Tuesday, 29 April 2025
NEWS

เหตุผลที่เสื้อทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ ไม่มียี่ห้อดัง

เมื่อไม่นานมานี้ ช่องยูทูบของ sanook.com ได้โพสต์วิดีโอสัมภาษณ์นายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ถึงเหตุผลที่เสื้อทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ ไม่มีโลโก้ยี่ห้อดัง

โดยในวิดีโอดังกล่าวนายเนวินระบุว่า "เหตุผลที่ไม่ใช้ เพราะว่าถ้าผมใช้ NIKE, FBT, Grand Sport, Adidas หรือ Umbro มันจะทำให้แฟนบอลของผมจ่ายแพงขึ้นไม่ต่ำกว่า 300 บาทต่อตัว"

'ดีอีเอส' ประสาน 'Play Store-App Store' จัดการแอปอันตราย แนะ ปชช. ไม่โหลดแอปแปลกปลอม ป้องกันมิจฉาชีพดูดเงิน

ดีอีเอส เปิดรายชื่อแอปอันตรายมีมากกว่า 200 แอปเตือน ประชาชน อย่าหลงเชื่อ อย่าโหลด อาจสูญเงินและข้อมูลส่วนตัวได้

เมื่อไม่นานมานี้ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ร่วมกับ สกมช. แจงกรณีแอปดูดเงินอันตราย หลังพบประชาชนได้รับผลกระทบจากการติดตั้งแอปพลิเคชันอันตรายลงในโทรศัพท์มือถือ แล้วทำให้กลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาดูดเงินออกไปเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง

นายชัยวุฒิ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการแพร่ระบาดของมัลแวร์อันตราย ที่มาในรูปแบบของแอปพลิเคชัน ซึ่งดีอีเอส และสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ได้มีการตรวจสอบมาโดยตลอด โดยพบปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยเฉพาะผู้ใช้งานโทรศัพท์ที่ติดตั้งแอปพลิเคชันที่ถูกระบุว่าสามารถขโมยข้อมูล หรือควบคุมเครื่องโทรศัพท์ได้ โดยในปี 2022 มีการเผยแพร่รายชื่อแอปพลิเคชันอันตรายเหล่านี้ ซึ่งมีมากกว่า 200 รายการ ทั้งในระบบ iOS และ Android ตามที่ปรากฎใน Facebook ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ Facebook ของ สกมช. (NCSA THAILAND) จึงขอให้ผู้ใช้งานทำการตรวจสอบ หากพบแอปพลิเคชันดังกล่าวให้ถอนการติดตั้งโดยทันที และควรอัปเดตระบบของเครื่องโทรศัพท์ของตนเองให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ

'สาวชัยภูมิ' ผันตัวเปิดฟาร์มเลี้ยงควายไทยสวยงาม ปัจจุบันมีควาย 35 ตัว มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

ดีเจสาวชาว จ.ชัยภูมิ ผันตัวเปิดฟาร์มเลี้ยงควายไทยสวยงาม ลูกค้าขอซื้อจำนวนมาก จนราคาพุ่งสูงถึงตัวละ 15 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีควายรวมกว่า 35 ตัว มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

เมื่อไม่นานมานี้ ที่ 'ฟาร์มกุ้งนาง ควายงาม' เมืองพระยาแล อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ทีมผู้สื่อข่าวได้พบกับ นางสาววิรัญญา ผาแดง อายุ 45 ปี ดีเจดังเมืองชัยภูมิ เจ้าของฟาร์ม กล่าวว่า เดิมทีมีอาชีพ ทำนา แต่รายได้ไม่พอเลี้ยงชีพ จึงได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ทำงานเป็นสาวโรงงานอยู่ประมาณ 7 ปี พอมีเงินเก็บได้พอประมาณจึงกลับมาอยู่บ้านเกิด ทำธุรกิจของตัวเอง โดยได้เริ่มต้นจากการไปรับงานเย็บปักเสื้อผ้าจากโรงงานในกรุงเทพฯ เพื่อมาเย็บที่จังหวัดชัยภูมิ แล้วส่งให้โรงงานโดยในช่วงแรกก็ทำเพียงคนเดียว 

ต่อมาเริ่มหาเครือข่ายมาช่วยเย็บอยู่ที่บ้าน จนธุรกิจตัวนี้เริ่มโตขึ้นมาเรื่อย ๆ ต่อมาคิดว่าถ้าจะให้ธุรกิจดีขึ้น ต้องหาแนวทางประชาสัมพันธ์ให้ธุรกิจมีคนรู้จักกว้างขึ้น จึงได้เกิดความคิดขึ้นโดยได้ตั้งสถานีวิทยุชุมชนขึ้น และขายโฆษณาให้กับลูกค้าทั่ว ๆ ไป ต่อมาได้มีความคิดว่าอยากจะมีสินค้าของตัวเอง เพื่อมาโฆษณาขายเอง จึงได้ติดต่อโรงงานเพื่อผลิตสินค้าจำหน่ายเอง ผลออกมายอดขายสินค้าดี เกินความคาดหมาย

'บี พุทธิพงษ์' อวยพรตรุษจีนพี่น้องไทย-จีน ขอให้สุขสมหวัง - แข็งแรง - มั่งคั่งร่ำรวย

เมื่อวานนี้ (21 ม.ค.66) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ได้โพสต์อินสตาแกมอวยพรพี่น้องชาวไทยและชาวจีนในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยระบุว่า...

