดยมีนโยบายสำคัญที่โดนใจชาวบ้าน อย่าง โครงการรับจำนำข้าว และโครงการรถคันแรก

อย่างไรก็ดี จากผลพวงนโยบายรับจำนำข้าวที่ผิดพลาด ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่กลายเป็นโครงการที่มีการทุจริตคอร์รัปชันมากที่สุด สร้างความเสียหายให้รัฐนับแสนล้านบาท และมีผู้ที่เกี่ยวข้องต้องเดินคอตกเข้าคุกกันเป็นแถว

หลายคนอาจจำไม่ได้ว่าเรื่องนี้มีความเป็นมาอย่างไร ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2560 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาคดี ‘ทุจริตจำนำข้าว’ อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง ‘น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นจำเลย ฐานกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 

เช้าวันนั้นชาวเสื้อแดงแห่มาให้กำลังใจนายหญิงเนืองแน่น  แต่นายหญิงไม่โผล่มาตามนัดหมาย ศาลฯ อ่านคำพิพากษาคดี ‘บุญทรง เตริยาภิรมย์’ อดีต รมว.พาณิชย์ ติดคุกแทน ถึง 42 ปี ในคดีทุจริตระบายแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี  และชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 16,000 ล้านบาท ทำให้บุญทรงตรงเข้าคุกทันที 

ตอนหลังมีการเปิดเผยว่า นายหญิงชินวัตรโทรหาบุญทรงแล้วหลอกว่า พี่คะ.. รอหนูแป๊บ..ใกล้ถึงแล้วค่ะ แต่สุดท้ายก็ให้บุญทรงรอเก้อ ทิ้งทุกคนให้ติดคุก ไอ้คำว่า “ใกล้ถึงแล้วค่ะ” นี่น่าจะหมายถึงใกล้ถึงชายแดนเขมรที่มีตำรวจนายหนึ่งพานายหญิงหนีนั่นแหละ หักหลังซึ่งหน้า ทั้งที่บุญทรงทำงานรับใช้ใกล้ชิดครอบครัวทักษิณ ชินวัตรมาตลอด 

ต่อมามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2562 เพิ่มโทษบุญทรง อีก 6 ปี จากเดิมในชั้นศาลอุทธรณ์ ถูกจำคุก 42 ปี เพิ่มเป็น 48 ปี  เมื่อไม่นานมานี้ บุญทรงขออนุญาตออกจากคุกเพื่อมางานศพแม่ 

ภาพ บุญทรง  เตริยะภิรมย์ ที่เคยหล่อเหลาแข็งแรงคือภาพชายร่างผอมซูบซีดผมหงอกขาว ท่ามกลางความโศกเศร้าของผู้มาร่วมงาน กลับไม่ปรากฎเงาของสมาชิกตระกูลชินวัตรเลยแม้แต่คนเดียว จนถึงทุกวันนี้  บุญทรงยังเก็บงำความลับตระกูลชินวัตรไว้อย่างเหนียวแน่น เช่นเดียวกับตอนที่บอกเพื่อนรักอย่างสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เกี่ยวกับคดีจีทูจีเก๊โครงการรับจำนำข้าว ว่า ‘กูพูดไม่ได้’

ศาลสั่งสอบเพิ่ม 16 เอี่ยว 'แก๊งฟอเร็กซ์' ร่วมตุ๋นประชาชน 14 คนรับทราบข้อหา อีก 2 ชิ่ง เตรียมถูกล่าข้ามแดน

ตามที่พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 มีหนังสือแนะนำให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินคดีแก่บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (Forex 3D) เพิ่มเติมอีกจำนวน 16 ราย และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้อนุมัติให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 273/2565 นั้น

วานนี้ (8 พ.ย. 65) คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ คดีพิเศษที่ 273/2565 จึงได้ดำเนินการยื่นคำร้องขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองรายที่หลบหนีไปดังกล่าวต่อศาลอาญา และศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองรายดังกล่าวแล้ว ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 2411/2565 และ ที่ 2412/2565 ตามลำดับ ทั้งนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จะได้ดำเนินการประสานงานกับกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ เพื่อดำเนินการขอส่งตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายเป็นผู้ร้าย ข้ามแดนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

