Saturday, 28 June 2025
NEWS FEED

“ชัยวุฒิ” เตรียมเชิญ “ผู้บริหารองค์กรสื่อฯ” แจงปม ประกาศฉ.29 ห้ามเสนอข่าวทำปชช.หวาดกลัว หวัง ขอความร่วมมือสื่อพาประเทศพ้นวิกฤต

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังรม(ดีอีเอส) กล่าวกรณีที่ 6 องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกข้อกำหนดฉบับที่ 27 และ)ฉบับที่ 29 ออกตามความในมาตรา 9 แห่งก.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เกี่ยวกับมาตรการไม่ให้มีการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารอันทำให้เกิดความเข้าใจผิด และสร้างความหวาดกลัว ว่า ยืนยันว่าข้อกำหนดที่ออกมา ไม่ได้มีเจตนาควบคุมการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสื่อมวลชน และประชาชน ที่เป็นประโยชน์ต่อการรับรู้ข้อมูลข้อเท็จจริงของประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเชื่อมั่นในความเป็นมืออาชีพของสื่อในการปฏิบัติหน้าที่ และมีองค์กรสื่อฯคอยกำกับดูแลให้เป็นไปตามมาตรฐานทางวิชาชีพและจริยธรรม และที่ผ่านมารัฐบาลรับฟังการวิจารณ์ด้วยเหตุผล อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงมา จึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องปิดกั้นการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาของสื่อ แต่ต้องยอมรับว่ามีการส่งข้อมูลข่าวสารที่คลาดเคลื่อน ไม่ถูกต้องได้ ทั้งเจตนาและไม่เจตนา จึงต้องมีมาตรการป้องกันการบิดเบือน ที่กระทบการบริหารจัดการในภาวะวิกฤต

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เพื่อความเข้าใจแนวทางของรัฐบาล ตนจะเชิญผู้บริหารองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนหารือในโอกาสที่เหมาะสม ให้เกิดความร่วมมือแก้ปัญหาการนำเสนอข้อมูลที่ปราศจากข้อเท็จจริง เพื่อให้มั่นใจว่ารัฐบาลตระหนักถึงบทบาทของสื่อมวลชนในการมีส่วนช่วยนำพาบ้านเมืองให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤต ส่วนข้อกำหนดที่ออกมาเจตนาดำเนินการกับผู้ที่ทำตัวเสมือนเป็นสื่อ หรือสื่อเทียมไร้สังกัด ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีองค์กรกำกับตรวจสอบ ที่นำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ผิดจากข้อเท็จจริง ผ่านเฟซบุ๊กทวิตเตอร์ หรือแพลตฟอร์มอื่น มีเจตนาตั้งใจบิดเบือนเพื่อหวังผลบางอย่าง ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด หวาดกลัวหรือตื่นตระหนก เพื่อแก้ปัญหาในส่วนนี้เป็นหลัก ไม่เกี่ยวข้องกับสื่อมวลชนที่ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา

“สิระ” จวก "ไฮโซลูกนัท” สมองน้อย หวังล้มล้างสถาบัน หลังร่วมคาร์ม็อบ จี้ ตร.ดำเนินการ

นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ไฮโซลูกนัท ที่ปรากฏภาพเข้าร่วมการชุมนุมคาร์ม็อบเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยใช้รถส่วนตัวสีดำ ติดสติกเกอร์ยกเลิก 112 ข้างรถ ว่า ไม่อยากเชื่อว่านี่เป็นภาพของคนที่มาจากตระกูลที่มีการเลี้ยงดูมาอย่างดี ถูกคนอื่นๆ เรียกว่าเป็นไฮโซ แต่กลับมีสมองคิดได้เพียงเท่านี้ สิ่งที่ออกมาเรียกร้อง คือ เจตนาล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์

