Tuesday, 17 June 2025
NEWS FEED

ทำเสียชื่อกันสุด ๆ เมื่อพบแก๊งมิจฉาชีพชาวจีนแอบผลิตวัคซีน Covid-19 ปลอม โดยใส่น้ำเกลือธรรมดา อ้างสรรพคุณเป็นวัคซีน Covid-19 เตรียมจำหน่ายทั้งในจีน และต่างประเทศ

หลังจากที่มีการพบวัคซีนปลอม กระจายเกลื่อนในหลายเมืองของจีน ตำรวจจากมณฑลเจียงซู ปักกิ่ง และ ซานตง ได้ร่วมสรรพกำลังสืบสาวจนถึงต้นตอ เพื่อทลายแก๊งวัคซีนปลอมให้ได้ ล่าสุดพบตัวแล้ว สามารถจับกุมตัวได้มากกว่า 80 พร้อมของกลางที่ยึดได้พร้อมส่งอีกกว่า 3,000 โดส

แต่สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ แก๊งวัคซีนปลอม มาจากโรงงานผลิตวัคซีนแห่งหนึ่ง ที่แหล่งข่าวจีนไม่ได้ระบุชื่อ และเริ่มทำธุรกิจหลอกขายวัคซีนปลอมมาตั้งแต่กันยายน 2020 ที่ผ่านมาแล้ว โดยใช้น้ำเกลือแทนตัวยาที่เป็นวัคซีนจริงๆ และจัดส่งไปขายแล้วหลายเมือง ในราคาสูง แถมเตรียมที่จะผลิต ล็อตใหญ่ส่งออกต่างประเทศด้วย โดยมีเป้าหมายที่จะแอบลักลอบส่งวัคซีนปลอมไปขายในทวีปแอฟริกา

ซึ่งยังโชคดีที่ช่วงนี้ทางการจีนยังเข้มงวดเรื่องการเดินทางเข้า-ออก นอกประเทศ จึงเชื่อว่ายังไม่น่ามีวัคซีนปลอมกระจายออกไปยังตลาดต่างประเทศ

ส่วนวัคซีนปลอมที่กระจายส่งภายในจีน ทางการจีนยืนยันว่าติดตามได้หมดแล้ว และหากแก๊งวัคซีนปลอมใช้น้ำเกลือในการผลิตทั้งหมด ก็จะไม่มีอันตรายกับผู้ที่รับวัคซีนปลอมไปแล้ว แต่ก็เป็นข่าวที่สั่นคลอนความเชื่อมั่นไม่น้อยทีเดียว

เนื่องจากก่อนหน้าที่แก๊งวัคซีนปลอมจะถูกจับ ได้ส่งขายวัคซีนปลอมออกขายไปแล้วไม่ทราบจำนวน รวมๆไปกับวัคซีนแท้ ที่อาจเล็ดลอดการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ เนื่องจากตอนนี้อยู่ในช่วงที่วัคซีน Covid-19 มีความต้องการสูงมากในท้องตลาด ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้มีข่าวว่า มีชาวญี่ปุ่นออกมาร้องเรียนว่าได้วัคซีน Covid-19 ที่เชื่อได้ว่าเป็นของปลอมจากจีน ที่เคยมีเรื่องมีราวกับทางสถานทูตจีนมาแล้ว ที่ออกมาตอบโต้ว่าไม่เป็นความจริง

แต่ทั้งนี้ ยังไม่มีการยืนยันว่าจะมีบทลงโทษอย่างไรกับผู้ต้องหาคดีวัคซีนปลอมในครั้งนี้ แต่หากอ้างอิงจากฎหมายว่าด้วยเรื่องยา และวัคซีนฉบับใหม่ของจีนระบุโทษไว้ว่า ผู้ที่ผลิตและจำหน่ายยา หรือวัคซีนปลอมมีโทษปรับสูงตั้งแต่ 15 - 50 เท่าของมูลค่าสินค้า ที่ต้องมาพิสูจน์กันอีกทีว่าจำหน่ายไปแล้วกี่ชุด

ซึ่งก็เคยมีคดีศึกษาของการผลิตยา หรือซีนที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ที่เกิดขึ้นในบริษัทยาฉางชุน ฉางเฉอ ในมณฑลซานตง ในการผลิตวัคซีนป้องกันโรคคอตีบจำนวน 250,000 ชุด ก็โดนโทษปรับไป 3.4 ล้านหยวน ซึ่งถือว่าเล็กน้อยมากหากเทียบกับผลกำไรของบริษัทต่อปีที่สูงถึง 566 ล้านหยวน

ดังนั้นรัฐบาลจีนจึงมีการปรับแก้กฎหมายใหม่เพิ่มโทษปรับให้สูงขึ้น แล้วก็โดนกับบริษัทยาเจ้าเดิม ที่ผลิตวัคซีนพิษสุนัขบ้าไม่ได้มาตรฐาน คราวนี้เจอโทษปรับไปถึง 9 พันล้านหยวน ซึ่งผู้บริหารก็ถูกจับกุม ดำเนินคดีด้วย

