Tuesday, 24 June 2025
NEWS FEED

ไม่ใช่ไวรัล แต่ก็กลายเป็นพฤติกรรมเลียนแบบที่แพร่กระจายไป ในเหล่าบรรดานักฟุตบอลในยูโร 2020 ไปเสียแล้ว สำหรับการยกขวดเครื่องดื่มที่เป็นสปอนเซอร์หลักของการจัดการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 ออกจากโต๊ะแถลงข่าว

#เก็บตกยูโร2020 ⚽

ไม่ใช่ไวรัล แต่ก็กลายเป็นพฤติกรรมเลียนแบบที่แพร่กระจายไป ในเหล่าบรรดานักฟุตบอลในยูโร 2020 ไปเสียแล้ว สำหรับการยกขวดเครื่องดื่มที่เป็นสปอนเซอร์หลักของการจัดการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 ออกจากโต๊ะแถลงข่าว

เริ่มต้นจากพี่ใหญ่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่หยิบขวดเครื่องดื่มโคคาโคล่า ให้พ้นออกไปจากเฟรมภาพการแถลงข่าว ต่อมาก็เป็น ปอล ป็อกบา ซูเปอร์สตาร์แห่งทีมฝรั่งเศส ก็หยิบขวดเบียร์ยี่ห้อหนึ่งออกจากโต๊ะ และล่าสุด มานูเอล โลคาเตลลี่ กองกลางทีมอิตาลี ก็กลายเป็นนักเตะคนล่าสุดที่หยิบขวดโคคาโคล่าออกจากโต๊ะเช่นกัน

ส่วนเหตุผลก็นานาสารพันกันไป อาทิ โรนัลโด้เป็นคนไม่ดื่มเจ้าเครื่องดื่มชนิดนี้เลย และขึ้นชื่อเรื่องการมีภาพลักษณ์การดูแลสุขภาพอย่างดี ส่วนปอล ป็อกบา เจ้าตัวเป็นมุสลิมที่เคร่งครัด การมีขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ตรงหน้า (แม้ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์แบบแอลกอฮอล์ 0% ก็ตาม) ยังไงก็คงไม่เหมาะสมนัก

และรายสุดท้าย มานูเอล โลคาเตลลี่ แม้เหตุผลจะไม่ชัดเจน แต่ตอนที่เจ้าตัวหยิบขวดโคคาโคล่าออกจากโต๊ะแถลงข่าว ก็พูดว่า ‘อากัว’ หรือ ‘อควา’ ที่แปลว่า น้ำ ซึ่งก็แสดงเจตนาถึงความไม่ปลื้มเครื่องดื่มที่อยู่ตรงหน้าด้วยเช่นกัน

แต่ถึงอย่างไร ทางเจ้าของผลิตภัณฑ์ก็ใจกว้างพอ และได้ออกมาประกาศทำนองว่า ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเลือกเครื่องดื่มตามใจชอบ และทุกคนมีรสนิยมและความต้องการที่แตกต่างกัน ดังนั้น เครื่องดื่มนี้ก็จะถูกแจกให้แก่นักเตะเมื่อมาถึงงานแถลงข่าวต่อไป แม้ว่าจะไม่ดื่ม หรือยกออกก็ตาม

สรุปก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ทั้งสองฝ่าย ในมุมของนักฟุตบอลเอง ก็ต้องการการมีภาพลักษณ์ที่ดี หรือแม้แต่การไม่อยากผูกมัดกับสินค้าโดยไม่จำเป็น ในส่วนของสปอนเซอร์ก็ต้องทำตามหลักการต่อไป แต่ก็แอบคิดนะว่า ถ้าบรรดานักฟุตบอลทั้งหลายเกิดทำตามกันทุกคน จะส่งผลลบต่อภาพลักษณ์สินค้าไปเลยก็ได้ สู้ไม่ตั้งไว้ตรงหน้าโต๊ะ แล้วไปหาจุดจัดวางให้ลงตัวกว่านี้ จะดีกว่าไหม


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ฮอตจริงอะไรจริง ต้องยกให้ทีมชาติอิตาลี ในศึกฟุตบอลยุโร 2020 หนนี้นี่เอง เมื่อคืนบุกอัดทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ไปแบบขาดลอย 3-0 ทำให้เป็นทีมแรกที่ลอยลำเข้ารอบต่อไปเป็นที่เรียบร้อย

#เก็บตกยูโร2020 ⚽

ฮอตจริงอะไรจริง ต้องยกให้ทีมชาติอิตาลี ในศึกฟุตบอลยุโร 2020 หนนี้นี่เอง เมื่อคืนบุกอัดทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ไปแบบขาดลอย 3-0 ทำให้เป็นทีมแรกที่ลอยลำเข้ารอบต่อไปเป็นที่เรียบร้อย

