Thursday, 22 May 2025
NEWS

'อนุทิน พิพัฒน์ นาที' ร่วม 'พิธีมุทิตาสักการะ' เจ้าพระคุณสมเด็จมหาวชิรมังคลาจารย์ จ.ตรัง

ที่สำนักสงฆ์พรหมประทาน ต.ในควน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รักษาการ) นายพิพัฒน์  รัชกิจประการ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเดิน ( รักษาการ ) ดร.นาที  รัชกิจประการ แม่ทัพภาคใต้พรรคภูมิใจไทย และคณะ ลงพื้นที่ เพื่อร่วมกิจกรรมวันกตัญญูผู้สูงวัยด้วยคุณธรรม ด้วยการร่วมพิธีถวายมุทิตาสักการะ เจ้าพระคุณสมเด็จมหาวชิรมังคลาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนใต้ เจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์(พระอารามหลวง) ถวายโฉนดที่ดินและเสนาสนะ เพื่อสร้างวัดในพระพุทธศาสนาต่อไป และร่วมเดินพบปะกับประชาชนที่เดินทางมาต้อนรับและร่วมพิธีจำนวนมากได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น 

นายอนุทิน กล่าวว่า ที่มั่นของพรรคภูมิใจไทยคือทั่วประเทศ พรรคของเราเป็นของคนไทยทุกคน ซึ่งเรามีหน้าที่ต้องทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน เรามี ส.ส.ทุกภาคของประเทศไทย ภาคเหนือ กลาง อีสาน ใต้ เราทำงานมา 4 ปี แล้ว มีผลงานอย่างชัดเจน เป็นพรรคที่ส่งมอบนโยบายที่เราได้สัญญากับประชาชนเมื่อปี 2562 ทำได้แทบจะครบทุกนโยบาย หวังว่าผลงานของพรรคภูมิใจไทยก็จะทำให้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศเชื่อมั่นให้พรรคภูมิใจไทยเข้ามาทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนอีกครั้งหนึ่งภายหลังจากการเลือกตั้งภายในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 ที่จะถึงนี้ ซึ่งทางพรรคภูมิใจไทยจะส่งผู้สมัครให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งตอนนี้ยังขาดอยู่ประมาณ 7 เขต แต่ไม่มีปัญหาอะไร ในส่วนที่เป็นพื้นที่เป้าหมายส่งผู้สมัครครบแล้วทุกคนผ่านไพรมารีโหวตผ่านตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งทุกประการ

นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่เราทำไว้ช่วงที่ผ่านมา ทำสะพานเชื่อมเกาะลันตา ทำสะพานที่เชื่อม จ.พัทลุง ผ่านไปยัง จ.สงขลา ได้ด้วยการร่นระยะเวลาการเดินทางกว่า 70 กม. และยังมีโครงการอื่น ๆ อีกมากมาย โครงการคมนาคมขนส่ง ขยายสนามบินในหลายๆจังหวัดในภาคใต้ สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ประเทศไทยของเรากลับมาผงาดศูนย์กลางเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้ หมายถึงอาเซียนและเอเชียด้วย จะทำให้เกิดสภาพทางเศรษฐกิจพื้นที่ทางเศรษฐกิจขยายตัวในพื้นที่ทางภาคใต้ ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ทำให้เป็นแหล่งดูแลสุขภาพ “เมดิคัล ฮับ ออฟ เดอะ เวิลด์” ที่จะอยู่ในจังหวัดภาคใต้ ตรงนี้จะทำให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ การสร้างรายได้ของประชาชนทั้งสังคมที่จะทำให้ประชาชนมีความสงบสุข มีการมีงาน มีโอกาส มีฐานะที่ดี

ผู้ช่วยรัฐมนตรีแรงงาน มอบรางวัลองค์กรสร้างชาติดีเด่นแก่สถานประกอบการต้นแบบ มุ่งดูแลสุขภาพพนักงาน ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี

วันที่ 1 เมษายน 2566 นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล "องค์กรสุขสภาพเพื่อการสร้างชาติ โดยมี นายสัตวแพทย์ วีรพล เหมรัตนากรณ์ ประธานกรรมการบริหารคณะทำงานองค์กรสร้างชาติ รุ่นที่ 1 กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ประธานสถาบันการสร้างชาติ พร้อมด้วย นางสาวอรัญญา สกุลโกศล กรรมการรุ่นที่ 1 ผู้นำการประกอบการ WeIlness เพื่อการสร้างชาติ ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและองค์กรผู้รับรางวัล ร่วมให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุม Grand Ballroom คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC) ถนนประดิษฐ์มนูธรรม กรุงเทพฯ

