Tuesday, 8 July 2025
POLITICS NEWS

'ชัยวุฒิ' รับคำร้องตรวจสอบระบบจองสลากบนตู้ ATM ลั่น!! เรื่องนี้สำคัญ จะเร่งแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด

'ชัยวุฒิ' รมว.ดีอีเอส รับคำร้องจากผู้ได้รับผลกระทบจากสลากออนไลน์ โดย ฟิล์ม-รัฐภูมิ และประธานชมรมผู้ค้าสลากรากหญ้าทั่วไทย นำทีมตัวแทนผู้ค้าสลากเกือบ 200 คน ยื่นหนังสือวอนตรวจสอบระบบจองคิวสลากจากตู้เอทีเอ็ม ข้องใจโควตาเต็มเร็วมาก ทำให้ไม่ได้รับสลากไปขาย เดือดร้อนหนักขาดรายได้หลักพันบาทต่องวด

วันนี้ (26 ก.ย. 65) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้รับหนังสือร้องเรียนจากกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากการขายสลากออนไลน์ นำโดย นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ (ฟิล์ม) ดร.เกณิกา อุ่นจิตร์ และนายสำอางค์ ซ่อนกลิ่น ประธานชมรมผู้ค้าสลากรากหญ้าทั่วไทย พร้อมผู้ค้าสลากเกือบ 200 ราย เป็นตัวแทนประชาชนกลุ่มผู้ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาสลากดิจิทัล เข้ามาร้องเรียนเพื่อขอให้กระทรวงดิจิทัลฯ ช่วยประสานงานแก้ปัญหา

เนื่องจากล่าสุดผู้ที่ได้รับสิทธิขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกือบ 200,000 ราย เมื่อไปกดจองคิวสลากจากตู้เอทีเอ็ม พบปัญหาไม่ได้สลาก ทั้งที่หลายรายไปต่อคิวแต่เช้ามืดเพื่อให้ได้กดรับสิทธิเป็นลำดับต้น ๆ แต่ปรากฏว่าจำนวนกลับหมดเร็วมาก โดยตู้ขึ้นข้อความว่า “สิทธิจองคิวโควตาสลากฯ งวดนี้เต็มแล้ว” ทำให้ไม่ได้รับสลากไปขาย เกิดความเดือดร้อนเพราะทำให้ขาดรายได้หลายพันบาทต่องวด

“ในฐานะของ รมว.ดิจิทัลฯ จะลงไปตรวจสอบเรื่องนี้ เนื่องจากมองว่าอาจเป็นปัญหาจากระบบคอมพิวเตอร์ จากระบบของเอทีเอ็ม ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม บางคนไปกดแล้วไม่ได้ สลากที่เป็นโควตาหายไป ก็ต้องชี้แจงให้ได้ก่อน ว่าการทำงานของคอมพิวเตอร์มีการทำผิดระเบียบหรือผิดกฎหมายหรือไม่ มีการไปใช้ช่องว่างบางอย่างเพื่อหาประโยชน์หรือไม่ ซึ่งกระทรวงฯ ก็จะเข้าไปช่วยตรวจสอบ” นายชัยวุฒิกล่าว

‘อุ๊งอิ๊ง’ ยินดี ‘เศกสิทธิ์’ ชนะเลือกตั้งอบจ.ร้อยเอ็ด ขอบคุณชาวร้อยเอ็ด นำพาแลนด์สไลด์สู่เพื่อไทย

เมื่อวันที่ (26 ก.ย.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ ‘อุ๊งอิ๊ง’ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงความยินดีกับนายเศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ เบอร์ 2 จากพรรคเพื่อไทย ที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องชาวร้อยเอ็ดด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นถล่มทลาย 301,187 คะแนน อย่างไม่เป็นทางการ ในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ร้อยเอ็ด ระบุว่าขอแสดงความดีใจกับนายเศกสิทธิ์ด้วย และขอขอบพระคุณพี่น้องชาวร้อยเอ็ดที่ไว้ใจพรรคเพื่อไทยและนายเศกสิทธิ์ งานใหญ่ไม่สามารถทำสำเร็จโดยคนคนเดียวได้ เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วย พรรคเพื่อไทย หัวใจคือประชาชน

