Tuesday, 17 June 2025
POLITICS NEWS

‘โฆษกพปชร.’เผย เตรียมถกวิป 4 ฝ่าย 14 พ.ค.นี้ วางแนวทางก่อนเปิดประชุมสภาฯช่วงโควิด-19ระบาด ชี้ มีร่างพ.ร.บ.งบ ฯปี 65 รอพิจารณา

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564vน.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ในฐานะคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร(วิปรัฐบาล) กล่าวว่า ในวันศุกร์ ที่ 14 พ.ค.เวลา 11.00 น. วิป 4 ฝ่าย ทั้งจากวิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน ส.ว. และครม. จะประชุมเพื่อหารือแนวทางการเปิดประชุมสภา ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากมีกฎหมายสำคัญหลายฉบับ ที่ต้องเร่งพิจารณา โดยเฉพาะจะมีการพิจารณาร่างพระราชกำหนดของคณะรัฐมนตรี (ครม.)ก่อน 2ฉบับ รวมถึงร่างกฎหมายสำคัญ คือ ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ที่รอการพิจารณาผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ
 

เปิดวาระ ครม. คลังชงเพิ่มเงิน “เราชนะ - ม33” อีก 2,000 บาท

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบ Video Conference วันที่ 11 พฤษภาคม 2564 นี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท จะเสนอมาตรการบรรเทาผลกระทบการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกเดือน เม.ย.64 ผ่านโครงการเราชนะ และ ม 33 เรารักกัน โดยเพิ่มเงินให้คนละ 2,000 บาท ซึ่งจะใช้วงเงินกู้ 85,500 ล้านบาท 

ทั้งนี้ ในส่วนของโครงการเราชนะ แยกเป็น 2 กลุ่ม คือ ผู้ใช้ผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตัง จะเริ่มโอนเงินให้งวดแรก 1,000 บาท วันที่ 20 พ.ค.64 และโอนงวดสอง 1,000 บาท วันที่ 27 พ.ค.64 ขณะที่ผู้เข้าร่วมโครงการเราชนะ หลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และกลุ่มเปราะบางผู้ใช้บัตรประชาชนในการใช้จ่าย เริ่มโอนงวดแรก 1,000 บาท วันที่ 21 พ.ค.64 และโอนงวดสอง 1,000 บาท วันที่ 28 พ.ค.64 ขณะที่โครงการ ม.33 เรารักกัน โอนงวดแรก 1,000 บาท วันที่ 24 พ.ค.64 โอนงวดสอง 1,000 บาท วันที่ 31 พ.ค.64 โดยทั้ง 2 โครงการกำหนดใช้จ่ายได้จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.64

ส่วนวาระอื่น ๆ กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ตามมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ปรับเปลี่ยนธุรกิจสู่เศรษฐกิจดิจิทัล และยังนำเรื่องแผนฟื้นฟูกิจการการบินไทยเข้าหารือ เพื่อหาข้อยุติก่อนนัดประชุมเจ้าหนี้ 13,133 ราย เพื่อโหวตแผนในวันที่ 12 พ.ค.นี้ ขณะที่สำนักงบประมาณ เสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 มีวงเงินงบประมาณรายจ่าย 3.1 ล้านล้านบาท ขาดดุลงบประมาณ 7 แสนล้านบาท และประมาณการจัดเก็บรายได้ 2.4 ล้านล้านบาท ภายใต้สมมุติฐานเศรษฐกิจขยายตัว 3.5%

ส่วนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เสนอร่างพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด ด้านกระทรวงอุตสาหกรรม เสนอโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดเพื่อลดฝุ่น PM2.5 ฤดูการผลิตปี 2563/2564 และกระทรวงเกษตรฯ เสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน รวม 2 ฉบับ และเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองระบายน้ำมูโนะเป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ...

