Monday, 7 July 2025
POLITICS NEWS

นายกฯ สั่ง ผบ.ตร. เร่งระดมกวาดล้าง 'อาวุธปืน-ยาเสพติด' สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน

(9 ต.ค. 65) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยระดมกวาดล้างความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน และยาเสพติดแบบครบวงจรอย่างต่อเนื่อง เปิดให้ประชาชนแจ้งเบาะแส ที่สายด่วน 191,1599 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมักมีการใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุอาชญากรรมสะเทือนขวัญ และหลายครั้งที่ผู้ก่อเหตุมีอาการคุ้มคลั่งจากการเสพยาเสพติด สร้างความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้งยังสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนเป็นอย่างยิ่ง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงมีบัญชาให้ ตร. เร่งรัดปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ อาวุธปืน อย่างเร่งด่วนแบบครบวงจรและต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ให้กับประชาชน ทั้งนี้ ตร.จะมีการระดมกวาดล้างเป็นช่วง ๆ แต่ในช่วงแรกจะระดมอย่างเร่งด่วนก่อน และจะทำต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ไม่เปิดเผยว่าช่วงใดบ้าง เพื่อเป็นการป้องปรามมิให้มีการกระทำความผิดกฎหมาย 

สำหรับมาตรการในการปราบปรามอาวุธปืน จะมุ่งเน้นไปที่บุคคลผู้ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน แต่มีความประพฤติไม่เรียบร้อย หรือมีพฤติกรรมเป็นภัยต่อสังคม ต้องสืบสวนติดตามพฤติกรรมในเชิงลึก สามารถแจ้งให้นายทะเบียนเพิกถอนใบอนุญาตได้ 

นอกจากนั้นจะมีการตรวจค้นกลุ่มเสี่ยงเช่น กลุ่มวัยรุ่น เด็กแว้นที่มีพฤติกรรมชอบพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ และชอบยิงปืน นักเลงอันธพาล ที่มีพฤติกรรมก่อความวุ่นวาย ก่อความเดือดร้อน รําคาญ บุคคลที่พกพาอาวุธปืนติดตามผู้มีอิทธิพล ผู้กว้างขวาง ผู้ประมูลรับเหมางานรายใหญ่ 

บุคคลที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบ ผู้ติดตามทวงหนี้ บุคคลพ้นโทษ บุคคลที่ถูกปล่อยตัวชั่วคราว ในความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน หรือความผิดอื่นโดยใช้อาวุธปืนในการกระทําความผิด บุคคลที่มีพฤติกรรม หรือลักลอบผลิต จําหน่ายหรือขายอาวุธปืนทางอินเทอร์เน็ต (online) รวมทั้งบุคคลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดโดยเฉพาะผู้ผลิต ผู้จําหน่าย รายใหญ่ และผู้มีประวัติถูกจับกุมในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดซ้ำซาก

ในขณะเดียวกัน จะมีการตรวจค้นจับกุมแหล่งค้า ผลิต ซุกซ่อนอาวุธที่ผิดกฎหมาย แหล่งอบายมุข แหล่งมั่วสุม สถานบริการ กําหนดจุดตรวจ จุดสกัด และตั้งด่านตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะ สกัดกั้นการลักลอบขนส่งอาวุธที่ผิดกฎหมาย ทั้งทางบกและทางน้ำ สุ่มตรวจ ค้นสัมภาระรถโดยสารสาธารณะ สกัดกั้นการลักลอบซื้อขาย นําเข้า และส่งออก อาวุธผิดกฎหมายตามแนวชายแดน การปราบปรามการค้าอาวุธข้ามชาติ 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการและควบคุมสั่งการ ในเรื่องนี้ ทั้งในระดับสถานี, กองบังคับการ และกองบัญชาการ เพื่อบริหารจัดการคดีไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน วางระบบการประสานงานและส่งต่อข้อมูลอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รวมถึงให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ กวดขันควบคุมการปฏิบัติของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด 

ส่วนในด้านการปราบปรามยาเสพติดเชิงรุก จะมีการบูรณาการกับทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น สาธารณสุข เพิ่มความเข้มในการปราบปรามจับกุมผู้กระทําความผิดในพื้นที่ รวมทั้งให้มีการขยายผลและใช้มาตรการทางทรัพย์สิน ทั้งยึด อายัดทรัพย์คดียาเสพติด การฟอกเงิน ต่อผู้กระทําผิดทุกกรณี 

'อิ๊งค์' ผงาด!! นำทีมเปิดชุดนโยบายเศรษฐกิจ ชูโรดแมปบันได 4 ขั้น พาเพื่อไทยชนะแบบแลนด์สไลด์

