Friday, 27 June 2025
NEWS FEED

"อลงกรณ์" เห็นด้วย "สปสช." ใช้งบพันล้านซื้อชุดตรวจโควิดแจกประชาชน 8.5 ล้านชุด แต่ข้องใจราคา Antigent Rapid Test แนะสปสช.แจงรายละเอียดเพื่อความโปร่งใส

วันนี้นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเห็นด้วยที่ "สปสช." จะจัดซื้อชุดตรวจทดสอบโควิดให้ประชาชน 8.5 ล้านชุด โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพเป็นผู้รับภาระจัดสรรงบประมาณ 1,014 ล้านบาท แต่ข้องใจราคาต้นทุนชุดตรวจโควิด Antigent Rapid Test Kit ที่มีบางข่าวระบุว่าราคาสูงถึงชุดละ 120 บาท จึงขอให้ "สปสช." ชี้แจงเพื่อความกระจ่าง พร้อมกันนี้นายอลงกรณ์ได้ให้ข้อมูลราคานำเข้าจากจีนชุดละ 37.50 บาท
โดยข้อความในเฟซบุ๊กปรากฏดังนี้

“...สปสช.ชี้แจงให้กระจ่างนะครับ โครงการจัดซื้อชุดตรวจโควิด Antigent Rapid Test Kit !!!

ผมเห็นข่าวก็ดีใจและเห็นด้วยที่สปสช.จะซื้อชุดตรวจทดสอบโควิดให้ประชาชน 8.5 ล้านชุด โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพเป็นผู้รับภาระจัดสรรงบประมาณ 1,014 ล้านบาท

แต่มีบางข่าวระบุว่าราคาต้นทุนชุดตรวจโควิดชุดละ 120 บาทนั้น ดูจะสูงไปหรือไม่ครับ
เพราะราคาชุดตรวจจากโรงงานมาตรฐานที่ปักกิ่ง ชุดละ 1.25 ดอลลาร์สหรัฐ (สำหรับการสั่งซื้อ100,000ชุดขึ้นไป)
ถ้าอัตราแลกเปลี่ยน 30 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ คูณ 1.25 บาท
จะตกชุดละ 37.50 บาท
ถ้าซื้อหลายล้านชุดราคาจะต่ำกว่านี้อีก

ผมไม่แน่ใจข่าวที่ออกมาว่า ราคาต้นทุนชุดละ 120 บาท จริงเท็จประการใด
หรือข่าวคลาดเคลื่อน ถ้าให้กระจ่างควรแจกแจงว่างบ 1,014 ล้านบาท เป็นงบซื้อชุดตรวจทั้งหมดกี่ชนิดกี่ประเภทโดยเฉพาะชุดตรวจแบบ Antigent Rapid Test kit
ผมเอาใจช่วยแต่
ช่วยชี้แจงหน่อยนะครับ
…อลงกรณ์ พลบุตร 20 ก.ค 64…”

 

ข้อมูลอ้างอิงจากข่าว
“บอร์ด สปสช. ประชุมวันที่ 19 กค. 2564 มีมติเห็นชอบ ที่จะจัดหาชุดตรวจทดสอบโควิดด้วยตัวเองที่บ้านจำนวน 8.5 ล้านชุด ราคาต้นทุนจัดซื้อ 120 บาทต่อชุด

โดยมอบหมายให้เครือข่ายโรงพยาบาลราชวิถี ในฐานะเป็นเครือข่ายหน่วยบริการด้านยาและเวชภัณฑ์ เป็นผู้จัดซื้อผ่านองค์การเภสัชกรรม โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพเป็นผู้รับภาระจัดสรรงบประมาณ 1014 ล้านบาท”

https://www.blockdit.com/posts/60f57d348a54740c97ec6618

เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2564 ที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ครั้งที่ 8/2564 (วาระพิเศษ) ซึ่งมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เป็นประธาน

โดยนายอนุทิน กล่าวว่า เนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่มีจำนวนมากในขณะนี้ จำเป็นที่จะต้องมีการตรวจคัดกรองหาผู้ติดเชื้ออย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบเพิ่มชุดตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ด้วย Antigen Test Kit (ATK) ในวงเงินเบื้องต้น 1,014 ล้านบาท เพื่อจัดหาชุดตรวจให้หน่วยบริการนำไปแจกจ่ายกับประชาชนทุกคนทุกสิทธิ  รวมถึงคนต่างด้าวสามารถตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วย ATK เอง ในช่วงระหว่างเดือน ส.ค. – ก.ย. 2564 และย้ำว่าต้องทำด้วยความโปร่งใสตรวจสอบได้...

