Friday, 27 June 2025
POLITICS NEWS

‘เสี่ยหนู’ ไม่กังวล เสียคะแนนนิยม ปม ‘ชูวิทย์’ โจมตี  ชี้ ปชช. มีสิทธิ์ตรวจสอบ เปรียบ ‘ภท.’ เป็นภูเขาทอง

(18 มี.ค. 66) ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวภายหลังการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.กทม. 33 เขต พรรคภูมิใจไทย ว่า ผู้สมัครและผู้บริหารพรรคลงพื้นที่ทุกวัน พบปะชาวบ้านในชุมชนย่อยต่าง ๆ ซึ่งพบว่า ประชาชนให้การตอบรับกระแสของพรรคดีขึ้นเป็นอย่างมาก ชาว กทม. ชื่นชมในนโยบายต่าง ๆ อาทิ นโยบายเรื่องสุขภาพ การแก้ปัญหาฝุ่นละอองทางอากาศ ค่าครองชีพ เป็นต้น

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่หลังนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ออกมาคัดค้านพรรคภูมิใจไทย จะทำให้เสียคะแนนนิยมในพื้นที่ กทม.หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวสั้น ๆ ว่า “ไม่กังวล” และการเคลื่อนไหวของนายชูวิทย์ก็ไม่มีปัญหา เพราะพรรคภูมิใจไทยเปรียบเหมือนภูเขาทอง ส่วนที่เหลือก็ไปคิดกันเอาเอง

‘นิพิฏฐ์’ อัด‘เศรษฐา’ คนรวยพูดถึงคนจน แนะ พกผ้าเช็ดหน้า เพราะน้ำลายไหลออกข้างปาก

(18 มี.ค. 66) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาครอบครัวเพื่อไทย ว่า…

“เมื่อคนรวยพูดถึงคนจน จนน้ำลายไหลข้างปาก

เมื่อวาน ผมฟังคุณเศรษฐา ทวีสิน แกนนำพรรคเพื่อไทย พูดถึงคนจนหลายครั้ง พูดถึงคนรวยเอาเปรียยคนจนหลายครั้ง

ผมได้ยินผู้สนับสนุนโห่ร้องด้วยความพอใจ ผมก็นึกถึงอดีต ครั้งหนึ่งคุณทักษิณ ชินวัตร ก็เคยพูดอย่างนี้ จนคนคลั่งไคล้ จนเกิดสงครามกลางเมือง เกิดการแยกบ้านเมืองเป็น ‘หมู่บ้านเสื้อแดง’

จากนั้น คุณทักษิณ ก็โดนคดีทุจริตจนหนีออกนอกประเทศ

คุณเศรษฐา ทวีสิน พูดว่า รัฐบาลขับไล่คนเห็นต่างออกนอกประเทศ อันนี้ ท่านโกหกชัดครับ ไม่มีกฎหมายไหนที่สามารถขับไล่คนสัญชาติตัวเองออกนอกประเทศได้ มีแต่ห้ามคนสัญชาติตัวเองนอกประเทศเท่านั้น

น้ำ นิชนันท์ ขอให้มั่นใจ 'พรรคก้าวไกล' พร้อมเป็นตัวเลือกให้ 'ชาวสัตหีบ'

'ไอติม' นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรคก้าวไกล นำ 'น้ำ' นิชนันท์ วังคะฮาต ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี พรรคก้าวไกล เขต 10 อ.สัตหีบ จัดงานเสวนาสื่อสารนโยบาย รับฟังข้อเสนอแนะจากประชาชนในพื้นที่ อ.สัตหีบ เรื่องการศึกษาไทยก้าวหน้า ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ยืนยันพรรคก้าวไกล ไม่มีนโยบายหรือแนวคิดที่จะตัดเงินบำนาญข้าราชการ พร้อมนำเสนอนโยบายพรรคก้าวไกล เป็นทางเลือกใหม่ของประชาชน โดยมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล ชลบุรี เขต 6 อ.ศรีราชา นาย กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ และว่าที่ผู้สมัคร สส.ชลบุรี เขต 9 อ.บางละมุง ยอดชาย พึ่งพร เข้าร่วมเสวนาในวันนี้ด้วย ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวสัตหีบ เป็นจำนวนมาก

