Friday, 20 June 2025
NEWS FEED

รรท.ผบก.ตม.3 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ตม.จว.จันทบุรี กำชับ 7 มาตรการ ผบ.ตร.

วันนี้ (31 ม.ค. 68) เวลา 14.30 น. พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ ผบก.ส.4 รรท.ผบก.ตม.3,พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.ตชด., พ.ต.อ.หฤษฎ์ เอกอุรุ รอง ผบก.ตม.3 พร้อมคณะฯ ได้เดินทางยังจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ตม.จว.จันทบุรี เพื่อกำชับการปฏิบัติตาม 7 มาตรการแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้แก่ กรณีลักลอบเข้าเมือง, ประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย, ถูกหลอกลวง และอาชญากรรมข้ามชาติ และนโยบายค่านิยมหลัก 4 ส. (CORE VALUES) : 4 S สะดวก สมดุล สากล สร้างความประทับใจ ของ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์
ผบช.สตม. พร้อมทั้งมอบสิ่งของบำรุงขวัญแก่ข้าราชการตำรวจในสังกัด

โดยมี พ.ต.อ.วีรยศ การุณยธร รอง ผบก.ตม.2 รรท.ผกก.ตม.จว.จันทบุรี และข้าราชการตำรวจในสังกัดให้การต้อนรับ ทั้งนี้ พ.ต.อ.พรชัย แช่มช้อย ผกก.ตชด.11, น.อ.นพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผบ.ฉก.นย.จันทบุรี และ น.อ.สุรศักดิ์ ศรีเผือก หน.ชค.ทพ.นย.4ฯ ได้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วยโดยเน้นย้ำความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามสั่งการของผู้บังคับบัญชา และให้มีผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม 

ซึ่งที่ผ่านมา ตม.จว.จันทบุรี และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ได้ร่วมกันป้องกันและปราบปราม อาชญากรรม
ที่เกี่ยวกับการลักลอบเข้าเมือง, ประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย, ถูกหลอกลวง และอาชญากรรมข้ามชาติโดยมีผลการจับกุมมาโดยตลอด และจะเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติตามสั่งการของผู้บังคับบัญชาต่อไป

ตำรวจหารือร่วมกับทูตนานาประเทศ ตอบรับเข้าร่วมศูนย์ประสานงานระหว่างประเทศ ปราบอาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ออกมาตรการเข้มป้องกันการลักลอบข้ามแดนของต่างชาติ 

(31 ม.ค.68) เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนต์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศตคม.ตร./ผอ.ศปอส.ตร.) เป็นประธานการประชุมหารือความร่วมมือระหว่างประเทศปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและอาชญากรรมออนไลน์ โดยมีเอกอัครราชทูตและผู้แทนจากนานาประเทศ ได้แก่ ศรีลังกา อินโดนีเซีย ลาว เมียนมา แทนซาเนีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย จีน บราซิล สหรัฐอเมริกา โมร๊อคโค อินเดีย เคนยา ยูเครน บังกลาเทศ รัสเซีย และผู้แทนจากสำนักงานป้องกันยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) , กระทรวงการต่างประเทศ , การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เข้าร่วมประชุมร่วมกับผู้แทนหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาทิ พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลน์ ผบช.ภ.6 , พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท. , พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ รอง ผบช.ก. ณ ห้องศรียานนท์ อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย คนต่างด้าวตั้งกลุ่มแก๊งกระทำความผิดหรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ อย่างเต็มกำลัง เพื่อขจัดปัญหาเหล่านี้ให้หมดไปโดยเร็ว รวมทั้งการช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกหลอกลวง เช่น กรณีที่ตำรวจไทยช่วยเหลือนายหวังซิง นักแสดงชาวจีน ซึ่งการแก้ไขปัญหาดังกล่าว พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ออก 7 มาตรการ อย่างเข้มงวด ได้แก่ มาตรการก่อนคนต่างด้าวเดินทางเข้าประเทศไทย , มาตรการ ณ ท่าอากาศยาน และด่านตรวจคนเข้าเมือง (ชายแดน) ,  มาตรการตั้งจุดตรวจตามเส้นทาง , มาตรการตรวจสอบที่พัก พื้นที่ท่องเที่ยว และสกัดกั้นพื้นที่ชายแดน , มาตรการเชิงรุกในการตรวจสอบเส้นทางและจุดพักคอย , มาตรการเข้มข้นในพื้นที่ชายแดน และมาตรการประสานงาน ให้ความช่วยเหลือ และสืบสวนขยายผล นอกจากนี้ ยังได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งในระดับประเทศ และหน่วยงานระดับสากล เพื่อร่วมมือในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม

ในการประชุมครั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้เชิญผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตนานาประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือในการประสานความร่วมมือในการป้องกันแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติและอาชญากรรมออนไลน์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และเข้าร่วมในการจัดตั้งศูนย์ประสานงานระหว่างประเทศ ซึ่งมี พล.ต.อ.ธัชชัยฯ เป็นหัวหน้าศูนย์ประสานงานดังกล่าว ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตทุกประเทศยินดีอย่างยิ่งในการให้ความร่วมมือกับไทย มีเป้าหมายร่วมกันเพื่อพัฒนามาตรการป้องกันการลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมายของชาวต่างชาติ การบังคับใช้อย่างเข้มงวดต่อการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ตลอดจนเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ โดยศูนย์ประสานงานดังกล่าวจะทำให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูล ติดต่อประสานงานกันอย่างรวดเร็ว ได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง 

พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความยินดีที่ได้รับความร่วมมือจากสถานเอกอัครราชทูตนานาประเทศ ในการเข้าร่วมศูนย์ประสานงานระหว่างประเทศ ในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อยุติปัญหาดังกล่าวให้หมดสิ้นไปโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการเตรียมการจัดตั้งศูนย์ประสานงานระหว่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีการประชุมติดตามประเมินสถานการณ์ทุกวัน ในเวลา 08.30 น. โดยเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป

นราธิวาส-ผู้ว่าฯ นราธิวาส มอบกระเช้าเยี่ยมให้กำลังใจและมอบเงินช่วยเหลือเยียวยา แก่เจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ อำเภอระแงะ 

วันนี้ (31 ม.ค. 68) ที่ ตึกประชารักษ์ ชั้น 1 โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเมืองนราธิวาส ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วย นายอำเภอระแงะ ,หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยาฯ จังหวัดนราธิวาส ,รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ,คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส และผู้อำนวยการโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบกระเช้าเยี่ยม อส.ทพ.มะรือซู มะดีเย๊าะ อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่ทหารพราน สังกัด ร้อย ทพ.4511 ซึ่งได้รับบาดเจ็บ จากเหตุคนร้ายไม่ทราบชื่อและจำนวน ลอบวางระเบิดศาลาสำนักสงฆ์บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 5 หมู่ที่ 9 ตำบลบองอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อเวลา 09.55 น. วันที่ 23 ม.ค.68 ที่ผ่านมา ทำให้ได้รับบาดเจ็บมีแผลบริเวณขาทั้งสองข้าง แผลที่รักแร้ข้างซ้าย ไม่สามารถเดินได้ โดยรวมรู้สึกตัวดี  

จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสและคณะ ได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 17/2 ม.1 ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส เพื่อมอบกระเช้าเยี่ยมให้กำลังใจ อส.ทพ.ศรนรินทร์ นันทจันทร์ อายุ 25 ปี เจ้าหน้าที่ทหารพราน สังกัด ร้อย ทพ.4511 ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุการเดียวกัน ทำให้มีบาดแผลจากสะเก็ดระเบิดบริเวณสะโพกซ้าย, ศรีษะ, ไหล่ซ้าย-ขวา, อวัยวะเพศ  และมีอาการแน่นหน้าอก ล่าสุดอาการโดยรวม ของเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 นาย ดีขึ้น ตามลำดับ

ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้เยี่ยมสอบถามอาการและมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาฯ แก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 รายๆ ละ 30,000.- บาท และคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาจากเหตุการณ์ความไม่สงบฯ ของสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส รายละ 3,000.- บาท ด้วย

'ดร.เฉลิมชัย' สั่งด่วน! ระดม ฮ.ทส. พร้อมเจ้าหน้าที่100 นาย ผนึกกำลังท้องถิ่น เปิดยุทธการดับไฟป่า วน. เขาหลวง อุทัยธานี นครสวรรค์

