Monday, 30 June 2025
POLITICS NEWS

เพื่อไทย จี้ ‘บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม’ เคลียร์ปมสัญญาบอลโลก ชี้!! กกท. เอื้อนายทุนเจ้าเดียว - ปชช. ถูกลิดรอนสิทธิ์

(24 ธ.ค. 65) นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ขอเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เร่งสะสางปมปัญหาการถ่ายทอดสัญญาณการแข่งขันฟุตบอลโลก แม้การถ่ายทอดสดจะจบสิ้นลงไปแล้ว แต่ปัญหาเรื่องการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ยังไม่จบ เพราะการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ซึ่งเป็นหน่วยงานในการกำกับดูแลของรัฐ มีการทำสัญญาให้สิทธิ์ขาดในการถ่ายทอดแก่เอกชนรายหนึ่ง ซึ่งไม่เป็นไปตามกฎ must carry ของ กสทช. เป็นเหตุให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยถูกลิดรอนสิทธิ์ในการรับชมอย่างไม่เป็นธรรม จนสังคมตั้งคำถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการเอื้อประโยชน์นายทุนหรือไม่ เรื่องนี้ต้องมีผู้รับผิดชอบ อย่าแกล้งปล่อยให้เงียบหายโดยไร้ข้อสรุป

โหรดังทำนาย!! ปี 66 ‘บิ๊กตู่’ ชีวิตติดดาว พุ่งแรงกว่าใคร ‘เสี่ยหนู’ ไม่น้อยหน้า มีแววนั่งนายกฯ 3 สมัยซ้อน

อย่างที่เราทราบๆ กันดีอยู่ว่าประเทศไทยอยู่ในช่วงใกล้จะเลือกตั้งใหม่อีกครั้งแล้ว หลายพรรคการเมืองต่างออกมาพูดถึงเรื่องนโยบายของพรรคตัวเองเพื่อดึงคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชน กระแสตอบรับก็มีทั้งดีและแย่ปะปนกันไป แต่ไม่ว่าอย่างไรทุกพรรคก็วาดหวังว่าจะได้รับเลือกจนสามารถตั้งตัวเป็นรัฐบาลได้

นอกจากนี้ ผลสำรวจจากหลายๆ สำนักก็บ่งชี้คล้ายๆ กันว่า พรรคการเมืองบางพรรคเป็นที่นิยมชมชอบของประชาชน นักการเมืองบางคนประชาชนหวังว่าจะได้เป็นนายกฯ ส่วนบางพรรคบางคนคะแนนก็หดหาย คล้ายว่าประชาชนไม่ปลื้ม

เรื่องของผลโพลล์ก็เป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์ มีการเก็บข้อมูลก่อนจะนำมาวิเคราะห์ และสรุปเป็นผลสำรวจที่เราๆ ได้อ่านกัน แต่หากแวะไปทางเรื่องของโหราศาสตร์ อาจจะมีผลลัพธ์ที่แตกต่างจากโพลล์ก็เป็นได้ เพราะอย่างที่โบราณว่า ‘แข่งอะไรก็แข่งได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนาแข่งกันไม่ได้’ งานนี้อาจจะพลิกโพลล์ให้หลายคนเจ็บใจเล่นแน่ๆ

และเมื่อไม่นานมานี้ ‘อาจารย์วิสาระ ประนมกรณ์’ นักโหราศาสตร์ชื่อดังของประเทศไทย ได้ทำนายดวงการเมืองประเทศไทย และเหล่าบรรดาตัวเต็งแคนดิเดตนายกฯ คนต่อไปไว้ในรายการ TOP NEWS TALK ของทางช่อง TOP NEWS โดยสรุปใจความได้ว่า…

ภาพรวมประเทศไทยปี 2566 จะยังมีความขัดแย้งอยู่ แต่การค้าขายดี การทำมาหากินจะเจริญ เพราะมีนักท่องเที่ยวเข้ามา หาเงินคล่องจากต่างชาติ (แต่หลังมกราคม 66 โควิดมีแนวโน้มจะกลับมา โดยเดือน พฤษภาคม - กันยายน จะหนักมาก ) เงินทองสะพัด และที่สำคัญต้องมีผู้นำเป็น ‘พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา’ เท่านั้น 

