Sunday, 15 June 2025
NEWS

เกิดเหตุมือระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีใกล้ประตูสนามบินคาบูล ดับ 13 ทหารสหรัฐฯ บาดเจ็บ “เครื่องบินรบทหารอิตาลี” ถูกยิงระหว่างขึ้นเทคออฟ

เอพี/เอเจนซีส์/รอยเตอร์ – เกิดระเบิดบริเวณหนึ่งในประตูทางเข้าสนามบินฮามิดการ์ไซที่กำลังพลุกพล่านไปด้วยผู้คนที่ต้องการอพยพออกจากอัฟกานิสถานช่วงบ่าย เชื่อว่าเป็นฝีมือของมือระเบิดฆ่าตัวตาย พยานในเหตุการณ์ระบุมีบาดเจ็บและเสียชีวิต พบมีเจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐฯ รวมอยู่ในกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนเครื่องบินทหารอิตาลีถูกมือลึกลับยิงใส่ระหว่างกำลังเดินทางออกจากสนามบิน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้รายงานสรุปการระเบิดที่สนามบินแล้ว

เอพีรายงานวันนี้ (26 ส.ค) ว่า เกิดระเบิดดังขึ้นใกล้กับสนามบินท่าอากาศยานฮามิดการ์ไซในช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี (26 ส.ค) ตามเวลาท้องถิ่นอัฟกานิสถานอ้างอิงจากโฆษกกระทรวงเพนตากอน จอห์น เคอร์บี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ให้ตัวเลขบาดเจ็บเสียชีวิต แต่ทว่าพยานในเหตุการณ์กล่าวว่า ดูเหมือนมีจำนวนไม่กี่คนจะเสียชีวิตหรือบาดเจ็บหลังระเบิดและเชื่อว่าเป็นฝีมือของมือระเบิดฆ่าตัวตาย

เจ้าหน้าที่เพนทากอนยืนยันกับเอพีถึงเหตุระเบิดแต่ยังไม่ยอมกล่าวถึงตัวเลขการสูญเสีย แต่ทว่า CNN รายงานด่วนเข้ามาว่า ในรายงานเบื้องต้นพบว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐฯ รวมอยู่ในกลุ่มผู้บาดเจ็บ ส่วนรอยเตอร์ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตอลิบานชี้ว่ามีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 13 คนรวมเด็ก และเจ้าหน้าที่การ์ดของตอลิบานจำนวนมากบาดเจ็บเช่นกัน เอพีเปิดเผยว่ามีผู้บาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 15 คน และจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน

ขณะที่สถานทูตสหรัฐฯ ประจำอัฟกานิสถานแถลงว่า มีระเบิดครั้งร้ายแรงเกิดขึ้นและตามมาด้วยเสียงปืนต่อสู้ พร้อมเตือนพลเมืองสหรัฐฯ ห้ามเดินทางมาที่สนามบินฮามิดกาไซเด็ดขาด

อดัม ข่าน (Adam Khan) พยานในเหตุการณ์ที่กำลังรออยู่ด้านนอกของสนามบินเปิดเผยว่า ระเบิดเกิดขึ้นในฝูงคนที่กำลังรอเพื่อจะได้เข้าไปด้านใน โดยเขายืนอยู่ห่างออกไปราว 30 เมตรมีคนไม่กี่คนดูเหมือนเสียชีวิตหรือบาดเจ็บรวมไปถึงคนที่สูญเสียอวัยวะ

CNN รายงานเพิ่มเติมว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ได้รับรายงานสรุปเกี่ยวกับการระเบิดที่สนามบินคาบูล สื่อสหรัฐฯ ชี้ว่า ยังมีทหารสหรัฐฯ ยังคงทำงานอยู่ด้านในสำหรับช่วยเหลือการอพยพ และล่าสุดรายงานว่า มีการเกิดระเบิดครั้งที่ 2 ใกล้โรงแรมบารอนที่ตั้งอยู่ใกล้สนามบิน

นิสวีกรายงานว่า เครื่องบินกองทัพอิตาลีถูกยิงระหว่างกำลังจะขึ้นบินจากสนามบินคาบูล ไม่พบว่าตัวเครื่องบินได้รับเสียหาย โดยเครื่องบินลำเลียง C-130 นั้นอพยพชาวอัฟกันจำนวน 100 คนออกไป ขณะที่กำลังเทคออฟกลับถูกโจมตีด้วยการยิงออกมาจากสนามบินแต่ไม่ทราบว่าเป็นฝ่ายใดหรือเหตุผลของการยิง


ที่มา : https://mgronline.com/around/detail/9640000084521


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘กองทัพบก’ จัดพิธีบำเพ็ญกุศล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเปิดกองบัญชาการกองทัพบก ครบรอบปีที่ 35 ในวันที่ 29 สิงหาคม 2564

วันนี้ (27 สิงหาคม 2564) เวลา 07.00 - 08.30 น. ณ กองบัญชาการกองทัพบก พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเปิดกองบัญชาการกองทัพบก ครบรอบปีที่ 35 ในการนี้ผู้บัญชาการทหารบก และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ในกองบัญชาการกองทัพบก รวมถึงผู้บังคับบัญชาหน่วยงานในกองบัญชาการกองทัพบก 14 หน่วย ได้กระทำพิธีสักการะศาลพระชัยมงคลภูมิ, พิธีถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5, พิธีตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 10 รูป จากวัดโสมนัสราชวรวิหาร บริเวณลานด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 และมอบรางวัลข้าราชการดีเด่นประจำปี 2564 ให้แก่ผู้แทนกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและคุณภาพจำนวนทั้งสิ้น 71 นายจากกำลังพลทั้งหมดภายในกองบัญชาการกองทัพบก เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน พร้อมทั้งได้ให้โอวาทแก่กำลังพลที่ปฏิบัติงานในกองบัญชาการกองทัพบก (สำหรับปีนี้สำนักงานเลขานุการกองทัพบกจะเป็นผู้รับมอบรางวัลแทนกำลังพลดีเด่นทั้ง 71 นาย เพื่อเป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด -19)