(9 ต.ค. 65) ที่ ThinkLab พรรคเพื่อไทย (พท.) ชั้น 1 แกนนำพรรคพท.ประกอบด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคพท. นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะทำงานด้านการขจัดปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน ส.ส.พรรค และประธานคณะทำงานด้านวางระบบเกษตรกรรม นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคและคณะทำงานด้านยกเครื่องเศรษฐกิจ น.ส.ณหทัย ทิวไผ่งาม กรรมการบริหารพรรคและประธานคณะทำงานด้านการส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันของประเทศและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานคณะทำงานด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม เปิดตัวนโยบายเพื่อไทย เพื่อชัยชนะแบบแลนด์สไลด์ ในงานฟอรั่มนโยบายครั้งที่ 1

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ จะเป็นกุญแจดอกเดียวที่จะช่วยพี่น้องประชาชนให้มีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นและลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง พรรคพท.ได้เตรียม 3 เสาหลักสู่ชีวิตใหม่ของประชาชนพร้อมแล้วคือ 1. ผู้แทนราษฎรที่เข้าถึงพื้นที่ เข้าใจประชาชน 2. นโยบายที่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาและทำได้จริงตามที่สัญญาไว้ และ 3. ผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีศักยภาพและความสามารถ ประชาชนสามารถฝากความหวังและมอบความไว้วางใจนำพาประเทศพ้นวิกฤต ซึ่งพท.จัดงานขึ้นเพื่อเปิดตัวเสาหลักนโยบายชุดนโยบายชุดเศรษฐกิจภายใต้แนวคิด “พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อรายได้ใหม่ของประชาชน” ส่วนนโยบายชุดอื่น ๆ จะมีการเปิดตัวในลำดับถัดไป ประชาชนไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ประเทศไทยอยู่ในวิกฤต ประชาชนเป็นทุกข์เพราะรายได้น้อย เป็นหนี้ ไม่มีกำลังซื้อ ร้านค้าขายของไม่ได้ โรงงานผลิตไม่ได้ ไม่จ้างงาน รัฐก็เก็บภาษีไม่ได้ รัฐบาลประยุทธ์แก้หนี้ด้วยการสร้างหนี้ แต่เพื่อไทยคิดต่าง เราจะทำให้เศรษฐกิจดีด้วยรายได้ใหม่ เราจะแก้หนี้ด้วยการสร้างรายได้ และรายได้นั้นจะต้องเป็นรายได้ใหม่ที่เพิ่มขึ้นให้กับคนทุกกลุ่ม ประเทศและประชาชนจะต้องถูกปลดปล่อยศักยภาพที่ซ่อนเร้นอยู่มากมาย พท.วางทิศโดยมีเป้าเพื่อกอบกู้สถานการณ์ย่ำแย่ของประเทศไทย ขอให้เชื่อมั่นว่าพท.ทำได้จริง เพราะเราทำสำเร็จมาแล้วในอดีต ประชาชนไทยจะต้องอยู่ดีกินดีอีกครั้ง

นายวิสุทธิ์ กล่าวนำเสนอนโยบายผ่าตัดเกษตรกรรม รดน้ำที่ราก สร้างเงินจากดิน พลิกเปลี่ยนชีวิตเกษตรกรให้หายจนอย่างถาวรว่า การเกษตรจะต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ด้วยหลักการตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ คือผลิตสิ่งที่ตลาดต้องการ ใช้ความรู้และเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อลดต้นทุนเพิ่มผลผลิต พร้อมหาโอกาสใหม่ ๆ เช่น ใช้ความรู้สมัยใหม่เพิ่มผลผลิตจากพืชที่ปลูกอยู่แล้ว อาทิ ข้าว และยาง ผลิต และพืชอาหารสัตว์ อาทิ ข้าวโพด ถั่วเหลือง เพื่อทดแทนการนำเข้าและขยายการส่งออกด้วยโครงการโคขุนเงินล้าน สำหรับการบรรเทาทุกข์ระยะเร่งด่วน นโยบายพักหนี้เกษตรกร พร้อม ๆ กับการสร้างรายได้จะถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ด้วยโครงการบำนาญเกษตรกร ซึ่งจะทำเพื่อดูแลเกษตรกรรุ่นบุกเบิกและดึงดูดเกษตรกรรุ่นใหม่ เปลี่ยนเงินให้เปล่าเป็นต้นทุนสร้างชีวิตผลิตรายได้ให้เกษตรไทยอย่างยั่งยืน โดยมีหลักทำงานคือ ดินนำ น้ำดี มีต้นพันธุ์ ยืนยันราคา จัดหาแหล่งทุน สนับสนุนกรรมสิทธิ์ มีเป้าเปลี่ยนผืนแผ่นดินเดิมจากที่เคยสร้างรายได้ 10,000 บาท/ไร่/ปี เพิ่มเป็น 30,000 บาท/ไร่/ปี