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เผยว่า ได้รับทราบรายงานสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่วนอุทยานเขาหลวง บริเวณรอยต่อระหว่างพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ และอุทัยธานี เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2568 มีสถานการณ์ค่อนข้างน่าเป็นห่วง จึงได้สั่งการด่วนให้ส่งเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฮ.ทส.) เข้าร่วมสนับสนุนกับทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) นครสวรรค์ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) อุทัยธานี สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.) ที่ 12 นครสวรรค์ และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ (สจป.) ที่ 4 ตาก ในการบินสำรวจพื้นที่ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 30 มกราคม 2568 พบไฟป่ากระจายตัวอยู่ตามพื้นที่ที่มีเชื้อเพลิงสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะไผ่ตายขุย โดยส่วนมากอยู่ในพื้นที่เขาสูงชัน เจ้าหน้าที่ภาคพื้นเข้าถึงได้ยาก 

จึงได้สั่งการให้สนับสนุน ฮ.ทส. เข้าร่วมปฏิบัติการในพื้นที่ จำนวน 2 ลำ เพื่อสนับสนุนการบินสำรวจสถานการณ์ไฟป่าและบินทิ้งน้ำดับไฟป่า พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ภาคพื้นชุดดับไฟป่า จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) และกรมป่าไม้ (ปม.) จำนวน 100 นาย บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ทั้ง ปภ.นครสวรรค์ กรมการปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนจิตอาสา เพื่อเปิดยุทธการการดับไฟป่าในพื้นที่ วน.เขาหลวง เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้ได้โดยเร็ว

‘หนูนา - กัญจนา’ ผลักดันสร้าง รพ. ช้างในพื้นที่ อ.แม่แตง พร้อมหนุนงบ 50 ล้านบาท สร้างให้แล้วเสร็จตามเจตนารมณ์

‘หนูนา – กัญจนา’ เดินหน้าผลักดันสร้างโรงพยาบาลช้างในพื้นที่ อ.แม่แตง ต่อ แม้งบประมาณจะพุ่งถึง 50 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในหนึ่งปี หวังฝากสิ่งที่เป็นประโยชน์ไว้ในแผ่นดิน

เมื่อวันที่ (30 ม.ค. 68) นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา หรือ หนูนา ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการก่อสร้างโรงพยาบาลช้างในพื้นที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า โรงพยาบาลช้างที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ตามที่ดิฉันได้เคยโพสต์ไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า…ดิฉันจะสร้างโรงพยาบาลช้างให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อเป็นที่ดูแลรักษาช้าง และเป็นที่ฝึกนักศึกษาสัตวแพทย์ เมื่อวานได้มีการประชุมทาง Zoom กับคุณหมอบิ๊ก (ฉัตรโชติ) คุณหมอนิน และ ผู้เกี่ยวข้องของทางมช.

ได้ข้อสรุปดังนี้
1. โรงพยาบาลแห่งนี้จะตั้งอยู่ที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่บนพื้นที่ของสปก.ที่ขออนุญาตใช้แล้วประมาณ 26 ไร่เศษ

2. ทั้งโครงการจะประกอบด้วยโรงดูแลรักษาช้างได้คราวละ 4 เชือก (หรือ 6 โดยอีก 2 ต้องผูกอยู่ด้านนอก)
โรงเก็บอาหาร เก็บเวชภัณฑ์ ที่พักนักศึกษา ที่พักควาญ อาคารดำเนินงานธุรการต่างๆ ระบบไฟฟ้า น้ำประปา

3. งบประมาณที่ใช้ ที่เคยคุยกันที่ 40 ล้านบาทปรากฏว่าไม่พอต้องขึ้นไปถึงเกือบ 50 ล้าน…(คือ 49 ล้านกว่า)

4. ใช้เวลาก่อสร้างแล้วเสร็จเพื่อใช้งานได้น่าจะประมาณหนึ่งปีนับจากนี้

เอาเถอะค่ะ แม้งบจะเพิ่มอีกเป็นเกือบ 50 ล้าน ดิฉันก็จะทำให้โดยดิฉันจะมอบเงินให้กับทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทั้งก้อนให้เขาไปบริหารกันเองแต่ดิฉัน ..ในฐานะผู้บริจาค ขอมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน ส่วนทางมหาวิทยาลัยจะเปิดให้ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคในอุปกรณ์ปลีกย่อยอื่น ก็เป็นเรื่องของทางมหาวิทยาลัย

นางสาวกัญจนา ย้ำว่า ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โรงพยาบาลแห่งนี้ จะก่อคุณูปการกับช้างทั้งหลายในภาคเหนือ ซึ่งมีนับ 1,000 เชือก ไม่ใช่เฉพาะแค่ในเชียงใหม่ แต่ในจังหวัดอื่นด้วย และจะเป็นที่ผลิตนักศึกษาที่จะมาเป็นหมอช้างในวันหน้า ดิฉันคิดอย่างที่เคยบอกเสมอว่า ตายไป ดิฉันก็เอาอะไรไปไม่ได้…แต่สมบัติที่ดิฉันมีในวันนี้ จะสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์ยาวนาน แม้เมื่อดิฉันจากโลกนี้ไปแล้ว สิ่งนั้นก็ยังคงอยู่