พบ 'โลมาอิรวดี' ตายเกยตื้นที่บางขุนเทียน ด้าน จนท. เข้าตรวจสอบ แต่ระบุสาเหตุการตายไม่ได้

เมื่อไม่นานมานี้ เพจ 'กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง' ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการพบซากโลมาอิรวดีตายเกยตื้น บริเวณคลองสะพานรักษ์ทะเล บางขุนเทียน แต่ไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้เนื่องจากสภาพเน่ามาก โดยระบุว่า...

วันที่ 17 มกราคม 2566 ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันออก (ศวบอ.) ได้รับการประสานจากสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 8 กรณีเครือข่ายช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายาก คุณโสภิณ จินดาโฉม พบซากโลมาเกยตื้น บริเวณคลองสะพานรักษ์ทะเล บางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร 

'บิ๊กตู่' ปลื้ม!! Insider ยก 'ไทย' เป็น 1 ใน 23 สถานที่ที่ดีที่สุดในโลก สำหรับท่องเที่ยวในปี 2023

‘บิ๊กตู่’ ปลื้ม ประเทศไทยติด 1 ใน 23 สถานที่ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการท่องเที่ยวในปี 2023 จากเว็บไซต์ Insider ขึ้นชื่อมีเทศกาลที่น่าสนใจตลอดทั้งปี เหมาะกับนักชิมนักช็อปทั่วโลก

(22 ม.ค.66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประเทศไทยติด 1 ใน 23 สถานที่ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการท่องเที่ยวในปี 2023 (23 of the best places to travel to around the world in 2023) จากการรายงานของ Insider ซึ่งเป็นเว็บไซต์และแอปพลิเคชันนำเสนอข่าวสารและไลฟ์สไตล์ชื่อดังของสหรัฐอเมริกา (ที่มา: Best Places to Travel Internationally Around the World in 2023 (insider.com)) 

ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก และได้รับการจัดอันดับให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นและความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยวไทยที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากนานาประเทศ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เว็บไซต์ Insider เลือกให้ประเทศไทยเป็น 1 ใน 23 สถานที่ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการท่องเที่ยวในปี 2023 เนื่องจากมีเทศกาลที่น่าสนใจตลอดทั้งปี โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์และเทศกาลดนตรีฮิปฮอประดับโลก Rolling Loud Thailand 2023 ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนเมษายนนี้ 

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีโรงแรมหรูมากมายในย่านธุรกิจของกรุงเทพมหานคร และยังเป็นสถานที่ที่เหมาะกับนักชิมนักชอปจากทั่วโลก 

'ชูวิทย์' ถล่มซ้ำ ปมตำรวจนำขบวนนักท่องเที่ยวจีน ชี้!! ต้องหากินแบบเทาๆ เพราะแค่เงินเดือนไม่พอให้เมีย

(22 ม.ค. 66) จากกรณี คลิปฉาวของนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนที่โพสต์เรื่องราวบอกเล่าความประทับใจ มาเที่ยวกรุงเทพฯ กับแม่แล้วได้รับการบริการระดับ VVIP โดยจ่ายเงินค่าบริการไปถึง 7,000 บาท เพื่อแลกกับประสบการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจมารับไปขึ้นรถออกจากสนามบินอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาใด ๆ ทั้งสิ้น 

.

ภายหลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง จนทำให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.สั่งการด่วน โดยให้จเรตำรวจตรวจสอบนายตำรวจที่เกี่ยวข้องในคลิป 3 นาย ซึ่งหากพบว่ามีความผิดจริงก็จะดำเนินการทางวินัยเฉียบขาดตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

.

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวของกลุ่มจีนเทาและเว็บพนันออกไลน์ ซึ่งได้มีข้อความในตอนหนึ่งที่ระบุถึงเรื่องที่ กลุ่มตำรวจที่ไปรับนักท่องเที่ยวในสนามบินว่า 

พิจิตร ตรุษจีน แห่เที่ยวงานวัด นมัสการหลวงพ่อเพชร 'งานไหลเรือไฟ'

อบจ.พิจิตร ทุ่มงบ 3 ล้านบาท เพื่อเมืองชาละวันจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลตรุษจีนผสมผสานกับงานวัดได้อย่างลงตัว 21-31 ม.ค. 66 ชาวพิจิตรรวมใจจัดงานสมโภชเมืองพิจิตร นมัสการหลวงพ่อเพชร “ไหลเรือไฟ” จัดขบวนแห่อย่างยิ่งใหญ่ การแสดงศิลปวัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้านและคอนเสิร์ตบนเวทีกลางน้ำแม่น้ำน่าน หน้าพระอุโบสถ วัดท่าหลวง พระอารามหลวง อำเภอเมืองพิจิตร ไฮไลท์ของงานจุดประทีปนาวาบูชาหลวงพ่อเพชร 'ไหลเรือไฟ'

วันเสาร์ที่ 21 มกราคม 2566 นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เป็นประธานในพิธีถวายพานบัวบูชาหลวงพ่อเพชร พระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองชาวพิจิตร ในการจัดงานสมโภชเมืองพิจิตร นมัสการหลวงพ่อเพชร 'ไหลเรือไฟ' ที่มีขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 21-31 ม.ค. 66 โดยเป็นการผสมผสานการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลตรุษจีนกับงานวัดได้อย่างลงตัว 

