Wednesday, 23 April 2025
POLITICS NEWS

‘หนุ่ม’ ชื่นชม ‘พีระพันธุ์’ มุ่งมั่นแก้ปัญหาพลังงานเพื่อคนไทย เชื่อ!! สิ่งที่ทำจะกลายเป็น ‘อนาคต’ ให้กับลูกหลาน

เมื่อวานนี้ (18 ส.ค. 67) จากช่องติ๊กต็อก ‘@_pong63’ ได้โพสต์คลิปวิดีโอแสดงความรู้สึกของตนที่มีต่อ ‘นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ หลังมุมานะพยายามทำเพื่อประเทศไทย โดยระบุว่า

“พอดีเห็นดรามามาจากหลาย ๆ คน…ผมก็เป็นประชาชนคนหนึ่งที่เกิดบนแผ่นดินไทยแล้วมีความ ‘รู้-รัก’ ผืนแผ่นดินไทยในสํานึกอยู่แล้วตั้งแต่บรรพบุรุษที่ร่วมสร้างแผ่นดินมา…

จะมาขอชื่นชมความกล้าหาญของคนดีในสังคม ‘ท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ ถ้าท่านได้ฟังคลิปนี้ผมขอบคุณจากใจเลย ขอบคุณที่ท่านมุ่งมั่นตั้งหน้าทํางานเพื่อคนไทย ไม่ว่าจะเป็นหลาย ๆ สิ่งหลาย ๆ อย่างที่ท่านสรรค์สร้างให้กับสังคม ผมพยายามติดตามดูคลิปท่านมาหลาย ๆ คลิป และ สิ่งที่ท่านทําผมว่ามันจะเป็นอนาคตให้ลูกหลาน แล้วก็ทําให้ประชาชนคนไทยหันมากลับหน้ากลับหลัง หันมามองอนาคตไปด้วยกันก็คือ…จะได้มาร่วมกันสร้างพัฒนาประเทศให้มันไปในทิศทางที่ดีขึ้น

แล้วในระหว่างทางเดินผมรู้ว่ามันมีอุปสรรคขวากหนามหลาย ๆ อย่างที่ทําให้ท่านทําไม่สําเร็จ แล้วก็รู้สึกว่าในสิ่งที่ท่านยินยอมที่จะต้องทําตามในหลาย ๆ อย่างที่มันอาจจะไม่ได้เป็นการเต็มใจ แต่ก็ต้องทําเพื่อดีกว่าที่จะเสียสละไปเป็นฝ่ายค้านหรืออะไรก็ตาม ผมว่าอยู่ ณ จุดตรงนี้อย่างน้อย ๆ มันยังมีคุณค่า ได้ทําในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชนคนไทยในหลาย ๆ ด้าน

ฉะนั้น ผมต้องขอชื่นชมท่านอีกครั้ง แล้วก็ผมฝากไว้ด้วย ปี 70 เราไปวัดกัน…1 เสียงของผม จะมอบให้ท่าน และผมเชื่อว่าครอบครัวผม ญาติ ๆ และคนในพื้นที่ของผม ผมจะพยายามพูดและแนะนําสิ่งดี ๆ ต่อ ๆ กันไป ขอบคุณที่ทําเพื่อประชาชนคนไทย…”

‘หมออ๋อง’ ถูกแซว!! หลัง 'มนต์ชัย' ครองนายก อบจ.พิษณุโลก คอมเมนต์เอกฉันท์ "ยักไหล่แล้วไปต่อ-ยังมีราชบุรีให้แพ้อีก"

(19 ส.ค. 67) นายปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 อดีต สส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล และต่อมาอยู่พรรคเป็นธรรม ซึ่งช่วยหาเสียงให้ นางสิริวรรณ คุณประจักษ์นุกูล ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.พิษณุโลก ที่พ่ายแพ้ให้กับ นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ อดีตนายกอบจ.พิษณุโลก โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความยินดีกับนายมนต์ชัยที่ชนะการเลือกตั้ง นายก อบจ.พิษณุโลก ว่า “ขอแสดงความยินดีกับนายกมนต์ชัย เบอร์ 1 ด้วยครับ และขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงของพี่น้องชาวพิดโลกที่ออกมาใช้สิทธิ์ในครั้งนี้ครับ”

