Wednesday, 25 June 2025
NEWS FEED

ป.ป.ช. มีมติตั้งคณะไต่สวนอดีตผู้ว่าฯ - นายกอบจ. และบริษัทที่เกี่ยวข้อง กรณีเสาไฟกินรี ระบุต้องแล้วเสร็จภายใน 180 วัน

1 ก.ค. 64 นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษก ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหญ่ เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ได้พิจารณารายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีกล่าวหาผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ กระทำการจัดซื้อจัดจ้างโครงการเสาไฟฟ้าแสงสว่างพร้อมรูปประติมากรรมกินรีโดยมิชอบ

โดยจากการตรวจสอบพบว่า ในปีงบประมาณ 2556, 2557, 2561, 2562, 2563, 2564 ซึ่งทาง อบต.ราชาเทวะ ได้จัดทำโครงการจัดซื้อเสาไฟฟ้าและซ่อมบำรุงเสาไฟฟ้าดังกล่าว โดยมีการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างไม่ถูกต้องตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2541

และพบว่าการจัดซื้อจัดจ้างมีการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทผู้รับจ้างบางราย และยังพบว่าการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานตามที่กำหนด ดังนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติแต่งตั้งองค์คณะไต่สวนเบื้องต้นเพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงรวม 5 คณะ โดยแต่ละคณะจะแยกไต่สวนกันคนละปีงบประมาณ

อย่างไรก็ตาม ในส่วนผู้ถูกกล่าวหากรณีนี้ มีทั้ง อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ, นายก อบต.ราชาเทวะ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และบริษัทเอกชน รวมกว่า 20 ราย ทั้งนี้ ตามกฎหมายระบุว่าการไต่สวนข้อเท็จจริงดังกล่าวต้องแล้วเสร็จภายใน 180 วัน

 

ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/108312


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ทบ. พร้อมรับทหารใหม่ ด้วยมาตรการป้องกัน COVID-19 อย่างเข้มงวด ระหว่าง 1-3 ก.ค.

พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกมีความพร้อมรับการรายงานตัวของ ทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1/2564 ที่จะเดินทางมาในวันที่ 1 และ 3 ก.ค. 64 นี้ ด้วยมาตรการที่รัดกุมเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดการแพร่ระบาดแบบกลุ่มของหน่วยฝึกทหารใหม่ทั่วประเทศ

ตามนโยบาย พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่มอบให้กรมยุทธศึกษาทหารบก เป็นผู้กำหนดมาตรการในการบริหารจัดการฝึกทหารใหม่ ให้มีความปลอดภัย ลดความเสี่ยงการแพร่กระจายเชื้อ และเป็นไปตามที่ ศบค.กำหนดนั้น จึงได้กำหนดขั้นตอนการปฏิบัติ ออกเป็น 3 ขั้นตอนได้แก่

1.) ขั้นการเตรียมการก่อนการฝึก โดยจัดเตรียมพื้นที่ฝึกและพักอาศัยให้อยู่ในระบบปิด แบบ Bubble and Seal จำกัดเฉพาะผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการฝึกเท่านั้น สำหรับทหารที่ทำหน้าที่เป็น ผู้ฝึก ครูฝึก ผู้ช่วยครู และเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยฝึกทุกนาย ได้ทำการกักตัวภายในหน่วยฝึกล่วงหน้าเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วันก่อนวันที่ทหารใหม่จะมาถึง รวมทั้งดำเนินการด้านการตรวจหาเชื้อเชิงรุก และจัดให้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อให้มั่นใจว่าครูฝึกและเจ้าหน้าที่ทุกนาย ปลอดภัยจากเชื้อไวรัส

2.) ขั้นการดำเนินการ ในวันที่ทหารใหม่เข้ามารายงานตัวในหน่วยฝึกทหารใหม่ทั้ง 311 หน่วยทั่วประเทศ ได้จัดให้มีชุดแพทย์ทำการตรวจคัดกรองอย่างละเอียด หากพบผู้ติดเชื้อจะแยกออกเพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษา ณ รพ.ประจำค่ายทหาร ที่มีอยู่จำนวน 37 แห่ง สำหรับส่วนที่เหลือจะแยกกักตัวภายในหน่วยฝึกเป็นเวลา 14 วันเพื่อให้พร้อมทำการฝึกในขั้นต่อไป และ

3.) ขั้นการฝึกและเสริมสร้าง โดยระหว่างการกักตัว จะใช้วิธีการแยกสอนในห้องเรียน หรือใช้การเรียนแบบออนไลน์ไปก่อน เมื่อครบกำหนด 14 วัน จึงสามารถทำการฝึกในสนามฝึก ได้ แต่จะต้องเป็นไปตามมาตรการการเว้นระยะห่าง ของสาธารณะสุข (DMHTT) ทุกประการ ซึ่งทั้งครูฝึกและทหารใหม่ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ทุกคน จะถูกจำกัดให้อยู่แต่ภายในหน่วยฝึกไม่ให้ปะปนสู่ชุมชนภายนอก