โดยพลเอกประยุทธ์ จะมีรหัสชีวิตติดดาวหลังวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2566 ทำให้ทุกอย่างพลิกผัน โดยที่ใครก็ไม่อาจมาแข่งได้ และมีแววว่าจะได้นั่งเก้าอี้นายกฯ อีกสมัย รวมไปถึงการย้ายไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติก็ยิ่งจะเป็นการดี เพราะอยู่แล้วมีความสุข บ้านเมืองจะเจริญ สงบสุข

ส่วน อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ที่ถึงแม้จะติดโพลล์หลายๆ สำนัก แต่รหัสชีวิตไม่ติดดาว ถึงแม้จะมีความหวังความเชื่อมั่น แต่ความหวังจะน้อยลงเรื่อยๆ และค่อยๆ เลือนหายไป ส่วนโอกาสที่จะเป็นนายกฯ คนต่อไปก็ไม่มีเลย นอกจากนี้ดวงของพ่อ หรือนายทักษิณ ชินวัตร ก็ไม่ได้มีอิทธิพลเกื้อหนุนให้ด้วย

เพื่อไทย จี้ กกต. จับตา ‘บิ๊กตู่’ ใช้งบหลวงหาเสียง ชี้!! ห้ามหลับหูหลับตา - ต้องบังคับใช้ กม. เข้มงวด

(24 ธ.ค. 65) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ประกาศความชัดเจนจะไปเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ยกข้ออ้างพรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรค พปชร. เป็นนายกฯ ไปแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจทิ้ง พล.อ.ประวิตรที่อยู่กันมากว่า 40 ปี ไปอยู่กับพรรครวมดาว กปปส.ชัตดาวน์ประเทศที่รู้จักกันไม่กี่ปี ทั้งที่พรรคการเมืองเก่าที่แกนนำ กปปส. เคยอยู่ยังปิดประตูใส่ ไม่อยากรับกลับ ไม่รู้พล.อ.ประยุทธ์ จะเอาอนาคตไปทิ้งที่นั่น หรือไปเป็นนายกฯ คนละครึ่งกับหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ การลงพื้นที่ของพล.อ.ประยุทธ์ในช่วงที่ผ่านมาและหลังจากนี้ กกต.ต้องจับตาดูให้ดี ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ไม่สองมาตรฐาน ต้องแยกเส้นแบ่งระหว่างการลงพื้นที่ติดตามนโยบายรัฐบาลกับการลงพื้นที่ไปหาเสียงให้ออก พล.อ.ประยุทธ์ต้องไม่ใช้ทรัพยากรของรัฐ ไม่ใช้เวลาของทางราชการไปหาเสียงที่เป็นการเสี่ยงผิดกฎหมายและเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น 

‘อนุทิน’ ลั่น ทุกคนมีบทบาทหน้าที่ของตัวเอง ชี้ ไม่มีเวลามาเล่นการเมือง เพราะต้องทำงานเพื่อประชาชน

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ประกาศพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องมีเงื่อนไขอย่างไรว่า ประชาชนส่วนใหญ่ต้องเลือกพรรคภูมิใจไทย เวลาหาเสียงก็ต้องหาเสียงอย่างเต็มที่ เชื่อว่าประเด็นนี้จะไม่ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่พอใจ เพราะตนไม่ได้หมายความว่า จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีในตอนนี้ ซึ่งตนก็ได้พบเจอกับพล.อ.ประยุทธ์แต่ไม่ได้พูดคุยถึงประเด็นนี้ เป็นการพูดคุยในประเด็นการทำงานทั่วไป อีกทั้งแต่ละพรรคการเมือง ก็ลงพื้นที่หาเสียงเหมือนกัน พรรคการเมืองลงพื้นที่พบประชาชน เพราะทุกพรรคต้องแสดงความพร้อม

นายอนุทิน กล่าวว่า ขอรอให้ถึงช่วงเลือกตั้งก่อนจึงจะสามารถรู้ได้ว่าพรรคภูมิใจไทยจะได้เสียงส.ส.กี่เสียง และทุกอย่างจะชัดเจนช่วงเย็นของวันเลือกตั้ง ว่าจะได้เป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน  

เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทย ดูเหมือนว่าเนื้อหอมที่สุดในบรรดาพรรคการเมืองทุกพรรค นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกพรรคก็เนื้อหอมหมด เห็นพรรคพลังประชารัฐก็ไปเปิดตัวที่หนองคาย พรรคเพื่อไทยก็ไปที่เชียงราย พรรคก้าวไกลลุยพื้นที่กรุงเทพ ส่วนพรรคภูมิใจไทยก็ไปลพบุรี ส่วนที่คนมีชื่อเสียงไหลเข้าพรรคภูมิใจไทยเป็นส่วนใหญ่ เป็นแนวโน้มที่ดีสำหรับพรรคภูมิใจไทย  

คนดัง - ส.ส. ตบเท้าเข้า รทสช. เพียบ หลัง ‘บิ๊กตู่’ ชัดเจนรับเป็นแคนดิเดตนายกฯ

ทันทีที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ประกาศชัดเจนว่า จะเข้าร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมรับเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหนึ่งเดียวของพรรค ปรากฏว่า มีนักการเมืองเริ่มทยอยเปิดตัวตามพลเอกประยุทธ์ อย่างคึกคัก 

เริ่มจาก ‘แรมโบ้’ ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ที่ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรคเทิดไทเรียบร้อย และคาดว่าจะไปรวมงานทางการเมืองกับนายกฯ ที่ รทสช. เพราะเป็นพรรคที่แรมโบ้ ร่วมก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่แรก

ถัดมาเป็น ‘ชัช เตาปูน’ ชัชวาลล์ คงอุดม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาพรรคพลังท้องถิ่นไท(พทท.) ก็ได้ประกาศตาม ไป รทสช.ด้วยเช่นกัน โดยจะเข้าไปนั่งในทีมยุทธศาสตร์พรรค หลังจากที่ได้ส่งลูกชาย ‘ชื่นชอบ คงอุดม’ ล่วงหน้าไปแล้วก่อนหน้านี้

ขณะเดียวกัน ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เตรียมย้ายไปอยู่ รทสช.ด้วยเช่นกัน หลังโพสต์เฟซบุ๊กว่า ไม่เคยลืมที่มาของการได้เป็น ส.ส. ไม่ละทิ้งอุดมการณ์และความตั้งใจ..ที่มีแต่การทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน ไม่มีเหตุผลอะไร…ที่จะไม่เดินตามกันไปค่ะ  พร้อมติดแฮชแท็ก ว่า #เราไม่ทิ้งกัน #รวมไทยสร้างชาติ #รักเธอประเทศไทย

‘เพื่อไทย’ ชวนจับตา ‘บิ๊กตู่’ อาจใช้งบเอื้อพวกพ้อง หลังแต่งตั้ง ‘พีรพันธุ์’ นั่งเลขาธิการนายกฯ

(23 ธ.ค. 65) นายชุมสาย ศรียาภัย รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ มีคำสั่งสลับเก้าอี้แต่งตั้งนายพีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ปรึกษานายกฯ เป็นเลขาธิการนายกฯ โดยโยกนายดิสทัต โหตระกิต เลขานายกฯ ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ ทั้งที่ไม่พบว่านายดิสทัตมีความผิดหรือไม่เหมาะสมประการใดนั้น จึงมีคำถามว่าในการสลับตำแหน่งครั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสสร้างความนิยมให้พรรคการเมืองในการเตรียมความพร้อมเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ ทั้งยังอาจตีความได้ว่าเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ด้วยการใช้สถานะหรือตำแหน่งกระทำการก้าวก่ายหรือแทรกแซงเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อประโยชน์ของพรรคการเมืองโดยมิชอบตามที่กำหนดในมาตรฐานทางจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 186 วรรคสอง ประกอบพ.ร.บ.มาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 หรือไม่ 

นายชุมสาย กล่าวต่อว่า กรณีนี้ส่อเจตนาถึงความไม่สุจริตหรือไม่ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์เตรียมตัวจะไปทำงานการเมือง เป็นแคนดิเดตนายกฯ ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยได้ร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับพรรคก่อนหน้านี้บ้างแล้ว ถือเป็นการทำงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติโดยพฤตินัย ดังนั้นการแต่งตั้งหัวหน้าพรรคการเมืองที่ พล.อ.ประยุทธ์เตรียมจะไปสังกัดให้เป็นเลขานายกฯ ในช่วงนี้ อาจเป็นไปโดยมีวาระซ่อนเร้น เป็นที่เคลือบแคลงสงสัยว่าเป็นการต่างตอบแทนกันในทางการเมือง หรือทำเพื่อประโยชน์ส่วนตนกับพรรค ยิ่งกว่าประโยชน์ของประชาชนหรือไม่ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับงบประมาณที่เป็นภาษีของประชาชน หรือการอนุมัติโครงการต่าง ๆ มากมายช่วงท้าย ๆ ของรัฐบาล

