Monday, 9 June 2025
NEWS FEED

วิทยาลัยนานาชาตินวัตกรรมดิจิทัล มช. เปิดงาน 'Digital Marketer Hackathon 2023'

วิทยาลัยนานาชาตินวัตกรรมดิจิทัล มช. เปิดงาน 'Digital Marketer Hackathon 2023' Go Global with Cross Border E-Commerce Platform โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการในกลุ่มประเทศสมาชิกกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง เพื่อรองรับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจนวัตกรรม

(24 ก.พ. 66) ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.)ได้เป็นประธานเปิดงานโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการในกลุ่มประเทศสมาชิกกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง เพื่อรองรับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจนวัตกรรม โดยมี นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ Mr. Wu Zhiwu กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ นางสาวนภัสพร ภัทรีชวาล กงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงต่าว สาธารณรัฐประชาชนจีน Mr. Shen Sunan ประธานกรรมการ ASEAN Innovation and Development Promotion Association สาธารณรัฐประชาชนจีน รศ. ดร.โชติชัย เจริญงาม ประธานกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง ผศ. ดร.ธัญญานุภาพ อานันทนะ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผศ.ดร.รุจิรา อุ่นเจริญ คณบดีวิทยาลัยนานาชาตินวัตกรรมดิจิทัล มช. พร้อมด้วยผู้บริหารวิทยาลัยนานาชาตินวัตกรรมดิจิทัล มช. เข้าร่วมงานในครั้งนี้

ซึ่งภายในงานได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวแสดงความยินดีในพิธีเปิดงานผ่านการบันทึกคลิปวีดิทัศน์ โดยได้กล่าวไว้ว่า "โครงการนี้มีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ โดยไม่เพียงเพิ่มความสามารถของผู้ประกอบการในด้านการส่งออกแต่ยังตั้งใจที่จะกระตุ้นการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจผ่านทางนวัตกรรมและการเป็นศูนย์กลางสำหรับผู้ประกอบการ การค้าขาย การลงทุน และการบริการ"

ผศ.ดร.ธัญญานุภาพ อานันทนะ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้กล่าวต้อนรับกล่าวแสดงความยินดีในการเป็นพยานความร่วมมือทางวิชาการของวิทยาลัยนานาชาตินวัตกรรมดิจิทัลกับหน่วยงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ โครงการนี้เป็นหนึ่งในโครงการตามนโยบายของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในการส่งเสริมความร่วมมือทั้งในระดับนานาชาติและในด้านการวิจัย ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากในยุคปัจจุบันที่สังคมโลกถูกเชื่อมโยงด้วยการสื่อสารที่รวดเร็ว

ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ได้กล่าวแสดงความยินดีและกล่าวเปิดโครงการ กล่าวว่า "ผมดีใจที่ได้ร่วมงานกับ ICDI อีกครั้ง ซึ่งเราเคยร่วมงานกันในโครงการศึกษานโยบายสำหรับ "ระเบียงเศรษฐกิจนวัตกรรม Route 1" จากการศึกษาครั้งนั้น เราพบศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ของภาคเหนือและภาคอีสานของประเทศไทยและวันนี้เราก็เข้าใกล้ศักยภาพที่ยิ่งใหญ่นั้นมากขึ้น ด้วยการเริ่มต้นโครงการนี้"

จากนั้น เป็นการกล่าวแสดงความยินดีโดยแขกผู้มีเกียรติตามลำดับ นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่Mr. Wu Zhiwu กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ นางสาวนภัสพร ภัทรชีวาล กงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงต่าว สาธารณรัฐประชาชนจีน Mr. Shen Sunan ประธานกรรมการ ASEAN Innovation and Development Promotion Association สาธารณรัฐประชาชนจีน รองศาสตราจารย์ ดร.โชติชัย เจริญงาม ประธานกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง ซึ่งเชื่อมั่นว่าโครงการของวิทยาลัยนานาชาตินวัตกรรมดิจิทัลมหาวิทยาลัยเชียงใหม่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการค้า การลงทุนของธุรกิจ SME ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และเกิดการกระจายรายได้หมุนเวียนต่อไป

ภายในงาน ได้มีพิธีลงนามความร่วมมือระหว่างวิทยาลัยนานาชาตินวัตกรรมดิจิทัล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่กับหอการค้าและมหาวิทยาลัยพันธมิตรในกลุ่มความร่วมมือในระดับอนุภูมิภาคของกลุ่มประเทศ CLMVTและสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมุ่งหวังผลักดันให้เกิดการค้าขายสินค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน (Cross Border E-Commerce)