'ไอติม' นายพริษฐ์ วัชรสินธุ กล่าวว่า วันนี้เรามาทำกิจกรรมกันในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อมารณรงค์นโยบายของพรรคก้าวไกล ที่จะนำเสนอประชาชน ในการเลือกตั้งและเข้ามาแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.ของพรรคก้าวไกล ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี โดยมีผู้เข้าร่วมเสวนาเป็นประชาชนหลากหลายช่วงวัย ที่มีความสนใจแตกต่างกันออกไป โดยได้มีการนำเสนอชุดนโยบายของพรรคก้าวไกล 3 ประเด็นหลัก ประเด็นที่ 1 ซึ่งเยาวชนที่เข้าร่วมเสวนาได้ให้ความสนใจจำนวนมาก คือนโยบายการศึกษา หากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล จะออกแบบหลักสูตรใหม่ภายใน 1 ปีแรก เพื่อเน้นทักษะที่สามารถใช้ได้จริง เพื่อทำให้การศึกษาเป็นการศึกษาที่ฟรีจริง ทำให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัยไร้อำนาจนิยม ลดเวลาที่คุณครูเสียไปกับสิ่งที่ไม่ใช่การเรียนการสอนคืนครูให้กับห้องเรียน ประเด็นที่ 2 เสนอการยกเลิกการเกณท์ทหาร 

ซึ่งถือว่าวันนี้เป็นนิมิตรใหม่ที่ดีมากที่มีทั้งเยาวชนที่อาจจะต้องเข้าสู่กระบวนการ รวมถึงอดีตนายทหารที่มาเข้าร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วย ผลที่ออกมาคือทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าประเทศไทย ควรจะมีการยกเลิกการเกณท์ทหารและใช้เฉพาะทหารที่มีความสมัครใจ น่าจะเพียงพอต่อการรักษาความมั่นคง เพราะการบังคับคนที่ไม่อยากเป็นทหาร มาเป็นทหารทำให้เขาต้องสูญเสียเสรีภาพในการประกอบอาชีพที่เขาอยากจะทำ ดึงเวลาเขาออกจากครอบครัว ทำให้โครงสร้างเศรษฐกิจมีจำนวนคนทำงานลดน้อยลง ท่ามกลางสภาวะสังคมสูงวัย ท้ายสุดได้พูดคุยเรื่องนโยบายสวัสดิการ ความต้องการของพรรคก้าวไกล ที่จะมาสร้างความมั่นคงในชีวิตให้กับคนในทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นเงินเด็กเล็กที่เพิ่มจาก 600 เป็น 1,200 บาทต่อเดือน หรือว่าเงินผู้สูงวัยที่เพิ่มจาก 600 บาท เป็น 3,000 บาทต่อเดือน และขอยืนยันว่าพรรคก้าวไกลไม่มีนโยบายในการลดหรือตัดงบบำนาญของข้าราชการ เราเป็นพรรคที่ให้ความสำคัญของทุกกลุ่มว่าเงินก้อนนี้ เป็นเงินที่รัฐบาลได้สัญญากับพี่น้องข้าราชการที่มารับตำแหน่ง เพื่อเป็นหลักประกันของเขาในวัยหลังเกษียณ พร้อมย้ำว่าพรรคก้าวไกล ไม่มีนโยบายในการปรับลดบำนาญของข้าราชการ อย่างแน่นอน

‘บิ๊กตู่’ ลุยภูเก็ต ดูความพร้อมไทยเป็นเจ้าภาพ Expo 2028 ฟาก ‘บิ๊กป้อม’ นำทีมบุกเชียงใหม่ ปราศรัยใหญ่ 19 มี.ค. นี้

(18 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 19 มีนาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการ จ. ภูเก็ต โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และนายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมคณะ โดยจุดแรกตรวจติดตามความพร้อมการเตรียมการของประเทศไทยในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงาน Expo 2028 Phuket Thailand ที่ห้องประชุมท่าอากาศยานภูเก็ต แล้วไปยังสถานที่จัดงาน Expo 2028 Phuket Thailand ต.ไม้ขาว อ.ถลาง ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีตรวจติดตามการใช้พื้นที่ป่าชายเลนภายใต้โครงการ 'ป่าในเมือง' ที่ชุมชนกิ่งแก้ว เทศบาลต.รัษฎา อ.เมือง และไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต ต.รัษฎา อ.เมือง รับฟังการนำเสนอวิสัยทัศน์เรื่อง 'อันดามันพร้อม' โดยประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจ.ภูเก็ต จากนั้น นายกฯกล่าวแสดงทรรศนะและมอบทิศทางอนาคตอันดามัน จากนั้น เดินทางกลับกทม.