อสส. จับมือ รฟม. ส่งเสริมการดำเนินงานด้านการตลาดและการประชาสัมพันธ์

องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (อสส.) จับมือ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ร่วมกันส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานด้านการตลาดเกี่ยวกับผู้ใช้บริการ รวมถึงด้านการประชาสัมพันธ์

เมื่อวานนี้ (30 ม.ค.68) ณ ศูนย์การเรียนรู้ด้านรถไฟขนส่งมวลชน (MRTA Learning Center) เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย และ นายวิทยา พันธุ์มงคล รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ) รักษาการแทนผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ร่วมกันลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือการส่งเสริมการดำเนินงานด้านการตลาดและการประชาสัมพันธ์ 

ทั้งนี้ MOU ในดังกล่าววัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานด้านการตลาดเกี่ยวกับผู้ใช้บริการผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงเพื่อร่วมกันจัดกิจกรรมและประชาสัมพันธ์กิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการประกอบกิจกรรมและผู้ใช้บริการของทั้งสองฝ่าย 

โดยมีผู้บริหารองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ ประกอบด้วย นางจงกลนี แก้วสด รองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย (สายบริหาร) นายวันชัย ตันวัฒนะ รองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย (สายอนุรักษ์และวิจัย) นางสมรัก บุษปธำรง รองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย (สายปฏิบัติการและพัฒนาธุรกิจ) นายฐิติพร ทองดีพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาธุรกิจ นางบังอร สนธิสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเลขาผู้อำนวยการ นางสุภาพรรณ รุจิรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันจัดการสวนสัตว์ นางภรปภัช ธนะวัย รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักดิจิทัล และผู้บริหารการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย นางสาวจิรนันท์ วรจักร ผู้ช่วยผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และนายยุทธศักดิ์ ชื่นใจ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามเพื่อร่วมกันส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานด้านการตลาดเกี่ยวกับผู้ใช้บริการ ร่วมกันจัดกิจกรรมและประชาสัมพันธ์ของทั้งสองหน่วยงาน

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ มีแนวทางของการใช้ทรัพยากรร่วมกัน โดยจะใช้ประโยชน์จากจุดแข็ง ทรัพยากร และฐานลูกค้าของกันและกัน เพื่อเพิ่มความสามารถทางการตลาดและการประชาสัมพันธ์ ต่อไป 

สมุทรปราการ-ผู้ว่าฯสมุทรปราการ มอบใบประกาศเกียรติคุณแก่ชมรมโฮปสะพานบุญแห่งความหวังและศรัทธา เพื่อเป็นกำลังใจในการทำความดีเพื่อสังคม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ อ.เมือง สมุทรปราการ นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ให้เกียรติเป็นประธานในการมอบใบประกาศเกียรติคุณ และเกียรติบัตรแก่หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อเป็นการขอบคุณหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน

โดย นางสาวปิยนุช พาณิชย์พิศาล ประธานชมรมโฮปสะพานบุญแห่งความหวังและศรัทธา นำคณะเจ้าหน้าที่ชมรมโฮปฯ เข้ารับมอบใบประกาศเกียรติคุณจาก นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเป็นการขอบคุณ

ที่ทางชมรมโฮปฯ นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ให้การสนับสนุนการปฎิบัติงานในการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยกับหน่วยงานราชการ กรณีเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้บ่อขยะที่ผ่านมา เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฎิบัติหน้าที่และการทำความดีเพื่อช่วยเหลือสังคมต่อไป

นอกจากนี้ นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ยังได้มอบเกียรติบัตรแก่หน่วยงานของรัฐที่มีผลการเบิกจ่ายและใช้จ่ายในระดับดีเด่นตามเกณฑ์ไตรมาส 1 ประจำปีงบประมาณ 

อีกทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ยังได้มอบเกียรติบัตร กิจกรรมของทางสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรปราการ 'วัฒนธรรมวินิต' ประจำปี 2568 อีกด้วย 