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.รุจิรา อุ่นเจริญ คณบดีวิทยาลัยนานาชาตินวัตกรรมดิจิทัล คณบดีวิทยาลัยนานาชาตินวัตกรรมดิจิทัล ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า โครงการนี้ได้รับงบประมาณจากกองทุนแม่โขง-ล้านช้าง มุ่งหวังการสร้าง Startup ใหม่จากทีม Digital Marketer ทำธุรกิจการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์และสร้างความร่วมมือในคนรุ่นใหม่ข้ามพรมแดน จีน ไทย พม่า ลาว กัมพูชา และเวียดนาม และกล่าวว่า "เรามีเป้าหมายที่ชัดเจน คือการสร้างฐานความรู้ด้านแพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดนซึ่งจะเป็นต้นแบบช่องทางการตลาด ที่จะทำให้ทุกคนสามารถแลกเปลี่ยนและเรียนรู้ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด"

ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัยใช้ Internet Banking ระวังเจอเว็บไซต์ธนาคารปลอม

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยเตือนภัยใช้ Internet Banking ระวังเจอเว็บไซต์ธนาคารปลอม ถูกมิจฉาชีพหลอกลวงกรอกข้อมูลทางการเงิน เงินหายออกจากบัญชี ดังนี้

ตามที่ในปัจจุบันประชาชนสามารถเข้าถึง ตรวจสอบข้อมูล หรือขอเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ หรือทำธุรกรรมการเงินโดยไม่ต้องเดินทางไปยังสถาบันการเงิน หรือธนาคารแต่อย่างใด สามารถใช้โทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นใด ที่เชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตเข้าถึงระบบได้ทุกที่ทุกเวลา แต่ก็เป็นช่องทางหนึ่งให้มิจฉาชีพฉวยโอกาสสร้างเว็บไซต์ปลอม ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับเว็บไซต์จริง เพื่อหลอกลวงประชาชนที่ไม่ทันสังเกต เข้ามากรอกทั้งข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลทางการเงิน เช่น รหัสผู้ใช้งาน รหัสผ่าน หมายเลขบัญชีธนาคาร เลขบัตรเดบิต/เครดิต รหัสหลังบัตร 3 หลัก รหัสใช้ครั้งเดียว (OTP) เป็นต้น เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ ไม่ว่าจะเป็นการนำข้อมูลที่ได้ไปถอนเงินของเหยื่อออกจากบัญชี  หรือไปแฮ็กบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ หรือใช้รหัสบัตรเดบิตหรือเครดิตชำระค่าสินค้า หรือไปแอบอ้างทำเรื่องที่ผิดกฎหมาย ประกอบกับที่ผ่านมาพนักงานสอบสวน บช.สอท. ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหายหลายรายว่า ตนได้ทำธุรกรรมทางการเงินผ่านเว็บไซต์ของธนาคารแห่งหนึ่ง จากนั้นเงินในบัญชีของผู้เสียหายก็ถูกโอนออกไปโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยจากการตรวจสอบพบว่า ผู้เสียหายได้เข้าไปค้นหาเว็บไซต์ของธนาคารผ่านทางเว็บไซต์ Google มิจฉาชีพได้ใช้เทคนิคทำให้ปรากฏเว็บไซต์ธนาคารปลอมขึ้นมาเป็นลำดับแรก คือ kasikornbank.tcbonilne.de ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นเว็บไซต์ของธนาคารจริง จึงได้เข้าไปกรอกรหัสผู้ใช้งาน และรหัสผ่านของธนาคาร เพื่อที่จะเข้าสู่ระบบการทำธุรกรรม จึงทำให้มิจฉาชีพนำข้อมูลที่ได้ไปกรอกในเว็บไซต์ของธนาคารจริง และรอรหัสใช้ครั้งเดียว (OTP) จากผู้เสียหายอีกครั้ง ซึ่งผู้เสียหายจะได้รับเข้ามาทางข้อความสั้น (SMS) แต่ไม่ทันสังเกตคิดว่าเป็นการยืนยันตัวตนเข้าสู่ระบบธนาคาร แต่กลับเป็นการยืนยันการโอนเงินของมิจฉาชีพไปยังบัญชีม้าที่เตรียมไว้ ทำให้ได้รับความเสียหาย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบในด้านงานป้องกันปราบปราม ได้กำชับสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงวางมาตรการป้องกันสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบ

สำนักงาน กสม. ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือร่วมกับสถาบันวิชาการ 5 สถาบัน เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือทางวิชาการด้านสิทธิมนุษยชน การส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ภาคใต้