ใครที่เป็นแฟนบอลอิตาลีคงแฮปปี้หลาย เพราะถ้าคุ้นเคยกับทีมแดนมักกะโรนี จะรู้ดีว่า อิตาลีลงเล่นในฟุตบอลทัวร์นาเม้นท์ใหญ่ ๆ มักจะเครื่องร้อนช้า หรือบางครั้งเครื่องไม่ร้อนเลยก็มี แต่ในศึกยูโร 2020 ครั้งนี้ ขุนพลอัซซูรี่ คิดใหม่ ทำใหม่ กลายเป็นบอลเร้าใจ เนียนตา แฟนๆ งงสิครับ

โอเค, อิตาลี ยังมีสไตล์เกมรับ ที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องความเหนียวแน่นหนึบเหมือนเดิม แต่สิ่งที่อิตาลีเปลี๊ยนไป๋! คือการเล่นเกมรุกที่เร้าใจ บุกกระซวกไส้ได้ใจดีเหลือเกิน ลงเล่นในยูโรมา 2 นัด ซัดไปแล้ว 6 ลูก ซึ่งมันไม่ใช่อ่ะ! ไม่ใช่อิตาลีที่คุ้นเคย ปกติอิตาลียิงไม่เกิน 2 ลูกต่อนัด และแท็กติกเพียบ จนบางทีดูแล้วเบื๊อเบื่อ!

งานนี้ต้องยกความดีให้กับผู้จัดการทีม โรแบร์โต้ มันชินี่ ที่เข้ามาคุมทีม และจัดการติดตั้งโหมดบุกโหดเข้าไว้ไอ้น้อง ถึงตอนนี้ อิตาลีลงเล่นในเกมระดับเมเจอร์ ไม่แพ้ใครมาแล้ว 29 นัด นับตั้งแต่ปี 2018 เสียไปแค่ 7 ประตู คลีนชีตไป 22 นัด และยิงระเบิดระเบ้อไปถึง 80 ประตู

โอว มายก็อดดด!! นี่มันนิวอิตาลีชัดๆ! และแน่นอนว่า ถึงตรงนี้ จากที่ไม่อยู่ในบัญชีรายชื่อสส. เอ้ย! ไม่เคยอยู่ในลิสต์ทีมเต็งแชมป์ยูโรหนนี้ ปรากฎว่า อิตาลีก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงบัลลังก์แชมป์ยูโร 2020 อย่างเต็มตัว!


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

แยกย้าย! 'รีล มาดริด' เตรียมแถลงอำลา 'รามอส' ปิดฉาก 16 ปี ในสีเสื้อราชันชุดขาว

คั่นบรรยากาศบอลยูโร ‘ราชันชุดขาว’ คอนเฟิร์ม เตรียมจัดงานแถลงข่าวอำลา เซร์คิโอ รามอส กองหลังกัปตันทีม ในวันพฤหัสบดีนี้ หลังดาวเตะวัย 35 ปี ตัดสินใจไม่ต่อสัญญาที่หมดลงหลังจบซีซั่นที่ผ่านมา

สำหรับสัญญาค้าแข้งของ รามอส วัย 35 ปี ซึ่งย้ายจาก เซบีญา มาอยู่กับ ‘ราชันชุดขาว’ ตั้งแต่ปี 2005 รวมระยะเวลาถึง 16 ปี และผ่านการลงสนามทั้งสิ้น 671 นัด ยิง 101 ประตูนั้น หมดลงหลังจบฤดูกาลที่ผ่านมา โดย รีล มาดริด เสนอสัญญาใหม่แค่ปีเดียวพร้อมขอให้เจ้าตัวลดค่าเหนื่อย ส่งผลให้ไม่สามารถตกลงกันได้ และนำมาสู่การแยกทางกันในที่สุด โดยการแถลงข่าวจะมีขึ้นในเวลาเที่ยงครึ่งของวันพฤหัสบดีนี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยมี ฟลอเรนติโน เปเรซ ประธานสโมสรร่วมพิธีด้วย

 

ที่มา : https://www.dailynews.co.th/sports/850413


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ความคืบหน้ากรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์เล่าเรื่องราวถูกล่อซื้อน้ำส้ม 500 ขวด ก่อนจะโดนถามหาใบอนุญาต พร้อมเรียกปรับเงิน 12,000 บาท

ความคืบหน้ากรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์เล่าเรื่องราวถูกล่อซื้อน้ำส้ม 500 ขวด ก่อนจะโดนถามหาใบอนุญาต พร้อมเรียกปรับเงิน 12,000 บาทนั้น