นายสุรชัย กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน ได้ให้ความสำคัญในเรื่องของสุขภาพและสุขภาวะของลูกจ้าง ที่ทำงานในสถานประกอบกิจการเป็นอย่างมาก โดยเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 ได้ร่วมกับสถาบันการสร้างชาติ ลงนามบันทึกความร่วมมือเพื่อสนับสนุนโครงการ Wellness CNB นอกจากนี้ กระทรวงแรงงาน ได้ให้สำนักงานประกันสังคม จัดทำโครงการดูแลสุขภาพผู้ประกันตนเชิงรุกในสถานประกอบการ เพื่อค้นหาความเสี่ยงโรคหลอดเลือดและหัวใจ นำร่องพร้อมกันในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี สมุทรปราการ ระยอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรสาคร ปทุมธานี และชลบุรี อีกทั้ง กระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ยังได้ปรับปรุงกฎหมายเรื่องลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์ให้ได้รับการดูแล คุ้มครองสิทธิและสวัสดิการต่างๆ ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมายเรื่องความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานในสถานประกอบกิจการอย่างจริงจัง เพื่อมุ่งหวังให้ลูกจ้างมีสุขภาพและสุขภาวะที่ดี และมีความปลอดภัยในการทำงาน

นายสุรชัย กล่าวต่อว่า การจัดงานพิธีมอบรางวัลในครั้งนี้ จัดขึ้นโดยสถาบันการสร้างชาติ ร่วมกับ คณะนักศึกษา ผู้บริหารหลักสูตรผู้นำการประกอบการ Wellness เพื่อการสร้างชาติ (นสช. Wellness) ได้ริเริ่มโครงการ “การพัฒนาสุขสภาพขององค์กร เพื่อการสร้างชาติ (Wellness Corporate Nation-Building หรือ Wellness CNB)”เป็นการมอบรางวัลครั้งแรกของประเทศไทย เพื่อสนับสนุนและพัฒนาสุขสภาพ ของพนักงานในภาคธุรกิจอย่างเป็นองค์รวม บูรณาการทั้งปัจจัยภายในบุคคล และปัจจัยภายนอกอย่างครบทุกมิติ ซึ่งจะช่วยลดการเจ็บป่วย เพิ่มประสิทธิภาพประสิทธิผลในการทำงาน เกิดความคิดทัศนคติที่ดีต่อการทำงาน เสริมสร้างสัมพันธ์อันดีในที่ทำงาน ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มผลิตภาพในการทำงานเกิดประโยชน์ทั้งต่อตัวองค์กรเอง และการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของประเทศ 

ศอ.ปกป.ภาค 3 ส่งกำลังทหารสนับสนุน จ.เชียงใหม่ หลังพบไฟไหม้ป่าไหม้ลุกลามบนดอยสุเทพ

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 เวลา 13.00 น. ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ภาค 3 (ศอ.ปกป.ภาค3) ได้สนับสนุนชุดปฏิบัติการลาดตระเวนและดับไฟป่า กองทัพภาคที่ 3 ให้กับจังหวัดเชียงใหม่ 2 ชุดปฏิบัติการ จำนวน 30 นาย พร้อมอุปกรณ์ดับไฟ สนธิกำลังร่วมกับ ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จำนวน 100 นาย หลังจากเกิดเหตุไปไหม้ป่าบนพื้นที่ป่าภูเขาสูง ของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ในพื้นที่ของ อ.สะเมิง อ.หางดง และ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

โดยจะจัดชุดเดินเท้าทางภาคพื้นดินเข้าไปดับไฟและสร้างแนวกันไฟ ไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ของประชาชนโดยรอบ พร้อมกันนี้ ทางจังหวัดเชียงใหม่ได้สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จัดรถบรรทุกน้ำจำนวน 3 คัน จากเทศบาลตำบลสุเทพและเทศบาลเมืองแม่เหียะ เตรียมความพร้อม หากลุกลามเข้ามาในพื้นชุมชนและหมู่บ้าน

ปทุมธานีนครรังสิตร่วมกับ ม.ธรรมศาสตร์ จัดมหกรรมงานวิ่ง SOC WORK RUN @RANGSIT

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2566 เวลา 05.00 น. ที่บริเวณประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ร้อยตำรวจเอก ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง (ดร.โบว์ลิ่ง) นายกเทศมนตรีนครรังสิต เป็นประธานเปิดมหกรรมงานวิ่ง SOC WORK RUN @RANGSIT เพื่อมอบทุนสนับสนุนด้านการศึกษา โดยมีประชาชนมาร่วมกิจกรรมกว่า 1,000 คน