‘ศักดิ์สยาม’ ย้ำ! เปิดทดลองนั่งรถสายสีแดงฟรี 3 เดือน ปรับรูปแบบพิธีเปิดงาน 2 ส.ค.นี้เป็นแบบออนไลน์ สอดรับมาตรการป้องกันโควิด

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ในวันที่ 2 ส.ค. 64 กระทรวงคมนาคม ยังคงจัดพิธีเปิดให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน (Soft Opening) มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานตามกำหนดเดิม แต่จะปรับรูปแบบการจัดงานโดยใช้การเปิดงานแบบออนไลน์แทน เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งมาตรการที่รัฐบาลกำหนดให้ประชาชนลด และจำกัดการเคลื่อนย้ายการเดินทาง

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า กระทรวงคมนาคม ยังคงเปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการฟรีประมาณ 3 เดือน (ส.ค.-ต.ค. 64) ก่อนจะเปิดให้บริการแบบเก็บค่าโดยสารในเดือนพ.ย. 64 โดยในการให้บริการนั้นจะต้องอยู่ภายใต้มาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ตลอดจนประกาศของกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เรื่อง มาตรการพึงปฏิบัติการจัดการระบบขนส่งทางราง ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ฉบับที่ 11 ด้วย เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวก และความปลอดภัย

โดยขณะนี้กระทรวงคมนาคม เตรียมความพร้อมในทุกด้านแล้ว โดยเฉพาะในส่วนของขบวนรถไฟฟ้าที่จะให้บริการ ซึ่งที่ผ่านมาการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) ได้ทดสอบเดินรถทั้ง 2 เส้นทางอยู่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการฝึกซ้อมเพื่อรับมือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ โดยทุกการทดสอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และพร้อมแล้วที่จะเปิดให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการ ซึ่งนอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชานเมืองที่จะเดินทางเข้ามายังใจกลางเมืองกรุงเทพฯ แล้ว ยังอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่จะเดินทางมาเข้ารับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่สถานีกลางบางซื่อด้วย


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘หมอเหรียญทอง’ ประกาศแบน ‘ฟู้ดแพนด้า’ ห้ามรถส่งสินค้าเข้าพื้นที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ และเครือโรงพยาบาลสนามทั้งหมด ให้พนักงาน-ผู้ใช้บริการ สั่งอาหารจากแพลตฟอร์มอื่นแทน ล่าสุด ตำรวจขออนุมัติหมายจับ ‘หนุ่มฟู้ดแพนด้า’ แล้ว

พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ประกาศ รพ.มงกุฎวัฒนะ และเครือ รพ.สนามทั้งหมดไม่อนุญาตให้มีการสั่งอาหารหรือสินค้าผ่าน FOODPANDA ดังนั้น จึงห้ามรถส่งสินค้า FOODPANDA เข้าสู่พื้นที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ และเครือ รพ.สนามทั้งหมด ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

พนักงานหรือผู้ใช้บริการ รพ.มงกุฎวัฒนะ กรุณาใช้แพลตฟอร์มอื่นในการสั่งอาหารหรือสินค้าที่จะนำส่ง รพ.มงกุฎวัฒนะ จนกว่า FOODPANDA จะมีนโยบายที่ชัดเจนและเด็ดขาดต่อการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะการดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับพนักงานที่กระทำการเป็นอริราชศัตรูต่อพระเจ้าแผ่นดิน

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากแถลงการณ์ล่าสุดของฟู้ดแพนด้า ประเทศไทย ยืนยันจะไม่ไล่ออกพนักงานที่ทำการเผาพระบรมฉายาลักษณ์ ขณะร่วมชุมนุมกลุ่มเยาวชนปลดแอก พร้อมประกาศไม่ปิดกั้นสิทธิเสรีภาพทางความคิดและการแสดงออกส่วนบุคคลแต่อย่างใด ภายหลังจากถูกฝ่ายต่อต้านรัฐบาลกดดันอย่างหนัก

ล่าสุด มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายสิทธิโชค เศรษฐเศวต ในข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์และพระราชินี, วางเพลิงเผาทรัพย์ฯ ของผู้อื่นและทำให้เสียทรัพย์ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

สำหรับพฤติการณ์การกระทำผิดโดยย่อของ นายสิทธิโชค นั้น พ.ต.ท.อธิชย์ ดอนนันชัย รอง ผกก.(สอบสวน) สน.นางเลิ้ง ผู้ออกหมายระบุว่า “ตามวันเวลาเกิดเหตุ ได้มีกลุ่มมวลชนหลายร้อยคน ซึ่งเรียกกลุ่มของตนเองว่า “เยาวชนปลดแอก” เข้าปะทะกับเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน จนกระทั่งเวลาประมาณ 16.40 น. ของวันที่ 18 กรกฎาคม 2564 ได้มี นายสิทธิโชค เศรษฐเศวต ผู้ต้องหา (ทราบชื่อภายหลัง) ใช้ขวดพลาสติกบีบของเหลวคล้ายน้ำมันเชื้อเพลิง พ่นใส่กองเพลิงซึ่งลุกไหม้อยู่บริเวณผ้าประดับพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ซึ่งประดิษฐานอยู่บริเวณเกาะกลางถนนราชดำเนินนอก แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กรุงเทพฯ ทำให้กองเพลิงดังกล่าว เริ่มลุกไหม้มากขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน ได้ฉีดน้ำดับเพลิงดังกล่าวได้ทัน เพลิงจึงไม่ลุกลามไปถึงพระบรมฉายาลักษณ์ พ.ต.ท.จงศักดิ์ ชาญศรี จึงได้มาร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาให้ได้รับโทษตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด”


