Sunday, 15 June 2025
NEWS

ผอ.องค์การเภสัชกรรม ร้อง ป.ป.ช. สอบพฤติกรรม “เกรียงศักดิ์-อารักษ์” จัดหาชุดตรวจโควิด ATK 8.5 ล้านชุด ส่อทุจริต ผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาฯ พบพิรุธเพิ่มมาตรฐาน WHO ไมได้ทำให้ของมีคุณภาพขึ้น แต่กีดกันรายอื่นเพื่อล็อกสเปก 

นายแพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อํานวยการองค์การเภสัชกรรม ได้ยื่นคำร้องสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ขอร้องเรียนพฤติกรรมของ นายแพทย์เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบทและเครือข่ายชมรมแพทย์ชนบท และ นายแพทย์อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล ในฐานะคณะทํางานกําหนดอัตราค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขในระบบ หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กระทําผิดต่อพระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงาน ของรัฐ พ.ศ. 2542 กรณีการจัดหาชุดตรวจสําหรับ COVID-19 ประเภท Antigen Test Kits จํานวน 8,500,000 ชุด

1.) กระบวนการปกติในการจัดหายา เวชภัณฑ์ ตามแผนของ สปสช. (สํานักงาน หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ)

2.) การจัดหาชุดตรวจสําหรับ COVID-19 ประเภท Antigen Test Kits จํานวน 8,500,000 ชุด มีข้อพิรุธ ต่อพระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542

3.) ความเสียหายที่เกิดขึ้น มีรายละเอียดดังนี้

(1.) กระบวนการปกติในการจัดหายา เวชภัณฑ์ ตามแผนของ สปสช. ตามคําสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ พ.ศ. 2560 ระบุว่า สปสช.ไม่มีอํานาจในการจัดหายาและเวชภัณฑ์ กระทรวงสาธารณสุขจึงได้มอบหมายโรงพยาบาลราชวิถี จัดหายาและเวชภัณฑ์ ให้ สปสช. ตั้งแต่ พ.ศ. 2561 ซึ่งโรงพยาบาลราชวิถี ได้มอบหมายให้องค์การเภสัชกรรม เป็นผู้จัดหายา และเวชภัณฑ์ให้ มีขั้นตอนดังนี้

(1.1) สปสช.จัดทําแผนความต้องการยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จําเป็นตาม โครงการพิเศษ ส่งให้ รพ.ราชวิถี

(1.2) รพ.ราชวิถี ส่งแผนความต้องการยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จําเป็นตาม โครงการพิเศษ ให้องค์การเภสัชกรรม และจัดทํา Spec ของแต่ละรายการให้องค์การเภสัชกรรม และมีวงเงิน กําหนดงบประมาณมาให้

(1.3) องค์การเภสัชกรรม ดําเนินการจัดหา ยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ตามแผน และ Spec ที่ได้รับ ตามข้อบังคับองค์การเภสัชกรรมว่าด้วยการพัสดุเพื่อการผลิตและจําหน่าย พ.ศ. 2561

(1.4) เมื่อเสร็จกระบวนการตามข้อ (1.3) องค์การเภสัชกรรมแจ้งผลเสนอคณะอนุกรรมการ จัดทําแผนการจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จําเป็นตามโครงการพิเศษ (ปลัดกระทรวง สาธารณสุข เป็นประธาน) ขอมติเห็นชอบ

(1.5) องค์การเภสัชกรรมทําสัญญาจะซื้อจะขาย / ใบสั่งซื้อ กับ Supplier

(1.6) รพ.ราชวิถีทําสัญญาจะซื้อจะขาย / ใบสั่งซื้อ กับองค์การเภสัชกรรม

(2.) การจัดหาชุดตรวจสําหรับ COVID-19 ประเภท Antigen Test Kits จํานวน 8,500,000 set มีข้อพิรุธ ผิดต่อพระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงาน ของรัฐ พ.ศ. 2542

สปสช. โดย คณะอนุกรรมการกําหนดหลักเกณฑ์การดําเนินงานและการบริหารจัดการกองทุน มีคําสั่งที่ 5/2564 แต่งตั้ง คณะทํางานกําหนดอัตราค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขในระบบหลักประกัน สุขภาพแห่งชาติ ประกอบด้วย

นายเกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานคณะทํางาน
นายวชิระ บฏพิบูลย์ คณะทํางาน
นายอารักษ์ วงศ์วรชาติ คณะทํางาน
นางกฤติยา ศรีประเสริฐ คณะทํางาน
นางกาญจนา ศรีชมภู คณะทํางาน
นางเบญจมาศ เลิศชาคร คณะทํางาน
นางอัญชลี หอมหวล คณะทํางาน

มีอํานาจหน้าที่ดังต่อไปนี้

• จัดทําแนวทางในการกําหนดอัตราค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
• ดําเนินการต่อรองราคากับบริษัทผู้ขาย เพื่อให้ได้อัตราค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขที่เหมาะสม
• จัดทําข้อเสนอเพื่อพิจารณาปรับปรุงอัตราจ่ายค่าบริการสาธารณสุขในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และรายงานต่อคณะอนุกรรมการกําหนดหลักเกณฑ์การดําเนินงานและบริหารจัดการกองทุน
• เสนอแต่งตั้งคณะทํางาน และหรือเชิญผู้เชี่ยวชาญร่วมให้ความเห็นในการดําเนินการ
• ปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย (ผู้ร้องไม่มีคําสั่งฉบับนี้)

วันที่ 14 กรกฎาคม 2564 คณะทํางานฯ ดังกล่าว เสนอวาระการเตรียมการจัดหา Antigen Test Kit สําหรับประชาชน ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ต่อคณะอนุคณะอนุกรรมการจัดทําแผนการ จัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จําเป็นตามโครงการพิเศษ เพื่อนําเสนอคณะกรรมการ หลักประกันสุขภาพแห่งชาติต่อไป (ผู้ร้องไม่มีเอกสารรายงานการประชุมฉบับนี้)

วันที่ 22 กรกฎาคม 2564 สปสช. โดย นายจักรกริช โง้วศิริ รองเลขาธิการ ปฏิบัติการแทน เลขาธิการ สปสช ทําหนังสือที่ สปสช. 4.69/14620 ถึงผู้อํานวยการ รพ.ราชวิถี แจ้งให้ “โรงพยาบาลราชวิถี ดําเนินการจัดซื้อจัดหา ชุดตรวจและน้ํายาที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยการติดเชื้อ SARS COV-2 (เชื้อก่อโรค COVID-19) แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (COVID-19 Antigen test self-test kits) จํานวนเบื้องต้น 8.5 ล้านชิ้น ภายใต้วงเงิน 1,014 ล้านบาท เป็นกรณีเร่งด่วน เพื่อให้ทันต่อความต้องการตรวจวินิจฉัย คัด กรอง ผู้ติดเชื้อ COVD-19 ภายในวันที่ 7 สิงหาคม 2564 ทั้งนี้ หากดําเนินการจัดซื้อจัดหาแล้วเสร็จ ขอให้ดําเนินการสรุปผลการจัดหาแจ้งต่อสํานักงานหลักประกันสุขภาพโดยด่วน เพื่อนําเสนอต่อคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และคณะอนุกรรมการจัดหายา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จําเป็น ตามโครงการพิเศษรับทราบต่อไป” 

โดยแนบ “ประกาศสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง กําหนดมาตรฐานและการประเมินชุดตรวจและน้ำยาที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยการติดเชื้อ SARS-CoV-2 (เชื้อก่อโรค COVID-19) พ.ศ. 2564” มาให้ (เป็นขั้นตอนปกติตามข้อ 1.1) (เอกสารแนบ 1) เนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วน ภญ.สมฤทัย สุพรรณกูล (ชื่อในไลน์ : เจี๊ยบ) ผู้อํานวยการสํานักสนับสนุนระบบบริการยาและเวชภัณฑ์ สปสช จึงได้ส่ง file เอกสารดังกล่าวมาให้ในไลน์กลุ่ม “ทีม สปสช., ราชวิถี, อภ.” เพื่อให้องค์การเภสัชกรรมดําเนินการ คู่ขนานกันไป และตามขั้นตอนปกติตามข้อ 1.2 ทาง รพ.ราชวิถี จะเป็นผู้จัดทํา spec ให้ องค์การเภสัชกรรม จึงได้สอบถามไปในไลน์ว่า “เรื่องสเปก ทางราชวิถีทําให้ อภ.ได้เลยมั้ยครับ จากสิ่งที่ส่งมาด้วยในหนังสือ สปสช” ภญ.สมฤทัย สุพรรณกูล (ชื่อในไลน์ : เจี๊ยบ) ตอบว่า “จากคําแนะนํา ของกรมบัญชีกลาง ทางราชวิถี จะต้องทํา spec อีกรีคะ น่าจะอ้างมาตรฐาน อย.ได้เลยนะคะ” องค์การเภสัชกรรมจึงได้นํามาตรฐาน อย. มาเป็น spec ในการจัดหา (เอกสารแนบ 2) เอกสารตัวจริงจาก รพ.ราชวิถี เป็นหนังสือที่ สธ 0304/6304 ลงวันที่ 27 กรกฎาคม 2564 ส่งถึงองค์การเภสัชกรรมวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 เป็นขั้นตอนปกติตามข้อ 1.2 (เอกสารแนบ 3)