สำหรับในส่วนของ กทม. และปริมณฑล ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้กำหนดให้ใช้พื้นที่ของ มทบ.11 เป็นสถานที่แรกรับรายงานตัว​ ซึ่งจะมารายงานตัวจำนวน 2 รอบ คือ รอบวันที่ 1 ก.ค.64 จำนวน 2,716 คน โดยส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีภูมิลำเนาทหารอยู่ใน กทม. และ จังหวัดใกล้เคียง และรอบวันที่ 4 ก.ค. 64 จำนวนประมาณ 1,519 คน ส่วนใหญ่มาจากจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งกรมแพทย์ทหารบกได้เตรียมหน่วยแพทย์คัดกรองมาดำเนินการตรวจหาเชื้อเชิงรุกทุกนาย หากตรวจพบจะแยกไปทำการรักษาที่ รพ.สนามของ ทบ.ที่เตรียมไว้ (รพ.สนามเกียกกาย และ รพ.สนาม มทบ.11-2) ส่วนผู้ที่มีความเสี่ยงสูง จะให้ทำการกักตัวในสถานกักตัวของหน่วย (OQ) เป็นเวลาอย่างน้อย 14 วันก่อนส่งตัวเข้าสู่กระบวนการฝึกต่อไป

นอกจากนั้น ผู้บัญชาการทหารบกยังได้สั่งการเพิ่มเติมการปฏิบัติในส่วนของ ผู้ที่ต้องเดินทางมาจากภาคอีสาน โดยจะใช้ชุดแพทย์ทหารต้นทาง ทำการตรวจหาเชื้อเชิงรุกภายในจังหวัดของตนเองตั้งแต่แรก หากตรวจพบก็ให้ทำการรักษาในจังหวัดนั้น ๆ ก่อนยังไม่ต้องเดินทางเข้ามายัง กทม.

ทั้งนี้ผู้บัญชาการทหารบก ได้ห่วงใยและให้ความสำคัญในการดูแลทหารกองประจำการที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพบกเป็นพิเศษ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีมาตรการเพิ่มเติมการดูแลด้านสุขอนามัย โภชนาการ เวชศาสตร์การกีฬา ตลอดจนการเพิ่มโอกาสในการรับราชการ เพราะถือว่าทหารกองประจำการทุกนายเป็นผู้มีความเสียสละ เข้ามาดูแลด้านความมั่นคง ช่วยเหลือประชาชนในหลากหลายภารกิจ ตลอดจนเป็นครอบครัวของกองทัพบกที่จะต้องได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด

เพจเฟซบุ๊ก World Forum ข่าวสารต่างประเทศ โพสต์ภาพนวัตกรรมใหม่ "หน้ากากอนามัยปิดจมูก" ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวเม็กซิกัน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสเข้าทางจมูกขณะรับประทานอาหารร่วมโต๊ะกับคนอื่น ซึ่งถูกยืนยันแล้วว่าใช้ได้ผลจริง

เพจเฟซบุ๊ก World Forum ข่าวสารต่างประเทศ โพสต์ภาพนวัตกรรมใหม่ "หน้ากากอนามัยปิดจมูก" ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวเม็กซิกัน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสเข้าทางจมูกขณะรับประทานอาหารร่วมโต๊ะกับคนอื่น ซึ่งถูกยืนยันแล้วว่าใช้ได้ผลจริง

.เพจเฟซบุ๊กโพสต์ข้อความระบุว่า...หน้ากาก ปิดจมูก สำหรับทานอาหารในที่สาธารณะ น่าสนใจในช่วงที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้น

นักวิทยาศาสตร์ชาวเม็กซิกัน Gustavo Acosta Altamirano จากมหาวิทยาลัย The Instituto Politécnico Nacional หรือ IPN ได้แสดงนวัตกรรมใหม่ของเขา เป็นหน้ากากอนามัยปิดจมูก ป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิดได้ดีโดยเฉพาะ เวลาทานอาหาร ร่วมกับบุคคลอื่น ป้องกันละออง การแพร่เชื้อไวรัสเข้าทางจมูก ใช้ได้ผลจริง

ทั้งนี้ ยังสามารถใช้ป้องกันสองชั้น โดยสวมหน้ากากอนามัยหลักทับอีกที เวลาต้องออกไปสถานที่สาธารณะ ก็จะสามารถป้องกันโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่

 

ที่มา World Forum ข่าวสารต่างประเทศ https://www.facebook.com/WorldForumTh/posts/335636018100648


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ และประธานชมรมเชื้อราทางการแพทย์ประเทศไทย ได้โพสต์ผลลัพธ์ของวัคซีนแอสตร้าฯ ที่น่าสนใจจากทางสหราชอาณาจักรผ่านเฟซบุ๊ก 'หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC' ว่า

ไม่นานมานี้ นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ และประธานชมรมเชื้อราทางการแพทย์ประเทศไทย ได้โพสต์ผลลัพธ์ของวัคซีนแอสตร้าฯ ที่น่าสนใจจากทางสหราชอาณาจักรผ่านเฟซบุ๊ก 'หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC' ว่า...

