Monday, 16 June 2025
POLITICS NEWS

เสกสกล จี้! นักการเมือง พักปมการเมืองก่อน หันมาร่วมมือช่วยคลี่คลายสถานการณ์ ยัน บิ๊กตู่ ไม่เคยคิดท้อ-ไม่ทิ้งปชช.

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่ ครม.มีมติอนุมัติมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดโควิด-19 รอบใหม่ ทั้งมาตรการคนละครึ่งช่วยเหลือคนละ 3,000 บาท โครงการเราชนะเพิ่มเงินให้อีก 2,000 บาท ม.33 เรารักกัน อีกคนละ 2,000 บาท รวมไปถึงผู้ถือสวัสดิการแห่งรัฐเดือนละ 200 บาท เป็นเวลา 6 เดือนและยังได้เพิ่มโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้    

เป็นการแสดงให้เห็นว่านายกฯและรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะเร่งหามาตรการต่างๆ เพื่อนำมาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และเพื่อให้ประชาชนได้นำเงินไปใช้จ่ายในครัวเรือน อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศด้วย และเพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน ยังได้มีมาตรการลดค่าน้ำ ค่าไฟให้อีกด้วย รวมไปถึงมีมาตรการด้านสินเชื่อ พักหนี้ และมาตรการทางด้านภาษี

ส่วนมาตรการด้านสาธารณสุข นายกฯได้ตั้งศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อบูรณาการการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ให้แก้ปัญหาได้อย่างเร่งด่วน ซึ่งมีนายกฯ มาดูแลด้วยตนเอง และยังได้ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบูรณาการด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อให้เกิดการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานสาธารณสุขและหน่วยงานฝ่ายปกครอง    

จะเห็นแล้วว่านายกฯ ไม่หยุดที่จะคิดหาทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งด้านสาธารณสุข ด้านเศรษฐกิจ นายกฯ ยังได้ยืนยันกับประชาชนแล้วว่า จะไม่มีวันท้อถอย หรือท้อแท้ ไม่ว่าจะเผชิญกับปัญหาใด ๆ ขอให้ประชาชนมั่นใจในตัวนายกฯและรัฐบาล จะไม่ทิ้งและจะสู้เพื่อประชาชน และอยากให้ประชาชนและทุกภาคส่วนได้ร่วมไม้ร่วมมือกัน เพื่อทำให้สถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิค-19 ในประเทศได้คลี่คลายลงให้ได้และกลับมาใช้ชีวิตตามปกติในเร็ววัน

ขอให้ประชาชนอย่าไปสนใจพวกที่ชอบโจมตีใส่ร้ายป้ายสีใส่ความเท็จทางการเมือง เช่น พูดถึงข้อมูลวัคซีนที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ทำให้ประชาชนสับสนและเข้าใจผิดต่อรัฐบาล จึงขอให้เชื่อมั่นว่า นายกฯ คนนี้ จะไม่มีวันทอดทิ้งพี่น้องประชาชนในยามที่เกิดวิกฤตความเดือดร้อนเช่นนี้อย่างแน่นอน ขณะเดียวกันตนขอร้องไปยังฝ่ายการเมืองให้ช่วยกันในฐานะเป็นผู้แทนของประชาชน ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในขณะนี้ โดยขอให้พักเรื่องทางการเมืองเอาไว้ก่อนแล้วมาร่วมแรงร่วมใจกัน

'รมว.คมนาคม'สั่งหน่วยงานในสังกัดจัดทำข้อมูลชี้แจงงบปี 65 มูลค่า 2.11 แสนล้าน  

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2564 รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ผ่านการประชุมทางไกล (Video Conference) ด้วยระบบ Zoom Cloud Meetings โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม จัดเตรียมข้อมูลเพื่อชี้แจงงบประมาณประจำปี 2565 ที่ได้รับการจัดสรรวงเงิน 2.11 แสนล้านบาท แบ่งเป็น ส่วนราชการ 8 หน่วยงาน วงเงิน 1.76 แสนล้านบาท และรัฐวิสาหกิจ 5 หน่วยงาน วงเงิน 3.57 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้จะมีการประชุมเตรียมความพร้อมในเรื่องดังกล่าว ในวันที่ 17 พ.ค. 2564