ทางด้าน น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่าประชาชนต้องการเปลี่ยนแปลง ขอแสดงความยินดีกับว่าที่นายกองค์การบริการส่วนจังหวัด (อบจ.) ร้อยเอ็ด คนใหม่คือนายเศกสิทธิ์ ที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องชาวร้อยเอ็ดด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นถล่มทลาย 301,187 คะแนน อย่างไม่เป็นทางการ ชนะขาดทิ้งห่างคู่แข่งแบบไม่เห็นฝุ่น

'อลงกรณ์' ติง 'อนุทิน' อย่าหลงประเด็นมองผิดเป็นเรื่องการเมือง แนะเร่งปรับปรุงกฎหมายกัญชาปิดช่องโหว่ หวั่นเยาวชนเสพสูบเสรี 

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เขียนบทความโพสต์ในเฟสบุ๊ควันนี้ เรื่อง 'กัญชาเสรีกับร่างกฎหมายกัญชา' จาก 'อลงกรณ์' ถึง 'อนุทิน'
ตอนจบ 'ผิดที่ 2 - มองผิด' ซึ่งเป็นตอนที่ 2 ต่อจากตอนแรกเรื่อง 'กัญชาเสรี..ไม่กลัวดัง แต่กลัวดับ' ประเด็น 'อนุทิน' กับ 'อลงกรณ์' โดยเขียนไว้ดังนี้

เรื่อง ”กัญชาเสรีกับร่างกฎหมายกัญชา”
จาก ”อลงกรณ์” ถึง ”อนุทิน”
ตอนจบ “ผิดที่ 2 - มองผิด”

หลังจากพี่หนู อนุทิน ชาญวีรกุล ไปปราศรัยที่ขอนแก่นว่า .. ..”..ถูกขัดขา  เพราะเขากลัวพรรคดังเกินไป เขาจึงดึงเอาไว้…” กรณีสภาผู้แทนราษฎรมีมติให้คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ นำร่างพรบ.กัญชากลับไปทบทวนก่อนนำกลับมาเสนอวาระที่ 2 และ 3 อีกครั้ง

ผมจึงเขียนเรื่อง "ไม่กลัวดังแต่กลัวดับ" เพื่อทำความเข้าใจว่า ไม่ใช่เรื่องขัดขาแต่เป็นเพราะสภาผู้แทนราษฎรจากหลายพรรคการเมืองยังกังวลเกี่ยวกับปัญหาการเสพสูบกัญชาของนักเรียนนักศึกษาเยาวชนที่อนาคตจะดับหากกฎหมายไม่รัดกุมพอ

พูดง่ายๆ คือ ไม่กลัวดังแต่กลัวดับ (อนาคตของชาติ) และยืนยันว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคมีจุดยืนตรงกันคือ สนับสนุนกัญชาเสรีทางการแพทย์เพื่อสุขภาพเพราะเป็นสมุนไพรยาไทย

จึงไม่ควรเข้าใจผิดเพื่อนๆ ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ว่าไปขัดแข้งขัดขา นี่คือข้อเขียนที่เรียกว่าเป็น  “ผิดแรก” คือ "เข้าใจเพื่อนผิด" ส่วน “ผิดที่ 2” คือ เรื่อง “มองผิดว่าเป็นเรื่องการเมือง”

ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจว่า การที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติเมื่อ 14 ก.ย. ให้ถอนร่างพรบ.กัญชาฯ ส่งกลับไปให้คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ นำไปปรับปรุงก่อนเสนอกลับมาให้สภาฯ พิจารณาในวาระ 2 และ 3 อีกครั้ง ไม่ได้ก่อให้เกิดปัญญาสูญญากาศทางกฎหมายแต่อย่างใด เพราะพี่หนูพูดเองยืนยันเองในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและเป็นผู้เสนอกฎหมายฉบับนี้ด้วยคนหนึ่ง