ยุทธศาสตร์ในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แต่ละประเทศแตกต่างกัน แล้วแต่จำนวนวัคซีนที่หามาได้

ของไทยเน้นปูพรมฉีดเข็มแรกโดยเฉพาะวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าให้มากที่สุดอย่างน้อย 50 ล้านคนให้เร็วที่สุดใน 120 วัน ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่ถูกต้องในภาวะที่วัคซีนขาดแคลน

โดยยืดเวลาการให้วัคซีนแอสตร้าเข็มที่ 2 ออกไปเป็น 12-16 สัปดาห์ แทนที่จะเน้นให้ทุกคนต้องฉีดคนละ 2 เข็มใน 8 สัปดาห์ เหมือนประเทศที่มีวัคซีนเหลือพอ อย่างในประเทศสหรัฐอเมริกา 1 ใน 10 คน ที่ฉีดเข็มแรกไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา จะปฏิเสธเข็มที่ 2 แต่อย่างไรเสียคนที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯ คือคนที่ไม่เคยรับวัคซีน

เป็นที่ทราบกันดีจำนวนคนป่วยหนักเข้านอนโรงพยาบาลและใส่ท่อหายใจเพิ่มขึ้นทุกวัน จนเตียงในไอซียูในโรงพยาบาลไม่เพียงพอ ยิ่งกว่านั้นเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ที่พบบ่อยที่สุดประมาณ 80 กว่า% เป็นสายพันธุ์อัลฟ่าหรือสายพันธุ์อังกฤษ ตามมาด้วยสายพันธุ์เดลต้าหรือสายพันธุ์อินเดียเกือบ 20% เนื่องจากสายพันธุ์เดลต้าแพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์อังกฤษ 60% เชื่อว่าอีกไม่นานสายพันธุ์เดลต้าจะขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แทนสายพันธุ์อัลฟ่าในประเทศไทย

>> มีการศึกษาจากประเทศสหราชอาณาจักร วัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเข็มแรกสามารถลดการป่วยหนักเข้านอนโรงพยาบาลจากสายพันธุ์เดลต้า 71% เทียบกับสายพันธุ์อัลฟ่า 76%

>> ส่วนวัคซีนแอสตร้า 2 เข็มลดการป่วยหนักเข้านอนรพ. จากสายพันธุ์เดลต้า 92% เทียบกับสายพันธุ์อัลฟ่า 86%

การปูพรมฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเข็มแรกให้เร็วที่สุด อย่างน้อย 50 ล้านคนใน 120 วัน เป็นการให้ ที่แข่งกับเวลาก่อนที่เชื้อสายพันธุ์เดลต้าจะขึ้นมาแทนที่สายพันธุ์อัลฟ่า เพราะวัคซีนแอสตร้าฯ แม้เพียงเข็มแรกก็ช่วยลดจำนวนคนป่วยหนักเข้านอนรพ. มากกว่า 70%

สำหรับวัคซีนซิโนแวคและซิโนฟาร์มต้องให้ 2 เข็มใน 3-4 สัปดาห์ถึงจะมีประสิทธิภาพป้องกันการป่วยหนักเข้านอนในโรงพยาบาลและเสียชีวิต หลังฉีดวัคซีนแล้ว ทุกคนก็ยังต้องใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือเหมือนเดิม

ยุทธศาสตร์เมื่อกำหนดแล้วต้องทำให้ได้ ฝากความหวังกับบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ผู้ผลิตวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าสามารถทยอยส่งมอบวัคซีนให้กระทรวงสาธารณสุขมากที่สุดทันตามกำหนดเวลา

 

 

ที่มา : https://www.facebook.com/604030819763686/posts/1975480902618664/


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘บิ๊กตู่’ ขอชาวภูเก็ตเข้มทำตามกฎ นำร่องรับนักท่องเที่ยว ก่อนเปิดทั้งประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha’ ว่า การเปิดจังหวัดภูเก็ตต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วให้เข้ามาได้โดยไม่ต้องกักตัว ซึ่งเริ่มในวันนี้ (1 ก.ค. 64) ไม่ใช่เป็นเรื่องของจังหวัดภูเก็ตเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของทั้งประเทศ ถือเป็นก้าวสำคัญก้าวหนึ่งในการนำร่องเพื่อดูความเหมาะสมและประสิทธิภาพของมาตรการและขั้นตอนต่าง ๆ เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมตัวและเดินหน้าไปสู่เป้าหมายการเปิดทั้งประเทศใน 120 วันตามที่ผมได้ตั้งไว้

ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเปิดโอกาสให้การใช้ชีวิตและการทำมาหากินของพี่น้องคนไทย เริ่มกลับมาได้อีกครั้งครับ