ขณะเดียวกัน นายศักดิ์สยาม ยังได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2564 ให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้รับจัดสรรงบประมาณแผ่นดินปี 2564 วงเงินภาพรวม จำนวน 2.27 แสนล้านบาท แบ่งเป็น ส่วนราชการ 8 หน่วยงาน และรัฐวิสาหกิจ 5 หน่วยงาน โดยให้สามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้ 100% ในเดือน ส.ค. 2564 ในส่วนของการลงนามในสัญญารายจ่ายลงทุนที่กระทรวงคมนาคมมีรายการที่จะต้องลงนามในสัญญา จำนวน 9,858 รายการ วงเงินรวม 9.85 หมื่นล้านบาท (รายการรายจ่ายลงทุนปีเดียว รายการลงทุนผูกพัน รายการใหม่ และรายการรายจ่ายลงทุนท่ีมีวงเงินเกิน 1,000 ล้านบาท) นั้น ให้ทยอยการลงนามในสัญญาภายใน พ.ค.-มิ.ย. 2564 ให้ครบทุกรายการ

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุอีกว่า นายศักดิ์สยาม ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้อยู่ในระดับสูงสุด และให้เร่งรัดดำเนินการจัดทำแผนการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้แก่บุคลากรของกระทรวงคมนาคม

ราเมศ เผย กกบห เห็นชอบ ตั้ง นิพนธ์ ปฎิบัติหน้าที่ รองภาคใต้ ชั่วคราวแทน นิพิฏฐ์

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ได้ลาออกจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคที่รับผิดชอบภาคใต้ว่า

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ได้เสนอชื่อนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคภารกิจ ปฎิบัติหน้าที่แทนในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ จนกว่าจะมีการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง และคณะกรรมการบริหารพรรคได้มีความเห็นชอบตามที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้เสนอ ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับพรรคที่ได้กำหนดไว้

นายราเมศกล่าวต่อว่า นายนิพนธ์ จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่แทนในตำแหน่งดังกล่าวเป็นการชั่วคราวเพื่อรอให้มีการเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีต่อไป

กรมการขนส่งทางบก เข้มงวด!!! รถโดยสารทุกประเภทต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามข้อสั่งการ รมว.คมนาคม

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ยังไม่กลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กำชับให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระบบขนส่งสาธารณะอย่างเคร่งครัด  

กรมการขนส่งทางบก ได้ยกระดับความเข้มข้นมาตรการสาธารณสุข D-M-H-T-T-A เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งเป็นการดำเนินการอย่างต่อเนื่องตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประกอบด้วย มาตรการคัดกรอง entry และ exit scan ในรถโดยสารสาธารณะ สถานีขนส่งผู้โดยสาร และสำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ ตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจสอบการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา 100% มาตรการเว้นระยะห่าง จัดเตรียมแอลกอฮอล์เจลสำหรับทำความสะอาดมือ เพิ่มความถี่ในการทำสะอาดพื้นที่สาธารณะตลอดทั้งวัน พร้อมจัดพิมพ์ QR Code ไทยชนะให้ผู้โดยสารเช็คอิน-เช็คเอาท์ทุกครั้งก่อนใช้บริการ โดยในวันที่ 5 พ.ค. 2564 สำนักงานขนส่งจังหวัด เช่น อุบลราชธานี พังงา อุดรธานี สุโขทัย ลำพูน นครพนม น่าน หนองคาย พระนครศรีอยุธยา กำแพงเพชร กาฬสินธุ์ นครราชสีมา อุตรดิตถ์ มุกดาหาร สุรินทร์ บุรีรัมย์ เชียงราย เพชรบูรณ์ สมุทรปราการ หนองบัวลำภู ลำปาง ประจวบคีรีขันธ์ พิษณุโลก เลย แพร่ ศรีสะเกษ นครปฐม ฉะเชิงเทรา ชัยภูมิ ราชบุรี จันทบุรี เชียงใหม่ ได้ดำเนินการตรวจสอบรถโดยสารสาธารณะทุกประเภททั้งที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดตรวจคัดกรองในพื้นที่รับผิดชอบ และประชาสัมพันธ์การปฏิบัติตามมาตรการ ของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างเคร่งครัด 