วันที่ 23 กรกฎาคม 2564 องค์การเภสัชกรรมได้ประชุมร่วมกับ สปสช และ รพ.ราชวิถี เพื่อพิจารณารายละเอียดการดําเนินการ อีกทั้งได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ประกอบการที่ติดต่อได้ 7 ราย (จากที่ได้ ขึ้นทะเบียนชุดตรวจ ATK ไว้กับ อย.แล้วทั้งหมด 10 ราย) ถึงความสามารถในการส่งมอบชุดตรวจ ATK พบว่า ไม่มีรายใดสามารถส่งชุดตรวจ ATK 8.5 ล้านชุดได้ทันภายในวันที่ 7 สิงหาคม 2564 ที่ประชุมจึงได้ปรับการ ส่งของ เป็น 3 งวด งวดที่ 1 จํานวน 300,000 ชุด ภายในวันที่ 7 สิงหาคม 2564 งวดที่ 2 จํานวน 2,000,000 ชุด ภายในวันที่ 10 สิงหาคม 2564 งวดที่ 3 จํานวน 2,000,000 ชุด ภายในวันที่ 17 สิงหาคม 2564 งวดที่ 4 จํานวน 2,000,000 ชุด ภายในวันที่ 24 สิงหาคม 2564 งวดที่ 5 จํานวน 2,200,000 ชุด ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2564 และเริ่มดําเนินกระบวนการจัดหาโดยวิธีคัดเลือก ตามข้อบังคับองค์การเภสัชกรรมว่าด้วยการพัสดุเพื่อการผลิตและจําหน่าย พ.ศ. 2561 ข้อ 11 (2) (เอกสาร แนบ 4) อีเมลเชิญผู้ประกอบการทั้ง 10 ราย ให้เข้ามายื่นซองเสนอราคาในวันที่ 27 กรกฎาคม 2564 (เอกสารแนบ 5) (เป็นขั้นตอนปกติตามข้อ 1.3)

วันที่ 24 กรกฎาคม 2564 องค์การเภสัชกรรม ไลน์สอบถาม ภญ.สมฤทัย สุพรรณกูล ว่า วันที่ 27 กรกฎาคม สปสช จะมาร่วมสังเกตการณ์หรือไม่ (ตามปกติทั้ง สปสช และ รพ.ราชวิถี จะไม่เข้ามาร่วม สังเกตการณ์ แต่ครั้งนี้เป็นเหตุการณ์พิเศษและเร่งด่วนจึงได้สอบถามไป) ภญ.สมฤทัยฯ แจ้งว่า นพ.เกรียงศักดิ์ หรือคุณอัญชลี จะเข้ามาสังเกตการณ์ และ องค์การเภสัชกรรม ได้ส่ง Link Zoom meeting ไปให้ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2564 เวลา 14.30 น. (เอกสารแนบ 6)

วันที่ 27 กรกฎาคม 2564 ซึ่งเป็นวันเปิดซอง มีกําหนดยื่นซองเอกสารและซองราคา เวลา 8.30-4.00 น. มีบริษัทตอบกลับรับทราบกําหนดการเสนอราคาดังกล่าว จํานวน 4 ราย บริษัทที่ไม่ตอบ กลับได้แก่ บริษัทเอ็มพีกรุ๊ป (standard O) มีผู้เข้าร่วมเสนอราคาที่มีคุณสมบัติและเสนอรายละเอียด ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเป็นไปตามที่กําหนด จํานวน 5 ราย ได้แก่ บริษัท โรช ไดแอทโนสติกส์ (ประเทศไทย) จํากัด, บริษัท เจเนอรัลไซเอนซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จํากัด, บริษัท ออสท์แลนด์ แคปปิตอล จํากัด, บริษัท ดีซีเอซ ออริกา (ประเทศไทย) จํากัด, บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น จํากัด และ บริษัท ซีเมนส์ เฮลท์แคร์ จํากัด ในการ นี้ มีเหตุการณ์ที่เป็นข้อพิรุธ คือ บริษัท เอ็มพีกรุ๊ป (standard Q) ไม่ได้มายื่นซองในเวลาที่กําหนด จะขอยื่นซองทางอีเมล องค์การเภสัชกรรมแจ้งไม่สามารถรับซองทางอีเมลได้ เนื่องจากแจ้งเงื่อนไขไว้ในแบบ เชิญยื่นซองแล้วว่า ต้องยื่นที่ห้องรับซอง-เปิดซอง 1 ชั้น 2 อาคารอํานวยการ องค์การเภสัชกรรม บริษัทเอ็มพีกรุ๊ป ทําผิดเงื่อนไขจึงไม่ได้เข้าร่วมการเสนอราคา 

เมื่อนายเกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ และ นายอารักษ์ วงศ์วรชาติ เห็นว่า กรรมการเปิดซองไม่รับบริษัท เอ็มพีกรุ๊ป แน่แล้ว จึงได้ข่มขู่กรรมการ เปิดซองว่าไปตัดสิทธิผู้ค้ารายใหญ่ที่อยู่ใน List ที่ WHO รับรองไม่ได้ ต้องให้บริษัทเอ็มพีกรุ๊ป เข้ามาสู่ กระบวนการแข่งขันให้ได้ และพูดหลายครั้งว่า ถ้ายังเดินหน้าต่อไป กรรมการเปิดซอง/คุณศิรินุช จะต้อง รับผิดชอบ นอกจากนี้ ยังอ้างเรื่องการจัดส่งว่าต้องให้ส่งไปทั่วประเทศไม่ใช่ส่งที่องค์การเภสัชกรรม ทั้งที่เดิมไม่เคยตกลงไว้แบบนี้มาก่อน ทําให้ในที่สุดกรรมการก็จําเป็นต้องยกเลิกการเปิดซองในครั้งนี้ไป (เอกสารแนบ 7 - เอกสารถอดเทปจะส่งตามมาภายหลัง) องค์การเภสัชกรรมได้ทําหนังสือขออนุมัติจากผู้อํานวยการเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 และอีเมลแจ้งบริษัททั้ง 5 ราย ในวันที่ 6 สิงหาคม 2564 (เอกสารแนบ 8)

วันที่ 28 กรกฎาคม 2564 สปสช โดยนายจเด็จ ธรรมธัชอารี ได้ทําหนังสือที่ สปสช. 6.70/15444 ถึงผู้อํานวยการ รพ.ราชวิถี (เอกสารแนบ 4) เพิ่มรายละเอียดใน spec ดังนี้

1.) กําหนดระยะเวลาส่งมอบชุดตรวจ จํานวน 4.5 ล้านชุด โดยเร็วที่สุด และใช้วิธีการจัดหา เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และรวดเร็ว ให้ทันต่อสถานการณ์แพร่ระบาด

2.) ชุดตรวจ ต้องผ่านการรับรองมาตรฐานจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรือ ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก WHO ซึ่งชุดตรวจต้องมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในระดับประเทศและระดับสากล

3.) อัตราราคาชุดตรวจ รวมค่าขนส่งชุดตรวจไปยังหน่วยบริการ สถานบริการ หรือหน่วยงาน ที่ สปสช.กําหนด และรวมถึงค่าบริหารจัดการที่อาจเกิดขึ้นขององค์การเภสัชกรรมแล้ว

วันที่ 29 กรกฎาคม 2564 นายเกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ในฐานะประธานคณะทํางาน กําหนดอัตราค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้ทําหนังสือที่ สปสช. 6.70/0271 ถึง เลขาธิการ สปสช. เสนอให้จัดหาโดยวิธีเฉพาะเจาะจง คุณภาพผ่านการรับรองมาตรฐาน จากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาและได้รับการรับรองมาตรฐานจาก WHO อัตราการจัดหาไม่เกิน 120 บาท/ชุด รวมค่าขนส่งไปยังหน่วยบริการในพื้นที่และค่าบริหารจัดการที่อาจเกิดขึ้นขององค์การเภสัชกรรมแล้ว และส่งมอบงวดที่ 1 จํานวน 3,000,000 ชุด ภายใน 1 วัน นับจากวันลงนามในสัญญา งวดที่ 2 จํานวน 3,000,000 ชุดภายใน 3 วันนับจากวันลงนามในสัญญา งวดที่ 3 จํานวน 2,500,000 ชุด ภายใน 14 วันนับจากวันลงนามในสัญญา (โดยแนบ spec ลงลายมือชื่อ นายเกรียงศักดิ์ มาด้วย) (เอกสาร แนบ 10) 