ปทุมธานีบิ๊กแจ๊สต้อนรับอุ๊งอิ๊ง เพื่อไทยเปิดตัว400ว่าที่ผู้สมัคร เฉลิมย้ำแจ็สยังไงก็เพื่อไทย

(17 มี.ค.66) เวลา 10.00 น. ที่อาคารยิมเนเซียม 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี พรรคเพื่อไทย นำโดย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย , นางสาวแพทองธาร ชินวัตร (อุ๊งอิ๊ง) ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และ นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็น ร่วมจัดงาน 'คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน' เปิดตัวผู้ประสงค์ลงสมัครรับการเลือกตั้ง ส.ส.เขต ทั้ง 400 เขตทั่วประเทศ รวมถึงประกาศนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง โดยมีคณะกรรมการบริหารพรรค, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.), ผู้ประสงค์ลงสมัครรับการเลือกตั้ง ส.ส., สมาชิกพรรค และผู้สนับสนุนพรรคเข้าร่วมงาน จนแน่นสถานที่

บรรยากาศการจัดงานเป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่เปิดเวที ในโอกาสนี้ พล.ต.ท.คำรณ ธูปกระจ่าง (บิ๊กแจ๊ส) นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ร้อยตำรวจเอก ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต ได้เดินทางมามอบดอกไม้ให้กำลังใจคุณอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร พรรคเพื่อไทย โดยคุณอุ๊งอิ๊งได้กล่าวขอบคุณบิ๊กแจ๊ส ส่วนนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวกับบิ๊กแจ๊สว่าเรายังเหมือนเดิม ทางด้าน ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง ได้พูดว่า บิ๊กแจ๊สจะไปไหนได้ยังไงอยู่เพื่อไทย มีการโบกธงเพื่อไทย ป้ายสนับสนุนยกเชียร์ พร้อมตะโกนโห่ร้อง ตั้งแต่หน้างานจนถึงบริเวณจัดงาน อากาศครึกครื้นตลอดเวลา

สำหรับพรรคเพื่อไทยในจังหวัดปทุมธานีทั้ง 7 เขต ประกอบด้วย เขต 1.นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล ที่ครองแชมป์มายาวนาน เป็นถึงอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ขุมกำลังหลักอยู่ที่อำเภอลาดหลุมแก้วและเมืองปทุม, เขต 2.นายศุภชัย นพขำ ลูกชาย นายกแป๊ะ นายสายัณ นพขำ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลบ้านกลาง เป็น สส.แชมป์เก่า และลงพื้นที่ตลอด, เขต.3 นายยุทธศักดิ์ ชูประเสริฐ นักการเมืองใหม่ที่เปิดตัวเดินลงพื้นที่มาหลายปีต่อเนื่อง อาสาอยากจะเข้ามาพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ , เขต 4.นายสุทิน นพขำ อดีต สส.ปทุมธานี น้องชาย นายกแป๊ะ นายสายัณ นพขำ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลบ้านกลาง ครั้งนี้กลับมาลงสนามสู้ศึกอีกครั้ง , เขต 5.นายชัยยันต์ ผลสุวรรณ์ แชมป์เก่าเขตนี้ยังคงเหนียวแน่น ลงพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องเป็น กมธ.การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนฯที่รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่มาโดยตลอด , เขต 6.นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ อดีต ส.อบจ.ปทุมธานี เป็นและลูกชาย นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ (นายกเบี้ยว) นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี และ เขต.7 นายยงยุทธ มั่นบุปผชาติ นายกเทศมนตรีตำบลลำลูกกา ที่เตรียมพร้อมลาออกลงมาต่อสู้ในสนามการเมืองใหญ่และมีฐานเสียงที่มั่นในพื้นที่ลำลูกกา

'ไพบูลย์' พร้อมดัน พ.ร.บ.ปราบปรามการทรมานฯ หาก พปชร. นั่ง รบ. หลัง 'เฌอเอม' ทวงการเยียวยา 'อุ้มคนหาย-ทำร้าย' จากเหตุชุมนุม

เฌอเอม มิสแกรนด์ลำพูน 2023 ฟาดเดือด ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถามถึงการเยียวยาคนถูกอุ้มหาย ถูกทำร้ายจากการชุมนุม

กลายเป็นกระแสอีกครั้งสำหรับเวทีนางงามชื่อดังมิสแกรนด์ไทยแลนด์ซึ่งได้จัดงาน 'มิสแกรนด์ กับ อนาคตเมืองไทย หลังเลือกตั้งปี 66' ที่นำเอาผู้เข้าประกวดทั้ง 77 คน ซึ่งเป็นตัวแทนของคนไทยทั้ง 77 จังหวัด ถามคำถามกับนักการเมืองจากพรรคต่าง ๆ