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

กห. เสริมจัดตั้ง รพ.สนามเพิ่มในหน่วยทหาร วอนร่วมรับผิดชอบลดภาระแพทย์พยาบาล

ที่กระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม  กล่าวถึง สถานภาพ รพ.สนาม ที่ กระทรวงกลาโหม โดยทุกเหล่าทัพสนับสนุนจัดตั้งขึ้นปัจจุบัน ได้ใช้อาคารสถานที่ในหน่วยทหาร ที่มีที่ตั้งกระจายอยู่ใน กทม.และปริมณฑล รวมทั้งอีก 24 จว.ทั่วประเทศ จำนวน 34 แห่ง รองรับผู้ป่วยได้ 6,135 เตียง ซึ่งกองทัพได้จัดกำลังพล บุคลากรทางการแพทย์ทหาร ทำงานร่วมกับ สธ.และ กทม. ดูแลประชาชนในพื้นที่ชุมชนต่างๆที่มีการแพร่ระบาด เพื่อนำเข้าสู่ระบบการรักษาอย่างต่อเนื่องมา ตั้งแต่ เม.ย.63 

นอกจากนั้น กองทัพ ยังได้จัดกำลังทหาร บุคลากรทางการแพทย์ทหาร รวมทั้งเตียง เครื่องนอน และสิ่งอุปกรณ์ต่างๆ เข้าไปเสริมจัดตั้ง รพ.สนามในพื้นที่ต่างๆ เช่น รพ.สนามบุษราคัม รพ.สนามบางขุนเทียน รพ.สนามวัฒนาแฟคตอรี่ สมุทรสาคร และ รพ.สนามอื่นๆ อีก 5 แห่ง 

อย่างไรก็ตาม ในวิกฤตของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคที่ยังรุนแรง  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นรม.และ รมว.กห. ได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพ ระดมทรัพยากรขยายขีดความสามารถ รพ.สนามที่มีอยู่เดิมและจัดตั้ง รพ.สนามในหน่วยทหารเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับผู้ป่วยสีเขียวที่มีเพิ่มขึ้นในพื้นที่ต่างๆอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะ กทม.และปริมณฑล  

ซึ่งปัจจุบันทุกเหล่าทัพ อยู่ระหว่างเตรียมพื้นที่และระดมบุคลากรทางการแพทย์แถว 2 และอาสาสมัครเข้ามาช่วย โดยประสานการทำงานร่วมกับสาธารณสุขในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้มีความจำเป็นต้อง เตรียมพื้นที่ให้เหมาะสมแยกจากทหารและชุมชนในหน่วย เพื่อให้การแยกผู้ป่วยควบคุมโรคออกจากชุมชนสามารถจำกัดได้ใน รพ.สนามของหน่วยทหาร พร้อมกันนี้ ได้เตรียมการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่เสนารักษ์ประจำหน่วยทหาร เข้าสนับสนุน กทม.และ จว.พื้นที่สีแดงเข้ม ดูแลสถานที่แยกรักษาตัวชุมชน ( Home Isolation )

พล.ท.คงชีพ กล่าวต่อไปว่า การทำหน้าที่ของกำลังทหารทุกนายในกองทัพว่า ยังสนับสนุนและทำงานร่วมกับ สธ.และหน่วยงานอื่นๆต่อสู้กับโรคระบาดรุนแรงโควิท-19 ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นมา โดยถือเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่มีผลกระทบร้ายแรงกับประชาชนในทุกมิติเป็นวงกว้าง และเป็นเวลาที่เราทุกคนต้องการความร่วมมือร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสูงสุดจากทุกฝ่าย ช่วยกันดูแลกันและกัน ไม่สร้างปัญหาให้สถานการณ์เลวร้ายลง  รวมทั้งต้องมีความรับผิดชอบตนเองและสังคมมากขึ้น เพื่อหยุดและ ควบคุมวิกฤตสถานการณ์ครั้งนี้ให้ผ่านไปด้วยกัน

ทบ.แจ้ง อย่าหลงเชื่อ มีการปล่อยเอกสารเท็จ ประกาศใช้กฎอัยการศึกใน กทม. เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ วาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ด้วยในขณะนี้มีการ จัดทำเอกสารเท็จและถูกปล่อยออกมาในโซเชียลมีเดีย อ้างว่าเป็น การแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้า ก่อนการประกาศใช้กฎอัยการศึกใน กทม. เพื่อป้องกัน อันตรายจากการแพร่ระบาดของโควิด -19 ในราชอาณาจักร ประกาศโดย ศบค19ทบ. นั้น