พี่หนูยืนยันด้วยตัวเองภายหลังสภาฯ มีมติให้ถอนร่างกฎหมายกัญชาเมื่อ 20 ก.ย.ว่า "…ทุกวันนี้ยังไม่มีอะไรที่นอกเหนือการควบคุมหรือมีปัญหาใดๆ ที่ก่อความเสียหายต่อภาพรวม…ประกาศ สธ.ทุกฉบับที่ออกมาก็ครอบคลุมและเข้มกว่าร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ อยู่แล้ว .."

นอกจากนี้คุณไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังแถลงย้ำว่า “แม้ร่าง พ.ร.บ.กัญชา-กัญชง ยังคงต้องอยู่ในการพิจารณาของรัฐสภา กฎหมายที่มีอยู่ในขณะนี้ก็จะควบคุมการใช้กัญชา-กัญชง ไปจนกว่า พ.ร.บ. ฉบับสมบูรณ์จะออกมาบังคับใช้ หรือหากมีกรณีใดที่มีความจำเป็นต้องออกกฎหมายมารองรับ ก็มีคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพืชกัญชาและกัญชง ที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน สามารถพิจารณาออกประกาศหลักเกณฑ์ต่างๆ มาดูแลเพื่อให้เกิดความเหมาะสมเพิ่มเติมได้” 

สาธารณชน และคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ.คงจะสบายใจได้แล้วนะครับ ไม่เชื่อพี่หนูแล้วจะเชื่อใคร การที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติให้นำร่างกฎหมายกัญชากลับไปทบทวนเป็นปัญหาการบริหารจัดการ ไม่ใช่เรื่องการเมือง

บางครั้งความรีบร้อนเร่งรัดกลับเป็นสาเหตุของความล่าช้าเพราะขาดความรอบคอบเหมือนขับรถเร็วแหกโค้งทั้งที่รู้ว่าเป็นโค้งอันตราย ขนาดสภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบร่างกฎหมายนี้ในวาระที่1ด้วยเสียงข้างมากเด็ดขาดซึ่งปกติการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระ 2 และ 3 เกือบร้อยทั้งร้อยฉบับจะให้ความเห็นชอบแต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น แล้วจะโทษใครกัน

ขอเพิ่มเติมข้อสังเกตส่วนตัวในฐานะเคยเป็นอดีต ส.ส. เคยเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณากฎหมายหลายฉบับและเคยอยู่ในคณะรัฐมนตรีที่เป็นผู้เสนอกฎหมายว่า การที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ไปเขียนเพิ่มเติมบทบัญญัติของร่างกฎหมายกัญชาที่รับหลักการวาระที่ 1 จาก 45 มาตราแล้วไปแปรญัตติเพิ่มเป็น 96 มาตรานั้นในทางกระบวนการนิติบัญญัติย่อมสุ่มเสี่ยงที่จะถูกทักท้วงอย่างรุนแรงหรือไม่ยอมรับจากสภาผู้แทนราษฎร

ดังนั้น อย่าชี้นิ้วไปโทษคนอื่น มิฉะนั้นจะมองไม่เห็นปัญหาในสาระสำคัญที่ทำให้สภาผู้แทนราษฎรมีมติให้ถอนร่างกลับไปทบทวนใหม่ ควรนำเหตุผล ข้อเท็จจริงและข้อสังเกตในสภาผู้แทนราษฎร สื่อมวลชนและฝ่ายต่างๆไปพิจารณาปรับปรุงแก้ไข เช่นทำอย่างไรจะแก้โจทย์ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมองว่า ร่างพรบ.ที่คณะกรรมาธิการฯ เสนอมานั้นไปส่งเสริมการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการเพราะไม่มีบทบัญญัติใดที่จะควบคุมให้มั่นใจว่าเด็กเยาวชนลูกหลานของเราจะไม่นำมาใช้เสพสูบกัญชาจนเสียอนาคตและส่งผลเสียต่อครอบครัว ชุมชน และสังคมในวงกว้าง เพราะบทบัญญัติห้ามบริโภคและห้ามขายคนอายุต่ำกว่า 20 ปียังไม่ตอบโจทย์เพียงพอ