ไฮไลต์ของงานเห็นจะเป็นนางงามฝีปากเอกอย่าง 'เฌอเอม' ชญาธนุส ศรทัตต์ อดีตผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ปี 2020 ที่ในปีนี้เข้าร่วมเวทีมิสแกรนด์ในฐานะ มิสแกรนด์ลำพูน

โดยเป็นคิวที่ ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นเวทีเพื่อแสดงวิสัยทัศน์พอดิบพอดี เฌอเอมได้กล่าวถึง พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ที่เสนอผ่านขั้นแรกไปในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่โดน พ.ร.ก. ฉุกเฉินสั่งเลื่อนไปอีก

เฌอเอมถามว่า “การสูญหาย ความรุนแรง โดยเฉพาะความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมเกิดขึ้นเยอะที่สุดในยุครัฐประหาร และต่อมาก็เป็นยุครัฐบาลของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตหัวหน้าพรรคของท่าน”

“ไม่ทราบว่าหากพรรคของท่านได้เป็นตัวแทนในสมัยหน้า จะทำอย่างไรในการเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสียและทุกคนในสังคมที่เจ็บช้ำมีบาดแผลจากคณะท่านตั้งแต่วันปฏิวัติรัฐประหารเป็นต้นมา จะทำอย่างไรให้คนรู้สึกว่าถ้าเลือกท่านแล้วจะไม่มีการถูกใช้ความรุนแรงอีก”

“2 คนที่ดิฉันไม่ได้ทำงานร่วมด้วยเพราะเขาเสียชีวิตไปแล้ว คือ 1.บิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ ชาวกะเหรี่ยง บ้านบางกลอย และ 2.คุณวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เพราะฉะนั้นท่านช่วยพูดกับทุกคนในสังคมที่หวาดกลัวขณะต้องเรียกร้องสิทธิภายใต้รัฐบาลของท่านด้วยค่ะ”

ไพบูลย์ ได้ตอบคำถามนี้ว่า “ผมก็อยู่ในกรรมการชุดที่ทำ พ.ร.บ. นี้ สิ่งที่ต้องทำคือการก้าวผ่านความขัดแย้ง ผมผ่านยุคการชุมนุมมาหลายยุค ผ่านการปลุกปั่น ทุกฝ่ายก็สูญเสียและบาดเจ็บ สิ่งที่ต้องทำมี 2 อย่าง อย่างที่หนึ่งต้องไม่ให้เกิดอีก อย่างที่สองต้องเยียวยา”

‘ลุงป้อม’ ลุยใต้ ขอบคุณ ปชช.ร่วมช่วยพัฒนาท้องถิ่น พร้อมหนุนค่าอาหารกลางวันเด็ก-ค่าจ้างครูอย่างต่อเนื่อง      

(17 มี.ค. 66) พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษก รองนายกรัฐมนตรีไทย เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีไทย พร้อมด้วย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและคณะ ได้เดินทางไปปฏิบัติราชการ ต่อเนื่องจากช่วงเช้า (จังหวัดยะลา) โดยในช่วงบ่ายได้พบปะผู้นำศาสนา และเครือข่ายโรงเรียนตาดีกา รวมถึงผู้นำท้องถิ่น ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ณ โรงเรียนประสานวิทยามูลนิธิ อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี โดย พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวขอบคุณประชาชนทุกคนที่มาให้การต้อนรับ และให้ความร่วมมือ ช่วยกันพัฒนาท้องถิ่น ภายใต้สันติสุข ในการดำรงชีวิตที่ผ่านมาเป็นอย่างดี

ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ยังได้กล่าวเจตจำนงในการเดินทางมาพบในครั้งนี้ เพื่อต้องการส่งเสริมการดำรงชีวิตตามหลักการศาสนาของพี่น้องมุสลิม สนับสนุนค่าอาหารกลางวันตาดีกาต่อเนื่อง รวมทั้งเพิ่มจำนวนครูผู้สอนให้เหมาะสมกับสัดส่วนนักเรียน และอื่น ๆ รวมทั้งการสนับสนุนครูโรงเรียนเอกชน ให้มีสิทธิ และการเพิ่มค่าตอบแทน/ค่าเสี่ยงภัยครู และผู้บริหารด้วย

