Thursday, 26 June 2025
NEWS FEED

'เวียดนาม' เอาด้วย!! ลุยฉีดวัคซีน 2 ยี่ห้อ เข็มแรก AstraZeneca เข็มสอง Pfizer

กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามตัดสินใจฉีดวัคซีน 2 ชนิดให้กับประชาชนที่เคยได้รับวัคซีน AstraZeneca เข็มแรกไปแล้ว ให้ได้รับวัคซีน Pfizer เป็นเข็มที่สอง ซึ่งถือเป็นการบริหารวัคซีนที่ได้มาอย่างจำกัด เพื่อให้โครงการวัคซีนของรัฐบาลไม่สะดุด

สำหรับรัฐบาลเวียดนามนั้น ได้สั่งซื้อวัคซีน Pfizer เข้ามาจำนวน 745,000 โดส คาดว่าจะทยอยมาภายในเดือนกรกฎาคมนี้ นั่นจึงทำให้ทางรัฐพิจารณาเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนที่เพิ่งได้วัคซีน AstraZeneca เป็นเข็มแรกไปแล้ว 8-12 สัปดาห์ ให้มาฉีดวัคซีน Pfizer เป็นเข็มที่สองได้ทันที

ส่วนประชาชนที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนใดใดมาก่อนเลย สามารถฉีด Pfizer เป็นเข็มแรกได้ แต่ทั้งนี้ยังไม่ยืนยันว่าเข็มที่สองจะยังเป็น Pfizer หรือไม่

แต่ทั้งนี้ การเข้ารับวัคซีนชนิดใดก็ตาม ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้รับวัคซีนเป็นหลัก ว่าพอใจที่จะรับวัคซีนแบบ 2 เข็ม 2 ยี่ห้อ หรือต้องการจะฉีดเพียงยี่ห้อเดียวให้ครบโดสตามมาตรฐาน แต่ยังแนะนำให้ประชาชนมาฉีดวัคซีนเพื่อป้องกัน Covid-19 ที่ตอนนี้เริ่มระบาดรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในเวียดนาม

ส่วนการกระจายวัคซีน Pfizer จะเน้นไปที่ 4 เมืองหลักที่มีการระบาดรุนแรงที่สุดในประเทศ ได้แก่ 'โฮจิมินห์ ซิตี้' ได้ 55,000 โดส 'ฮานอย' 38,000 โดส 'บิ่ญเซือง' และ 'ด่งนาย' ได้เมืองละ 25,000 โดส ส่วนที่เหลือ กระจายไปยังเมืองต่าง ๆ อีก 60 แห่งทั่วประเทศ

ถึงจะมีแผนการกระจายวัคซีนไว้พร้อมแล้ว แต่เวียดนามก็ยังไม่ได้วัคซีนครบ 745,000 โดสตามที่ได้สั่งจองไว้ และเพิ่งได้มาเพียง 97,000 โดสเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะเริ่มทยอยจัดส่งภายในสิ้นเดือนนี้ ที่ยังไม่สามารถยืนยันจำนวนได้ว่าจะมาเท่าไหร่

ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามจึงตัดสินใจให้มีการฉีดวัคซีน 2 ชนิด ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลเวียนนามตัดสินใจอนุญาตให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรค 2 ประเภทให้กับผู้รับวัคซีน 1 คน โดยมีเคสที่พบในหลายประเทศเป็นกรณีศึกษาที่มีการฉีดวัคซีน Covid-19 ต่างชนิดกัน โดยเชื่อว่าสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันเชื้อ Covid-19 สายพันธุ์ใหม่ได้ดีขึ้น

โดยยกตัวอย่างกรณีของประธานาธิบดีอังเกล่า มาร์เคิล แห่งเยอรมัน ที่รับวัคซีนเข็มแรกเป็น AstraZeneca ส่วนเข็มที่ 2 เป็นวัคซีนจาก Moderna หรือกรณีในประเทศไทยที่ใช้ AstraZeneca เป็นการกระตุ้มภูมิสำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีน Sinovac ไปแล้ว 1-2 เข็ม และมีอีกหลายประเทศ ที่กำลังพิจารณาฉีดวัคซีน 2 ชนิดเพื่อต่อสู้กับเชื้อ Covid-19 กลายพันธุ์ เนื่องจากวัคซีน Covid-19 แต่ละประเภทมีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อไวรัสโคโรน่าที่แตกต่างกันออกไป แม้ว่าทางองค์การอนามัยโลกจะได้ออกมาเตือนถึงกระแสการฉีดวัคซีนแบบผสมว่าเสี่ยงอันตราย และยังมีงานวิจัยสนับสนุนน้อยมา

ตอนนี้ในเวียดนามได้ฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับประชาชนไปแล้วกว่า 4 ล้านคน แต่มีเพียง 280,000 คน ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม และยังคงรอวัคซีนที่มาอย่างล่าช้า จึงต้องมีการปรับแผนการฉีดวัคซีนแบบผสม 2 ชนิดในครั้งนี้ ให้โครงการเดินหน้าต่อโดยไม่สะดุดนั่นเอง