ในส่วนของการให้บริการที่สำนักงานขนส่งทุกแห่ง มีการปรับรูปแบบดำเนินการแบบ New Normal ตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด พร้อมขอความร่วมมือประชาชนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าในการติดต่อราชการ และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้กรมการขนส่งทางบก แจ้งงดการอบรมและทดสอบ ด้านใบอนุญาตขับรถและผู้ประจำรถ ณ สำนักงานขนส่งทุกแห่ง ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2564 เป็นต้นไป โดยผู้ขอใบอนุญาตขับรถรายใหม่ให้รอจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ส่วนการต่ออายุใบอนุญาตขับรถสามารถนำผลการอบรมออนไลน์มาดำเนินการต่ออายุใบอนุญาตขับรถได้ โดยจองคิวดำเนินการล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue เท่านั้น เพื่อบริหารจัดการจำนวนผู้ใช้บริการภายในสำนักงาน  ตั้งจุดคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิประชาชน ก่อนเข้าอาคารสำนักงาน ที่นั่งพักคอยของประชาชนมีการเว้นระยะอย่างเหมาะสม ติดตั้ง Table Shield กั้นระหว่างผู้มาติดต่อกับเจ้าหน้าที่ พร้อมแนะนำการให้บริการชำระภาษีรถประจำผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อลดการสัมผัสและไม่ต้องเดินทางมาที่สำนักงานขนส่ง เช่น เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th/ หรือ แอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax  ดาวน์โหลดฟรีทั้งระบบปฏิบัติการ iOS: https://apple.co/3iAx6Dd และแอนดรอยด์: https://bit.ly/2XXQLVT

กระทรวงแรงงาน ส่ง 252 แรงงานไทย ทำงานภาคเกษตรในรัฐอิสราเอล

กระทรวงแรงงาน ตั้งเป้าจัดส่งแรงงานไทยทำงานภาคเกษตรในรัฐอิสราเอล ปีงบ 64  จำนวน 5,000 คน  จัดส่งแล้ว 3,364 คน เตรียมเดินทางอีก 252 คน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า วันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2564 กระทรวงแรงงานมีกำหนดส่งแรงงานไทย จำนวน 252 คน แบ่งเป็นเพศชาย 251 คน และเพศหญิง 1 คน เดินทางไปทำงานภายใต้โครงการ “ความร่วมมือไทย-อิสราเอล เพื่อการจัดหางาน (Thailand-Israel Cooperation on the Placement of Workers:TIC) ด้วยเที่ยวบินเช่าเหมาลำพิเศษ สายการบิน El Al Israel Airlines เที่ยวบินที่ LY 082 ออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทยเวลา 09.15 น. และมีกำหนดถึงปลายทางกรุงเทลอาวีฟ เวลา 15.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น 

“นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้นำรัฐบาล ให้ความสำคัญและรู้สึกขอบคุณแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานต่างประเทศมาโดยตลอด ด้วยถือเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้า เกี่ยวกับเรื่องนี้กระทรวงแรงงาน มีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริม สนับสนุน พัฒนากระบวนการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศให้มีประสิทธิภาพ และขยายตลาดแรงงานไทยไปต่างประเทศอย่างจริงจังตามนโยบายรัฐบาล โดยปีงบประมาณ พ.ศ.2564 มีเป้าหมายจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในรัฐอิสราเอล จำนวน 5,000 คน ซึ่งตั้งแต่เดือนตุลาคม 63 - เดือน  พ.ค. 64 มีแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานแล้ว รวมกับที่จะเดินทางในวันพรุ่งนี้ทั้งสิ้น 3,616 คน ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกล่าว 

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ท่านรัฐมนตรีสุชาติ ได้มอบหมายให้กรมการจัดหางาน ดูแลพี่น้องแรงงานไทยที่จะเดินทางไปทำงานในรัฐอิสราเอลอย่างดี โดยก่อนเดินทั้งหมดจะได้รับการอบรมเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ก่อนการเดินทาง ซึ่งมีหัวข้อการอบรมที่เป็นประโยชน์ต่อแรงงานไทยฯ อาทิ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ภายในประเทศและการปฏิบัติตัว การเตรียมความพร้อมก่อนการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ วิธีเดินทางออกและกลับเข้ามาในราชอาณาจักรตามกฎหมาย สัญญาจัดหางาน สัญญาจ้างงาน และสิทธิประโยชน์กองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ รวมทั้งช่องทางการติดต่อผ่านแอปพลิเคชั่น TOEA และข้อมูลหน่วยงานราชการไทยในต่างประเทศ ซึ่งทั้งหมดนี้กรมการจัดหางานจัดขึ้นโดยคำนึงถึงมาตรการของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารสุขอย่างเคร่งครัด และผมในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีกรมการจัดหางาน ได้เดินทางตรวจเยี่ยมพร้อมให้กำลังใจแรงงานไทยก่อนเดินทางไปทำงานภาคเกษตรในรัฐอิสราเอล ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยหวังอย่างยิ่งว่าแรงงานไทยกลุ่มนี้ จะเป็นอีกกลุ่มที่นำรายได้ ทักษะ และประสบการณ์ที่ได้รับในต่างประเทศกลับมาพัฒนาตนเอง และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ครอบครัวต่อไป