ทั้งนี้ จากโพสต์ดังกล่าวของนายปดิพัทธ์ พบว่ามีผู้เข้ามากดถูกใจ, คอมเมนต์ และแชร์ เป็นจำนวนมาก โดยมีคอมเมนต์หลากหลาย แต่ที่น่าสนใจ คือ มีผู้คอมเมนต์ว่า “ยักไหล่ แล้วไปต่อค่ะ” จากนั้นมีผู้เข้ามาตอบเมนต์ดังกล่าวว่า “ยังมีราชบุรีให้แพ้อีก”

‘ทักษิณ’ ใส่เสื้อเหลืองขึ้นศาลฯ ตรวจหลักฐานคดี ม.112 แง้ม!! ไม่กังวลเพราะเป็นคดีกระชับอำนาจ หลังปฏิวัติใหม่ๆ

(19 ส.ค. 67) ศาลอาญา นัดตรวจพยานหลักฐานในคดีที่ พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญายื่นฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กรณีให้สัมภาษณ์กับเดอะโชซอนมีเดีย (The ChosunMedia) ของเกาหลีใต้เมื่อปี 2558 มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน

ซึ่งนายทักษิณได้รับการอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยตีราคาประกัน 5 แสนบาท กำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล

ในวันนี้มีทีมทนายความประมาณ 6-7 คนมาศาล

ต่อมาเวลา 08.53 น. นายทักษิณ ชินวัตร จำเลยในคดีนี้ ได้เดินทางมาศาล โดยสวมเสื้อสีเหลืองใส่สูทดำคลุมทับ พร้อมกล่าวก่อนขึ้นห้องพิจารณาคดีว่า ไม่มีความกังวล เป็นคดีที่เกิดขึ้นหลังการปฏิวัติใหม่ ๆ เป็นการใช้กฎหมายกระชับอำนาจ ส่วนเรื่องพยานเป็นเรื่องทนายความ หลังจากนั้นนายทักษิณได้เดินห้องขึ้นพิจารณาทันที

'ปิยบุตร' ปรับกระบวนทัศน์ เริ่มค้นคว้าหาความรู้เรื่องจีน ก่อนเยือนจีน ยกมุมมอง 'จาง เหวยเว่ย' น่าเห็นด้วยในหลายมุมที่ติง 'สหรัฐฯ-ยุโรป'

เมื่อวานนี้ (18 ส.ค. 67) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์ผ่านบัญชี X ส่วนตัว ‘Piyabutr Saengkanokkul @Piyabutr_FWP’ ระบุว่า…

แนะนำคลิปวันหยุดสุดสัปดาห์ครับ 

ผมรู้จักชื่อ ศาสตราจารย์ จาง เหวยเว่ย ครั้งแรก เมื่อ 4 ปีก่อน ตอนนั้นมีโอกาสสนทนากับคนของสถานทูตจีนกันหลายชั่วโมง แล้วเขามอบหนังสือให้ผมหลายเล่ม หนึ่งในนั้น คือ ‘คลื่นจีน การผงาดของรัฐอารยธรรม’ ที่เขียนโดย จาง เหวยเว่ย 

อ่านแล้ว น่าสนใจมาก หลายประเด็นตรงกับสิ่งที่ผมตั้งข้อสังเกตและคำถามต่อโลกตะวันตก 

ผมไปร่ำเรียนและมีโอกาสใช้ชีวิตในโลกตะวันตกเกือบทศวรรษ และยังไป ๆ มา ๆ อีกปีละหลายครั้ง เราถูกครอบงำโดยโลกตะวันตกโดยไม่รู้ตัว ช่วง 5 ปีหลังมานี้ ผมพยายามถอดแว่นตะวันตกและหันมาสนใจจีนมากขึ้น โดยเฉพาะความพยายามสร้างวิถีแบบจีนที่แตกต่างจากโลกตะวันตก ประกอบกับภรรยาผมชี้ชวนให้ผมออกจากความคิดแบบ “อะไร ๆ ก็ยุโรป” / “อะไร ๆ ก็ฝรั่งเศส”