โดยงานนี้ พ.ต.อ.กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ นายก อบจ.พิจิตร ได้จัดสรรงบประมาณ 3 ล้านบาท โอนให้กับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร เพื่อใช้เป็นทุนในการดำเนินงานการจัดงาน ซึ่งการจัดงานดังกล่าวต้องใช้งบประมาณรวมแล้วกว่า 4 ล้านบาท ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชนที่ร่วมสนับสนุนการจัดงานประจำปีที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้

สำหรับบรรยากาศของการจัดงานจัดให้มีขบวนแห่รถบุปผชาติ และขบวนอัญเชิญดอกบัว ที่มีนักเรียน นักศึกษา และประชาชนเกือบ 3 พันคน แต่งกายด้วยชุดไทยและชุดแฟนซีต่างๆอย่างสวยสดงดงาม เดินไปรอบๆ ตลาดเมืองพิจิตร โดยมีพุทธสาวิกาที่แต่งกายด้วยชุดขาวสะอาด จำนวนกว่า 500 คน พร้อมใจกันร่ายรำเพื่อเป็นการบูชาองค์หลวงพ่อเพชรได้อย่างสวยสดงดงาม สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่ได้มาพบเห็น

ในส่วนของความบันเทิงก็จะมีการแสดงบนเวทีกลางน้ำ กลางแม่แม่น้ำน่านหน้าวัดท่าหลวง พระอารามหลวง สนุกสนานเลือกชมเลือกซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์ OTOP ของกินของใช้ที่มาจากทั่วสารทิศ สุขใจ ได้บุญเสี่ยงโชคกับการตักไข่ชาละวันที่มีของรางวัลมากมาย และในวันที่ 27 ม.ค. 66 บนเวทีแคทวอลก์ชมการเดินแบบผ้าไทยจากนางแบบ นายแบบ กิติมศักดิ์ เพื่อเป็นการส่งเสริมผ้าทอ ผ้าไทย ที่เป็นผลิตภัณฑ์แฮนด์เมด อันเลื่องชื่อของจังหวัดพิจิตร อิ่มบุญสุขใจกับการไหว้พระทำบุญขอพรองค์หลวงพ่อเพชรพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวพิจิตร

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมการทำสำนวนไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เพิ่มการเข้าถึงความยุติธรรมให้กับประชาชน

วันนี้ (21 ม.ค.66) เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางมาเป็นประธานในการเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการทบทวนการทำสำนวนไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตาม พ.ร.บ.การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 ครั้งที่ 2 ณ สโมสรตำรวจ วิภาวดีรังสิต โดยมีประธานร่วมจากประเทศมาเลเซียคือ ดอกเตอร์ มูฮัมหมัด อิควาน ตอริมัน รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเคอบังซาน มาเลเซีย เพื่อผลิตผู้ไกล่เกลี่ยออกมาให้บริการกับประชาชนมากยิ่งขึ้น

ตามที่รัฐบาลได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 19 พ.ย.62 แต่ประชาชนยังเข้าถึงการบริการไกล่เกลี่ยได้น้อยเนื่องจากประชาชนยังไม่ทราบอย่างทั่วถึง อีกทั้งจำนวนศูนย์ไกล่เกลี่ยยังมีไม่เพียงพอ จากปัญหาดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม จึงได้วางแผนจัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยภาคประชาชนประจำสถานีตำรวจ ซึ่งจะช่วยไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้กับประชาชนในคดีเล็กน้อยทั้งทางแพ่งและอาญา โดยเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.65 ได้เริ่มต้นจากเขตนครบาลจำนวน 18 สถานี เช่น สน.มีนบุรี สน.ลาดกระบัง สน.บางชัน และ สน.ทองหล่อ เป็นต้น และจะขยายไปทั่วประเทศในเดือน ก.พ.66 โดยในครั้งนี้มีผู้เข้าอบรมกว่า 520 คน

'ทิพานัน' แจ้งข่าวดี 'ชาวลพบุรี-นครสวรรค์' รถไฟทางคู่ช่วง 'ลพบุรี–ปากน้ำโพ' คาดเสร็จปีนี้

'ทิพานัน' แจ้งข่าวดีชาวลพบุรี-นครสวรรค์ รถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี–ปากน้ำโพ คาดแล้วเสร็จภายในปีนี้ ชูเป็นผลงาน 'พล.อ.ประยุทธ์' พลิกโฉมการขนส่งทางรางไทย เดินทางรวดเร็ว ยกระดับการขนส่งและโลจิสติกส์ กระตุ้นการค้าขาย ท่องเที่ยวภาคเหนือ-อีสาน

(21 ม.ค.66) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เร่งขับเคลื่อนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเป็นหัวใจของการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าและทันสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาระบบขนส่งทางราง ซึ่งจะช่วยให้การเดินทางและขนส่ง มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และทำให้การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ทั้งธุรกิจ การค้า การลงทุน เป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เสริมศักยภาพด้านเศรษฐกิจการค้าและโลจิสติกส์ เพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชนในภูมิภาค ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาได้อย่างเต็มที่โดยได้ผลักดันโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ งบประมาณก่อสร้าง จำนวน 21,467 ล้านบาท ผ่านมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 ซึ่งเป็นโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558-2565 เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งระบบราง รองรับจำนวนผู้โดยสารและปริมาณการขนส่งสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น และลดระยะเวลาในการเดินทางและการขนส่งสินค้า เพื่อเร่งยกระดับให้บริการโลจิสติกส์สู่พื้นที่ภาคเหนือ