“สำหรับโครงการ “ความร่วมมือไทย-อิสราเอลเพื่อการจัดหางาน” (Thailand-Israel Cooperation on the Placement of Workers : TIC) มีระยะเวลาการจ้างงาน 2 ปีแต่ไม่เกิน 5 ปี 3 เดือน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการต่ออายุใบอนุญาตการจ้างแรงงานต่างชาติของนายจ้างและวีซ่าการทำงาน ตามข้อกำหนดของกฎหมายรัฐอิสราเอล โดยคนหางานจะได้รับเงินเดือนขั้นต่ำก่อนหักภาษีเดือนละ 5,300 เชคเกลอิสราเอล หรือประมาณ 48,073 บาท (ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนในขณะนั้น) ทั้งนี้ ผู้สนใจเดินทางไปทำงานในรัฐอิสราเอลสามารถติดตามข่าวสารได้ที่เว็บไซต์ www.doe.go.th/overseas และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินทางไปทำงานในต่างประเทศได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด หรือสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน” นายไพโรจน์ฯ กล่าว

‘ดร.ปิติ ศรีแสงนาม’ วอนหยุดแพร่ข่าวเท็จ ไทยเข้าร่วม ‘CPTPP’ หวังหลอกลวงสร้างกระแสต่อต้านจากมวล ขณะที่ รัฐบาลยัน ครม. ไม่ได้ลักไก่ไฟเขียวให้เจรจาเข้าร่วม CPTPP เพียงแค่อนุมัติศึกษาเพิ่มเติมอีก 50 วัน เท่านั้น

รองศาสตราจารย์ ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ ศูนย์อาเซียนศึกษา และอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘Piti Srisangnam’ เกี่ยวกับกระแสข่าวรัฐบาลแอบลักไก่อนุมัติเข้าร่วม หุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ CPTPP โดยระบุว่า

สิ่งที่น่ากลัว ไม่ใช่การเจรจาการค้า หรือผลกระทบจากการเข้าเป็นภาคี

หากแต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด คือ การมโนไปเอง การสร้าง fake news การหลอกลวงเพื่อสร้างมวลชน

วันนี้ไม่มีประชุมลับ ไม่มีลงมติลับ

ขณะที่ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า ที่ประชุมครม. เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา ยังไม่ได้มีการเห็นชอบให้ไทยไปขอเจรจาเข้าร่วมความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ CPTPP แต่อย่างใด มีเพียงการอนุมัติให้ขยายระยะเวลาเพิ่มเติมอีก 50 วัน เพื่อให้คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) หารือกับภาคส่วนต่าง ๆ ให้ครอบคลุม ครบถ้วน และรอบคอบมากที่สุด ในการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีที่มอบหมายให้ กนศ. จัดทำกรอบการทำงานเพื่อติดตามแผนการดำเนินการเพื่อปรับตัวของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องตามข้อสังเกตของ กรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรเรื่อง CPTPP

ทั้งนี้ที่ผ่านมา ที่ประชุม ครม. รับทราบข้อสังเกตของกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบจากการเข้าร่วมความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ซีพีทีพีพี) โดย ครม. ได้มอบหมายให้ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การต่างประเทศ รับข้อสังเกต ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โดยเฉพาะ 3 ประเด็นหลัก คือ ด้านการเกษตรและพันธุ์พืช ด้านการแพทย์และสาธารณสุข เช่น ให้มีกฎหมายที่กำหนดให้ผู้ที่ต้องการขอขึ้นทะเบียนยา ที่มีส่วนประกอบของจุลชีพหรือจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับจุลชีพ ต้องสำแดงแหล่งที่มาร่วมด้วยให้เร็วที่สุด และด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน เช่น เสนอให้มีการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า