ล่าสุด นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นได้สั่งย้ายเจ้าหน้าที่ที่ปรากฏเป็นข่าวรวม 5 คน ออกนอกพื้นที่เกิดเหตุในกรุงเทพฯ เป็นที่เรียบร้อย พร้อมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นการด่วน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และให้ได้ข้อเท็จจริงเป็นที่กระจ่างแก่สังคม โดยขอยืนยันว่ากรมสรรพสามิต ไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ออกรังแกประชาชนไปล่อซื้อในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด

 

ที่มา: https://www.naewna.com/local/580844


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เศรษฐีปริศนาจ่ายหนักทัวร์นอกโลก หวังนั่งข้างเจ้าของ Amazon

แม้ใน 190 ประเทศทั่วโลกจะยังมีสถานที่มหัศจรรย์รอให้ค้นหามากมาย แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่สำหรับบุคคลปริศนารายหนึ่งที่กำเงินเกือบ 900 ล้านบาท ประมูลซื้อที่นั่งในเที่ยวบินท่องอวกาศของนายเจฟฟ์ เบซอส ซีอีโอของบริษัทแอมะซอน (Amazon) ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทสำรวจอวกาศ บลู ออริจิ้น (Blue Origin) ด้วย

เหตุการณ์ดังกล่าวเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อบุคคลปริศนารายนี้ได้ประมูลซื้อที่นั่งในเที่ยวบินดังกล่าวไปเป็นเงิน 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 870 ล้านบาท เพื่อนั่งข้างๆ นายเจฟฟ์ เบซอส และ นายมาร์ค เบซอส ผู้เป็นน้องชาย บนเที่ยวบินท่องอวกาศของ Blue Origin ซึ่งจะปล่อยยานออกจากทะเลทรายในรัฐเท็กซัสในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เพื่อท่องอวกาศเป็นเวลาเพียงไม่กี่นาที โดยวันที่ 20 ก.ค.นั้น ยังเป็นวันเดียวกับที่นีล อาร์มสตรอง และบัซ อัลดริน ได้กลายเป็นมนุษย์คนแรกที่ได้เดินบนดวงจันทร์เมื่อกว่า 50 ปีที่ผ่านมาด้วย

ผู้ชนะการประมูลดังกล่าวสามารถเอาชนะคู่แข่งคนอื่นๆ ประมาณ 20 รายในการประมูลที่เปิดฉากขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว ก่อนที่จะสิ้นสุดลงในการประมูลรอบสุดท้ายเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (12 มิ.ย.) ซึ่งมีผู้เสนอราคากันอย่างดุเดือดจนทำให้ราคาที่นั่งบนเที่ยวบินนี้พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง ทั้งๆ ที่เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้วมีราคาอยู่ที่เพียง 4.8 ล้านดอลลาร์

Blue Origin เปิดเผยว่า การประมูลครั้งนี้มีผู้ลงทะเบียนประมูลกว่า 7,500 รายจาก 150 ประเทศ แต่บรรยากาศการประมูลได้ดุเดือดขึ้นมาก หลังจากนายเจฟฟ์ เบซอส ประกาศว่าตนเองจะขึ้นบินด้วย พร้อมกับนายมาร์ค เบซอส ผู้เป็นน้องชาย จนทำให้จำนวนผู้เสนอราคาสูงสุดจากหลักหลายพันรายลดลงเหลือประมาณ 20 ราย

เที่ยวบินนี้จะมีผู้โดยสาร 4 รายด้วยกันได้แก่ สองพี่น้องตระกูลเบซอส บุคคลนิรนามผู้ชนะการประมูล และบุคคลที่ 4 ซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยชื่อ โดย Blue Origin จะประกาศเปิดเผยตัวบุคคลนิรนามผู้ชนะการประมูลในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้

อย่างไรก็ตามราคาตั๋วดังกล่าว เป็นราคาประมูลที่ผู้ซื้อเสนอราคาสูงสุดเท่านั้น และราคาบัตรเมื่อให้บริการจริงในอนาคต อาจจะปรับลดลลงมาให้อยู่ใกล้เคียงกับของ Virgin Galactic (อีกผู้เล่นหลัก) ที่ได้ขายบัตรโดยสารไปแล้วให้แก่ผู้โดยสารประมาณ 600 ราย ในราคาบัตรประมาณคนละ 200,000-250,000 ดอลลาร์ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ต่อไป