จับตา ครม. จ่อเคาะมาตรการเยียวยาประชาชน อัดงบ 85,500 ล้านบาท เข้าระบบ ด้านกระทรวงการคลังเตรียมเสนอแผนฟื้นฟูการบินไทยเข้าพิจารณา เพิ่มทุน 50,000 ล้านบาท ดันหวนรัฐวิสาหกิจประเภท 3 ให้คลังค้ำประกันเงินกู้

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2564 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ผ่านระบบ Video Conference ตามมาตราการเว้นระยะห่างเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด -19

โดยก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบเงินช่วยเหลือแก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและแก้ปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 บัญชี “สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อรับบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)” พร้อมรับมอบกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองบุคลากรทางการแพทย์ของภาครัฐและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย

ส่วนวาระการประชุมที่น่าสนใจในวันนี้คาดการณ์ว่า สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณามาตรการบรรเทาผลกระทบการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกเดือน เมษายน โดยการเพิ่มเงินคนละ 2,000 บาท ให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการเราชนะ 32.9 ล้านคน และโครงการม.33 เรารักกัน 9.27 ล้านคน ใช้งบประมาณกว่า 85,500 ล้านบาท โดยหากครม.ผ่านการเห็นชอบก็จะเริ่มเติมเงินได้ตั้งแต่เดือนวันที่ 20 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป โดยแบ่งจ่ายเป็น 2 งวด ๆ ละ 1,000 บาทสำหรับโครงการเราชนะ สำหรับผู้ใช้แอปพลิเคชั่นเป๋าตัง โอนงวดแรก 1,000 บาท วันที่ 20 พฤษภาคม 2564 โอนงวดสอง 1,000 บาท วันที่ 27 พฤษภาคม 2564 โครงการเราชนะ

สำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และกลุ่มเปราะบางผู้ใช้บัตรประชาชน โอนงวดแรก 1,000 บาท วันที่ 21 พฤษภาคม 2564 โอนงวดสอง 1,000 บาท วันที่ 28 พฤษภาคม 2564 ขณะที่โครงการ ม.33 เรารักกัน โอนงวดแรก 1,000 บาท วันที่ 24 พฤษภาคม 2564 โอนงวดสอง 1,000 บาท วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 และเก็บไว้ใช้จ่ายได้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 นอกจากนี้ กระทรวงการคลังจะนำเรื่องแผนฟื้นฟูกิจการการบินไทยเข้าหารือในที่ประชุม คณะรัฐมนตรีอีกครั้ง เพื่อหาข้อยุติก่อนนัดประชุมเจ้าหนี้ 13,133 ราย เพื่อโหวตแผนในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ คือ การพิจารณาเพิ่มทุนให้การบินไทยซึ่งตามแผนระบุไว้ 50,000 ล้านบาท และการพิจารณานำการบินไทยกลับเป็นรัฐวิสาหกิจประเภท 3 เพื่อให้กระทรวงการคลังสามารถค้ำประกันเงินกู้หรือเพิ่มทุนได้ โดยไม่ต้องมีสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งคาดว่าคณะรัฐมนตรี จะมีมติออกมาเพื่อให้สามารถโหวตผ่านแผนฯ ไปได้ เพื่อนำการบินไทยเดินหน้าฟื้นฟูกิจการต่อไป

กัปตันนกแอร์ 20 ชีวิต ร้อง รมว.แรงงาน ช่วย หลังถูกเลิกจ้างไม่เป็นธรรม

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2564 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้เวลา 15.00 น.สมาคมฯจะเดินทางไปกระทรวงแรงงาน ดินแดง เพื่อนำนักบินหรือกัปตันของสายการบินนกแอร์ประมาณ 20 คน เข้าพบนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.กระทรวงแรงงาน เพื่อร้องเรียนกรณีบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด(มหาชน)มีคำสั่งเลิกจ้างกลุ่มพนักงานการบินเป็นจำนวนมาก โดยยังไม่ยอมจ่ายค่าชดเชยจริงตามกฎหมาย

เมื่อปลายเดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมา ผู้บริหารสายการบินนกแอร์ได้มีหนังสือเลิกจ้างมายังกลุ่มพนักงานที่เป็นนักบินหรือกัปตันเป็นจำนวนมาก โดยอ้างว่าบริษัทประสบปัญหาด้านการเงิน และขาดทุนสะสมต่อเนื่อง ส่งผลให้ประสบภาวะวิกฤตทางการเงินจนเป็นเหตุให้บริษัทต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ โดยบริษัทจะต้องปรับปรุงกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ ปรับปรุงโครงสร้างองค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและเพิ่มความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน ทำให้บริษัทมีความจำเป็นต้องควบรวมฝ่ายงาน หรือยุบโครงสร้างบางฝ่ายงาน ซึ่งทำให้ส่งผลกระทบต่อนักบินเป็นจำนวนมาก