แม้จะรู้ว่ามีความเสี่ยง อย่างตอนนี้ ในบางประเทศ ทั้งในประเทศใหญ่ และประเทศที่เป็นประเทศเป้าหมายที่น่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทย ล่าสุดเริ่มมีจำนวนผู้ติดเชื้อ และจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มกลับขึ้นมาอีก แต่เราจำเป็นต้องยอมรับความเสี่ยงบ้าง สิ่งสำคัญคือเราต้องมีการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อะไรที่เห็นว่าควรต้องปรับเปลี่ยน ต้องดำเนินการให้เหมาะสมทันที เพี่อไม่ให้ส่งผลกระทบไปถึงเป้าหมายใหญ่ในการเปิดประเทศใน 120 วัน

“ผมขอให้ชาวภูเก็ตทุกคนร่วมมือกัน ช่วยกันอย่างเต็มที่ ระมัดระวังอย่างที่สุด และขอให้ช่วยกันทำตามกฎกติกาอย่างเคร่งครัด ไม่ให้มีการฝ่าฝืนมาตรการต่าง ๆ ไม่ให้มีการพาคนเดินทางเข้าหรือออกจากพื้นที่โดยไม่ถูกขั้นตอน ขอให้ทุกท่านคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อประเทศตลอดเวลานะครับ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่ภูเก็ต มีผลต่อทั้งประเทศ ขอให้ชาวภูเก็ตภูมิใจที่ได้ร่วมกันทำภารกิจชาติ ทั้งประเทศดูท่านอยู่ และเป็นกำลังใจให้ท่านครับ”


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงสถิติการใช้ฟ้าทะลายโจรจากเรือนจำเชียงใหม่ถึงกรุงเทพ ที่รัฐบาลควรประกาศออกมาได้แล้วว่า...

อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงสถิติการใช้ฟ้าทะลายโจรจากเรือนจำเชียงใหม่ถึงกรุงเทพ ที่รัฐบาลควรประกาศออกมาได้แล้วว่า...

เมื่อพิจารณถึงสถานการณ์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 ประเทศไทยมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 6,884 คน และมีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 61 คน คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตต่อจำนวนผู้ป่วย 0.88%

สำหรับการระบาดระลอกสอง ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2564 -31 มีนาคม 2564 ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เฉพาะช่วงนี้ จำนวน 21,979 คน มีผู้เสียชีวิตสะสมช่วงนี้ 33 คน คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตต่อจำนวนผู้ป่วย 0.15% ซึ่งถือว่าช่วงเวลานี้ประเทศไทยมีอัตราการเสียชีวิตลดน้อยลงกว่าปี 2563 เพราะแพทย์ในประเทศไทยมีประสบการณ์มากขึ้น ด้วยอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือและบุคคลากรทางการแพทย์มีเพียงพอ

แต่การระบาดระลอกที่สาม ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2564 จนถึงวันที่ 25 มิถุนายน 2564 มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เฉพาะช่วงนี้จำนวน 207,428 คน มีผู้ป่วยเสียชีวิตเฉพาะช่วงนี้ 1,725 คน คิดเป็นอัตราการเสียชีวิต 0.83% อันสะท้อนให้เห็นว่าอัตราการเสียชีวิตกลับเพิ่มสูงขึ้นกว่าช่วง 3 เดือนแรกของปี 2564

ช่วงเวลาเดียวกันนี้เองได้เกิดการระบาดโรคที่เรือนจำกลางเชียงใหม่ ทางกระทรวงยุติธรรมได้ใช้ยาฟ้าทะลายโจรเป็นยาร่วมรักษา ผลปรากฏว่าจำนวนผู้ต้องขัง ถึง ณ วันที่ 18 มิถุนายน 2564 มีนักโทษรวมทั้งสิ้น 6,562 คน ติดเชื้อโควิด-19 สะสมรวมทั้งสิ้น 4,169 คน รักษาหายแล้วถึง 3,980 คน มีผู้เสียชีวิต 3 คน คิดเป็นอัตราการเสียชีวิต 0.072% เท่านั้น ซึ่งน่าอัศจรรย์ว่าเป็นกลุ่มคนที่มีอัตราการเสียชีวิตต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในประเทศไทยในทุกช่วงเวลา

สรุปสัดส่วนผู้เสียชีวิตกับผู้ติดเชื้อแต่ละช่วงเวลาคือ...