ทั้งนี้หากมองตลาดการท่องอวกาศ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นตลาดเล็กๆ แก่บรรดามหาเศรษฐีไม่กี่ราย แต่ผลสำรวจความคิดเห็นของคนรวยโดยบริษัทวิจัย Cowen ได้เปิดเผยให้เห็นว่า ตลาดการท่องอวกาศนี้อาจมีลูกค้าหลักล้านราย และน่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อราคาบัตรโดยสารถูกลง โดยปัจจุบันคาดว่าตลาดท่องเที่ยวอวกาศน่าจะมีผู้ที่สามารถเป็นลูกค้าได้ประมาณ 2.4 ล้านราย ซึ่งตัวเลขที่ว่านี้มาจากการประเมินความต้องการบินกับ Virgin Galactic เท่านั้น เพราะในช่วงเวลาที่ทำผลสำรวจดังกล่าวมีเพียง Virgin Galactic ที่เปิดขายบัตรแล้วจริงๆ แม้จะยังไม่มีการบินก็ตาม

ทว่าเมื่อดูจากตัวเลขที่ว่านี้แล้ว ปัญหาน่าจะอยู่ที่ซัพพลายมากกว่าดีมานด์ เนื่องจากยาน 1 ลำรองรับผู้โดยสารได้เพียง 6 คน ไม่ว่าจะเป็นยานของ Virgin Galactic หรือ Blue Origin และแม้จะเร่งสร้างยานเพิ่มแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะสร้างขึ้นได้ง่ายๆ โดย Cowen คาดการณ์ว่า หาก Virgin Galactic สร้างยานได้ 11 ลำภายในปี 2573 บริษัทก็น่าจะส่งผู้โดยสารขึ้นอวกาศได้ประมาณปีละ 3,400 ราย ซึ่งยังคงถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนว่าที่ลูกค้าหลักล้านราย

สำหรับอุตสาหกรรมท่องอวกาศนั้นคาดว่าได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เมื่อมีเศรษฐีรายหนึ่งจ่ายเงิน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐจ้างรัสเซียให้ส่งตัวเองขึ้นไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ ทำให้เขาเป็นนักท่องเที่ยวอวกาศคนแรกที่จ่ายเงินค่าเที่ยวบินเอง และนับตั้งแต่นั้นก็มีคนเดินตามรอยนี้เพียง 7 คน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผลงานของหน่วยงานที่รัฐบาลเป็นผู้สนับสนุน

แต่การเข้ามาของบริษัทเอกชน ไม่ว่าจะเป็น Blue Origin, Virgin Galactic หรือ SpaceX จะทำให้ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยในช่วงแรกๆ ลูกค้าน่าจะจำกัดอยู่ที่เพียงกลุ่มผู้ที่ร่ำรวยมากๆ เพราะราคาบัตรน่าจะอยู่ที่ระดับหลักหลายล้านบาทเพื่อท่องอวกาศในเวลาไม่กี่นาที แต่เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว ราคาบัตรอาจถูกลงจนเหลือหลักไม่กี่แสนบาท และเมื่อถึงวันนั้น เราอาจจะได้เห็นคนรู้จักโพสต์ภาพตัวเองบนยานอวกาศลงสื่อโซเชียลกันมากขึ้น

 

ที่มา: https://www.infoquest.co.th/2021/97137


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

โน้ส อุดม นักเดี่ยวไมโครโฟนชื่อดัง โพสต์บนเฟซบุ๊ก เดี่ยวไมโครโฟน FC แจ้งแฟนคลับขอเลื่อนการแสดงเดี่ยวไมโครโฟน ครั้งที่ 13

หลังจากที่ “โน้ส อุดม” หรือ อุดม แต้พานิช ศิลปินนักคิด นักเขียน นักพูด นักแสดง นักเดี่ยวไมโครโฟนชื่อดัง เพิ่งจะประกาศปิดร้านไอศกรีม Iberry Garden ในจังหวัดเชียงใหม่ ไปเมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ล่าสุด โพสต์บนเฟซบุ๊ก เดี่ยวไมโครโฟน FC แจ้งแฟนคลับขอเลื่อนการแสดงเดี่ยวไมโครโฟน ครั้งที่ 13 ออกเป็นเป็น 22 เมษายน-1 พฤษภาคม 2565 ระบุว่า...