ขณะนี้นักบินหลักและนักบินผู้ช่วยทั้งหมดกว่า 20 คนได้รับหนังสือแจ้งการเลิกจ้างแล้ว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.64 ที่ผ่านมา โดยบริษัทสายการบินนกแอร์อ้างว่าจะจ่ายเงินชดเชย และเงินอื่นๆตาม พรบ.คุ้มครองแรงงานฯ แต่จะได้รับเงินก็ต่อเมื่อบริษัทสามารถดำเนินธุรกรรมภายใต้กระบวนการของการฟื้นฟูกิจการตามกฎหมายล้มละลายต่อไปได้เสียก่อนแล้วเท่านั้น ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรมต่อพนักงานของบริษัทที่ถูกเลิกจ้าง เพราะตามหลักกฎหมายเมื่อบริษัทมีหนังสือเลิกจ้างแล้วมีผลวันใดบริษัทต้องจ่ายเงินชดเชยและเงินอื่นๆตามกฎหมายทันที ไม่ใช่ให้รอฟ้ารอฝนโดยไม่รู้ว่าจะได้รับเงินเมื่อไร

ก่อนหน้านี้บริษัทดังกล่าวได้เรียกนักบินหรือกัปตันไปเซ็นต์ชื่อแกมบังคับเพื่อขอลดค่าจ้างลงมาครึ่งหนึ่งประมาณ 2-3 ครั้งเพื่อให้ฐานเงินเดือนต่ำที่สุด ก่อนบอกเลิกจ้าง หากใครไม่ยอมเซ็นต์ก็จะถูกเลิกจ้างโดยทันที ทำให้นักบินส่วนใหญ่จำต้องเซ็นต์ชื่อให้เพราะกลัวตกงาน แต่ทางบริษัทกลับไม่ให้สำเนาหนังสือดังกล่าวให้พนักงานเก็บไว้คนละชุด และไม่มีการกรอกข้อความใดๆในหนังสือดังกล่าว ซึ่งบริษัทจะนำกลับไปกรอกข้อความอย่างไรก็ได้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ตาม พรบ.ว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม 2540 การใช้เทคนิคการเซ็นต์สัญญาเพื่อขอลดค่าจ้างลงมาจนถึงฐานเงินเดือนต่ำสุดก่อนบอกเลิกจ้าง จึงอาจเป็น “โมฆะ”ได้

นักบินหรือกัปตันของนกแอร์กว่า 20 คนจึงมาร้องขอความช่วยเหลือจากสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เพื่อขอให้ช่วยนำพาไปร้องเรียน รมว.กระทรวงแรงงาน เพื่อขอสั่งการช่วยให้ความเป็นธรรม และดำเนินการทางกฎหมายขั้นสูงสุดต่อบริษัทดังกล่าว

แรมโบ้ จวก หมอชลน่าน กรุณาหุบปากเพื่อชาติ

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส. พรรคเพื่อไทย ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ว่า นายกฯและรัฐบาล ทำทุกอย่างเพื่อแก้ไขปัญหา ทำทุกอย่างเพื่อจะให้สถานการณ์คลี่คลายลงให้ได้  มีมาตรการต่างๆออกมาอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด แต่ต้องยอมรับว่าการระบาดเกิดขึ้นได้ทุกที ทุกเวลา  

เรื่องการบริหารจัดการวัคซีน ทั้งนายกฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงไปหลายครั้งแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้ปิดกั้นเอกชนนำเข้าวัคซีน และขณะนี้ทุกฝ่ายเร่งทำงาน และเร่งนำไปฉีดให้กับประชาชนแล้ว โดยความร่วมมือจากภาคเอกชน ยืนยันการฉีดวัคซีนเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้อย่างแน่นอน  