โดยบรรยากาศมหกรรมงานวิ่ง SOC WORK RUN @RANGSIT มีการนำอบอุ่นร่างกาย (Warming up) จากนั้นเวลา 05.00 น. ปล่อยตัวนักวิ่งระยะ 10 กิโลเมตร จากนั้นเวลา 05.15 น. ปล่อยตัวนักวิ่งระยะ 5 กิโลเมตร และ เวลา 05.30 น. ปล่อยตัวนักวิ่งระยะ 3 กิโลเมตร โดยเส้นทางวิ่งจะเป็นเส้นเลียบคลองรังสิตและวิ่งวนกลับมายังจุดเริ่มต้นที่ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จากนั้นมีการมอบเหรียญให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรม และมอบถ้วยรางวัลให้ผู้ที่ชนะเลิศเข้าอันดับหนึ่ง สำหรับวัตถุประสงค์ในการจัดมหกรรมงานวิ่ง SOC WORK RUN @RANGSIT เพื่อมอบทุนสนับสนุนด้านการศึกษา และเป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวของนครรังสิต เพื่อรณรงค์ให้เยาวชน ประชาชนคนไทย ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและห่างไกลยาเสพติดด้วยการเดินและวิ่งเพื่อสุขภาพ และสานสัมพันธ์และสร้างพลังสามัคคีของคนในชุมชน

ปทุมธานี ภัยแล้งมาแล้วนายกแจ๊สจับมือทุกฝ่ายบูรณาการ แก้ไขปัญหาช่วยเกษตรกรอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอหนองเสือ ตำบลบึงบา อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานในการประชุมแก้ไขปัญหาภัยแล้งในเขตพื้นที่อำเภอหนองเสือ เพื่อป้องกันและแก้ไขภัยแล้งอย่างยั่งยืน โดยมีคณะผู้บริหาร สมาชิกสภา กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบจ.ปทุมธานี ผู้นำชุมชน และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ว่าที่ร้อยตรีธีระพล โชคนำชัย นายอำเภอหนองเสือ , นายมานพ แจ่มมี ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตเหนือ , นายเฉลิมพล ทองน้อย ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สำนักงานชลประทานที่ 11 เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ โดยมีชาวบ้านนำผลผลิตทางการเกษตร พืชผักผลไม้ที่ชาวบ้านปลูกมามอบให้นายกแจ๊สและทีมงานเพื่อขอบคุณที่ช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้เกษตรชาวหนองเสือ


โดยมี นายพิษณุ พลธี อดีต ส.ส.เขต.6 ปทุมธานี พรรคภูมิใจไทย (นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดปทุมธานี) และผู้นำชุมชนได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในคลองส่งน้ำที่เก้า เนื่องจากเป็นคลองที่มีสภาพตื้นเขินทีสุด หากระดับน้ำในคลองระพีพัฒน์ลดน้ำในคลองส่งน้ำหลักจะแห้งอย่างรวดเร็ว ทำให้น้ำไหลเข้าคลองย่อยหรือคลองซอยตามธรรมชาติไม่ได้ จึงต้องใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เบื้องต้น ทาง อบจ.ปทุมธานีได้นำเครื่องสูบน้ำจำนวน 8 เครื่องมาตั้งเครื่องที่บริเวณประตูระบายน้ำคลองย่อยต่าง ๆ เพื่อสูบน้ำให้เกษตรกรใช้น้ำได้อย่างปกติ


ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า วันนี้ได้ประสานชลประทาน ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต. ท่านนายอำเภอฯ ทุกฝ่ายมาร่วมกันระดมรับฟังปัญหาเพื่อแก้ไขปัญหาที่ถูกจุด วันนี้เกิดประโยชน์มากที่ทางกำนันผู้ใหญ่บ้าน นายกอบต.ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เมื่อรับทราบปัญหาทางชลประทานจะมีการเติมน้ำเข้ามาในคลองส่งน้ำคลองหลัก เพื่อให้เราได้สูบน้ำเข้าไปยังคลองย่อยคลองซอย

‘สาวไทย’ โพสต์ติ๊กต๊อก โต้!! ข่าวเที่ยวเมืองไทยแพง หลังโลกออนไลน์ของจีนวิจารณ์ค่าครองชีพในไทยสนั่น

(2 เม.ย. 66) เมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการมาเที่ยวที่ประเทศไทย ซึ่งกำลังเป็นประเด็นร้อนในหมู่นักท่องเที่ยวชาวจีนอยู่ ณ ขณะนี้ โดยชาวเน็ตจีนได้ออกาแสดงความคิดเห็นเชิงลบเป็นส่วนใหญ่ เกี่ยวกับค่าครองชีพในไทยที่สูงขึ้น ทำให้มีผู้ใช้ติ๊กต็อก ชื่อ ‘chinbebe’ ได้โพสต์วิดีโอพูดความในใจเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่า…

“ประเทศไทย ถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีค่าครองชีพสูง ซึ่งช่วงนี้ทางอินฟลูเอนเซอร์จีนหลายคน ได้ออกมาพูดว่า “ไทยไม่ใช่ไทยเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ในตอนนี้เงิน 100 หยวน ไม่สามารถกินได้แบบตามใจอย่างเมื่อก่อน” ซึ่งตัวฉันเอง ในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง จึงขอพูดทวงความยุติธรรมให้กับเมืองไทย ขอฝากถึงชาวจีนที่คิดว่าประเทศไทยที่คุณมาเที่ยวนั้น เที่ยวไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่คุณต้องเสีย ฉันคิดว่าถ้าอย่างนั้น คุณก็ไม่ต้องไปเที่ยวที่อื่นแล้วค่ะ เพราะไม่อย่างนั้นคุณจะต้องหนักใจแน่นอน”