นายเผ่าภูมิ กล่าวนำเสนอนโยบายเขตธุรกิจใหม่ (New Business Zone; NBZ) ดึงเงินนอก ปลุกเงินใน เปลี่ยนเงินที่หลับใหลเป็นเงินที่สร้างเงิน ด้วยเขตธุรกิจใหม่ 4 แห่ง คือ เชียงใหม่, กรุงเทพ, ขอนแก่น, และหาดใหญ่ โดยพรรคพท.จะเดินหน้าสร้างกุญแจ 3 ดอกให้กับประเทศ คือกุญแจดอกที่ 1 กฎหมายธุรกิจชุดใหม่ เพื่อปลดล็อกปัญหาการทำธุรกิจในทุกมิติ รวมถึงดึงการลงทุนจากต่างชาติ เข้าแก้ปัญหาทั้งด้านใบอนุญาต แรงงาน นำเข้าส่งออก และการธุรกรรมระหว่างประเทศ กุญแจดอกที่ 2 สิทธิประโยชน์ใหม่ ภาษีจากกำไร ภาษีเงินได้ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงภาษีนำเข้าจะได้สิทธิประโยชน์ไม่แพ้ที่ใดในโลก กุญแจดอกที่ 3 ระบบนิเวศน์ใหม่ โดยการสร้างสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ระบบการศึกษาและการผลิตคนใหม่ และระบบธนาคารใหม่ เป็นกองหลังเพื่อผลักกองหน้าซึ่งได้แก่ภาคเอกชนให้ขับเคลื่อนได้ โดยกุญแจทั้ง 3 ดอกจะถูกสร้างขึ้นในเขตธุรกิจใหม่ และรายได้ใหม่จะถูกสร้างให้กับประชาชน

นายสุทิน กล่าวนำเสนอนโยบายเงินโอน คนสร้างตัว (Earned Income Tax; EIT) ว่า พรรคพท.ต่อสู้กับความจนเพื่อประชาชนมาอย่างยาวนาน นโยบายของพรรคไทยรักไทยและพลังประชาชนจนมาถึงเพื่อไทยพิสูจน์แล้ว ว่าได้ช่วยลดความยากจนลงได้อย่างต่อเนื่อง เราเริ่มคิดจากนโยบายที่ทำได้จริง โดยเงินโอน คนสร้างตัวจะทำให้ผู้มีรายได้น้อยเกินกว่าจะดำรงชีพ จะได้รับเงินภาษีแทนการจ่ายเงินภาษี จนกระทั่งมีความมั่นคงและสร้างตัวได้ ส่วนการจัดสรรความช่วยเหลือทางการเงิน จะเน้นไปที่กลุ่มที่มีความจำเป็นมากที่สุด ซึ่งประเด็นสำคัญที่สุดของนโยบายนี้ คือการสร้างแรงจูงใจให้คนทำงานเข้ามาในระบบและมีโอกาสพัฒนาสร้างตัวเองไปด้วย

น.ส.ณหทัย กล่าวนำเสนอนโยบายเรียนรู้มีรายได้ เรียนรู้ง่าย ตลอดชีวิต (Lifelong Learning Lifelong Earning) ว่า พท.จะสร้างแพลตฟอร์มจับคู่สมรรถนะของคนเข้ากับงานที่ใช่ เพื่อช่วยให้มีงานทำเร็วที่สุด ตรงกับสมรรถนะของตนเองมากที่สุด สร้างรายได้ที่ดีที่สุด โดยในแพลตฟอร์มนี้ผู้ใช้จะสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ที่หลากหลายได้ตลอดเวลา สะสมเครดิตการเรียน และเทียบคุณวุฒิเพื่อไปต่อยอดการทำงานโดยไม่มีวันหมดอายุ นอกจากนี้ข้อมูลจากแพลตฟอร์มนี้จะถูกนำมาใช้ เพื่อเป็นยุทธศาสตร์ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อให้ประเทศไทยและคนไทยแข่งขันได้ในเวทีโลกอย่างไม่ด้อยกว่าชาติใด นอกจากนี้เราจะฟื้นนโยบายแจกแทปเล็ตเพื่อการศึกษาและอินเทอร์เน็ตตำบลในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ มาใช้อีกครั้ง

ด้าน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า นโยบายของพรรคพท.จะดำเนินการด้วยโรดแมป “บันได 4 ขั้นเพื่อหมุดหมายชีวิตใหม่ของประชาชน” ดังนี้...