ไม่เข้าใจว่าเหตุใดพรรคเพื่อไทยถึงเอาแต่เรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ มาโจมตีนายกฯไม่หยุด และไม่รู้ว่าจะนำมาพูดเพื่ออะไร ทั้งที่ประเด็นต่างๆหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้ชี้แจงไปหลายครั้ง ขอร้องว่าหากไม่มีประเด็นอื่น ขอให้หยุดพูด เพราะหมอชลน่าน หรือพรรคเพื่อไทย อาจไม่รู้ตัวว่าการออกมาพูดนั้นเป็นการทำลายขวัญและกำลังใจของคนทำงานอย่างบุคลากรทางการแพทย์

หมอชลน่านกับพรรคเพื่อไทย จิตใจทำด้วยอะไรเหตุใดถึงจะนำแต่ประเด็นทางการเมืองมาพูด เพียงเพื่อประโยชน์ของตัวเองโดยไม่นึกถึงประชาชน และชาติบ้านเมือง ในขณะที่กำลังเกิดวิกฤต และยังมาซ้ำเติม ไม่กลัวประชาชนเบื่อหน่ายเสื่อมศรัทธาเอือมระอาพรรคเพื่อไทยเลยหรือ หมอชลน่าน เป็นอดีตรัฐมนตรี อย่าทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับนักการเมืองคนอื่นๆเลย หัดหุบปากบ้าง จะดูดีกว่านี้ เพราะปากหมอชลน่านไม่ได้พูดเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับประเทศขาติประชาชน มีแต่จ้องทำลายขวัญกำลังใจคนอื่นที่ทุ่มเททำงาน เพื่อแก้ไขความเดือดร้อนให้กับประชาชน กรุณาหุบปากเพื่อชาติ

สกัดจับรายวัน..!!!! “กกล.สุรสีห์” จับอีกต่างด้าว 49 คน ลอบเข้าเมืองผิด กม.

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2564 จากกรณีตามนโยบาย พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กำชับทุกกองกำลัง (กกล.) ชายแดนและหน่วยทหารสกัดจับป้องกันการลักลอบเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังสุรสีห์ รายงาน การจับกลุ่มแรงงานต่างด้าว และผู้นำพา รายละเอียดดังนี้

ชุดปฏิบัติการข่าว (ชป.ขว.) ที่ 2 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า พบเส้นทางเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว (ร่องรอยใหม่) จึงได้ประสานชุดทหารม้าลาดตระเวน (มว.ลว.) ที่ 4 ฉก.ลาดหญ้า จำนวน 4 นาย, สารวัตรกำนันตำบลบ้านเก่า และนายพนมกร คล้ายเมือง ผญบ.หมู่ 7 หนองบ้านเก่า พร้อมชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) 2 นาย รวมกำลังทั้งหมด 11 นาย ร่วมกันตรวจสอบเส้นทางและวางแผนซุ่มเฝ้าตรวจ เมื่อเวลา 02.10 น.

สามารถจับกุมผู้นำพา จำนวน 3 คน ทราบชื่อเบื้องต้นนายแป๊ะ (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) พี่ชาย นายมนัส ทองเถาว์, นายแอ๊ด อุดเรือน หรือแอ๊ด และนายติ่ง (ไม่ทราชื่อสกุลจริง) พร้อมแรงงานต่างด้าว จำนวน 49 คน (ชาย 25 คน หญิง 24 คน) บริเวณพื้นที่บ้านประตูด่าน หมู่ 14 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี 

ปัจจุบันยังควบคุมตัวทั้งหมดไว้ในพื้นที่จับกุม ซักถามเบื้องต้นจะมีผู้นำพาชื่อ “ป๊อกเด้ง” เดินพาต่างด้าวตามมาอีก 30 คน ปัจจุบันเจ้าหน้าที่กำลังซุ่มเพื่อจับกุมต่อไป

ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลได้มีการจัดแถลงข่าวออนไลน์ถึงกรณีที่จะมีการพิจารณาแผนฟื้นฟูการบินไทยในการประชุม ครม. ที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อให้เจ้าหนี้โหวตรับแผนฟื้นฟู

