Monday, 7 July 2025
POLITICS NEWS

‘ตรีชฎา’ สอน ‘บิ๊กตู่’ ควรโชว์ความรู้แก้ปัญหาน้ำท่วม ไม่ใช่พูดพล่าม 'น้ำท่วมทุ่ง' จนหาสาระไม่ได้

นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่จังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดขอนแก่นเมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมาของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อติดตามข่าวสารที่สื่อมวลชนนำเสนอนั้น เป็นที่น่าเสียใจและเสียดายโอกาสของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้นแล้ว ยังซ้ำเติมจิตใจของชาวบ้านที่กำลังทุกข์ยากเดือดร้อนให้หดหู่สิ้นหวังมากขึ้นไปอีก

ในขณะที่พี่น้องประชาชนอุบลราชธานีถูกน้ำท่วม บ้านจมบาดาล ที่จังหวัดอุบลราชธานี มีการระดมตำรวจเจ้าหน้าที่นับพันรายมากระจายกำลังคุ้มกันพล.อ.ประยุทธ์ ขณะไปที่หอประชุมวารินชำราบ ซึ่งมากผิดปกติเกินความจำเป็น แถมยังต้องใช้งบประมาณดูแลข้าวกล่องไปแจกให้เจ้าหน้าที่ ได้กินเป็นพันกล่อง หากลดจำนวนหรืองดเว้นการดูแลต้อนรับคนๆ เดียวในภาวะเดือดร้อนยากลำบาก สามารถนำข้าวกล่องที่ดูแลเจ้าหน้าที่ไปดูแลชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบได้หลายร้อยครอบครัว ไม่ต้องให้ชาวบ้านส่งเสียงโอดครวญผ่านสื่อแบบนี้ 

พล.อ.ประยุทธ์ประกาศว่าจะมาทำงาน ไม่สร้างภาระให้ใคร แล้วภาพที่มีการเกณฑ์เจัาหน้าที่ตำรวจมาดูแลทั้งจังหวัดเรียกว่าอะไรกันแน่ ส่วนที่จังหวัดขอนแก่น สื่อมวลชนได้รายงานคำพูดจาของพล.อ.ประยุทธ์อย่างยืดยาว ล้วนแต่เป็นเรื่องวนเวียนซ้ำซาก ชาวบ้านต้องการฟังสิ่งที่เป็นความหวัง ความช่วยเหลือเฉพาะหน้าอย่างเร่งด่วน และการวางแผนป้องกันแก้ไขในระยะยาวจากคนเป็นนายกรัฐมนตรี

'ณัฐวุฒิ' อ้อน!! ปชช. เทคะแนนพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย หวังหยุดกลไกสืบทอดอำนาจ เชื่อยุบสภาอย่างเร็วหลังเอเปก

(6 ต.ค. 65) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ตนมองภาพการเมืองใหญ่เวลานี้ไม่มีทางที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะยอมปล่อยมือจากอำนาจ ด้วยความสำนึกว่าได้สร้างความเสียหายไว้กับประเทศ มีแต่จะหาช่องทางรักษาอำนาจ และลากดึงกันไปข้างหน้า ตนเชื่อว่าความขัดแย้งภายในกลุ่ม 3 ป. ยังมีอยู่จริง แต่คงไม่ข้ามพ้นผลประโยชน์ทางการเมือง และทางอำนาจที่ผูกไว้ร่วมกัน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะมีการยุบสภาอย่างเร็วก็หลังการประชุมเอเปค แต่ไม่ใช่การยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน เป็นเพียงการช่วงชิงความได้เปรียบในการเลือกตั้งเท่านั้น เพราะสุดท้ายพรรคฝ่ายรัฐบาลก็ได้เปรียบ