“ขอเรียนว่าเป็นข่าวเท็จโดยสิ้นเชิง อย่าได้หลงเชื่อเพราะเป็นเรื่องผิดกฎหมายและไม่มีหน่วยงานใดจัดทำขึ้น หากได้อ่านข้อความก็คงจะประเมินได้ว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ขอย้ำอย่าส่งต่อ เพราะอาจตกเป็นเครื่องมือของผู้ปล่อยข่าวเท็จ ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังดำเนินการต่อข่าวเท็จดังกล่าวตามขั้นตอนต่อไป”รองโฆษกกองทัพบก กล่าว

'บก.ตม.1'​ ห่วงใยต่างชาติ ลดแออัดป้องกันติดเชื้อโควิด-19 แจ้งต่ออายุวีซ่า ก่อนครบกำหนดไม่เกิน 3 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.64 นี้ เป็นต้นไป

19 กรกฎาคม 2564 พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1 ในฐานะรอง โฆษก สตม. และโฆษก บก.ตม.1 เปิดเผยว่า กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 โดย พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม. 1 ได้มีความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนชาวไทย และชาวต่างชาติที่มาติดต่อขอรับบริการที่ บก.ตม.1 (ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะฯ)

สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิดในขณะนี้ ได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น และมีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากเพื่อลดความแออัด และลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ทาง บก.ตม.1 จึงขอความร่วมมือผู้ที่จะมายื่นเรื่องขออนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักรที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ (เคาเตอร์ J,L,M,N) โดยเป็นการขออยู่ต่อระยะยาว ประเภท Non-Immigrant Visa อาทิเช่น NON-O, NON-B, NON-E, เกษียณอายุ, เยี่ยมคู่สมรส/เยี่ยมบุตร, สามีไทย/ภรรยาไทย/อุปการะบุตร, ธุรกิจ, ครู/นักเรียน, องค์การระหว่างประเทศ มูลนิธิ สมาคม, Tourist Visa (TR-60), Tourist MT Visa, Special Tourist Visa (STV) โดยให้เข้ามาติดต่อยื่นคำร้องขออยู่ต่อฯ ก่อนวันอนุญาตสิ้นสุด ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 วัน เท่านั้น ทั้งนี้ เริ่มตั้งแต่ วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป

พล.ต.ต.ปิติ กล่าวว่า  ช่วงนี้การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล และตามสั่งการของ​ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร., พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รอง ผบช.สตม. ที่ได้สั่งการให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัดเพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยทาง บก.ตม.1 ได้มีความห่วงใย และตระหนักถึงสถานการณ์ดังกล่าว รวมถึงได้คำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน 

ดังนั้น เพื่อเป็นการลดความแออัดและลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในการรวมกลุ่มคนจำนวนมากในการมายื่นขออยู่ต่อฯ ที่ บก.ตม.1 จึงขอความร่วมมือผู้ที่จะมายื่นเรื่องขออนุญาตอยู่ต่อฯ ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ (เคาเตอร์ J,L,M,N) ยื่นคำร้องขออยู่ต่อฯ ก่อนวันอนุญาตสิ้นสุด ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 วัน เท่านั้น โดยได้มีการเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19  โดยจัดให้มีการเว้นระยะห่างในการจัดที่นั่ง และดำเนินตามมาตรการ Social Distancing  มีแผงกั้นระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้มารับบริการ รวมถึงมีการตรวจวัดอุณหภูมิคัดกรองก่อนเข้าพื้นที่ สวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกฮอล์ และได้กำชับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานให้มีความเอาใจใส่ระมัดระวังตนเองในการปฏิบัติงานและให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งและเต็มความสามารถในการทำงาน 

ทางด้าน พ.ต.อ.ภัคพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า  ขอฝากประชาสัมพันธ์และช่วยแจ้งข่าวให้ชาวต่างชาติ หรือผู้ที่มีชาวต่างชาติทำงาน หรือเป็นญาติพี่น้อง ให้ส่งต่อข้อมูลเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยทั่วกันว่า ผู้ที่จะมายื่นเรื่องขออนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักรที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ (เคาเตอร์ J,L,M,N) สามารมาติดต่อยื่นคำร้องขออยู่ต่อฯ ก่อนวันอนุญาตสิ้นสุด ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 วัน ทั้งนี้ เริ่มตั้งแต่ วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป เพื่อจะได้ดำเนินการให้ถูกต้อง ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางมาติดต่อแต่อย่างใด 

ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้มาติดต่อรับบริการให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค เพื่อลดความเสี่ยงและการแพร่ระบาดอขงโรคไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวดและเคร่งครัดต่อไป
และทาง บก.ตม.1 ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ทราบต่อไป

พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา เรียกร้อง แพทย์กองทัพ ทั้งทหาร - ตำรวจ ร่วมกันตั้งโรงพยาบาลสนามขนาดใหญ่ช่วยแก้วิกฤตโควิด

เมื่อวันที่ 19 ก.ค. พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ และผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลสนามหลายแห่ง โพสต์เฟซบุ๊กเรียกร้องให้ทหารแพทย์ทั้ง 3 เหล่าทัพและองค์กรตำรวจ ร่วมกันจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขนาดใหญ่ในสถานการณ์วิกฤตโควิดระบาด

พล.ต.นพ.เหรียญทอง ระบุว่า เหล่าทหารแพทย์ทั้ง 3 เหล่าทัพและสำนักงานแพทย์ใหญ่ตำรวจ ท่านจะต้องร่วมมือกันจัดตั้ง รพ.สนามขนาดใหญ่กันได้แล้ว โดยไม่มีข้อจำกัดใดใดทั้งสิ้น เพราะนี่คือสถานการณ์วิกฤตโรคระบาดครั้งยิ่งใหญ่ที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ นี่คือภารกิจช่วยเหลือประชาชนอันเป็นภารกิจทางทหารของเหล่าทหารแพทย์

ผม คือ ทหารเก่าเหล่าแพทย์ ผู้มีกำเนิดชีวิตทหารจากนักเรียนแพทย์ทหาร วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ผมถูกฝึกมาให้พร้อมทุกสถานการณ์ ไม่มีคำว่า 'ทำไม่ได้ ทำไม่ไหว' จากปากของผม

โคราชเตียงรักษาโควิดเต็ม! ผู้ว่าสั่งทุกอำเภอตั้งโรงพยาบาลสนามด่วน พล.ต.เหรียญทอง ตั้งโรงพยาบาลสนามพลังแผ่นดิน 2 รักษาผู้ป่วยโควิด

แม้ผมลาออกจากราชการนานกว่า 14 ปีแล้ว ทั้งยังแก่กว่า 60 ปีด้วย ผมก็ยังสู้ไม่ถอยจนก้าวเดียวตามพระราชนิพนธ์ขององค์จอมทัพไทยในอดีต ทั้งยังสนองพระราชดำริขององค์จอมทัพไทยในรัชกาลปัจจุบันโดยไม่จำเป็นต้องมีพระบรมราชโองการหรือพระบัญชา...แล้วทหารเหล่าแพทย์ทุกนาย หมายรวมถึงตำรวจด้วย ...ท่านพร้อมแล้วหรือยัง

ผมคาดหวังอย่างสูงว่า ทหารแพทย์ทุกนาย ซึ่งหมายรวมถึงนักเรียนแพทย์ทหาร นักเรียนพยาบาล นักเรียนนายสิบเหล่าแพทย์ทุกเหล่าทัพ จะร่วมแรงกายใจออกมาปฏิบัติหน้าที่ รพ.สนาม อย่างเกินกำลัง เกินกว่าอัตราศึก

ผมรอคอยท่านทั้งหลายว่า เราจะร่วมรบต่อสู้ภัยโควิดอย่างเคียงบ่าเคียงไหล่ ดั่งพี่น้องผองเพื่อนที่พวกเราผูกพันกันมาชั่วชีวิต เราจะสู้ภัยโควิดดั่งนักรบเหล่าแพทย์ของจอมทัพมหาวชิราลงกรณ์กันเพื่อพสกนิกรใต้ร่มพระบารมีแห่งองค์พระมหากษัตริย์เจ้า


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

แบงก์แจ้งปิดสาขาในห้าง 13 จังหวัดเจอล็อกดาวน์

สมาคมธนาคารไทย แจ้งว่า หลังจาก ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 28) ยกระดับเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดในพื้นที่ 13 จังหวัด โดยให้มีผลบังคับใช้วันที่ 20 ก.ค. 2564 เป็นต้นไปนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและตอบรับมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของรัฐบาลอย่างเข้มข้น สมาคมธนาคารไทย ขอประกาศแนวทางในการให้บริการของสาขาเพื่อให้ลูกค้าประชาชนได้รับบริการได้อย่างต่อเนื่อง ดังนี้ 

1. ธนาคารมีความจำเป็นปิดสาขาในห้างสรรพสินค้า สาขาในศูนย์การค้า และสาขาในคอมมูนิตี้มอลล์ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ทั้ง 13 จังหวัดดังกล่าวข้างต้น เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค. 2564 เป็นต้นไป และจะพิจารณาปิดให้บริการสาขาบางแห่งเพิ่มเติมตามความจำเป็น ตามประกาศของจังหวัด หรือรัฐบาล รวมถึงประกาศของเจ้าของพื้นที่ โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบรายชื่อสาขาใกล้เคียงที่เปิดให้บริการทาง website ของแต่ละธนาคาร