ศิริกัญญา กล่าวว่า ที่ผ่านมาสิ่งที่เกิดขึ้น คือ รัฐบาล กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม และเจ้าหนี้ คุยข้ามหัวประชาชนไทยไปมา แต่กลับไม่เคยสื่อสารโดยตรงกับประชาชน ทั้งที่การช่วยเหลือการบินไทยต้องใช้ภาษี หรือหากจะค้ำประกันหนี้ เจ้าหนี้ก็จะมาเก็บจากผู้ค้ำ ซึ่งก็พวกเราประชาชนคนไทยทุกคนเป็นหนี้สาธารณะอยู่ดี

“รัฐบาลต้องตอบประชาชนให้ได้ว่า ประชาชนจะได้อะไรจากการเข้าช่วยเหลือการบินไทย หวังผลตอบแทนอย่างไรบ้าง ยังไม่ต้องพูดถึงว่าจะเป็นรัฐวิสาหกิจหรือไม่เป็น ทางเลือกไหนดีกว่า สิ่งเหล่านี้ไม่เคยมีคำตอบจากรัฐบาล”

แผนฟื้นฟูให้พนักงานเสียสละ แต่นายทุนไม่ลดหนี้

ศิริกัญญา ยังได้พูดถึงการทำแผนฟื้นฟูที่แผนธุรกิจในส่วนของการลดต้นทุนทำได้ค่อนข้างดี ยกเว้นแต่ส่วนของแผนการเงินที่ยังไม่น่าพอใจ

“ก่อนอื่นก็ต้องขอชื่นชมคณะผู้บริหารที่ทำแผนธุรกิจไว้ได้ดี และได้ทำในสิ่งที่ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดขึ้นได้ นั่นก็คือ สามารถลดจำนวนพนักงานลงไปได้ถึง 13,000 คน ลดจำนวนตำแหน่งผู้บริหาร รวมทั้งมีการเซ็นสัญญาใหม่ที่มีการปรับลดค่าตอบแทนลง

“แต่สำหรับแผนการเงินก็ถือว่ายังไม่น่าพอใจ สิ่งที่รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังไปเจรจากับเจ้าหนี้มีใจความหลักคือ หนี้ของธนาคารพาณิชย์ไม่มีการลดหนี้ แต่เป็นการยืดหนี้ออกไปอีก ไม่มีการแปลงหนี้เป็นทุนสำหรับเจ้าหนี้เดิม ผู้ถือหุ้นเดิมไม่มีการลดทุน มีแค่การลดหุ้นที่ยังไม่ได้ชำระเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ การขอกู้เพิ่มทุนเพื่อเสริมสภาพคล่อง 5 หมื่นล้านบาท จากธนาคารพาณิชย์ยังต้องให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันมากกว่า 25,000 ล้านบาท”

ศิริกัญญา เน้นย้ำว่า แผนนี้ประนีประนอมกับทุกฝ่ายมากเกินไป เกรงใจนายทุนมากเกินไป ไม่ยอมเจ็บแต่จบเพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน จึงเป็นแนวครึ่ง ๆ กลาง ๆ เพื่อซื้อเวลาเท่านั้น

3 ข้อเสนอ เจ็บแต่จบ ปลดภาระขาดทุนสะสมการบินไทย

ในส่วนของการหาทางออกนั้น ศิริกัญญา มีข้อเสนอให้รัฐบาล 3 ข้อ เพื่อล้างขาดทุนสะสม ทำให้ส่วนของทุนกลับมาเป็นบวก และสามารถทำให้การบินไทยอยู่รอดได้อย่างยั่งยืน

“ข้อเสนอแรก คือ #การลดทุน เราจำเป็นต้องลดทุนเพื่อล้างการขาดทุนสะสม ปัจจุบันการบินไทยขาดทุนสะสม 161,898 ล้านบาท ทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ -128,742 ล้านบาท เสนอให้ลดทั้งทุนที่ชำระแล้วและส่วนของทุนอื่น ๆ ซึ่งการลดทุนเดิมไม่ใช่อะไรนอกจากเรียกร้องให้ผู้ถือหุ้นต้องร่วมรับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้น