‘โรม’ จี้ ‘ยุติธรรม’ ดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ คาด!! มีส่วนช่วย ‘ประสิทธิ์ เจียวก๊ก’ หลบหนี

(23 ธ.ค. 65) รังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งคำถามต่อการดำเนินงานของกระทรวงยุติธรรมหลังจากที่กรณีที่นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก สามารถไขกุญแจตรวนและพยายามหลบหนีในขณะถูกคุมตัวมาที่ศาล โดยรังสิมันต์ ตั้งข้อสังเกตว่า ในกระบวนการควบคุมตัวปกติ ราชทัณฑ์ไม่น่ามีโอกาสหลบหนีไปได้

“ตัวผมเองมีโอกาสใช้บริการจากเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์บ่อยครั้ง แนวทางการปฏิบัติในวันที่ผมถูกควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มีความเคร่งครัดมาก จนแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลบหนี” รังสิมันต์กล่าว

ทั้งนี้ รังสิมันต์ ตั้งข้อสังเกตว่าความหละหลวมที่เกิดขึ้นต้องดำเนินการสอบสวนเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ใน 2 ประเด็น คือ กุญแจโซ่ตรวนเป็นกุญแจที่ทำมาจากต่างประเทศ มีมาตรฐานสูง ซึ่งคนที่มีกุญแจสำรองมีแต่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นายประสิทธิ์ได้รับกุญแจมาได้อย่างไร อีกประเด็นคือการควบคุมตัวการควบคุมตัว เป็นไปได้อย่างไรที่เป็นเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ที่ใส่สูท ซึ่งนี่เป็นสัญญาณนัย ๆ หรือเปล่าที่ไม่ได้ใช้มาตรฐานเดียวกันกับนักโทษคนอื่น ๆ

‘ชัช เตาปูน’ ทิ้งพรรค ย้ายตาม ‘บิ๊กตู่’ ซบ ‘รทสช.’ นั่งทีมยุทธศาสตร์พรรค

‘ชัช เตาปูน’ ประกาศตาม ‘บิ๊กตู่’ ไป รทสช. นั่งทีมยุทธศาสตร์ เผยยังไม่ตัดสินใจลาออกจากพลังท้องถิ่นไทย เมื่อไหร่ 

(23 ธ.ค. 65) นายชัชวาลล์ คงอุดม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาพรรคพลังท้องถิ่นไท (พทท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ประกาศความชัดเจนในการเข้าร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ว่า เมื่อนายกฯ ประกาศความชัดเจน วันนี้ตนจึงพูดได้ว่า จะไปร่วมงานการเมืองกับพรรค รทสช.โดยจะเข้าไปเป็นทีมงานยุทธศาสตร์ของพรรค อย่างไรก็ตามขณะนี้ตนยังไม่ได้ลาออกจากพรรคพลังท้องถิ่นไท ส่วนจะลาออกหลังจากที่สภาฯ หมดสมัยประชุมหรือเมื่อใดนั้นขอพิจารณาอีกครั้ง เพราะการสังกัดพรรคมีผลผูกพันต่อตำแหน่ง ส.ส.

‘อนุสรณ์’ แซะ ‘บิ๊กตู่’ หลังประกาศย้ายซบ รทสช. ชี้!! ต้องรีบประกาศ เพราะกลัวส.ส. ไม่ย้ายตาม

(23 ธ.ค. 65) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ประกาศเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรครวมไทยสร้างชาติว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์จำเป็นต้องประกาศ อาจเพราะจำนนต่อสถานการณ์ เพราะหากไม่ประกาศ ส.ส.ก็ไม่กล้าย้ายตาม เมื่อได้ ส.ส.ไม่ถึง 25 คน พรรครวมไทยสร้างชาติก็ไม่สามารถเสนอชื่อนายกฯ ได้ พล.อ.ประยุทธ์มีพฤติกรรมย้อนแย้ง ไม่พูดอะไรตรงไปตรงมา การอ้างเหตุที่ตัดสินใจประกาศเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะพรรคพลังประชารัฐได้ประกาศเสนอชื่อพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคเป็นแคนดิเดตนายกฯ ไปแล้วนั้น เป็นการพูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ตีกินทางการเมืองหรือไม่