>> ช่วงเวลา 2563 ในประเทศไทย ถ้ามีผู้ติดเชื้อ 10,000 คน จะมีผู้เสียชีวิต 88 คน

>> ช่วงเวลา 1 มกราคม 2564-31 มีนาคม 2564 ประเทศไทยถ้ามีผู้ติดเชื้อ 10,000 คน จะมีผู้เสียชีวิต 15 คน

>> ช่วงเวลา 1 เมษายน 2564 -25 มิถุนายน 2564 ประเทศไทยถ้ามีผู้ติดเชื้อ 10,000 คน จะมีผู้เสียชีวิต 83 คน

>> แต่สำหรับเรือนจำกลางเชียงใหม่ ซึ่งมีการใช้ 'ฟ้าทะลายโจร' ในการลดอาการของผู้ป่วย ช่วงเวลา 1 เมษายน 2564-18 มิถุนายน 2564 ถ้ามีผู้ติดเชื้อ 10,000 คน จะมีผู้เสียชีวิต 7 คนเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีการรายงานผลของ นายแพทย์เอนก มุ่งอ้อมกลาง สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 จังหวัดสระบุรี ซึ่งบรรยายประสบการณ์การนำยาสมุนไพรไทยไปใช้ในสถานการณ์การระบาดเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ในเรือนจำกรุงเทพมหานคร ที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุขจัดการสัมมนาครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2564

โดย นายแพทย์เอนก มุ่งอ้อมกลาง รายงานการพบว่าเมื่อใช้ 'ผงหยาบ' ฟ้าทะลายโจรในขนาดแคปซูล 400 มิลลิกรัม กิน 4 เม็ดต่อครั้งและ 3 ครั้งต่อวัน หรือประมาณ 4.8 กรัมต่อวันเป็นเวลา 5 วัน ปรากฏว่าผู้ป่วยโควิด-19 ตรวจเชื้อไม่พบเลยในวันที่ 8 ในขณะที่ยาฟาวิพิราเวียร์ต้องใช้เวลา 12 วันที่จะตรวจไม่พบเชื้อเลย

แปลว่าฟ้าทะลายโจรเหนือกว่ายาฟาวิพิราเวียร์ และไม่ต้องสกัดอะไรเหมือนกระชายขาว

ความน่าสนใจคือ ผงหยาบฟ้าทะลายโจร 4.8 กรัมต่อวัน ที่ชนะยาฟาวิพิราเวียร์ได้นั้น เป็นปริมาณใช้น้อยกว่า 'ผงหยาบ' ฟ้าทะลายโจรขั้นต่ำสุดใน 'โรคหวัดธรรมดา' ที่ต้องใช้ผงฟ้าทะลายโจรประมาณ 6 กรัมต่อวันเสียด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นสัญญาณแสดงว่า โรคโควิดจัดการได้ง่ายกว่าและกระจอกว่าโรคหวัดเมื่อใช้ผงหยาบฟ้าทะลายโจรหรือไม่?

และปริมาณผงหยาบฟ้าทะลายโจรที่ใช้ 4.8 กรัมต่อวันนั้น เมื่อตรวจสารแอนโดรกราโฟไลด์นั้นได้เพียง 132 มิลลิกรัมต่อวัน ไม่ต้องใช้มากถึง 'สารสกัด' จากฟ้าทะลายโจรที่ต้องใช้สารแอนโดรกราโฟไลด์ 180 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า 'ผงหยาบ' ฟ้าทะลายเพียงน้อยนิดก็จัดการกับโรคโควิด-19 ได้แล้ว

สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้น คือข้อมูลของคุณรสนา โตสิตระกูล มูลนิธิสุขภาพไทย ได้แจกฟ้าทะลายโจรไปในชุมชนคลองเตย ซึ่งเป็นชุมชนแออัด หลายคนนอนห้องเดียวกัน พบว่าผู้ที่ใช้ฟ้าทะลายโจร 4.8 กรัม หรือใช้แคปซูลขนาด 400 มิลลิกรัม จำนวนเพียงแค่ 12 เม็ดต่อวัน

ปรากฏว่ามีหลายบ้านในชุมชนคลองเตย ผู้ที่กินฟ้าทะลายโจรไม่ติดเชื้อ แต่คนที่ไม่ได้กินกลับติดเชื้อ บางคนที่ไม่ได้ใช้ฟ้าทะลายโจรกลับติดเชื้ออยู่คนเดียวในบ้าน ทั้ง ๆ ที่นอนห้องเดียวกันกับคนที่กินฟ้าทะลายโจรด้วยซ้ำไป

ที่สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม News1 ก็มีผู้ติดเชื้อ 2 คน ให้กินฟ้าทะลายโจรทั้งชั้น 'ทุกคน' ครั้งละ 4 แคปซูล วันหนึ่งกิน 4 ครั้ง เมื่อครบ 5 วันก็ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มแม้แต่คนเดียว จึงไม่ลุกลามกลายเป็นคลัสเตอร์ใหญ่

และทำให้ต้องคิดกันว่าถึงเวลาที่จะต้องนำ 'ฟ้าทะลายโจร' มาเป็น 'วาระแห่งชาติ' อย่างจริงจังได้แล้ว เตรียมพร้อม 'บำบัดรวมหมู่' ด้วยฟ้าทะลายโจร 'พร้อมกัน' ดังนั้นทุกบ้านทุกที่ดินเตรียมปลูกเสียตั้งแต่วันนี้ให้มากที่สุด

 

 

ที่มา: https://www.facebook.com/123613731031938/posts/4250157078377562/


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ฟันธงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกยูโร 2020 ทีมไหนใครจะผ่านเข้ารอบ?