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นงานก่อสร้างทางรถไฟใหม่ขนานไปกับทางรถไฟเส้นเดิมของช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ รวมระยะทางประมาณ 145 กิโลเมตร โดยส่วนใหญ่อยู่ในเขตทางรถไฟและเป็นทางวิ่งระดับพื้นระยะทางประมาณ 116 กิโลเมตร และทางช่วงเลี่ยงเมืองลพบุรีเป็นโครงสร้างทางรถไฟยกระดับ ระยะทางประมาณ 29 กิโลเมตร ประกอบด้วยงานก่อสร้างรถไฟทางคู่ จำนวน 2 สัญญา และงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม 

สัญญาที่ 1 ได้แก่ ช่วงบ้านกลับ – โคกกระเทียม เป็นการเป็นก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ใหม่ เพื่อเบี่ยงแนวเส้นทางเดิมช่วงที่ผ่านเข้าตัวเมืองลพบุรี ระยะทาง 29 กิโลเมตร เริ่มต้นที่บริเวณสถานีบ้านกลับ จังหวัดสระบุรี สิ้นสุดบริเวณสถานีโคกกระเทียม จังหวัดลพบุรี ประกอบด้วย ทางรถไฟยกระดับ 23 กิโลเมตร และทางรถไฟระดับพื้นดิน 6 กิโลเมตร เดือนธันวาคม 2565 ก้าวหน้าไปแล้ว 81.72%

สัญญาที่ 2 ช่วง ท่าแค – ปากน้ำโพ เป็นงานก่อสร้างทางรถไฟใหม่เพิ่มอีก 1 ทาง ขนานไปกับเส้นทางรถไฟเดิม ระยะทาง 116 กิโลเมตร เริ่มต้นที่บริเวณสถานีท่าแค จังหวัดลพบุรี โดยก่อสร้างตามแนวเส้นทางรถไฟเดิม สิ้นสุดบริเวณสถานีปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ เดือนธันวาคม ก้าวหน้าไปกว่า 75.60 %

ส่วนงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม เดือนธันวาคม มีความก้าวหน้า 26.33% ทั้งนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2566

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการพัฒนารถไฟทางคู่ใหม่ รูปแบบการพัฒนาทางรถไฟใหม่เพิ่ม 1 ทางขนานไปกับทางรถไฟเดิม ในส่วนของการออกแบบก่อสร้างสถานียังคงเอกลักษณ์ท้องถิ่นเป็นหลัก มีการนำสถาปัตยกรรมท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบ เพื่อให้เกิดความสวยงามและกลมกลืนกับสภาพภูมิประเทศ ผสมผสานกับความทันสมัยและความคิดสร้างสรรค์ทั้งสถานีขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก เน้นความปลอดภัย ง่ายต่อการขนส่ง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันเพื่อสนับสนุนการเดินทางของประชาชน และการคมนาคมขนส่งของผู้ประกอบการในภาคธุรกิจ และมีการอนุรักษ์อาคารสถานีรถไฟเดิมทุกสถานี โดยคาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการในปี 2566 

'ชัยวุฒิ' เตือน ปชช. 'อย่าโอน-กดแอปฯ-ลิงก์' หลอกลวง แนะตรวจสอบทุกครั้ง ขู่!! คนรับเปิดบัญชีม้า ผิดด้วย!!

'ชัยวุฒิ' เตือน ปชช. รู้ทันโซเชียล 'อย่าโอนไว-อย่าหลงเชื่อกดแอปฯ-กดลิงค์' หลอกลวง แนะ ตรวจสอบทุกครั้ง ขู่!! คนรับเปิดบัญชีม้า มีความผิดด้วย แย้ม!! เร่งระบบดิจิทัลไอดี ยืนยันตัวตนออนไลน์ อำนวยความสะดวก งานบริการ 

(21 ม.ค.66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวในรายการ 'คุยเรื่องบ้าน คุยเรื่องเมือง คุยทุกเรื่องกับรัฐมนตรี' ทางสถานีวิทยุแห่งประเทศไทยและเฟซบุ๊ก Radio Thailand Live ถึงประเด็นเรื่องบัญชีม้า อาชญากรรมออนไลน์ สมาร์ตซิตี้ และฟรี Wi-Fi ว่า...

ประเทศไทยมีนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ในการวางโครงสร้างพื้นฐานอินเตอร์เน็ต วันนี้กว่า 80% สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตสื่อสารออนไลน์ เช่น การใช้โมบายแบงกิ้ง พร้อมเพย์ เพื่อให้โอนเงินง่าย แต่ก็ทำให้โดนหลอกจำนวนมาก 

โดยปีที่ผ่านมาเราเปิดระบบแจ้งความออนไลน์ พบว่ามีการแจ้งเรื่องว่าแสนคดี เฉลี่ยหมื่นคดีต่อเดือน ทั้งหลอกลงทุน คอลเซ็นเตอร์ข่มขู่ ซื้อขายออนไลน์ ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขโดยมีตำรวจไซเบอร์ ดูแลประชาชนแต่ยังเป็นไปในเชิงป้องกัน ตั้งรับส่วนใหญ่ 

และแม้จะอายัดบัญชี แต่ตามเงินกลับได้ประมาณ 10% ส่วนอื่นๆ เมื่อเส้นทางไปต่างประเทศ ก็ยากที่จะติดตาม เพราะมีการหลอกให้เปิดบัญชีม้า โอนเงินหลายชั้น ไปต่างประเทศ หรือในประเทศก็ใช้เวลานานกว่าจะได้คืน และคนที่โอนง่ายคือคนไม่มีภูมิต้านทาน เห็นจากภาพในโซเชียล แล้วหลงเชื่อไปรับเปิดบัญชีม้า 

ขณะนี้เราเร่งตรวจสอบ สกัดกั้น เพื่อหยุดขบวนการหลอกลวงออนไลน์ ที่ต้องหยุดที่การรับบัญชีม้า โดยหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ยกเลิกการบัญชีที่เปิดแทนกัน รวมถึงหยุดการโอนเงินที่ผิดปกติ โดยกระทรวงดีอร ได้เสนอแก้กฎหมาย ให้ธปท.สามารถระงับบัญชีได้รวดเร็ว เมื่อทำได้ดีอีจะมีเอไอตรวจสอบระบบทั้งหมด เพื่อสกัดการเดินบัญชีม้า นอกจากนั้นจะใช้กฎหมายเข้มข้นโดยเจ้าหน้าที่จะจับกุมคนเปิดบัญชีแทน เพราะเป็นการขายบัญชีเปิดทางให้มิจฉาชีพ จะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้และฟังไม่ขึ้น จึงเตือนประชาชนใครที่รับจ้างเปิดให้ไปยกเลิกบัญชี วันนี้ถ้าตรวจสอบพบมีชื่อจะจับทุกคน และให้ไปประกันตัวในศาล เพราะรู้อยู่แล้วการเอาชื่อไป จะต้องทำสิ่งที่ไม่ดีเพราะคนดีๆ ใครจะมาขอให้เปิดบัญชีให้ ทั้งนี้เราเข้มงวดในการตรวจสอบ โดยมีการตั้งตำรวจไซเบอร์ และวางเป้าหมาย 2,000 คน เพื่อจะหยุดบัญชีให้เร็วขึ้น แม้คนร้ายจะปรับตัวตามและเราไม่สามารถไปห้ามการโทรศัพท์หรือโซเชียลได้ เพราะเป็นเสรีภาพประชาชน ดังนั้นต้องให้ความรู้ประชาชน ให้มีภูมิต้านทาน อย่าเชื่อโซเชียลหรือกดลิงค์ในแอป ต้องตรวจสอบจากต้องทางเซ็บไซด์ ก่อนทุกครั้ง

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ส่วนปัญหาพนันออนไลน์ ที่เกิดกับเยาวชน ได้ประสานกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอว.เพื่อรณรงค์ให้ความรู้ สร้างเครือข่ายเปลี่ยนจากตั้งรับให้ทำเชิงรุก ให้มีตำรวจชุมชนเข้าไปให้ความรู้เพราะไม่ใช่ชาวบ้านเท่านั้นที่ถูกหลอก แต่คนมีความรู้ หมอ ยังโดนหลอก รวมถึงกรณีส่งเอสเอ็มเอสหลอกลวง เข้าไปแฮกข้อมูล ที่มีหลายรูปแบบ มีการปลอมชื่อธนาคาร เว็บไซต์ จึงพยายามประชาสัมพันธ์องค์กรหรือหน่วยงานให้ตรวจสอบ และประชาชนอย่าเข้าไปกดลิงค์ที่ไม่รู้จัก ที่มีมัลแวร์หลอกให้กรอกข้อมูล ให้กดลิงค์ส่งพัสดุ โดยให้ดูที่แพลตฟอร์มแอปและตรวจสอบจากต้นทางก่อนทุกครั้ง

นอกจากนั้นปัญหาหลอกซื้อของออนไลน์แล้วไม่ได้ของ มีร้องเรียนเยอะที่สุด 80-90% มาจากเฟซบุ๊ก ดังนั้นการทำการค้าในโซเชียลให้ระวัง ถ้าไม่รู้จักร้านค้า ไม่เคยติดต่อกันอย่าไปยุ่ง เพราะในเฟซบุ๊กพบมิจฉาชีพแฝงตัวเยอะมาก จึงแนะนำให้ซื้อจากแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซ ซื้อของฝากระบบคนกลาง และที่สำคัญอย่าเชื่อหลอกให้กู้เงิน ขายของราคารถูก ชักชวนลงทุนได้เงินจำนวนมาก การจ้างงานต่างๆ ทั้งนี้หากประชาชนเกิดปัญหาก่อนหรือหลัง สามารถปรึกษาที่สายด่วน 1212 หรือแจ้งความออนไลน์ ย้ำว่าอย่าโอนเงินให้ใคร เพราะเงินอยู่กับเราเป็นเงินเรา อยู่กับเขาเป็นเงินเขา