2.   กำหนดเวลาเปิดให้บริการของสาขา ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค. 2564 คือ  
– สาขาในห้างสรรพสินค้า สาขาในศูนย์การค้า หรือ สาขาในคอมมูนิตี้มอลล์ ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนอกเขตพื้นที่    ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ยังคงเปิดให้บริการ แต่จะต้องเปิดให้บริการไม่เกิน 17.00 น.
– สาขาทั่วไปที่เป็นสาขา Stand Alone สามารถเปิดให้บริการได้ 5 วัน หรือ 7 วันทำการ ขึ้นกับการ  พิจารณาของแต่ละธนาคาร แต่จะเปิดให้บริการได้ไม่เกินเวลา 15.30 น.
– สาขาใน 3 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เปิดให้บริการเวลาไม่เกิน เวลา 15.00 น.   

3. จำกัดช่องให้บริการและจำนวนลูกค้าในสาขา เพื่อเว้นระยะห่างทางสังคม และลดความแออัด และเพื่อความสะดวกในการใช้บริการ ธนาคารขอแนะนำการทำธุรกรรมผ่านช่องทาง Mobile Banking เช่น พร้อมเพย์ หรือการชำระเงินด้วย QR Code เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยง ลดการเดินทาง และลดการสัมผัส โดยสาขาของธนาคารจะกลับมาให้บริการตามปกติโดยเร็วที่สุดเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย

‘หมอทวีศิลป์’ โฆษก ศบค. แจง แผนควบคุม 13 จังหวัดสีแดงเข้ม ย้ำ ถ้าไร้มาตรการควบคุมเข้มข้น หวั่น ติดสูงสุดกว่า 3 หมื่นรายต่อวัน

เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ทาง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ได้มีการหารือร่วมกับสื่อมวลชนวิทยุ โทรทัศน์ และออนไลน์ ซึ่งมีการสอบถาม ศบค. ถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์การติดเชื้อในประเทศ โดยมีการคาดการณ์เป็น 2 รูปแบบ จากคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล คาดการณ์จุดสูงสุดหากเราไม่ช่วยกัน ปล่อยให้ติดเชื้อไปเรื่อย ๆ หย่อนยานที่สุด จะพบว่ามีผู้ติดเชื้อสูงสุด 31,997 รายต่อวัน

แต่หากเราทำอย่างดีที่สุดตัวเลขจะอยู่ 9,018-12,605 รายต่อวัน ค่ากลางจะอยู่ที่ 9,695-24,204 รายต่อวัน ขณะที่คาดการณ์อีกรูปแบบหนึ่ง เป็นของธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่องค์การอนามัยโลก (WHO) นำไปอ้างอิง คาดการณ์การฉีดวัคซีนถึงปลายปี 64 หากเราฉีดได้ดี สถานการณ์ที่ดีที่สุด ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะลงมาในช่วงก่อนเดือนก.ย. คือขึ้นสูงและลงมา ตอนนี้เราเห็นภาพแล้ว ตัวเลข 10,000-15,000 รายต่อวัน ถึงในช่วงส.ค.-ก.ย. แต่กรณีสถานการณ์เลวร้ายที่สุด อาจสูงถึง 22,000 รายต่อวัน ในช่วง ส.ค.-ก.ย.

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับข้อกำหนดฉบับที่ 28 เป็นปรับระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดจาก 10 จังหวัด เป็น 13 จังหวัด ขณะที่พื้นที่ควบคุมสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 53 จังหวัด จะเห็นว่าพื้นที่สีแดงครอบคลุมไปทั่วประเทศ และจากข้อกำหนดฉบับที่ 28 เป็นการให้งดภารกิจออกนอกเคหสถานโดยไม่จำเป็น คือ นอกจากประกาศเคอร์ฟิวในตอนกลางคืน ช่วงกลางวันก็ขอให้ลดการเดินทางที่ไม่จำเป็น

ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคงจะตั้งด่านในพื้นที่ขอบนอกของ 9 จังหวัดภาคกลางที่ประกาศให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงและเข้มงวด โดยจะมีด่านตรวจเข้มแข็งกระจายไปในบริเวณขอบนอกของ 9 จังหวัด จะมีด่านตรวจทั้งเข้าและออก ใครจะเดินทางต้องแสดงหลักฐาน 3 อย่าง คือ เอกสารที่ได้รับอนุญาตจากพนักงาน เจ้าหน้าที่ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้อำนวยการเขต ต้องสแกนแอพพลิเคชั่นไทยชนะบริเวณด่านตรวจ และลงทะเบียนในเว็บไซต์ www.covid-19.in.th เพื่อจะได้รับคิวอาร์โค้ด ซึ่งที่ขณะนี้อยู่ระหว่างทดสอบระบบ