อ้างอิง : VN Express
ผู้เขียน : ยีนส์ อรุณรัตน์ เปรมสิริอำไพ

‘โน้ส อุดม’ เข้าพิธีอุปสมบทเรียบง่าย รับฉายาทางธรรม ‘อธิจิตโต - ผู้มีจิตสูง’

หลังจากที่เพจมนุษย์ตุ๊ดได้ออกมาโพสต์ภาพ โน้ส อุดม แต้พานิช ห่มผ้าเหลือง บวชศึกษาพระธรรม พร้อมกับข้อความว่า ‘ขอร่วมอนุโมทนบุญ กับ พระโน้ส อุดม ด้วยค่ะ ตอนนี้ท่านบวชเป็นพระโดยมีชื่อว่า 'อธิจิตโต' แปลว่า ผู้มีจิตสูง สาธุๆ นะคะ **ลูกเพจส่งรูปนี้มา ไม่แน่ใจว่าบวชวัดไหน ใครมีข้อมูลเพิ่มเติมแจ้งมาได้นะคะ’

ล่าสุด วันนี้ (13 ก.ค.) เพจ เดี่ยว ได้เผยภาพ ‘โน้ส อุดม’ ขณะกำลังเข้ารับการอุปสมบท พร้อมข้อความว่า…

‘พระอุดม อธิจิตฺโต อุปสมบท ณ วัดถ้ำพระบำเพ็ญบุญ อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ในวันที่ 22 มิถุนายน 2564 เวลา 15.46 นาฬิกา’

ก่อนหน้านี้ โน้สได้ตัดสินใจปิดกิจการร้านไอศกรีม iberry garden ที่จังหวัดเชียงใหม่เพราะทนพิษโควิดไม่ไหว หลังพยายามยื้อมานาน 2 ปี รวมไปถึงประกาศเลื่อนการแสดงเดี่ยว 13 Thai Stand Up Comedy ที่แฟน ๆ ต่างเฝ้ารอไปเป็นเป็นวันที่ 22 เมษายน - 1 พฤษภาคม 2565 อีกด้วย

 

ที่มา : https://mgronline.com/entertainment/detail/9640000068183

https://www.facebook.com/photo?fbid=354773396010498&set=pcb.354773902677114


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เพจเฟซบุ๊ก​ 'ความเห็นของผม'​ ได้โพสต์เรื่องราวของอีกบุคคลที่ปิดทองหลังพระ​มาตลอด​ 3​ เดือน...'ครูลิลลี่'​ พร้อมยกเป็นแบบอย่างที่ดี

จากเพจเฟซบุ๊ก​ 'ความเห็นของผม'​ ได้โพสต์เรื่องราวของอีกบุคคลที่ปิดทองหลังพระ​มาตลอด​ 3​ เดือน...

'ครูลิลลี่'​

โดยเธอไม่สนกระแสดราม่าใด ๆ​ แต่ทำด้วยความเป็นผู้ให้​ สมความเป็นครูอย่างแท้จริงว่า...

โพสต์นี้ขอพูดถึงครูภาษาไทยคนหนึ่งเสียหน่อย

ครูสอนภาษาไทยคนนี้ ไม่มีเรื่องดราม่าใด ๆ ใครจะว่าอย่างไรไม่เคยตอบโต้ ทำหน้าที่ของตัวเองไปอย่างเดียวเท่านั้น ทำเงียบ ๆ แค่โพสต์ในพื้นที่โซเชียลของตัวเองเท่านั้น ครูคนนี้ก็คือ “ครูลิลลี่” นั่นเองงง

หากใครยังไม่ทราบ ครูลิลลี่ทำอาหารแจกให้กับบุคคลากรทางการแพทย์มานานกว่า 3 เดือนแล้วครับ แกจะโพสต์การทำอาหารของแกทุกวัน ทั้งของคาว และของหวาน ของหวานส่วนมาก อย่าเรียกว่าส่วนมาก เรียกว่าทั้งหมดทุกวันเลยดีกว่า จะเป็นขนมไทยครับ บอกเลยว่าน่ากินมากกกกกก

โดยในทุก ๆ วัน ก็จะมีคนมาสมทบทุนเพื่อซื้อวัตถุดิบมาประกอบอาหาร บริจาคเงินมั่ง หรือ รับเป็นเจ้าภาพในวันนั้น ๆ บ้าง ครูลิลลี่กับทีมงาน บางวันก็จะมีเพื่อน ๆ นิเทศศาสตร์ จากจุฬาฯ รุ่น 24 มาช่วยทำอาหารด้วย (เห็นมั้ย ผมดูคลิปครูลิลลี่ทำอาหารทุกวันจนจำได้แล้วว่าครูลิลลี่จบนิเทศฯ จุฬาฯ รุ่น 24 ????????????????)