ในการนี้จะเห็นข้อพิรุธว่า นายเกรียงศักดิ์ เสนอเปลี่ยน spec ที่เลขาธิการ สปสช.แจ้ง รพ.ราชวิถี ไปว่า ต้องผ่านการรับรองมาตรฐานจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรือได้รับการรับรองมาตรฐานจาก WHO เปลี่ยนมาเป็นต้องผ่านการรับรองมาตรฐานจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและ ยาและได้รับการรับรองมาตรฐานจาก WHO เมื่อประกอบกับราคา 120 บาท (บริษัท เอ็มพีกรุ๊ป เสนอ 120 บาท บริษัท Abbott เสนอ 140 บาท) จึงเป็นการล็อก spec ให้ บริษัท เอ็มพีกรุ๊ป (Standard Q) เข้ามา ได้บริษัทเดียวเท่านั้น (ในขณะนั้น บริษัท เอ็มพีกรุ๊ป ยังยืนยันว่า ผลิตภัณฑ์ของตน ผ่านการรับรองมาตรฐาน จาก WHO ยังไม่มีใครทราบว่าผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองเป็นคนละรายการกัน) และยังกําหนดให้มีการจัดส่งถึง 5 ล้านชุดภายใน 3 วันหลังทําสัญญา ก็เป็นการล็อก spec เช่นกัน พร้อมกันนั้น ได้ทําหนังสือเสนอ ให้เลขาธิการ สปสช.ลงนามถึง รพ.ราชวิถี ข้อความตามที่ตนเสนอ (เอกสารแนบ 10) ซึ่งเลขาธิการ สปสช.ได้ ลงนามหนังสือดังกล่าว จึงทําให้มีผลเปลี่ยนแปลง spec เป็นไปตามที่ นายเกรียงศักดิ์ เสนอ (เอกสารแนบ 11) ซึ่ง รพ.ราชวิถี ได้ทําหนังสือที่ สธ0304/6467 ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2564 แจ้ง spec ดังกล่าวมาที่ องค์การเภสัชกรรม (เอกสารแนบ 12)

อนึ่ง เมื่อเปรียบเทียบมาตรฐานของ WHO และ อย.พบว่า มาตรฐาน อย.สูงกว่า WHO โดย WHO กําหนด sensitivity มากกว่าหรือเท่ากับ 80% ในขณะที่ อย.กําหนด 90% และ WHO กําหนด specificity มากกว่าหรือเท่ากับ 97% ในขณะที่ อย.กําหนด 99% จึงเห็นข้อพิรุธอย่างชัดเจน ว่า การที่เพิ่มมาตรฐาน WHO เข้าไป ไม่ได้ทําให้ได้ของที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้น แต่เป็นการกีดกันผู้ประกอบการ รายอื่นที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน WHO ล็อก spec ให้กับบริษัทเอ็มพีกรุ๊ป (Standard Q) (เอกสารแนบ 13)

วันที่ 31 กรกฎาคม 2564 องค์การเภสัชกรรม ส่งอีเมลถึง สปสช.ขอให้แจ้งรายละเอียด เพิ่มเติม เพื่อใช้ประกอบในการจัดหา ATK “ผู้จัดทํา TOR ย่อมต้องทราบว่ามีผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรง ตาม TOR จํานวนกี่ราย ขอให้แจ้งชื่อผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตาม TOR ดังกล่าวมาให้ อภ.ทราบทุก รายด้วย หากมีผู้ประกอบการที่เข้าตาม TOR ดังกล่าวมากกว่า 1 ราย อภ.จะดําเนินการโดยวิธีคัดเลือกเร่งด่วน แต่หากมีผู้ประกอบการที่เข้าได้ตาม TOR เพียงรายเดียว จึงดําเนินการโดยวิธีเฉพาะเจาะจง” (เอกสารแนบ 14)

วันที่ 1 สิงหาคม 2564 สปสช.ทําหนังสือที่ สปสซ. 6.30/15448 ถึงผู้อํานวยการ รพ.ราชวิถี อ้างถึง คณะทํางานกําหนดอัตราค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งนายเกรียงศักดิ์ฯ เป็นประธาน แจ้งว่าต้องการใช้ชุดตรวจ ATK อย่างเร่งด่วน จึงขอยกเลิก spec เดิมทั้งหมด (ตามหนังสือลงวันที่ 22, 24, 29 กรกฎาคม 2564) และให้ใช้ spec ใหม่แทน โดยมีสาระสําคัญที่เปลี่ยน คือ ตัดมาตรฐาน WHO ออก และ ให้ส่งชุดตรวจทั้งหมดภายในวันที่ 10 สิงหาคม 2564 (เอกสารแนบ 15) วันที่ 5 สิงหาคม 2564 องค์การเภสัชกรรม ยังไม่ได้รับหนังสือดังกล่าว จึงได้ทําหนังสือที่ สธ 5100/477 ถึงผู้อํานวยการ รพ.ราชวิถี ติดตาม spec (เอกสารแนบ 16)

วันที่ 3 สิงหาคม 2564 มีการประชุมร่วมระหว่าง สปสช. และ องค์การเภสัชกรรม สรุปเปิด ซองวันที่ 7 สิงหาคม 2564 ประชุมคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม เพื่อขออนุมัติสั่งซื้อในวันที่ 8 สิงหาคม 2564 ส่งเรื่องไปกองกฎหมายเพื่อทํานิติกรรมสัญญาในวันที่ 10 สิงหาคม 2564 กําหนดส่งมอบ 2 สัปดาห์ หลังทําสัญญา (เอกสารแนบ 17) องค์การเภสัชกรรมจึงได้ดําเนินกระบวนการจัดหาชุดตรวจฯ อีกครั้ง โดยวิธี คัดเลือก (เอกสารแนบ 18) ในวันเดียวกัน นายอารักษ์ วงศ์วรชาติ คงเห็นว่าผู้อํานวยการ นายวิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ จะจัดหาโดยวิธีคัดเลือกอีกแล้ว จึงได้โทรศัพท์หานายวิฑูรย์ เวลา 14.05 น. แต่นายวิฑูรย์ ไม่สะดวกรับสาย จึงโทร.กลับไปเวลา 18.05 น. และถูกนายอารักษ์ ข่มขู่ว่า “ถ้าเอาของจีนเข้ามาผมโวยวายแน่” และยังชี้เป้าว่า มี 2 เจ้า คือ Abbott และ Standard 2 ทั้ง ๆ ที่ใน spec ตัดมาตรฐาน WHO ออกแล้ว แสดงว่าบริษัทที่ขึ้นทะเบียน อย.จํานวน 20 กว่าราย จะเข้าได้หมด แต่ก็ยังระบุชื่อเพียง Abbott และ Standard Q (เอกสารแนบ 19)

วันที่ 4 สิงหาคม 2564 องค์การเภสัชกรรม ส่งอีเมลเชิญบริษัทมาเสนอราคา จํานวน 24 ราย (เอกสารแนบ 20) มีบริษัทสอบถามทักท้วงเรื่อง spec องค์การเภสัชกรรม จึงทําหนังสือถึง รพ.ราชวิถี ขอให้สอบถาม สปสช (เอกสารแนบ 21) สปสช.จึงทําหนังสือตอบกลับมาและแก้ spec ตามที่บริษัททักท้วง (เอกสารแนบ 22) องค์การเภสัชกรรมจึงได้ดําเนินการแก้ spec (เอกสารแนบ 23) ในวันเดียวกัน ในการ ประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ได้สั่งการนายจเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. ในที่ประชุม ให้ใช้วิธีประมูล ไม่ให้ใช้วิธีเฉพาะเจาะจง เพราะมีชุดตรวจ ATK ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับ อย.แล้ว ประมาณ 30 รายการ (เอกสารแนบ 24)

วันที่ 7 สิงหาคม 2564 เป็นวันเปิดซอง มีบริษัทมายื่นเอกสารเสนอราคา 19 ราย คณะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีคัดเลือก ตรวจสอบคุณสมบัติผ่านตามข้อกําหนด 16 ราย บริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จํากัด (ได้รับมอบอํานาจให้เป็นผู้แทนจําหน่ายจากบริษัท ออสท์แลนด์ แคปปิตอล จํากัด) เสนอราคาต่ำที่สุด 65 บาท (ไม่รวม VAT) จึงเป็นผู้ชนะ องค์การเภสัชกรรมเสนอคณะกรรมการ องค์การเภสัชกรรมให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ 11 และ 16 สิงหาคม 2564 (เอกสารแนบ 25)

นายเกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ และ นายอารักษ์ วงศ์วรชาติ ยังมีความพยายามที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท เอ็มพีกรุ๊ป (Standard Q) โดยให้ข่าวบิดเบือนโจมตีว่าองค์การเภสัชกรรม ลด spec ในการจัดหา และด้อยค่าผลิตภัณฑ์ Lepu ที่ประมูลได้ อย่างต่อเนื่อง และยังข่มขู่ผู้อํานวยการ นายวิฑูรย์ หวังไม่ให้มีการเซ็นสัญญาซื้อ Lepu (เอกสารแนบ 26 -ส่งมาบางส่วน และจะมีเพิ่มเติมอีกภายหลัง)

(3.) ความเสียหายที่เกิดขึ้น เนื่องจากองค์การเภสัชกรรมไม่ยอมเป็นเครื่องมือให้ นายเกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ และ นายอารักษ์ วงศ์วรชาติ ในการล็อก spec ทําให้ไม่มีความเสียหายเป็นตัวเงินงบประมาณในการจัดซื้อก็จริง แต่มีความเสียหายในเรื่องความล่าช้าเป็นอย่างมาก หากในวันที่ 27 กรกฎาคม 2564 นายเกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ และ นายอารักษ์ วงศ์วรชาติ ไม่เข้ามาข่มขู่กรรมการเปิดซอง ไม่มาเพิ่มเติม spec ในส่วน ที่ไม่ได้ตกลงกันไว้ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท เอ็มพีกรุ๊ป (Standard Q) การเปิดซองก็ไม่ต้องถูกเลื่อน ประเทศไทยก็จะได้รับชุดตรวจ ATK ครบ 8.5 ล้านชุด ในสิ้นเดือนสิงหาคม 2564 ไม่ใช่เพิ่งลงนาม ในสัญญาเหมือนที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ทําให้ประชาชนเสียโอกาสในการแยกตัวผู้ป่วยออกจากผู้ไม่ติดเชื้อ มีผู้เจ็บป่วยล้มตายมากขึ้น