“ผมชี้เป้าให้แล้วว่าคนๆ นี้เจตนาจะล้มล้างสถาบันหรือไม่ ขอให้เจ้าที่หน้าตำรวจตรวจสอบภาพที่ปรากฏด้วย รวมถึงขอถามไปยังพ่อแม่ของไฮโซคนนี้ ให้ดูพฤติกรรมของลูกด้วยว่า เลี้ยงมาทำไมเป็นแบบนี้ ไม่เข้าใจว่าไฮโซสมัยนี้ทำไมสมองมันน้อย” นายสิระ กล่าว

‘บิ๊กตู่’ สั่งด่วน ‘อนุทิน’ ให้กรมควบคุมโรคจัดส่งวัคซีนตรงเดือนละ 750,000 โดส ไม่ต้องผ่าน กทม. แก้ปัญหาปิดศูนย์ฉีดวัคซีนภาคเอกชน 25 แห่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ถึงกรณีที่ศูนย์ฉีดวัคซีนที่ภาคเอกชนจัดตั้งขึ้น 25 แห่ง ในกทม. ประกาศปิดศูนย์ชั่วคราวเนื่องจากไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนว่า กระทรวงสาธารณสุขได้จัดสรรวัคซีนให้กับ กทม. ตามที่ตกลงกันไว้ แต่ไม่ทราบว่า ทำไมทาง กทม. จึงไม่จัดสรรวัคซีนให้กับศูนย์ฉีดวัคซีน 25 แห่งดังกล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า อย่างไรก็ตามเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โทรศัพท์มาสั่งการด่วนให้ตนจัดสรรวัคซีนให้กับศูนย์ฉีดของภาคเอกชน 25 แห่ง ซึ่งตนได้หารือกับ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) แล้ว มีความเห็นตรงกันคือให้ กรมควบคุมโรคจัดส่งวัคซีนโดยตรงไม่ต้องผ่าน กทม.ให้กับศูนย์ฉีดวัคซีน 25 แห่ง แห่งละ 1,000 โดสต่อวัน ซึ่งรวมแล้วจะฉีดได้ 25,000 โดสต่อวัน โดยเฉพาะเดือน ส.ค.จะได้ทั้งหมด 750,000 โดส ซึ่งใกล้เคียงกับความสามารถในการฉีดของบรรดาศูนย์ฉีดเหล่านี้

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ในเดือนสิงหาคมนี้ กรมควบคุมโรค จะสรรจัดวัคซีนให้ กทม. จำนวน 1,000,000 โดส แต่ด้วยความต้องการของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่อยากให้กรมควบคุมโรคส่งวัคซีนตรงไปยังศูนย์ทั้ง 25 แห่ง จะทำให้เหลือวัคซีนให้ กทม. บริหารเองเพื่อส่งให้โรงพยาบาลในสังกัดเพียง 250,000 โดส จึงสั่งการให้อธิบดีกรมควบคุมโรคจัดส่งเพิ่มให้ กทม. อีก 250,000 โดส รวมเป็น 500,000 โดส เพื่อให้ กทม. จะได้จัดสรรคไปฉีดในสถานพยาบาลต่าง ๆ ที่อยู่ในสังกัด ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเพียงพอกับความต้องการเท่ากับว่าในเดือนสิงหาคมนี้ พื้นที่ กทม.จะได้รับวัคซีน รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,250,000 โดส


ที่มา : https://www.isranews.org/article/isranews/101078


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ’ ที่ปรึกษาพิเศษ สนง.ตำรวจแห่งชาติมอบนโยบายตรวจเยี่ยมสถานีตำรวจชุมชนโคบัง จังหวัดร้อยเอ็ด

พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานและมอบนโยบายให้กับข้าราชการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมมอบถุงยังชีพและตรวจเยี่ยมสถานีตำรวจชุมชน “โคบัง” กำชับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด และยึดการมีส่วนร่วมของประชาชน

ที่สำนักงานตำรวจภูธร จ.ร้อยเอ็ดพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะเข้าติดตามการดำเนินงานและมอบนโยบายแนวทางการดำเนินงาน การบริหารจัดการและการซีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ติดตามการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการตำรวจลูกจ้างประจำ การบริหารจัดการศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และงานตำรวจชุมชน และการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ตำรวจภูธร จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พล.ต.ต.เนติพงศ์ ธาตุทำเล รองผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ไพโรจน์ มังคลาผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด พร้อมด้วยรองผู้บังคับการ และผู้กำกับการสถานีตำรวจ ทั้ง 33 แห่ง และข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธร จ.ร้อยเอ็ดให้การต้อนรับและรายงานผลการดำเนินงาน