อีกไม่กี่วัน ผมจะมีโอกาสเดินทางไปจีน ไปอยู่ครึ่งเดือน ไป 3 มณฑล 

นี่คือการเดินทางไปจีนครั้งแรกของผม ทั้ง ๆ ที่ผมเป็นลูกหลานจีน แต่ไม่เคยคิดที่จะไปจีนหรือเรียนภาษาจีนเลย 

ก่อนไป ก็เลยค้นคว้าหาความรู้เรื่องจีนไปเรื่อย 

เจอคลิปสัมภาษณ์ของ ศ.จาง เหวยเว่ย พอดี ผมดูแล้ว เห็นด้วยในหลายประเด็น ทั้งการวิจารณ์สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป 

ลองชมกันได้ครับ

‘อุ๊งอิ๊ง’ ยัน!! เดินหน้าทำ ‘โครงการดิจิทัลวอลเล็ต’ ย้ำ!! ทำตามกฎหมาย วินัยการคลัง รับฟังความคิดเห็น

(18 ส.ค.67) หลังเข้าร่วมพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง น.ส.แพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 น.ส.แพทองธาร ได้กล่าวโดยระบุว่า วันนี้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด ขอบคุณนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทำเพื่อประเทศชาติตลอด 1 ปีที่ผ่านมาแม้ตนเองจะไม่ ๆ ได้วางแผนในการเป็นนายกรัฐมนตรีมาก่อน แต่ขอให้มั่นใจว่า พร้อม เต็มใจ

ที่จะรับใช้พี่น้องประชาชนอย่างสุดความสามารถ เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นตำแหน่งที่มีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ พาประเทศชาติผ่านอุปสรรค ผ่านปัญหาต่าง ๆ และแน่นอนประเทศไทยของเรามีปัญหาปากท้องที่รอการแก้ไข และตั้งใจว่าการได้รับตำแหน่งนี้มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ปากท้องของพี่น้องประชาชนดีขึ้น

นางสาวแพทองธาร ยังกล่าวอีกว่า ตั้งใจผลักดันนโยบายเศรษฐกิจต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ปัญหายาเสพติด ระบบสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาได้ทุกที่ และไทยแลนด์ ซอฟต์พาวเวอร์ อย่างต่อเนื่องที่ทำมาตั้งแต่ต้น และมีความตั้งใจที่จะร่วมงานกับทุกภาคส่วนที่จะผลักดันนโยบายต่าง ๆ เหล่านี้ให้สำเร็จ โดยจะแถลงนโยบายอย่างเป็นรูปธรรมเดือน ก.ย.นี้ 

ขอบคุณพลังประชาชนทั้งที่เลือกและไม่ได้เลือก สัญญาว่าจะทำหน้าที่นี้อย่างเต็มความสามารถ โดยที่ไม่มีความแบ่งแยกในความแตกต่างทุกเพศ ทุกวัย และความหลากหลายทั้งในฐานะ นายกรัฐมนตรี แม่ ลูก เพื่อน มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำให้ประเทศไทยทุกตารางนิ้วเป็นของโอกาสที่คนไทยทุกคนกล้ามีความฝัน ความคิดที่สร้างสรรค์และกล้ากำหนดอนาคตของตัวเอง 

นอกจากนี้ นางสาวแพทองธาร ตอบคำถามสื่อมวลชน ได้กล่าวถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท โดย ยืนยันว่า นายทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้สั่งโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ซึ่งการทำนโยบายอะไรต้องปรึกษาพรรคร่วมด้วย และขอให้แยกบทบาทเพราะเข้าใจดีว่า นายทักษิณ ก็คงไม่สามารถลบภาพทางการเมืองออกได้ เพราะก็ยังเป็นคนที่หลายคนเคารพนับถือ และหลายคนคงขอคำปรึกษาตามประสบการณ์ที่ท่านมี 

ส่วนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท มีความตั้งใจทำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศ ซึ่งปีที่แล้วที่หาเสียงเรื่องนี้ เป็นการศึกษาและสังเคราะห์มาอย่างดีแล้ว แต่ช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้น สภาพเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไป เราจะต้องศึกษาและรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติม แน่นอนต้องอยู่ในระเบียบ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังด้วย และในเนื้อหารายละเอียดต้องชัดเจนและฟังความเห็นต่อเนื่อง เป้าหมายคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นความตั้งใจนี้จะยังอยู่แน่นอน