กระผม นายอุดม แต้พานิช ขอประกาศเลื่อนการแสดง SINGER proudly presents DEAW 13 ไปเป็นวันที่ 22 เมษายน-1 พฤษภาคม 2565

ผมรู้สึกซาบซึ้งมากที่ทุกคนยังถือบัตรอยู่ จึงอยากจะแสดงความขอบคุณ ด้วยการส่งของสมนาคุณพิเศษให้กับทุกท่าน นั่นก็คือผ้าห่มเดี่ยว 13 ไปห่มรอคอยเวลาที่เราจะได้กลับมาพบกัน และในโอกาสนี้ ผมยังมีของสมนาคุณพิเศษให้กับทุกๆ ท่าน ด้วยเหรียญ “ดมคอย” ที่เป็นสัญลักษณ์ของการรอคอยเดี่ยว 13 ระหว่างพวกเรานะครับ (ซึ่งเหรียญ ดมคอยนั้นจะเป็นเหรียญที่มีมูลค่าพิเศษในตัวเอง สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กเดี่ยว)

ขอบคุณทุกๆ ท่านที่คอยดม และแน่นอนว่าอุดมก็คอยที่จะได้พบทุกๆ ท่านเช่นกันครับ

หลังจากนั้นไม่นานเพจ Bitcoin Addict Thailand ได้โพสต์ว่า...

เฮียโน้สออกเหรียญ "ดมคอย" มาพร้อมสโลแกน "ถือดมคอยไม่ดอยแน่นอน" 5555

แต่ไม่ใช่โทเค็นคริปโตนะ เป็นเหรียญจริงๆ เอาไว้ให้แฟนคลับใช้งาน

ปล. มีเหรียญลิมิเต็ดด้วย ทำจากทองคำหนัก 5 บาทเลย

 

ที่มา: https://www.facebook.com/197729100755446/posts/1072682669926747/


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เพจ Environman ได้รายงานถึงการรับรองมหาสมุทรแห่งใหม่ของโลก ที่เรียกว่า ‘มหาสมุทรใต้’ ว่า...

เพจ Environman ได้รายงานถึงการรับรองมหาสมุทรแห่งใหม่ของโลก ที่เรียกว่า ‘มหาสมุทรใต้’ ว่า...

โลกเรานั้นประกอบด้วย 4 มหาสมุทรคือ มหาสมุทรแอตแลนติก มหาสมุทรแปซิฟิก มหาสมุทรอินเดีย และมหาสมุทรอาร์กติก แต่ล่าสุด...มหาสมุทรใต้ (แอนตาร์กติกา) ได้ถูกนับเป็นมหาสมุทรที่ 5 และถูกระบุไว้ในแผนที่โลกของโดย National Geographic แล้ว!

มหาสมุทรใต้ เป็นมหาสมุทรน้องใหม่ล่าสุดที่เข้ามาอยู่ในรายชื่อมหาสมุทรโลกในวันที่ 8 มิถุนายน ‘วันมหาสมุทรโลก’ ที่ผ่านมา

แน่นอน หลายคนอาจจะสงสัย? มหาสมุทรนี้ก็ถูกค้นพบมานานแล้ว ทำไมไม่ถูกรวมแต่แรก? และขอบเขตของมันคือที่ไหนบ้าง?

Alex Tait นักภูมิศาสตร์จาก National Geographic เผยว่า “มหาสมุทรใต้เป็นที่รู้จักสำหรับนักวิทยาศาสตร์มานานแล้ว แต่มันยังไม่มีการตกลงในระดับนานาชาติ และแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ”

แม้ในปี 1999 องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ NOAA ก็เคยรับรองมหาสมุทรนี้แล้ว และให้ขอบเขตว่า เป็นผืนน้ำที่ทอดยาวตั้งแต่ชายฝั่งรอบทวีปแอนตาร์กติกาไปจนถึงละติจูด 60 องศาใต้

แต่ก็ยังมีการถกเถียงกันอยู่ว่าผืนน้ำที่ล้อมรอบแอนตาร์กติกานี้มีลักษณะเด่นที่ทำให้มันควรถูกเรียกว่าเป็นมหาสมุทรหรือไม่ หรือว่าเป็นแค่น้ำเย็นๆ ที่ต่อออกมาจากมหาสมุทรแปซิฟิก แอตแลนติก และอินเดีย

อีกอย่าง มหาสมุทรใต้ก็ต่างจากมหาสมุทรอื่นตรงที่จะไม่ได้ถูกกำหนดขอบเขตจากพรมแดนทางแผ่นดิน หรือทวีปที่อยู่รอบๆ แต่ถูกกำหนดโดยละติจูด และกระแสน้ำหมุนเวียนแอนตาร์กติก (ACC)

กระแสน้ำหมุนเวียนแอนตาร์กติก (ACC) เป็นตัวแบ่งทวีปแอนตาร์กติกาออกจากทวีปอเมริกาใต้ เริ่มก่อตัวเมื่อ 34 ล้านปีที่แล้ว กระแสน้ำไหลจากตะวันตกไปตะวันออก มีน้ำที่เย็นกว่า แต่รสเค็มน้อยกว่ามหาสมุทรอื่นๆ ทางตอนเหนือ