(23 ก.พ. 66) ที่ผ่านมา ณ ห้อง Sky Blue Auditorium อุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ผศ.ดร. สุชาติ เศรษฐมาลินี กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และศ.นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เข้าร่วมพิธีและกล่าวแสดงความยินดีกับการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กับ มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และสถาบันวิจัยเอเชียเซ็นเตอร์ โดยสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีนายพิทักษ์พล บุณยมาลิก เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นผู้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ และนางสาวรตญา กอบศิริกาญจน์  รองเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นพยาน มหาวิทยาลัยทักษิณ ลงนาม โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณ ผู้ช่วยศาสตราจารย์กฤษฎา อภินวถาวรกุล ผู้รักษาการแทนรองคณบดีฝ่ายพัฒนาองค์กร คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ พยาน

มหาวิทยาลัยฟาฏอนี ลงนามโดย รองศาสตราจารย์อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ศาสตราจารย์ซาการียา หะมะ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและการวิจัย พยาน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ลงนามโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุทธิชัย งามชื่นสุวรรณ คณบดีคณะนิติศาสตร์ นายธรรมรักษ์ จิตตะเสโน รองคณบดีฝ่ายบริหารคณะนิติศาสตร์ พยาน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ลงนามโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์เชิดชัย อุดมพันธ์ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ นายอับดุลคอลิก อัรรอฮีมีย์  ผู้ช่วยคณบดีงานกิจการและบริการเพื่อสังคม พยาน สถาบันวิจัยเอเชียเซ็นเตอร์ ลงนามโดย

ดร.เจมส์ โกเมส ผู้อำนวยการระดับภูมิภาค พัชรี รัตนรงค์ ผู้จัดการโครงการ สถาบันวิจัยเอเชียเซ็นเตอร์ พยาน

การจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือร่วมกับสถาบันวิชาการ 5 สถาบัน เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือทางวิชาการด้านสิทธิมนุษยชน ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งได้กำหนดกรอบความร่วมมือ ประกอบด้วย การส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานด้านการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน การพัฒนาหลักสูตรหรือรายวิชาด้านสิทธิมนุษยชน และการจัดให้มีการเรียนรู้ด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบในสถาบันอุดมศึกษา เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ นำไปพัฒนาและประยุกต์ใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อชุมชนและสังคม 

'นันทิวัฒน์' จวก ใครไม่เอาเจ้า ให้ย้ายไปอยู่ที่อื่น ลั่น!! พรรคไหนล่วงละเมิดสถาบัน อย่าไปเลือกมัน

(24 ก.พ. 66) นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ 'Nantiwat Samart' ในหัวข้อ 'อย่าเลือกมัน' โดยมีเนื้อหาระบุว่า...

อย่าเลือกมัน

จำให้ขึ้นใจ ประเทศไทยคงความเป็นไท และเจริญรุ่งเรืองมาได้จนถึงทุกวันนี้ ไม่ใช่นักการเมือง หรือพรรคการเมืองใด ๆ นักการเมืองต่างเข้ามากอบโกย ทุจริต โกงกิน

แต่เป็นพระมหากษัตริย์ที่ปกป้องแผ่นดินไทย พัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า นับตั้งแต่อดีตมา นี่คือ เหตุผลที่คนไทยรักและภักดีต่อสถาบัน

หลังการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง พระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือการเมือง และไม่ทรงเกี่ยวข้องทางการเมือง และไม่ได้สนับสนุนพรรคการเมืองใด ๆ

‘ทิพานัน’ ชู ‘บัตรทองพรีเมียม’ ผลงาน ‘บิ๊กตู่’ เพิ่มบริการ-สิทธิการรักษา ดูแลทุกคนเท่าเทียม

(24 ก.พ.66) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยในทุกมิติ โดยเฉพาะการยกระดับระบบสาธารณสุขไทย ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขแพทย์สมัยใหม่ และแพทย์แผนไทย เพิ่มบริการและสิทธิต่าง ๆ พัฒนาระบบประกันสุขภาพประชาชนให้ครอบคลุมประชาชนและเท่าเทียม มีนโยบายให้การรักษาดูแลคนไทยโดยประชาชนไม่ต้องมีจ่ายค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น 

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ในระยะเวลาตั้งแต่ 2557-2566 พล.อ.ประยุทธ์ ได้พัฒนาหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเพื่อคนไทย ให้มีประสิทธิผลเพื่อบรรลุเป้าหมายของความเท่าเทียมกัน มีประสิทธิภาพและมาตรฐานสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ตามนโยบายจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยได้ดำเนินการพัฒนาหลักประกันสุขภาพแล้ว 6 มิติ ดังนี้
 