โดยทางด้าน นางสาวปิยนุช พาณิชย์พิศาล ประธานชมรมโฮปสะพานบุญแห่งความหวังและศรัทธา กล่าวว่า ทางชมรมโฮปฯ รู้สึกเป็นเกียรติและดีใจเป็นอย่างยิ่งและต้องขอขอบคุณที่ทางจังหวัดสมุทรปราการ โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ

ที่ได้มอบใบประกาศเกียรติคุณให้แก่ชมรมโฮปฯ ที่ได้ลงพื้นที่สนับสนุนช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการเข้าระงับเหตุการณ์ไฟไหม้บ่อขยะที่ผ่านมา ซึ่งทางชมรมโฮปฯ จะขอทำหน้าที่เพื่อช่วยเหลือสังคมรวมถึงช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากอย่างเต็มที่ต่อไป

สระบุรี-พระราชินี เสด็จฯแทนพระองค์ ไปทอดพระเนตรการแสดง 'ราชวัลลภเริงระบำ' (Hop To The Bodies Slams) และกองทหารเกียรติยศ ประจำปี 2567

(31 ม.ค.68) เวลา 08.16 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปทอดพระเนตรการแสดงการฝึกทางทหารประกอบดนตรี 'ราชวัลลภเริงระบำ' (Hop To The Bodies Slams) และกองทหารเกียรติยศ ประจำปี 2567และพระราชทานรางวัลแก่หน่วยทหารที่ชนะการแข่งขัน ณ ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี      

เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นายอดล ไตรรงค์ทอง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสระบุรี พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก และพลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ จากนั้น พลเอก ทรงวิทย์  หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กราบบังคมทูลเชิญเสด็จขึ้นแท่นทรงรับการถวายความเคารพจากกองทหารเกียรติยศ และทรงตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงวางพุ่มดอกไม้ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารประมณฑ์ผลาสินธุ์ ทรงลงพระนามาภิไธยในสมุดเยี่ยม 

ต่อมาเสด็จพระราชดำเนินไปยังพลับพลาที่ประทับ ณ ลานการแสดง การฝึกทางทหารประกอบดนตรีฯ ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร ณ ที่นั้น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอก สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม นายทหารและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ แล้วเสด็จขึ้นพลับพลาพิธีพระราชทานพระราชวโรกาสให้ พันเอก จิรวัฒน์ จุฬากาญจน์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 153 ทำหน้าที่ผู้บังคับกองผสม เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เสร็จแล้ว พลโท รัฐพล  ธูปประสม เจ้ากรมสารบรรณทหาร เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตรการจัดแสดงการฝึกทางทหารประกอบดนตรีฯ จากนั้น ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลรายงานความเป็นมา และวัตถุประสงค์ของการแสดงการฝึกทางทหารประกอบดนตรี ฯ พร้อมทั้งกราบบังคมทูลเชิญทอดพระเนตรการแสดงการฝึกทางทหารประกอบดนตรีฯ โดยกำลังพลจากหน่วยที่ได้รับการคัดเลือก และจัดการแสดงสาธิตการฝึกของกองทัพไทย จำนวน 3 กรม ประกอบด้วย 

1.กรมทหารราบที่ 253 กองพลทหารราบที่ 15 
2. กรมทหารราบที่ 9 กองพลทหารราบที่ 9
3. กรมทหารต่อสู้อากาศยาน หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน 

โดยมีการแสดงฝึกทางการทหารประกอบดนตรีทั้งหมด 3 บท ประกอบด้วย 
บทที่ 1 บุคคลถ้าอาวุธและการปฎิบัติหน้าที่ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ประจำวันตลอดจนหน้าที่ทหารมหาดเล็กฯ ในพระราชพิธี 
บทที่ 2 กายบริหารประกอบอาวุธและพัฒนาเสริมสร้างทักษะและความแข็งแกร่งของร่างกาย ตลอดจนความแข็งแรงว่องไวโดยปฏิบัติพร้อมกับอาวุธประจำกายเพื่อให้ 'คน'กับ 'อาวุธ' เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน  
บทที่ 3 พัฒนาและประยุกต์จากบทที่ 2 คือถ้าการใช้อาวุธฉับพลันไม่ว่าจะเป็นการยิงจากท่าต่างๆและการใช้อาวุธประจำกายในการต่อสู้ทำลายข้าศึกในระยะประชิด ตลอดจนการป้องกันตัว เช่นการใช้ท่ายิงอาวุธยาว อาวุธสั้น ตลอดจน การแทงปืน หรือ ใช้ ปืนยาว เป็น กระบอง ในการสู้รบ เป็นต้น    