“บิ๊กช้าง” สั่งกกล.ชายแดน เฝ้าระวัง สกัดกั้นลักลอบข้ามแดน หวั่นนำโควิดสายพันธ์ุที่แพร่ระบาดในมาเลเซีย เข้าประเทศ ย้ำ กกล.ชายแดนไทย-เมียนมา ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือปชช.ในพื้นที่ให้ได้รับความปลอดภัย

“บิ๊กช้าง” สั่งกกล.ชายแดน เฝ้าระวัง สกัดกั้นลักลอบข้ามแดน หวั่นนำโควิดสายพันธ์ุที่แพร่ระบาดในมาเลเซีย เข้าประเทศ ย้ำ กกล.ชายแดนไทย-เมียนมา ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือปชช.ในพื้นที่ให้ได้รับความปลอดภัย พร้อมช่วยเหลือดูแลตามหลักมนุษยธรรมแก่ผู้หลบหนีภัยจากความไม่สงบ จำนวน 2,318 คน 

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2564 พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ได้ย้ำกับทุกเหล่าทัพ ปฏิบัติตามนโยบายของ นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในการกำกับการปฏิบัติงานของกองกำลังป้องกันชายแดนให้เป็นที่เชื่อมั่นในการสนับสนุนการควบคุมโรค COVID-19 ตามแนวชายแดนให้ได้เด็ดขาด  

โดยให้ติดตามสถานการณ์ชายแดนกัมพูชา เมียนมาและมาเลเซียอย่างใกล้ชิด รวมทั้งสกัดกั้นการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและเข้มมาตรการควบคุมโรคที่กำหนดอย่างต่อเนื่องจริงจัง โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนใต้ที่ต้องเฝ้าระวังสูง กับความเสี่ยงของ COVID-19 สายพันธ์ุที่กำลังแพร่ระบาดในมาเลเซีย ที่อาจเข้ามาพร้อมกับผู้ที่เดินทางกลับจากมาเลเซีย ซึ่งอาจสร้างปัญหาและจำเป็นต้องคัดกรองอย่างเข้มข้น โดย นายกฯและรมว.กลาโหม ยังได้แสดงความห่วงใยเจ้าหน้าที่ทุกนาย ขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทและมีความปลอดภัยทั่วกัน

ทั้งนี้ พล.อ.ชัยชาญ ยังได้กำชับ ถึงการทำงานในพื้นที่แนวชายแดนไทย - เมียนม่า ขอให้ติดตามและประเมินสถานการณ์ความรุนแรงจากสู้รบด้วยกำลังทหาร ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนไทยในพื้นที่  

โดยขอให้ช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัยที่กำหนดไว้โดยเร็ว ขณะเดียวกัน หากมีผู้หลบหนีภัยจากความไม่สงบชาวเมียนมาหรือชนกลุ่มน้อยชาวกระเหรี่ยงตามแนวชายแดนที่อพยพข้ามแดนเข้ามา จากผลกระทบความรุนแรงการสู้รบ ขอให้ดำเนินการช่วยเหลือขั้นต้นตามหลักมนุษยธรรมและคุมเข้มคัดกรองตามมาตรการควบคุมโรคที่กำหนด โดยประสานการทำงานกับฝ่ายปกครองในพื้นที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือดูแลความปลอดภัยจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย 

พล.ท.คงชีพ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา กกล.ป้องกันชายแดนทางบกในพื้นที่ กองทัพภาคที่ 3 และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้ให้การช่วยเหลืออพยพประชาชนที่อาจได้รับอันตรายจากการสู้รบในพื้นที่ชายแดน บ้านแม่สามแลบ และ บ.ท่าตาฝั่ง จ.แม่ฮ่องสอน กว่า 600 คน ออกมายังพื้นที่ปลอดภัยที่กำหนดเป็นการชั่วคราวและได้เดินทางกลับภูมิลำเนาแล้วหลังสถานการณ์สงบ พร้อมกันนี้ ได้ให้การช่วยเหลือดูแลตามหลักมนุษยธรรมแก่ผู้หลบหนีภัยจากความไม่สงบชาวเมียนมา จำนวน 2,318 คน ที่อพยพข้ามแดนมายังฝั่งไทย บริเวณ ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง และพื้นที่ใกล้เคียงของ จว.แม่ฮ่องสอน โดยจัดเตรียมพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวรองรับ จำนวน 4 แห่ง    

“ขอความร่วมมือ ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้อง งดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากเป็นพื้นที่อยู่ในเขตอุทยานและอยู่ในมาตรการควบคุมโรคเข้มข้นตามที่จังหวัดกำหนด เพื่อความปลอดภัยของทุกคนในภาพรวม” โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าว