ก็หวังว่าจีนจะเอาจริง ตามจับแก๊งวัคซีน Covid ปลอมได้หมดจดจริง ๆ ไม่อย่างนั้นเสียชื่อสถาบันจีนหมด


อ้างอิง

https://www.globaltimes.cn/page/202102/1214637.shtml

https://www.scmp.com/news/china/politics/article/3120083/chinese-police-detain-80-selling-fake-covid-19-vaccines

https://edition.cnn.com/2021/02/01/asia/china-fake-covid-vaccines-intl/index.html

คนจะซวย ช่วยไม่ได้จริง ๆ เมื่อหนุ่มไต้หวัน ที่ขอเปิดเผยแค่ว่าชื่อนายเฉิน ถูกทางการไต้หวันปรับเงินถึง 1 ล้านเหรียญไต้หวัน เนื่องจากฝ่าฝืนมาตรการกักตัว 14 วัน หลังจากที่เขาเพิ่งกลับจากฮ่องกงในวันที่ 30 ตุลาคมปีที่แล้ว

แต่ทว่า เรื่องราวนี้คดีพลิก เพราะนายเฉินอ้างว่าตัวเขาคือเหยื่อ ไม่ใช่จำเลยสังคมที่อยู่ดีๆก็ออกมาเดินเพ่นพ่านทั้ง ๆ ที่อยู่ในช่วงกักตัว

นายเฉินเล่าว่า ตัวเขาเพิ่งเดินทางกลับจากฮ่องกง และทำเรื่องว่าจะไปกักตัวเอง 14 วันที่บ้านเพื่อนในเมืองหนานโถว

แต่ระหว่างที่อยู่บ้านเพื่อน กลับพบนักทวงหนี้ จึงรู้ว่าเพื่อนของเขากำลังหนีเจ้าหนี้นอกระบบ แล้วนักทวงหนี้ก็เข้าใจว่าตัวเขาคือลูกหนี้ จึงเข้ามาข่มขู่รีดไถเอาเงิน และก็ยังทำร้ายร่างกายเขาอีก บังคับให้เขาจ่ายเงินให้ได้

นายเฉิน บอกว่านักทวงหนี้บีบให้เขาต้องรีบเดินทางกลับบ้านตัวเองเพื่อไปเอาเงิน และยังประกบติดตามตัวเขาตลอดเวลา หลังจากที่จ่ายเงินบางส่วนไป ก็เขารีบไปหาตำรวจ แต่กลับถูกจับ ปรับเงิน 1 ล้านเหรียญข้อหาฝ่าฝืนมาตรการกักตัว

สำหรับกฎระเบียบเรื่องการกักตัว 14 วันในไต้หวันถือเป็นกฎเหล็กสุดเข้ม หากใครฝ่าฝืนมีโทษปรับ 1 ล้านเหรียญไต้หวันทุกกรณี โดยไม่มีข้ออ้างว่าจะออกจากสถานที่กักตัวนานแค่ไหน และเพื่ออะไร

ดังตัวอย่างเช่น คนงานฟิลิปปินส์ที่ถูกกักตัวในโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองเกาสง แค่เดินออกจากห้องแต่ 8 วินาที ก็โดนปรับ 1 ล้านทันทีโดยไม่มีข้อโต้แย้ง

แต่สำหรับเคสของนายเฉิน ทางการไต้หวันยังพอปรานีอยู่บ้าง ที่จะยกเว้นโทษปรับให้ จากคำให้การว่าเขาถูกบีบบังคับ และลักพาตัวให้ออกจากสถานที่กักตัว และกลายเป็นครั้งแรกที่ไต้หวันจะละเว้นโทษปรับนับล้านจากการฝ่าฝืนมาตรกสรกักตัวให้

แต่ทั้งนี้ ข้ออ้างเรื่องการถูกนักทวงหนี้ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย และรีดไถเงิน จะยังคงสืบสวนต่อว่าเป็นความจริงหรือไม่

หากไม่มีหลักฐานยืนยันว่าคำบอกเล่าของนายเฉินเป็นเรื่องจริงหล่ะก็ คงได้คดีพลิกอีกรอบ และนายเฉิน ก็เปิดบ้านรองานเข้าได้เลย เพราะนอกจากต้องจ่ายเงินล้านแล้ว ยังมีสิทธิ์คิดคุกข้อหาแจ้งความเท็จอีกกระทงด้วย


อ้างอิง

https://www.taiwannews.com.tw/en/news/4113852

https://edition.cnn.com/travel/article/taiwan-quarantine-kidnap-intl-hnk-scli/index.html

EXIM BANK แจงรัฐประหารในเมียนมา ยังไม่ส่งผลกระทบต่อลูกค้า และการค้าการลงทุนไทย - เมียนมา

นางวรรธนา มงคลศรี รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK ได้ติดตามสถานการณ์รัฐประหารในเมียนมาอย่างใกล้ชิด และพบว่ายังไม่มีลูกค้า EXIM BANK ได้รับผลกระทบ เนื่องจากผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่เข้าไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศของเมียนมา

นอกจากนี้ EXIM BANK ยังมีบริการประกันการส่งออกคุ้มครองความเสี่ยงแก่ผู้ส่งออกไทยจากการไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อหรือธนาคารผู้ซื้อในต่างประเทศ ทั้งจากสาเหตุทางการค้าและการเมือง รวมทั้งบริการประกันความเสี่ยงการลงทุน (Investment Insurance) คุ้มครองความเสี่ยงทางการเมือง

กรณีโครงการลงทุนได้รับความเสียหายจากการดำเนินนโยบาย กฎระเบียบ หรือการดำเนินการใด ๆ ของรัฐบาลในประเทศที่เข้าไปลงทุน จนมีผลกระทบในทางลบต่อโครงการและความสามารถในการชำระคืนเงินกู้ของนักลงทุน

ทั้งนี้ ในปี 2563 ไทยและเมียนมามีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 6,593 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นการส่งออกจากไทยไปเมียนมา 3,798 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้าของไทยจากเมียนมา 2,795 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเมียนมาเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 17 ของไทย คิดเป็นสัดส่วน 1.6% ของมูลค่าส่งออกรวม ในปี 2563 ที่ผ่านมามูลค่าส่งออกของไทยไปเมียนมาหดตัว 13% เนื่องจากวิกฤตโควิด-19 ทำให้การค้าชายแดนมีอุปสรรคในการขนส่งสินค้าและความต้องการบริโภคของเมียนมาชะลอตัวลง

"EXIM BANK โดยสำนักงานผู้แทนในย่างกุ้ง เมียนมา จะติดตามสถานการณ์ในเมียนมาอย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อประเมินผลกระทบในระยะสั้นและระยะถัดไปต่อการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับเมียนมา และช่วยเหลือดูแลด้านการเงิน

รวมถึงเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุน เพื่อให้ลูกค้าและผู้ประกอบการไทยสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเพื่อผ่อนคลายผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองและการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน" นางวรรธนา กล่าว

ครม.ปรับเกณฑ์ ‘เราชนะ’ อีกรอบ เปิดให้ร้านธงฟ้า - รถเร่ขายของ - สามล้อถีบ ร่วมโครงการได้ ลงทะเบียนถึง 12 ก.พ. แต่ห้ามใช้ซื้อทองคำ - อัญมณี

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.รับทราบมาตรการเยียวยาประชาชนในโครงการ "เราชนะ" ซึ่งทางสภาพัฒน์ฯได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเล็กน้อย โดยสาระสำคัญคือ เดิมผู้ประกอบการที่เป็นธงฟ้าอาจจะมีข้อที่ทำให้เกิดความไม่ชัดเจนว่า ถ้าเป็นนิติบุคคลจะสามารถเข้าร่วมโครงการได้หรือไม่ เพื่อให้เกิดความชัดเจนถ้าเป็นธงฟ้าในรูปนิติบุคคล สามารถเข้าร่วมโครงการได้

นอกจากนี้ ร้านค้าในโครงการคนละครึ่งสามารถเข้าร่วมโครงการเราชนะได้ และผู้ประกอบการของกองทุนหมู่บ้าน กองทุนชุมชนเมือง หรือผู้ประกอบการของชุมชนก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้เช่นเดียวกัน รวมถึงผู้ประกอบการที่สามารถตรวจสอบหลักแหล่งได้แต่เป็นประเภทรถ เช่น สามล้อถีบก็สามารถเข้าร่วมได้ ซึ่งทั้งหมดสามารถไปลงทะเบียนร่วมโครงการได้ที่เว็บไซต์เราชนะตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม - 31 มีนาคม 2564 นี้

นายอนุชา กล่าวว่า "สำหรับกรณีที่จะใช้เงินในโครงการเราชนะไปซื้อสินค้า เช่น ทองคำ หรือร้านค้าที่ขายของประเภทของเก่าที่ขายพวกเพชร พลอย ทอง นาค เงิน หรืออัญมณี อันนี้ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการเราชนะได้ เนื่องจากดูแล้วไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่จะช่วยเหลือเรื่องค่าครองชีพ"

‘อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ’ อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 3 ประกาศพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ในนามพรรคพลังประชารัฐอีกรอบ หวังล้างตาสำเร็จ

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 3 เดินทางมาเปิดตัวแสดงความพร้อม ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส. นครศรีธรรมราช ว่า วันนี้มาแสดงความจำนง เพื่อขอลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม แทนนายเทพไท เสนพงศ์ ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง โดยเป็นการดำเนินการตามขั้นตอน ก่อนที่กรรมการบริหารพรรคจะประชุมเพื่อเลือกตามขั้นตอน โดยพร้อมแข่งขันไม่ว่าจะเป็นกับพรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคการเมืองใดก็แล้วแต่ เพราะคือวิถีทางประชาธิปไตย ที่จะต้องมีการเลือกตั้ง และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ

โดยไม่ได้คิดว่าจะได้รับเลือกหรือไม่ได้รับเลือก ไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น และส่วนตัวก็รู้จักนายเทพไท และน้องชายของนายเป็นอย่างดี เพราะทำงานในพื้นที่ก็ได้เจอกัน ส่วนการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ตนได้คะแนนห่างจากนายเทพไท ไม่มาก ในครั้งนี้จึงเชื่อมั่นว่าประชาชนจะไว้วางใจพรรคพลังประชารัฐ

ผู้สื่อข่าวถามว่าบรรยากาศการเลือกตั้งจะดุเดือดหรือไม่ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ประกาศจะรักษาแชมป์ไว้ให้ได้ นายอาญาสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ได้มองว่าเป็นการรักษาแชมป์ เพราะไม่ใช่นักมวย แต่มองว่าเป็นเรื่องของการทำงาน วัดกันที่ความดี ความสามารถ และประชาชนให้ความเชื่อถือ จึงขอเสนอตัวลงแข่งขันในครั้งนี้ และไม่กังวลว่าจะถูกกลั่นแกล้ง เพราะยึดหลักธรรมะ ปฏิบัติและพูดความจริง ไม่ไปกลั่นแกล้งใครและจะไม่ทำอะไรที่ขัดหลักประชาธิปไตย และขณะนี้ยังไม่ได้ไปแสดงตนที่จะลงสมัครกับพล.อ.ประวิตร เพียงแต่ทำตามขั้นตอนปฎิบัติเท่านั้น และไม่ทราบว่าพรรคจะเลือกใครลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ วันนี้เดินทางมาที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ ก็เพื่อพบปะกับ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรภาคใต้ ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ และยังไม่ได้พบกับพล.อ.ประวิตร

ครม.ไฟเขียวแก้กฎกระทรวงให้ ใส่ชื่อตัวเอง บนแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ระบุให้ มีตัวอักษรผสมสระ และ วรรณยุกต์ ได้ เล็งเปิดประมูลเป็นการทั่วไป นำรายได้เข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน หลัง "ขนส่ง" ประกาศใช้

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบหลักการกำหนดแผ่นป้ายทะเบียนรูปแบบพิเศษ โดยกำหนดให้ผู้ที่อยากมีป้ายทะเบียนรถยนต์ที่มีชื่อของตัวเองสามารถมีได้

หลังจากครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดขนาด ลักษณะ และสีของแผ่นป้ายทะเบียนรถและการแสดงแผ่นป้ายทะเบียนรถและเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี เป็นที่เรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งทางกรมการขนส่งทางบกจะไปออกประกาศให้มีผลบังคับใช้ต่อไป

สำหรับสาระสำคัญของกฎหมาย เป็นการกำหนดให้ลักษณะของแผ่นป้ายทะเบียนสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน มีตัวอักษรมากกว่า 2 ตัว หรือตัวอักษรผสมสระ หรือ วรรณยุกต์ หรือตัวเลขได้ เพื่อนำลักษณะแผ่นป้ายดังกล่าวและหมายเลขทะเบียนซึ่งเป็นที่นิยมหรือเป็นที่ต้องการของประชาชนออกเปิดประมูลเป็นการทั่วไป เพื่อนำรายได้เข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน

ทั้งนี้ในปัจจุบันได้มีการกำหนดลักษณะของแผ่นป้ายทะเบียนของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน และรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล จะแบ่งออกเป็น 2 บรรทัด บรรทัดที่ 1 ประกอบด้วยตัวอักษรประจำหมวดตัวที่ 1 ตัวอักษรประจำหมวดตัวที่ 2 และหมายเลขทะเบียนไม่เกิน4หลัก บรรทัดที่ 2 เป็นตัวอักษรแสดงชื่อจังหวัด

"อย่างเช่นชื่อไตรศุลี ก็สามารถใส่เป็น ไตรศุลี 1 ศรีสะเกษ ได้" นางสาวไตรศุลี กล่าวยกตัวอย่าง

นายศรชัย สุเนต์ตา กรรมการผู้จัดการ Chief Investment Officer บริษัท หลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด วิเคราะห์ปรากฎการณ์หุ้น Gamestop ในสหรัฐอเมริกา ที่กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ในวงการตลาดทุนในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

บทเรียน GAMESTOP เมื่อตลาดหุ้นถูกเปลี่ยนเป็น ‘MONEY GAME’ กำเนิดปรากฏการณ์ ‘แมงเม่า’ เขย่าจักรวาล ชัยชนะของนักลงทุนรายย่อย ถล่ม กองทุนรายใหญ่ (Hedge Fund) ราบคาบ และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของฟองสบู่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ?