ยกตัวอย่างชัดๆกรณีหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรแถลงคัดค้านชี้ประเด็นปัญหาว่า "…. ปรากฏว่าในชั้น กมธ.มีการปรับแก้อย่างมาก ซึ่งไม่ตอบโจทย์ว่าจะควบคุมเรื่องที่หลายฝ่ายเป็นห่วงได้อย่างไร โดยเฉพาะการนำกัญชามาใช้ทางสันทนาการ พรรค พท.จึงมีมติว่าจะไม่ให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ในวาระ 2-3 .."

รวมทั้งข้อมูลรายงานและความเห็นจากฝ่ายต่างๆ เช่น

นพ.ล่ำซำ ลักขณาภิชนชัช รองผู้อำนวยการด้านวิชาการและการแพทย์ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) ให้ข้อมูลว่า จากการสำรวจล่าสุดพบว่า ผู้ป่วยที่เข้ามารับการบำบัดมากที่สุดคือ ผู้ป่วยที่ใช้กัญชาและมีอาการทางจิตรุนแรง เพราะผู้ที่สูบกัญชากว่าจะแสดงอาการรุนแรงใช้ระยะเวลานานกว่ายาบ้าหรือไอซ์ จึงเข้าสู่กระบวนการบำบัดช้ากว่าที่ควรจะเป็น จะเป็นอาการหลอน หูแว่ว หลงผิด หวาดระแวง และทำร้ายผู้อื่น ข้อมูลปี 2563 มีผู้ป่วยจิตเวชจากกัญชาเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 และข้อมูลปี 2564 จนถึงปัจจุบันเพิ่มเป็นร้อยละ 28 และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น กัญชาเป็นสารเสพติดที่ต้องเฝ้าระวัง อนาคตจะก่อความรุนแรงในสังคม ปัจจุบันพบว่ากัญชาหาซื้อได้ตามแหล่งโซเชียล

รายงานจากราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯ เรื่องผลกระทบต่อสุขภาพของเด็กจากการใช้กัญชา แบ่งเป็นผลกระทบระยะสั้น สำหรับผลในระยะยาวหากมีการใช้ต่อเนื่องยาวนานหรือใช้ในปริมาณมาก การศึกษาต่างประเทศพบว่าส่งผลต่อไอคิวเด็กลดลงถึง 6 จุด หรือเรียกง่าย ๆ ว่า สมองพัง โง่ลง และยังมีผลกระทบระยะยาวว่า เด็กไม่ไปเรียน ออกจากโรงเรียน เรียนไม่จบ ไม่มีงานทำ มีปัญหาทางพฤติกรรม

'ธนกร' แนะ 'จตุพร' หากรักประเทศ-ปชช. ควรยุติชุมนุม ชี้!! อีกไม่นานจะมีเลือกตั้ง อย่าสร้างความวุ่นวายให้สังคม

นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชนระบุว่า ประเทศนี้จะไม่มีการเลือกตั้งก็เพราะ 3 ป. ออกแบบไม่ให้มีการเลือกตั้ง ไม่ใช่ว่าเราออกไปชุมนุมว่า เป็นการชิงออกตัวแบบปัดความรับผิดชอบอย่างชัดเจน เมื่อคิดที่จะปลุกปั่นให้ประชาชนออกมาร่วมชุมนุม ก็ควรแสดงภาวะผู้นำด้วยการรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเองด้วย ไม่ใช่คิดจะทำอะไรก็ทำ แต่พอเกิดความผิดพลาดขึ้นก็โยนความผิดให้คนอื่น พฤติกรรมแบบนี้ใช้ไม่ได้สำหรับคนที่คิดจะเป็นแกนนำ 