จากนั้น พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมที่ทำการตำรวจชุมชนธงธานี ของสภ.ธวัชบุรี ตามโครงการสถานีตำรวจชุมชน “โคบัง” พร้อมมอบถุงยังชีพเครื่องอุปโภค บริโภค ให้กำลังใจกับตำรวจและอาสาสมัครภาคประชาชนที่ปฏิบัติหน้าที่จำนวน 17 ชุด โดยสถานีตำรวจชุมชน “โคบัง” ดังกล่าว เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจร่วมกับชุมชนรับผิดชอบพื้นที่ 3 ตำบล ประกอบด้วย ต.ธงธานี 10ชุมชน ต.บึงนคร 9ชุมชน และต.ธวัชบุรี 12 ชุมชนรวม31 ชุมชน โดย ร.ต.อ.ภูวไนย ธนสิริภักดีโสภณ รองสวส.ป้องกันปราบปราบ สภ.ธวัชบุรี ปฎิบัติหน้าที่หัวหน้าสถานีตำรวจชุมชนธงธานี โดยมี พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ศรีผ่องงาม  ผกก.สภ.ธวัชบุรี นายอภิชาติ รักพงษ์ นายกเทศมนตรีตำบลธงธานี นายกานต์ นองนุช กำนันตำบลธงธานี หน่วยกู้ภัยอโสกพิทักษ์ชีพร้อยเอ็ดจุดสะกัดบ้านธวัชดินแดง พร้อมด้วยผู้นำชุมชน และประชาชนให้การต้อนรับภายใต้มาตรการเข้มข้นด้านโควิด-19

ทั้งนี้ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครภาคประชาชน ปฏิบัติหน้าที่ยึดหลักความปลอดภัยตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับผู้ชุมชน และให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุด เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยเกิดประสิทธิภาพสูงสุดพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ กล่าวในที่สุด

"ผู้นำคนพิการ ด้ามขวานไทย" ผนึกกำลังภาครัฐ และมูลนิธิฯ บรรเทาทุกข์ช่วงโควิด-19

วันที่ 1 สิงหาคม 2564 คุณสือนะ ดีสะเอะ อุปนายก "สมาคมคนพิการภาคใต้" ร่วมภารกิจเยี่ยมเยือน มอบขวัญกำลังใจให้แก่ กลุ่มเปราะบาง / คนยากไร้ / คนพิการ และ ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิค-19 ใน จ.นราธิวาส ดังนี้

>> 1. พื้นที่บ.ยานิง ม.2 ต.จวบ อ.เจาะไอร้องฯ ร่วมกับ "จ.ส.อ.รอซะ บือราหง" ชป.กร.ร้อย.ทพ.4803 และ "นายนิจิ นิเยะ" ผญบ.ม.2ฯ มอบถุงปัจจัยยังชีพฯ

>> 2. พื้นที่บ.โต๊ะเล็ง ม.3 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้องฯ ร่วมกับ "นายอับดุลมูฮี สะอิ" ผญบ.ม.3ฯ มอบถุงปัจจัยยังชีพฯ

ในการนี้ "คุณสือนะ ดีสะเอะ" อุปนายกสมาคมคนพิการภาคใต้ ขอขอบพระคุณ "พ.อ.ชลัช ศรีวิเชียร" รอง ผอ.กิจการพิเศษ ศูนย์สันติวิธีฯ(สล.3) และ "มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง" ที่เล็งเห็นความสำคัญของพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ และประสบปัญหา การดำรงชีวิตในช่วงสถานการณ์ covid-19 ที่ส่งผลกระทบในเรื่องของการใช้ชีวิตประจำวัน การประกอบสัมมาอาชีพ โดยไม่สะดวก แต่ด้วยน้ำหนึ่งน้ำใจเดียวของพี่น้องประชาชนคนไทย จึงได้รับความอนุเคราะห์ และให้การช่วยเหลือเป็นอย่างดี ในครั้งนี้

