ต้องบันทึกไว้ว่า 18 ส.ค.2567 เป็นอีกหนึ่งวันประวัติศาสตร์สำคัญสำหรับตระกูลชินวัตร...และจะเกี่ยวโยงกับการเมืองไทยครั้งสำคัญ
- เป็นวันที่ แพทองธาร ชินวัตร 'อุ๊งอิ๊ง' บุตรสาวคนสุดท้องของทักษิณ ชินวัตร ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย เป็นนายกฯหญิงคนที่สองของไทยและเป็นนายกฯ ที่อายุน้อยที่สุด
- เป็นวันที่ทักษิณ ชินวัตร พ้นสภาพนักโทษเด็ดขาดชายเร็วกว่ากำหนดเดิม (31 ส.ค.2567) ทั้งนี้เพราะเข้าเกณฑ์ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค.2567
ย้อนไปสัปดาห์ก่อน การเมืองเปลี่ยนแปลงเร็วแบบ 'ตัดจบ' แบบกะพริบตาทีเดียวก็ตามไม่ทัน
วันที่ 14 ส.ค.เศรษฐา ทวีสิน หลุดจากตำแหน่งด้วยมติ 5 ต่อ 4 ของศาลรัฐธรรมนูญ โทษฐานขาดคุณสมบัติไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์/ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรง...
เย็นวันเดียวกันมีหนังสือนัดประชุมสภาฯ โหวตนายกฯ วันที่ 16 ส.ค.เวลา 10.00 น.
ตกค่ำวันเดียวกัน มีข่าวสะพัดจากบ้านจันทร์ส่องหล้าหลังแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลไปพบทักษิณเมื่อ 17.00 น.ว่า...ว่าที่นายกฯ คนใหม่คือ ชัยเกษม นิติสิริ หนึ่งแคนดิเดตท่ามกลางเสียงคัดค้านของ สส.เพื่อไทย
วันที่ 15 ส.ค.ที่สภาฯ พรรคเพื่อไทย ประชุมสองรอบ...รอบแรก สส. รอบสองกรรมการบริหาร...ตัดชื่อชัยเกษม เสนอชื่อ 'แพทองธาร'
วันที่ 16 ส.ค. 'อุ๊งอิ๊ง' ได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกฯ คนใหม่ด้วยคะแนนท่วมท้น เห็นชอบ 319 ไม่เห็นชอบ 145 งดออกเสียง 27
มีการวิเคราะห์ตีความกันมากมายว่า เกมพลิกจาก 'ชัยเกษม' เป็น 'อุ๊งอิ๊ง' ได้อย่างไร...'เล็ก เลียบด่วน' ฟันธงว่า เกมไม่ได้พลิกอะไรแต่อย่างใด แต่เป็นธงที่ 'นายใหญ่' วางไว้ทุกประการ กึ่งๆ สมคบคิดกับสส.ของพรรค โดยเฉพาะสส.รุ่นใหม่ๆ ด้วยซ้ำ...ส่วนการโยนชื่อ 'ชัยเกษม' ออกมา ก็เพื่อไม่ให้สังคมไปตีความว่า...เชือดเศรษฐาเพื่อลูกสาว...และให้ใคร/สังคมรุมต้านแค่นั้นเอง
แน่นอนที่สุดเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามนี้...เท่ากับว่าทักษิณและตระกูลชินวัตรได้ทิ้งไพ่ใบสำคัญใบสุดท้ายออกมาเล่น...งานนี้จึงเป็นงานใหญ่เดิมพันพรรค เดิมพันตระกูลกันเลยทีเดียว...ทักษิณในฐานะพ่อ รวมทั้ง 'หญิงอ้อ' คุณหญิงพจมาน ชินวัตร คุณแม่ ก็คงแนะนำช่วยเหลือลูกสาวอย่างเต็มที่...
ถ้า 'อุ๊งอิ๊ง' มีวุฒิภาวะเพียงพอแล้ว ก็ย่อมตระหนักรู้ว่า นอกเหนือจากโจทย์ยากในการบริหารประเทศแล้ว ยังมีโจทย์ท้าทายว่าฉากจบของตนเองในฐานะนายกฯ คนที่ 6 ของสายพันธุ์ไทยรักไทยต้องไม่ซ้ำกับ 5 อดีตนายกฯ ที่ผ่านมา...
1) พรรคไทยรักไทย-ทักษิณ ชินวัตร 2544-2548 และ 2548-2549 เป็นนายก 2 สมัยรวม 5 ปี 222วัน ถูกรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 ด้วยเหตุผลหลักๆ รัฐบาลทุจริต/จาบจ้วงฯ/แทรกแซงองค์กรอิสระ
2) พรรคพลังประชาชน-สมัคร สุนทรเวช 29 ม.ค.2551-9 ก.ย.2551 ศาลรธน.ชี้ กระทำการต้องห้ามฯ รธน.2550 (ผลประโยชน์ทับซ้อน-คดีชิมไปบนไป)
3) พรรคพลังประชาชน-สมชาย วงศ์สวัสดิ์ 18 ก.ย.2551-2 ธ.ค.2551 พรรคพลังประชาชนถูกยุบข้อหาทุจริตเลือกตั้งเมื่อ 2 ธ.ค.2551
4) พรรคเพื่อไทย-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 5 ส.ค.2554-7 พ.ค.2557 ศาลรธน.ให้พ้นตำแหน่งกรณีย้ายถวิล เปลี่ยนศรี ถูกรัฐประหาร 22 พ.ค.2557 หนีไปต่างประเทศเมื่อปี 2560 วันที่ศาลตัดสินจำคุก 5 ปีคดีทุจริตจำนำข้าว
5) พรรคเพื่อไทย-เศรษฐา ทวีสิน 22 ส.ค.2566-14 ส.ค.2567 ศาลรธน.ให้พ้นจากตำแหน่งกรณีถูกร้องไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์/ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงกรณีตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี
นั่นคือประวัติศาสตร์ที่นายกฯ ชื่อแพทองธาร ต้องตระหนักด้วยความเข้าใจมากกว่าโกรธแค้นชิงชัง...
วันก่อน 'เปลว สีเงิน' เจ้าสำนักไทยโพสต์ได้มอบคาถา 3 บทให้ 'อุ๊งอิ๊ง' พร้อมรับประกันว่าจะอยู่ได้อย่างน้อยหนึ่งปี คือ..
- คาถาบทแรก-อย่าไปแตะมาตรา 112
- บทที่สอง-อย่าไปแทรกแซงแบงก์ชาติ
- บทที่สาม-อย่าไปเชื่อพ่อทักษิณทุกเรื่อง
สำหรับ 'เล็ก เลียบด่วน' ซึ่งไม่เห็นด้วยกับทฤษฎีที่บางฝ่ายวิเคราะห์ว่า การเปิดทางให้ 'อุ๊งอิ๊ง' เป็นนายกฯ เป็นการลากตระกูลชินวัตรมาประหารแบบล้างคอก นัยว่าเป็นแผนการของฝ่ายอนุรักษ์นิยม ขอแถมคาถาต่อจาก 'เปลว สีเงิน' อีกสักบทว่า...อย่าโกง แต่จงช่วยปราบโกง...
สาธุ!!