กองบัญชาการกองทัพบก เดิมมีที่ตั้งอยู่ภายในกระทรวงกลาโหม และอีกส่วนหนึ่งบริเวณสวนรื่นฤดี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ต่อมากองทัพบกเล็งเห็นว่าสถานที่เดิมค่อนข้างคับแคบ ขณะเดียวกันโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ซึ่งตั้งอยู่บนถนนราชดำเนินนอก เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ได้ย้ายไปอยู่ อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก จึงเล็งเห็นว่าสถานที่ตั้งโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เดิม มีความเหมาะสมอย่างยิ่ง เนื่องจากเคยเป็นแหล่งผลิตนายทหารหลัก ที่สร้างชื่อเสียงเกียรติยศให้แก่กองทัพบกหลายท่าน และมีพื้นที่กว้างขวาง การคมนาคมสะดวก ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร และเป็นเส้นทางผ่านของแขกบ้านแขกเมือง พลเอก อาทิตย์ กำลังเอก ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้นจึงได้สั่งการให้ใช้สถานที่แห่งนี้เป็นกองบัญชาการกองทัพบก และได้กระทำพิธีเปิดที่ทำการของกองบัญชาการกองทัพบก ครั้งแรกเมื่อ 29 สิงหาคม 2529


ภาพ/ข่าว  แผนกแถลงข่าว กองประชาสัมพันธ์  / สำนักงานเลขานุการกองทัพบก

'ผู้กำกับโจ้' เผย ลูกน้องไม่เกี่ยว ยอมรับผิดคนเดียว ลั่น เครียดจนคิดอยากฆ่าตัวตายก่อนเข้ามอบตัว

ภายหลัง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แถลงปิดคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ และพวกทรมานผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติดจนเสียชีวิต

จากนั้นได้เปิดโอกาสให้ผู้กำกับโจ้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวทางโฟนอิน โดยผู้กำกับโจ้ยอมรับว่าสิ่งที่ทำไปไม่ถูกต้อง ขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ลูกน้องไม่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ทำงานมา ไม่เคยซ้อมทรมานผู้ต้องหา นี่เป็นกรณีแรก และเป็นการตัดสินใจของตนคนเดียว

"กราบขอโทษประชาชน ผมตั้งใจทำงานจริง ๆ แต่มันพลาดไป ต้องกราบขอโทษพ่อแม่น้อง ขอโทษผบ.ตร.และตำรวจทุกคน ผมผิดเองต้องขอโทษทุกคนครับ"

ผู้กำกับโจ้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่าตอนที่เกิดเหตุรู้สึกช็อก เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้

พร้อมกันนี้ผู้กำกับโจ้ยืนยันว่าไมได้ให้เงินพ่อผู้ต้องหาที่เสียชีวิต แค่ช่วยงานศพไป 30,000 บาท

ทั้งนี้ ระหว่างการแถลงข่าว ด้าน พล.ต.ต. เอกลักษณ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบช.ภ.6 ได้เปิดเผยว่า ก่อนผู้กำกับโจ้เข้ามอบตัว ได้โทรศัพท์หาตน บอกไม่ไหวแล้ว จะฆ่าตัวตาย ซึ่งตนตอบกลับไปว่า... 

"ตายแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเหลืออะไร เป็นตำรวจต้องมีเกียรติ ผิดก็ต้องยอมรับผิด จากนั้นเขาก็บอกให้ผมไปรับเขาที่ชลบุรี ผมก็แต่งเครื่องแบบไปรอเขาที่ที่หน้าสภ.แสนสุข รออยู่ประมาณ 15 นาที เขาก็นั่งรถยนต์มาพบผม จากนั้นผมก็เข้าไปลงบันทึกในสภ.แสนสุข และรายงานผู้บังคับบัญชารับทราบ" รองผบช.ภ .6 กล่าว


ที่มา: https://siamrath.co.th/n/275150
https://siamrath.co.th/n/275151


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เกาะติดภารกิจ “ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19" ผู้สื่อข่าวพร้อมพันธมิตรจิตอาสา ลุยส่งข้าวกล่องปันอิ่ม ช่วยผู้กักตัวชุมชนโรงน้ำแข็งแรง ย่านลาดพร้าว

วันที่ 26 สิงหาคม นายสมชาย จรรยา อุปนายก สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยตัวแทนพันธมิตรจิตอาสา จากมูลนิธิสหชาติ สำนักข่าว News Online Thailand เว็ปไซต์ข่าวจั่นเจา Canchaonews.com หนังสือพิมพ์ดีดีโพสต์ นิวส์ และนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรสิทธิมนุษยชนสำหรับนักบริหารระดับสูง รุ่น 1 (ปสม.1) สถาบันพระปกเกล้า

ส่งมอบข้าวกล่องอุ่นร้อนพร้อมทาน แก่ชาวชุมชนโรงน้ำแข็ง เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร โดยมีนายกมล กำปั่นทอง ประธานชุมชนฯ เป็นผู้รับมอบ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้พักอาศัยในชุมชนต่อไป 

สำหรับชุมชนโรงน้ำแข็ง มีผู้อาศัย 140 หลังคาเรือน มีจำนวนประชากรร่วมพันคน มีผู้ที่ติดเชื้อโควิดและรักษาหายแล้ว 30 คน และยังมีผู้ที่มีความเสี่ยงจากโรคติดเชื้อโควิด-19  และต้องกักตัวจำนวน 4 ครอบครัว