และในคลิปของครูลิลลี่บางคลิปก็จะสอนภาษาไทยควบคู่ไปด้วย เช่น แฟนเพจผม รู้หรือไม่ว่า “ปิ้ง” กับ “ย่าง” ต่างกันยังไง..?

ปิ้ง คือเอาเนื้อสัตว์ชิ้นเล็ก ๆ เสียบไม้ วางบนไฟอ่อน ๆ ใช้เวลาเผาไฟไม่นาน

ย่าง คือเอาเนื้อสัตว์ชิ้นใหญ่ วางบนไฟแรง ใช้เวลาเผานาน

หรือเวลาเราเห็นข้าวเหนียวที่ห่อด้วยใบตอง แล้วมีไม้ไผ่เส้นบาง ๆ มัดใบตองอยู่ ไม้ไผ่เส้นบาง ๆ นั้นเขาเรียกว่า “ไม้ตอก” เป็นที่มาของสำนวนว่า “สิ้นไร้ไม้ตอก” คือคนโบราณเขาเปรียบเปรยว่า ยากจนมาก แม้กระทั่งไม้ตอกจะมัดของก็ยังไม่มีเลย

นี่แหละครับ คลิปทำอาหารที่มาพร้อมความรู้ ผมก็เพิ่งรู้เรื่องคำภาษาไทย สำนวนไทย ในหลาย ๆ เรื่อง ก็จากคลิปที่ครูลิลลี่ทำอาหารนี่แหละ

นี่แหละครับ “ปิดทองหลังพระ” ของจริง ใครจะดราม่า ใครจะด่าคนนั้น จะตำหนิคนนี้ ใครจะ call out แกไม่รู้ ไม่สน ฉันจะทำอาหารเพื่อช่วยเหลือบุคคลากรทางการแพทย์ แล้วแกทำทุกวัน ทุกวันจริง ๆ ตื่นตีสามตีสี่ มาเตรียมของนั่งทำ แล้วครูก็มีความสุข ผมก็ดูคลิปสนุก บางครั้งบอกเคล็ดลับการทำอาหารอีกต่างหาก

นี่แหละครับ คุณครูตัวอย่าง เป็น “ครูผู้ให้” อย่างแท้จริง ครูแบบนี้สิน่านับถือเคารพยกย่อง

แต่ครูลิลลี่เลือกที่จะทำประโยชน์ให้กับผู้อื่นบนพื้นที่เล็ก ๆ ของตัวเอง ปิดทองหลังพระไปเงียบ ๆ

แต่วันนี้อาจจะไม่เงียบแล้วนะครับครู ผมขอนำเรื่องของครูออกมาให้คนได้เห็นหน่อย ว่า “ครู” ที่เป็นแบบอย่างที่ดี ให้ลูกศิษย์ได้ทำตาม นั้นจะต้องเป็นแบบไหน คนแบบไหนที่เราจะเรียกเขาว่า “ครู” ได้เต็มปาก

ใครจะนับถือคุณครูแบบไหน ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคน แต่ผมนับถือคุณครูแบบครูลิลลี่ครับ

ทั้งหมดทั้งมวลคือ “ความเห็นของผม” นะครับ

 

ที่มา : https://www.facebook.com/278356012859325/posts/772111503483771/


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘กรณ์’ วอนรัฐ ปรับปรุงกติกา ลดภาระประชาชน คนยากจนเข้าถึงการตรวจรักษาฟรี

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า ความต้องการเตียงเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา กลุ่ม ‘กล้าอาสา-หาเตียง’ ได้ปรับการทำงานเพื่อช่วยดูแลผู้ป่วยด้วยการแบ่งเป็น 7 ทีม โดยที่มีหนึ่งทีมโดยเฉพาะไว้ช่วยเหลือแรงงานต่างด้าว อีกทีมดูแลเคสผู้ป่วยสีเหลือง สีแดง แต่ละทีมมีอาสา 3-5 คน ทำงานกันเกือบตลอด 24 ชม.

โดยทางทีมงานประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันทุก ๆ 4-5 วัน เพื่อซักซ้อมและปรับตัวตามมาตรการของทางราชการที่ก็มีการปรับตามสถานการณ์เช่นกัน และเราคุยกันเพื่อตรวจเช็คสภาพจิตใจของอาสาแต่ละคน เพราะการทำงานอาสานี้ต่างกับการทำงานในช่วงภัยพิบัติประเภทต่าง ๆ ที่ผ่านมา