"แรมโบ้" ได้ทีอ้างข้อมูลวัคซีนไฟเซอร์ยังไม่เข้าไทย เรียกร้องโทนี่ ออกมาขอโทษ “บอก”เป็นถึงอดีตนายกฯควรแสดงความรับผิดชอบต่อคำพูด ที่สร้างความสับสนให้คนเข้าใจผิด

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ วู้ดซั่ม ออกมาพูดในรายการ คลับเฮาส์ ว่ามีวัคซีนไฟเซอร์เข้ามาประเทศไทยแล้ว ว่าจากที่ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ออกแถลงการณ์ ที่ไฟเซอร์ยืนหยัดที่จะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในประเทศต่าง ๆ เพื่อให้คนทั่วโลกรวมถึงคนไทยได้สามารถเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 อย่างเท่าเทียมกัน และมุ่งเน้นการส่งมอบวัคซีนผ่านหน่วยงานรัฐบาลแห่งชาติเท่านั้นไม่มีนโยบายจัดจำหน่ายวัคซีนโควิด-19 ผ่านตัวแทนหรือตัวกลางใด ๆ

ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบันไม่เคยมีการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ผ่านสำนักงานในประเทศไทย จึงเป็นการแสดงให้เห็นว่าข้อมูลที่นายทักษิณ นำมาพูดนั้นไม่ใช่ข้อเท็จจริงแต่อย่างใด นอกจากนี้นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แถลงข่าวชี้แจงกรณีที่อดีตนายกฯ ทักษิณ ชี้หลักฐานว่ามีการนำเข้าวัคซีนยี่ห้อไฟเซอร์ในไทย โดยยืนยันว่า อย. ยังไม่มีการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์แต่อย่างใด โดยกลไกการนำเข้าวัคซีนนั้น บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จะต้องยื่นขออนุญาตเป็นผู้นำเข้า และขอขึ้นทะเบียนยาต่อ อย. และขั้นตอนในการนำเข้ามาก็จะต้องผ่านด่านของ อย. ทุกครั้ง ซึ่งหลังมีกรณีนี้ ได้ไปตรวจสอบในทุกส่วนงานแล้ว พบว่ายังไม่มีการนำวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์เข้ามา 

“ดังนั้นเป็นสิ่งการันตีชัดเจนว่า คนอย่างนายทักษิณ เป็นคนเชื่อถือไม่ได้ กล้าเอาความเท็จมาพูดโกหกคนไทยได้อย่างน่าละอายใจที่สุด ขณะเดียวกันก็ทำให้เห็นแล้วว่าการออกมาพูดของนายทักษิณมีเจตนาที่ไม่ดีต่อประเทศไทย นำข้อมูลเท็จมาพูด เพื่อต้องการทำให้ประชาชนคนไทยเกิดความสับสน เข้าใจผิดในตัวนายกฯ รัฐบาล เกี่ยวกับการบริหารจัดการวัคซีน รวมถึงเรื่องอื่นๆ ตนไม่เข้าใจว่าเหตุใดนายทักษิณ จึงออกมาพูดกล่าวโจมตีคนทำงาน พูดยั่วยุ เพื่อให้ประชาชนเกิดความสับสน และทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันของคนในประเทศได้ ไม่น่าเชื่อว่าเคยเป็นอดีตนายกฯมาก่อน ปากบอกว่าเป็นห่วงคนไทย แต่แท้จริงแล้วก็คิดอยากทำลายคนไทยและทำร้ายประเทศไทย คิดถึงแต่ตัวเองโดยไม่สนใจชีวิตของประชาชนคนไทยที่กำลังเดือดร้อน ทำไมจึงกล้าพูดเท็จเพื่อหวังผลตีกินทางการเมือง ทำลายเครดิตนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดได้ จนเกิดการปั่นกระแสทางโชเชียล นายทักษิณกล้าออกมารับผิดชอบในคำพูดหรือไม่ นายทักษิณไม่ละอายปากละอายใจตัวเองเลยหรือ ทำไมไม่กล้าออกมารับผิดชอบขอโทษคนไทย ผมขอเรียกร้องให้ออกมาขอโทษคนไทยทั้งประเทศ เพื่อแสดงความรับผิดชอบในคำพูดอันเป็นเท็จของนายทักษิณในครั้งนี้ด้วย" นายเสกสกลกล่าว