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ส่วนการลักลอบใช้เน็ตข้ามประเทศ โดยคนร้ายจากบริเวณชายแดน เช่น ปอยเปต แอบซื้อเน็ตจากประเทศไทย แล้วเดินสายต่อข้ามไปประเทศเพื่อนบ้าน ไปใช้ผิดกฎหมาย การพนันออนไลน์ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อตรวจสอบแล้วจึงตัดสาย สกัดพนันออนไลน์ในระดับหนึ่ง แต่คนร้ายสามารถใช้เน็ตในประเทศของเขาใช้ทำสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทย เมื่อพบกระทำผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปดำเนินการจับกุม

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ขณะที่ความคืบหน้าเน็ตประชารัฐ ให้พื้นที่ห่างไกลมีใช้ทุกหมู่บ้าน ดำเนินการไปกว่า 4 หมื่นหมู่บ้าน แต่ยังไม่พอและต้องทำเรื่อยๆ โดยเฉพาะนักเรียนในชนบทที่ไม่สามารถเข้าถึงได้เท่ากับในเมือง ขาดอุปกรณ์ในการเข้าถึงจึงเกิดความเหลื่อมล้ำ เพราะคนที่มีอุปกรณ์สามารถไปไกลกว่า จึงคิดโครงการมอบอุปกรณ์ประมาณ 1 ล้านเครื่อง ให้เด็กที่ฐานะไม่ดี สามารถนำไปใช้ในการเรียน โดยคุยกับกระทรวงศึกษาธิการถึงการดำเนินการในเรื่องนีแล้ว นอกจากนั้นมีแนวคิดจะทำในชุมชนเมือง ให้ผู้ที่มีรายได้น้อย มีฟรีไวไฟในชุมชนมากขึ้นด้วย

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการขับเคลื่อนดิจิทัลไอดี ยืนยันตัวตนออนไลน์ ผ่านการแสกนใบหน้า โดยไม่ใช้บัตรประชาชน เพื่อขับเคลื่อนการติดต่อธุรกรรมให้ง่ายขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนาระบบ และโปรโมทให้ใช้ในเดือนก.พ.นี้ โดยลงทะเบียนกรมการปกครอง หรือทางสำนักงานเขตเพื่อเก็บข้อมูลในระบบออนไลน์ สามารถใช้ยืนยันตัวตนกับเรื่องต่างๆออนไลน์ รวมถึงเปิดบัญชีธนาคาร เปิดซิมมือถือ ย้ายทะเบียนบ้าน สร้างบ้าน ขึเนเครื่องบิน ที่จะต้องตรวจดูบัตรประชาชน มาเป็นระบบออนไลน์ ซึ่งเป้าหมายสูงสุดสามารถโอนที่ดินได้ 

ส่วนที่เป็นห่วงว่าระบบดังกล่าวจะเปิดช่องทางมิจฉาชีพเขเาถึงง่ายนั้น ในทางตรงข้ามสามารถตรวจสอบตัวตนบุคคลได้จริง ต่างกับบัตรประชาชน ซึ่งตนจะหารือกับนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เร่งดำเนินการในเรื่องนี้ เพื่อนำมาดิจิทัลไอดี มาใช้ทำให้สะดวกสบายมากขึ้น และจะสอดคล้องกับสมาร์ตซิตี้ กระจายความเจริญ คือทำให้ทุกเมืองเป็นสมาร์ทซิตี้ ใช้เทคโนโลยีเข้าไปช่วย และปรพชาชนไม่ต้องเข้ามาอาศัยในเมือง เพราะมีระบบสาธารณูปโภค รักษาพยาบาล จ้างงาน ทำให้ทุกจังหวัดเท่าเทียมกัน จะขณะนี้มีการจัดทำระบบบัญชีกลางดิจิทัล ในจัดซื้อจัดจ้างง่ายขึ้นเพื่อดำเนินงานสมาร์ทซิตี้ในแต่ละจังหวัด โดยไม่ต้องกลัวการตรวจสอบโดนร้องตามมา ซึ่งได้เสนอเข้าครม.แล้ว

นายชัยวุฒิ ตอบคำถามถึงกรณีการเปิดซิมโทรศัพท์มือถือที่จะเปิดหลายซิม สามารถทำได้หรือไม่ ว่า ตามระบบ 1 คน ต่อ 5 ซิม แต่หากจะเปิดเกินให้ลงทะเบียนที่ศูนย์บริการ เพราะบางรายที่ซื้อซิมจำนวนมากไปขายต่อไป และมิจฉาชีพซื้อไปนำไปใช้ผิดกฎหมาย เราอยากยกเลิกให้หมด ดังนั้นใครมีเกิน100 ซิม ให้มาจดแจ้งกับโอเปอร์เรเตอร์ผู้ให้บริการเครือข่ายนั้นๆ รับทราบ

เมื่อถามถึงเว็บพนันในมาเก๊า และการพนันออนไลน์ จะแก้ปัญหาอย่างไร นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การพนันกับคนไทยอยู่คู่กัน เล่นในประเทศเพื่อนบ้านไม่ผิดกฎหมาย แต่ในบ้านเราผิดกฎหมาย ดังนั้นตำรวจจะต้องดำเนินการ ขณะนี้ได้ปิดกั้น 7 ยูอาร์แอลที่เป็นเว็บพนัน และจะตรวจสอบเส้นทางการเงินต่อไป ทั้งนี้ขอเตือนประชาชนให้เข้าเว็บในประเทศไทย โดยสังเกตนามสกุล 'ดอททีเอช' และอย่าเข้าแอปฯปลอมที่มีประมาณ 200 แอปฯ ที่จะเข้ามาดูดข้อมูลมือถือ แล้วไปดูดเงินภายหลัง 