จากนั้น ผู้บัญชาการทหารสูงสุดกราบบังคมทูลผลการแข่งขัน และเบิกผู้บังคับหน่วยที่ชนะเลิศการแข่งขันกองทหารเกียรติยศ ได้แก่ กองบิน 4 โดย นาวาอากาศโท รัฐพล  ตรีธนะ ผู้บังคับกองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน 4 และรองชนะเลิศ ได้แก่ กองบิน 46 โดย นาวาอากาศโท ปกรณ์ ตันติทวีวัฒน์ ผู้บังคับกองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน 46 เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานรางวัลชนะเลิศ และรางวัลรองชนะเลิศ ตามลำดับ
       
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระราชดำรัส ความว่า         

“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ข้าพเจ้ามาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในการพระราชทานรางวัลการแข่งขันการฝึกทางทหาร ประกอบดนตรี "ราชวัลลภเริงระบำ" และการแข่งขันกองทหารเกียรติยศ ประจำปีพุทธศักราช 2567 พร้อมทั้งชมการแสดงการฝึกทางทหารประกอบดนตรี "ราชวัลลกเริงระบำ" ในวันนี้ จากการที่ข้าพเจ้าได้มีโอกาสฝึกฝน และปฏิบัติการแสดงราชวัลลภเริงระบำด้วยตนเองมาแล้วนั้น ทำให้ข้าพเจ้าเข้าใจและซาบซึ้งเป็นอย่างดีว่า ทุกท่านต้องผ่านการฝึกด้วยความอดทนมุ่งมั่นมากเพียงใด ทั้งยังต้องมีระเบียบวินัยอย่างสูง ประกอบกับใช้สมาธิ และทักษะเป็นอย่างมาก แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้น เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง เพราะนอกจากจะทำให้แต่ละคนมีความเข้มแข็ง ทั้งทางร่างกายและจิตใจแล้ว ยังสามารถนำท่วงท่าที่ได้ฝึกฝนเรียนรู้ ไปใช้ในการปฏิบัติงานถวายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ข้อสำคัญ กิจกรรมนี้นับเป็นการเสริมสร้างความสามัคคี ในหมู่ผู้บังคับบัญชาและกำลังพลได้อย่างพร้อมเพรียงเหนียวแน่น อันจะส่งเสริมการปฏิบัติหน้าที่ร่วมกัน ในการเป็นหน่วยร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ เพื่อความสำเร็จอุถ่างของการกิจใต้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงขอให้ทุกท่านมีควานมีความภูมิใจ ที่ได้ผ่านการฝึกฝนจนบรรลุถึงความสำเร็จในวันนี้ และหวังว่าท่านจะนำประโยชน์ที่ได้รับจากการฝึกฝนการแสดงราชวัลลกเริงระบำนี้ ไปถ่ายทอดสู่ผู้ใต้บังคับบัญชา ตลอดจนนำไปประยุกต์ใช้ในภารกิจต่างๆ ของหน่วย เพื่อความมั่นคงของประเทศชาติและประชาชนสืบต่อไป ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอแสดงความชื่มชมยินดี  ด้วยอย่างยิ่งกับทุกท่าน และขอให้ประสบแต่ความสุขสวัสดีโดยทั่วกัน”

สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังสนามเฮลิคอปเตอร์ ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร เสด็จขึ้นแท่นทรงรับการถวายความเคารพจากกองทหารเกียรติยศ จากนั้น ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร
       