“ขั้นที่สอง เจ้าหนี้ต้องยอมเจ็บ #ต้องมีการลดหนี้หรือแปลงหนี้เป็นทุน เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์หรือผู้ถือหุ้นกู้ต้องร่วมรับผิดชอบอีกส่วนหนึ่ง คิดเป็นตัวเลขกลม ๆ หนี้ที่สามารถลดได้อยู่ที่ประมาณ 300,00 ล้านบาท ถ้าขอ haircut หรือลดหนี้ได้ 40% จะสามารถทำกำไรลดขาดทุนสะสมได้ถึง 120,000 ล้านบาท”

.

แต่ข้อควรระวังทุกคนพูดถึงสหกรณ์ออมทรัพย์ที่เป็นเจ้าของหุ้นกู้ ซึ่งในส่วนนี้ก็ต้องช่วยเหลือเป็นราย ๆ ไป เพราะผู้ถือหุ้นหรือผู้ฝากเงินสหกรณ์ล้วนแต่เป็นประชาชนรายย่อย

 

“ขั้นสุดท้าย เมื่อลดหนี้จนผลของการขาดทุนสะสมเหลืออยู่น้อย แล้ว #การเพิ่มทุนใหม่อาจทำได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นรัฐบาล ถ้ารัฐบาลต้องแทรกแซงเสนอให้ต้องกำหนดแผนการขายหุ้นออกที่ชัดเจนใน 3-5 ปี เพื่อไม่ให้เกิด moral hazard”

.

นอกจากนี้ ศิริกัญญา ยังเสนอให้พิจารณาการเปิดประมูลผู้ร่วมทุนใหม่ หรือหาสายการบินอื่นควบรวมได้ ซึ่่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร British airways ของอังกฤษที่ควบรวมกับ Iberia ของสเปน, Air France ของฝรั่งเศสที่ควบรวมกับ KLM ของเนเธอแลนด์ การบินไทยในช่วงเริ่มต้นก็เป็นการร่วมทุนเช่นเดียวกัน

“ดังนั้นดิฉันสรุปว่าแผนการนี้เป็นแผนที่เจ็บแต่จบ คือการลดส่วนของทุน เจรจาลดหนี้ และถ้ามีการเพิ่มทุนโดยรัฐต้องมีแผนการออกใน 3-5 ปี เพื่อทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นกลับมาเป็นบวก และสามารถรอดพ้นปัญหาถ้าเกิด shock ขึ้นมาในขณะนี้ และจะเป็นการแก้ปัญหาการบินไทยอย่างยั่งยืน” ศิริกัญญา กล่าวทิ้งท้าย

ดร.เสรี วงษ์มณฑา ผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันทิศทางไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยมีข้อความระบุว่า...

ฝ่ายค้านบางคนตั้งหน้าตั้งตาปั่นว่าวัคซีนมีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายจนมีคนจำนวนหนึ่งไม่กล้าไปฉีด เพราะมีเป้าหมายทางการเมือง ไม่ต้องการให้รัฐบาลจัดการควบคุมโควิดได้สำเร็จ

คนที่ทำแบบนี้ใจดำอำมหิตมาก คิดแต่ผลประโยชน์ทางการเมืองของตน แต่ไม่คิดถึงความปลอดภัยของประชาชน และความอยู่รอดของประเทศไทย ลองสงบจิตสงบใจ คิดใคร่ครวญใหม่หน่อยเถอะนะว่า ที่ทำอยู่นี้มันยังมีความเป็นคนอยู่หรือเปล่า สมควรหรือไม่ที่จะเอาเรื่องความเป็นความตายของคนไทยมาเล่นการเมือง

หมอเขาพูดอธิบายกี่คน กี่ครั้ง ทำไมถึงไม่ยอมเข้าใจ ทำไมจึงไม่หยุดปั่นเรื่องอันตรายของวัคซีน ทำไมไม่รักประเทศไทยให้มากกว่าความเห็นแก่ตัวเสียทีนะ ส่วนประชาชนนั้น ขอให้คิดเป็น เชื่อหมอนะคะ อย่าเชื่อหมา


ที่มา: https://siamrath.co.th/n/242884

นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ในวันนี้แพทย์ประจำทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เข้าตรวจร่างกาย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน พบว่า...