 

นอกจากนี้ ผู้ใช้งานติ๊กต็อกรายนี้ยังกล่าวถึงเรื่องของการใช้เงินซื้ออาหาร หรือเครื่องดื่มในร้านสะดวกซื้อในประเทศไทยอีกว่า…

“ที่ประเทศไทยคุณสามารถใช้เงินไม่ถึง 100 หยวน เพื่อซื้อของในร้านสะดวกซื้อ คุณจะสามารถได้ของกินอร่อย ๆ เต็มถุงใหญ่ ๆ เลยทีเดียว ซึ่งถือว่าได้ของเยอะกว่า แถมเสียเงินน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับการที่คุณไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น หรือประเทศเกาหลี ไม่ต้องพูดถึงยุโรปเลย”

สมุทรปราการ-“อบต.บางพลีใหญ่” จับมือ “วัดบางพลีใหญ่กลาง” บรรพชาสามเณร 60 รูป เทิดพระเกียรติวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน

ที่วัดบางพลีใหญ่กลางได้จัดพิธีบรรพชาอุปสมบทสามเณร จำนวน 60 รูป เพื่อเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 68 พรรษา ซึ่งตรงกับวันที่ 2 เมษายน ของทุกปี

 

โดยในปี 2566 นี้ทาง อบต.บางพลีใหญ่ นำโดย ดร.วีร์สุดา รุ่งเรือง นายก อบต.บางพลีใหญ่ ร่วมกับทางวัดบางพลีใหญ่กลางโดยได้รับความเมตตาจาก ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ ดร. เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ร่วมกันจัดโครงการพิธีบรรพชาอุปสมบทหมู่สามเณร จำนวน 60 รูป เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน

 

โดยท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ ดร. เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง กล่าวว่า ในการบรรพชาอุปสมบทหมู่สามเณรในปี 2566 นี้ ประกอบด้วย นักเรียนโรงเรียนวัดบางพลีใหญ่กลาง โรงเรียนเตรียมปริญญานุสรณ์ โรงเรียนคลองบางกระบือ เป็นต้น ตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาถึงระดับชั้นมัธยมศึกษา รวมทั้งสิ้นจำนวน 60 รูป 

 

อย่างไรก็ตาม โครงการบรรพชาอุปสมบทหมู่สามเณรในปีนี้ ที่ทาง อบต.บางพลีใหญ่ ร่วมกับวัดบางพลีใหญ่กลางได้ร่วมกันจัดโครงการดังกล่าวขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดี อีกทั้ง เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน และ ทรงเจริญพระชนมายุครบ 68 พรรษา ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

 

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ ทรงพระราชทาน ‘เข้าเฝ้า-รับรางวัล’ แก่เยาวชนคนเก่ง ภายในงานการประชุมวิชาการ สวทช. ประจำปี 2566

เมื่อไม่นานนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยัง อาคารศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ทรงเปิดการประชุมวิชาการ สวทช. ประจำปี 2566 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 ถึง 31 มีนาคม 2566 ภายใต้แนวคิด ‘สวทช. : ขุมพลังหลัก วทน. เร่งการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG สู่ความยั่งยืน’ ตามนโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG Economy Model เพื่อเป็นเวทีในการนำเสนอผลงานของบุคลากรด้านงานวิจัยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเรียนรู้จากเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน สนับสนุนให้เกิดการพัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล มั่นคง และยั่งยืน

โอกาสนี้ มีพระราชดำรัสเปิดการประชุมและทรงตัดแถบแพรเปิด ‘นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไทย’ และ ‘นิทรรศการความก้าวหน้าทางงานวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี’ ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ

สำหรับนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ จัดแสดงโครงการต่างๆ อาทิ นิทรรศการ ‘18 ปี ภาคีวิศวกรรมชีวการแพทย์ไทย’ ที่เน้นการสร้างผลงานไปสู่การใช้ประโยชน์ เช่น การพัฒนาเข็มขนาดไมโครเมตรสำหรับการรักษาและตรวจวินิจฉัยโรค ที่ช่วยให้การแพร่กระจายของยาหรือสารชีววัตถุเข้าสู่ผิวหนังดีขึ้น ชุดทดสอบประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อในหม้อนึ่งความดันไอน้ำ ช่วยลดต้นทุนการผลิต ใช้งานง่ายและอ่านผลได้ด้วยตาเปล่า