‘รองโฆษกพรรคกล้า’ ห่วงบรรทัดฐาน ‘คดีธรรมนัส’ คนต้องคำพิพากษาคดียาเสพติดต่างประเทศเป็น ส.ส.-รัฐมนตรีได้ ชี้ช่องยื่น ป.ป.ช. วินิจฉัยจริยธรรมร้ายแรงต่อ

นายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม รองโฆษกพรรคกล้า กล่าวถึงศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ กรณีต้องคำพิพากษาศาล ออสเตรเลียในคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดว่า แม้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นที่สุดในเรื่องคุณสมบัติแล้ว แต่การให้เหตุผลคำวินิจฉัยในทำนองว่าคำพิพากษาของต่างประเทศ ไม่มีผลผูกพันต่อกฎหมายไทย เกิดเป็นคำถามถึงบรรทัดฐานกระบวนการยุติธรรมไทย

"ผมไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรกับบุคคลในคดี แต่สงสัยว่า ถ้ามีคนก่อคดีคล้าย ๆ มันคือแป้ง ในต่างประเทศ หมายความว่าบุคคลนั้น สามารถสมัครรับเลือกตั้ง เป็น ส.ส. หรือเป็นรัฐมนตรี ได้หรือไม่ เชื่อว่าประชาชนอีกหลาย ๆ คน ก็คงรู้สึกสงสัยไม่ต่างกัน จึงหวังว่าคำวินิจฉัยฉบับเต็มที่จะออกมาภายหลัง จะมีการอธิบายถึงบรรทัดฐานในอนาคตที่ชัดเจนด้วย" นายแสนยากรณ์ กล่าว

รองโฆษกพรรคกล้า กล่าวว่า เรื่องคุณสมบัติคงจะจบไปด้วยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ยังคงมีประเด็นว่า ขัดต่อมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรงตามหมวด 1 ของมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ พ.ศ.2561 ซึ่งกำหนดให้บังคับใช้แก่ ส.ส., ส.ว. และคณะรัฐมนตรี ด้วยหรือไม่โดยสามารถยื่นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อชี้มูลว่าฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ และส่งต่อให้ศาลฎีกาตัดสินต่อไป

นายแสนยากรณ์ ยังกล่าวถึง พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 5 กำหนดด้วยว่า ผู้ใดกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด แม้จะกระทำนอกราชอาณาจักร ผู้นั้นจะต้องรับโทษในราชอาณาจักรด้วย รวมถึงความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมายคณะที่ 5 ) เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2525 ก็ระบุถึงเจตนารมณ์ส่วนหนึ่งว่า ถ้าต้องห้ามเฉพาะการกระทำผิดในประเทศ ไม่เกี่ยวกับการกระทำผิดในต่างประเทศ ก็จะเกิดการลักลั่นไม่เป็นธรรม ซึ่ง 2 ประเด็นนี้ น่าจะเป็นข้อกฎหมายและความเห็นที่มีนัยยะสำคัญ หากมีการวินิจฉัยต่อว่าขัดต่อจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่

ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ ‘Withawatt Cozy Tansuhaj’ ได้แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า

เรื่องคุณธรรมนัสวันนี้ ขอยกตัวอย่างที่ฮ่องกง

เหตุจลาจลที่ฮ่องกงเกิดจากอะไรแต่แรก

คือมีชายฮ่องกงพาเพื่อนหญิงของเขาไปใต้หวันและฆ่าเธอตายที่นั่น พอหนีกลับมาฮ่องกง ทางใต้หวันแจ้งไปเรื่องฆาตกรรม แต่เนื่องจากไม่มีกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน เขาจึงรับโทษที่ฮ่องกงแค่ข้อหาขโมยโทรศัพท์มาขายเท่านั้น

จีนจึงออกกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน พวกโจซัว หว่องเลยออกมาประท้วงเพราะกลัวจะหนีไม่ได้อีกต่อไป จะถูกจับส่งไปด้วย แล้วเรื่องมันก็ลุกลามอย่างที่เห็นกัน

ศาลฮ่องกงไม่มีสิทธิลงโทษชายผู้นั้นข้อหาฆาตกรรม ทั้งๆที่เขาก็ยอมรับว่าเป็นฆาตกร เพราะเขาไปฆ่าที่ใต้หวัน มันเป็นหลักสากลที่ว่า เหตุที่เกิดในประเทศหนึ่งจะไม่มีผลทางกฎหมายใดใดในอีกประเทศหนึ่ง