สัญญาณชีพและตรวจร่างกายทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ปกติ รู้สึกตัวดี พูดคุยรู้เรื่อง ช่วยเหลือตัวเองได้ ยังคงปฏิเสธการรับประทานอาหาร ไม่มีอาการปวดท้อง ดื่มนมซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์อาหารสูตรครบถ้วนที่ให้สารอาหารที่ร่างกายต้องการชนิดผงได้หมดตามแผนการรักษาของนักโภชนาการ รวมทั้งไม่มีอาการแสดงของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19

นอกจากนี้ กรมราชทัณฑ์ ได้ยกระดับมาตรการเฝ้าระวัง และควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 คือ...

1.) BUBBLE AND SEAL คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้าอย่างเด็ดขาด โดยการงดนำผู้ต้องขังออกทำงานนอกเรือนจำ งดย้ายผู้ต้องขังระหว่างเรือนจำ และการพิจารณาแนวทางอื่นแทนการนำผู้ต้องขังออกศาล

2.) SEPERATE การแยกกักผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ผู้ที่มีประวัติเสี่ยง รวมถึงการเร่ง SWAB เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เชิงรุกในผู้สัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงสูงทุกราย

3.) Mobile Field Hospital จัดตั้งโรงพยาบาลสนามในเรือนจำ และทัณฑสถาน ทั้งในส่วนกลางที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และการจัดตั้งเพิ่มเติมในเรือนจำที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด

เพื่อรองรับผู้ติดเชื้ออาการไม่รุนแรงหรือไม่มีอาการให้อยู่ในการควบคุมไม่แพร่เชื้อสู่ภายนอก ภายใต้คำแนะนำการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กรณีเกิดการระบาดในเรือนจำ และทัณฑสถานของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด


ที่มา: https://mgronline.com/crime/detail/9640000044595

“เพื่อไทย” จี้ รัฐบาล ปรับแผนฉีดวัคซีน “โฆษกพรรค”เสนอ 4 ข้อเร่งฉีดวัคซีน ด้าน "วิชาญ" แนะควรให้อำนาจ ผอ.เขต บริหารจัดการทั้งฉีดวัคซีน-ล็อกดาวน์แต่ละเขต

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2564 ที่พรรคเพื่อไทย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาคกทม. น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรค พร้อมผู้สมัคร ส.ก. ของพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าว โดยน.ส.อรุณี กล่าวว่า หลังรัฐบาลเปิดให้ประชาชนอายุ 60 ปีขึ้นไปและผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง 7 โรคลงทะเบียนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.จนถึงปัจจุบัน พบว่ามีผู้ลงทะเบียน  เพียง 1.55 ล้านคน ซึ่งถือว่าน้อยมากจากที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 16 ล้านคน สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลสอบตกในการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการฉีดวัคซีน บกพร่องต่อการสื่อสารและทำความเข้าใจถึงประสิทธิภาพ และผลข้างเคียงที่แท้จริงให้กับประชาชนอย่างเพียงพอ 

โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า หากรัฐบาลมีเป้าหมายเพื่อเร่งฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด  ควรเร่งดำเนินการดังนี้ 1.ปรับเปลี่ยนแผนการลงทะเบียนฉีดวัคซีน ให้บุคคลทั่วไปที่สมัครใจและมีความพร้อม 2.ปรับให้กลุ่มอาชีพบริการซึ่งต้องสัมพันธ์กับการพบปะผู้คนในเมืองได้ฉีดวัคซีนก่อน เช่น จักรยานยนต์รับจ้าง, คนขับรถตู้, ตุ๊กตุ๊ก , พนักงานส่งพัสดุอหรือส่งอาหารเดลิเวอรี่ ฯลฯ 3.เร่งสืบสวนหาสาเหตุอาการข้างเคียงของวัคซีน พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ข้อมูลอย่างชัดเจน และ 4.สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน หากเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน รัฐบาลควรจ่ายเงินชดเชยที่สูง โดยนำกรณีของต่างประเทศมาปรับใช้ เช่น ในมาเลเซีย หากเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน รัฐบาลจ่ายชดเชย 3.7 ล้านบาท, สิงคโปร์จ่าย 5.25 ล้านบาท แต่ไทยจ่ายไม่เกิน 4 แสนบาท