ดังนั้น เมื่อประชาชนทราบเช่นนี้แล้ว ก็อยากจะขอร้องให้ทุกคนรู้เท่าทัน และอย่าหลงออกไปร่วมชุมนุมด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การเมืองเดินไปตามขั้นตอนอย่างที่ควรจะเป็นอยู่แล้ว อีกไม่นานก็จะถึงการเลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศ ดังนั้น นายจตุพรควรสงบจิตสงบใจ กลับไปทบทวนบทเรียนที่ผ่านมาว่าตัวเองได้ทำอะไรกับประเทศไทยไว้บ้างให้ตกผลึกเสียก่อน เผื่อจะตาสว่างและเลิกจัดการชุมนุมที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ต้องสัญจรไปมา วันนี้วิกฤตเศรษฐกิจโลกก็แย่พอแล้ว อย่าซ้ำเติมสถานการณ์อีกเลย

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน การประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 9/2565

วันจันทร์ ที่ 26 ก.ย. 65 เวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 9/2565 ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีคณะกรรมการ ก.ตร., ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคณะอนุกรรมการ ก.ตร.วินัย คณะอนุกรรมการ ก.ตร.ร้องทุกข์ และคณะอนุกรรมการ ก.ตร. บริหารทรัพยากรบุคคล เข้าร่วมประชุม ซึ่งมีวาระการประชุมฯ ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล เงินเดือน และเงินตอบแทนพิเศษ รวมถึงการพิจารณาจัดทำแนวทางในการปฏิบัติตนของข้าราชการตำรวจ ตามประมวลจริยธรรมของข้าราชการตำรวจ เป็นต้น

ภารกิจของพลเอก ประวิตร วงษ์สุววรณ ในการลงพื้นที่จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 65

เยี่ยมชมและทักทายพี่น้องประชาชนที่มารอรับบริการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปจากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ถึงสถานการณ์น้ำในภาพรวม และรับทราบปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและการบริหารงานในพื้นที่ รวมถึงปัญหาที่ดินทำกิน

'บก.ลายจุด' ถาม "เอาเลยไหม จัดสักนัดไล่ รมต.ชัยวุฒิ" ด้าน 'อานนท์ นำภา' บอก "อยากปะทะแก๊สน้ำตาว่ะ"

จากกรณีที่นายชัยวุฒิ​ ธนาคมานุสรณ์​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม​ (ดีอีเอส​) กล่าวถึงกรณีหากมีม็อบออกมาเคลื่อนไหวในวันที่ 30 กันยายน ที่ ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ครบ 8 ปี

โดยนายชัยวุฒิ ระบุว่า “ถ้าไม่อยากให้บ้านเมืองวุ่นวาย หรือเกิดการกระทบกระทั่งกันจนถึงขั้นบาดเจ็บ ก็ไม่อยากให้ออกมาเคลื่อนไหวกันในช่วงนี้ และตอนนี้ก็เป็นช่วงที่ประชาชนหลายคนเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วม และปัญหาต่างๆ รัฐบาลอยากจะทำหน้าที่ให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า และหากไม่พอใจรัฐบาลก็อยากให้ใจเย็นๆ เพราะอีกไม่กี่เดือนจะถึงช่วงของการเลือกตั้งแล้ว พร้อมเตือนว่า “ถ้าเคลื่อนไหวมากๆ ระวังจะไม่ได้เลือกตั้งนะ”

ทำให้ ด้านนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบก.ลายจุด หัวหน้าพรรคเกียน นักเคลื่อนไหวทางการเมืองชื่อดัง โพสต์ข้อความว่า นายชัยวุฒิเหมาะที่จะถุกจัดการชุมนุมเพื่อขับไล่ พร้อมโพสต์เชิงสอบถามผู้ติดตามว่า จะจัดชุมนุมกันเลยดีไหม?