โดยวันนี้ มีนายชัชชัย นางวาสนา ศีลประเสริฐ นำน้ำดื่มมาร่วมสบทบเพื่อแจกจ่ายแก่ชาวชุมชนโรงน้ำ แข็งด้วย

"เจนนิเฟอร์ คิ้ม" เดินหน้าฟ้องเกรียนคีย์บอร์ด หลังเจอป่วนโพสต์ภาพในหลวง ร.9

เป็นอีกหนึ่งบุคคลที่โดนคอมเมนต์ป่วนหลังลงรูปพ่อหลวง ร.9 สำหรับนักร้องรุ่นใหญ่ "เจนนิเฟอร์ คิ้ม" ที่ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้โพสต์ภาพข้อความผ่านไอจีสตอรี่เตรียมฟ้องเกรียนคีย์บอร์ด โดยระบุว่า

"ไม่เคยคิดจะเอาเรื่องใครที่เมนต์เลย มึงเป็นคนแรกที่กูจะให้มึงเอาเงินมากราบตีนกูให้ได้!!..มึงรอกูเลยนะ"


ที่มา : https://mgronline.com/entertainment/detail/9640000084204


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

"ทีมพรรคกล้า กทม." ยื่นข้อเสนอ 9 ข้อ ยกระดับมาตรการแก้วิกฤตโควิด-19 ชี้ตัวเลขระบาดยังสูง ปัญหาต้องรีบแก้ มั่นใจข้อเสนอทำได้จริง  

ทีมพรรคกล้า กทม. นำโดยนายณัฐนันท์ กัลยาศิริ ผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้ง เขตคลองสามวา, นายเอกชัย ผ่องจิต เลขานุการพรรคกล้า กทม., ทพ.กันตพงศ์ ดีชัยยะ ทีมสาธารณสุข พรรคกล้า พร้อมด้วยผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่ กทม. รวมตัวกันยื่นหนังสือข้อเสนอยกระดับมาตรการแก้ไขปัญหาวิกฤตโควิด-19 ถึงผู้ว่าราชการ กทม. ผ่านเลขานุการผู้ว่า กทม. เนื่องจากปัญหาการระบาดยังคงยาวนาน จํานวนผู้ติดเชื้อยังมีจำนวนสูงหลักหมื่นถึงสองหมื่นคนต่อวัน 

นายณัฐนันท์ กล่าวว่า ข้อเสนอที่นำมายื่นเกิดจากประสบการณ์ ที่สมาชิกพรรคกล้าไปประสบพบเจอระหว่างลงพื้นที่ แม้ทาง กทม. จะตอบสนองแนวทางการจัดตั้งศูนย์พักคอย แต่บางพื้นที่ยังมีปัญหาเกิดขึ้น บางศูนย์ใช้เวลาพิจารณา 3 ถึง 5 วัน กว่าจะได้รับการแยกตัวพักคอย ทำให้เกิดการระบาดในครอบครัวอยู่ดี ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ตั้งนโยบายไว้ 

"ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องได้รับการจัดการให้เร็วที่สุด ซึ่งพรรคกล้ารวบรวมประสบการณ์ลงพื้นที่จริง เป็นข้อเสนอ 9 ข้อ ที่ทำได้จริง คือ 

1.) เร่งเพิ่มหน่วยตรวจเชิงรุกให้เพียงพอ 
2.) ต้องรับผลการตรวจ ATK เข้าศูนย์พักคอยทันทีภายใน 24 ชั่วโมง ขอขยายการดูแลไปถึงระดับสีเหลือง ขยายช่วงอายุถึง 75 ปี 
3.) เพิ่มศักยภาพให้ศูนย์พักคอยที่พร้อมจับคู่กับโรงพยาบาลสนาม 
4.) สนับสนุนให้มีการตั้งศูนย์พักคอยในระดับชุมชน 
5.) เพิ่มอำนาจหน้าที่สำนักอนามัยและศูนย์สาธารณสุขในพื้นที่ ขับเคลื่อนเชิงรุกดูแลผู้ป่วย Home Isolation 
6.) เพิ่มเจ้าหน้าที่ประสานงานและคู่สายให้เพียงพอต่อการติดต่อ 
7.) เร่งเสนอปลดล็อกการจัดซื้อวัคซีนและกระจายการฉีดวัคซีน 
8.) ครอบคลุมการให้บริการแก่คนต่างด้าว 
9.) ให้กรุงเทพมหานครเพิ่มศักยภาพในทุก ๆ ด้านเพื่อรองรับสถานการณ์" นายณัฐนันท์ กล่าว


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'สหรัฐฯ' ปลุก 'เวียดนาม-ชาติเอี่ยวทะเลจีนใต้' ต้านจีน ลั่น พร้อมจะหนุนหลังกดดันจีนอย่างเต็มที่

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การมาเยือนภูมิภาคอาเซียนของรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 'กมลา แฮริส' ในสัปดาห์นี้ เต็มไปด้วยนัยยะทางการเมืองอย่างเปิดเผย แบบไม่อ้อมค้อมอีกแล้ว เพราะสหรัฐฯ กำลังเดินเกมหวังที่จะสกัดอิทธิพลของจีนในย่านทะเลจีนใต้ อย่างจริงจังนับจากนี้เป็นต้นไป

หลังจากที่ได้ไปเยือนสิงคโปร์มาแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา รองประธานาธิบดี 'กมลา แฮริส' ก็เดินทางมาปิดทริปที่เวียดนาม เพื่อพบปะพูดคุยกับประธานาธิบดีเวียดนาม 'เหงียน ซวน ฟุก' ก่อนเดินทางกลับกรุงวอชิงตัน ดีซี ในวันนี้ (26 สิงหาคม)

ในระหว่างที่มาเยือนเวียดนาม 'กมลา แฮริส' ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักการเมืองที่พูดตรง ๆ ไม่อ้อมค้อม ก็ได้กล่าวในที่ประชุมผู้นำเวียดนามว่า...