'อนุทิน' สั่งดูแลผู้ใช้สิทธิบัตรทองใน 9 รพ.เอกชน ยัน!! ต้องได้รับการรักษาต่อเนื่อง ตั้งแต่ 10 ต.ค.นี้

(9 ต.ค. 65) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้มีการยกเลิกสัญญาการให้บริการปฐมภูมิ ประจำ และรับส่งต่อทั่วไปกับ โรงพยาบาลเอกชน 9 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ ประกอบด้วย ได้แก่ รพ.มเหสักข์, รพ.บางนา1, รพ.ประชาพัฒน์, รพ.นวมินทร์, รพ.เพชรเวช, รพ.ผู้สูงอายุกล้วยน้ำไท2, รพ.แพทย์ปัญญา, รพ.บางมด และ รพ.กล้วยน้ำไท เนื่องจากตรวจสอบพบว่ามีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขไม่ถูกต้อง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ (1 ต.ค. 65) เป็นต้นมา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้ติดตามการดูแลผู้ใช้สิทธิบัตรทองในโรงพยาบาลทั้ง 9 แห่ง อย่างใกล้ชิด พร้อมย้ำว่า สปสช. ได้หารือกับโรงพยาบาลทั้ง 9 แห่ง และกรุงเทพมหานคร และมีมาตรการรองรับเพื่อให้ประชาชนยังได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่ระหว่างการรักษา รวมถึงมีช่องทางเลือกหน่วยบริการใหม่โดยสะดวก

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ (10 ต.ค. 65) เป็นต้นไป สปสช. จะเปิดให้ประชาชนที่หน่วยบริการปฐมภูมิและประจำถูกยกเลิกซึ่งมีอยู่ประมาณ 2.3 แสนคน จากโรงพยาบาล 7 แห่ง ประกอบด้วย รพ.ประชาพัฒน์, รพ.นวมินทร์, รพ.เพชรเวช, รพ.ผู้สูงอายุกล้วยน้ำไท2, รพ.แพทย์ปัญญา, รพ.บางมด และ รพ.กล้วยน้ำไท สามารถเลือกหน่วยบริการใหม่ได้ผ่าน 4 ช่องทาง ประกอบด้วย 1. แอปพลิเคชัน สปสช. เลือกเมนูลงทะเบียนเปลี่ยนหน่วยบริการ 2. ไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso เลือกเมนู เปลี่ยนหน่วยบริการด้วยตนเอง 3. สายด่วน สปสช. โทร.1330 และ4. ลงทะเบียนเปลี่ยนหน่วยบริการด้วยตนเองได้ที่ที่ทำการของ สปสช. ชั้น 2 อาคารบี ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สปสช. ได้แจ้งว่าประชาชนที่ต้องเลือกหน่วยบริการปฐมภูมิและประจำใหม่ครั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ ให้พิจารณาหน่วยบริการที่ใกล้บ้านหรือสะดวกก่อนตัดสินใจเลือก สามารถตรวจสอบรายชื่อหน่วยบริการใกล้บ้านได้ที่เว็บไซต์ สปสช. http://mscup.nhso.go.th/mastercup/ หรือสอบถามสายด่วน สปสช. 1330 ซึ่งระหว่างที่ยังไม่ได้เลือกหน่วยบริการใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นผู้มีสถานะ 'สิทธิว่าง' นี้ สปสช. ได้หารือกับหน่วยงานเกี่ยวข้องจัดเตรียมหน่วยบริการไว้รองรับแล้ว

'นิด้า' เผยโพล คนอีสาน ยก 'อุ๊งอิ๊ง' ยืนหนึ่ง นั่งนายกรัฐมนตรี ยก 'พิธา' เป็นที่สอง

(9 ต.ค. 65) ศูนย์สำรวจความคิดเห็น 'นิด้าโพล' สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “คนที่ใช่ พรรคที่ชอบ ของคนอีสาน” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 3-6 ตุลาคม 2565 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กระจายทุกระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,000 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับคนที่ใช่ พรรคที่ชอบ ของคนอีสาน การสำรวจอาศัย การสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ 'นิด้าโพล' สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0

จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่คนอีสานจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 36.45 ระบุว่าเป็น