'บิ๊กตู่' อวยพรตรุษจีน “สุขสมหวัง ร่ำรวยตลอดปี” เดินทางท่องเที่ยวปลอดภัย

(21 ม.ค.66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม อวยพรพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนทั่วประเทศ เนื่องในโอกาสวันตรุษจีนประจำปี 2566 ให้มีความสุข มีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง ทำมาค้าขายประกอบอาชีพด้วยความเจริญรุ่งเรือง มั่งคั่ง ขอให้เฉลิมฉลองตรุษจีนด้วยความสุข รวมทั้งเดินทางท่องเที่ยวเทศกาลตรุษจีนอย่างปลอดภัย มีน้ำใจกับเพื่อนร่วมทาง เพื่อให้เทศกาลตรุษจีนนี้ เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ของชาวไทยเชื้อสายจีนที่มีความสุขอย่างแท้จริง 

นายอนุชา กล่าวด้วยว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีนถือเป็นโอกาสสำคัญ ที่จะได้ระลึกถึงสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับจีน มิตรภาพ ความผูกพัน และความร่วมมืออย่างแข็งขันระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าไทยและจีนจะขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และก้าวข้ามผ่านความท้าทายต่าง ๆ ได้ด้วยดี พร้อมทั้งนายกรัฐมนตรีชื่นชมมิตรภาพความสัมพันธ์ไทยจีนเสมอมา ซึ่งเป็นความร่วมมือทวิภาคีที่มีพลวัตอย่างต่อเนื่อง และเชื่อมั่นว่าทั้งสองประเทศจะมีความร่วมมือกันในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจและสังคมเพื่อเดินหน้าสู่การพัฒนาร่วมกันต่อไป

'เชียงใหม่' เกษตรชวนแอ่วงาน 'สตรอว์เบอร์รี และของดีอำเภอสะเมิง ครั้งที่ 20 ประจำปี 2566' วันที่ 11-14 กุมภาพันธ์ 2566

วันที่ 20 มกราคม 2566 เวลา 10.00 น.จังหวัดเชียงใหม่ จัดงานแถลงข่าวการจัดงาน 'สตรอว์เบอร์รี และของดีอำเภอสะเมิง ครั้งที่ 20 ประจำปี 2566' โดยกำหนดจัดขึ้น ณ วันที่ 11-14 กุมภาพันธ์ 2566 ณ ที่ว่าการอำเภอสะเมิง ตำบลสะเมิงใต้ จังหวัดเชียงใหม่ 

นายเจริญ พิมพ์ขาล เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ มีสภาพแวดล้อมเหมาะสมต่อการปลูกสตรอว์เบอร์รี มีพื้นที่ปลูกในปี 2566 ทั้งสิ้น 6,977 ไร่ มีพื้นที่มีปลูกในอำเภอสะเมิง กัลยานิวัฒนา แม่วาง แม่แจ่ม ฝาง และแม่ริม โดยพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 23.62 (1,333 ไร่) ผลผลิตรวมทั้งจังหวัด 19,049 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 21.92 (3,425 ตัน) ซึ่งอำเภอสะเมิงมีพื้นที่ปลูกมากที่สุด 4,010 ไร่ เกษตรกร 660 ครัวเรือน ผลผลิต 10,025 ตัน 

ส่วนปัจจัยที่ทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นเนื่องจากพื้นที่การปลูกเพิ่มมากขึ้น และมีการส่งเสริมจากภาครัฐและเอกชน ในด้านการรวมกลุ่ม สนับสนุนปัจจัยการผลิตรวมถึงการอบรมให้ความรู้ต่างๆ ปัจจุบันมีหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ สำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานเกษตรอำเภอ รวมถึงหน่วยงานบูรณาการต่างๆ และเกษตรกรผู้ปลูกสตรอว์เบอร์รีร่วมมือในการผลิตสตรอว์เบอร์รีปลอดภัย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และได้มีการส่งเสริมการปลูกสตรอว์เบอร์รีในรูปแบบแปลงใหญ่ในพื้นที่ตำบล บ่อแก้ว เพื่อเป็นการยกระดับการแข่งขันในระบบธุรกิจเกษตร

นายวิทยา นาระต๊ะ ประธานศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรอำเภอสะเมิง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าการปลูกสตรอว์เบอร์รีเป็นไม้ทรงพุ่มขนาดเล็ก เติบโตโดยการแตกกอ ดอกสีขาว ผลมีสีแดง เป็นมัน มีเมล็ดติดอยู่ที่ผิวด้านนอกของผล มีกลิ่นหอมเมื่อผลสุก ต้องการอุณหภูมิต่ำในช่วงพัฒนาตาดอก และการติดผล ปลูกได้ในดินร่วนซุย มีการระบายน้ำดี พื้นที่ควรมีระดับความสูงจากน้ำทะเลตั้งแต่ 800 เมตรขึ้นไป อุณหภูมิ 10-25 องศาเซลเซียส (มีอากาศเย็นตลอดปี) 

