‘แสนดี’ ขอโทษ ‘พรรคก้าวไกล-ผู้สนับสนุน’ จากใจจริง เผย ยังไม่เข้าใจการเมืองไทยมากพอ ย้ำ ต่อไปจะไตร่ตรองให้ดี

(18 ก.ค. 66) นายแสนปิติ สิทธิพันธุ์ หรือ ‘แสนดี’ บุตรชายของนายชัชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชี้แจงเพิ่มเติม จากกรณีที่โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัว วิพากษ์วิจารณ์พรรคก้าวไกล อย่างดุเดือดนั้น ล่าสุดพบว่า นายแสนปิติ ได้ลบภาพออกจากอินสตาแกรมส่วนตัวทั้งหมด และโพสต์ข้อความระบุว่า…

“เพื่อต่อยอดจากคำขอโทษก่อนหน้านี้ของผม

สิ่งที่ผมทำนั้นไม่สามารถให้อภัยได้และไม่เหมาะสม ผมขอโทษสำหรับการใช้ภาษาที่ไม่สุภาพและหยาบคาย เพื่ออธิบายให้กลุ่มคนบางกลุ่ม

ผมยอมรับว่าการกระทำของผมทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างนับไม่ถ้วน และก่อให้เกิดความเกลียดชัง ผมยอมรับว่าสิ่งที่เขียนไปในวันนี้ได้ทำร้ายผู้คนอย่างไม่อาจแก้ไขได้ ในฐานะบุคคลสาธารณะ

ผมตระหนักดีว่าผมได้ทำให้ทุกคนผิดหวังกับสิ่งที่ได้ทำลงไป และมันขึ้นอยู่กับผมที่จะทำให้ดีขึ้นในฐานะปัจเจกบุคคล

ผมเป็นหนี้บุญคุณอย่างเต็มที่ว่าผมได้รับสิทธิพิเศษและชนชั้นนำอย่างมาก ผมไม่มีประสบการณ์และไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับการเมืองไทยหรือการเมืองไทยพอ ไม่เหมาะสมและไม่สมควรอย่างยิ่งที่ผมจะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเมือง ทั้งๆ ที่ตัวผมเองก็มีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี แต่ผมไม่มีคุณสมบัติ (Qualified)

ผมจะใช้เวลาในการไตร่ตรองการกระทำและความประพฤติของตัวเอง ในช่วงเวลานี้ ผมจะทบทวนตัวเองถึงวิธีที่ผมจะใช้ประสบการณ์นี้เพื่อเติบโต และเป็นผู้ใหญ่ในฐานะคนหนุ่มสาว ประสบการณ์ของผมแตกต่างจากคนอื่นๆ อย่างมาก ผมได้รับผลประโยชน์และสิทธิพิเศษบางอย่างที่ลดทอนและกีดกันผู้คนและคนหลายกลุ่มชุมชน

ผมได้ประโยชน์และใช้ประโยชน์จากภูมิหลังของตัวเอง เพื่อความก้าวหน้าในสังคม สิ่งนี้บ่งบอกถึงระดับความเหลื่อมล้ำและความเหลื่อมล้ำที่แพร่หลายในประเทศไทย ผมรู้ว่า พรรคก้าวไกล และฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตยอื่นๆ กำลังทำเพื่อคนเหล่านี้ และแม้ว่าผมจะคิดเห็นต่างกัน แต่ผมก็เคารพความคิดเห็นของพวกเขา

ตลอดวันที่ผ่านมา ผมได้อ่านความคิดเห็นที่ทำร้ายจิตใจเกี่ยวกับรูปร่างภายนอก (Physical Stature) ความฉลาด และภูมิหลังของผม

ในขณะที่ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นของตัวเอง ผมยอมรับว่านี่คือผลของการกระทำของผมเอง และผมก็ยอมรับสิ่งนี้ ผมต้องแสดงความเห็นอกเห็นใจและมีน้ำใจต่อผู้อื่น ผมยอมรับว่าผมไม่ได้เก่งด้านนี้ แต่ในอนาคต หวังว่าจะใช้สิ่งนี้เป็นโอกาสในการพัฒนาทักษะดังกล่าวเพื่อให้เป็นคนที่รอบรู้และเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

มีบางความคิดเห็นที่เกินเลยมากเกินไป จนถึงขั้นเป็นความเกลียดชังและการเลือกปฏิบัติ ผมจะไม่ขอยุ่งกับพวกเขา ผมขอพูดว่า “ความเกลียดรังแต่จะทำให้เกิดความเกลียดชังเพิ่มมากขึ้น ถ้าให้นึกย้อนถึงตัวผมในฐานะคนๆ หนึ่ง หวังว่าทุกคนคงจะคิดเหมือนกันกัน ว่าเราสามารถปฏิบัติต่อคนอื่นให้ได้ดีขึ้นและอดทนต่อความคิดเห็นที่แตกต่างได้อย่างไร”

รักมาก

แสนดี