ต่อข้อซักถามผู้สื่อข่าวที่ระบุว่า นายทักษิณจะครอบงำทางการเมือง นางสาวแพทองธาร ยืนยันว่า ไม่ใช่การครอบงำแน่นอน ทุกคนในครอบครัวมีความคิดเป็นของตัวเอง เราปรึกษากันและให้เกียรติกันทางความคิด แต่สุดท้ายเมื่อใครอยู่บทบาทไหน ทุกคนมีความคิดเป็นของตัวเอง แน่นอนว่าความคิดของครอบครัวหรือคนที่เคารพนับถือ ย่อมมีส่วนสำคัญ และยังเร็วไปมากในเรื่องคณะรัฐมนตรี ยังไม่ได้คุยกับพรรคร่วมรัฐบาล

ส่วนคำถามที่ว่า จะซ้ำรอยพ่อ รอยอา นางสาวแพทองธาร ระบุว่า ปัญหาประเทศต้องได้รับการแก้ไขก่อน และจะทำเรื่องนี้อย่างเต็มที่ และพร้อมเข้าหาทุกภาคส่วน เข้าหาทุกคน ทั้งอดีตนายกรัฐมนตรีหลาย ๆ ท่านพรรคร่วม และเชื่อว่าไม่มีงานใหญ่ขนาดนี้ที่คนหนึ่งคนจะทำสำเร็จได้ แต่มีความตั้งใจ เคารพ และเชื่อในความสามารถของทุก ๆ คน เพราะฉะนั้นคงไม่สามารถสร้างประสบการณ์ได้โดยการดีดนิ้วทีเดียว และขอคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ทั้งหมด

ไม่มีใครอยากโดนอย่างคุณพ่อ คุณอา วันนี้คุณพ่อ คุณอาก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้น มีความตั้งใจที่ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ให้ถูกต้องที่สุด ต้องมองไปที่เป้าหมาย ถ้ามานั่งกังวลทุกอย่าง ก็คงไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ เพื่อไม่ให้มีคดี นางสาวแพทองธาร กล่าวทิ้งท้าย

‘ภูมิธรรม’ ปัดกระแสข่าวไม่เอา ‘วงษ์สุวรรณ’ ร่วมครม. ยกให้ ‘อุ๊งอิ๊ง’ เป็นผู้ดำเนินการ ตัดสินใจ ใครได้นั่งเก้าอี้

(18 ส.ค.67) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปฏิเสธที่จะกล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.)

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อเท็จจริงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าการปรับครม.ครั้งนี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุว่าจะต้องไม่มีคนในตระกูลวงษ์สุวรรณ นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายกฯพูดไปหมดแล้ว ส่วนกระแสข่าวดังกล่าวตนไม่เคยได้ยินและไม่มี และนายกฯก็ได้พูดชัดเจนไปหมดแล้ว วันนี้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ แล้ว ก็ขอให้ท่านเป็นผู้ดำเนินการ และทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามกระบวนการ ยืนยันว่าไม่มีผู้จัดการรัฐบาล วันนี้นายกฯเป็นตัวหลัก ส่วนตัวก็ให้กำลังใจอย่างเต็มที่ในฐานะที่เป็นผู้นำรัฐบาล วันนี้ขอว่าให้เป็นวันของนายกรัฐมนตรีและเป็นเรื่องของท่านไม่ว่าจะการให้สัมภาษณ์หรือเรื่องราวต่าง ๆ ถือเป็นวันของท่าน และคงต้องรอให้พ้นจากวันนี้ไปรอให้ท่านนายกฯ ดำเนินการตัดสินใจต่าง ๆ แล้วค่อยว่ากันว่ากัน ส่วนโผครม. เสร็จหรือยังใครจะไปรู้ ต้องไปถามนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่า โดยขั้นตอนอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ส.ค. ยังคงดำรงตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯอยู่ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในวันที่ 20 ส.ค.เรายังทำหน้าที่รักษาการอยู่ เพราะทั้งหมดยังต้องเป็นไปตามขั้นตอน แม้วันนี้จะมีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกฯ ลงมาแล้ว แต่ก็ยังมีขั้นตอนในการถวายสัตย์ปฏิญาณ การแต่งตั้งครม.ยังมีอีกหลายอย่าง และขณะนี้ยังไม่มีการหารืออย่างเป็นทางการใด ๆ ทั้งสิ้น จากนี้ไปเป็นหน้าที่นายกฯคนใหม่ ส่วนจะมอบหมายใครเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เมื่อถามว่า โควตารัฐมนตรียังเป็นสัดส่วนเดิมหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ทราบ เรื่องนี้อยู่ที่นายกฯตัดสินใจ