จากข้อเท็จจริงทั้งหมดที่กล่าวมา จะเห็นข้อพิรุธหลายประการของ นายเกรียงศักดิ์ วัชรนุกูล เกียรติ และ นายอารักษ์ วงศ์วรชาติ ที่กระทําผิดต่อพระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอ ราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542

จึงเรียนมาเพื่อโปรดดําเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวด้วย จักเป็นพระคุณ

ขอแสดงความนับถือ
(นายวิฑูรย์ ด่านวิบูลย์) ผู้อํานวยการองค์การเภสัชกรรม


ที่มา : https://mgronline.com/politics/detail/9640000085770


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

'กรมส่งเสริมวัฒนธรรม' ส่งหนังสือถอดศิลปินแห่งชาติถึง 'สุชาติ สวัสดิ์ศรี' ให้อุทธรณ์ใน 30 วัน

นางสาวอัจฉราพร พงษ์ฉวี รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ตามที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้รับแจ้งจากคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติในคราวประชุมครั้งที่ 3/2564 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา เรื่องที่ประชุมได้พิจารณาในวาระการประชุมลับ เรื่องนายสุชาติ สวัสดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจําปีพุทธศักราช 2554 ว่า 

“คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ โดยมติด้วยคะแนนเสียงมากกว่าสองในสามของจํานวนคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติที่เข้าร่วมประชุมให้ยกเลิก การยกย่องเชิดชูเกียรติ นายสุชาติ สวัสดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติ เนื่องจากมีความประพฤติเสื่อมเสียต่อการเป็นศิลปินแห่งชาติ ตามข้อ 10 วรรคสอง ของกฎกระทรวงกําหนดสาขา คุณสมบัติ หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือก และประโยชน์ตอบแทนของศิลปินแห่งชาติ พ.ศ. 2555 และแก้ไขเพิ่มเติมในกฎกระทรวงกําหนดสาขา คุณสมบัติ หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือก และประโยชน์ตอบแทนของศิลปินแห่งชาติ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2563 ข้อ 2”

กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) จึงได้มีหนังสือลงวันที่ 30 สิงหาคม 2564 แจ้งมติข้างต้นแก่นายสุชาติ สวัสดิ์ศรี และหากไม่เห็นด้วยกับมติดังกล่าวให้นายสุชาติ สวัสดิ์ศรี มีหนังสือชี้แจงต่อคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ณ สํานักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ภายใน 30 วัน นับแต่ได้รับหนังสือแจ้ง


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

“พล.อ.ประวิตร” ย้ำ มท. สั่งทุกจว.เตือนภัยเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันพื้นที่เสี่ยง พร้อม สั่งระดมช่วยเหลือชาวสมุทรปราการ 

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  ได้กำชับ กระทรวงมหาดไทย โดยฝ่ายปกครองระดับ จังหวัด ให้เฝ้าระวังติดตามสภาพลมฟ้าอากาศอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสถานการณ์ฝนตกหนักสะสมต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่ม โดยให้เตรียมพร้อมแผนปฏิบัติในพื้นที่เสี่ยงของแต่ละ จว.และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้ทันต่อสถานการณ์ เพื่อลดผลกระทบความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น 

สำหรับพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ซึ่งฝนตกสะสมต่อเนื่องและน้ำทะเลหนุนสูงในปัจจุบัน  ขอให้ กระทรวงมหาดไทย ประสาน กทม. เตรียมความพร้อมของระบบระบายน้ำให้พร้อมทำงานและให้เร่งสำรวจกำจัดสิ่งปฏิกูลที่ขวางประตูระบายน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงที่เคยพบปัญหาน้ำท่วมขังสะสมที่ผ่านมา 

ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร ได้แสดงความห่วงใยประชาชนในพื้นที่ 4 อำเภอ ของ จว.สมุทรปราการ ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมสูงฉับพลัน ประชาชนเดือดร้อนและทรัพย์สินได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู ซึ่งมีทั้งแรงงานและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ โดยขอให้ มท.เร่งสำรวจและระดมให้การช่วยเหลือเร่งด่วนและให้ประสานหน่วยที่เกี่ยวข้อง เสริมกำลังทั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องจักร วางแผนเปิดทางระบายน้ำลงคูคลองสายหลักโดยเร็ว เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นและให้ดูแลต่อเนื่องไปถึงการฟื้นฟู ให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติ

พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงกลาโหม โดยทุกเหล่าทัพและ ตร. ได้จัดกำลังพลร่วมกับจิตอาสาพระราชทาน ยานพาหนะ เรือท้องแบน รวมทั้งเครื่องสูบน้ำและสิ่งของบรรเทาทุกข์ เข้าไปเสริมสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 4 อำเภอของ จว.สป. เป็นการเร่งด่วนโดยช่วยเหลือเด็กและผู้สูงอายุออกมายังพื้นที่ปลอดภัย การช่วยขนย้ายสิ่งของ การมอบสิ่งของช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ การอำนวยความสะดวกในการสัญจร รวมทั้งร่วมวางแผนและสนับสนุนการระบายน้ำในพื้นที่ต่อเนื่องมา  จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

บชน.รับมอบข้าวสารคุณภาพดี จำนวน 2 ตัน...แจกจ่ายกำลังพล-ชุมชนที่ขาดแคลน เพื่อบรรเทาทุกข์จากสถานการณ์โควิด-19 โดยสมาคมช่างภาพผู้สื่อข่าวโทรทัศน์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ร่วมกับบริษัท เวิร์ล คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด

30 ส.ค.64 ณ หน้าตึกกองบัญชาการตำรวจนครบาล​ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับมอบข้าวสารคุณภาพดี​ (หอมมะลิสุรินทร์) บรรจุถุง​ (5กิโลกรัม) จำนวน 2 ตัน​ (400ถุง) โดย คุณพรชัย ชลวาณิชกุล อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษสำนักงานอัยการสูงสุด ดร.พรทิพย์ วงษ์เชิดขวัญ​ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคม กต.ตร.กทม. และ ดร.กาญจน์ พอลลีน่า คณะกรรมการกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ เพื่อสำนักงานอัยการสูงสุดร่วมกับ บริษัท เวิร์ลคอร์ปอเรชั่น​ ​(ประเทศไทย) จำกัด

ให้เกียรติร่วมกันมอบข้าวสาร เพื่อส่งต่อและแจกจ่ายแบ่งปันให้กับกำลังพลในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาลและประชาชนชุมชนต่างๆ​ ที่ยากไร้ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระและบรรเทาทุกข์จากผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19

เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ส่งผลต่อการดำรงชีวิตและประกอบอาชีพของประชาชน ทางบริษัทฯ​ ได้มีความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนในทุกภาคส่วนและในทุกพื้นที่ บริษัทฯ​ มีนโยบายช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องทั้งภาครัฐและหน่วยงานต่างๆ เพื่อเป็นการส่งมอบกำลังใจและความช่วยเหลือให้แก่พี่น้องประชาชนที่กำลังเผชิญกับวิกฤตนี้ 

บริษัทฯ​ ขอทำหน้าที่ช่วยเหลือและเป็นหนึ่งกำลังใจในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ครั้งนี้

‘พันธมิตรจิตอาสา’ ห่วงใยผู้ป่วยโควิดแยกกักตัวอยู่ใน ‘ชุมชนบางบัวร่วมใจพัฒนา’ ลุยส่งต่อน้ำใจได้อิ่มท้องกับโครงการ "ครัวปันอิ่ม"

เกาะติดภารกิจ “ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19"  วันที่ 30 สิงหาคม ที่บริเวณชุมชนบางบัวร่วมใจพัฒนา(เชิงสะพานไม้2) เขตหลักสี่ นายสมชาย จรรยา อุปนายก สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นางสาวพรทิพย์ เตชะสมบูรณากิจ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทในเครือ เวิลด์เมดิคอลซัพพลาย จำกัด ตัวแทน นักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรสิทธิมนุษยชนสำหรับนักบริหารระดับสูง รุ่น 1 (ปสม.1) และหลักสูตรเสริมสร้างสังคมสันติสุข สสสส.รุ่น 9-11-12 สถาบันพระปกเกล้า พร้อมตัวพันธมิตรจิตอาสา จากมูลนิธิสหชาติ สำนักข่าว News Online Thailand เว็ปไซต์ข่าวจั่นเจา Canchaonews.com และหนังสือพิมพ์ดีดีโพสต์ นิวส์ ร่วมส่งมอบข้าวกล่องพร้อมทาน หน้ากากอนามัย เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว โดยมีคุณสมเพียร เหลือศิริ ประธานชุมชน และตัวแทนชุมชน รับมอบ เพื่อนำไปส่งต่อให้ผู้พักอาศัยภายในชุมชน

นายสมชาย จรรยา เปิดเผยว่า กิจกรรมปันอิ่มเพื่อแบ่งเบาภาระและบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงสถานการณ์โควิด-19 สมาคมฯ ร่วมกับพันธมิตรจิตอาสา ได้ดำเนินการมอบตามชุมชนต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุน โครงการ "ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19" ของบริษัทในเครือซีพี และน้องเทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดเหรียญทองโอลิมปิก 2020 ร่วมส่งกำลังใจถึงพี่น้องประชาชนผ่าน “ข้าวกล่องปันอิ่ม”