"พวกเราจะต้องหาทางกดดัน และต้องยกระดับการกดดันรัฐบาลปักกิ่งให้มากขึ้นไปอีก เพื่อให้จีนรู้จักเคารพกฏหมาย และข้อตกลงเรื่องสิทธิ์ทางทะเลขององค์การสหประชาชาติ เราต้องรวมตัวกันต่อต้านการกดขี่ และรุกรานทางทะเลอย่างแข็งกร้าวของจีน" 

แฮริสย้ำว่า รัฐบาลของนายโจไบเดน ต้องการยกระดับความสัมพันธ์ในเชิงยุทธศาสตร์กับเวียดนาม โดยพร้อมที่จะสนับสนุนทุกอย่างให้อย่างเต็มที่นับจากนี้ 

กมลา แฮริส ไม่ได้พูดประเด็นนี้แค่ครั้งเดียว แต่กล่าวย้ำถึง 2 ครั้งในตลอด 2 วันที่มาเยือนเวียดนาม เพื่อส่งสัญญาณถึงประเทศในย่านทะเลจีนใต้ที่มีข้อพิพาททางทะเลกับจีน ทั้งเวียดนาม, บรูไน, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, ไต้หวัน ให้ออกมาร่วมมือกันตอบโต้จีน โดยสหรัฐฯ พร้อมจะหนุนหลังอย่างเต็มที่ 

สิ่งที่น่าสนใจจากการมาของรองผู้นำสหรัฐฯ ในครั้งนี้ ก็คือ การเลือกเวียดนาม เป็นพันธมิตรด้านยุทธศาสตร์อย่างเปิดเผย ทันทีที่บรรลุข้อตกลงความร่วมมือ รัฐบาลสหรัฐฯ ก็ประกาศบริจาควัคซีน Pfizer ให้เวียดนามจำนวน 1 ล้านโดส บินตรงจากสหรัฐฯ ถึงมือรัฐบาลเวียดนามทันทีภายใน 24 ชั่วโมง 

นอกจากวัคซีนจะมาแล้ว สหรัฐฯ ยังตัดสินใจเปิดศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดของสหรัฐฯ หรือ CDC ที่กรุงฮานอย เพื่อเป็นศูนย์การประสานงานด้านการควบคุมโรคระบาดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด และยังบริจาคเงินให้กองทุนวัคซีนอีก 5 แสนดอลลาร์ 

เท่าน้้นยังไม่พอ ยังมีโครงการสร้างสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงฮานอยแห่งใหม่ ด้วยงบประมาณสูงถึง 1.2 พันล้านเหรียญ ในที่ดินย่าน Cau Giay เป็นระยะเวลา 99 ปี โดยได้เซ็นสัญญากันในวันที่ กมลา แฮริส มาพบผู้นำเวียดนาม และรองรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม รวมทั้ง อุปทูตรักษาราชการสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ พร้อมด้วยผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติเวียดนามมาเป็นสักขีพยาน

การปักหมุดยุทธศาสตร์แบบอยู่ยาวที่เวียดนามของรัฐบาลสหรัฐฯ ในครั้งนี้ บวกกับถ้อยแถลงของกมลา แฮริส ที่สื่อสหรัฐฯ ระบุว่า เป็นการ "Call Out" เพื่อให้ประเทศย่านอาเซียนออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านจีน โดยเลือกเวียดนามเป็นฐานทัพนั้น นับว่าเป็นการเคลื่อนไหวเชิงยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ที่จะสะเทือนไปทั้งทะเลจีนใต้ในอนาคตอันใกล้... 


ผู้เขียน : ยีนส์ อรุณรัตน์

อ้างอิง: VN Express / Straits Times


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เพชรบูรณ์ - สื่อมวลชนเพชรบูรณ์​ส่งกำลังใจ​ มอบอาหารกล่องให้บุคคลากร​ทางการแพทย์​ที่ปฎิบัติงานฉีดวัคซีน​ให้ประชาชน

ที่อาคารโดม​ โรงเรียนเพชรพิทยาคม​ อ.เมือง​เพชรบูรณ์​ จังหวัด​เพชรบูรณ์​ นายกฤษณ์​ คงเมือง​ ผู้ว่าราชการจังหวัด​เพชรบูรณ์​ พร้อมด้วยนายสืบพงศ์​ นิ่มพูลสวัสดิ์​ รองผู้​ว่าราชการ​จังหวัด​เพชรบูรณ์​  นพ.ชัยวัฒน์​ ทองไหม​ สาธารณสุข​จังหวัด​เพชรบูรณ์​ นายชัยสิทธิ์​ ชัยสัมฤทธิ์​ผล​ นายอำเภอเมือง​เพชรบูรณ์​ ร่วมรับมอบข้าวกล่อง​ ขนมหวาน​ อาหารว่างและน้ำดื่ม​  จำนวน​ 150​ ชุดจากสื่อมวลชนจังหวัดเพชรบูรณ์​โดยการนำของนายสุทัศน์​ บุตรสุวรรณ​ ประชาสัมพันธ์​จังหวัด​เพชรบูรณ์​ นายวิริทธิ์พล​ หิรัญ​รัตน์​ นายกสมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์​จังหวัด​เพชรบูรณ์​  นายชาติ​ วิศิษย์โกมุท​ ผู้อำนวยการเพชรชัยออนไลน์​และเครือข่ายสื่อมวลชนในพื้นที่​จังหวัด​เพชรบูรณ์ได้ร่วมกันสนับสนุนจัดทำ เพื่อ​ส่งมอบกำลัง​ใจให้บุคคลากรที่ปฏิบัิติงานในการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิท-19เข็มที่ 2 ให้กับประชาชนในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่ม 7 โรคเสี่ยงในพื้นที่อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ที่เดินทางมารับวัคซีน​ จำนวน​ 3,000  คนโดยจัดทำข้าวกล่อง​ ขนมหวาน​ น้ำดื่ม​ จำนวน​ 150​ ชุดมอบให้กับบุคลากร​ดังกล่าว