โดยเริ่มปลูกในช่วงเดือนปลายสิงหาคม – ปลายตุลาคม เริ่มเก็บเกี่ยวช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงช่วงเดือนเมษายนของปีถัดไป มักจะเก็บเกี่ยวเมื่อผลสุกประมาณ 75-80 เปอร์เซ็นต์ โดยพิจารณาจากสีผลที่เปลี่ยนเป็นสีชมพูอมแดง พันธุ์ที่นิยมปลูกในเชียงใหม่ คือ พันธุ์พระราชทาน 80 มีลักษณะผลเป็นรูปทรงกรวย ปลายแหลม น้ำหนักผลเฉลี่ย 30-35 กรัม มีความหวานเฉลี่ย 12.85 องศาบริกซ์ ซึ่งนิยมรับประทานผลสด ทนทานต่อโรคแอนแทรคโนส และราแป้ง ผลผิตต่อไร่ประมาณ 3,000 กก./ไร่

ด้านนายณฐกร ภัทรวนนท์ นายอำเภอสะเมิง กล่าวว่า ในปีนี้ได้ร่วมกันจัดงาน 'สตรอว์เบอร์รี และของดีอำเภอสะเมิง ครั้งที่ 20 ประจำปี 2566' ชาวอำเภอสะเมิงขอเชิญชวนเที่ยวงานสตรอว์เบอรี และของอำเภอสะเมิงครั้งที่ 20 ปี 2566 ภายในงาน มีกิจกรรมมากมาย อาทิ การจำหน่ายสตรอว์เบอร์รีและพีชผลทางเกษตร สินค้า OTOP อำเภอสะเมิง การประกวดของดีประเภทผลผลิตทางการเกษตร การประกวดผลิตภัณฑ์แปลรูปสตรอว์เบอร์รี

ททท. ต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ สายการบิน flydubai เส้นทางดูไบ – อู่ตะเภา สัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน

(20 ม.ค.66) เวลา 19.45 น. (ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง-พัทยา) - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานดูไบ ร่วมกับสายการบิน flydubai เปิดเส้นทางบินดูไบ – อู่ตะเภา (ระยอง-พัทยา) โดยเส้นทางบินดังกล่าวเป็นการขยายเส้นทางบินระหว่างประเทศ เปิดเส้นทางบินตรงจากเมืองดูไบสู่ภูมิภาคตะวันออกของประเทศไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งจะให้บริการ 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ด้วยเครื่องบินแบบ Boeing 737 Max-8 ความจุโดยสาร 172 ที่นั่งต่อเที่ยวบิน

โดยมี พลเรือเอกระพีพงษ์ โสวรรณ ผู้อำนวยการ การท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง-พัทยา พร้อมด้วย นางสาวทิฐิพันธ์ เพ็ชรตระกูล รองนายกเมืองพัทยา นางสาวอโนมา วงษ์ใหญ่ ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานพัทยา และตัวแทนภาคการท่องเที่ยวพัทยา ร่วมให้การต้อนรับสายการบิน flydubai เที่ยวบินที่ FZ1445 บินตรงจากเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พร้อมผู้โดยสารจำนวน 158 คน โดยได้ส่งมอบความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว ตั้งแต่เดินทางถึงประเทศไทยด้วยอุโมงค์น้ำ (Water Salute) การแสดงศิลปวัฒนธรรมรำกลองยาวจากสวนนงนุช และมอบพวงมาลัยดอกไม้เป็นของที่ระลึก

พร้อมกันนี้ ททท. ยังได้จัดกิจกรรมสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวสำหรับ Blogger สายท่องเที่ยว จำนวน 6 รายที่เดินทางมาในเที่ยวบินปฐมฤกษ์ เพื่อสนับสนุนการผลิตเนื้อหาประชาสัมพันธ์เที่ยวบินและการเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 20-22 มกราคม 2566 โดย ททท. นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวที่นำเสนอประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบ Family Friendly และ Luxury ที่แตกต่าง มีคุณค่า และน่าประทับใจในพื้นที่พัทยา จังหวัดชลบุรีปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2565 มีนักท่องเที่ยวชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เดินทางมายังประเทศไทยแล้ว 65,847 คน ถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยว 1 ใน 20 อันดับประเทศที่เดินทางมาประเทศไทย เป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีการใช้จ่ายสูง และเดินทางเป็นครอบครัวใหญ่ 

‘นอท กองสลากพลัส’ เช็กอินบินไปอังกฤษ 8-9 วัน สวนเดือด!! หากคิดหนีจะโพสต์บอกทำไม

(20 ม.ค. 66) ‘นอท-พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์’ ซีอีโอ ‘กองสลากพลัส’ โพสต์ภาพเช็กอินการบินไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะเดินทางไปประเทศอังกฤษ พร้อมข้อความ ระบุว่า “ทำงานมาสองปีเต็มๆ เพิ่งจะได้หยุดยาวๆ ขอลางานสัก 8-9 วันนะครับ ไว้กลับมาสู้ใหม่”

ภายหลังการโพสต์ดังกล่าวมีกระแสข่าวว่านายพันธ์ธวัช หนีคดีไปต่างประเทศหรือไม่ ทำให้นายพันธ์ธวัช โพสต์ข้อความอีกว่า “ถ้ากูจะหนีออกต่างประเทศ กูจะโพสทำห่าอะไร ใช้สมองคิดกันหน่อย อ่อ!! ลืมไปพวกมึงไม่มีสมองนี่หว่า”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top