‘โครงการภาคีโครงสร้างพื้นฐานระดับชาติด้าน e-Science’ เป็นโครงการตามพระราชดำริ ในด้านการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม และสนับสนุนความร่วมมือด้านฟิสิกส์อนุภาคพลังงานสูงระหว่างประเทศไทยและสภาวิจัยนิวเคลียร์แห่งยุโรปอันสามารถยกระดับงานวิจัยของประเทศไทยให้เท่าเทียมงานวิจัยระดับนานาชาติ

‘โครงการฝึกทักษะถอดความเสียงพูด เพื่อจัดทำคำบรรยายแทนเสียง สำหรับผู้มีปัญหาทางการได้ยิน’ ซึ่ง สวทช.ร่วมกับมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิงปทุมธานี จัดทำขึ้น เพื่อพัฒนาทักษะด้านการพิมพ์สัมผัสและถอดความเสียงพูดแก่ผู้ต้องขัง ซึ่งจะสามารถพัฒนาเป็นอาชีพภายหลังพ้นโทษได้ และ ‘NSTDA core business’ ซึ่งเป็นการแสดงผลงานการวิจัยด้านเศรษฐกิจและสังคม ที่ สวทช. มุ่งพัฒนาและขับเคลื่อนในยุค NSTDA 6.0 ในปี 2566 ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการนำงานวิจัยที่ตอบโจทย์ความต้องการของสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ 4 เรื่องคือ แพลตฟอร์มบริหารจัดการปัญหาเมือง แพลตฟอร์มบริการทางการแพทย์ดิจิทัล แพลตฟอร์มให้บริการผลิตอาหารแห่งอนาคต ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง และผลิตภัณฑ์กลุ่มสารให้ประโยชน์เชิงหน้าที่ ในรูปแบบ One stop service และแพลตฟอร์มสนับสนุนอุตสาหกรรม 4.0

เวลา 14.31 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำคณะผู้บริหารและข้าราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เฝ้าทูลละอองพระบาท ถวายพระพรชัยมงคลและทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ วันที่ 2 เมษายน 2566

ผู้ช่วยรัฐมนตรีแรงงาน มอบรางวัลองค์กรสร้างชาติดีเด่นแก่สถานประกอบการต้นแบบ มุ่งดูแลสุขภาพพนักงาน ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี

วันที่ 1 เมษายน 2566 นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล "องค์กรสุขสภาพเพื่อการสร้างชาติ โดยมี นายสัตวแพทย์ วีรพล เหมรัตนากรณ์ ประธานกรรมการบริหารคณะทำงานองค์กรสร้างชาติ รุ่นที่ 1 กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ประธานสถาบันการสร้างชาติ พร้อมด้วย นางสาวอรัญญา สกุลโกศล
กรรมการรุ่นที่ 1 ผู้นำการประกอบการ WeIlness เพื่อการสร้างชาติ ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและองค์กรผู้รับรางวัล ร่วมให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุม Grand Ballroom คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC) ถนนประดิษฐ์มนูธรรม กรุงเทพฯ

นายสุรชัย กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน ได้ให้ความสำคัญในเรื่องของสุขภาพและสุขภาวะของลูกจ้าง
ที่ทำงานในสถานประกอบกิจการเป็นอย่างมาก โดยเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 ได้ร่วมกับสถาบันการสร้างชาติ 
ลงนามบันทึกความร่วมมือเพื่อสนับสนุนโครงการ Wellness CNB นอกจากนี้ กระทรวงแรงงาน ได้ให้สำนักงานประกันสังคม จัดทำโครงการดูแลสุขภาพผู้ประกันตนเชิงรุกในสถานประกอบการ เพื่อค้นหาความเสี่ยงโรคหลอดเลือดและหัวใจ นำร่องพร้อมกันในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี สมุทรปราการ ระยอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรสาคร ปทุมธานี และชลบุรี อีกทั้ง กระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ยังได้ปรับปรุงกฎหมายเรื่องลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์ให้ได้รับการดูแล คุ้มครองสิทธิและสวัสดิการต่างๆ ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมายเรื่องความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานในสถานประกอบกิจการอย่างจริงจัง เพื่อมุ่งหวังให้ลูกจ้างมีสุขภาพและสุขภาวะที่ดี และมีความปลอดภัยในการทำงาน

เชียงใหม่-ศอ.ปกป.ภาค 3 ส่งกำลังทหารสนับสนุน จ.เชียงใหม่ หลังพบไฟไหม้ป่าไหม้ลุกลามบนดอยสุเทพ

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 เวลา 13.00 น. ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ภาค 3 (ศอ.ปกป.ภาค3) ได้สนับสนุนชุดปฏิบัติการลาดตระเวนและดับไฟป่า กองทัพภาคที่ 3 ให้กับจังหวัดเชียงใหม่ 2 ชุดปฏิบัติการ จำนวน 30 นาย พร้อมอุปกรณ์ดับไฟ สนธิกำลังร่วมกับ ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จำนวน 100 นาย หลังจากเกิดเหตุไปไหม้ป่าบนพื้นที่ป่าภูเขาสูง ของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ในพื้นที่ของ อ.สะเมิง , อ.หางดง และ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยจะจัดชุดเดินเท้าทางภาคพื้นดินเข้าไปดับไฟและสร้างแนวกันไฟ ไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ของประชาชนโดยรอบ พร้อมกันนี้ ทางจังหวัดเชียงใหม่ได้สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จัดรถบรรทุกน้ำจำนวน 3 คัน จากเทศบาลตำบลสุเทพและเทศบาลเมืองแม่เหียะ เตรียมความพร้อม หากลุกลามเข้ามาในพื้นชุมชนและหมู่บ้าน