‘สมศักดิ์’ เปิดใจ เหตุทิ้ง ‘พปชร.’ ย้ายซบ ‘เพื่อไทย’ เผย มีโอกาสแลนด์สไลด์ ชี้ เป็น รบ.หลายพรรคทำงานยาก

(17 มี.ค. 66) ที่ร้านกินเส้น สนามบินน้ำ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงถึงเส้นทางการเมือง ที่จะย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทย ว่า แนวทางตัดสินใจ 3 ประเด็น คือ ฟ้า ดิน อากาศ โดยในส่วนของอากาศ คือข้อมูลพรรคการเมืองต่าง ๆ และต้องให้ความสำคัญกับทีมงาน แนวนโยบายนำไปสู่การปฏิบัติ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งเสถียรภาพรัฐบาลมีความสำคัญ

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา พรรค พปชร.ได้ ส.ส.118 คน แต่ยังไม่สามารถทำเศรษฐกิจให้ประชาชนพอใจได้ เพราะเป็นรัฐบาลผสม มีการต่อรองกระทรวงและโควตาต่าง ๆ โดยพรรค พปชร.ไม่ได้ดูกระทรวงเศรษฐกิจทั้งหมด ทำให้ต้องคิดว่าการจะทำให้สิ่งต่าง ๆ ให้สัมฤทธิ์ผลช่วยประชาชนได้ คือดูพรรคที่จะแลนด์สไลด์ จะมีส่วนทำให้แนวนโยบายรัฐบาลใหม่ประสบผลสำเร็จ เป็นที่พึ่งของประชาชนใจในการแก้ปัญหาความยากจน จึงตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกเพื่อไทย โดยตนได้ทำหนังสือลาออกจากรัฐมนตรียุติธรรม และส่งเอกสารลงรับไปเรียบร้อยแล้ว โดยจะไม่ขอรักษาการรัฐมนตรี เพื่อความสบายใจต่อฝ่ายต่าง ๆ และทำหนังสือลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งนายทะเบียนพรรคการเมืองลงรับเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้เกิดความชัดเจน และได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยเอกสารจะเรียบร้อยในวันที่ 20 มี.ค.นี้

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ติดใจอะไร และขอให้โชคดี โดยนายกฯ พูดกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ฝากมาถึงตนด้วย และต้องขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในการทำงานที่ผ่านมา ตนอยู่กับพลังประชารัฐก็ทำงานเต็มที่เมื่อไปอยู่กับเพื่อไทยก็จะทำเต็มที่ แม้จะยังไม่ได้เข้าไปที่พรรคเพื่อไทย แต่เมื่อมีข่าวออกมา และเห็นแนวทางทำงานของตน ทำให้คนในพรรคเพื่อไทย โทรมาแสดงความยินดีจำนวนมาก ส่วนตนจะไปดูพื้นที่ไหนในพรรคเพื่อไทย สุดแล้วแต่ผู้บริหารพรรคจะเห็นเหมาะสม ตนไม่เลือก ไปได้ทุกที่ และไม่ได้คาดหวังจะไปนั่งกระทรวงใด เพราะเวลาตั้งรัฐบาลแล้วหวังไว้ที่หนึ่ง แต่ไปได้กระทรวงอื่น จึงไม่ได้คิดอะไร ไม่คาดหวัง แล้วแต่ประชาชนจะสนับสนุน ทั้งนี้ หากไปอยู่เพื่อไทยแล้วได้อยู่ในลำดับไม่เกิน 50 ก็น่าจะได้เป็น ส.ส.

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านั้น ได้กราบลานายวิษณุ เครืองาม และ พล.อ.ประวิตร ทั้งคู่ได้ให้ศีลให้พร ยืนยันว่าไม่มีความแตกแยก แต่การเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค ถือเป็นอุปสรรค และหากทีมงานที่ไม่สามัคคีจะเป็นอุปสรรค เพราะคนหนึ่งไปซ้าย คนหนึ่งไปขวา ส่วนพรรคเพื่อไทย นั้นทำงานเป็นระบบ และเป็นพรรคพวกกันมาก่อน จึงเข้าใจและพูดคุยกันได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าการทำงานในพรรค พปชร.ทำให้ทำงานลำบากหรือไม่ กล่าวว่า ไม่ลำบาก พล.อ.ประวิตร หัวหน้าพรรค เป็นปกติ แต่บางคนเกิดความรู้สึกติดขัดบ้างเล็กน้อย เช่น ตนเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค แต่เมื่อไม่เป็นหนึ่งเดียวกันก็ทำงานยาก