ACC นี่เองก็เป็นกระแสน้ำที่ทำให้เกิดการหมุนเวียนของน้ำทางตอนใต้ และดึงน้ำจากมหาสมุทรแอตแลนติก แปซิฟิก และอินเดียออกมา ช่วยให้การไหลเวียนของกระแสน้ำอุ่นและน้ำเย็นหมุนเวียนไปทั่วโลกอยู่ตลอดเวลา

ดังนั้น การถูกรับรองในครั้งนี้ของมหาสมุทรใต้ ก็อาจจะช่วยให้คนเริ่มหวงแหน และอนุรักษ์มหาสมุทรนี้มากขึ้น เพราะเมื่อโลกร้อนขึ้น น้ำที่มาจากกระแส ACC ที่ไหลไปสู่ทางใต้จะอุ่นขึ้น ซึ่งตรงนี้ นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในมหาสมุทรใต้มากน้อยแค่ไหน

อีกอย่าง ที่นี่ก็เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำนานาชนิด ทั้งวาฬ เพนกวิน แมวน้ำ ที่ไม่สามารถพบได้ที่อื่นอีกด้วย

 

ที่มา: https://www.facebook.com/1523107561151019/posts/3782012455260507/

อ้างอิง: https://www.nationalgeographic.com/environment/article/theres-a-new-ocean-now-can-you-name-all-five-southern-ocean

https://www.nbcnews.com/now/video/national-geographic-recognizes-southern-sea-as-5th-ocean

https://ngthai.com/environment/36309/new-world-ocean/

https://www.nationalgeographic.com/environment/article/theres-a-new-ocean-now-can-you-name-all-five-southern-ocean

https://oceanservice.noaa.gov/facts/howmanyoceans.html


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

โรนัลโด้ เอฟเฟ็กต์! หุ้น ‘โค้ก’ ร่วง 3 วันติด มูลค่าวูบกว่า 2 แสนลบ.

ยังคงส่งผลอย่างต่อเนื่อง กรณีที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงตัวเก่งกัปตันทีมชาติโปรตุเกส ที่สร้างปรากฎการณ์ ขยับขวด โคคา-โคล่า ออกระหว่างการแถลงข่าว จนกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลก

ซึ่งจากการกระทำดังกล่าวทำให้ส่งผลเสียเชิงลบต่อแบรนด์ โคคา-โคล่า ทันที จากการรายงานของ มาร์ก้า สื่อยักษ์ใหญ่แดนสเปน โดยสื่อเจ้าดังอ้างว่าหลังคลิปดังกล่าว ได้มีการนำเสนอไปทั่วโลกเพียงแค่ 30 นาที ราคาหุ้นของ โคคา-โคล่า ก็ตกฮวบอย่างน่าใจหาย

โดยมาร์ก้า ระบุว่า ทันทีที่ตลาดหุ้นในยุโรปเปิดตัวในเวลา 15.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) หุ้นของบริษัท โคคา-โคล่า ในตลาด ลดลงมากถึง 1.6% จากราคาปิดตลาดวันก่อน ทำให้ส่งผลให้มูลค่าบริษัท (มาร์เก็ตแคป) จาก 242,000 ล้านเหรียญ ลดลงเหลือ 238,000 ล้านเหรียญ มูลค่าหายไปถึง 4 พันล้านเหรียญ (ประมาณ 1.25 แสนล้านบาท)

แม้ว่าในระหว่างวันซื้อขายราคาหุ้นจะขยับขึ้นมาปิดตลาดได้ติดลบน้อยลง แต่ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 14-16 มิถุนายน ที่ผ่านมาหุ้นของบริษัท โคคา-โคล่า ยังร่วงต่อเนื่องรวมแล้วกว่า 2.65% เหลือมูลค่า 235.7 พันล้านเหรียญ ( 7.37 ล้านล้านบาท) หรือคิดเป็นมูลค่าที่หายไปถึง 6.4 พันล้านเหรียญ คิดเป็นเงินไทยกว่า 2 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่ตลาดเงินตลาดทุน ตั้งแต่ต้นปีนี้ หุ้นของบริษัท โคคา-โคลา ขยับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จาก 48 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น ขึ้นมาเป็น 56.48 เหรียญต่อหุ้น ทำจุดสูงสุดในรอบปี เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนที่ราคาหุ้นจะค่อยๆ ย่อลงมา เนื่องจากความกังวลของตลาดหุ้น เกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่อาจจะมาเร็วกว่าที่คาดไว้ ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงติดต่อกันหลายวัน ประจวบเหมาะกับซุปเปอร์สตาร์ชาวโปรตุกีส กระทำดังกล่าวยิ่งทำให้ราคาหุ้นร่วงเร็วขึ้น