ด้านคุณสมเพียร เหลือศิริ กล่าวว่า ชุมชนบางบัวร่วมใจพัฒนา(เชิงสะพานไม้ 2) มีประชากรพักอาศัย 1,139 คน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ล่าสุดได้รักษาหายไป 40 คน และมีเพิ่มขึ้นมาอีก 20 คน ที่ยังรักษากันอยู่ โดยเฉพาะชุมชนแห่งนี้ยังเป็นศูนย์พักคอยบ้านใครบ้านมันมีการจัดแนวกั้นที่ชัดเจน ส่วนกรรมการชุมชน จะดำเนินการดูแลการจัดหาอาหาร และเครื่องผลิตออกซิเจน เครื่องช่วยหายใจ เครื่องตรวจวัดไข้ และยารักษา เพื่อดูแลกันเองในชุมชน ขอบคุณพันธมิตรจิตอาสาที่มาเติมเต็มให้ชุมชน เราจะก้าวผ่านวิกฤติโควิดไปด้วยกัน

ตำรวจทางหลวง “ห่วงใยประชา ส่งมอบต้นกล้าฟ้าทะลายโจร” 20,000 ต้น เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนา กองบังคับการตำรวจทางหลวง ครบรอบปีที่ 61ตำรวจทางหลวง “ห่วงใยประชา ส่งมอบต้นกล้าฟ้าทะลายโจร” 20,000 ต้น เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนา กองบังคับการตำรวจทางหลวง ครบรอบปีที่ 6

เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากองบังคับการตำรวจทางหลวง ครบรอบปีที่ 61 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้ดำเนินการตามนโยบายของ พลตำรวจโทต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. , พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ รอง ผบช.ก. ในการดูแลและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 นอกเหนือจากภารกิจของกองบังคับการตำรวจทางหลวง ในการดูแล อำนวยความสะดวก และการปราบปรามอาชญากรรมบนเส้นทางหลวง 

โดย พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. และ พ.ต.อ.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ รอง ผบก.ทล.ได้ดำเนินการตามนโยบาย อีกทั้งมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของ COVID-19 จึงได้จัดทำโครงการ “ตำรวจทางหลวงห่วงใยประชา ส่งมอบต้นกล้าฟ้าทะลายโจร” ขึ้นและได้กำหนดให้ในวันที่ 30 สิงหาคม 2564 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสถาปนากองบังคับการตำรวจทางหลวง ครบรอบปีที่ 61 เป็นวันส่งมอบต้นกล้าฟ้าทะลายโจรให้กับประชาชน  โดยมี พ.ต.อ.พฤทธิพงศ์ฯ และผู้แทนหัวหน้าหน่วยตำรวจทางหลวงกองกำกับการต่าง ๆ , ผู้แทนหน่วยบริการตำรวจทางหลวงทั่วประเทศ และผู้แทนภาคประชาชน รับมอบต้นกล้าฟ้าทะลายโจร จากผู้บังคับการตำรวจทางหลวง         

นอกจากนี้ สถานีตำรวจทางหลวงทั้ง 42 สถานี และหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวง  ที่มีอยู่ 201 แห่งทั่วประเทศ ได้ดำเนินการเพาะและขยายพันธุ์ต้นกล้าฟ้าทะลายโจร เพื่อส่งมอบต้นกล้าให้ประชาชนอีก จำนวน 20,000 ต้น พร้อมตั้งเป้าในปี 2564 จะขยายผลการปลูกฟ้าทะลายโจรอีก จำนวน 61,000 ต้น เพื่อให้ประชาชนนำไปปลูกตามบ้านเรือนของตนเอง สำหรับประชาชนที่สนใจสามารถติดต่อขอรับต้นกล้าได้ ฟรี  ที่สถานีตำรวจทางหลวงหรือหน่วยบริการตำรวจทางหลวงทั่วประเทศ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่   เพจเฟสบุ๊กตำรวจทางหลวง”

ครบรอบ 61 ปี วันสถาปนากองบังคับการตำรวจทางหลวง เดินหน้ายึดแนวทางปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้ประชาชนเชื่อถือและศรัทธา

พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล., พร้อมด้วย พ.ต.อ.วัฒนา แก้วดวงเทียน รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.ชาคริต มงคลศรี รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.จตุพล เร่งถนอมทรัพย์ รอง ผบก.ทล. พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจทางหลวง ร่วมพิธีบวงสรวงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำ กองบังคับการตำรวจทางหลวง เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากองบังคับการตำรวจทางหลวงครบรอบปีที่ 61 

โดย ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง กล่าวว่า บก.ทล.ได้ถือกำเนิดขึ้น ด้วยความร่วมมือระหว่างกรมทางหลวงและกรมตำรวจในขณะนั้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดูแลและให้บริการพี่น้องประชาชนผู้ใช้ทางหลวง รวมถึงการปราบปรามอาชญากรรมในหน้าที่ตำรวจ ความเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ การเมืองและเทคโนโลยี เป็นเหตุให้เราต้องกำหนดเป้าหมาย บทบาท และแนวทางการปฏิบัติงานให้เกิดความสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ที่สภาพแวดล้อมส่วนใหญ่ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เพื่อให้ประชาชนเกิดความไว้วางใจ เชื่อถือ ศรัทธา 

พร้อมกันนี้ กองบังคับการตำรวจทางหลวง ยังได้ประกาศเกียรติคุณข้าราชการตำรวจที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ประจำปี 2564 ในด้านต่าง ๆ  ได้แก่ 1.ด้านป้องกันปราบปรามอาชญากรรมดีเด่น จำนวน 8 นาย 2.ด้านจราจรดีเด่น จำนวน 5 นาย 3.ด้านบริการและมนุษยสัมพันธ์ดีเด่น จำนวน 6 นาย 4.ด้านอำนวยการและสนับสนุนดีเด่น จำนวน 15 นาย 5.ด้านสอบสวนดีเด่น จำนวน 2 นาย  6.ด้านการพัฒนา (สถานที่ทำการ) ดีเด่น จำนวน 5 แห่ง และ 7.หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงดีเด่น จำนวน 6 หน่วย เพื่อเป็นขวัญ กำลังใจแก่ข้าราชการตำรวจทางหลวงที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่น อดทน และเสียสละมาโดยตลอด 

ทั้งนี้ กองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้ก่อตั้งขึ้นเนื่องจาก กระทรวงคมนาคม ได้เสนอโครงการจัดตั้ง กองตำรวจทางหลวงขึ้นในกรมทางหลวงแผ่นดิน เพื่อลดอุบัติเหตุจากการจราจรในทางหลวง เนื่องจากกิจการทางหลวงแผ่นดินเจริญก้าวหน้ากว้างขวางไปเป็นอันมาก มีประชาชนใช้ยวดยาน เป็นพาหนะสัญจรและขนส่งสินค้าไปมาบนทางหลวงมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ การจราจรไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยเท่าที่ควร เป็นเหตุให้เกิดอุปัทวะเหตุ เป็นอันตรายแก่ชีวิตและร่างกายแก่ประชาชนผู้ใช้ยวดยานอยู่เสมอๆ และนอกจากนั้นยังเกิดอาชญากรรมร้ายแรงบนทางหลวงอยู่เนือง ๆ และทางหลวงถูกทำให้ชำรุดเสียหาย ทั้งนี้ เพราะขาดเจ้าหน้าที่ควบคุมดูแล จึงมีบัญชาให้ กรมตำรวจ กำหนดให้มีตำรวจทางหลวงขึ้น ในพระราชกฤษฎีกาจัดวางระเบียบราชการ   กรมตำรวจ พ.ศ.2503 มีฐานะเป็นกองบังคับการ เรียกชื่อว่า “ กองบังคับการตำรวจทางหลวง”

ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ยกเลิกคำสั่งห้ามเปิดบ่อนคาสิโนบนเกาะโบราไกย์ เพื่อหารายได้และฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ หลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่าประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ยกเลิกคำสั่งห้ามเปิดบ่อนคาสิโนบนเกาะโบราไกย์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ เพื่อหารายได้และฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศหลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19

ก่อนหน้านี้ ดูเตอร์เตสั่งห้ามการพนันและยุติการสร้างคาสิโนแห่งใหม่ รวมถึงปฏิเสธแผนการสร้างรีสอร์ทคาสิโนมูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐบนเกาะโบราไกย์ ของ Galaxy Entertainment Group ธุรกิจโรงแรมและคาสิโนจากมาเก๊า

แต่การล็อกดาวน์ที่เข้มงวดและยาวนานของฟิลิปปินส์เมื่อปีที่แล้วส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก รัฐบาลฟิลิปปินส์จึงตัดสินใจเปิดคาสิโนอีกครั้งเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่จะมีการจำกัดอายุผู้ใช้บริการ และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าคำสั่งดังกล่าวจะบังคับใช้เพียงแค่ชั่วคราวหรือถาวร

ด้านบริษัท Galaxy Entertainment Group กล่าวกับรอยเตอร์สว่าบริษัทสามารถเริ่มดำเนินการธุรกิจคาสิโนได้โดยจะเน้นไปที่กลุ่มผู้ใช้บริการชาวต่างชาติ

เช่นเดียวกับบริษัท Alliance Global Group ซึ่งแถลงว่าจะดำเนินการโครงการคาสิโนบนเกาะโบราไกย์ในทันที และหวังว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวบนเกาะนี้จะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19