คุณธรรมนัสที่รอดก็ด้วยหลักสากลนี้ จะค้ายาจริงหรือไม่นั่นไม่ใช่ประเด็น แต่เขาติดคุกที่ออสเตรเลียไม่ใช่ที่ไทย ผลการตัดสินผมว่ามันก็ต้องเป็นไปอย่างนั้่นตามหลักอธิปไตยทางกฎหมาย

อันนี้ไม่ได้ชอบหรือเกลียดคุณธรรมนัสนะ เฉยๆมาก ครั้งเลือกตั้งล่าสุดก็ไม่ได้เลือกพรรค พปชร. แต่ผมเห็นด้วยกับการตัดสิน

การทำผิดกฏหมายที่ต่างประเทศ ไม่ควรมีผลสำหรับคุณสมบัติที่บังคับใช้ในประเทศไทย ถือว่าถูกแล้วครับ สำหรับประเทศที่ยังเป็นเอกราช

จะต่อว่าก็ต่อว่าคุณธรรมนัสได้ครับ ที่ไม่ยอมพิจารณาตัวเอง ไม่มีสปิริต

แต่จะมากล่าวหาว่าร้ายให้ศาลหรือเลยเถิดไปถึงไหนก็ตาม อันนี้ไม่ใช้สติละ ไม่ถูกเลยครับ ผิดและอคติอย่างมาก

https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=10226662436727835&id=1255629295

'ไฟเซอร์' ออกตัว หลัง 'ทักษิณ' แฉวัคซีนบางส่วนเข้าไทยแล้ว แต่ไม่มากพอฉีดสลิ่ม ย้ำ!! ในภาวะการระบาดต้องส่งมอบผ่านรัฐบาลลูกเดียว

จากกรณีเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ที่ นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี วู้ดซัม ได้ร่วมพูดคุยในช่อง CARE Clubhouse x CARE Talk : คิดเคลื่อนไทย พลิกฟื้นวิกฤติโควิด กับ Tony Woodsome โดยพูดถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการบริหารจัดการพื้นที่คลองเตย รวมถึงเรื่องวัคซีนที่ล่าช้านั้น มีช่วงหนึ่งที่พูดว่า...

“วันนี้ไฟเซอร์ หากเข้าไปดูเว็บไซต์ ประเทศไทยมีเอาเข้ามาแล้ว ไม่รู้เท่าไหร่ แต่ว่า เอาเข้าแล้ว ไม่มาก คงใช้กันไม่มีคน / บรรดากองเชียร์หรือสลิ่มทั้งหลาย ก็อยากได้ไฟเซอร์แหละ แต่มันไม่มีให้"

ล่าสุดฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า ตามที่ได้มีข้อความปรากฎเกี่ยวกับวัคซีนโควิด - 19 ของไฟเซอร์-ไบโอเอนเทค ในประเทศไทยจากหลายแหล่งข่าว และสื่อออนไลน์หลายแห่ง บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ขอเรียนชี้แจงเกี่ยวกับข้อเท็จจริง และการดำเนินงานรวมถึง จุดยืนบริษัทฯ ดังนี้...

1.) ไฟเซอร์มุ่งมั่น และยืนหยัดที่จะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในประเทศต่างๆ เพื่อให้คนทั่วโลกรวมถึงประชาชนชาวไทยได้สามารถเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ของเราได้อย่างเท่าเทียมกัน

2.) ภาวะของการระบาดในขณะนี้ ไฟเซอร์จำเป็นต้องมุ่งจัดลำดับความสำคัญ โดยมุ่งเน้นการส่งมอบวัคซีนผ่านหน่วยงานรัฐบาลแห่งชาติเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ ไฟเซอร์อยู่ระหว่างการทำงาน และหารืออย่างต่อเนื่องกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อเตรียมการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนชาวไทย

และ 3.) เราขอรับรองว่าไฟเซอร์-ไบโอเอนเทค ไม่มีนโยบายจัดจำหน่ายวัคซีนโควิด-19 ผ่านตัวแทนหรือตัวกลางใด ๆ

ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบันไม่เคยมีการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ผ่านสำนักงานในประเทศไทยแต่อย่างใดทั้งสิ้น


ที่มา: https://www.nationtv.tv/main/content/378822851

https://www.matichon.co.th/politics/news_2706774


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top