‘ดร.เอ้’ ฝาก 4 นโยบาย ‘นายกฯคนใหม่’ ให้ยกระดับสังคมไทย เน้น!! ‘การศึกษา-แก้ยาเสพติด-ยกคุณภาพชีวิต-เอาผิดคอร์รัปชัน’

(18 ส.ค.67) นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 พร้อมเสนอ 4 นโยบาย ยกระดับสังคมไทย หากทำได้ จะได้ใจประชาชน ระบุว่า

ขอแสดงความยินดีกับ นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ‘คนรุ่นใหม่’ และยังเป็น ‘คุณแม่’ ที่ลูกยังเล็ก ซึ่งน่าจะเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่เป็นพ่อ ในสภาวะสังคมไทยที่อ่อนแอลงทุกวัน

สังคมไทยที่กำลังห่อเหี่ยวรอความหวัง ในการปฏิรูป สังคม และเศรษฐกิจ สู่โลกยุคดิสรัปชั่น ที่ต้องแข่งขันด้วย ทรัพยากรมนุษย์ เน้นทักษะขั้นสูง ทดแทนการใช้ แต่ทรัพยากรธรรมชาติที่เน้นแต่การท่องเที่ยวแบบแมสที่ผลาญสิ่งแวดล้อม

นายสุชัชวีร์ ระบุว่า นโยบายของรัฐบาล 1 ปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า ยัง ไม่เข้าฝัก ไม่เป็นรูปธรรม แม้นายกฯทุกคน ต้องเน้นเรื่องปากท้อง เพราะเป็นความทุกข์ใกล้ตัวประชาชน แต่มี 4 เรื่องสำคัญ ตนขอฝากนายกฯ ช่วย 'ยกระดับสังคม' เป็นประโยชน์ต่อคนไทยและลูกหลาน หากทำได้ จะได้ใจประชาชนมาก คือ 

1.การศึกษา ต้องมาก่อน และเริ่มทันที นายกฯ ต้องเน้นเรื่อง การปฏิรูปการศึกษา แบบจริงจัง เพราะเป็นเรื่องระยะยาว ไม่อาจเห็นผลในระยะเวลาอันสั้น ไม่ทำแบบขอไปที ต้องทำหน้าที่แทนพ่อแม่ของเด็กไทย รักลูกท่านอย่างไร ต้องรักลูกชาวบ้านเช่นกัน

ท่านนายกฯ ในฐานะคุณแม่ที่มีลูกเล็ก ย่อมรู้ดีที่สุดว่า คุณภาพการศึกษาของ เด็กปฐมวัย คือ จุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด ผู้นำรัฐบาลในทุกประเทศชั้นนำ จะลงมากำกับดูแล คุณภาพเด็ก ด้วยตนเอง วางแผนระยะยาว ไม่ปล่อยให้คนอื่นสักแต่ทำ หรือ ทำแบบขอไปที หากนายกฯ ทำเรื่อง การศึกษาเด็ก ให้มีคุณภาพ คนจะชื่นชมมาก นายสุชัชวีร์ กล่าว

2.ขจัดยาเสพติด ทุกรูปแบบ นายกฯ อ่อนโยนได้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องยาเสพติด ต้องแข็งกร้าว ไม่เอายาเสพติด คงไม่ต้องไปทำถึงวิสามัญ แต่ต้องใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา เป็นธรรม เพื่อป้องกัน ลูกหลานให้ห่างไกลจากอันตรายยาเสพติดทุกประเภท ปัญหายาเสพติดไม่ใช่การต่อรองทางการเมือง แต่ต้องเป็นหน้าที่รับผิดชอบของผู้นำประเทศทุกคน