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานคู่มือการฝึกและแบบฝึกทางทหารประกอบดนตรี “ราชวัลลภเริงระบำ” หรือ Hop To The Bodies Slams เมื่อ พ.ศ. 2559 ให้นำไปดำเนินการฝึกกำลังพลของกองทัพไทย เป็นกิจกรรมส่งเสริมความสามัคคี ความมีวินัย ความเข้มแข็งความพร้อมเพรียง ความคล่องตัว ความว่องไว ความอ่อนตัว และความสวยงาม อีกทั้งยังเป็นการแสดงถึงขีดความสามารถในการใช้อาวุธของกำลังพล เพื่อให้คนและอาวุธเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในแต่ละเหล่าทัพ โดยมีลักษณะการปฏิบัติท่าฝึกทางทหาร ประกอบเข้ากับจังหวะของดนตรี ซึ่งจะทำให้ผู้รับการฝึกรู้สึกผ่อนคลาย รวมทั้งเป็นการฝึกร่วมกันระหว่างผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นศรัทธา ความสมัครสมานสามัคคีในหมู่ทหาร ตามพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2559 สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ในฐานะผู้บังคับกองผสมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ได้ทรงนำการแสดงการฝึกทางทหารประกอบดนตรี ฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทอดพระเนตร จึงทรงเข้าพระราชหฤทัย ถึงความตั้งใจมุ่งมั่น อดทน ต้องใช้สมาธิและทักษะ ความมีระเบียบวินัยในการฝึกฝนเป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงและมีจิตใจที่เข้มแข็งแล้ว ยังสามารถนำท่าทางที่ได้เรียนรู้ไปปฏิบัติหน้าที่ถวายงานได้เป็นอย่างดีต่อไปด้วย อีกทั้งยังนำประโยชน์ของการแสดง “ราชวัลลภเริงระบำ” ถ่ายทอดไปสู่ผู้ใต้บังคับบัญชา ตลอดจนนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ของแต่ละหน่วย เพื่อให้เกิดความมั่นคงแก่ประเทศชาติสืบไป

โรงรับจำนำ กทม. คึกคักยอดจำนำทะลุ 8,700 ล้านบาท เตรียม เปิดสาขาใหม่ 'ศรีนครินทร์,ภาษีเจริญ,หนองแขม' สร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน

นายชนาธิป ล.วีระพรรค ผู้อำนวยการสำนักงานสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่าภาพรวมของโรงรับจำนำทั่วประเทศ เมื่อปี พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา ขยายตัวพอสมควร โดยดูจากมีการเพิ่มขึ้นของโรงรับจำนำของรัฐและเอกชน ซึ่งคาดว่าในปี พ.ศ. 2568 ยอดการรับจำนำมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง สาเหตุมาจากหลายปัจจัย อาทิ ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงอยู่ในปัจจุบัน ประชาชนยังมีรายได้ไม่สมดุลกับรายจ่าย ผู้ประกอบการ SME ที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียน ขณะที่ธนาคารและnonBank มีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ จึงส่งผลให้ความต้องการใช้บริการโรงรับจำนำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

นายชนาธิป กล่าวว่า ในส่วนของโรงรับจำนำ กทม. ซึ่งเป็นโรงรับจำนำของกรุงเทพมหานคร ได้รับนโยบาย จากนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้โรงรับจำนำ กทม. เป็นหน่วยงานที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างคุณภาพชีวิตของคนกทม. ให้ดีขึ้น โดยเป็นแหล่งเงินทุนให้กู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อนำเงินไปประกอบอาชีพหรือใช้จ่ายในครัวเรือน ลดการพึ่งพาเงินกู้นอกระบบหรือสภาพคล่องทางการเงินแต่ไม่สามารถเข้าถึงระบบธนาคารพาณิชย์ได้ 

ปัจจุบัน โรงรับจำนำ กทม. มีอัตราดอกเบี้ยรับจำนำที่ต่ำมาก เมื่อเปรียบเทียบกับโรงรับจำนำเอกชน และผู้ให้บริการทางด้านการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (Non Bank) เนื่องจากเป็นหน่วยงานภาครัฐ จึงไม่มุ่งแสวงหากำไร แต่เน้นช่วยเหลือประชาชนให้พ้นวิกฤตทางการเงินมากกว่า ส่วนกลุ่มเป้าหมาย นอกจากจะเป็นประชาชนทั่วไปแล้ว ยังมุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs เนื่องจากในปัจจุบันธนาคารพาณิชย์มีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น พร้อมกับเงื่อนไขและข้อจำกัดต่างๆ โดยเฉพาะการพิจารณาถึงความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ และใช้เวลานานในการอนุมัติจากธนาคาร มาใช้บริการที่โรงรับจำนำ จะได้รับการบริการที่สะดวกรวดเร็ว ได้เงินง่ายภายใน 5 นาที ทำให้ปัจจุบันกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs เข้ามาใช้บริการที่โรงรับจำนำ กทม. เพิ่มมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา 

นอกจากนี้ โรงรับจำนำ กทม. ยังมีโครงการต่างๆ ที่จัดขึ้นเพื่อแบ่งเบาภาระทางการเงินให้กับประชาชน เช่น โครงการลดดอกเบี้ยเพื่อแบ่งเบาภาระให้กับผู้ปกครอง นักเรียน นิสิต นักศึกษา ในช่วงเปิดภาคเรียน หรือ โครงการของขวัญให้เพื่อน ลดดอกเบี้ยในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในช่วงที่ประชาชนจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น ซึ่งโครงการต่างๆ เหล่านี้ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี จากการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ของโรงรับจำนำ กทม. ทุกช่องทาง และมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ให้ข้อมูลกับประชาชนโดยตรง 