“งานนี้อาสาเราต้องพบกับสภาพความกดดันในการทำงานเพื่อรักษาชีวิตของผู้ป่วย การจะได้เตียงหรือไม่หลายครั้งหลายคราหมายถึงความเป็นหรือความตายของผู้ป่วย อาสาเราต้องคอยให้กำลังใจ และต้องดิ้นรนทุกหนทางเพื่อช่วยเหลือผู้ที่สถานการณ์บังคับให้ต้องพึ่งเรา เราเองก็ไม่มีอำนาจพิเศษอะไรนอกจากความตั้งใจในการต่อสู้ให้เขามีโอกาสได้รับการรักษา เราเองก็คอยเป็นกำลังใจให้กับอาสาทุกคนว่าถ้าไม่ไหวต้องพัก อย่ากดดันตัวเองจนไปไม่ไหว อย่าเข้าสู่สภาวะซึมเศร้า ปัญหาตอนนี้ คือ ผู้มีอาการหนักเคสสีเหลืองเข้ม และสีแดง ผู้ป่วยกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก และมีความจำเป็นต้องพึ่งหมอ พึ่งพยาบาล เราจึงสนับสนุนทุกมาตรการที่สามารถลดความเสี่ยงและป้องกันไม่ให้บุคลากรทางแพทย์ด่านหน้าต้องติดเชื้อไวรัสเอง” หัวหน้าพรรคกล้า กล่าว

นายกรณ์ กล่าวว่า ปัญหาจากที่เราพบจากการลงมือทำของทีม ‘กล้าอาสา-หาเตียง’ คือ ความล่าช้าในการรับการรักษา คือ ปัญหาหลักที่ทำให้เรามีผู้ป่วยหนักมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งปัจจัยสำคัญ คือ เงื่อนไขการตรวจ PCR นี่คือสาเหตุที่เราจึงได้ออกมาเรียกร้องว่ารัฐบาล ข้อเสนอคือ รัฐบาล ต้องจัดหาอุปกรณ์การตรวจแบบ Rapid Antigen ให้กลุ่มเสี่ยงเข้าถึงได้โดยสะดวกและไม่มีค่าใช้จ่าย ที่ทำไปแล้วคือแค่บอกว่าอนุญาตให้ใช้ได้ ซื้อได้ แต่ขอย้ำว่า พื้นที่สีแดง ควรต้อง ฟรี! โดยเฉพาะในวินาทีนี้ และขอให้ผ่อนปรน หากรู้ผลตรวจ Rapid Antigen แล้วพบว่าติดเชื้อ ควรเข้าสู่ระบบหาเตียงรักษาพยาบาลได้ทันที และในหลายชุมชนในพื้นที่สีแดง คนส่วนใหญ่เป็นคนยากคนจน ควรจะได้สิทธิ์รับการตรวจแบบ Rapid Antigen ฟรี ซึ่งรัฐจัดให้ได้โดยไม่ต้องใช้งบประมาณมากนัก แต่ถ้าให้ไปซื้อตรวจกันเองในราคา 300 ถึง 500 บาท คงจะเป็นภาระให้กับประชาชนในสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่แบบนี้ จึงฝากถึงรัฐบาลให้ปรับปรุงกติกา ลดภาระประชาชน

“วิกฤติครั้งนี้เมื่อสองเดือนก่อนยังไกลตัวประชาชนส่วนใหญ่ แต่วันนี้แทบทุกคนมีผู้ป่วยที่เรารู้จักเป็นการส่วนตัว แม้แต่เศรษฐีที่พยายามใช้เงินเพื่อซื้อความช่วยเหลือให้ลูกน้องที่ป่วยโควิด แต่ปรากฎว่าแม้มีเงินเขาก็ซื้อบริการทางการแพทย์ (ผ่านการรักษาในรพ.เอกชนที่ราคาแพง) ที่ต้องการไม่ได้ เป็นประสบการณ์ที่เขาไม่เคยพบมาก่อน จริงอยู่วันนี้คนมีสตางค์อย่างไรก็ยังมีความได้เปรียบ แต่แม้แต่เงินก็ไม่เป็นหลักประกันที่เพียงพอว่าจะช่วยคนได้ ผมประเมินว่าเราจะอยู่กับสถานการณ์เช่นนี้ไปอีกอย่างน้อย 2 เดือน และจะพ้นวิกฤตินี้ไปได้ต้องมีวัคซีนอย่างเดียว ระหว่างนี้ที่พวกผมทำได้ คือ ช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และเสนอมุมมองและข้อเสนอจากฝ่ายปฏิบัติเพื่อให้รัฐบาลรับรู้ทุกมิติของปัญหา และหวังว่าผู้มีอำนาจในรัฐบาลจะใส่ใจเท่ากับอาสาทุกคน ทั้งที่ทำงานอยู่กับเรา และกลุ่มอื่น ๆ ที่ยื่นมือเข้ามาช่วย” นายกรณ์ กล่าว

หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวด้วยว่า จากการลงพื้นที่ ริมทางรถไฟสายท่าเรือ เขตคลองเตย ชาวชุมชน ใช้ลานกีฬาใต้ทางด่วน ตั้งเต็นท์ล้อมสแลน ทำจุดพักคอยชุมชน (Community Isolation) แยกผู้ติดเชื้อออกจากครอบครัว ป้องกันการระบาดในชุมชนกันเอง ด้วยความเป็นห่วง ตนพร้อมด้วยทีมงานพรรคกล้า ทั้ง ครูเป็ด มนต์ชีพ ศิวะสินางกูร กรรมการบริหารพรรค นายสมเกียรติ ปัญญะธารา ผู้กล้า - ยานนาวา รีบนำหน้ากากอนามัยโครงการ ‘แจกแมสก์ 5,000,000 ชิ้น’ , ยาฟ้าทะลายโจร , อาหารแห้ง มาช่วยพี่ ๆ น้อง ๆ ที่กักตัวในศูนย์พักคอยที่ทำกันเอง ก่อนจะย้ายไปศูนย์พักคอยที่วัดสะพาน ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับระบบสาธารณสุข และ กทม. เพื่อให้ผู้ที่มีอาการหนักขึ้นเข้าสู่การรักษาพยาบาลได้

แต่ปัญหาตอนนี้ที่กลุ่มกล้าอาสา-หาเตียงพบ คือ ผู้ป่วยระดับสีเหลือง สีส้ม สีแดง เข้าไม่ถึงเตียงรักษา เพราะเงื่อนไขราชการต้องมีผลตรวจ RT- PCR รับรองก่อน ทำให้ประชาชนต้องรอคิวข้ามคืนเพื่อใช้สิทธิ์การตรวจ แม้ตอนนี้กระทรวงสาธารณสุขเริ่มผ่อนคลายเงื่อนไขให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการตรวจ Rapid Antigen แล้ว แต่ยังต้องตรวจ PCR เพื่อยืนยันผลอีก ถึงจะเข้าสู่ระบบรอที่รักษาได้ กลายเป็นอุปสรรคต่อพี่น้องประชาชนที่ป่วยอยู่แล้ว บางคนคนป่วยนอนติดเตียงยิ่งลำบาก ถ้าต้องออกไปอีก ยิ่งจะเพิ่มความเสี่ยง


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

"IWRM " ภาคธุรกิจจัดการน้ำ เพื่อบริโภคและอุตสาหกรรม "ร่วมแบ่งปันเพื่อสังคม" มอบน้ำดื่ม 3,600 ขวด แก่ "สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพแห่งชาติ"

วันที่ 13 กรกฎาคม 2564 ณ สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี "นายธนวัฒน์ สันตินรนนท์ " กรรมการผู้จัดการ INDUSTRIAL WATER RESOURCE MANAGEMENT CO.,LTD (IWRM) ,นายวิเชษฐ์ เกตุแก้ว ผู้สนับสนุน ประสานงานพื้นที่และชุมชน เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีชี), นายชัยพร ภูผารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงาน สภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย / นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย / นายโกสินธ์ จินาอ่อน บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์สยามโฟกัสไทม์ / นายณัฐวุฒิ เหมือนเพชร ผู้อำนวยการข่าวจังหวัดสมุทรปราการ (หนังสือพิมพ์สยามโฟกัสไทม์) ร่วมกันมอบน้ำดื่มจำนวน 3,600 ขวด ให้แด่ "นายแพทย์สาธิต สันตดุสิต" ผู้อำนวยการสถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ เพื่อนำไปใช้เป็นประโยชน์ในการบริโภค สำหรับบุคลากร เจ้าหน้าที่ และประชาชนที่มาเข้ารับบริการจากทางสถาบันฯ

ในการนี้ "นายธนวัฒน์ สันตินรนนท์" กรรมการผู้จัดการ IWRM ได้กล่าวถึง เจตนารมณ์ วัตถุประสงค์ ที่นำน้ำดื่มมามอบให้วันนี้ เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจและขอบคุณ บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ที่ทำงานหนักเพื่อช่วยเหลือดูแลพี่น้องประชาชนคนไทย คนยากไร้ คนพิการ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

อีกทั้ง "นายแพทย์สาธิต สันตดุสิต" ผู้อำนวยการสถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ ยังได้กล่าวขอบคุณผู้บริหาร IWRM พร้อมคณะ ที่ได้เป็นกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานช่วยเหลือดูแลพี่น้องประชาชน คนพิการ คนยากไร้ ในช่วงสถานการณ์ โควิด-19 นี้เพื่อให้คนไทยอยู่รอดปลอดภัย

พร้อมทั้งขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชน ผู้ประกอบการ ที่มีจิตใจเป็นกุศลอยากจะร่วมบริจาคอาหาร น้ำดื่ม หรือจตุปัจจัยอื่น ๆ สามารถร่วมบริจาคมายัง "สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ" ได้ตามอัธภาพ ในวัน-เวลา ทำการ

'อัศวิน' มอบเครื่องดื่มนวัตกรรมสารสกัดสมุนไพรให้ผู้ป่วยโควิด-19 ระหว่างรอเตียง ถวายเป็นพระกุศลแด่พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ

นายวุฒิศักดิ์ รัตนสุวรรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผึ้งหลวง อัศวิน จำกัด เปิดเผยว่า “ด้วยวันนี้ (13 กรกฎาคม 2564) เป็นวันคล้ายวันประสูติของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ท่านผู้หญิง ม.จ.พันธุ์สวลี กิติยากร และคุณน้ำผึ้ง ม.ล.สราลี กิติยากร ได้มอบหมายผมให้ดำเนินการนำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มนวัตกรรมสมุนไพรที่มีสารสกัดจากพริกไทยดำ สมุนไพรไทยมากคุณค่าทางโภชนาการและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ มามอบให้กับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังไม่ได้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล อยู่ในสถานะรอเตียงซึ่งตอนนี้มีอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อถวายเป็นพระกุศลให้กับพระองค์ท่าน กอปรกับความห่วงใยของท่านผู้หญิงพันธุ์สวลีและคุณน้ำผึ้งเอง ซึ่งทั้งสองได้มีปณิธานที่ตั้งใจไว้เสมอว่า จะช่วยเหลือ ดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในขอบเขตความสามารถที่จะทำได้ ซึ่ง ณ ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม หากช่วยเหลือ หรือทำอะไรให้เกิดความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นทั้งสภาพทางเศรษฐกิจและสภาวะทางจิตใจ ก็ขอให้ช่วยกัน จะมากจะน้อย ก็จะเป็นเหมือนกำลังใจที่จะทำให้คนไทยทุกคนฟันฝ่าและรอดพ้นจากวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นี้ไปได้ด้วยกัน”

นายวุฒิศักดิ์ ฯ กล่าวด้วยว่า “สำหรับความคิดที่นำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสมุนไพรที่มีสารสกัดจากพริกไทยดำ ภายใต้ชื่อ “โครงการสมุนไพรไทย สู้ภัยโควิด” มามอบให้แก่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 นั้น เพราะว่าในตอนนี้มีบทความงานวิจัยจากประเทศอินเดีย In silico investigation of spice molecules as potent inhibitor of SARS -CoV -2 ซึ่งมีการจำลองโมเลกุลของเครื่องเทศ 30 ชนิด ที่ช่วยยับยั้งโคโรนาไวรัส พบว่า ไพเพอรีน (Piperine) ในพริกไทยดำ มีประสิทธิภาพมากที่สุด อันนี้จะบอกว่าเป็นข่าวดีก็ว่าได้ เพราะมันทำให้เรามองเห็นทางรอดในการดูแลรักษาให้ประชาชนมีอัตราการติดเชื้อน้อยลง รวมทั้งมีอัตราการรอดชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า-2019 เพิ่มมากขึ้น เพราะบ้านเรามีการปลูกพริกไทยดำอยู่แล้ว และบริษัท ผึ้งหลวง อัศวิน ฯ ของเราก็มีผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากพริกไทยดำผสมอยู่ด้วย อีกทั้งยังเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรที่เพิ่มเติมสารสกัดตัวอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายด้วย เช่น สารสกัดจากกระชายดำ ขมิ้นชัน ถั่งเช่า เสริมด้วยวิตามินบี ซึ่งล้วนแล้วแต่จะช่วยเสริมให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น เราก็เลยผุดไอเดีย โครงการสมุนไพรไทย สู้ภัยโควิด ขึ้นมา เพื่อจะช่วยพี่น้องคนไทยของเราครับ โดยวันนี้เราเริ่มต้นทำพิธีเปิดโครงการในบริเวณบริษัทฯ ของเรา นอกจากจะได้ถวายเป็นพระกุศลแล้วยังได้ทำให้สุขภาพร่างกายของคนไทยปลอดภัยแข็งแรง ซึ่งถ้าหากคิดในเชิงธุรกิจ โครงการสมุนไพรไทย สู้ภัยโควิด ก็ถือเป็นกำไรของบริษัทที่ทำได้ดีที่สุดในสถานการณ์โควิด-19 ครับ และตอนนี้เราก็กำลังติดต่อประสานศูนย์พักคอยต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานคร เพื่อนำผลิตภัณฑ์ของเราที่มีทั้งเครื่องดื่มสมุนไพรอัศวิน และ อินเมทต้า แคปซูลสารสกัดสมุนไพรไปมอบให้กับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ ซึ่งอยู่ในสถานะรอเตียงต่อไป”

นายวุฒิศักดิ์ ฯ กล่าวทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า “ก่อนหน้านี้เราได้นำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสมุนไพรมอบให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัครที่ปฏิบัติงานช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ทั้งที่ครัวพระราชทานอุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย รวมถึงโรงพยาบาลสนามมงกุฎวัฒนะและโรงพยาบาลสนามเมืองทองธานี รวมถึงเรายังมีโครงการมอบถุงยังชีพให้ประชาชนทั่วไปที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ หรือให้ประชาชนมีส่วนร่วมในโครงการอัศวินปันสุข , อัศวินให้ทำทุน รวมถึงร่วมสนับสนุนผลิตภัณฑ์ร่วมกับโครงการเรื่องเล่าแบ่งปัน เพราะเรามองเห็นถึงความสำคัญของทุกชีวิตที่ต้องร่วมกันต่อสู้กับวิฤตโควิด-19 ในขณะนี้ เชิญชวนทุกท่าน สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเราหรือหน่วยงานต่าง ๆ ในการให้กำลังใจ ร่วมแรงร่วมใจในการให้ความช่วยเหลือตามกำลังที่ท่านมี มาต่อสู้กับวิกฤตนี้เพื่อที่เราจะผ่านมันไปด้วยกันนะครับ”