“ 1 ปีที่ผ่านมาของการระบาด รัฐบาลไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนประเทศได้ในทุกด้าน  ทั้งในมิติของการแก้ไขปัญหา การรับมือ หรือการป้องกันการระบาด จึงไม่แปลกใจหากจะมีประชาชนทยอยเดินทางไปต่างประเทศเพื่อฉีดวัคซีน เพราะต้องการเลือกยี่ห้อวัคซีนเอง แต่ประชาชนคนทั่วไปไม่ได้มีโอกาสเลือกแบบนั้นทุกคน จึงอยากให้รัฐบาลเร่งสร้าง ภูมิคุ้มกันหมู่ให้เร็วที่สุด ก่อนที่ไทยจะเป็นประเทศเดียวที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง  ในขณะที่หลายประเทศกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว” น.ส.อรุณี กล่าว

ด้านนายวิชาญ กล่าวว่า จากการที่พรรคเพื่อไทยลงพื้นที่พบชาวบ้านโดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. เห็นปัญหาต่างๆ เราได้แจกทั้งแมส และแอลกอฮอล์อย่างกว้างขวาง พร้อมประสานงานช่วยเหลือผู้ป่วยกว่า 76 ครั้ง ซึ่งสถิติที่ได้มาถือว่ายังเป็นตัวเลขที่สูง ทางพรรคจึงขอเสนอแนะให้รัฐบาล โดยเฉพาะกทม. ดำเนินการตามนี้ 1.รัฐควรนำผู้ป่วยออกไปอยู่ที่โรงพยาบาล หรือสถานที่รักษา ขณะที่กลุ่มเสี่ยงก็ควรคัดออกจากชุมชนไปเลย ให้ไปอยูในสถานที่ที่จัดให้ 14 วัน เพราะไม่เช่นนั้น เขาก็ยังต้องดำเนินชีวิต ออกไปทำงาน ฯลฯ 2.กทม. ควรให้อำนาจกับผู้อำนวยการเขตในการบูรณาการในแต่ละเขต แล้วประสานงานกับส่วนราชการต่างๆโดยมีอำนาจเบ็ดเสร็จในการจะล็อกดาวน์ในเขตต่างๆ รวมถึงดูแลในส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น อำนาจในการฉีดวัคซีน ฯลฯ ให้อำนาจเขาจัดการเลยโดยไม่ต้องรวมศูนย์อยู่ที่ กทม. เท่านั้น 3.รัฐ โดย กทม. ควรกำหนดการฉีดวัคซีน โดยแผนการดำเนินการต้องชัดเจน และ4.ถ้าพบเจอผู้ติดเชื้อในชุมชนใดควรปิดกั้นชุมชนไปเลย เช่น คลองเตย เมื่อเจอแล้วก็ห้ามบุคคลเดินทางเข้าออก แล้วคัดแยกผู้ป่วยให้รวดเร็ว และตอนนี้เขตราชเทวี ห้วยขวาง และวังทองหลาง มีเอกสารที่ชี้ให้เห็นว่าต้องการปิดชุมชน 

นายวิชาญ กล่าวอีกว่า สำหรับการติดตามการดำเนินการของภาครัฐ และกทม.ที่ทีม กทม. เราทำ เห็นว่า กทม.ยังดำเนินการน้อยมาก โดยวัดที่ทำการฌาปนกิจผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากโควิดสะท้อนมาว่า ไม่มีอุปกรณ์ป้องกันใดๆ กลุ่มจิตอาสา อสส. และมูลนิธิก็เช่นกัน ตนจอแนะให้นำเงินกองทุน 500 ล้านบาทของสปสช.ที่อุดหนุน กทม. มาใช้ นอกจากนี้ ควรเร่งเข้าไปดูแลผู้พิการ และผู้ป่วยติดเตียงตามบ้านอย่างเร่งด่วน 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top