สำหรับผลการดำเนินงานปี พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา มีอัตราเติบโตเมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2566 ทั้งในแง่ของการรับจำนำ และจำนวนรายผู้ใช้บริการ โดยในปี พ.ศ. 2567 มีการรับจำนำ จำนวน 8,740 ล้านบาท เติบโต 24 %เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2566 ที่มีการรับจำนำจำนวน 7,095 ล้านบาท ส่วนจำนวนรายผู้ใช้บริการ ในปี พ.ศ. 2567 มีจำนวน 428,061 ราย เติบโต 13 % เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2566 มีจำนวนรายผู้ใช้บริการ จำนวน 379,421 ราย ส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาทรัพย์สินที่นำมาจำนำมีมูลค่าสูง โดยเฉพาะราคาทองคำซึ่งปรับตัวสูงขึ้น ส่วนในปีพ.ศ. 2568 ตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 5 %

ส่วนความท้าทายต่อไปของโรงรับจำนำ กทม. นายชนาธิป กล่าวว่า เนื่องจากในปัจจุบันประชาชนมีทางเลือกในการใช้บริการสินเชื่อประเภท NonBank เพิ่มขึ้น โจทย์สำคัญคือ ทำอย่างไรให้ประชาชนเลือกใช้บริการกับเราแนวทางหนึ่งก็คือการขยายสาขาเพิ่มขึ้น เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงโรงรับจำนำ กทม. ได้สะดวกมากขึ้น โดยในปี พ.ศ. 2568 จะเปิดให้บริการสาขาใหม่ จำนวน 3 สาขา ได้แก่ สาขาศรีนครินทร์ สาขาภาษีเจริญ และสาขาหนองแขม โดยการเลือกสถานที่เพื่อเปิดสาขาใหม่นั้น พิจารณาจากความหนาแน่นของประชากรในพื้นที่ และตามความต้องการของประชาชน เป็นสำคัญ 

ท้ายสุด นายชนาธิป กล่าวย้ำว่า “โรงรับจำนำ กทม. ถือเป็นแหล่งเงินทุนให้ประชาชนกู้ยืมเงินของกรุงเทพมหานคร ที่มีวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าทางการเงินให้กับประชาชนอย่างแท้จริง ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมาก และพร้อมให้บริการด้วยความรวดเร็ว สะดวก ซึ่งเป็นจุดเด่นในการใช้บริการ เพราะไม่ต้องยื่นเอกสาร ไม่ต้องค้ำประกัน ไม่ต้องรอพิจารณาผล ไม่ตรวจเครดิตบูโร เพียงมีทรัพย์สินมีค่าและบัตรประชาชนเข้ามาใช้บริการ ภายใน 5 นาที ก็สามารถรับเงินสดได้เลย ดังสโลแกน โรงรับจำนำ กทม. ทรัพย์ปลอดภัย ได้เงินง่าย จ่ายดอกเบี้ยต่ำ” 

'ห่วงใย ดูแลกัน' กิจกรรมเดินเท้าเข้าบ้านตรวจเยี่ยมคุณภาพชีวิตของกำลังพลและครอบครัว

พลเรือตรี เอตม์ ยุวนางกูร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง คุณอริสรา ยุวนางกูร ประธานชมรมภริยาหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชา ชมรมภริยาหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง และหน่วยแพทย์ กองพันพยาบาลหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ร่วมจัดกิจกรรมเดินเท้าเข้าบ้าน ตรวจเยี่ยมคุณภาพชีวิตของกำลังพลและครอบครัว ประจำปีงบประมาณ 2568 เพื่อเยี่ยมสำรวจภาวะสุขภาพ สิ่งแวดล้อมสุขาภิบาล 

โดยมอบกระเป๋าที่บรรจุพืชผักสวนครัว สิ่งของจำเป็นเบื้องต้น ให้กับครอบครัวของกำลังพล และรับฟังปัญหาข้อขัดข้องตามบ้านต่าง ๆ ณ บริเวณบ้านพักอาศัยข้าราชการ หมู่ที่ 1 และ หมู่ที่ 2 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับกำลังพล อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของกำลังพลให้สอดคล้องกับความต้องการของกำลังพล


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top