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถติดต่อได้ที่ Facebook : เครื่องดื่มนวัตกรรมสมุนไพร - Asawin Herbal Drink หรือ โทร.086-336-0605

โฆษก ทร. เผย ยศ.ทร. ส่งกำลังพลสนับสนุนช่วยจัดตั้งโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 5 ของจังหวัดนครปฐม

พลเรือเอก เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่าพลเรือโท เคารพ แหลมคม เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ สั่งการให้จัดกำลังพล จำนวน 10 นาย พร้อมรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ จำนวน 1 คัน ให้การสนับสนุนโรงพยาบาลพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ในการขนย้ายอุปกรณ์ในการจัดเตรียมตั้งโรงพยาบาลสนามแห่งใหม่ และช่วยดำเนินการประกอบเตียงกระดาษสำหรับใช้ในการรองรับผู้ป่วยที่จะเข้ามารับการดูแลรักษา ซึ่งจังหวัดนครปฐมกำลังดำเนินการเตรียมจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่ม  หลังพบการระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ทำให้มีผู้ป่วยในพื้นที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น จึงได้ดำเนินการเตรียมจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มเป็นแห่งที่ 5 ณ บริเวณอาคาร 100 สมเด็จพระญาณสังวร พุทธมณฑล ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม

มาทำความเข้าใจ หลักปฏิบัติตัวในช่วง ‘เคอร์ฟิวส์ 14 วัน’ ใครออกจากบ้านได้ หรือใครจะขอออกจากบ้าน ต้องทำอย่างไร

เมื่อคืนมีภาพข่าว ‘ถนนโล่ง’ เต็มหน้าฟีดโซเชียลมีเดีย เนื่องจากเป็นคืนแรกที่คำสั่ง ‘ห้ามออกนอกเคหะสถาน’ ตั้งแต่เวลา 21.00-04.00 น. เริ่มมีผลบังคับใช้ ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตลอด 14 วัน ยังมีผู้ที่สามารถออกนอกเคหะสถานได้ รวมไปถึงผู้ที่ขอออกเป็นกรณี ๆ ไป และผู้ที่สามารถออกได้ในกรณีฉุกเฉิน แต่ทั้งหมดต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กำหนดไว้ THE STATES TIMES ไปรวบรวมข้อบังคับต่าง ๆ มาให้อ่านเพื่อความเข้าใจ เผื่อว่าใครที่มีความจำเป็นต้อง ‘ออกจากบ้าน’ อ่านไว้จะได้ไม่ทำผิดกฎระเบียบกัน...


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ครม. ไฟเขียวอนุมัติเงินกู้ เยียวยาล็อกดาวน์ 10 จังหวัด จ่ายชดเชยเพิ่ม 5 กลุ่มอาชีพ คนละไม่เกิน 1 หมื่นบาท พร้อมลดค่าน้ำค่าไฟ 2 เดือน

คณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน เห็นชอบมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ 10 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา

สำหรับมาตรการ จะช่วยเหลือกลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการ ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. ในฐานะคณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้เสนอ วงเงินรวม 30,000 ล้านบาท

สำหรับช่วยเหลือแรงงานในระบบประกันสังคมและนอกระบบประกันสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการ และมาตรการควบคุมการระบาดเพิ่มจากเดิม 4 สาขาอาชีพ เป็น 9 สาขาอาชีพ โดยสาขาที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ 5 สาขา ได้แก่

1.) สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า

2.) สาขาการขายส่งและการขายปลีก

3.) สาขาการซ่อมยานยนต์

4.) สาขากิจกรรมการบริหารและสนับสนุนวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมวิชาการ

5.) สาขาข้อมูลข่าวสารและการศึกษา

ทั้งนี้ ระยะเวลาการช่วยเหลือ 1 เดือน โดยลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตนตาม ม.33 ได้รับการช่วยเหลือ 2,500 บาทต่อคน และลูกจ้างที่ได้รับชดเชยจะได้รับเงินเดือน 50% ของค่าจ้าง ไม่เกิน 7,500 บาท รวมกับเงินช่วยเหลือไม่เกินคนละ 10,000 บาท

สำหรับผู้ประกอบการจะได้รับรายละ 3,000 บาท ต่อลูกจ้าง 1 คน จำกัด ไม่เกิน 200 คน เหมือนกับกรณีมาตรการล็อกแคมป์คนงานที่ผ่านมา ส่วนผู้ประกันตน ม.39 และ ม.40 ได้รับความช่วยเหลือ 5,000 บาท

นอกจากนี้ ลดค่าน้ำค่าไฟ 12,000 ล้านบาท แบ่งเป็น

1.) ลดค่าไฟ ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 10 จังหวัด ระยะเวลา 2 เดือน (ก.ค.-ส.ค.)