ขณะที่การเดินทางภายในพื้นที่สีแดงเข้มก็จะมีการตั้งด่านด้วยเช่นกัน โดยมาตรการนี้จะใช้กับ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เป็นพื้นที่สีแดงเข้มด้วย จึงขอแจ้งให้ประชาชนทราบถึงความไม่สะดวกสบายที่จะเกิดขึ้น เพื่อต้องการลดการเดินทางที่ไม่จำเป็น ขอให้อยู่ในเคหสถาน ตอนนี้ทั่วโลกก็ใช้วิธีการล็อกดาวน์และมาตรการเหล่านี้ ถือเป็นการหลักการสากลแล้ว ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงตำรวจ ทหาร จะทำงานเข้มข้นมากขึ้น


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

นพ.พงศกร เปิด 10 มุมมอง ความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 3 ระบุ วันนี้ วัคซีน mRNA รับมือเชื้อกลายพันธุ์ได้ดี พร้อมแนะจับตา Novavax ยกเป็นวัคซีนตัวหลักในอนาคต รวมถึงวัคซีนรุ่นที่ 2 ของทุกยี่ห้อ

นพ.พงศกร จินดาวัฒนะ ผู้อำนวยการอาวุโสด้านการสื่อสาร โรงพยาบาลกรุงเทพ ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจ Pongsakorn Chindawatana กล่าวถึง สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และการฉีดวัคซีนโควิด ว่า วัคซีนเข็มที่สาม นี่มันยังไงกันนะ มาครับ ผมจะเล่าให้ฟัง

1.) เรื่องนี้เกิดขึ้นเนื่องจากการฉีดวัคซีนแบบเชื้อตาย จนครบโดสไปแล้วสองเข็ม กลับพบว่าไม่สามารถป้องกันเชื้อที่กลายพันธุ์ได้ หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อหลายคน เมื่อตรวจภูมิคุ้มกันก็พบว่าระดับของภูมิคุ้มกันลดลงอย่างรวดเร็ว

2.) เลยเป็นที่มาว่าควรฉีดวัคซีนกระตุ้นดีหรือไม่ ถ้าฉีด ควรฉีดอะไร คำตอบก็ออกมาว่าการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่สามน่าจะช่วยได้ แต่มีข้อแนะนำว่าควรฉีดวัคซีนที่ผลิตกันคนละวิธี จากการวิจัยเล็ก ๆ ของอาจารย์แพทย์หลายท่าน พบว่าเมื่อฉีดวัคซีนกระตุ้นเป็นเข็มที่สาม ภูมิคุ้มกันจะอยู่ในระดับที่สูงและป้องกันเชื้อกลายพันธุ์ได้ดีขึ้น

3.) หลักการของวัคซีนเข็มที่สามนี้มีการวิเคราะห์โดยอิงจากหลักวิชาการ และมีเพียงไม่กี่ประเทศในโลกที่ตัดสินใจใช้วิธีนี้กับบุคลากร จึงยังเป็นอะไรที่ใหม่มากเกินกว่าจะให้คำตอบว่า มันเพียงพอแล้วจริง ๆ หรือไม่ ต้องมีเข็มสี่อีกหรือเปล่า อันนี้ต้องดูกันต่อยาว ๆ และฟังข้อมูลอย่างมีสติ พิจารณาว่าข้อมูลไหนเชื่อได้ ข้อมูลไหน fake นะครับ

4.) สำหรับประเทศไทย ส่วนมากแล้วบุคลากรทางการแพทย์เกือบทั้งหมด ฉีดซิโนแว็กซ์ไปครบสองเข็มตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรก-ไตรมาสที่สองของปี ดังนั้นเข็มที่สามของบุคลากรจึงมีวัคซีนให้เลือกใช้สองชนิด คือ AZ (Virus vector) หรือ Pfizer (mRNA)

สำหรับ AZ เรามีวัคซีนอยู่แล้ว บุคลากรที่เลือกเข็มสามเป็นตัวนี้ จึงสามารถฉีดได้เลย ขณะนี้ก็มีแพทย์ พยาบาล และบุคลากรหลายท่าน ได้ฉีดเข็มที่สามไปเรียบร้อยแล้ว Pfizer นั้น ในวันนี้ก็ยังมาไม่ถึง และยังกำหนดวันแน่นอนไม่ได้ว่าจะมาเมื่อไร

เดิมที Pfizer 1.5 ล้านโดสนี้ มีแผนจะฉีดให้กับประชากรกลุ่มเสี่ยง แต่เมื่อสถานการณ์ในประเทศกำลังเข้าขั้นวิกฤติ ศบค. จึงมีการแบ่งโควตาบางส่วนมาให้บุคลากรด่านหน้า ซึ่งเป็นผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดและต้องดูแลคนไข้ที่ติดเชื้อ