ที่มา : https://www.posttoday.com/world/661843


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

“กรมอนามัย” เผยเด็กเล็ก 0-5 ปี ติดเชื้อโควิด-19 สะสม 31,811 คน พบติดจากคนใกล้ชิด แนะศูนย์เด็กยกระดับป้องกันด้วย ATK เพื่อลดการติดและแพร่เชื้อในครอบครัว

30 สิงหาคม 2564 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า หลังจากพบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลขึ่ง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน โดยการติดและแพร่ระบาดครั้งนี้มาจากผู้ดูแลเด็ก เบื้องต้นพบเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัยเข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงกว่า 70 คน พบผู้ป่วยเป็นเด็กเล็กจำนวน 11 คน อายุต่ำสุด 4 เดือนนั้น จากกรณีดังกล่าวจะเห็นได้ว่าเคยเกิดการระบาดในลักษณะกลุ่มก้อนเช่นนี้มาก่อน และกลุ่มเด็กเล็กเป็นกลุ่มสำคัญที่ต้องเฝ้าระวังหลังพบแนวโน้มระบาดในกลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ จากรายงานสถานการณ์โควิด-19 เด็กปฐมวัย (0-5 ปี) พบเด็กติดเชื้อตั้งแต่ 1 เมษายน - 14 สิงหาคม 2564 จำนวน 26,513 คน เป็นคนไทย 22,982 คน ต่างชาติ 3,531 คน เสียชีวิตสะสม 5 คน และจากข้อมูลล่าสุด 21 สิงหาคม 2564 พบจำนวนเด็กติดเชื้อเพิ่มขึ้น 5,298 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน คิดเป็นร้อยละ 3.7 เป็นคนไทย 4,773 คน ต่างชาติ 525 คน และเสียชีวิตเพิ่ม 4 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน คิดเป็นร้อยละ 33 ส่งผลให้มียอดรวมเด็กติดเชื้อสะสม ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2564 จำนวน 31,811 คน เป็นคนไทย 27,755 คน ต่างชาติ 4,056 คน เสียชีวิตรวม 9 คน

โดยกรุงเทพมหานครพบมีการติดเชื้อสูงสุด 5,806 คน รองลงมาคือ จังหวัดสมุทรสาคร 2,324 คน และ จังหวัดชลบุรี 1,993 คน สาเหตุที่ติดเชื้อมากที่สุดคือสัมผัสกับคนใกล้ชิดที่เป็นผู้ป่วยยืนยันมากที่สุด 18,807 คน

นายแพทย์สุวรรณชัย ระบุว่า การติดและแพร่เชื้อในเด็กเล็กที่ผ่านมามักไม่ต่างไปจากการติดเชื้อในผู้ใหญ่ แต่เด็กอาจจะมีแนวโน้มที่จะเกิดอาการรุนแรงหรือมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ หากผู้ป่วยเด็กคนนั้นมีภาวะอ้วน เป็นโรคพันธุกรรมเมตาบอลิก เบาหวาน หอบหืด หัวใจพิการแต่กำเนิด หรือภาวะผิดปกติทางระบบประสาทในบางรายส่งผลให้อันตรายถึงชีวิตได้

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า ขอให้ศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัยที่ยังเปิดให้บริการอยู่เข้าประเมินตนเองผ่าน Thai Stop COVID Plus พร้อมยกระดับการคุมเข้มขั้นสูงสุดโดยมีการทำความสะอาดสถานที่ สิ่งของเครื่องใช้ จุดสัมผัสต่าง ๆ รวมถึงยานพาหนะที่ใช้รับส่งให้สะอาด ปลอดภัย มีการกำหนดจุดรับ-ส่งเข้าออกเฉพาะจุดเท่านั้น และไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้ามาบริเวณพื้นที่ภายในของศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัย มีการกำหนด จุดคัดกรอง วัดไข้ จุดล้างมือ ล้างเท้าชัดเจน ด้านครูผู้ดูแลเด็กจะต้องสังเกตอาการตนเองหรือคนใกล้ชิดอยู่เสมอ หากมีไข้ ไอ เหนื่อยหอบ หรืออาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ให้หยุดงานทันที รวมทั้งควรเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนปฏิบัติงานทุกครั้ง สวมหน้ากากอนามัย

ในส่วนของการจัดกิจกรรมควรให้เด็กอยู่ภายในกลุ่มตัวเองหรือแยกเป็นรายบุคคล ไม่ให้ข้ามกลุ่มไปมา เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรค รวมทั้งการกินอาหารและการนอน ต้องเว้นระยะห่าง 1-2 เมตร หรือมีฉากกั้นระหว่างบุคคล และหากพบว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ต้องยกระดับการป้องกันโควิด-19 ด้วยการคัดกรองครูผู้ดูแลเด็กด้วยการตรวจ ATK

“ด้านพ่อแม่ ผู้ปกครอง เมื่อมารับเด็กกลับบ้าน ไม่ควรแวะตามสถานที่เสี่ยงต่าง ๆ ขอให้รีบกลับบ้าน และให้เด็กอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีเมื่อถึงบ้าน อีกทั้งเพื่อเป็นการจำกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 สู่ครอบครัว ขณะอยู่บ้านขอให้สมาชิกในครอบครัวปฏิบัติ ดังนี้ 

1.) เว้นระยะห่างระหว่างกัน จำกัดการเดินทางเท่าที่จำเป็น และไม่ไปในที่มีคนหนาแน่น 
2.) สวมหน้ากากตลอดเวลา ยกเว้นเฉพาะเวลากินอาหาร และไม่กินอาหารร่วมกัน หากจำเป็นต้องดูแลให้เด็กกินอาหาร ผู้ปกครองควรแยกหรือเหลื่อมเวลาการกิน 
3.) หมั่นล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ และ 
4.) ผู้ปกครองควรทำงานที่บ้าน และประเมินความเสี่ยงตนเองผ่าน "ไทยเซฟไทย” ทุกวัน หากสังเกตอาการมีไข้สูงกว่า 37.8 องศาเซลเซียส ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก คัดจมูกหายใจไม่สะดวก อาจมีปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ท้องเสีย และถ้ามีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยที่ยืนยันว่าติดเชื้อควรตรวจและคัดกรองตนเองด้วย ATK เช่นกัน” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว


ที่มา : https://www.naewna.com/local/598561


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

'เอ๋'​ พิชชานันท์ มหาโชติ นักวิ่งสาวจอมอึดยอดกตัญญู สร้างประวัติศาสตร์เป็นหญิงไทยคนแรก พิชิตเทรลระดับโลก 'อัลตร้า เทรล ดู มองบลังค์'​ หรือ​ UTMB ระยะ 100 ไมล์

สุดยอด! 'เอ๋'​ พิชชานันท์ มหาโชติ นักวิ่งสาวจอมอึดยอดกตัญญู สร้างประวัติศาสตร์เป็นหญิงไทยคนแรก พิชิตเทรลระดับโลก 'อัลตร้า เทรล ดู มองบลังค์'​ หรือ​ UTMB ระยะ 100 ไมล์ ด้วยเวลา 42:10:56 ชม. ทั้งที่ก่อนแข่งขันต้องพบข่าวร้ายคุณแม่เสียชีวิตจากโควิด-19 โดยเจ้าตัวอยู่ฝรั่งเศสไม่ได้ดูใจ

จากเฟซบุ๊ก​ Doctor Runner -​ วิ่งดิหมอ​ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า... 

พี่เอ๋ทำได้ ! พี่เอ๋ทำได้ ! คนไทยทำได้ !!!

หญิงไทยคนแรกผู้พิชิต UTMB !!!

คุณเอ๋ พิชชานันท์ มหาโชติ ????‍♀️????????

เวลา 42:10:56 ชม. (ความเร็ว 4.1 กม./ชม.)

ระยะทาง 172.12 กม. ความชันสะสม 10,055 เมตร (cut-off time 46 ชั่วโมง 30 นาที)

ไม่แกร่งจริง ไม่มาถึงจุดนี้ ???????? วิ่งไม่นอนตลอดกว่า 42 ชม. ผ่านคืนอันหนาวเหน็บถึง 2 คืนต่อเนื่องกัน ... ยอดมนุษย์ หญิงเหล็ก !

วินาทีที่พี่เอ๋เข้าเส้นชัย พี่เอ๋อยู่ในอันดับ

- Overall 806/2,347
- หญิงอันดับที่ 65/187 !!! สุดยอด !!!

(จากผู้เข้าร่วม ณ หน้าเส้นสตาร์ท 2,347 ราย DNF ระหว่างทางไปแล้ว 807 ราย คิดเป็นกว่า 34% คาดการณ์ว่า Finishers UTMB ปีนี้ จะอยู่ที่ประมาณ 1,530+ ราย)

พี่เอ๋ คุมแรงและความเร็วได้อย่างคงที่ ตลอดระยะทาง 170 กว่ากิโลเมตร ผ่านยอดเขานับสิบลูก ไม่มีหยุด พร้อมกับกำลังใจอันล้นหลามจากทีมงาน และชาวไทย

ในที่สุด ความมุ่งมั่นทั้งหมดนั้น ก็ได้แสดงให้เห็นแล้ว ที่หน้าเส้นชัยของสนามเทรลระดับโลก อย่าง UTMB

คนไทยทำได้ !!!