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา โรนัลโด้ เคยออกมาพูดถึงการไม่ชอบเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่มีน้ำตาล โดยเผยว่ามักมีปัญหากับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของเขา "บางครั้งผมก็มีปัญหากับเขา เพราะเขาชอบดื่มน้ำอัดลม ผมทะเลาะกับเขาตอนที่กินมันฝรั่งทอด ซึ่งเขารู้ว่าผมไม่ชอบมัน"ด้าน โคคา-โคล่า แบรนด์ยักษ์ใหญ่ของโลก ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับท่าทางของ กัปตันทีมชาติโปรตุเกส ที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของตัวสินค้า แต่เชื่อว่าพวกเขาไม่น่าจะมีความสุขกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยพวกเขาถือเป็นสปอนเซอร์หลักในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปมาตั้งแต่ปี 1988 เลยทีเดียว

แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อย ที่ตั้งแง่กับ โรนัลโด้ เป็นพวกปากว่าตาขยิบ เพราะเขา เคยเป็นพรีเซนเตอร์ ให้กับเครื่องดื่มและอาหารที่เขามองว่า ‘ไม่ดีต่อสุขภาพ’ ทั้ง โคคา-โคลา และไก่ทอดเคเอฟซี แต่พอได้ดีก็ลืมเพื่อนเก่าซะอย่างงั้น

 


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

อเล็กเซย์ มิรานชุก ซัดประตูสุดสวยตั้งแต่ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก เป็นประตูชัยพา ‘รัสเซีย’ เฉือนชนะ ‘ฟินแลนด์’ ไปแบบหืดจับ 1-0 คว้าสามคะแนน ลุ้นเข้ารอบน็อคเอาท์ต่อในเกมหน้า

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ‘ยูโร 2020’ วันพุธที่ 16 มิถุนายน 2564 คู่แรก เป็นเกมในกลุ่ม B ‘หมีขาว’ ทีมชาติรัสเซีย หนึ่งในทีมเจ้าภาพร่วม ลงเล่นที่เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก สเตเดียม พบกับ ทีมชาติฟินแลนด์

เกมแรก รัสเซีย ของกุนซือสตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ พ่ายแพ้ให้กับ เบลเยี่ยม แบบขาดลอย 0-3 เกมนี้ต้องเก็บชัยชนะให้ได้ เพื่อโอกาสในการเข้ารอบน็อคเอาท์ นำทัพมาโดยหัวหอกร่างโย่ง อย่าง อาร์เตม ซูบ้า, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน, โรมัน ซอบนิน, มาริโอ เฟร์นันเดซ

ขณะที่ ฟินแลนด์ ของกุนซือมาร์คคู คาเนร์ว่า เกมที่แล้วพลิกล็อกเอาชนะ เดนมาร์ก 1-0 อย่างเหนือความคาดหมาย เกมนี้ยังคงนำทัพมาโดย ติโม ปุ๊กกี กองหน้าตัวเก่ง, โจเอล โปห์ยานโปโล, ยัคค่า ไรตาย่า, เยเร่ อูโรเน่น

นาทีที่ 4 ฟินแลนด์ ฉกฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของแนวรับรัสเซีย ยัคค่า ไรตาย่า ตัดบอลไปได้ หลุดมาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนเปิดบอลให้ โจเอล โปห์ยานโปโล โหม่งในกรอบเขตโทษหนีมือนายทวารเจ้าถิ่นเข้าไปตุงตาข่าย แต่เมื่อเช็คจาก VAR แล้ว เป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน

หลังเกือบเสียประตู รัสเซีย ดาหน้าบุกอย่างหนักเพื่อทำประตูขึ้นนำให้ได้ แต่จังหวะจบสกอร์นั้นยังทำได้ไม่ดีพอ ขณะที่ ฟินแลนด์ อาศัยเกมรับที่เหนียวแน่น รอโต้กลับได้น่ากลัวหลายครั้ง แต่ยังทำประตูไม่ได้