น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊งค์) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) เพราะ เป็นคนรุ่นใหม่ ชื่นชอบพรรคเพื่อไทย นโยบายของพรรคทำได้จริง ขณะที่บางส่วนระบุว่า ชื่นชอบผลงานของตระกูลชินวัตร

อันดับ 2 ร้อยละ 12.65 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) เพราะ เป็นคนรุ่นใหม่ ชื่นชอบการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร เป็นคนมีวิสัยทัศน์ ขณะที่บางส่วนระบุว่า ชื่นชอบนโยบายและอุดมการณ์ทางการเมืองของพรรคก้าวไกล

อันดับ 3 ร้อยละ 10.20 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) เพราะ มีประสบการณ์ด้านการบริหาร ชื่นชอบนโยบายของพรรค ซื่อสัตย์สุจริต ขณะที่บางส่วนระบุว่า ต้องการเปิดโอกาสให้ผู้หญิงเข้ามาบริหารประเทศ และยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้

ในสัดส่วนที่เท่ากัน อันดับ 4 ร้อยละ 9.85 ระบุว่าเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะ ซื่อสัตย์สุจริต ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบ และต้องการให้บริหารประเทศอย่างต่อเนื่อง อันดับ 5 ร้อยละ 6.50 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) เพราะ เป็นคนตรงไปตรงมา มีความซื่อสัตย์สุจริต และชื่นชอบวิธีการทำงาน อันดับ 6 ร้อยละ 3.95 ระบุว่าเป็น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว (พรรคเพื่อไทย) เพราะ ชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา เป็นคนที่พูดจริงทำจริง และชื่นชอบพรรคเพื่อไทย อันดับ 7 ร้อยละ 2.80 ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) เพราะ ชื่นชอบวิธีการทำงาน และชื่นชอบนโยบายของพรรคภูมิใจไทย ขณะที่บางส่วนระบุว่า เป็นคนลงพื้นที่ดูแลประชาชนอย่างต่อเนื่อง อันดับ 8 ร้อยละ 1.75 ระบุว่าเป็น นายกรณ์ จาติกวณิช (พรรคชาติพัฒนากล้า) เพราะ มีความรู้ มีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ เป็นผู้มีประสบการณ์ด้านการบริหาร และชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา

อันดับ 9 ร้อยละ 1.30 ระบุว่าเป็น ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ (พรรคสร้างอนาคตไทย) เพราะ มีความรู้ มีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ ขณะที่บางส่วนระบุว่า เชื่อมั่นในการทำงาน และร้อยละ 4.35 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ (พรรคพลังประชารัฐ) น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์) นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ (พรรคไทยศรีวิไลย์) นายเทวัญ ลิปตพัลลภ (พรรคชาติพัฒนากล้า) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม (พรรคไทยภักดี) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (พรรคประชาธิปัตย์) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ) นายวราวุธ ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา) ดร.สุทิน คลังแสง (พรรคเพื่อไทย) และไม่ตอบ/ไม่สนใจ

'ชลน่าน' ยกทัพ 'เพื่อไทย' ซับน้ำตาชาวขอนแก่น หลังน้ำท่วมยาว ขาดอาหารและยา รัฐไม่เหลียว

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรค วันนิวัติ สมบูรณ์ ส.ส.ขอนแก่น มุกดา พงษ์สมบัติ ส.ส.ขอนแก่น ภาควัต ศรีสุรพล ส.ส.ขอนแก่น บัลลังก์ อรรณนพพร ส.ส.ขอนแก่น สรัสนันท์ อรรณนพพร ส.ส.ขอนแก่น พชรกร อรรณนพพร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น วิภาณี ภูคำวงศ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น สุรพจน์ เตาะเจริญสุข ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น รวมทั้งสมาชิกครอบครัวเพื่อไทย เยี่ยมเยือนให้กำลังใจ พร้อมรับฟังปัญหาจากพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัย และรับฟังเสียงสะท้อนจากผู้นำชุมชนและพี่น้องประชาชนใน 3 จุด จุดที่ 1 บ้านเมืองเพีย ต.เมืองเพีย อ.บ้านไผ่ จุดที่ 2 บ้านท่าข่อยใต้ ต.ชนบท อ.ชนบท จุดที่ 3 บ้านวังเวิน ต.ศรีบุญเรือง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า จากการพูดคุยรับฟังปัญหา พี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยในขณะนี้ต้องการให้รัฐบาลเร่งชดเชยเยียวยาพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมเต็มพื้นที่ บ้านเรือนพี่น้องประชาชนถูกน้ำท่วมมิดหลังคาเรือนเสียหายทั้งหมด ขณะที่ถนนหลัก ถนนรอง ทางเข้าหมู่บ้าน พนังกั้นน้ำ ได้รับความเสียหาย หลังจากน้ำลดแล้วอยากให้รัฐบาลเร่งเข้ามาซ่อมแซมสาธารณูปโภคเหล่านี้โดยด่วน