5.) ทั้งหมดนี้ไม่ได้หมายความว่าซิโนแวคไม่ดีนะครับ วิจัยทางการแพทย์เกือบทุกแห่งพูดตรงกันว่า สามารถลดความรุนแรงของการติดเชื้อลงและลดอัตราตายได้อย่างชัดเจน แต่การที่ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ เป็นเพราะวันนี้ไวรัสได้กลายพันธุ์ไปไกลแล้ว

ซิโนแวคที่ใช้ฉีดกันในวันนี้ ผลิตมาจากไวรัสรุ่นเก่า ตั้งแต่เริ่มมีการระบาด ถ้าวันนี้ไวรัสไม่กลายพันธุ์ ยังเป็นไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิม หน้าตาเดิม ๆ ซิโนแวคก็ยังมีประสิทธิภาพที่ดีครับ

6.) การที่ mRNA vaccine เช่น Pfizer และ Moderna ยังรับมือกับเชื้อกลายพันธุ์ได้ดี เป็นเพราะมีการนำเอาไส้ในของไวรัส หรือสารพันธุกรรมมาทำวัคซีน จึงยังกระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกายให้จดจำเชื้อกลายพันธุ์ได้ดีกว่าวิธีอื่น แต่ถ้าไวรัสยังกลายพันธุ์ไปเรื่อย ๆ แบบนี้ก็มีแนวโน้มว่าในอนาคต ก็อาจจะป้องกันไม่ได้เช่นกัน และอย่างไรก็ตามวัคซีนที่ผลิตด้วยวิธีนี้ยังใหม่มาก ๆ จริง ๆ เราก็ต้องติดตามดูผลข้างเคียงในระยะยาวกันต่อไปด้วยครับ

7.) คำตอบที่แท้จริง จึงอยู่ที่วัคซีนรุ่นที่สองของทุกยี่ห้อ ทุก Platform ที่มีการนำเอาไวรัสกลายพันธุ์มาผลิตเป็นวัคซีนเวอร์ชั่นใหม่ กระบวนการนี้ทำได้ไม่เร็วครับ แต่น่าจะรับมือเชื้อไวรัสที่กลายพันธุ์ได้ดีขึ้น เป็นเรื่องที่เราก็ต้องรอลุ้นกันต่อไปเช่นกัน

8.) สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้วัคซีนอีกหนึ่ง Platform กลายมาเป็นวัคซีนที่ทุกคนต้องจับตามองนั่นก็คือ Novavax

Novavax ผลิตด้วยวิธีที่สี่ เรียกกันว่า Protein subunit คือดึงเอาโปรตีนจากไวรัสมาทำวัคซีน ซึ่งโปรตีนนี้เป็นสารพื้นฐานที่ไวรัสดั้งเดิม หรือไวรัสที่กลายพันธุ์ไปแล้ว ต่างก็มีเหมือน ๆ กัน จากการทดลองในอาสาสมัครพบว่ารับมือกับไวรัสกลายพันธุ์ได้ดี

แถมยังมีผลข้างเคียงน้อยมาก แม้ว่าในอนาคต ไวรัสอาจจะกลายพันธุ์ไปอีก การปรับเปลี่ยนสูตรโปรตีนในวัคซีนก็จะทำได้รวดเร็วและรับมือกับการกลายพันธุ์ได้ดี ดังนั้น นี่จึงเป็นวัคซีนที่อาจจะกลายมาเป็นวัคซีนตัวหลักในอนาคตครับ

9.) แล้ววันนี้ล่ะ สำหรับประชาชนที่ฉีดวัคซีนครบสองเข็มไปแล้วจะต้องทำอย่างไรบ้าง ควรจะต้องลงทะเบียนรับวัคซีนเข็มที่สามหรือไม่ จากข้อมูลล่าสุดของศบค. บอกมาว่าเข็มที่สามสำหรับประชาชน ยังไม่เปิดลงทะเบียน เนื่องจาก อยากให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเลยแม้แต่เข็มเดียว มีโอกาสได้รับวัคซีนก่อนครับ

อย่างไรก็ตาม ขอให้ติดตามข้อมูลกันต่อไปนะครับ เพราะเรื่องวัคซีนเป็นอะไรที่ใหม่มากจริง ๆ และข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน วันนี้บอกว่า ประชาชนยังไม่ต้องลงทะเบียนเข็มที่สาม แต่อีกสักหน่อยอาจจะมีประกาศให้ลงทะเบียนก็เป็นได้ ยังไงผมจะคอย update ข้อมูลให้ทราบกันเป็นระยะครับ

10.) และสรุปสุดท้ายครับ แม้ว่าในอนาคตเราจะมีโอกาสได้รับวัคซีนเข็มที่สามแล้วก็ตาม แต่วัตถุประสงค์ของวัคซีนทุกชนิดก็คือ ลดความรุนแรงหากบังเอิญติดเชื้อ และลดอัตราการเสียชีวิต วัคซีนไม่สามารถป้องกันโรคได้ 100% เราจึงควรป้องกันตัวเองให้เต็มที่ต่อไปครับ


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top