‘ตร.’ เผย เตรียมประสาน ‘INTERPOL’ ล่า 3 นายทุนจีน หลังหลบหนีออกนอกประเทศ

รองผบ.ตร. เตรียมขอตำรวจสากลออกหมายจับ 3 นายทุนจีนเปิดสถานบันเทิงผิดกฎหมาย ที่หลบหนีออกนอกประเทศ พร้อมประสาน ปปง.ตรวจเส้นทางการเงินยึดทรัพย์ทั้งเครือข่าย

วันที่ (8 พ.ย. 65) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.เปิดเผยความคืบหน้าในการสืบสวนกลุ่มผู้ต้องหาสัญชาติจีนที่เข้ามาทำธุรกิจสถานบันเทิงผิดกฎหมายในไทย ว่า การสืบสวนขณะนี้พบว่ามีผู้ต้องหาหลัก 5 คน ตำรวจจับได้แล้ว 2 คน ส่วนอีก 3 คน ได้หลบหนีไปต่างประเทศโดยใช้เครื่องบินส่วนตัวบินหลบหนีไปหลังจากที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นสถานบันเทิงจินหลิง ย่านยานนาวา และพัทยา ในห้วง 1-3 วันหลังจากการเข้าตรวจค้นจับกุม 

ทั้งนี้ได้สืบสวนจนพบว่ามีการนำเงินไปฟอกซื้อทรัพย์สิน ห้องพัก คอนโดมิเนียม และรถยนต์หรู อยู่จำนวนมากในกรุงเทพมหานคร จึงเข้าตรวจค้นในหลายแห่งตามหมู่บ้านหรู คอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมือง สามารถยึดทั้งทรัพย์สิน และเงินสดไว้ตรวจสอบได้หลายร้อยล้านบาท

สาวโรงงานสุดทน เจอหัวหน้าชาวอินเดีย 'ขอจับนม' แถมขู่ห้ามบอกใคร ไม่งั้น "ยูตายแน่ๆ"

(7 พ.ย. 65) จากเพจ 'ข่าวสารชลบุรี-ระยอง' ได้โพสต์รับเรื่องร้องเรียนจากแฟนเพจ ระบุว่า...

ขออนุญาตปรึกษาค่ะ พอดีเราโดนชาวอินเดียที่เป็นหัวหน้างานกระทำอนาจาร ลวนลาม เรามีหลักฐานหมดทุกอย่างแจ้งไปวันที่ 31 ตุลา ทางโรงงานพยายามบอกว่าไม่ให้แจ้งความรอคุยกะกับผู้บริหาร

เราเดินไปถามทุกวันว่าเรื่องถึงไหนแล้วทาง HR ตอบกลับมาแค่ว่า "รอนาย" แค่นั้น จนวันที่ 4 พ.ย. ทางบริษัทยื่นหนังสือมาให้ 1 ฉบับ คือ ไล่ออกแล้วนะ ทั้งที่โรงงานไทยและอินเดีย ในหนังสือแจ้งว่ามีผลตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. แต่ไม่ยอมแจ้งเราให้เรารอแต่นาย 

พอถามถึงคู่กรณีทางบริษัทไม่มีความชัดเจนเรื่องข้อมูลว่าเขาอยู่ที่ไหน เจรจาไปเมื่อไหร่ HR ตอบได้แค่ว่าไม่รู้ ทำได้แค่นี้ ไล่ออกแค่นั้น ไม่ได้ให้เราคุยกับคู่กรณีเลยเขาคุยกันหลังไมค์อย่างเดียวเลยค่ะ

ลาดตระเวนออนไลน์ สืบสวนนครบาล รวบ 'ยีน สะพานสอง' หลอกเอารถหรูเหยื่อในโลกออนไลน์ ด้วยเช็คเด้ง!!