'บิ๊กตู่' ลั่น!! รบ. พยายามแก้ปัญหาบ้านเมืองมาตลอด ชี้!! ไม่มีการแบ่งแยกพื้นที่ ดูแลทั่วถึงทุกจังหวัด

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 23 ธ.ค. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อน เป็นประธานในพิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติ 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ 'เที่ยวชุมชน ยลวิถี' ประจำปี 2565 โดยเดินมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเองด้วยสีหน้าตั้งใจ เกือบ 30 นาที ว่า วันนี้ทราบดีว่าทุกคนให้ความสนใจกับสถานการณ์ทางการเมือง และหลายพรรคการเมืองก็ออกมาเคลื่อนไหวกันเยอะแยะไปหมดและก็เห็นว่าทุกคนอยากทราบว่านายกรัฐมนตรีจะไปอย่างไรต่อไป วันนี้จากสถานการณ์ ที่ได้ติดตามมาตลอดเวลาที่ผ่านมาและเห็นถึงความเคลื่อนไหวของหลายพรรคการเมืองมีการเสนอชื่อผู้ที่จะได้รับการคัดเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรค

“ที่ผ่านมานายกฯก็พยายามพิจารณาในเรื่องต่าง ๆ ด้วยหลักการและเหตุผลต่าง ๆ มากมายหลายประการ วันนี้ทางพรรครวมไทยสร้างชาติก็ได้เสนอมาแล้วว่ายินดีสนับสนุนนายกฯ คือผมให้เป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ผมจึงจำเป็นต้องทำให้เกิดความชัดเจนเกิดขึ้นไม่เช่นนั้นก็จะเกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันไป ให้เกิดความเสียหายหลายอย่างด้วยกัน ซึ่งผมก็เคยบอกแล้วว่าในช่วงที่ผ่านมาผมได้รับการสนับสนุนจากพรรคพลังประชารัฐ แต่วันนี้พรรคพลังประชารัฐก็ได้มีการตกลงใจที่จะเสนอชื่อหัวหน้าพรรคคือพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรีไปแล้ว เพราะฉะนั้นผมจึงได้ตัดสินใจวันนี้แล้วกันซึ่งความจริงก็ได้เตรียมการมาพอสมควรแล้วว่าจะไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็จะได้สบายใจกันและก็สุดแล้วแต่ประชาชนก็แล้วกันว่าจะให้การสนับสนุนหรือไม่อย่างไร สิ่งที่ผมต้องตัดสินใจแบบนี้เพราะว่าเพราะสิ่งหลายๆอย่างที่ผมได้ทำไว้มาอย่างต่อเนื่องหลายปี ที่ผ่านมานั้นก็น่าจะได้มีการสานต่อถ้าหากว่าผมสามารถอยู่ได้ในระยะเวลาตามที่กำหนด ในระหว่างนั้นก็จะได้สานต่อในสิ่งที่ยังค้างคา ยังไม่สำเร็จและยังมีปัญหาอยู่เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านั้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทั้ง 4 ปีแรก และ 4 ปีหลัง ก็ทำมาอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ระยะแรกจะเป็นรัฐบาลผิดรัฐธรรมนูญก็ตาม ในการเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมีการเสนอชื่อก็เป็นวาระที่สอง ที่ผ่านมานายกเป็นผู้ที่กำหนดนโยบายและดูแลทุกพื้นที่ซึ่งในความเป็นจริงก็ดูแลทุกพรรค จะเห็นได้ว่าแผนงานโครงการต่าง ๆ ลงไปทุกจังหวัดไม่ได้แบ่งแยกว่าเป็นของใคร และหลายจังหวัดที่นายกฯ ลงพื้นที่ไปก็ไม่ได้มี ส.ส.ของฝ่ายรัฐบาล คือพรรคพลังประชารัฐที่สนับสนุนตนแต่ก็พร้อมลงไปอย่างวันก่อนที่ไปจังหวัดเชียงรายก็ไม่ได้มี ส.ส. ของรัฐบาลสักคน แต่ตนก็ไปให้ เพราะตนมองประชาชนเป็นหลัก ขณะเดียวกัน ส.ส.ทุกคน ต้องถือว่าเป็นตัวแทนของราษฎรที่คัดเลือกเข้ามาอะไรที่ต้นทำให้ได้อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศก็นำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. จัดสรรงบประมาณลงไปให้แต่ทุกอย่างต้องทำอย่างโปร่งใสและเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายเป็นสิ่งที่ตนยึดมั่นมาโดยตลอดและไม่เคยคิดแสวงหาผลประโยชน์ใดใดทั้งสิ้น “ผมยืนยันว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดแสวงหาผลประโยชน์แม้แต่เพียงเล็กน้อย”