ผบ.ตร. ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบอุปกรณ์การตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมทั้งมอบอาหารและครื่องดื่ม ให้แก่ทีมแพทย์พยาบาล จิตอาสาและผู้เข้ารับการตรวจคัดกรอง

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. เปิดเผยว่า วันนี้ เวลา 11.00 น. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์  รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.สุรพล อยู่นุช ที่ปรึกษาพิเศษ (สบ.10) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. และ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ แพทย์ใหญ่ รพ.ตร. ได้ไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจในการตรวจคัดกรองค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด -19 โดยใช้สถานที่ของแฟลตตำรวจลือชา เป็นสถานที่ตรวจคัดกรอง มีประชาชนชุมชนซอยลือชา และข้าราชการตำรวจพร้อมครอบครัว เข้ารับการตรวจ 800 กว่าราย โดยมีทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่รพ.ตำรวจ และกำลังพลจิตอาสา ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่

วัตถุประสงค์ของการตรวจคัดกรองครั้งนี้ เพื่อหยุดยั้งการเพิ่มจำนวน และการแพร่ระบาดของผู้ป่วยสีเขียวให้ทันท่วงที ก่อนที่จะพัฒนาไปเป็นผู้ป่วยสีส้ม-แดง รวมถึงยังเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้ข้าราชการตำรวจและครอบครัว เพื่อตำรวจจะได้มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนการระงับ ยับยั้ง ชะลอการแพร่ระบาดของโรค ให้สถานการณ์การแพร่ระบาดได้คลี่คลายและควบคุมได้

โฆษก ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า ผบ.ตร. ได้ขอบคุณทีมงานทุกคน และประชาชนที่เข้าร่วมการตรวจคัดกรองในวันนี้ และได้มอบอุปกรณ์การตรวจให้กับทีม รพ.ตำรวจ พร้อมทั้งอาหาร และเครื่องดื่มให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่ ประชาชนและครอบครัวตำรวจ ต่อมา ผบ.ตร. และคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจการตรวจคัดกรองหาเชื้อให้แก่ประชาชนในชุมชนสินทวี ย่านจอมทอง ท่าข้าม และข้าราชการตำรวจพร้อมครอบครัว พื้นที่ บก.น.9 เข้ารับการตรวจ 700 กว่าราย

พม่าจัดตั้งรัฐบาลรักษาการ ‘มิน อ่อง หล่าย’ นั่งเก้าอี้นายกฯ ย้ำ จัดการเลือกตั้งในปี 2566

รอยเตอร์ - พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้ปกครองทหารของพม่า รับบทบาทหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลรักษาการที่ตั้งขึ้นใหม่ สื่อของรัฐรายงานในวันอาทิตย์ ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นหลังกองทัพยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนผ่านไปแล้ว 6 เดือน

ในการกล่าวถ้อยแถลงเมื่อวันอาทิตย์ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ได้ย้ำถึงคำมั่นว่าจะจัดการเลือกตั้งภายในปี 2566 และกล่าวว่ารัฐบาลพร้อมที่จะทำงานร่วมกับทูตพิเศษของภูมิภาคเกี่ยวกับพม่า

การประกาศและถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้น 6 เดือนหลังกองทัพยึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 ก.พ. จากรัฐบาลพลเรือนหลังการเลือกตั้งที่พรรครัฐบาลของอองซานซูจีคว้าชัย แต่กองทัพระบุว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นในการเลือกตั้งนั้น

มิน อ่อง หล่าย เป็นประธานสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) ที่ตั้งขึ้นไม่นานหลังการรัฐประหารและปกครองพม่านับตั้งแต่นั้น และรัฐบาลรักษาการจะเข้ามาแทนที่

“เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของประเทศดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ง่ายขึ้น และมีประสิทธิภาพ สภาบริหารแห่งรัฐถูกปรับเปลี่ยนใหม่เป็นรัฐบาลรักษาการแห่งพม่า” ผู้ประกาศข่าวของสถานีโทรทัศน์เมียวดี กล่าว

ในถ้อยแถลง พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ได้ย้ำคำมั่นที่จะฟื้นฟูประชาธิปไตย โดยกล่าวว่าพ.ร.ก.ฉุกเฉินจะสิ้นสุดภายในเดือนส.ค.2566 และยังกล่าวรับประกันการจัดตั้งสหภาพตามระบอบประชาธิปไตยและสหพันธรัฐ

ไม่นานหลังการรัฐประหาร ผู้นำรัฐบาลทหารได้ให้คำมั่นว่าการเลือกตั้งใหม่จะเกิดขึ้นภายใน 2 ปี แต่จากการอ้างถึงเดือนส.ค.2566 ดังกล่าว สื่อท้องถิ่นบางรายได้ตีความว่าเป็นการขยายกรอบเวลาออกไปอีก 6 เดือน

มิน อ่อง หล่าย ยังกล่าวว่าฝ่ายบริหารของเขาจะทำงานกับทูตพิเศษที่ได้รับการเสนอชื่อจากสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)

รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนจะพบหารือกันในวันจันทร์ที่ 2 ส.ค. ที่นักการทูตกล่าวว่ามีเป้าหมายที่จะจัดการเรื่องทูตพิเศษที่ได้รับมอบหมายให้ยุติความรุนแรงและส่งเสริมการเจรจาระหว่างรัฐบาลทหารและฝ่ายตรงข้าม

กองทัพยึดอำนาจหลังพรรครัฐบาลของซูจีชนะการเลือกตั้งที่กองทัพแย้งว่าเต็มไปด้วยการทุจริต และทหารยังกล่าวว่าการยึดอำนาจของพวกเขาเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้งของประเทศปฏิเสธข้อกล่าวหาของกองทัพ

หลังการรัฐประหาร ซูจีถูกตั้งข้อหาอาญาหลายข้อหา และการพิจารณาคดีของเธอในข้อหาการครอบครองวิทยุวอล์กกี้ทอล์กกี้อย่างผิดกฎหมายและการละเมิดมาตรการป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มีกำหนดที่จะเริ่มดำเนินการอีกครั้งในวันจันทร์


ที่มา : https://mgronline.com/indochina/detail/9640000075302


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ปชป.“บิ๊กคลีนนิ่ง” พรรค หลังม็อบ "ทะลุฟ้า”บุก สาดสี -ทำลายทัพย์สิน

ที่พรรคประชาธิปัตย์ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์นำโดยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค นายถาวร เสนเนียม ส.ส.จังหวัดสงขลา และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม  น.ต.สุธรรม ระหงษ์ ผู้อำนวยการพรรค นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค และนายบุญยอด สุขถิ่นไทย อดีต ส.ส.กทม. นำสมาชิกพรรค และพี่น้องประชาชนที่รักและห่วงใยในพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันทำความสะอาดพื้นที่และอาคารของพรรค หลังจากที่มีกลุ่มทะลุฟ้า นำผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งบุกเข้าทำลายทรัพย์สิน และขว้างปาสีใส่อาคารเมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา

นายองอาจ กล่าวว่า เรามาช่วยกันทำความสะอาด นอกเหนือจากที่ช่วยชาวบ้านในสถานการณ์โควิดเกิดขึ้นในประเทศไทย ก็ต้องขอบคุณพี่น้องทุกๆ คนที่ส่งกำลังใจมาให้กับพวกเราตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วง 2 – 3 วันที่ผ่านมา 
ด้านนายราเมศ ผู้ชุมนุมกลุ่มทะลุฟ้าได้มาสร้างความเสียหายให้กับพรรคหลายจุด ตั้งแต่ฝาผนัง ป้ายอาคาร รวมถึงทรัพย์สินอีกหลายอย่าง ซึ่งจะต้องนำไปทำสี ซ่อมแซม วันนี้มีสมาชิกพรรค พี่น้องประชาชน รวมถึงผู้บริหารพรรคบางส่วน มาร่วมกันซ่อมแซมทำความสะอาดทุกจุดที่ได้รับความเสียหาย  บ้านของเรา เราก็รัก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราก็จะไม่หวั่นไหว แต่อีกช่องทางหนึ่งเราก็จะดำเนินการตามครรลองของกระบวนการยุติธรรมต่อไป เพื่อที่จะให้เห็นว่าการกระทำแบบนี้เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