นอกจากนี้ยังได้ประสานขอเฮลิคอปเตอร์ขี้นบินสนับสนุนด้วยการบรรทุกน้ำจากแหล่งน้ำที่ใกล้ที่สุดขึ้น บินโปรยน้ำดับไฟเพื่อจำกัดวงของไฟไม่ให้ลุกลามขยายเป็นวงกว้าง จำนวน 18 เที่ยว ปริมาณ 9,000 ลิตร ซึ่งคาดว่าจากการปฏิบัติทางภาคพื้นและอากาศยาน สามารถควบคุมจุดไฟป่าส่วนใหญ่ได้แล้ว ยังคงปฏิบัติการพร้อมเฝ้าระวัง ป้องกัน ต่อเนื่อง

นภาพร/เชียงใหม่

‘นันยาง’ ไม่พลาด!! ออกแคมเปญ ‘ช้างดาวหมาล่า’ ใส่แล้ว ‘ชาทุกย่างก้าว’ ย้ำ!! อย่าทิ้ง ต้มซุปต่อได้อีก 3 น้ำ

(1 เม.ย. 66) 1 เมษาวันโกหก หลายๆ คนก็ได้งัดมุขขำๆ มาเล่นกับเพื่อนกันให้พอได้เฮฮา ทว่าต้องอยู่ภายใต้ความปลอดภัย และไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น

ซึ่งแบรนด์รองเท้าของไทยอย่าง ‘นันยาง’ ก็เล่นด้วย เกาะกระแสวัน 1 เมษา โดยการออกแคมเปญ ‘ช้างดาวหมาล่า’ กับคอนเซ็ปต์ ‘ชาทุกย่างก้าว’

โดยคิดเนื้อหาของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้จำหน่ายจริงนี้อย่างสร้างสรรค์ ดังว่า ใหม่! ช้างดาวหมาล่า ชา เผ็ด ร้อน! ทั้งนี้เมื่อสแกนลิงก์เข้าไปดูแล้วจะพบว่า ‘สุขสันต์วันโกหก’

การรวมตัวครั้งสำคัญ ระหว่าง ยางพาราธรรมชาติ กับ กากพริกและเครื่องเทศเหลือทิ้งจากร้านชาบูหมาล่าทั่วประเทศ ผ่านกระบวนการเทอร์โมนิวเคลียร์ฟิวชั่น ผสมผสานเนื้อยางพาราเข้ากับกากหมาล่าเหลือทิ้ง ช่วยลดปริมาณขยะจากเศษอาหารของร้านชาบูหมาล่าทั่วราชอาณาจักร ก่อกำเนิด ‘รองเท้าแตะช้างดาวหมาล่า’ เพิ่มสรรพคุณ เหนียว ทน หนึบ เสริมสุขภาพ ลดโลกร้อน นำขยะมาใช้ใหม่เพื่อสิ่งแวดล้อม เมื่อสิ้นสุดการใช้ผลิตภัณฑ์สามารถนำไปต้มชาบูหมาล่าได้อีก 3 ครั้ง

โดยกากอาหารที่เหลือจากการบริโภคชาบูหมาล่า จากได้รับความร้อนจนทำให้มีพลังงานมากกว่าพลังงาน Ionization เครื่องเทศต่างๆ จะหลุดออกจากอะตอมเหลือแค่นิวเคลียสของมันทิ้งไว้ และนิวเคลียสเปล่าที่เหลืออยู่เรียกว่า ลู่หมาล่า ผลของกระบวนการนี้ทำให้เกิดกลุ่มก้อนของพริกไทยเสฉวน และอิเล็กตรอนอิสระที่เรียกว่า เด้าลิ้น ซึ่งพลาสม่านั้นควบคุมได้ด้วยเตาถ่าน ใช้สามารถในการควบคุมพลาสม่าด้วยแม่เหล็กนี้ในการตรึงอนุภาคไว้ในขณะที่ให้ความร้อน