นายศรชัย สุเนต์ตา กรรมการผู้จัดการ Chief Investment Officer บริษัท หลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด วิเคราะห์ปรากฎการณ์หุ้น GameStop ในสหรัฐอเมริกา ที่กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ในวงการตลาดทุนในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า

ดูเหมือนว่าสงครามในตลาดการเงินที่รายย่อยได้โต้กลับนักการเงินใน Wall street โดยเฉพาะกลุ่ม Hedge Fund นั้นจะเริ่มขยายวงกว้าง จากจุดเริ่มต้นที่มีผู้ใช้งานในเว็บ Reddit ห้อง wallstreetbets ที่เป็นชุมชนขนาดใหญ่คล้ายเว็บ pantip.com ในบ้านเรา ได้โพสต์วิเคราะห์ว่าหุ้น GameStop ที่เป็นร้านขายเครื่องเกมส์ และแผ่นเกมส์ที่แนวโน้มธุรกิจกำลังถูก Disrupt จากที่ผู้บริโภคซื้อเกมส์ผ่านช่องทางดิจิตอลนั้น ราคายังต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน และได้ถูกยืมหุ้นไปขายล่วงหน้าหรือเรียกว่า Short Sell จำนวนมาก

ชาวชุมชนใน Reddit จึงได้ชักชวนนักลงทุนคนอื่น ให้ซื้อหุ้นตัวนี้ส่งผลให้ราคาปรับตัวจากระดับ 39 ดอลลาร์สหรัฐ จากวันที่ 19 มกราคม 2564 ขึ้นไปที่ 347 ดอลลาร์สหรัฐ ในวันที่ 27 มกราคม 2564 หรือปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึง 789% โดยใช้เวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ เรียกได้ว่ากองทุน Ark Invest หรือ Bitcoin ที่สร้างผลตอบแทนได้สูงมากในปีก่อน ก็เทียบไม่ติดเลยทีเดียว

GameStop Short Squeeze จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นมากแค่ไหน

โดยปกติแล้วหุ้นที่ไม่ได้มีน้ำหนักในดัชนีสูงจะไม่ค่อยกระทบกับตลาดหุ้นในภาพรวมเท่าใดนัก แต่ในครั้งนี้เพราะว่ามีกองทุนอย่าง Melvin Capital ซึ่งมีผู้ร่วมลงทุนอย่างบริษัท Citadel และPoint 72 ได้ทำการ Short sell หุ้น GameStop ไว้เป็นจำนวนมากโดยจะได้กำไรหากหุ้นปรับตัวลดลง แต่ในทางกลับกัน หากหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น จะสามารถขาดทุนมากกว่าเงินต้นที่ลงทุนไว้ เพราะหุ้นนั้นราคาปรับลดลงได้ไม่ต่ำกว่า 0 แต่ตอนปรับตัวขึ้นนั้น กลับไม่มีเพดานจำกัดไว้ หรือเรียกได้ว่าเป็นการลงทุนที่ “จำกัดกำไร แต่ไม่จำกัดขาดทุน”

อีกทั้งการที่นักลงทุนรายย่อยดันหุ้นขึ้นไปทำให้ บริษัทที่เงินทุนจำกัดต้องจำใจปิดสถานะทั้งที่ขาดทุน โดยการที่ต้องนำเงินไปซื้อหุ้นในตลาดมาคืน หรือถูก “Short Squeeze” ก็ยิ่งเป็นการเร่งให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นไปอีก โดยสื่อต่างประเทศคาดว่าผู้ที่ทำการ Short sell ในครั้งนี้จะเสียหายราว 2 หมื่นล้านดอลลาร์ สหรัฐ หรือประมาณ 6 แสนล้านบาท

คำถามที่สำคัญก็คือปัจจุบันคนที่ Short Sell นั้นยอมแพ้ หรือปิดสถานะหรือยัง เพราะหากยังไม่ปิดสถานะกองทุนจะต้องมีเงินใหม่เข้ามาเพื่อค้ำเป็นหลักประกันหรือสำรองไว้เพื่อซื้อหุ้นที่ยืมไปขายล่วงหน้ามาคืน ซึ่งวิธีง่ายที่สุดก็คือการที่กองทุนจะขายหุ้นตัวอื่นที่อยู่ในพอร์ตการลงทุนเพื่อมาชดเชยนั่นเอง แต่ก็อาจจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ที่ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ หรือตลาดหุ้นทั่วโลกอาจปรับตัวลดลงได้ในระยะเวลาอันสั้นนี้

นอกจากนั้นนักลงทุนรายย่อยเมื่อเห็นวิธีการเช่นนี้ได้ผลกับหุ้น GameStop ก็เลยทำให้มีการชักชวนซื้อหุ้นขนาดเล็กเช่น หุ้น Koss ผู้ผลิตหูฟัง หุ้นโรงหนัง AMC และหุ้น Blackberry ส่งผลให้หุ้นกลุ่มเหล่านี้ต่างปรับตัวเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวในระยะเวลาอันสั้น

ไม่นับกับการที่ผู้มีชื่อเสียงหลายคนได้เข้ามามีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ทั้ง Michael Burry ผู้ที่ทำกำไรจากเหตุการณ์ Hamburger Crisis ในปี 2008 หรือที่เราอาจรู้จักจากหนังเรื่อง “The Big Short” ที่ได้มีกำไรจากการลงทุนในหุ้น GameStop กว่า 1,500% หรือ Elon musk เจ้าของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Tesla ก็มีการใช้ Twitter พูดถึงหุ้น GameStop และไม่เห็นด้วยกับการที่วงการ Wallstreet ทำการออกกฎไม่ให้นักลงทุนซื้อหุ้น GameStop เพื่อกันการปั่นหุ้น แต่ไม่มีการห้ามนักลงทุนสถาบันในการซื้อหรือทำการ Short Sell

Money Game ในครั้งนี้จะจบลงอย่างไร

นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้อาจจะทำให้ภาครัฐเข้ามาปรับกฎเกณฑ์ในด้านตลาดการเงินรวดเร็วและเข้มขึ้น เพราะตลาดหุ้นสหรัฐฯ นั้นไม่มีการจำกัดการปรับตัวสูงสุด เหมือนตลาดหุ้นบ้านเราที่จำกัดการเพิ่มขึ้นหรือลดลงสูงสุดวันละ 30% ทำให้สามารถเกิดภาวะที่ตลาดเป็นการเก็งกำไรได้รวดเร็วอย่างที่เห็นในเหตุการณ์นี้

เหมือนกับกรณีหลังวิกฤติ Hamburger Crisis ในปี 2008 ที่ทาง กลต. สหรัฐฯ ได้ปรับห้ามทำการ Naked Short ซึ่งคือการทำ Short Sell โดนผู้ขายไม่ได้มีการยืมหุ้นมาไว้ก่อนในวันที่สั่งขายหุ้น โดยในครั้งนี้เราอาจเห็นการเข้ามาปรับปรุงหลักเกณฑ์ในการจำกัดการ Short Sell หรือการจำกัดการ Leverage ของนักลงทุนก็เป็นไปได้ อีกทั้งทางรัฐบาลของโจ ไบเดน และนางเจเน็ต เยลเลนก็ได้จับตาเฝ้าดูอย่างใกล้ชิดกับกรณีนี้เช่นกัน ซึ่งจะส่งกระทบต่อ Sentiment ตลาด และทำให้นักลงทุนเริ่มรู้สึกว่าต้องทำการลดความเสี่ยงจากการที่ตลาดหุ้นร้อนแรงเกินไป โดยทำการลดสัดส่วนในการถือหุ้นลงไปบ้างส่งผลให้ตลาดหุ้นในช่วงนี้อาจจะเห็นการปรับฐานบ้าง

โดยหากมองในแง่มุมของปัจจัยพื้นฐานนั้นหุ้นร้านเกมส์ที่มีผลประกอบการขาดทุน แต่มีการซื้อขายที่ P/BV 60 กว่าเรียกได้ว่าเป็นราคาที่แพงอย่างแน่นอน แต่ผมขอยกคำพูดของเบนจามิน เกรแฮมซึ่งเป็นอาจารย์ของนักลงทุนเอกอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ว่า “ในระยะสั้นตลาดหุ้นเป็นเครื่องโหวตลงคะแนนเสียง แต่ในระยะยาวตลาดหุ้นเป็นเครื่องชั่งน้ำหนัก” หรือหมายความว่า ในระยะสั้นมันไม่เกี่ยวหรอกครับว่า หุ้นตัวไหนจะถูกหรือแพง ใครจะวิเคราะห์ผิดหรือถูก มันสำคัญแค่ว่าเงินฝั่งไหนมากกว่าฝั่งนั้นก็จะเป็นผู้ชนะในหรือที่เราชอบเรียกกันว่า Money Game นั่นเอง

ด้วยความที่นักลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในภาวะโลภ นักลงทุนหน้าใหม่เห็นคนที่ลงทุนก่อนหน้าได้กำไรไปมากก็จะเข้ามาลงทุนตามๆกัน โดยหากมีเงินใหม่เข้ามาก็จะทำให้สามารถดันฟองสบู่ขึ้นไปเรื่อยๆ ได้ จนกว่าที่จะมีใครสักคนได้สติ นึกถึงความเป็นเหตุผลขึ้นมาว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่ไม่ใช่การลงทุนแต่เป็นการเก็งกำไร ก็จะเป็นจุดจบของ Money Game ในครั้งนี้

เหตุการณ์ในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของฟองสบู่ตลาดหุ้นหรือไม่

การปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของหุ้น GameStop นั้นนอกเหนือจากปัจจัยที่ชาวชุมชน Reddit รวมกันไล่ซื้อหุ้นแล้วยังมาจากปัจจัยของตัวเศรษฐกิจเองด้วย ทั้งการที่ภาครัฐออกนโยบายกระต้นเศรษฐกิจอย่างล้นหลาม โดยมีการแจกเงินช่วยเหลือรายเดือนให้กับคนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และสภาวะดอกเบี้ยต่ำ และการที่ผู้คนมีการ WFH มากขึ้นทำให้มีนักลงทุนรายย่อยซื้อขายหุ้นผ่านทางแอพพลิเคชั่นมากขึ้น ประกอบกับตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นทำ New High ได้ก็ยิ่งทำให้คนที่ได้กำไรจากตลาดหุ้นรู้สึกฮึกเหิมว่ากำไรได้มาง่าย ก็ยิ่งเอาเงินเข้ามาใส่ตลาดหุ้นเพิ่มเข้าไปอีก