ทั้งนี้เมื่อครั้งที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เมื่อครั้งที่เกิดอุทกภัยในปี 2554 รัฐบาลเพื่อไทยเยียวยาพี่น้องประชาชน อย่างทันการณ์และเท่าเทียม ครัวเรือนละ 5,000 บาท จึงอยากให้รัฐบาลเร่งดำเนินการในเรื่องนี้ด้วย

'ชลน่าน' ไม่เชื่อ!! ดีลลับดูไบมีจริง ย้ำ!! ใครจะเข้าพรรค ต้องฟังเสียงรอบด้าน ยึดประโยชน์ ปชช.เป็นหลัก

(9 ต.ค. 65) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค พท. ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าวดีลลับระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ที่จะนำส.ส.พรรคศท.ย้ายกลับมาอยู่กับพรรค พท.ว่า ไม่เชื่อว่าเรื่องนี้มีอยู่จริง เพราะข่าวแบบนี้มีมาตลอด แต่ก็คงต้องเฝ้าระวังว่าใครประสงค์ร้ายกับพรรค พท. และเรายึดหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ การจะนำใครเข้ามาอยู่ในพรรคนั้นมีกลไก ที่สำคัญคือพรรค พท.เป็นพรรคของประชาชน เราต้องได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกพรรคที่มีอุดมการณ์เดียวกับพรรค แม้คนที่ไม่ใช่สมาชิกพรรค แม้มีความคิดเห็นอย่างไร เราก็ฟังความคิดเห็นตลอด ฉะนั้นการจะทำกิจกรรมอะไรต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ และต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของพรรคเป็นลำดับชั้น สุดท้ายก็จะเป็นคณะกรรมการบริหารพรรคที่จะต้องมาพิจารณา 

เมื่อถามว่าโอกาสที่กลุ่มร.อ.ธรรมนัสจะกลับเข้ามาพรรค พท. เป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนขอไม่แสดงความเห็น เพราะพรรคการเมืองแต่ละพรรคมีแนวทางของตัวเอง พยายามจะแสวงหาโอกาสในการที่จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้ได้มากที่สุด ส่วนเขาจะเลือกทางไหนก็แล้วแต่แนวทางของพรรค

‘ชัชชาติ’ ปลื้ม!! 'บิ๊กป้อม' รับเรื่องเร่งรัดทุกหน่วยเกี่ยวข้อง ฟาก ‘กรมชลฯ’ เคาะแผนทางด่วนน้ำ ช่วยระบายให้ได้ตามเป้า

‘ชัชชาติ’ ปลื้ม บิ๊กป้อมรีบรับเรื่อง ไม่เกี่ยง ‘กรมชลฯ’ เคาะแผนทางด่วนน้ำ ขอแค่ช่วยระบายตะวันออก กทม. ให้ได้ตามเป้า 50 ลบ.ม./วินาที ไม่จำกัดเวลา

เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 8 ตุลาคม ที่สำนักงานเขตดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ในกิจกรรม “ผู้ว่าฯ กทม. สัญจร เขตดินแดง” โดยเปิดเผยถึงการประชุมกับ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 2/2565 ร่วมกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ (7 ต.ค.)

นายชัชชาติกล่าวว่า กทม.มีความกังวลเรื่องการระบายน้ำกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก จึงมีการเสนอแผนทำทางด่วนระบายน้ำ โดยการสร้างอุโมงค์จากเขตลาดกระบัง ลงไปยังคลองร้อยคิว ซึ่งระบายน้ำออกได้ 50 ลบ.ม./วินาที และอยู่พื้นนอกที่ของ กทม. แต่ทางกรมชลประทาน เสนอแผนให้ระบายน้ำในปริมาตรเท่ากัน จากคลองประเวศบุรีรมย์ ไปยังคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต โดยจะเป็นการสร้างคันกั้นน้ำแทน

“ทางกรมชลประทานยืนยันให้เราได้ในปริมาตรที่เท่ากัน และเขารู้สึกว่าทางนี้ดีกว่า ก็คงต้องฟังเขา เพราะเขาเป็นเจ้าของพื้นที่ อย่างไรก็ตาม เรายืนยันว่าต้องมีการระบายน้ำออกจากพื้นที่ลาดกระบังได้เร็วจากทางอื่น ที่นอกเหนือจากการเข้ามาที่คลองพระโขนง” นายชัชชาติกล่าว