นฤมล มอบข้าวกล่องให้ชุมชนสีแดงเข้ม ส่งกำลังใจสู้ภัยโควิด-19

รมช.แรงงาน ส่งทีมมอบข้าวกล่องให้ประชาชนในพื้นที่สีแดงเข้ม ร่วมส่งกำลังใจประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์  ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตนเองมีความตั้งใจในการส่งมอบข้าวกล่องให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นแคมป์คนงานก่อสร้างที่ถูกสั่งปิด แม้แคมป์คนงานบางแห่งจะเปิดแล้วแต่ก็ยังคงได้รับผลกระทบ จึงเดินหน้ามอบข้าวกล่องอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังได้มอบให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ด่านหน้า ทั้งที่ปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลสนาม รวมถึงเจ้าหน้าที่จิตอาสาที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการคลี่คลายปัญหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 อีกด้วย

รมช.แรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ได้มอบหมายให้ทีมงานนำข้าวกล่องไปมอบให้โรงพยาบาลสนามโรงเรียนบางบัวทอง เพื่อส่งกำลังใจไปยังบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานอย่างหนัก รวมถึงชุมชนบางบัวทองแลนด์ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นชุมชนเขตพื้นที่สีแดงเข้ม ทำให้ประชาชนไม่สามารถออกจากบ้านได้ สำหรับข้าวกล่องที่นำไปมอบให้ในวันนี้จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนได้ในระดับหนึ่ง และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนในการก้าวข้ามวิกฤตินี้ไปพร้อมกัน

“บิ๊กตู่” สั่งทหารตำรวจ เตรียมรับสถานการณ์ชายแดน และเสริมจังหวัดตั้ง รพ.สนาม และ CI ดึงผู้ป่วยออกมารักษา

ที่กระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ  ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกบาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ชัยชาญ  ช้างมงคล รมช.กลาโหม และ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม ประชุมติดตามการสนับสนุนรัฐบาลแก้ปัญหาวิกฤตโควิด 19 ร่วมกับ กอ.รมน. นขต.กห. เหล่าทัพ และ ตร. ผ่านระบบ VTC

ภาพรวมฝ่ายความมั่นคง ยังคงจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายได้ต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ ก.ค.63 ถึงปัจจุบัน จับกุมได้ถึง 44,168 คน พื้นที่ชายแดน  33,576 คน และพื้นที่ชั้นใน 10,592 คน เป็นผู้นำพา 411 คน โดย ก.ค.ที่ผ่านมาจับกุมได้กว่า 4,300 คน

จากการประเมินสถานการณ์ในเมียนมา ทั้งสภาพเศรษฐกิจ ความรุนแรงที่ยังมีอยู่ และผู้ป่วยโควิดที่ติดเชื้อสะสมมากขึ้นต่อเนื่อง  มีความน่าเป็นกังวลและต้องเฝ้าระวังอย่างมากกับแนวชายแดนติดกันที่ยาวถึง 2,401 กม. โดยขณะนี้ ฝ่ายความมั่นคง ได้หารือร่วมเสริมกำลังและเตรียมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ จว.ชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำมากขึ้น  อย่างไรก็ตาม กองกำลังป้องกันชายแดนด้านตะวันออก ยังคงร่วมกันเฝ้าระวังเข้มข้นเช่นกัน กับยอดผู้หลบหนีเข้าเมืองชาวกัมพูชาและลาวที่พบมากขึ้น