ด้วยปัจจัยที่กล่าวมานั้น เป็นการบ่งบอกถึงการเริ่มต้นภาวะฟองสบู่ที่มาจากกลุ่มหุ้นขนาดเล็กก่อน โดยเรายังไม่เห็นฟองสบู่เข้าไปในหุ้นขนาดใหญ่ เพราะเป็นหุ้นที่มีขนาดใหญ่กว่า และปัจจัยพื้นฐานดี ทำให้ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากไม่สามารถทำการไล่ซื้อได้เหมือนหุ้น GameStop แต่สิ่งที่ต้องจับตาดูคือการที่นักลงทุนรายย่อยยังมีการใช้ Leverage ทั้งการซื้อหุ้นด้วย Margin หรือลงทุนใน Derivatives มากอยู่หรือไม่ โดยจากผลสำรวจของนักลงทุนรายย่อยในช่วงเดือนกันยายนมีนักลงทุน 43% ที่ลงทุนโดยใช้ Margin หรือซื้อ Options หรือการเปิดบัญชีนักลงทุนใหม่ที่ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่น RobinHood แอพฯ เทรดดิ้งหุ้นนั้นยังมีคนดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นกว่าหกแสนรายในช่วงอาทิตย์ผ่านมา

โดยหากเป็นเช่นนี้ต่อไปจะเป็นสัญญาณที่เราเห็นว่าตลาดเริ่มเข้าสู่สภาวะฟองสบู่มากขึ้น ซึ่งนักลงทุนควรจะต้องระมัดระวังอย่างมากหากจะเข้าลงทุนในหุ้นที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในช่วงนี้ และหากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น รวมถึงหากธนาคารกลางเริ่มดึงสภาพคล่องออกจากระบบนั้นก็จะเป็นการที่ฟองสบู่อาจจะแตกได้ในท้ายที่สุด

กรณีหุ้น GameStop จะเกิดกับตลาดหุ้นไทยเราหรือไม่

ตลาดหุ้นไทยนั้นค่อข้างแตกต่างกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพราะเรามีจำกัด Floor / Ceiling ที่ให้หุ้นปรับตัวขึ้นลงได้ไม่เกินวันละ 30% รวมถึงการที่หากเห็นการเก็งกำไรในหุ้นที่มีการเคลื่อนไหวผิดปกติ ทางตลาดหลักทรัพย์ก็มีการใช้มาตรการประกาศ Cash Balance ให้ต้องใช้เงินเต็มจำนวนในการซื้อขายหุ้นเท่านั้นเพื่อลดภาวะเก็งกำไรในตลาด อีกทั้งสถานะ Short Sell ของหุ้นไทยนั้นยังมีสัดส่วนที่น้อย และไม่สามารถทำการ Naked Short ได้ทำให้ภาวะฟองสบู่ที่จะเกิดจากการถูก Short Squeeze เหมือนกรณีหุ้น GameStop ค่อนข้างจะทำได้ลำบากครับ

สุดท้ายนี้ผมก็อยากให้ผู้อ่านทุกท่านย้อนกลับมามองว่าเป้าหมายที่เราเข้ามาในตลาดหุ้นนั้นเพื่ออะไร ถ้าหากเป้าหมายคือการลงทุน ไม่ใช่การเก็งกำไรนั้น เราก็ไม่จำเป็นต้องสนใจหุ้นหรือฟองสบู่ที่คนส่วนใหญ่กำลังไปเข้าร่วมอยู่ เพราะการลงทุนนั้นไม่ใช่ดูเพียงราคาแต่เราต้องดูถึงคุณภาพและมูลค่าสิ่งที่เราลงทุนด้วยครับเพื่อที่เราจะสามารถสร้างผลตอบแทนอย่างต่อเนื่องได้บรรลุเป้าหมาย หรืออย่างน้อยก็สามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจว่าเงินที่เราลงทุนไปนั้นทำงานให้เราอย่างเต็มที่ครับ

“บิ๊กป้อม” มึน แคนดิเดตผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราช จ่อตบเท้าเข้าพบ โวยสื่อรู้ได้ไงทั้งที่ตนยังไม่เคยเจอเลย เผยเตรียมหารือเรื่องนี้กับกรรมการบริหารพรรค 4 ก.พ. นี้ ยัน ไม่แตกคอพรรคประชาธิปัตย์ หลัง ‘จุรินทร์” ออกมาระบุแกนนำรัฐบาลควรหลีกทาง