ทั้งนี้สื่อมวลชน​ในจังหวัด​เพชรบูรณ์​หลากหลายแขนงได้ร่วมกันสนับสนุนปัจจัยในการที่จัดทำอาหาร​ ขนม​ อาหารว่างและน้ำดื่มร่วมในกิจกรรม​ดังกล่าว​ประกอบด้วยนายสุทัศน์​ บุตรสุวรรณ​ ประชาสัมพันธ์​จังหวัด​เพชรบูรณ์​  นายยุทธ​ ศรีทองสุข​ ที่ปรึกษา​สมาคม​นัก​วิทยุ​และ​โทรทัศน์​จังหวัด​เพชรบูรณ์​ นายสมพร​ พูลสวัสดิ์​ ที่ปรึกษาสมาคม​นัก​วิทยุ​และ​โทรทัศน์​จังหวัด​เพชรบูรณ์​ นายวิริทธิ์พล​ หิรัญ​รัตน์​ นายกสมาคมนัก​วิทยุ​และ​โทรทัศน์​จังหวัด​เพชรบูรณ์​  นายนที   บุญรอด​ ผู้สื่อข่าว​ นสพ.คู่แผ่นดิน  นายชาติ วิศิษย์โกมุท ผู้สื่อข่าวเพชรชัยออนไลน์  นาย ศักดิ์ชัย   วัชรลิมปกรณ์​ ผู้สื่อข่าว​13 สยามไทยนาย​ยรรยง   วิพิธกาญจน์​ วิทยุชุมชน​ ร้อยตรี อรัญชัย โบราณรัตน์​ วิทยุชุมชน​  นายเสวก​ ศรลัมพ์​ นายกสมาคมสื่อมวลชนภูมิภาค​ นางราตรี พลอยแดง​ ผู้สื่อข่าวตำรวจท่องเที่ยว​ ร.ต.ต.สุข​สัณห์​ ภิชัย​ นายกสมาคมเครือข่ายนักสื่อสาร​ชุมชน​  น.ส.วรรณิกา​ หาญกลิ้ง​ นายกสมาคมองค์กร​สาธารณประโยชน์เพื่อสังคมไทยเข้มแข็ง​ จ.เพชรบูรณ์​ น.ส.มนสิชา​ คล้าย​แก้ว​ ผู้สื่อข่าว บริษัท​ซีพีออล์​ จำกัด​ (มหาชน)​  สำนักงานพาณิชย์​จังหวัด​เพชรบูรณ์​  นางพัชมน​  จันทร์แสง วิทยุ​ชุมชน​นายศุภผล​ จริงจิตร​  ผอ.นิตยสารตำรวจภาค​ 6​ ร้อยตรีประเทือง​ สระทองแดง​ วิทยุชุมชน​  นางปุณณดา​ คนมาก​ วิทยุชุมชน​ น.ส.ชลธิชา​ ภูจุ้ย​ ปชส.​ม.ราชภัฏเพชรบูรณ์​  นางพริ้ม​ ศรีบ้านโนน​ วิทยุชุมชน​ นายพรเทพ​ เพชร​รุ่งทอง​ วิทยุชุมชน


ทั้งนี้ องค์กร​สื่อในพื้นที่​  จ.เพชรบูรณ์​ ขอขอบคุณในความเสียสละของทีมบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นด่านหน้า ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการดูแลผู้ป่วยจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเต็มที่ และขอร่วมเป็นพลังให้ทุกคนปลอดภัย มีสุขภาพที่แข็งแรง สามารถก้าวผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน

ตำรวจทางหลวงนครราชสีมา จัดกิจกรรม "แบ่งปันปวงประชา ตำรวจทางหลวงโคราช ร่วมสู้โควิด" โดยนำถุงยังชีพช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากโควิด-19

วันที่ 26 สิงหาคม 2564 เวลา 10.00 น. ที่ชุมชนราชนิกูล 2 เทศบาลเมือง นครนครราชสีมา จ.นครราชสีมา พ.ต.ท.วิษณุ คำโนนม่วง สารวัตร ส.ทล.1 กก.6 บก.ทล. จิตอาสา 904 พร้อมด้วย นายพงษ์เทพ มาลาชาสิงห์ รองประธานหอการค้านครราชสีมา ชมรมฮักเขาใหญ่ และจิตอาสาตำรวจทางหลวงนครราชสีมา

ร่วมกันนำถุงยังชีพ ประกอบด้วย ข้าวสาร ปลากระป๋อง อาหารแห้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำดื่ม น้ำปลา น้ำมัน แอลกอฮอล์ หน้ากาก และยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ไปมอบให้ชาวบ้านเดือดร้อนที่ได้รับผลกระทบ จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งส่วนมากเป็นชุมชนแออัด มีรายได้น้อย เป็นคนยากไร้ ผู้ป่วย และผู้พิการ จำนวนกว่า 100 หลังคาเรือน

