'โรม' ฉะ!! รัฐบริหารประเทศแค่อาชีพเสริม อาชีพหลักหาเสียง อาชีพรองดูด ส.ส.
'โรม' ฉะรัฐบาลอาชีพหลักหาเสียง อาชีพรองดูด ส.ส. อาชีพเสริมบริหารประเทศ แนะควรใช้เวลาที่เหลืออยู่บริหารงานให้ดี ยันขอทำหน้าที่ซักฟอกให้ดีที่สุดเหมือนเส้นด้ายที่คม
(18 ม.ค. 66) นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงการลงพื้นที่หาเสียงของพรรคว่ายังคงเน้นการพบปะประชาชน แบบไปเดินตลาด ยังไม่ได้เน้นในเรื่องการเปิดเวทีใหญ่ เนื่องจากเราเห็นว่าการเดินพบปะประชาชนเป็นการเริ่มต้นที่ดีกว่า และได้ความใกล้ชิด แต่อาจจะได้พบคนน้อย ส่วนการขึ้นเวทีจะได้พบปะประชาชนจำนวนมาก ต้องดูว่าสุดท้ายความใกล้ชิดจะเป็นอย่างไร
อย่างไรก็ตามแคมเปญหาเสียงของพรรค การเดินสายทั่วประเทศแน่นอน เราจะใช้เวลาทั้งหมดในการทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด คือ...
ข้อ 1.งานสภาเราต้องทำหน้าที่ของเราต่อไป เพราะยังมีกฎหมายหลายฉบับ โดยเฉพาะกฎหมายของพรรคก้าวไกลที่มีความจำเป็นจะต้องผลักดัน
“บางทีผมรู้สึกว่า ถ้าคุณอยากสัญญากับประชาชนว่าหลังจากนี้จะผลักดันเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่วันนี้เรายังอยู่ในสภายังมีอำนาจอยู่ ฝ่ายค้านอาจไม่เยอะ แต่ก็ทำงานได้ ก็ต้องทำงานให้ดีที่สุดให้ประชาชนเขาเห็นว่า คุณเข้าไป คุณรักษาสัญญา ไม่ตระบัดสัตย์ ซึ่งพรรคก้าวไกลเราทำหน้าที่นั้นและนโยบายที่เป็นนโยบายเรือธงของพรรค เราพยายามทำให้มันสำเร็จ แน่นอนว่าเราไม่ใช่ปัจจัยชี้ขาด เพราะเรามีเสียงไม่มากอยู่ในสภา แต่เราพยายามทำให้เต็มที่" นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ข้อ 2.เรื่องการเลือกตั้งที่เราเคยชนะเลือกตั้ง เราต้องปกป้องให้ได้ ซึ่งเป็นวาระที่เราต้องทำให้บรรลุผล รวมไปถึงเขตอื่น ๆ ที่เราต้องไปบุกเบิก ไปเจอประชาชนให้ได้มากที่สุดแล้วนำเสนอนโยบาย
และ 3. สิ่งที่ต้องทำต่อคือ นโยบาย สิ่งหนึ่งที่เสียใจมากที่สุดคือวันนี้ การเมืองกลายเป็นเรื่องของการคุยกัน
"ผมขอวิจารณ์รัฐบาลนิดหนึ่งว่า รัฐบาลมี 3 อาชีพ อาชีพหลักตอนนี้คือ หาเสียง อาชีพรองคือดูด ส.ส. และอาชีพเสริมคือ บริหารประเทศ เราไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น เพราะสิ่งที่เราควรทำให้เกิดขึ้นตอนนี้คือการคุยกันในเรื่องของนโยบาย และจะแก้ปัญหาของประเทศอย่างไร ถ้าคุณยังเป็นรัฐบาลอยู่ ก็ควรใช้เวลาสุดท้ายบริหารให้มันดี ซึ่งคือสิ่งที่ควรจะเป็นแต่สิ่งที่มันเกิดขึ้น ตรงกันข้ามหมดเลย จึงเป็นความน่าเสียดาย อยากเชิญชวนทุกคนมาพูดคุยกันทำให้ประชาชนเห็นว่าใน 4 ปี ข้างหน้า โจทย์ของประเทศคืออะไร แล้วเราจะแก้ปัญหาได้อย่างไร" นายรังสิมันต์กล่าว