สำหรับ 'เอ๋'​ พิชชานันท์ เป็นชาว จ.ราชบุรี ถือเป็นนักวิ่งหญิงแกร่งสู้ชีวิตยอดกตัญญูตัวจริง ก่อนหน้านี้ช่วง พ.ศ.2558 เคยทำงานโรงงานก่อนลาออกมาเพื่อดูแลคุณแม่ที่ป่วยติดเตียง และเป็นจุดเริ่มต้นในการเริ่มวิ่ง ใช้เวลาว่างหลังจากดูแลคุณแม่มาฝึกซ้อมด้วยตนเอง รองเท้าวิ่งคู่แรกซื้อจากตลาดนัดราคา 99 บาท ด้วยความมานะมุ่งมั่นและย่อท้อต่อชะตาชีวิตของทำให้กลายเป็นนักวิ่งแถวหน้าของไทยได้อย่างรวดเร็ว 

อย่างไรก็ตาม ก่อนการแข่งขัน พิชชานันท์ ต้องพบกับข่าวร้ายคุณแม่เสียชีวิตจากโควิด-19 ระหว่างที่อยู่ฝรั่งเศส ซึ่งเจ้าตัวต้องพกสภาพจิตใจที่บอบช้ำกับความฝันอันยิ่งใหญ่ลงแข่งขัน รวมทั้งในช่วงที่ฝึกซ้อมเจอเด็กมาขโมย เจ้าตัวจึงวิ่งตามจักรยานจนทัน ทำให้ได้เอกสารและสิ่งของสำคัญคืนทั้งหมด

หลังแข่งขัน พิชชานันท์ กล่าวว่า ตลอดระยะทางไม่ล้มเลยสักครั้งเดียว วิ่งอย่างระมัดระวัง อิ่มใจน้ำตาไหลตั้งแต่ก่อนถึงเส้นชัย คิดถึงแม่อยากให้แม่รับรู้ อยากให้แม่ไม่ต้องเป็นห่วง จะดูแลตัวเองให้ดี ทำความฝันสำเร็จแล้ว อยากให้แม่เป็นกำลังใจให้ตลอดไป


ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=386826179480743&id=100044600910170
https://www.dailynews.co.th/news/213844/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

'บี พีระพัฒน์' โพสต์ข้อความฟาดชาวเน็ตตรรกะพัง หลังมีคนทวิตแซะ 'ได้กลิ่นกะทิบูด'

หลังถูกชาวเน็ตรายหนึ่งทวิตข้อความถึงทำนองได้กลิ่นกะทิบูด ฟังเพลงไม่ลง ทำเอานักร้องดัง “บี พีระพัฒน์ เถรว่อง” ออกมาสับแหลกทันทีในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยเจ้าตัวระบุว่า...

“ไปเจอมาในทวิต คงมีอีกหลายคนที่คิดแบบนี้ ถ้าไม่ใช่สามกีบต้องเป็นสลิ่ม หรือ ถ้าไม่ใช่สลิ่มคือสามกีบ ตรรกะพังมาก โลกมีความหลากหลายนะครับ ฝาแฝดยังคิดไม่เหมือนกันเลย มันคือเรื่องธรรมชาติที่สุดแล้ว"

"แล้วการรังเกียจคนอื่นเพราะความเห็นที่แตกต่างนี่ เคยมีตัวอย่างจากสมัยฮิตเลอร์โน้มน้าวให้คนเกลียดยิว เดินผ่านคือถุยน้ำลายใส่หน้าเลย สุดท้ายฆ่ายิวไปสองล้านคน เราจะเอาแบบนั้นใช่ไหมครับ?"

"ส่วนตัวผมไม่เกลียดคนที่มีความเห็นเรื่องการเมืองไม่เหมือนผมหรอกครับ แต่ถ้าเป็นนักการเมืองที่คอยปั่นหัวให้ผู้คนเกลียดกันละก็ หึหึ...#คอมเมนต์ได้อย่าหยาบคาย #ใช้เหตุผลอย่าใช้อารมณ์"

"ประเด็นคือ อย่าเกลียดกันเลย อย่าใช้ความเกลียดเป็นสารตั้งต้น มันจะทำให้เราฆ่ากัน ผมสรุปให้สั้น ๆ นะ อย่าตีความไปไกลเลยขอร้อง”


ที่มา : https://mgronline.com/entertainment/detail/9640000085521
https://www.facebook.com/bepeerapat/photos/a.10151378471043587/10158272134413587/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

กรุงเทพฯ ครองแชมป์เมือง workation เหมาะทำงานไป-พักผ่อนไปที่สุดในโลก เหตุค่าครองชีพถูก สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ที่เที่ยวหลากหลาย

กรุงเทพฯ ครองแชมป์เมือง workation เหมาะทำงานไป-พักผ่อนไป ที่สุดในโลก เหตุค่าครองชีพถูก สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ที่เที่ยวหลากหลาย

เพราะเทคโนโลยีการสื่อสารที่พัฒนา และได้รับการพิสูจน์แล้วว่าใช้งานได้เป็นอย่างดีในช่วงการระบาดครั้งใหญ่ ทำให้พนักงานทั่วโลกเริ่มมีแนวคิดที่ว่า “ทำไมถึงต้องทำงานเฉพาะที่บ้านเท่านั้น ในเมื่อจริง ๆ แล้วเราสามารถไปนั่งทำงานริมชายหาด หรือที่ไหนก็ได้?”

แนวคิดที่ว่าจึงเกิดเป็นเทรนด์ Workation ซึ่งก็คือคำว่า work + vacation หรือหมายถึงการทำงานพร้อม ๆ กับการพักผ่อนไปด้วย ซึ่งอาจจะเป็นที่นิยมมากขึ้น และแพร่หลายมากกว่าที่เคย

Holidu.co.uk เสิร์ชเอนจิ้นสำหรับค้นหาสถานที่พักผ่อนสัญชาติอังกฤษ ได้จัดอันดับ 150 เมืองสำหรับการทำงานไปพักผ่อนไป โดยวัดจากปัจจัยต่าง ๆ ตั้งแต่ ค่าเช่ารายเดือนของอพาร์ตเมนต์แบบ 1 ห้องนอน, ค่าเครื่องดื่มหลังเลิกงาน

ไปจนถึงค่าเฉลี่ยจำนวนชั่วโมงที่แดดออกต่อวัน, ความเร็ว Wi-Fi และกิจกรรมน่าสนใจ โดยใช้ข้อมูล 8 แหล่งซึ่งรวมถึงเว็บไซต์ BestCities.org และ Tripadvisor.co.uk ด้วย

ซึ่งผลปรากฏว่า กรุงเทพฯ ครองอันดับ 1 เมืองเหมาะแก่การทำงานไปพักผ่อนไปประจำปีนี้ ตามมาด้วยนิวเดลี ประเทศอินเดีย, ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส, บาร์เซโลนา ประเทศสเปน

ตามมาด้วยอันดับ 5 ร่วม ได้แก่ กรุงบัวโนสไอเรส อาร์เจนตินา และกรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ขณะที่ภูเก็ตติดอันดับที่ 10

Holidu ระบุว่า สำหรับกรุงเทพฯ ที่ได้อันดับ 1 นั้น เนื่องจากมีค่าครองชีพไม่แพง, ความสามารถทางภาษาอังกฤษอยู่ในระดับสูง, สถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย, มีสิ่งอำนวยความสะดวกระดับโลกมากมาย และมีสำนักงานของบริษัทข้ามชาติหลายบริษัท

“ทุกเมืองในอันดับต้น ๆ ส่วนใหญ่มีค่าครองชีพไม่แพงมาก เหนือสิ่งอื่นใด เมืองเหล่านี้ยังเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมของตนเอง และมีสิ่งน่าทึ่งให้ดูและทำมากมาย” ซาราห์ ซิดเดิล ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาดของ Holidu กล่าว

ซิดเดิลยังกล่าวอีกว่า การแพร่ระบาดกว่า 1 ปีครึ่งที่ผ่านมาได้เปลี่ยนวิธีการทำงานของคนโดยสิ้นเชิง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเราไม่จำเป็นต้องนั่งอยู่ในออฟฟิศ 5 วันต่อสัปดาห์เพื่อทำงานเสมอไป

“workation กลายเป็นวิธีที่สมบูรณ์แบบในการใช้เวลาสำรวจจุดหมายปลายทางที่ต้องการได้นานขึ้น โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องการเข้าพักเท่าที่ลาพักร้อนได้อีกต่อไป”

ซิดเดิลยังระบุอีกว่า คาดว่าจะเห็นแนวโน้มการทำงานแบบนี้เพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เนื่องจากปัจจุบันบริษัทจำนวนมากเริ่มให้ความยืดหยุ่นในการทำงานกับพนักงานมากขึ้น

โดยให้พนักงานเดินทางไปต่างประเทศเป็นเวลานานในช่วงที่ทำงานได้ ซึ่งส่งผลให้พนักงานมีความสมดุลในชีวิตและการทำงานมากขึ้น


ที่มา : https://www.cnbc.com/2021/08/29/here-are-the-worlds-top-spots-for-working-vacations.html
https://www.facebook.com/109785344593658/posts/174311551474370/?d=n


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

ตำรวจบุกรวบเจ้าอาวาสวัดดังเชียงใหม่นำพระและฆราวาสตั้งวงปาร์ตี้หมูกระทะ และดื่มเบียร์หน้าองค์พระประธาน