3.ความปลอดภัยสาธารณะ คือ สิทธิขั้นพื้นฐาน นายกฯ ต้องรักและห่วงใยประชาชนเสมือนคนในครอบครัว ต้องสร้างสังคม ที่ลูกหลานปลอดภัย ไปไหน ไม่ต้องกังวลว่า จะถูกรถมาชนบนทางม้าลาย ของจะหล่นใส่หัว เดินไปโรงเรียนจะตกท่อ โรงงานสารเคมีข้างบ้านจะระเบิด เพราะสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ คือ การดำรงชีวิตอย่างปลอดภัย คือ มาตรวัดคุณภาพชีวิตของคนไทย และคือ มาตรวัดผลงานรัฐบาล ทั้งเรื่อง ฝุ่นพิษ PM2.5 ที่ทำร้ายสุขภาพเด็กไทย อย่างรุนแรงรัฐบาลที่ผ่านมามักแก้ปัญหาแบบตามฤดูกาลเดี๋ยวก็ลืมกันไป นายกฯต้องแก้ปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จ หากทำได้ ได้ใจพ่อแม่ทั้งประเทศไทยแน่นอน

4.รัฐบาลโปร่งใส ไม่คอร์รัปชัน นายกฯต้อง ใจแข็ง ใครก็รู้ การเมืองไทยกับปัญหาการคอร์รัปชัน มันอยู่คู่กันมานาน แต่นายกฯ ได้เปรียบเพราะมีผู้มีพลังหนุนหลัง ไม่ต้องง้อใคร ไม่ต้องขอใคร ไม่ต้องเกรงใจใคร ทำสิ่งที่ถูกต้องได้โดยไม่มี ข้ออ้าง การลดคอร์รัปชันจะเป็นสัญญานบวกที่มีพลังมากที่สุดต่อภาคธุรกิจทั้งภายในและต่างประเทศ ใครก็อยากมาลงทุนในประเทศไทย เพราะไม่ต้องกังวลเรื่อง เงินใต้โต๊ะเงินทุนก็เข้าระบบ เศรษฐกิจก็จะดีขึ้นทันที หากแก้ปัญหาคอร์รัปชันได้นายกฯ จะเป็นซูเปอร์ฮีโร ได้รับการจดจำนานเท่านาน

“ผมในฐานะพลเมืองไทยและมนุษย์พ่อขอเป็นกำลังใจให้ท่าน ทำงานให้สำเร็จ เพื่อประโยชน์ของชาติ จะขอเฝ้าดู ติดตาม และกล้าเห็นต่าง หากท่านลืมไปว่า ท่านเป็นผู้นำที่มีหน้าที่ รับผิดชอบ ต่อประชาชนไทย” นายสุชัชวีร์ กล่าวทิ้งท้าย

‘อ.ไชยันต์’ โพสต์ข้อความพร้อมภาพ ‘แพทองธาร-พรรณิการ์’ ระบุ!! สองสตรีผู้โดดเด่นทางการเมืองจาก ‘รัฐศาสตร์ จุฬาฯ’

(18 ส.ค.67) ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์รูปภาพ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นางสาวพรรณิการ์ วานิช อดีต สส.พรรคอนาคตใหม่ พร้อมข้อความระบุว่า 

สองสตรี ผู้โดดเด่นทางการเมือง จากกำเนิดเดียวกัน ‘รัฐศาสตร์ จุฬาฯ’

'เบื้องลึก-เบื้องหน้า' ความท้าทาย 'อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร' 'ลบคำปรามาส-สร้างภาพใหม่' นายกฯ ตระกูลชิน

ต้องบันทึกไว้ว่า 18 ส.ค.2567 เป็นอีกหนึ่งวันประวัติศาสตร์สำคัญสำหรับตระกูลชินวัตร...และจะเกี่ยวโยงกับการเมืองไทยครั้งสำคัญ

- เป็นวันที่ แพทองธาร ชินวัตร 'อุ๊งอิ๊ง' บุตรสาวคนสุดท้องของทักษิณ ชินวัตร ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย เป็นนายกฯหญิงคนที่สองของไทยและเป็นนายกฯ ที่อายุน้อยที่สุด