ทั้งนี้ งานวิจัยเถื่อนที่ไม่ได้ตีพิมพ์ในวารสารมิจชาการ ช้างดาว Journal เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2566 เปิดเผยว่า รองเท้าแตะช้างดาวหมาล่า มีสารแคปไซซิน (Capsaicin) ที่เป็นสารประกอบที่มีอยู่ในหม่าล่า ช่วยย่อยสลายหนังตายที่ฝ่าเท้า ลดการแตกลายของส้นเท้า ช่วยให้เท้ากลับมาเนียนนุ่ม และยังมีกรดซิตริกและกรดอะมิโน ช่วยให้เลือดเท้าไหลเวียนดี อีกทั้งหมาล่ายังมีส่วนผสมของสมุนไพรและเครื่องเทศหลายชนิด เช่น โป๊ยกั๊ก อบเชย ขิง กานพลู เม็ดยี่หร่า พริกไทยเสฉวน พริกแห้งพริกป่น กระเทียม กระวานดำ ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระและปรับปรุงการทำงานของเมตาบอลิซึมที่เป็นระบบการเผาผลาญในร่างกายให้เป็นปกติ จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเส้นเลือดขอดได้เป็นอย่างดี

นักการเมือง-นักธุรกิจ-ปชช. ร่วมพิธีรดน้ำศพ ‘เอ๋ ชนม์สวัสดิ์’ เผย ‘บิ๊กป้อม’ เป็นประธานสวดพระอภิธรรมคืนแรก

(1 เม.ย. 66) ครอบครัวอัศวเหม จัดพิธีรดน้ำศพ นายชนม์สวัสดิ์  อัศวเหม อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการและแกนนำกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า ที่บ้านขาวริมอ่าวเจ้าพระยา ถนนท้ายบ้าน จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีบุคคลสำคัญในวงการการเมือง เช่น นายสุนทร ปานแสงทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก อดีตส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ นายเศรณี ชาญวีรกูล บุตรชายนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แฟนหนุ่มของนางสาวชนม์ทิดา อัศวเหม หรือเพลง ลูกสาวของนายชนม์สวัสดิ์ และนักธุรกิจ เข้าร่วม โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า 

โดยพิธีรดน้ำศพในครั้งนี้ ทางครอบครัวอัศวเหม ได้จัดสถานที่แบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน คือบริเวณภายในบ้านขาวริมอ่าวเจ้าพระยา ที่ตั้งร่างของนายชนม์สวัสดิ์ จะให้เฉพาะครอบครัว ญาติ คนใกล้ชิดและผู้ใหญ่วงการการเมือง และวงการธุรกิจเข้ารดน้ำศพ

พม. โดย สค. จัดกิจกรรมสานพลังเครือข่ายร่วมขจัดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ : Gender Fair 2023

เมื่อวานนี้ (31 มี.ค. 66) เวลา 17.00 น. ณ บริเวณลานด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (หอศิลปกรุงเทพฯ) คุณอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดกิจกรรมสานพลังเครือข่ายร่วมขจัดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ (Gender Fair 2023) 

พร้อมคุณจินตนา จันทร์บำรุง อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ภายใต้แนวคิด ส่งเสริมนวัตกรรมเพื่อสร้างสังคมแห่งความเท่าเทียมระหว่างเพศ (Innovation for Gender Equality) และมอบประกาศเกียรติคุณแก่ 17 องค์กร ที่มีความมุ่งมั่นในการนำแนวคิดเรื่องความเท่าเทียมระหว่างเพศไปใช้ในการบริหารจัดการองค์กรและการประกอบกิจการ 

‘ตร.ไซเบอร์’ เตือนภัย มิจฉาชีพอ้างเป็น จนท.กองสลากฯ หลอกติดตั้งแอปฯ หวังดูดเงิน-ลวงข้อมูล แนะ ควรตรวจสอบให้ดี

(1 เม.ย.66) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยประชาชน กรณีมิจฉาชีพอาจฉวยโอกาส แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หลอกลวงประชาชนเอาทรัพย์สิน หรือเอาข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลทางการเงินไปแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ดังนี้

ตามที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ประกาศผ่าน https://www.glo.or.th ยกเลิกการให้บริการจ่ายเงินรางวัลเป็นเงินสด ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป โดยผู้ที่ถูกรางวัลสามารถเลือกรับเงินรางวัลได้ จำนวน 3 วิธีการ ได้แก่ 1.โอนเข้าบัญชีธนาคารได้ทุกธนาคาร ยกเว้นวงเงินเกินกว่า 2,000,000 บาท ขึ้นไป โอนได้เฉพาะบัญชี ธนาคารออมสิน หรือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เท่านั้น 2.รับเช็คธนาคารกรุงไทย สาขาสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยเช็คสั่งจ่ายชื่อผู้ขอรับเงินรางวัล 3.รับเงินรางวัลกับตัวแทน ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขานั้น