2.) ลดค่าน้ำ ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 10 จังหวัด ระยะเวลา 2 เดือน (ส.ค.-ก.ย.)

สำหรับ 4 กิจการที่รัฐบาลมีมาตรการเยียวยาที่อยู่ในระบบประกันสังคม ไปก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย

1.) กิจการก่อสร้าง

2.) กิจการที่พักแรมและบริการด้านอาหาร

3.) กิจการศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ

4.) กิจการบริการอื่น ๆ

ล่าสุด สำนักงานประกันสังคมได้จ่ายเงินเยียวยาตามสิทธิฯ อาทิ เงินชดเชยร้อยละ 50 ของค่าจ้าง ไปแล้ว 17,920 ราย คิดเป็นจำนวนเงินกว่า 87 ล้านบาท

แบ่งเป็น กิจการก่อสร้าง 16,468 ราย เป็นเงิน 79,801,420.45 บาท กิจการร้านอาหารและภัตตาคาร 1,452 ราย เป็นเงิน 7,829,613.35 บาท โดยเป็นการตัดจ่ายทุกวันศุกร์ และนำจ่ายเงินให้ลูกจ้างทุกวันจันทร์ ซึ่งคนงานในกิจการก่อสร้างจะได้รับเป็นเงินสด ส่วนกิจการอื่น ๆ จะโอนเงินเข้าบัญชีลูกจ้างโดยตรง

สำหรับกรณีลูกจ้างที่ยังไม่ได้เงิน ขอให้เร่งดำเนินการ ดังนี้

1.) ให้นายจ้างรับรองในระบบ e-service ว่ามีลูกจ้างกี่ราย หยุดงานตั้งแต่วันไหนถึงวันไหน

2.) ลูกจ้างต้องยื่นแบบ สปส. 2 - 01/7 ให้แก่นายจ้างส่งต่อให้สำนักงานประกันสังคม เพื่อการพิจารณาวินิจฉัยจ่ายเงินโดยเร็วต่อไป

 

ที่มา : https://www.posttoday.com/economy/news/657891


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘อรรถวิชช์’ ชวนคนไทย แบ่งปันอาหาร ช่วยแรงงาน สั่งปิดแคมป์มาครึ่งเดือน เงินช่วยเหลือจากรัฐลงไม่ถึง ย้ำไทยเข้าสังคมสูงวัย ต้องให้ความสำคัญแรงงาน

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า นำอาหารแห้ง น้ำ และของใช้จำเป็น มาบริจาคช่วยคนงานที่แคมป์เบญจมาศ เขตดุสิต ซึ่งต้องปิดแคมป์ไม่ให้เข้าออก ตามมาตรการป้องกันการระบาดโควิด-19 มาครึ่งเดือนแล้ว แต่เงินเยียวยาแรงงานยังไม่ทั่วถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เคยให้ข่าวว่าคนงานได้รับผลกระทบในกรุงเทพและปริมณฑลราว 697,000 คน

นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า โดยหลักรัฐจะจ่ายให้คนงานในระบบประกันสังคม 50% ของเงินเดือน แต่ไม่เกิน 7,500 บาท บวกกับอีก 2,000 บาทเพิ่มเติม แต่เมื่อเห็นตัวเลขที่กระทรวงแถลง มาคำนวณดูพบว่า ถึงวันนี้ผ่านมาครึ่งเดือน รัฐจ่ายเงินให้คนงานไปหมื่นกว่าคนเท่านั้น ช่วยคนงานได้ไม่ถึง 3%

‘ผมดูแล้วหวังพึ่งรัฐเป็นหลักคงไม่ไหว ผมขอให้ท่านที่ยังไหวออกมาช่วยกัน แบ่งปันอาหารให้คนงานในแคมป์ที่ถูกกักตัว แม้คนงานส่วนมากจะเป็นต่างด้าว แต่เค้าคือโครงสร้างสำคัญของเศรษฐกิจไทย ปี 2564 นี้ในอาเซียนมีแค่ไทยและสิงคโปร์ ที่เข้าสู่สังคมสูงวัยเต็มรูปแบบคือ 20% ของประชากรมีอายุเกิน 60 ปี วัยที่จะเป็นแรงงานลดน้อยลง จึงหนีไม่ออกที่ต้องพึ่งพาแรงงานต่างด้าว ทั้งเราและเขาต้องพึ่งพากันอีกนาน ออกมาช่วยนะครับ มื้อนี้ขอขอบคุณนักเรียนเก่ามาแตร์ฯ ที่ร่วมส่งของร่วมกันครับ’ นายอรรถวิชช์ กล่าว


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top