เชียงใหม่ - เจ้าอาวาสวัดดังเชียงใหม่นำพระและฆราวาสตั้งวงปาร์ตี้หมูกระทะ และดื่มเบียร์หน้าองค์พระพุทธรูป ชาวบ้านแฉจัดสังสรรค์สนุกสนานเป็นประจำจนสุดทนพฤติกรรมแจ้งตำรวจตรวจสอบ จับได้คาหนังคาเขา พบประวัติเป็นพระนักพัฒนาชื่อดัง เคยโชว์อิทธิฤทธิ์พรมน้ำมนต์เป็นพระธาตุ และเปิดร้านกาแฟในวัดให้พระเป็นบาริสตาจนออกข่าวดัง

(30 ส.ค. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.รณชัย ลอดลอย ผกก.สภ.ภูพิงค์เชียงใหม่ ได้เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ภูพิงค์เชียงใหม่ได้รับการร้องเรียนว่าวัดปันเสา วัดดังของเชียงใหม่ บริเวณคูเมืองเชียงใหม่ คณะสงฆ์ในวัดนำทีมโดยเจ้าอาวาส ล้อมวงกันดื่มเหล้าเบียร์ ทั้งพูดคุยกันเป็นทั้งภาษาพูดภาษาสวดแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย ขอให้ตำรวจมาดำเนินการตรวจสอบจับกุม

ดังนั้นจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ภูพิงค์เชียงใหม่เข้าดำเนินการตรวจสอบ พอเปิดประตูเข้าไปพบคณะสงฆ์ 6 รูป และฆราวาส 1 คน กำลังนั่งล้อมวงกินหมูกระทะ และเหล้าเบียร์อย่างสนุกสนาน แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนต่างแสดงอาการสำรวม และยอมรับว่าดื่มเหล้าเบียร์กันจริง โดยมีเจ้าอาวาสวัดเป็นหัวโจก โดยมีทั้งเหล้า เบียร์กระป๋อง และกับแกล้มเพียบ

เบื้องต้นทั้งหมดยอมรับสารภาพว่าได้ดื่มสุราเบียร์กันจริง เป็นความผิดแค่ปาจิตตีย์ ทางตำรวจจึงได้เชิญทั้งหมดไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ โดยพระสงฆ์ดังกล่าวได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อพูดคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นศิษย์เพื่อขอความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหากระทำผิด พ.ร.บ.การควบคุมโรค และทำการดื่มสุราเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดแล้วในเบื้องต้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำ

สำหรับเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้โด่งดังจากการพรมน้ำมนต์กลายเป็นพระธาตุ มีลูกศิษย์มากมาย เป็นพระนักพัฒนา และเปิดร้านกาแฟที่วัดโดยให้พระเณรเป็นบาริสตาจนเป็นที่โด่งดังของเชียงใหม่ โดยตามรายงานข่าวระบุด้วยว่าพระสงฆ์ที่ถูกจับกุมพร้อมกันนั้นมีพระจากวัดอื่นในตัวเมืองเชียงใหม่เข้าร่วมวงด้วยและหนึ่งในนั้นเป็นเจ้าอาวาสวัดชื่อดังในตำบลหายยา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่


ที่มา : https://mgronline.com/local/detail/9640000085484


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

'จีน' เข้มงวด! ตัดแต้มทางสังคม คนฝืนกฎจราจรโดนประจานผ่านจอยักษ์ ขึ้นภาพแสดงข้อมูลส่วนตัว

เพจอ้ายจง เล่าเรื่องเมืองจีน โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการใช้มาตรการทางสังคมประจานคนฝ่าฝืนกฎจราจรในประเทศจีน โดยระบุว่า ย้อนรอย บทลงโทษคนทำผิดกฎจราจรในจีน "ถ่ายรูปประจานขึ้นหน้าจอขนาดใหญ่ พร้อมโชว์ข้อมูลส่วนตัว และตัดคะแนนเครดิตทางสังคม"

ปัญหา “ข้ามถนนแบบไม่เคารพกฎจราจร” รวมถึงพฤติกรรมอื่น ๆ ที่ฝ่าฝืนการใช้ถนน เช่น เดินลงไปบนเลนถนนใหญ่ ไม่สนใจรถที่กำลังใช้ถนนและไม่ใช่ทางข้าม หรือ รถยนต์ไม่หยุดให้คนข้ามถนนที่กำลังข้ามทางม้าลาย ถือเป็นปัญหาการทำผิดกฎจราจรที่พบได้บ่อยมากในประเทศจีน

ทำให้ 4-5 ปีก่อน ตำรวจจราจรในจีนหลายเมือง นำมาตรการ "เก็บภาพด้วยกล้องวงจรปิดและนำขึ้นจอขนาดใหญ่พร้อมโชว์ข้อมูลส่วนบุคคลโดยอัตโนมัติบนจอ” ติดตั้งตามสี่แยก ตามถนนต่าง ๆ อย่างตอนอ้ายจงใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองซีอาน มณฑลส่านซี ก็มีใช้มาตรการนี้ และเท่าที่ทราบ ในเมืองอื่น ๆ ก็มีแบบนี้เช่นกัน เช่น เมืองหนานจิง มณฑลเจียงซูและกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน

ลองดูจากภาพที่อ้ายจงโพสต์ได้เลยครับ

แต่แม้จะมีมาตรการข้างต้น ปัญหาทำผิดกฎจราจรของคนเดินถนน รวมถึงผู้ใช้รถ ก็ยังมีให้เห็นเยอะสำหรับปัญหาซ้ำเดิม ทางจีนจึงต้องกำหนดมาตรการที่เข้มงวดกว่าเดิม

อย่างเมื่อปี 2019 หรือ 2 ปีก่อน ทางจีนได้ประกาศบทลงโทษใหม่สำหรับผู้ที่ชอบข้ามถนนโดยไม่เคารพกฎจราจร ลงโทษด้วยการ "หักคะแนน-เครดิตทางสังคม" เป็นการต่อยอดจากบทลงโทษ "เก็บภาพด้วยกล้องวงจรปิดและนำขึ้นจอขนาดใหญ่พร้อมโชว์ข้อมูลส่วนบุคคลโดยอัตโนมัติบนจอ"

เมืองที่เริ่มนำการกระทำข้ามถนนฝ่าฝืนกฎจราจรไปตัดเครดิตทางสังคม คือเมืองหนานจิง มณฑลเจียงซู โดยระบุว่า "หากทำผิดข้ามถนนแบบไม่เคารพกฎจราจร มากกว่า 5 ครั้ง ภายใน 1 ปี จะโดนหักแต้มเครดิตทางสังคมโดยทันที"

ในเมืองจีนหากใครที่มีคะแนนเครดิตทางสังคมไม่ดี จะถูกจำกัดสิทธิต่าง ๆ เช่น ห้ามขึ้นเครื่องบิน-รถไฟความสูง โดนปฏิเสธการกู้เงินธนาคาร รวมถึงมีผลต่อการคัดเลือกเวลาสมัครงาน เป็นต้น

ต้องยอมรับว่า จีนพยายามหามาตรการใหม่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นมาแก้ปัญหาเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา อย่างสองปีมานี้ เริ่มมีการใช้ระบบรู้จำใบหน้าด้วยปัญญาประดิษฐ์ มาตรวจจับผู้กระทำผิดกฎจราจรโดยอัตโนมัติ และจีนก็เพิ่มพฤติกรรมที่ผิดกฎจราจรให้เป็นไปตามยุคสมัยด้วย เช่น เมืองเจียซิง มณฑลเจ้อเจียง ออกกฎหมายห้ามก้มหน้าเล่นมือถือขณะเดินข้ามถนน เป็นต้น

#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน


ที่มา : https://www.facebook.com/348166825314887/posts/2318597441605139/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์มอบแคปซูลเพื่อใช้บรรจุยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร 1,000,000 แคปซูล ให้จังหวัดฉะเชิงเทรา ต้านภัยโควิด-19

ที่ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา นายไมตรี ไตรติลานันท์  ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรารับมอบแคปซูลเพื่อใช้บรรจุยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรจำนวน 1,000 ,000 แคปซูล  โดยนายสมโภชน์  อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท พลังงานบริสุทธิ์  และนางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานผู้บริหารโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทราบลูเทคซิตี้  ในฐานะประธานที่ปรึกษามูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ มอบให้ทีมงาน CSR นิคมอุตสาหกรรม ฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ เป็นผู้แทนมอบ 

โดยทางจังหวัดจะกระจายส่งมอบต่อให้ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.พนมสารคาม และหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งวัดในจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ผลิตสมุนไพรฟ้าทะลายโจรนำไปบรรจุ และจัดสรรให้แก่ผู้ป่วยโควิด-19 ที่กำลังรักษาตัวและแจกจ่ายประชาชนในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา

สำหรับการใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรเป็นทางเลือกในการรักษาผู้ป่วยโควิด -19 เป็นไปตามแนวทางที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขได้ให้การรับรองว่า สมุนไพรฟ้าทะลายโจรสามารถใช้รักษาผู้ป่วยโรคโควิด -19 ที่มีความรุนแรงน้อยได้

ทั้งนี้ ภาคเอกชนโดย EA  ร่วมกับ บลูเทคซิตี้ และมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนภารกิจโควิด-19 และช่วยเหลือสังคม เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมส่งกำลังใจให้พี่น้องชาวไทยทุกคน ทุกภาคส่วน ผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top