- เป็นวันที่ทักษิณ ชินวัตร พ้นสภาพนักโทษเด็ดขาดชายเร็วกว่ากำหนดเดิม (31 ส.ค.2567) ทั้งนี้เพราะเข้าเกณฑ์ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค.2567

ย้อนไปสัปดาห์ก่อน การเมืองเปลี่ยนแปลงเร็วแบบ 'ตัดจบ' แบบกะพริบตาทีเดียวก็ตามไม่ทัน  

วันที่ 14 ส.ค.เศรษฐา ทวีสิน หลุดจากตำแหน่งด้วยมติ 5 ต่อ 4 ของศาลรัฐธรรมนูญ โทษฐานขาดคุณสมบัติไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์/ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรง...

เย็นวันเดียวกันมีหนังสือนัดประชุมสภาฯ โหวตนายกฯ วันที่ 16 ส.ค.เวลา 10.00 น. 

ตกค่ำวันเดียวกัน มีข่าวสะพัดจากบ้านจันทร์ส่องหล้าหลังแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลไปพบทักษิณเมื่อ 17.00 น.ว่า...ว่าที่นายกฯ คนใหม่คือ ชัยเกษม นิติสิริ หนึ่งแคนดิเดตท่ามกลางเสียงคัดค้านของ สส.เพื่อไทย

วันที่ 15 ส.ค.ที่สภาฯ พรรคเพื่อไทย ประชุมสองรอบ...รอบแรก สส. รอบสองกรรมการบริหาร...ตัดชื่อชัยเกษม เสนอชื่อ 'แพทองธาร'

วันที่ 16 ส.ค. 'อุ๊งอิ๊ง' ได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกฯ คนใหม่ด้วยคะแนนท่วมท้น เห็นชอบ 319 ไม่เห็นชอบ 145 งดออกเสียง 27  

มีการวิเคราะห์ตีความกันมากมายว่า เกมพลิกจาก 'ชัยเกษม' เป็น 'อุ๊งอิ๊ง' ได้อย่างไร...'เล็ก เลียบด่วน' ฟันธงว่า เกมไม่ได้พลิกอะไรแต่อย่างใด แต่เป็นธงที่ 'นายใหญ่' วางไว้ทุกประการ กึ่งๆ สมคบคิดกับสส.ของพรรค โดยเฉพาะสส.รุ่นใหม่ๆ ด้วยซ้ำ...ส่วนการโยนชื่อ 'ชัยเกษม' ออกมา ก็เพื่อไม่ให้สังคมไปตีความว่า...เชือดเศรษฐาเพื่อลูกสาว...และให้ใคร/สังคมรุมต้านแค่นั้นเอง

แน่นอนที่สุดเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามนี้...เท่ากับว่าทักษิณและตระกูลชินวัตรได้ทิ้งไพ่ใบสำคัญใบสุดท้ายออกมาเล่น...งานนี้จึงเป็นงานใหญ่เดิมพันพรรค เดิมพันตระกูลกันเลยทีเดียว...ทักษิณในฐานะพ่อ รวมทั้ง 'หญิงอ้อ' คุณหญิงพจมาน ชินวัตร คุณแม่ ก็คงแนะนำช่วยเหลือลูกสาวอย่างเต็มที่...

ถ้า 'อุ๊งอิ๊ง' มีวุฒิภาวะเพียงพอแล้ว ก็ย่อมตระหนักรู้ว่า นอกเหนือจากโจทย์ยากในการบริหารประเทศแล้ว ยังมีโจทย์ท้าทายว่าฉากจบของตนเองในฐานะนายกฯ คนที่ 6 ของสายพันธุ์ไทยรักไทยต้องไม่ซ้ำกับ 5 อดีตนายกฯ ที่ผ่านมา...