มิจฉาชีพอาจฉวยโอกาสดังกล่าวแสวงหาวิธีการมาหลอกลวงเอาทรัพย์สิน หรือเอาข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลทางการเงินของประชาชน ไปใช้ประโยชน์โดยมิชอบ หรือนำไปกระทำผิดกฎหมาย โดยการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลสร้างความน่าเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเว็บไซต์ปลอมให้มีลักษณะคล้ายคลึงกับเว็บไซต์จริง สร้างเพจเฟซบุ๊กปลอมคัดลอกเนื้อหามาจากเพจจริง หรือส่งลิงก์แนบมากับข้อความสั้น (SMS) หรือโทรศัพท์ไปยังประชาชน ให้เพิ่มเพื่อนแอดไลน์ หลอกลวงให้ติดตั้งแอพพลิเคชั่นปลอมซึ่งฝังมัลแวร์และดักรับข้อมูลต่างๆ เป็นต้น

โฆษก บช.สอท. กล่าวเพิ่มเติมว่า การหลอกลวงในรูปแบบดังกล่าว อาชญากรไซเบอร์จะฉวยโอกาสเปลี่ยนแปลงชื่อหน่วยงาน ปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องที่หลอกลวงไปเรื่อยๆ ให้สอดคล้องกับกิจกรรม หรือสถานการณ์ในช่วงนั้นๆ แต่ยังคงใช้แผนประทุษกรรมในรูปแบบเดิม คือ การหลอกลวงให้เหยื่อติดตั้งแอพพลิเคชั่นปลอม หลอกลวงให้กรอกข้อมูลส่วนตัว กรอกรหัสการทำธุรกรรมทางการเงิน เพราะฉะนั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ หรือบริการต่างๆ บนสื่อสังคมออนไลน์ ควรตรวจสอบให้ดีเสียก่อน ไม่หลงเชื่อเพียงเพราะการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงาน แอบอ้างสัญลักษณ์ของหน่วยงานนั้นๆ หรือมีชื่อเว็บไซต์ที่คิดว่าจะเป็นเว็บไซต์จริง และพึงระมัดระวังการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลทางการเงิน ซึ่งมิจฉาชีพจะฉวยโอกาสไปแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ

​จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ถึงวิธีการหลีกเลี่ยงการถูกมิจฉาชีพหลอกลวง ดังนี้

1.) ผู้ถูกรางวัลสามารถเลือกรับเงินรางวัลได้ตามประกาศของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลดังกล่าวเท่านั้น หากมีการแอบอ้างวิธีอื่นสันนิษฐานว่าคือมิจฉาชีพแน่นอน
2.) การพิมพ์ชื่อหน่วยงานใดๆ เพื่อค้นหาเว็บไซต์ ไม่ได้มีความปลอดภัยเสมอไป ควรเพิ่มความระมัดระวังในการสังเกตชื่อเว็บไซต์ หรือสังเกต URL อย่างละเอียด และไม่หลงเชื่อเว็บไซต์ที่มีการยิงโฆษณาของมิจฉาชีพ
3.) เว็บไซต์ปลอมมีองค์ประกอบของเว็บไซต์น้อยกว่าเว็บไซต์จริง มิจฉาชีพหวังเพียงให้เหยื่อคลิกปุ่ม หรือ Pop-up ติดตั้งแอพพลิเคชั่นปลอมเท่านั้น
4.) เว็บไซต์ปลอมจะไม่สามารถเข้าคลิกเข้าไปสู่ฟังก์ชั่น หรือคลิกเข้าไปสู่หน้าอื่นๆ ของเว็บไซต์ได้

เปิดงาน 'มหกรรมเล่าขานตำนานเมืองระยอง' เฉลิมพระเกียรติ 68 พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในงานวันอนุรักษ์มรดกไทย ประจำปี 2566

เมื่อวันที่ (31 มี.ค.66) ผู้สื่อข่ารายงานว่า จังหวัดระยอง โดยสำนักงานวัฒนาธรรมจังหวัดระยอง ได้จัดงานมหกรรมเล่าขานตำนานเมืองระยอง เฉลิมพระเกียรติ 68 พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในงานวันอนุรักษ์มรดกไทย ประจำปี 2566 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 มี.ค.-2 เม.ย.66 นี้ ก่อนมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ มีกิจกรรมขบวนแห่ของดีบ้านฉัน 8 อำเภอ เริ่มตั้งแต่บริเวณวัดป่าประดู่ มาตามถนนสุขุมวิท เลี้ยวเข้าถนนตากสินมหาราช เข้าสู่ถนนยมจินดา บริเวณเวทีกลางถนนยมจินดา อ.เมือง จ.ระยอง พร้อมมีการแสดงแสงสีเสียงเล่าขานตำนานเมืองระยอง ชมวิถีชีวิต และความเป็นอยู่ของชาวระยองในอดีต ชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ

โดยมีนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง เป็นประธานเปิดงานอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมกับมีการแสดงศิลปวัฒนธรรม การสาธิตอาหารพื้นบ้าน และผลิตภัณฑ์ชุมชน 8 อำเภอ การจำหน่ายอาหารคาวหวานพื้นถิ่น การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง ลูกกรุง และการแสดงมินิคอนเสิร์ตของนักร้องชื่อดัง 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top