นายชัชชาติกล่าวต่อว่า ส่วนโครงการเพิ่มเติมเร่งด่วนที่ กทม.เสนอไป ได้แก่การปรับปรุงสถานีสูบน้ำพระโขนง เพิ่มประสิทธิภาพการสูบน้ำให้ดีขึ้น ต่อมา คือการสร้างเขื่อนตามแนวคลองประเวศบุรีรมย์ตอนปลาย ด้านพระโขนง ให้ครบถ้วน  เพราะปัจจุบันมีเขื่อนไม่ครบทุกแนว ทำให้น้ำท่วมย่านพัฒนาการ โดยแผนที่เสนอไปจะอยู่ในปีงบประมาณ พ.ศ.2567-2568 ซึ่งก่อนถึงปีงบประมาณนั้น ทาง กทม.จะทำการขุดลอกคลองเพิ่มเติม

'ชัยวุฒิ' วอนอย่าแชร์ภาพเหยื่อ หากพบแจ้ง DES ปิดกั้นทันที ชี้!! นาทีนี้สังคมต้องช่วยกัน ไม่ใช่เฉพาะรัฐบาลเท่านั้น

'ชัยวุฒิ' รับไม่สบายใจ ปมโศกนาฏกรรมหนองบัวลำภู วอนอย่าแชร์ภาพเหยื่อ หากพบแจ้ง DES ปิดกั้นทันที ชี้ สังคมต้องช่วยกันไม่ใช่เฉพาะ รบ.เท่านั้น พร้อมเห็นด้วยฝ่ายค้านเปิดสมัยวิสามัญ ถก ยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ขออย่ามองเป็นเกมการเมือง

(8 ต.ค. 65) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จังหวัดหนองบัวลำภู ว่า ตนไม่สบายใจ อยากฝากพี่น้องประชาชนว่าต้องเคารพสิทธิ์ของผู้เสียชีวิต ในการแชร์ภาพที่ไม่เหมาะสมในโซเชียล ที่สำคัญความรู้สึกของทุกคนค่อนข้างหดหู่ โดยรัฐบาลต้องเร่งเยียวยาครอบครัวผู้ที่เคราะห์ร้ายอย่างเต็มที่ สิ่งสำคัญคือการวางแผนในอนาคตเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต โดยเฉพาะเรื่องจิตใจของผู้ที่มีปัญหา โรคซึมเศร้า โรคจิตเภทต่างๆ ต้องมีการวางมาตรการควบคุมดูแลให้ดีกว่านี้ นอกจากนี้ ยังต้องมีการควบคุมเรื่องการพกพาอาวุธ ยาเสพติด 

“คือเราจะอยู่ร่วมกับคนที่ปัญหาแบบนี้อย่างไร ผมว่าต้องมาพูดคุยกันทุกภาคส่วน คงไม่ใช่ของรัฐบาลอย่างเดียว เพราะว่าเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตด้วย เพราะคนเหล่านี้ คนที่มีปัญหาทางจิต บางทีเขากินยา เขาก็ดูปกติ เหมือนว่ากินยาคุมไว้ บางทีเครียดหรือหมดฤทธิ์ยา ก็อาจมีอารมณ์คุ้มคลั่ง ซึ่งมันก็มีอยู่เรื่อยๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมไทยก็ต้องช่วยกันดูแล”

'เพื่อไทย' ชี้ 'ตำรวจ-ทหาร' ก่อเหตุกราดยิงใน 'รบ.ประยุทธ์' บ่อยครั้ง สะท้อนปฏิรูปล้มเหลว จี้!! ต้องจัดการอย่างจริงจัง ก่อนรบ.สิ้นอายุขัย

เมื่อวันที่ 8 ต.ค. น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุโศกนาฏกรรมที่ จ.หนองบัวลำภูเมื่อวันที่ 6 ต.ค.โดยเฉพาะผู้ปกครองของบุตรหลาน บิดา มารดาผู้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูบุตรหลานอันเป็นที่รักยิ่ง และขอประณามการก่อเหตุที่ใช้ความรุนแรง ไร้จิตสำนึก ไร้มนุษยธรรม และไม่สมควรอย่างยิ่งที่เหตุการณ์ความรุนแรงเช่นนี้จะเกิดขึ้นในสังคมไทย หลายเหตุการณ์ความรุนแรงในลักษณะเจ้าหน้าที่รัฐ หรืออดีตเจ้าหน้าที่รัฐใช้อาวุธปืนทำร้ายประชาชนเช่นนี้ เกิดขึ้นในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่เคยประกาศไว้หลังรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อปี 2557 ว่าจะปฏิรูปตำรวจ พล.อ.ประยุทธ์กำกับดูแลทั้งกระทรวงกลาโหมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่สามารถที่จะหนีความรับผิดชอบไปได้