วันนี้ (7 พ.ย. 65) พล.ต.ต.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น.ดูแลงานสืบสวน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.เฉลิมพงษ์ ธรรมมียะ พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รองผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. จับกุมนายณัฐสันต์ วัฑฒนาธร อายุ 39 ปี หมายจับของศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 756/2565 ลงวันที่ 21 ต.ค. 2565 ในความผิดฐาน 'ยักยอก', ศาลแขวงธนบุรี ที่ 431/2565 เลขคดีดำที่ อ603/2564 เลขคดีแดงที่ อ952/2564 ลงวันที่ 23 ส.ค. 2565 ในฐานความผิด 'ฉ้อโกง' ศาลแขวงนนทบุรี ที่ 416/2565 ลงวันที่ 10 ตุลาคม 2565 ในฐานความผิด “ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินในเช็ค และออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้นไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้” และศาลแขวงพระนครเหนือ ที่จ.341/2565 ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2565 ในความผิดฐาน 'ยักยอก'

พร้อมด้วยของกลางรถยนต์ ยี่ห้อ Mercedes benz รุ่น e250 cgi coupe สีขาว หมายเลขทะเบียน 1ขอ 9598 กทม. (ขณะจับกุมสวมทะเบียน ญฉ 345 กทม), รถยนต์ ยี่ห้อ Mercedes BENZ รุ่น CLA250 สีขาว หมายเลขทะเบียน กจ 686 กทม. (ขณะจับกุมสวมทะเบียน 5กภ 4219 กทม.) รถยนต์ HONDA รุ่น HRV ทะเบียน 5กน 6004 กทม. จับกุมได้บริเวณหน้าโรงแรมบีบีเฮ้าส์ คลองตัน ถ. เพชรบุรี แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่  6 พ.ย.เวลาประมาณ 08.50 น. ที่ผ่านมา

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.เร่งปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ อันส่งผลกระทบและสร้างความเดือดร้อนและส่งผลกระทบแก่พี่น้องประชาชนเป็นวงกว้าง ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนนครบาล IDMB รับแจ้งว่ามีคนร้ายจะหาเหยื่อตามเพจ facebook ต่าง ๆ ที่ประกาศขายรถหรู เช่น รถผ่อนต่อไม่ไหว, ผ่อนต่อไม่ไหว ยกรถให้ฟรีหรือขายดาวน์ หลอกเอารถยนต์ไปเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนให้ประชาชนจำนวนมาก พฤติการณ์ในการกระทำความผิดพบว่า นายณัฐสันต์ หรือยีน วัฑฒนาธร จะหาเหยื่อตามเพจ facebook ต่าง ๆ ที่ประกาศขายรถหรู เช่น รถผ่อนต่อไม่ไหว, ผ่อนต่อไม่ไหว ยกรถให้ฟรีหรือขายดาวน์ เป็นต้น

ตร.เตือน ยิ่งปืนขึ้นฟ้า ค่านิยมผิด อันตรายถึงชีวิต โทษหนักจำคุกสูง 10 ปี วอนประชาชน เป็นหูเป็นตา

โฆษก ตร. ห่วงความปลอดภัยลอยกระทง เตือน 'ยิงปืนขึ้นฟ้า' ค่านิยมผิด อันตรายถึงชีวิต โทษหนักจำคุกสูง 10 ปี วอนประชาชน เป็นหูเป็นตา

(7 พ.ย. 65) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. ออกมาเตือน 'การยิงปืนขึ้นฟ้า' เฉลิมฉลองเทศกาลลอยกระทง ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต และผิดกฎหมาย สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น 

โฆษก ตร. กล่าวว่า ผบ.ตร. มีความกังวล ในช่วงเทศกาลลอยกระทง ที่ประชาชนทำกิจกรรมเฉลิมฉลองต่าง ๆ ทั้งนี้ขอย้ำว่าการ 'ยิงปืนขึ้นฟ้า' เป็นค่านิยมที่ผิด และก่อให้เกิดอันตรายทั้งต่อตนเอง และผู้อื่น โดยอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top