“สิ่งเหล่านี้ เป็นเรื่องที่ประชาชนทุกคนต้องรู้เท่าทัน และต้องตัดสินใจร่วมกันให้ได้ว่าถึงที่สุด ก้าวแรกในการเอาชนะอำนาจนี้คืออะไร สำหรับผมเชื่อว่า การเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง และเทคะแนนให้พรรคการเมืองหนึ่งในฝั่งประชาธิปไตยชนะ เพื่อยืนค้ำไว้ก่อน และร่วมมือกับพรรคฝ่ายประชาธิปไตย จัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย ยุติกลไกการสืบทอดอำนาจ คือทางเลือกที่เป็นไปได้ที่สุดในขณะนี้” นายณัฐวุฒิ กล่าว

'อนุทิน' ชี้ เลือกตั้งรอบหน้า หวังกวาด 120 ส.ส. ลั่น!! พร้อมนั่งเก้าอี้นายกฯ ทำงานเพื่อปชช. สุดกำลัง

เมื่อวันที่ (6 ต.ค. 65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นความคาดหวังของพรรคในการเลือกตั้งรอบหน้าที่จะต้องได้ส.ส. อย่างน้อย 120 เสียง ว่า เป็นพรจากผู้ใหญ่ และเป็นเป้าหมายของพรรค ท่านพูดก็แปลว่าพรรคภูมิใจไทย มีศักยภาพที่จะทำได้ เรื่องแบบนี้เราไม่ล้อเล่น มันต้องพยายามเต็มที่ จะผ่อนเครื่องไม่ได้ ส่วนจะมาจากไหนนั้น ก็ต้องมาจากการทำงานหนักของพรรคภูมิใจไทย ที่หมายถึงส.ส.ของพรรค และสมาชิกพรรคทุกคน ต้องลงพื้นที่เข้าชาร์จปัญหา การทำนโยบาย อย่าไปมองว่าต้องทำเฉพาะที่หาเสียงไว้ แต่อะไรที่เป็นประโยชน์ ก็ต้องทำด้วย ยกตัวอย่างเรื่องฟอกไตฟรี นี่ไม่เคยเป็นนโยบายของพรรค แต่ด้วยความเป็นรมว.สาธารณสุข พบว่าผู้ป่วยฟอกไต จ่ายครั้งละ 1.5 พันบาท อาทิตย์หนึ่งฟอก 2 ครั้ง จ่าย 3 พันบาท ไหนจะค่าเดินทางอีก ภาระของประชาชนก็ต้องหาทางช่วย ประเทศไทย มีนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ต้องทำให้ได้แบบนั้นจริง ๆ มีความสามารถจะช่วยได้ ก็ต้องหาทาง ตอนนี้ ทำสำเร็จแล้ว

'บิ๊กป้อม' นั่งหัวโต๊ะ 'กำกับ-ติดตาม' ราชการภูมิภาค เน้น 'ช่วยเหลือ-แก้ทุกปัญหาเร่งด่วน' ให้ปชช.ทั่วประเทศ

พล.อ.ประวิตร ประชุม ติดตามแผนงาน 'กำกับฯภูมิภาค' เน้นช่วยเหลือเร่งด่วน ปชช.ทั่วประเทศ  พอใจผลงานปี 65 ได้ตามเป้า อนุมัติงบฯ กรณีฉุกเฉินปี 66 แก้ปัญหาต่อเนื่อง 18 เขตพื้นที่ ตามนโยบายรัฐบาล ย้ำห้ามซ้ำซ้อนงานปกติ

(6 ต.ค. 65) พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รอง นรม. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ครั้งที่ 1/2565 ณ ห้องประชุม มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5จังหวัด 

ที่ประชุมได้รับทราบ ผลการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ของ รอง นรม. ประจำปี 65 โดย รอง นรม. ได้ลงพื้นที่เพื่อมอบนโยบายและตรวจเยี่ยม พร้อมประชุม/หารือ เพื่อรับฟังปัญหา รวมถึงแก้ไขปัญหาในการดำเนินงานต่าง ๆ จำนวน 23 ครั้ง และรับทราบความก้าวหน้า ของโครงการที่ผ่านความเห็นชอบไปแล้ว จำนวน 1,513 โครงการ วงเงิน 1,800 ล้านบาทเศษ ซึ่งเป็นไปตามแผนงาน อย่างน่าพอใจ ภายใต้นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล

'ชลน่าน' ชี้ 2 ป. แข่งกันลงพื้นที่แสดงความเป็นผู้นำ เชื่อ!! 'บิ๊กป้อม' ดีกว่า 'บิ๊กตู่' ในแง่การทำงาน-เข้าถึงปชช.

เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ (6 ต.ค. 65) ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และพล.อประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่าในแง่ดีถือเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบในฐานะผู้นำจะต้องลงไปรับทราบปัญหาอย่างแท้จริง แต่ต้องระมัดระวังไม่ใช้อำนาจหน้าที่ และภาษีประชาชนไปหาแสวงหาผลประโยชน์หรือหาเสียงแอบแฝง แต่หากมองในมุมการเมืองจะพบว่าการลงพื้นที่ของทั้งสองคน เป็นการลงพื้นที่ที่พล.อ.ประยุทธ์ไปซ้ำรอย พล.อ.ประวิตร ถ้าเปรียบเป็นหรือภาษาวัยรุ่น อาจจะใช้คำว่าขิงกันหรือเป็นการแข่งขันกันทางการเมือง เพราะขณะนี้นายกฯ ตัวจริงกลับมาแล้ว

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ตนเชียร์ให้ทั้งสองคนทำแบบนี้ตลอด แม้จะเป็นเรื่องความขัดแย้งภายใน แต่ประชาชนได้ประโยชน์กับเรื่องนี้ และในอนาคต จะทำให้ภาพการเมืองชัดเจนขึ้นว่าใครเหมาะที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งส่วนตัวมองว่าพล.อ.ประวิตรถือเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าพล.อประยุทธ์ ทั้งวิธีการทำงานและการเข้าถึงประชาชน 

ดังนั้น ใครที่อยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ ก็ยากที่จะชนะการเลือกตั้ง ส่วนพรรคพลังประชารัฐจะพิจารณาส่งใครเป็นแคนดิเดตไม่ขอวิจารณ์ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพรรคนั้น ๆ

'พิธา' ร่วมวางพวงมาลารำลึก 6 ตุลา 19 เตือนรัฐอย่าทำซ้ำ เพราะจุดจบจะไม่เหมือนเดิม

'พิธา' พร้อม 'ชัยธวัช' และ 'พรรณิการ์' เป็นตัวแทน ก้าวไกล-ก้าวหน้า รำลึกเหตุการณ์สังหารณ์หมู่ 6 ตุลา ชงข้อเสนอแก้กติกา-สร้างระบบ ยุติเงื่อนไขรัฐในการปราบปราม-เข่นฆ่า-ยึดอำนาจประชาชน พร้อมเตือนชนชั้นนำอย่าคิดปลุกโมเดล 6 ตุลาอีก มั่นใจจุดจบไม่เหมือนเดิม

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล และ พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ร่วมเป็นตัวแทนพรรคก้าวไกล และคณะก้าวหน้า วางพวงมาลารำลึกครบรอบ 46 ปี เหตุการณ์ 6 ตุลา 19 โดยบนพวงมาลามีข้อความที่สอดคล้องกันคือ 'ดาวศรัทธายังส่องแสงเบื้องบน' สำหรับพวงมาลาของพรรคก้าวไกล และ 'ปลุกหัวใจปลุกคนอยู่มิวาย' บนพวงมาลาของคณะก้าวหน้า

หลังการร่วมพิธีทำบุญในช่วงเช้าตรู่และการวางพวงมาลาที่ลานปฏิมานุสรณ์ 6 ตุลา พิธาได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน โดยระบุว่าเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 คือบทเรียนว่าสังคมไทยจะต้องร่วมกันทบทวนเงื่อนไขในการปราบปรามของรัฐ การรัฐประหาร ไปจนถึงการเข่นฆ่าประชาชน ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร

พรรคก้าวไกล มีข้อเสนอทางการเมืองเพื่อให้ประเทศไทยสามารถเกิดความสมานฉันท์ ให้ความคิดที่แตกต่างกันอยู่ร่วมกันได้ในสังคมไทยจริง ๆ และเหตุการณ์อย่าง 6 ตุลา ไม่เกิดขึ้นอีก นั่นคือจะต้องมีการคืนความเป็นธรรมให้กับเหยื่อคดีการเมือง ผู้ต้องคดีการเมืองต้องได้นับการยุติการดำเนินคดี ยุติวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิด และจะต้องมีการเสาะหาข้อเท็จจริง ทั้งในเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 พฤษภา 35 และทุกเหตุการณ์การเมือง รวมถึงเหตุการณ์ในปี 2557 ด้วย

ตัวแทน 'ภูเก็ต-พังงา' ยื่นหนังสือให้ 'พรรคเพื่อไทย' เชื่อ!! นโยบายทำได้จริง พาฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจ

"พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองที่มีนโยบายที่ทำได้จริงและเป็นความหวังในการแก้ไขปัญหาให้แก่ชาวภูเก็ตได้ อย่างไรก็ตาม ภูเก็ตตอนนี้ ต้องการความช่วยเหลือในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจอย่างมาก" ตัวแทนชาวภูเก็ต-พังงา กล่าวระหว่างยื่นหนังสือถึง วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย เพื่อขอให้พรรคเพื่อไทยจัดทำนโยบายดูแลแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้จังหวัดภูเก็ต เพราะเชื่อว่าพรรคเพื่อไทย เป็นพรรคการเมืองที่สร้างนโยบายได้ ทำนโยบายได้จริง และเป็นความหวังในการแก้ไขปัญหาให้ชาวภูเก็ตได้

ตัวแทนชาวภูเก็ต ได้พูดคุยแนะนำ เสนอทำแผนนโยบายระดับภูมิภาค และระดับจังหวัด คือ 

1.) ยุทธศาสตร์เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเชิงรุก เพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวมาไทยให้มากขึ้น 
2.) พัฒนาระบบอำนวยความสะดวก เพิ่มเที่ยวบินตรงรองรับนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น 
3.) ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและระบบคมนาคมขนส่ง 
และ 4.) พัฒนาการท่องเที่ยวฮาลาล (Halal Tourism) คือพัฒนาชุมชนมุสลิมให้มีความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวมุสลิมจากประเทศรายได้สูงทั่วโลก รวมถึงพัฒนาแหล่งผลิตและส่งออกอาหารฮาลาลสู่ตลาดโลกมุสลิม เป็นต้น

'กมธ.พัฒนาการเมือง' เข้าเยี่ยมผู้ต้องขังคดี 112 ตรวจดูมาตรการ 'คุ้มครองสิทธิ-การดูแล' ผู้ต้องขัง

คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง เขตจตุจักร เพื่อดูมาตรการคุ้มครองสิทธิและการดูแลผู้ต้องขังคดีอาญา มาตรา 112 ตามหลักการของกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชน

โดยคณะอนุกรรมาธิการศึกษาผลกระทบของการใช้มาตรา 112 สภาผู้แทนราษฎร ประกอบด้วย สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส. จ.นครปฐม, ณัฐวุฒิ บัวประทุม เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ เข็มทอง ต้นสกุลรุ่งเรือง อาจารย์ด้านกฎหมายมหาชน ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เข้าเยี่ยมชมเรือนจำ เข้าพบนักโทษคดี 112 ที่ยังถูกคุมขังอยู่ เพื่อพูดคุย สอบถามกำลังใจและสภาพความเป็นอยู่ พร้อมตรวจสอบว่าได้รับการปฏิบัติตามสิทธิที่ผู้ต้องขังพึงจะได้ตามมาตรฐานสากลหรือไม่