ทั้งนี้ การเข้าช่วยเหลือประชาชนดังกล่าวเป็นไปตามนโยบาย พล.ต.ท. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก., พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล., พ.ต.อ. จตุพล เร่งถนอมทรัพย์ รอง ผบก.ทล. และ พ.ต.อ. พิชญ์รุจ กุลวิมลประทีป ผกก.6 บก.ทล. ด้วยสโลแกน "แบ่งปันปวงประชา ตำรวจทางหลวงโคราช ร่วมสู้โควิด" ที่ได้ให้การช่วยเหลือ มาหลายอำเภอในพื้นที่แล้ว

100 ศพ เหยื่อโควิด! “พระครูแจ้” เจ้าอาวาสวัดดัง เปิดวัดเผาต่อเนื่องพร้อมอนุเคราะห์ญาติโยม

ณ วัดบางพลีใหญ่กลาง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ทอดผ้าบังสุกุลประกอบพิธีฌาปนกิจศพให้ผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 รายที่ 100 รวมแล้วจำนวน 100 ศพ ที่ทางวัดบางพลีใหญ่กลาง รับเผาร่างผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 โดยทางวัดไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการเผาศพแต่อย่างใด

โดยมี นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ประกอบพิธีทอดผ้าบังสุกุลฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอบางพลี / นายฉะโอด รุ่งเรือง นายก อบต.บางพลีใหญ่ / พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี ร่วมฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตและร่วมกดปุ่มสวิตช์ไฟฟ้าเผาร่างผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 รายที่ 100 โดยมีญาติผู้เสียชีวิตร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้ายแบบ New normal

โดยท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง กล่าวว่า วัดได้รับฌาปณกิจศพเหยื่อโควิด-19 มาหลายศพแล้ว ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายน 64 ซึ่งขณะนี้ทางวัดบางพลีใหญ่กลางได้รับอนุเคราะห์เผาศพเหยื่อโควิด-19 ไปแล้วครบ 100 ศพ โดยที่ผ่านมา ทางวัดได้จัดพิธีทำบุญทักษิณานุปทาน เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ถึง 2 ครั้งด้วยกัน  ประกอบกับสถานการณ์ในปัจจุบันยังคงมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19  อย่างต่อเนื่องจึงมีความรู้สึกเป็นห่วงพี่น้องประชาชนทุกคนรวมถึงสงสารครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 และมีความห่วงใยบุคลากรทางการแพทย์ ที่ยังคงปฎิบัติหน้าที่อย่างเหน็ดเหนื่อย

อย่างไรก็ตาม วัดบางพลีใหญ่กลาง จะประกอบพิธีทำบุญทักษิณานุปทานให้กับศพผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 เป็นครั้งที่ 3 ในวันพฤหัสบดี ที่ 9 กันยายน 64 และวัดบางพลีใหญ่กลาง  ยังคงรับอนุเคาระห์เผาศพผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง โดยที่ทางวัดไม่เรียกร้องค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดเพื่อเป็นการช่วยเหลือญาติโยม

ปัจจุบันนี้เตาเผาศพที่ใช้เผาศพโควิดอาจมีการเสื่อมสภาพได้เพราะต้องใช้ความร้อนสูงมากและเผาอยู่ตลอดแทบไม่ได้หยุดพัก เตาเผาศพก็อาจมีการเสื่อมสภาพได้เป็นธรรมดาแต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา ทางวัดจะให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลตรวจสอบพร้อมทั้งประเมินสภาพการใช้งานเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาด 

ท่าน พระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ ( พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ยังกล่าวต่ออีกว่า ทางวัดจะรับอนุเคราะห์เผาศพโควิดให้ญาติโยมต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าเตาเผานั้นจะแตก หรือจนกว่าจะไม่สามารถเผาต่อได้ ขณะนี้วัดบางพลีใหญ่กลาง มีญาติผู้เสียชีวิตเข้ามาติดต่อขอให้ทางวัดช่วยเผาศพโควิด และมีคิวจองเผาศพโควิด-19 อีกหลายราย ทางวัดก็มีความยินดีโดยจะรับอนุเคราะห์ให้ทุกราย แต่ทางวัดบางพลีใหญ่กลางจะไม่รับฌาปนกิจศพเฉพาะวันศุกร์เท่านั้น


ภาพ/ข่าว  คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมแก้กฎหมายสื่อ เพื่อควบคุมข่าวปลอม ด้านฝ่ายค้านระบุ เป็นการปิดปากสื่อและริดรอนสิทธิเสรีภาพ

รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมแก้กฎหมายสื่อ (Act on Press Arbitration and Remedies) เพื่อควบคุมข่าวปลอม หรือเฟกนิวส์ ท่ามกลางเสียงคัดค้านว่ากฎหมายดังกล่าวเป็นการจำกัดเสรีภาพของสื่อไม่ให้ขุดคุ้ยการทำผิดของผู้มีอำนาจและเป็นข้ออ้างในการปิดปากฝ่ายตรงข้ามที่วิจารณ์รัฐบาล

การแก้ไขกฎหมายสื่อครั้งนี้ให้อำนาจศาลมีอำนาจสั่งให้ผู้ที่ปล่อยเฟกนิวส์จนละเมิดสิทธิ์และสร้างความเสียหายทางจิตใจแก่โจทก์จ่ายค่าชดเชยความเสียหายเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 5 เท่า สำหรับเคสที่ไม่สามารถคำนวณความเสียหายที่แน่ชัด ผู้ที่เผยแพร่ข่าวปลอมต้องจ่ายค่าเสียหายตั้งแต่ 50-100 ล้านวอน หรือ 1,400,355 - 2,800,711 บาท