วันพรุ่งนี้ศึกฟุตบอลยูโร 2020 ⚽ จะกลับมาดวลแข้งกันอีกครั้ง ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย งานนี้มีทีมที่สามารถฝ่าด่านอรหันต์เข้ามาถึงรอบนี้ ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์, สเปน, เบลเยียม, อิตาลี, สาธารณรัฐเช็ก, เดนมาร์ก, ยูเครน และอังกฤษ

โดยคืนวันที่ 2 ก.ค. สวิตเซอร์แลนด์จะพบกับสเปน เวลา 5 ทุ่ม และดึกตีสอง จะเป็นการพบกันของเบลเยียมกับอิตาลี ส่วนคืนวันที่ 3 ก.ค. เริ่มต้นด้วยสาธารณรัฐเช็กพบเดนมาร์ก เวลา 5 ทุ่ม และช่วงดึกตีสอง ยูเครนจะพบอังกฤษ

งานนี้ใครมีโอกาสจะคว่ำใคร หรือใครมีดีอะไรกันบ้าง ตามไปดูรายละเอียดที่ THE STATES TIMES นำมาให้ทราบกันได้เลย...


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

องค์การเภสัชกรรม เคาะ! ราคาขายวัคซีนโมเดอร์นา โดสละ 1,100 บาท รพ. เอกชน เริ่มเปิดจอง ก.ค.นี้ ล็อตแรก 3.9 ล้านโดส เข้าไตรมาส 4 ส่วนอีก 1.1 ล้านโดส มาต้นปีหน้า ขณะที่รพ.เอกชน เคาะราคาฉีดเข็มละ 1,700 บาท

นายแพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดหาวัคซีนโมเดอร์นา ว่า องค์การเภสัชกรรม ได้กำหนดราคาขายวัคซีนโมเดอร์นา ให้กับโรงพยาบาลเอกชน ในราคาโดสละ 1,100 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าขนส่ง และค่าประกันภัยรายบุคคล หลังจากนี้ สมาคมโรงพยาบาลเอกชน จะไปกำหนดราคากลางค่าบริการฉีดที่เป็นอัตราเดียวกันต่อไป

สำหรับการเปิดจอง ทางโรงพยาบาลจะเริ่มประกาศให้ประชาชนสั่งจองหรือยืนยันการจองในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้ เมื่อได้ยอดจองของแต่ละโรงพยาบาลแล้ว องค์การเภสัชฯ จะได้จัดสรรให้สอดคล้องกับจำนวนที่บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด นำเข้า โดยจะเริ่มทยอยจัดส่งวัคซีนให้ในงวดแรก ในไตรมาส 4/2564 ประมาณ 3.9 ล้านโดส และงวดที่ 2 ในไตรมาสที่ 1/2565 จำนวน 1.1 ล้านโดส

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่สมาคมโรงพยาบาลเอกชน องค์การเภสัชกรรม และบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายวัคซีนโมเดอร์นา ได้มีความเห็นร่วมกันให้กำหนดอัตราการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นา ในราคา 2 เข็ม 3,400 บาท หรือตกเข็มละ 1,700 บาท

โดยค่าบริการดังกล่าวจะเป็นอัตราเดียวกันในทุกโรงพยาบาลเอกชนที่ให้บริการ เป็นราคาสุทธิที่รวมค่าวัคซีนโควิด ค่าบริการ และค่าประกันวัคซีนทั้งหมด

 

 

ที่มา : https://www.facebook.com/gpoth.official/photos/a.879647762423872/1648830548838919/


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“ประวิตร” เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาค้ามนุษย์ ย้ำ ให้คุ้มครองเหยื่อ-อย่าเกียร์ว่าง ช่วงโควิดระบาด สั่งฟัน จนท.เอี่ยวค้ามนุษย์ 

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ครั้งที่2/2564 และการประชุมคณะกรรมการป้องกันเจ้าหน้าที่ของรัฐมีให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ครั้งที่1/ 2564 มีนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ร่วมประชุม เพื่อขับเคลื่อนแผนและการปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่รัฐบาลกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ

โดยที่ประชุมเห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ประจำปี 2564 เน้นให้ความสำคัญต่อการแก้ปัญหาและป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางอินเตอร์เน็ตที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน การป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงานและการคุ้มครองแรงงานต่างด้าว รวมทั้งเน้นการยกระดับการแก้ปัญหาให้เป็นที่ยอมรับระดับสากล ในประเด็นการพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ และการคุ้มครองผู้เสียหาย

นอกจากนั้นรับทราบผลการดำเนินงานทางวินัยและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ตั้งแต่ปี 2555ถึงปัจจุบัน รวม 77 ราย และได้ปรับปรุงขั้นตอนการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐมิให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ โดยให้เพิ่มช่องทางการรับแจ้งเหตุให้สามารถดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง และกำหนดความหมายของการค้ามนุษย์ให้ครอบคลุมถึงการนำพาบุคคลเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต  