เบญจา กล่าวว่า การเดินทางครั้งนี้เป็นไปเพื่อคุ้มครองและดูแลสิทธิเสรีภาพของผู้ต้องขัง คดี 112 คดีความมั่นคง คดีทางการเมือง ซึ่งมีการเดินทางทั้งหมด 2 วัน ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ วันที่ 4 ได้เดินทางไปยังเรือนจำธนบุรี เขตบางบอน พบกับ ศุภากร พินิจบุตร์ ผู้ต้องขังเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ 

ส่วนวันนี้ได้เดินทางมาเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลางเป็นที่สุดท้าย เพื่อพบกับสมบัติ ทองย้อย ซึ่งเป็นผู้ต้องขังที่อยู่ระหว่างรอพิจารณาคดี รวมถึง พรชัย (แซม) และเยาวชนกลุ่มทะลุฟ้า ทะลุแก๊ส 

เบญจา ระบุว่า ได้สอบถาม สมบัติ ทองย้อย ถึงชีวิตความเป็นอยู่ในเรือนจำและเรื่องสุขภาพ รวมถึงสถานการณ์ภายในและภายนอกเรือนจำ รวมถึงสิทธิเสรีภาพของ สมบัติ ในเรือนจำ

จากนั้นคณะฯ ได้เข้าเยี่ยม อัญชัญ ปรีเลิศ ซึ่งเป็นนักโทษเด็ดขาดในคดี 112 ดังนั้นเงื่อนไขในการเข้าเยี่ยมจึงจะมีความแตกต่าง ไม่เหมือนกับกรณีอื่นๆ อัญชัญ ได้สะท้อนให้เห็นว่า ขณะนี้ตนได้รับการดูแลในฐานะเป็นนักโทษสูงอายุ ซึ่งมีโรคประจำตัวที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ขวัญและกำลังใจค่อนข้างดี ได้รับการพิจารณาจัดลำดับชั้นอยู่ในนักโทษชั้นเยี่ยม จากโทษเดิมที่ต้องจำคุกทั้งสิ้น 40 กว่าปี จะลดลงมาเหลืออยู่ 10 ปีเศษ ซึ่งต้องดูเงื่อนไขในทางกฎหมายต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร

ด้านณัฐวุฒิ เผยว่า สำหรับผู้มาเข้าเยี่ยมในวันนี้นอกเหนือจากคณะอนุกรรมาธิการ ที่มาในนามสถานแทนราษฎร ยังมีผู้แทนจาก แอมเนสตี้อินเตอร์เนชันแนล ประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อเยี่ยมผู้ต้องขังว่าเป็นอย่างไร และได้รับการปฏิบัติอย่างเหมาะสมหรือไม่ มีเงื่อนไขหรือปัจจัยที่แตกต่างจากกรณีอื่น ๆ หรือไม่ จากนั้นจะนำข้อมูลที่ได้ใน 2 วันนี้ เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ เพื่อจัดทำเป็นรายงานต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการสนทนากับ สมบัติ นั้น น.ส.เบญจา ได้หยิบยกบทกวีที่นายแซม พรชัย ได้เคยกล่าวให้ผู้ต้องหาคดี 112 ทุกครั้ง ในกิจกรรม "ยืนหยุดขัง" มากล่าวให้นายสมบัติ ทองย้อย ฟัง โดยมีใจความดังนี้...

'เพื่อไทย' ระดมส.ส. ให้ความรู้กฎเหล็ก กกต. ชี้!! ต้องระมัดระวัง แต่อย่ากลัวจนทำอะไรไม่ได้

พรรคเพื่อไทย จัดโครงการให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งและนโยบายพรรค ที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2565 ที่ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกประกาศเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2565 รวมทั้งร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ในส่วนของมาตราที่เกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.บางส่วน ที่ผู้สมัครและพรรคการเมืองจะต้องปฏิบัติตาม ในช่วง 180 วัน นับตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2565 ก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรจะครบวาระในวันที่ 23 มีนาคม 2566 โดยมี ส.ส. ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. คณะทำงานด้านกฎหมาย และคณะทำงานด้านบัญชีของผู้สมัคร สมาชิกพรรค เข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก 