'ชัยวุฒิ' ตรวจน้ำท่วมปทุมธานี เผย รบ.เตรียมผันน้ำลงทุ่ง ชี้!! ที่ลุ่มต้องทำใจ รับคุยชาวบ้านแล้ว ต้องเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขกัน

'ชัยวุฒิ' ตรวจน้ำท่วมปทุมธานี ชี้ ระดับน้ำยังคุมได้ มองจังหวัดเตรียมแผนรับมือดีเยี่ยม สิ่งสำคัญต้องอย่าให้ท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ รับที่ลุ่มต่ำต้องทำใจ เผย รบ.เตรียมผันน้ำลงทุ่ง บอกคุยกับชาวบ้านแล้ว ต้องเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขกัน

(8 ต.ค.65) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ติดตามสถานการณ์อุทกภัยที่จังหวัดปทุมธานี พร้อมเยี่ยมผู้ประสบภัย ณ องค์การบริหารส่วนตำบลกระแซง

โดยนายชัยวุฒิ ระบุว่า วันนี้ตนได้รับมอบหมายจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมจังหวัดปทุมธานี ตนรับทราบว่าตอนนี้ระดับน้ำท่วมสูงมาก หลายจุดข้ามคันกั้นน้ำเจ้าพระยา ไปท่วมในพื้นที่เศรษฐกิจ เท่าที่ลงพื้นที่ ตอนนี้ยังอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ ตน ขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนชาวปทุมธานีว่ายังไม่ต้องเป็นห่วง สถานการณ์น้ำยังป้องกันได้ ตอนนี้น้ำท่วมแค่พื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่ง ตนต้องขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่สามารถป้องกันน้ำได้เป็นอย่างดี

นายชัยวุฒิ บอกอีกว่า จังหวัดปทุมธานีวางแผนการรับมือน้ำท่วมได้เป็นอย่างดี โดยยังไม่มีรายงานปัญหา เรื่องการตัดน้ำหรือไฟฟ้า ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีความพร้อมมาก มองว่าพื้นที่น้ำท่วมส่วนใหญ่มีความคุ้นชินอยู่แล้ว เพราะการอยู่นอกคันกั้นน้ำหรือผนังกั้นน้ำ เวลาน้ำล้นตลิ่ง จะเป็นชุมชนที่ได้รับปัญหาก่อนอยู่แล้ว แต่นโยบายหลักของรัฐบาลคือต้องทำไม่ให้น้ำข้ามไปท่วมในพื้นที่เศรษฐกิจ ซึ่งจะสร้างความเสียหายมาก

ทั้งนี้ ทางรัฐบาลและจังหวัดปทุมธานีก็ร่วมมือกันได้อย่างดีไม่มีปัญหา มันอยู่ที่ปริมาณน้ำด้วยว่า น้ำที่ไหลออกมาจากทางภาคเหนือ ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีปริมาณเพิ่มขึ้น แต่เท่าที่ดูจากกรมชลประทานและสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ก็มีข้อมูลว่าช่วงสัปดาห์นี้น่าจะเป็นจุดสูงสุดแล้ว หากเราผ่านจุดนี้ไปได้ก็ไม่มีปัญหาแล้ว

ส่วนการนำข้อมูลกลับไปหารือกับคณะรัฐมนตรี เพื่อแก้ปัญหาระยะยาว นายชัยวุฒิ ระบุว่าจะนำไปหารือคณะรัฐมนตรี แต่ยอมรับว่าพื้นที่ลุ่มต่ำบางทีอาจต้องยอมรับสภาพเพราะไม่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้ 

“พื้นที่ที่อยู่ริมแม่น้ำหรือพื้นที่ลุ่มต่ำก็ต้องยอมรับสภาพว่าบางทีมันไม่สามารถป้องกันได้ แต่เราต้องมองว่าภาพรวมเราต้องมีระบบป้องกันน้ำท่วมที่ป้องกันพื้นที่ชุมชนพื้นที่เศรษฐกิจหรือพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่ให้เสียหาย เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของคนส่วนใหญ่สามารถดำเนินการได้ตามปกติสุข แต่ส่วนบางพื้นที่ที่เราต้องการไม่ได้จริงๆ เราก็จะดูแลเยียวยาให้มากที่สุด”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top