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี กรณีที่มีข่าวว่าในส.ส.นครศรีธรรมราช และส.ส.ภาคใต้ของพรรคบางส่วน จะพานายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช ไปเปิดตัวที่พรรคพลังประชารัฐ และจะนำเข้าพบ พล.อ.ประวิตร ว่า “สื่อรู้ได้อย่างไร ผมยังไม่เจอเขาเลย สื่อที่ไหนรายงาน และการจะพิจารณาว่าจะส่งผู้สมัครหรือไม่ จะต้องรอประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ในวันที่ 4 ก.พ.นี้

ส่วนกรณีที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า หากเป็นแกนนำรัฐบาลจะให้เจ้าของพื้นที่เดิมส่งผู้สมัคร โดยไม่ส่งผู้สมัครแข่ง รองนายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องของเขา จะไปรู้ด้วยได้อย่างไร สื่อถามอย่างนี้จะตอบอย่างไร เพราะไม่ได้ถามเรื่องของตน และเรื่องนี้เป็นเรื่องประชาธิปไตย ย้ำว่าที่ผ่านมาผู้สมัครของเราก็แพ้ไม่กี่พันคะแนน ทั้งนี้ ยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นปัญหาบานปลายกับพรรคประชาธิปัตย์ มีแต่พวกสื่อนี่แหละที่จะพูดและถามให้เป็นปัญหา เพราะเขาก็ระบุว่าใครจะลงสมัครก็ได้

เมื่อถามว่าต้องคุยกับนายจุรินทร์หรือไม่ เรื่องการส่งผู้สมัคร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จะคุยอะไรก็พูดอยู่นี่ และคุยอยู่ทุกวันอยู่แล้ว ไม่ต้องตกลงอะไรกัน เมื่อถามย้ำว่าถ้าพรรคพปชร.หลีกทางไม่ส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมส.ส.นครฯ แล้วพรรคประชาธิปัตย์จะหลีกทางไม่ส่งผู้สมัครสมัครผู้ว่าฯ กทม. หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ผมไม่คิดจะส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ดังนั้นจะมาส่งในนามพรรคได้อย่างไร

ส่วนกรณีที่มีข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ร้องเรียนว่าถูกผู้บังคับบัญชาเรียกรับเงินโดยอ้างว่าเป็นเด็กเส้นของผู้ใหญ่ในรัฐบาล ว่า “เป็นเรื่องของเขา เขาทำด้วยตัวเขาเอง แล้วจะให้ผมทำอย่างไร เพราะที่ผ่านมากำชับตลอดเวลา ซึ่งแต่ละคนเขาก็คิดไม่เหมือนกัน”

‘บิ๊กตู่’ ย้ำรัฐบาลพร้อมดูแลผู้ได้รับผลกระทบโควิดทุกกกลุ่ม มอบหน่วยงานออกมาตรการเก็บตกเป็นระยะ พร้อมสั่งคืนเงินผู้ปกครอง ถ้าพบเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเกินจริง ช่วงเรียนออนไลน์

‘บิ๊กตู่’ ย้ำรัฐบาลพร้อมดูแลผู้ได้รับผลกระทบโควิดทุกกกลุ่ม มอบหน่วยงานออกมาตรการเก็บตกเป็นระยะ พร้อมสั่งคืนเงินผู้ปกครอง ถ้าพบเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเกินจริง ช่วงเรียนออนไลน์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า การหารือวันนี้ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการช่วยเหลือเยียวยา ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 ทั้ง เรื่องวัคซีน การจัดสรรงบประมาณ และเรื่องแรงงาน รวมถึงการแก้ไขปัญหากฎหมาย ส่วนการช่วยเหลือกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ไปพิจารณาตรงนี้จะเห็นมาตรการต่างๆ ออกมา และไปเก็บตกในส่วนที่มีปัญหาอยู่ จึงจำเป็นต้องทยอยดำเนินการไปเป็นระยะ

ส่วนแนวทางในการช่วยเหลือผู้ปกครอง โดยเฉพาะปัญหาการเรียกเก็บค่าเทอม และค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปิดให้มีการเรียนออนไลน์แต่เก็บค่าเทอมและค่าใช้จ่ายเต็ม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทางกระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.) ได้มีการตรวจสอบโรงเรียนเอกชนดังกล่าวแล้ว หากพบว่ามีอะไรที่เกินความจําเป็นก็จะคืนเงินผู้ปกครองต่อไป โดยเฉพาะค่าจ่ายที่ไม่จำเป็นต้องเก็บในการเรียนออนไลน์ เช่นค่าอาหารและค่ารถ

ขณะที่มาตรการเยียวยาผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมมาตรา 33 ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และสำนักงบประมาณพิจารณาเรื่องนี้อยู่แล้ว

"จะเห็นได้ว่ามีมาตรการต่างๆทยอยออกมาเรื่อย ซึ่งเป็นการเก็บตกที่จะมีการออกมาตรการเรื่อย ๆ เป็นระยะ" นายกรัฐมนตรี กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top