แต่แล้วช่วงทดเจ็บของครึ่งเวลาแรก รัสเซีย มาได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ อเล็กเซย์ มิรานชุก ทำชิ่ง 1-2 กับ อาร์เตม ซูบ้า ก่อนจะเป็น มิรานชุก ที่ปั่นด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษ หนีมือนายทวารฟินแลนด์เข้าไปอย่างสุดสวย และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง ฟินแลนด์ เป็นฝ่ายเปิดเกมบุกมากขึ้นเพื่อทวงประตูคืน แต่เกมรับของรัสเซีย ยังทำได้ดี หยุดเกมบุกของ 2 กองหน้าฟินแลนด์ได้อยู่หมัด โดยทีม ‘หมีขาว’ พยายามเปิดเกมแลกเหมือนกัน แต่จังหวะจบสกอร์ทำได้ไม่ดีพอ

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที รัสเซีย เอาชนะ ฟินแลนด์ 1-0 เก็บสามคะแนนสำคัญ ทำให้พวกเขามี 3 แต้ม จาก 2 นัด เท่ากับฟินแลนด์ ไปลุ้นเข้ารอบน็อคเอาท์ต่อในนัดสุดท้าย

โปรแกรมต่อไป ฟินแลนด์ จะพบกับ เบลเยียม ในคืนวันที่ 21 มิถุนายน เวลา 02.00น. (ตามเวลาประเทศไทย) ส่วน รัสเซีย จะพบกับ เดนมาร์ก ในวันและเวลาเดียวกัน

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

ฟินแลนด์ : ลูคัส ฮาราเด็คกี (GK), ยูน่า ตอยวิโอ, เปาลัส อารายูรี, ดาเนียล โอเชาเนสซี, ยัคค่า ไรตาล่า, โรบิน ลอด, ราสมุส ชูลเลอร์, เกล็น กามาร่า, เยเร่ อูโรเน่น, ติโม ปุ๊กกี, โจเอล โปห์ยานโปโล

รัสเซีย : มัตเวย์ ซาโฟนอฟ (GK), ดิมิทรี บารินอฟ, อีกอร์ ดีวีฟ, จอร์จีย์ ซิคีย่า, ดาเลอร์ คูซยาเยฟ, โรมัน ซอบนิน, มาโกเม็ด ออซโดเยฟ, มาริโอ เฟร์นันเดซ, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน, อเล็กเซย์ มิรานชุก, อาร์เตม ซูบ้า

 

ที่มา : https://mgronline.com/sport/detail/9640000058362


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘สมาคมสภาสังคมสงเคราะห์ฯ’ ร่วม ‘กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์’ และมูลนิธิมิราเคิลฯ จัดโครงการ น้ำพระทัยพระราชทาน ทำอาหารเลี้ยงประชาชน ที่เดือดร้อน

สมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  และมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ จัดแถลงข่าวพิธีเปิดครัวโครงการน้ำพระทัยพระราชทาน จัดเลี้ยงอาหารให้แก่ประชาชน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนทั่วประเทศในสถานการณ์ปัจจุบันที่ทุกคนได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม - 30 มิถุนายน 2564

โดยได้รับการสนับสนุนจากโครงการสลากการกุศล เพื่อนำไปมอบให้แก่ประชาชนในพื้นที่และชุมชนต่างๆ ที่กำลังเดือดร้อน ในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งมี แพทย์หญิงสุวณี รักธรรม รองประธานสมาคมสภาสังคมสงเคราะห์ฯ กล่าวถึงโครงการน้ำพระทัยพระราชทานและความร่วมมือกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ขณะที่ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ร่วมกล่าวขอบคุณ

ทั้งนี้ภายในงาน นำโดยแพทย์หญิงสุวณี รักธรรม รองประธานสมาคมสภาสังคมสงเคราะห์ฯ, นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, ร้อยตำรวจโท ดร. มนัส โนนุช ประธานมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์, นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ คณะกรรมการอำนวยการสมาคมสภาสังคมสงเคราะห์ฯ และผู้บริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วยตัวแทนจาก Idol Exchange และศิลปินวงWisdomได้ร่วมพิธีเปิดและประกอบอาหารเมื่อวันอังคารที่ 15 มิถุนายน 2564 เวลา 13.00 น. ณ  บริเวณกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

โดยในส่วนของตัวแทนจาก Idol Exchange นั้นประกอบไปด้วย…

- กุ้ง-ศรุดา นิ่มพิทักษ์พงศ์

- เหม่เหม-จุฑาภัส จำปาวัน

- เนย-ส.ท.หญิงอาธิติยา แก้วเงิน

- โดนัท-เบญจรัตน์ ไตรยวงศ์

และศิลปินวง Wisdom ประกอบไปด้วย

- นิธินันท์ บัณฑูรประยุกต์

- โชติกา เพียรพัฒนาวิทย์

- พิยดา จังสิริมงคล

- จิราวรรณ แสงจันทร์

- กิตติกา ชละเอม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top