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการปรึกษาในเรื่องดังกล่าวกับพล.อ.ประวิตรหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เรื่องนี้ได้กราบเรียนท่านไปนานแล้ว ว่าผมอาจจะมีความจำเป็นบางอย่าง ก็เรียนกับท่านไปหลายครั้งแล้ว จนครั้งสุดท้ายได้ตัดสินใจไปแล้วและคุยกับท่านแล้ว ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ไม่มีความขัดแย้งอะไรกันทั้งสิ้น อันนี้เป็นเรื่องของการเมืองก็ว่ากันไปตามการเมืองตามระบบประชาธิปไตยก็ว่ากันไป”

เมื่อถามว่าถือว่าเป็นการจากกันด้วยดีใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมไม่ได้จากกันไปไหนนี่ ก็ยังคงพูดคุยกันอยู่เหมือนเดิม ไม่มีปัญหาอะไร อย่าลืมว่าความสัมพันธ์ของทหารกับทหารด้วยกันมันลึกซึ้ง ลึกซึ้งยิ่งกว่าและผมก็จบมาก็อยู่ในการดูแลของท่าน และท่านก็เป็นผู้บังคับบัญชาของผมคนแรกในการที่ผมจบจากโรงเรียนในร้อยไปแวะรับราชการตั้งแต่ร้อยตรี จนกระทั่งอยู่ด้วยกันมาตลอดชีวิตรับราชการมาจนถึงวันนี้ ความผูกพันอันนี้มันไม่มีใครลบล้างผมได้ ท่านเองก็รู้สึกเหมือนกันและท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร ซึ่งผมก็ได้บอกท่านว่าท่านจะได้สบายใจเพราะว่าท่านมีแรงกดดันมากมายหลายประการด้วยกัน ซึ่งทุกคนก็ทราบดีกันอยู่แล้ว”

เมื่อถามว่าจะต้องสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็น่าจะต้องคงสมัคร ส่วนจะสมัครได้เป็นทางการเมื่อไหร่นั้นอย่าเพิ่งถาม

ผู้สื่อข่าวถามว่าถึงวันนี้พล.อ.ประยุทธ์ยังคงเป็นแคนดิเดตเพียงคนเดียวที่พรรครวมไทยสร้างชาติเสนอใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนนี้ก็เห็นว่ายังมีคนเดียว แต่อย่าพึ่งไปถามอะไรล่วงหน้าเลย อย่าถามนี่ไปนั่นไปโน่นไปเรื่อย แล้วจะตอบได้อย่างไรเล่า

เมื่อถามว่าจะยังคงจับมือทางการเมืองกับพล.อ.ประวิตรต่อไปใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อันนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องของการเลือกตั้ง มันขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง ประชาชนจะเลือกใครเข้ามาวันนี้ยังไม่มีใครรู้ ถึงเวลานั้นสถานการณ์การเมืองที่เรียกว่าการจับคู่ทางการเมืองใครจะเป็นฝ่ายค้านเป็นฝ่ายรัฐบาล ซึ่งก็เหมือนครั้งที่แล้ว ก็จะมีพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาลและพรรคร่วมฝ่ายค้าน ถ้าคะแนนเสียงมารวมกันได้ และมากกว่าก็จะได้เป็นฝ่ายรัฐบาล ครั้งที่แล้วตนก็มาอย่างนั้นไม่ใช่หรือ

เมื่อถามว่าวันนี้ถือว่านายกรัฐมนตรีได้ประกาศสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างเต็มตัวใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้อนถามว่ายังไม่ชัดอีกหรือ ทำไมต้องถามย้ำกันอีก

ผู้สื่อข่าวถามว่าการตัดสินใจคนนี้ครอบครัว สนับสนุนเต็มที่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ ก็เข้าใจกันละนะ เขาเข้าใจว่าผมทำเพื่ออะไรนะ”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top