เมื่อถามว่ามั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ดูจากโพลเมื่อ 2 เดือนที่แล้วได้ 220 เสียง แต่ถ้าเราไปช่วยอีกทาง คิดว่าจะขยับได้ เมื่อถามย้ำว่า เป้าหมายที่ไปพรรคเพื่อไทย เพราะเชื่อว่าจะเป็นรัฐบาลแน่นอน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า หากเข้าไปช่วยหาเสียง มีนโยบายใหม่ จึงมั่นใจว่าจะได้เสียงมากขึ้นตามเป้าที่ผู้บริหารพรรคเพื่อไทยวางไว้ ส่วนตนจะช่วยให้ดีที่สุด เพราะการเป็นรัฐบาลเป็นความใฝ่ฝันของทุกพรรค แต่จะเป็นได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่มีมากน้อยของแต่ละพรรคจะดำเนินการ หากประชาชนช่วยเลือกเข้ามามาก จะได้แลนด์สไลด์ ส่วนจะได้ 310 เสียงหรือไม่ ตนไม่กล้าคิด เพราะไม่ได้ถือโพล หรือลงไปดูตรงนี้

เมื่อถามว่า หลังเลือกตั้งพรรค พปชร.จะจับมือกับเพื่อไทย หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของผู้บริหาร และผู้ใหญ่ของพรรคพูดคุยกัน โดยการพบกับ พล.อ.ประวิตร ท่านไม่ได้พูดเรื่องนี้ให้ฟัง แสดงว่าไม่มีคำตอบที่ชัดเจน จึงเชื่อว่ายังไม่ได้พูดคุยกัน

‘บิ๊กตู่’ โต้คนว่า “ไม่รู้เรื่อง” ลั่น!! ทำงานมา 8 ปี จะไม่รู้เรื่องเลยเป็นไปไม่ได้

เมื่อวันที่ 13 มี.ค.66 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ ศาลาประชาคม​ อำเภอบ้านโป่ง​ จังหวัดราชบุรี ได้กล่าวถึงการทำงานของรัฐบาล โดยบางช่วงบางตอนระบุว่า… รัฐบาลอยู่มา 4 ปีหลายคนคงเห็นบ้างว่าอะไรเกิดขึ้นมาแล้ว สิ่งที่ตนตัดสินใจ คือการทำโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางและการขนส่ง อีกทั้งยังดูแลผู้มีรายได้น้อย แต่จะให้ทั้งหมดไม่ได้เราไม่มีสตางค์พอ แบบนั้นเขาไม่เรียกว่าสวัสดิการ มันผิดหลักการข้อกฎหมาย แต่ถ้าถามใจนายกฯ อยากให้ทุกคนมีกิน อยู่ดี แต่วันนี้ต้องแข็งแรงกว่าเดิม ประเทศไทยเดินผ่านความยากลำบากมา 8 ปีเต็ม เจอทั้งโควิด-19 สงครามทางการค้า และการสงครามที่หนักสุด คือ ราคาพลังงาน แก๊ส และน้ำมัน ซึ่งหลายอย่างถ้าทำได้ทำไมจะไม่ทำให้ ตนไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์เพื่อใคร แต่วันนี้ต้องสงวนงบประมาณที่มีอย่างจำกัด เพื่อรองรับ เพราะไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้นนอกจากนี้

‘สุริยะ’ อำลาข้าราชการกระทรวงอุตฯ  เปรย!! อนาคตอาจได้ร่วมงานกันอีก ก็เป็นได้

(17 มี.ค.66) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยในระหว่างการประชุมนัดสุดท้ายร่วมกับผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม อธิบดีทุกกรม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงอุตสาหกรรม จาก ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ ธพว. และสถาบันเครือข่าย โดยระบุว่าตลอด 4 ปีที่ผ่านมา มีความประทับใจ ซาบซึ้งใจ และความภาคภูมิใจต่อการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

เพราะได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการร่วมกันผลักดันอุตสาหกรรมไทยทั้งระดับมหภาค เอสเอ็มอี และพี่น้องประชาชนโดยการฝึกอาชีพ ให้ผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 ไปได้อย่างดี อีกทั้งกระทรวงอุตสาหกรรม ไม่เคยถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในรายกระทรวง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส ซึ่งทั้งหมดเกิดจากความร่วมมือร่วมใจกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของพวกเราชาวอุตสาหกรรม

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top