“บุคคลๆ นี้ควรมีม็อบไล่เป็นของตนเองสักครั้ง นัดเลยดีมััย?” นายสมบัติกล่าว

'เพื่อไทย' แซะ!! รัฐยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน หลัง 30 ก.ย. 'ล่าช้า-ไม่ทันสมัย-ไม่เป็นสากล'

(24 ก.ย.65) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ เห็นชอบยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วหลังสถานการณ์โควิด-19 ในไทยแผ่วลงตามลำดับและปิดฉากการทำงานของ ศบค.ในวันที่ 30 ก.ย. ว่า ชุดความคิดจะเลิกอะไรต้องเลิกหลังเกษียณ 30 กันยายน และจะเริ่มอะไรก็ต้องเริ่มในวันที่ 1 ตุลาคม ตามปีงบประมาณใหม่ ไม่ทันสมัย ไม่เป็นสากล เป็นมาตรการที่ล่าช้าไม่ทันการณ์ ไม่สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์

"ประชาชนคนไทยเรียกร้องให้มีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผ่อนคลาย แต่รัฐบาลไม่ยกเลิก มีความพยายามใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในทางการเมืองเพื่อจํากัดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน เพื่อปราบม็อบนักศึกษา ม็อบเกษตรกร ม็อบ ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากโครงการต่างๆของรัฐ"

'อนุทิน' ย้ำ!! ลูกพรรคหน้าต้องดำผิวต้องกร้านเข้าสภาให้ได้ ด้านชาวขอนแก่น ถือป้ายเชียร์ 'เสี่ยหนู' ให้เป็นนายกฯ

ภายหลังการสัมมนาพรรคภูมิใจไทยสัญจร ที่ จ.ขอนแก่น ช่วงเย็นวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมรับประทานอาหารเย็น ร่วมกับรัฐมนตรี และส.ส.ของพรรค โดยนายอนุทิน กล่าวตอนหนึ่งว่า...

"พรรคภูมิใจไทยมีแต่คนไหลเข้า ยังไม่เห็นคนไหลออก และอย่าให้มีคนแรก เพราะจะถูกพวกเราโห่จนกลับบ้านไม่ถูก เนื่องจากเราสำเร็จมาด้วยกัน ทำงานมาด้วยกัน พลวัตการขับเคลื่อนของเราเปรียบเสมือนสิ่งที่หมุนรอบ ซึ่งหากหมุนไปเรื่อยๆ ในทางฟิสิกส์จะเกิดเป็นแรงดูด จึงขอให้หมุนไปแบบนี้ หมุนด้วยความเร่ง ความตั้งใจ ความจริงใจต่อประชาชน แรงดูดจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น จึงถูกแล้วที่เขาพูดว่าพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคดูด แต่ดูดด้วยผลงาน ดูดด้วยความนิยม"

นายอนุทิน ย้ำด้วยว่า ขอให้คืนนี้ (23 ก.ย.) เป็นคืนสุดท้ายที่ส.ส. และว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรคจะสนุกสนานกัน เพราะนับจากวันนี้ หน้าต้องดำ ผิวต้องกร้าน ต้องได้รับคะแนนนิยม ความเชื่อมั่นจากประชาชน แล้ววันรุ่งขึ้นหลังการเลือกตั้งเราจะฉลองอย่างยิ่งใหญ่

“พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคติดดิน ต่อให้ฝนตกหนักแค่ไหน หัวหน้าพรรคจะยืนเคียงข้างลูกพรรค เราตากแดด ตากลม ตากฝน ได้หมด ขออย่างเดียวให้ได้เดินเข้าสภา 6 เดือนต่อจากนี้ เราจะอยู่ในโหมดของการต่อสู้จนกว่าจะชนะ และเอาส.ส.ตัวเป็นๆ เข้าสภาเท่านั้น และเราจะชนะอย่างแน่นอน” นายอนุทิน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคภูมิใจไทยจะเป็นพรรคแกนนำที่ประกาศตัวพร้อมเป็นนายกฯ เลยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า "พรรคต้องมีการขับเคลื่อน ทำให้ประชาชนมั่นใจ ไว้วางใจว่าพรรคทำงานที่เป็นประโยชน์ให้ประชาชนมากที่สุด การที่จะไปถึงจุดนั้นได้ต้องมี ส.ส.เยอะ ก็จะผลักดันทุกอย่างง่ายขึ้น ก็จะไม่มีอุปสรรคอะไร ไม่ไปเป็นเหยื่อของเกมการเมืองจากใคร แต่เอาไว้ถึงวันนั้นก่อน ต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ซึ่งประชาชนเห็นแล้วว่าถ้าทำงานเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่ แต่แทนที่สิ่งเหล่านั้นจะได้รับการสนับสนุนจากบรรดาผู้คนการเมืองด้วยกัน กลับมีการบล็อก เตะตัดแข้งตัดขา ซึ่งทำให้เกิดผลเสียต่อประชาชน

“เราไม่หวั่นไหวอะไร บางคนตัดสินใจทำแบบนี้กับพรรคภูมิใจไทยเพราะไม่ต้องมีการพึ่งพาอะไรกันแล้ว ไม่ต้องมีอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่มีการผ่านกฎหมายสำคัญแล้ว เลยปฏิบัติกับเราแบบนี้ ก็ไม่เป็นไร เราถือว่าประชาชน คือหลักชัยของเรา เรายังมุ่งมั่นทำงานต่อ ที่ผ่านมาพรรคเราเป็นแบบนี้ เราไม่เคยยุ่งกับใคร ถ้าพรรคอื่นทำประโยชน์กับประชาชนเราก็พร้อมสนับสนุนเสมอ แต่เวลาพรรคเราจะทำประโยชน์ให้ประชาชนทำไมพรรคอื่นต้องมาขัดแข้งขัดขา การต่อสู้กันทางการเมืองไม่ควรเอาสิ่งที่ประชาชนพึงจะได้มาขัดขวาง แต่โชคดีเรามองสถานการณ์ว่าสิ่งนี้จะเกิด จึงเตรียมการป้องกันไว้ก่อน ยืนยันว่า แม้ พ.ร.บ.จะไม่ผ่านสภา แต่การใช้ประโยชน์ของกัญชา ถ้าอยู่ภายใต้กรอบของกระทรวงสาธารณสุขจะไม่มีข้อจำกัด”

'ชัยวุฒิ' ลงพื้นที่น้ำท่วมอยุธยา 'รับฟังปัญหา-แจกถุงยังชีพ' ด้านชาวบ้านโวย 'ฝ่ายค้าน' หยุดจับผิด 'ส.ส.-รมต.รัฐ' ช่วยปชช.

'ชัยวุฒิ' ลงพื้นที่น้ำท่วมอยุธยา ออกตัวบอกมาในนามรัฐบาล ชาวบ้าน ร้องอยากให้เเจกถุงยังชีพเยอะๆ ขอฝ่ายค้าน อย่าเล่นการเมือง บนความเดือดร้อน ปชช.  

(24 ก.ย.2565) นายชัยวุฒิ​ ธนาคมานุสรณ์​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม​ หรือดีอีเอส​ พร้อมขอให้เจริญ ข้าราชการในกระทรวง ลงพื้นที่อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา​  ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจชาวบ้าน​ผู้ประสบอุทกภัย พร้อมมอบถุงยังชีพ 