1) พรรคไทยรักไทย-ทักษิณ ชินวัตร 2544-2548 และ 2548-2549  เป็นนายก 2 สมัยรวม 5 ปี 222วัน ถูกรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 ด้วยเหตุผลหลักๆ รัฐบาลทุจริต/จาบจ้วงฯ/แทรกแซงองค์กรอิสระ

2) พรรคพลังประชาชน-สมัคร สุนทรเวช  29 ม.ค.2551-9 ก.ย.2551 ศาลรธน.ชี้ กระทำการต้องห้ามฯ รธน.2550 (ผลประโยชน์ทับซ้อน-คดีชิมไปบนไป)

3) พรรคพลังประชาชน-สมชาย วงศ์สวัสดิ์ 18 ก.ย.2551-2 ธ.ค.2551 พรรคพลังประชาชนถูกยุบข้อหาทุจริตเลือกตั้งเมื่อ 2 ธ.ค.2551

4) พรรคเพื่อไทย-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 5 ส.ค.2554-7 พ.ค.2557 ศาลรธน.ให้พ้นตำแหน่งกรณีย้ายถวิล เปลี่ยนศรี ถูกรัฐประหาร 22 พ.ค.2557 หนีไปต่างประเทศเมื่อปี 2560 วันที่ศาลตัดสินจำคุก 5 ปีคดีทุจริตจำนำข้าว

5) พรรคเพื่อไทย-เศรษฐา ทวีสิน 22 ส.ค.2566-14 ส.ค.2567 ศาลรธน.ให้พ้นจากตำแหน่งกรณีถูกร้องไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์/ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงกรณีตั้งนายพิชิต ชื่นบาน  เป็นรัฐมนตรี

นั่นคือประวัติศาสตร์ที่นายกฯ ชื่อแพทองธาร ต้องตระหนักด้วยความเข้าใจมากกว่าโกรธแค้นชิงชัง...

วันก่อน 'เปลว สีเงิน' เจ้าสำนักไทยโพสต์ได้มอบคาถา 3 บทให้ 'อุ๊งอิ๊ง' พร้อมรับประกันว่าจะอยู่ได้อย่างน้อยหนึ่งปี คือ..

- คาถาบทแรก-อย่าไปแตะมาตรา 112  
- บทที่สอง-อย่าไปแทรกแซงแบงก์ชาติ   
- บทที่สาม-อย่าไปเชื่อพ่อทักษิณทุกเรื่อง

สำหรับ 'เล็ก เลียบด่วน' ซึ่งไม่เห็นด้วยกับทฤษฎีที่บางฝ่ายวิเคราะห์ว่า การเปิดทางให้ 'อุ๊งอิ๊ง' เป็นนายกฯ เป็นการลากตระกูลชินวัตรมาประหารแบบล้างคอก นัยว่าเป็นแผนการของฝ่ายอนุรักษ์นิยม ขอแถมคาถาต่อจาก 'เปลว สีเงิน' อีกสักบทว่า...อย่าโกง แต่จงช่วยปราบโกง...

สาธุ!!

✨ ‘เศรษฐา’ กับ ‘ผ้าขาวม้า’ นี่แหละคนไทยของแทร่!!

พจนานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 เก็บคำ 'ผ้าขาวม้า' โดยให้ความหมายว่า 'น. ผ้าฝ้ายทอเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มักมีลายตาหมากรุก ใช้ผลัดอาบน้ำ หรือเคียนพุง เป็นต้น'

เป็นผ้าซึ่งเปี่ยมอัตลักษณ์ 'ไทย' อย่างยิ่ง จึงมิใช่เรื่องแปลกที่นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน จะเลือกใช้ 'ผ้าขาวม้า' ประดับกายให้ได้เห็นเมื่อครั้งเยือนมิตรประเทศ เช่น สหภาพยุโรป แหล่งอารยธรรมชั้นสูงด้านแฟชั่น

ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต เพลงพื้นบ้าน ตลอดจนนักเคลื่อนไหวทางสังคม ก็ล้วนใช้ 'ผ้าขาวม้า' ประดับกายเพื่อสื่อถึงความ 'ชาตินิยม' ด้วยชนเผ่าไทยมีภูมิปัญญาทางการทอผ้าชนิดนี้มาเนิ่นนาน แม้นายกฯ จะมีภาพพจน์เป็นนักธุรกิจที่แต่งกายได้เหมาะสมในระดับสากล แต่ไม่เคยลืมเสน่ห์แห่งรากเหง้า 'ผ้าขาวม้าไทย'

และเมื่อมีโอกาส 'ผ้าขาวม้า' จะถูกนำเสนอต่อสายตาชาวโลกเสมอ

โดยนายกฯ คนที่ 30 ของไทยที่ชื่อ 'เศรษฐา ทวีสิน'


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top