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าทีทุกระดับที่มุ่งมั่นปฏิบัติงาน พร้อมย้ำเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นของรัฐบาลเพื่อขจัดการค้ามนุษย์ให้เป็นวาระแห่งชาติ ต้องให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนร่วมกันอย่างจริงจังและมีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้น ต้องไม่ให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19เป็นช่องว่างหรือข้อจำกัดของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกระดับในทุกหน่วยงาน พร้อมทั้งย้ำให้เร่งรัดดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเร่งด่วน นอกจากนั้นให้นำผลงานวิจัยและรายงานข้อคิดเห็นที่ตรงกับข้อเท็จจริงไปขับเคลื่อนแก้ปัญหา หากเรื่องใดไม่ตรงกับข้อเท็จจริงให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ทำข้อมูลเสนอผ่าน กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อทำความเข้าใจกับองค์กรระหว่างประเทศที่เข้าใจคลาดเคลื่อนภายใน 7 วัน ขณะที่กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ทำงานร่วมกับตำรวจ เพื่อปกป้องและคุ้มครองเหยื่อจากการค้ามนุษย์ทั้งคนไทยและต่างประเทศทันที และแยกระหว่างคดีบังคับใช้แรงงานกับคดีค้ามนุษย์ ให้สืบต้นตอความเชื่อมโยงการค้ามนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำพาผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายทุกกรณี  ส่วนกระทรวงแรงงานต้องผลักดันให้นายจ้างเร่งลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวให้เข้าในระบบโดยเร็ว โดยต้องไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐหรือการทุจริตโดยเด็ดขาด

‘ดร.สันต์’ นักวิชาการนิด้า เตือน โควิด-19 ระลอก 4 มาแน่ ชี้ 7 วันอันตราย ต้อง "ล็อกดาวน์" ตัวเองอย่างเข้มงวด ทางเดียวที่จะรอด

ดร.สันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง อาจารย์พิเศษคณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ระบุ Covid-19 : Red Alert Wave#4 ครั้งที่ 2 : การแจ้งเตือนระดับสูงสุด 7 วันอันตราย ยืนยันสถานการณ์ระดับ Exponential ใน กทม. ครับ ขอเตือนพี่น้องชาว กทม. ทุกคนเลยนะครับ วันนี้ กทม. New High ที่ 1,826 ทำให้ยืนยันได้แล้วครับว่า ที่ผ่านมาคือส่วนของหัว Wave#4 แน่ ๆ และจากนี้จะเป็นตัวคลื่นของ Wave#4 ระดับสึนามิ ที่กำลังจะพัดเข้าชายฝั่งครับ ทุกคนใน กทม. และปริมณฑล ต้อง Lockdown (ล็อกดาวน์) ตัวเอง ทำตาม ศบค. อย่างเคร่งครัด ไม่มีทางอื่นสำหรับช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ครับ การ Lockdown อย่างเข้มงวด คือ วิธีเดียวครับที่จะรอด นี่คือช่วง 7 วันอันตรายอย่างยิ่งครับ

ตัวเลขและกราฟใน กทม. :

1.) กราฟ Super Position ของ Wave#4 ยืนยันระดับ % Increase ที่ประมาณ 13% หรือ Doubling Day ที่ประมาณ 6 วัน โดยมีแนวโน้มเป็นแบบนี้มา 2 สัปดาห์แล้วครับ กราฟ Total Case จริงสีแดงเป็น Exponential วิ่งตามเส้นการคำนวณสีส้มประอย่างชัดเจนครับ เรา Lockdown กทม. ปริมณฑล ไปแล้ว กราฟ % Increase ควรจะต้องดีขึ้นภายในไม่เกิน 1 สัปดาห์ข้างหน้า ถ้าไม่ดีขึ้น เรื่องใหญ่ครับ

2.) กราฟ % Increase ใน กทม. Wave#3 ต่อเนื่อง Wave#4 กำลังยกระดับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน เม.ย. กำลังขึ้นจากระดับ Background ที่ 2% เข้าสู่ 3% และน่าจะไปต่อ ซึ่งครั้งสุดท้ายที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็คือช่วงต้นเดือน เม.ย. ที่เราวิ่งจาก Wave#2 เข้าสู่ Wave#3 ครับ

ตัวเลขและกราฟประเทศไทย :

กราฟ % Increase Wave#3 ต่อเนื่อง Wave#4 หลังจากทรง ๆ อยู่ที่ Background ระดับ 2% ตอนนี้ก็กำลังวิ่งขึ้นเข้าสู่ระดับ 3% และน่าจะไปต่อเช่นกัน ครั้งสุดท้ายที่เกิดเหตุการณ์นี้ก็คือช่วงต้นเดือน เม.ย. ที่เราวิ่งจาก Wave#2 เข้าสู่ Wave#3 เช่นกันครับ

ตัวเลขที่ต้องจับตามองไปข้างหน้า 1 สัปดาห์ :