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การจัดโครงการในวันนี้ เพื่อให้ผู้บริหาร ส.ส. บุคลากรทางการเมืองและสมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้มีความรู้ความเข้าใจในข้อกฎหมาย และระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยเฉพาะวิธีการหาเสียง และข้อห้ามในการหาเสียง เพื่อจะได้ปฏิบัติถูกต้อง ป้องกันการถูกร้องคัดค้านในการเลือกตั้ง โดยจัดให้ความรู้ด้านบทบัญญัติกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ทั้ง พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต.พ.ศ. 2560 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 ระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียง เลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 และแก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2565 รวมทั้งระเบียบ กกต.อีกหลายฉบับ  

ทั้งนี้มีหลายเรื่องที่น่าสงสัย เช่น การวางพวงหรีด ดอกไม้สด ดอกไม้แห้ง อะไรทำได้ หรือไม่ได้ ซึ่งการจัดโครงการในวันนี้จะมีการเปิดให้สมาชิกพรรคเปิดให้แลกเปลี่ยน สอบถามรายละเอียดอย่างเต็มที่เพื่อให้คลายข้อสงสัย 

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การจัดโครงการในวันนี้ เป็นการให้ความรู้เพื่อเตรียมความพร้อมในการดำเนินการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งถือว่าเข้าใกล้สู่ฤดูกาลเลือกตั้ง หากเกิดกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่ได้ยุบสภา และให้มีการเลือกตั้งทั่วไปโดยครบอายุสภาผู้แทนราษฎร ซึ่ง กกต.ได้กำหนดวันเลือกตั้งอย่างช้าที่สุดคือวันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม 2566 และหากนับระยะเวลาการหาเสียงที่ต้องอยู่ภายใต้ระเบียบกฎเกณฑ์ และข้อห้ามในการหาเสียงที่เข้มงวด นับจากวันที่ 24 กันยายน 2565 คิดเป็นจำนวนทั้งสิ้น 224 วัน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานและส่งผลต่อความได้เปรียบ-เสียเปรียบ ในการหาเสียงระหว่างพรรคการเมืองและผู้สมัครรับเลือกตั้งที่เป็นฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านหรือไม่

'ชลน่าน' เตรียมยื่นซักฟอก ครม. สมัยประชุมหน้า มั่นใจ!! 'บิ๊กตู่' ยุบสภา หลังจบงานเอเปกแน่นอน

เมื่อวันที่ (5 ต.ค. 65) ที่โรงแรม เอสซีปาร์ค นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมการเตรียมยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า พรรคฝ่ายค้านได้ประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว พรรคมีมติชัด เมื่อเปิดสมัยประชุมวันที่ 1 พ.ย. จะเริ่มยื่นญัตติทันที ญัตตินี้เป็นเรื่องการสอบถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาให้กับคณะรัฐมนตรี (ครม.) 

เมื่อถามว่า หลังการประชุมเอเปกจะมีแนวโน้มยุบสภาหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขอขยับตัวเลขขึ้นมาร้อยละ 90 โดยเหตุผลการยุบสภาอยู่ 2 ข้อ คือ 

1.) ผู้มีอำนาจเห็นว่าตนเองได้เปรียบทางการเมือง ที่จะใช้ในการเลือกตั้งเพื่อสืบทอดอำนาจต่อไป 

2.) เป็นเรื่องประเด็นเงื่อนไขทิศทางทางการเมือง นั่นคือ ความเห็นและความต้องการของประชาชน ถ้ากระแสประชาชนต่อต้าน ไม่เห็นด้วย กับการอยู่ในตำแหน่งของนายกฯ และมีการขอคืนอำนาจ ก็จะเป็นตัวเร่งให้ตัดสินใจยุบสภา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top