และยังกำหนดให้สื่อมวลชน รวมทั้งผู้ให้บริการข่าวทางอินเทอร์เน็ตดำเนินการแก้ไขข่าวที่ผิดพลาดหรือข่าวปลอมที่เผยแพร่ด้วยความจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง

แถลงการณ์ของพรรคประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรครัฐบาลเกาหลีใต้ระบุว่า การรายงานที่ผิดพลาดของสื่อมวลชนทำให้เกิดความเสียหายและผลกระทบเป็นวงกว้าง ทั้งยังเป็นอันตรายที่แก้ไขไม่ได้แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง และยังชี้แจงว่าการเพิ่มโทษดังกล่าวจะทำให้สื่อมวลชนที่จะเผยแพร่ข่าวมีความรับผิดชอบมากขึ้น

อย่างไรก็ดี พรรคฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์โจมตีว่ากฎหมายดังกล่าวทำให้ประชาธิปไตยถอยหลังลงคลอง และปิดกั้นขัดขวางไม่ให้สื่อมวลชนรายงานหรือเขียนข่าวเกี่ยวกับการทำผิดกฎหมายหรือเรื่องอื้อฉาวของผู้มีอำนาจในบ้านเมือง

ด้านริว เจฮวา พนักงานอัยการที่เชี่ยวชาญด้านกฎหมายสื่อและคดีการเมืองเผยว่า กฎหมายนี้สะท้อนว่ารัฐบาลต้องการปิดปากสื่อมวลชน

การสำรวจความคิดเห็นของชาวเกาหลีใต้ 1,024 คนโดย WinGKorea Consulting พบว่า 46.4% สนับสนุนกฎหมายใหม่ และ 41.6% มองว่าเป็นการปิดกั้นเสรีภาพสื่อ

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมสื่อสารมวลชนของเกาหลีใต้มีอันดับค่อนข้างดีในดัชนีเสรีภาพสื่อ (World Press Freedom Index) โดยอยู่ในอันดับ 42 จาก 180 ประเทศ แต่ต้องเผชิญกับข่าวปลอมและการกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์ในช่วงไม่กี่ปีนี้

การแก้ไขกฎหมายสื่อมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดี มุน แจอิน บังคับใช้กฎหมายเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ให้จำคุกบุคคลที่เผยแพร่ข่าวปลอมเกี่ยวกับการประท้วงควังจูในช่วงทศวรรษ 1980


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน 904 มีคำสั่งให้ ‘ผู้กำกับโจ้-ประสิทธิ์ เจียวก๊ก’ พ้นสภาพจิตอาสา เรียกคืนเครื่องแต่งกาย หลังต้องคดีอาญาทั้งคู่

วันที่ 26 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน ออกหนังสือคำสั่งศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน เรื่อง ให้บุคคลพ้นสภาพจากการเป็นจิตอาสา 904

พร้อมมีคำสั่ง เรียกคืนเครื่องแต่งกาย หมวก ผ้าพันคอ เครื่องหมายจิตอาสา 904 (ปีกโลหะ ปีกผ้า) บัตรประจำตัวและประกาศนียบัตร ของ พันตำรวจเอก ธิติสรรค์ อุทธนพล และ นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก

สำหรับประกาศคำสั่งพ้นสภาพเป็นจิตอาสาของ พันตำรวจเอก ธิติสรรค์ ระบุว่า นื่องจากพันตำรวจเอก ธิติสรรค์ อุทธนพล ได้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา ที่เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง ร่วมกันตั้งแต่ 5 คน ขึ้นไป

ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยใช้กำลังประทุษร้าย และร่วมกันฆ่าผู้อื่น โดยทรมาน หรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย

ส่วนนายประสิทธิ์ เป็นผู้ต้องหาคดีอาญา ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน


ที่มา : https://www.posttoday.com/social/general/661557


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ศบค.ชุดเล็กไฟเขียว ชงศบค.ชุดนายกรัฐมนตรี ปลดล็อกเฟสแรก เปิดห้างถึง 2 ทุ่ม ให้นั่งกินอาหารในร้านได้ 50% 

วันที่ 26 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ที่มี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นประธาน ประชุม ศบค.ชุดเล็ก ได้พิจารณามาตรการควบคุมแบบบูรณาการเร่งด่วน เฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑล

รายงานข่าวเปิดเผยว่า ที่ประชุมเสนอให้ร้านอาหารสามารถกลับมาเปิดกิจการได้ โดยร้านอาหารที่มีการเปิดเครื่องปรับอากาศสามารถนั่งรับประทานในร้านได้ 50% และร้านอาหารที่ไม่มีการเปิดเครื่องปรับอากาศเปิดได้ 75 %

รวมถึงห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมิวนิตี้มอลล์หรือสถานประกอบการอื่น ที่มีลักษณะคล้ายกัน ร้านสะดวกซื้อ ให้เปิดดำเนินการได้จนถึงเวลา 20.00 น. ขณะที่ร้านเสิรมสวย แต่งผม หรือตัดผม สวนสาธารณะ ลานกีฬา สนามกีฬาหรือสถานที่ออกกำลังกาย ที่เป็นพื้นที่โล่งแจ้ง อาคารในสถานศึกษา เปิดได้ปกติ

อย่างไรก็ตาม ยังมีมติคลายล็อกให้ประชาชนสามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ แต่ยังห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 นาฬิกาถึง 04.00 นาฬิกาของวันรุ่งขึ้นยังคงอยู่

สำหรับสถานที่กิจการ หรือกิจกรรมทั้งหมด ให้ดำเนินการเปิด-ปิดตามมาตรการควบคุมทางสาธารณสุขที่เข้มงวด หรือการป้องกันแบบครอบจักรวาล เพื่อป้องกันโรคที่กำหนดที่เข้มงวดยิ่งขึ้นจากที่ได้เคยกำหนดไว้แล้ว หากมีการระบาดคลัสเตอร์ใหญ่ จะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง หรือล็อกดาวน์ใหม่ได้ทันที

ทั้งนี้ มติครั้งนี้ จะถูกนำเสนอต่อที่ประชุมการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบค.) ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมในวันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม 2564 เวลา 09.00 น.

ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุข เตรียมเสนอที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) วันศุกร์นี้ (27 ส.ค.) เช่นเดียวกัน เพื่อพิจารณาผ่อนคลายมาตรการให้ร้านอาหารเปิดบริการได้ โดยเสนอแผนเปิดกิจการ 3 ระยะ ในเดือนกันยายน หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 มีแนวโน้มเริ่มดีขึ้น พร้อมกำหนดข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารและผู้รับบริการ

สำหรับข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยของกระทรวงสาธารณสุขทั้ง 3 ข้อ

1.) จัดการสิ่งแวดล้อม ไม่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ เช่น เว้นระยะห่าง ไม่แออัด อากาศถ่ายเทได้ดี
2.) พนักงานต้องปลอดโรค ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ถ้าไม่ได้ฉีดหรือฉีดไม่ครบต้องตรวจเชื้อด้วยชุด ATK ทุก 3-7 วัน และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันในการให้บริการลูกค้า
3.) ลูกค้าต้องปลอดโรค เช่น แสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน


ที่มา : https://www.prachachat.net/general/news-747325


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

บิณฑ์-เอกพันธ์ 2 ดาราจิตอาสา เหมาบ่อปลากระพงมาขายราคาถูก เพื่อช่วยหลือผู้เลี้ยงปลา ในช่วงระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พร้อมด้วยเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ดารานักแสดง ได้นำปลากระพง มาจำหน่ายราคาถูก ให้กับพี่น้อง หมู่ 5 ต.คูบางหลวง ชาวแฟลตคอมในราคาโลละ 50 บาท  

บิณฑ์ ได้กล่าวเพิ่มเติมกับผู้สื่อข่าวว่า ตนพร้อมด้วยทีมงานได้เหมาบ่อปลากะพงมาขายให้พี่น้องได้บริโภคของดีราคาถูกจำนวน 4 ตันและยังมีขนมหม้อแกง พร้อมด้วยฟักทองมาแจกให้กับพี่น้องชาวแฟลตคอมด้วย 

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายอนุสรณ์ บุญมั่น ประชาชนชาวตำบลคูบางหลวง ที่ได้มาต่อแถวซื้อปลากระพง ได้กล่าวเพิ่มเติมกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ คุณบิณฑ์ และทีมงานที่ได้นำ ปลากระพงสด ๆ จากบ่อมาจำหน่ายในราคาถูก โดยตนได้มาซื้อ จำนวน 4 กิโลกรัม เพื่อนำไปประกอบอาหาร และอยากจะให้ดาราทั้ง 2 ท่านได้นำสินค้าราคาถูกมาจำหน่ายที่นี่อีกครั้ง


สหรัฐ แก้วตา รายงาน


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง’ ส่งต่อน้ำใจไทย มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ ของใช้ประจำวัน และเครื่องอุปโภคบริโภค แก่โรงพยาบาลในเขตพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า จ.ตาก รวม 5 แห่ง สู้ภัยโควิด-19

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการฯ มอบหมายให้ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ จัดส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ ของใช้ประจำวัน และเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE)  หน้ากาก N 95 ยาฟ้าทะลายโจร หน้ากากอนามัย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แป้งหอม สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน และยาสระผม ให้แก่ โรงพยาบาลในเขตพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า จังหวัดตาก ได้แก่ โรงพยาบาลอุ้มผาง โรงพยาบาลท่าสองยาง โรงพยาบาลแม่ระมาด โรงพยาบาลพบพระ และโรงพยาบาลแม่สอด รวม 5 แห่ง ผ่านแม่สอดมูลนิธิสามัคคีการกุศล รวมงบประมาณเป็นเงิน 500,640 บาท (ห้าแสนหกร้อยสี่สิบบาทถ้วน) โดยมี นายสมศักดิ์ คะวีรัตน์ ประธานแม่สอดมูลนิธิสามัคคีการกุศล พร้อมคณะ เป็นผู้แทนมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งในการมอบฯ เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ณ ที่ทำการของแม่สอดมูลนิธิสามัคคีการกุศล จังหวัดตาก

นับตั้งแต่เกิดวิกฤตแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด-19) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ปรับแผนการดำเนินงานการช่วยเหลือประชาชนทั้งด้านบรรเทาสาธารณภัย ด้านสังคมสงเคราะห์ และหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน พร้อมประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือเชิงรุกทั้งในส่วนของประชาชน ชุมชน และบุคลากรทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ได้จัดทีมชุดปฏิบัติการพิเศษโควิด-19 (SCOT) ดำเนินการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย และผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) การสนับสนุนอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์เสริมทัพบุคลากรทางการแพทย์สู้ภัยโควิด-19  และการบรรเทาทุกข์ผู้ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมงบประมาณดำเนินการออกช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นับตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบันเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 35 ล้านบาท

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอขอบพระคุณผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านที่ร่วมบริจาคทรัพย์ สิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภค สมทบทุนช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด-19) 

ติดต่อสอบถาม ติดตามข่าวสารและการปฏิบัติภารกิจของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ http://www.facebook.com/atpohtecktung


#ป่อเต็กตึ๊ง ยึดมั่นอุดมการณ์ อยู่เคียงข้างทุกวิกฤต

“มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

#มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง110ปีความดีที่ยั่งยืน

#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418

#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top