1.) กทม. ถ้าเข้มงวดกันพอและทำสำเร็จ New High ต่อวันเฉพาะใน กทม. อาจไปแตะระดับ 2,500-3,000 แต่จะหนี Exponential สำเร็จและจะค่อย ๆ ลดลง แต่ถ้าล้มเหลวก็จะได้เห็นระดับ 4 พัน 5 พันต่อวัน

2.) ต่างจังหวัดที่เดิมเป็นสีขาวและเขียว ตัวเลขมีขึ้นเยอะแน่นอน แต่ถ้าจับผึ้งแตกรังได้สำเร็จ ตัวเลขจะไม่ขึ้นไปไหนมาก สัปดาห์หน้าต้องเริ่มนิ่งครับ

คำแนะนำสูงสุด :

1.) กทม. ปริมณฑล และจังหวัดระบาดหนัก ต้อง Lockdown (ล็อกดาวน์) จริงจังที่สุด ออกไปข้างนอกต้องหน้ากาก 2 ชั้น ธุรกิจที่ยังไหว WFH ให้ได้ 80% เดินห้าง เดินตลาด เลี่ยงได้เลี่ยง

2.) ต่างจังหวัดและหัวเมือง จับผึ้งแตกรังทุกตัวให้ได้ และสัปดาห์นี้ สัปดาห์หน้า เฝ้าระวังโรงเรียน ถ้าพื้นที่ไหนมีคนกลับมามากผิดสังเกต และเริ่มมีติดเชื้อ ต้องเรียน Online ทันทีครับ อย่าได้ลังเล

3.) กิจการ ร้านค้าในพื้นที่ระบาดหนักที่ไม่ถูก ศบค. สั่งปิด ผมแนะนำว่า หยุดสัก 1 สัปดาห์ เพราะนี่คือ 7 วันอันตรายจริง ๆ ครับ

4.) คนไทยทุกคน นึกถึงฟอร์มการเล่นแบบแชมป์ที่ตัวเองเคยทำเมื่อปลาย มี.ค. ถึงต้น พ.ค. 63 ปีที่แล้ว ถ้าทำได้แบบนั้น ชนะแน่นอนครับ ขอแค่ทุก ๆ คนที่ยังมีกำลัง ทำแบบที่ตัวเองเคยทำสำเร็จ

5.) บุคคลากรทางการแพทย์มีความสำคัญที่สุด ซึ่งตอนนี้หนักจนไม่รู้จะหนักยังไงแล้ว และกำลังใจที่ดีที่สุดคือ ดูแลตัวเองอย่าให้ติดเชื้อเพิ่ม และถ้าถึงที่สุดแล้วระบบสาธารณสุขล้มลง เราก็ต้องไปช่วยประคองพวกเขา ในฐานะเพื่อน ในฐานะคนในครอบครัว เขาก็เป็นคนธรรมดาเหมือนพวกเรา มีหัวใจ มีความเข้มแข็งได้ อ่อนแอได้ มีทุกข์มีโศก ท้อแท้ สิ้นหวังได้เช่นกัน

6.) ธุรกิจที่กำลังจะล้มหายตายจาก คนที่บ้านกำลังจะโดนยึด ผมอยากให้ธนาคาร นายห้างใหญ่ เจ้าสัวใหญ่ ท่านต้องมีเมตตาจริง ๆ จัง ๆ แล้วครับ ท่านไม่ช่วย เขาไม่รอดครับ

7.) แม่ที่ไม่มีเงินจะซื้อนมให้ลูก ไม่มีอาหารจะตกถึงท้องแล้ว ทุกคนที่กำลังสิ้นหวัง กำลังจะยอมแพ้ ขอให้อย่าได้สิ้นหวัง ขอให้ตะโกนออกมาดัง ๆ ยังมีคนอีกมากที่แข็งแรงและพร้อมจะช่วยเหลือ ผมเชื่อว่าประเทศนี้ยังไม่สิ้นหวัง ยังคงมีความดีงามคงเหลืออยู่อีกมากมายครับ

Wave#4 กลับมาหาพวกเราเร็วมาก เร็วกว่าที่ผมกังวลไว้เสียอีก ทุก Indicator ที่ผมใช้ตรวจจับ Wave รหัสแดงทั้งหมดแล้ว เราไม่ทันแล้ว แต่ก็ต้องสู้ครับ ต่อให้ Wave มันซัดมาแรงแค่ไหน เดี๋ยวมันก็จะต้องผ่านไปครับ ขอให้หลบเข้าที่กำบัง ใช้ชีวิตอย่าได้ประมาท รักษาตัวเองและครอบครัวให้รอด ดูแลสุขภาพ ช่วยเหลือผู้คนให้มากที่สุด รักษาความดีและจิตวิญญาณที่ถูกต้องเอาไว้ให้ได้ และที่สุดแล้วเมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไป ผมหวังว่าทุกคนจะยังอยู่ที่ตรงนั้นและจะได้มาร่วมด้วยช่วยกันสร้างประเทศนี้ขึ้นมาใหม่ครับ

 

 

ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=6056834461023890&id=100000921874426


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top