ทันทีที่นายชัยวุฒิ มาถึง ได้กล่าวสวัสดีชาวบ้าน พร้อมกับแนะนำตัวว่า “รู้จักผมไหม ผมชื่อชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม” ตนเป็นห่วงพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพราะหลายพื้นที่ยังเป็นที่ลุ่มต่ำ เท่าที่ตนทราบพื้นที่นี้จะท่วมก่อนพื้นที่อื่นและแห้งทีหลัง ยืนยันหลายครั้งว่ารัฐบาลห่วงใยประชาชน ตอนนี้จะมีโครงการผันน้ำคลองบางบาลแล้ว วันนี้ตนอยากมาเยี่ยมเยียนพี่น้อง แลดูสภาพปัญหาว่าอยากให้รัฐบาลช่วยอะไร ตนจะได้นำไปเรียนนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี

“พอน้ำท่วม นอนอยู่บนเตียง ทำอะไรไม่ได้เลย ก็จะเบื่อ วิธีการแก้ปัญหาคือออกไปข้างนอกบ้าง จะได้ไม่เหงา ไม่เครียด”

นายชัยวุฒิย้ำว่า ขอให้ชาวบ้านระวังเรื่องงูพิษ มีสัตว์มีพิษเยอะ ที่มากับน้ำท่วม ตนเป็นกำลังใจให้ทุกคน ก่อนลงจากโพเดี้ยมนายชัยวุฒิ ถามชาวบ้านด้วยว่ารู้จักกระทรวงที่ตนกำกับไหม เป็นกระทรวงตั้งใหม่ ดูเรื่องการใช้คอมพิวเตอร์และการติดต่อสื่อสาร 

หลังจากนั้น นายชัยวุฒิให้สัมภาษณ์ ระบุว่า วันนี้ตนมาในนามของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส​ มาเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจประชาชน พร้อมกับมอบถุงยังชีพ และติดตามในงานในสังกัดของกระทรวงที่ลงมาช่วยเหลือประชาชน สิ่งสำคัญคือถือโอกาสมาเยี่ยมเยียนชาวบ้านและมาฟังว่าเขาเดือดร้อนอย่างไร อยากให้รัฐบาลช่วยเหลืออย่างไรบ้าง หากไม่ลงพื้นที่มาดูก็จะไม่รู้

ขณะเดียวกัน นายชัยวุฒิ​ ยังระบุอีกว่า ชาวบ้านเองก็ได้สะท้อนถึงความลำบาก ในการเดินทางเนื่องจากมีน้ำท่วมสูง​ โดยอยากจะให้มีการระบายน้ำออกไปในพื้นที่การเกษตร​ เพื่อลดระดับน้ำลง เนื่องจากบางพื้นที่น้ำท่วมถึงชั้น 2 ซึ่งเท่าที่ทราบเมื่อชาวนาเกี่ยวข้าวเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ ก็จะมีการระบายน้ำออกไปยังทุ่งนาทำให้ระดับน้ำในพื้นที่นั้นลดลง

โดยหน้าที่หลักของกระทรวงดีอีเอส​ กรมอุตุนิยมวิทยา มีการพยากรณ์อากาศ และประสานข้อมูลเรื่องน้ำ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงต่างๆที่นำข้อมูลไปบูรณาการช่วยเหลือ ในเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งการพยากรณ์อากาศช่วงนี้อยู่ในฤดูฝน เพราะฉะนั้นอาจทำให้มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่ โดยจากการที่ติดตามอยู่ในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้าจะมีพายุเข้ามา อีก 1 ลูก ซึ่งต้องติดตามดูว่าอิทธิพลของพายุลูกนี้จะทำให้ฝนตกหนักแค่ไหนในพื้นที่ และจะดำเนินการแจ้งเตือนประชาชนต่อไป เนื่องจากตอนนี้น้ำเต็มทุกพื้นที่หมดแล้วค่ะฝนตกลงมาก็ยอมรับว่าเหนื่อยในการบริหารจัดการน้ำอย่างแน่นอน

ทั้งนี้นายชัยวุฒิ​ มองว่า​ ในระยะต่อไปต้องมีการปรับปรุงได้ระบบป้องกันน้ำท่วมและชลประทาน​ ให้สามารถระบายน้ำให้มากขึ้น อย่างในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top