สำหรับ การติดตามช่วยเหลือประชาชนในวิกฤตโควิด กำลังทหาร ตำรวจ ได้จัดกำลังเข้าไปเสริมการทำงานในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จว.มากขึ้นต่อเนื่อง เพื่อนำผู้ป่วยติดเชื้อที่มีมากและอาจติดค้างตามบ้านไม่ได้รับการดูแล นำออกสู่ระบบการรักษาให้มากที่สุด ผ่านการติดต่อ “ศูนย์การเคลื่อนย้ายผู้ป่วย” และ “จุดบริการประชาชน” ที่กระจายกำลังลงจัดตั้งในพื้นที่ชุมชนต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานคร 

ทั้งนี้ กำลังทหารและตำรวจ ได้พยายามสนับสนุน กทม.ให้สามารถจัดตั้งและบริหารจัดการพื้นที่แยกพักรักษาตัวในชุมชน ( Community Isolation ) ให้ได้อย่างน้อย 1 แห่งในทุกเขต เพื่อลดปัญหาคอขวดเปิดพื้นที่นำผู้ป่วยสีเขียวตามบ้านแยกออกมาเข้ารับการดูแลรักษาตามระดับอาการ โดยสนับสนุนการทำงานร่วมกับ รพ.สนามที่มีจำกัด  อย่างไรก็ตาม กองทัพ อยู่ระหว่างเร่งเสริมขีดความสามารถ รพ.สนามของทุกเหล่าทัพที่มีอยู่ 29 แห่ง และเตรียมจัดตั้งเพิ่มโดยประสานทำงานร่วมกับสาธารณสุขในแต่ละจังหวัด พร้อมทั้งเร่งจัดตั้ง CI ในหน่วยทหาร เพื่อสนับสนุนดูแลชุมชนโดยรอบ

โดยพล.อ.ชัยชาญ ได้กล่าวย้ำในที่ประชุมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้แสดงความขอบคุณและเป็นกำลังใจให้ทหาร ตำรวจทุกคน ที่ร่วมกันเป็นด่านหน้าช่วยเหลือดูแลประชาชนรับมือกับวิกฤตโควิดที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมา พร้อมย้ำ ให้กองกำลังป้องกันชายแดนทุกเหล่าทัพและตำรวจ ประสานทำงานร่วมกับฝ่ายปกครองเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินชายแดนที่อาจเกิดขึ้น โดยตั้งอยู่ในความไม่ประมาท  พร้อมทั้ง ขอให้ระดมทรัพยากรเร่งสนับสนุนทุกจังหวัดให้สามารถจัดตั้ง รพ.สนามเพิ่มเติม และพื้นที่แยกพักรักษาตัวในชุมชน ( Community Isolation ) ให้เพียงพอรองรับการดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อในพื้นที่สีแดงเข้มเป็นการเร่งด่วนให้มากที่สุด โดยเฉพาะ กทม.

ทั้งนี้พล.อ.ชัยชาญ ได้กำชับ ขอให้ทุกเหล่าทัพ เร่งขยายขีดความสามารถของ รพ.หน่วยทหาร ให้สามารถรองรับผู้ป่วยสีแดงและเหลืองได้มากขึ้น  พร้อมทั้ง ขอให้ช่องทางสายด่วน 1138 ที่จัดตั้งขึ้น ทำงานร่วมกับ “จุดบริการประชาชน” ที่กระจายอยู่ในพื้นที่ เปิดช่องทางสื่อสารลงถึงผู้นำชุมชน ช่วยกันจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว รุกเข้าไปช่วยเหลือประชาชนให้ทั่วถึงและทันกับความต้องการ  พร้อมกันนี้ ขอให้ทุกเหล่าทัพ ช่วยเหลือเกษตรกร เก็บคัดแยก ขนส่ง รวมทั้งรับซื้อและกระจายพืชผลการเกษตร โดยเฉพาะมังคุดจากภาคใต้ ที่เริ่มมีปัญหาล้นตลาด ซึ่งกองทัพได้สนับสนุนสนุนรับซื้อแล้ว 168 ตัน เพื่อร่วมช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนกันและกัน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top