>>เพิ่มสิทธิประโยชน์  
-การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธีเจาะลึกระดับดีเอ็นเอ HPV DNA
-การตรวจยีน BRCA1 BRCA2 ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านม 
-บริการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีก่อนสัมผัส (PrEP) สำหรับกลุ่มเสี่ยง 
-การตรวจดาวน์ซินโดรมในหญิงตั้งครรภ์ การตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ (อายุ 50 ปีขึ้นไป)  
-การตรวจคัดกรองผู้ป่วยโรคพันธุกรรมเมตาบอลิกด้วยเครื่อง Tandem mass spectrometry ในเด็กแรกเกิด 
-การคัดกรองรอยโรคเสี่ยงและมะเร็งช่องปาก (CA Oral Screening) ในคนอายุ 40 ปีขึ้นไป 
-ผ้าอ้อมผู้ใหญ่และแผ่นรองซับสำหรับผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงและผู้ที่มีปัญหาการขับถ่าย   
-โรคหายาก (Rare Disease) เบื้องต้นครอบคลุม 24 โรคหายาก 
-สิทธิประโยชน์รากฟันเทียม ภายใต้ ‘โครงการฟันเทียม รากฟันเทียม เฉลิมพระเกียรติในหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา’ 
-กองทุนดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง  
-บริการจิตเวชเรื้อรังในชุมชน 
-บริการฝังเข็มหรือบริการฝังเข็มร่วมกับการกระตุ้นไฟฟ้า 
-ดูแลผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ให้ ‘ผู้มีสิทธิบัตรทองเลือกฟอกไตในแบบที่ใช่’ เพื่อเปิดทางเลือกให้ผู้ป่วยที่ไม่ประสงค์จะล้างไตทางหน้าท้อง (Peritoneal Dialysis: PD) แต่ต้องการบำบัดทดแทนไตด้วยวิธีการฟอกเลือด (hemodialysis: HD) โดยที่ประชาชนไม่ต้องจ่ายเงินเองอีกต่อไป 

>>สิทธิประโยชน์ดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์
-บริการยาป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อเอชไอวี (Pre-Exposure Prophylaxis : PrEP) 
-บริการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีหลังการสัมผัสเชื้อ (Post-Exposure Prophylaxis : PEP) 
-บริการคัดกรองและตรวจยืนยันไวรัสตับอักเสบซีในผู้ติดเชื้อฯ และนำเข้าสู่กระบวนการรักษา 
-บริการเอกซเรย์ปอดคัดกรองวัณโรคในผู้ติดเชื้อฯ รายใหม่ทุกราย, บริการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยงเพื่อให้เข้าสู่กระบวนการตรวจเลือดและดูแลรักษา (Reach Recruit Test Treatment Prevention Retain: RRTTPR) 
-สนับสนุนถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันและลดการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวี เพื่อสนับสนุนการดำเนินการภายใต้ยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์ พ.ศ. 2560-2573 

>>ดูแลกลุ่มเปราะบางเข้าถึงสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
-ผู้มีปัญหาทางสถานะทางทะเบียน เช่น ไม่ได้แจ้งเกิด เอกสารบุคคลสูญหาย คาดการณ์ประมาณ 5.2 แสนคนที่จำเป็นต้องดำเนินการช่วยเหลือ 
-กลุ่มชาติพันธุ์มานิ รักษ์ป่าบอน จ.สงขลา และ จ.พัทลุง ชนชาติพื้นเมืองดั้งเดิมของไทย มีจำนวนราว 500 คน ช่วยเหลือให้ได้รับสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 
-พระภิกษุสามเณรทั่วประเทศ 
-ยกระดับการเข้าถึงสิทธิบัตรทองให้กับ ‘ผู้ต้องขัง’ โดยความร่วมมือกรมราชทัณฑ์ กระทรวงสาธารณสุข และ สปสช. ทำให้มีการขึ้นทะเบียนสถานพยาบาลในเรือนจำให้เป็นหน่วยบริการปฐมภูมิในเครือข่ายของหน่วยบริการประจำหรือโรงพยาบาลในพื้นที่ครบทั้งหมด 135 แห่งแล้ว โดยปัจจุบันมีผู้ต้องขัง 252,000 คน ลงทะเบียนบัตรทองให้กับผู้ต้องขังที่มีสิทธิกว่าร้อยละ 97 

>>เพิ่มนวัตกรรมบริการ ‘ลดความแออัดที่โรงพยาบาล’
-บริการยาเคมีบำบัดสำหรับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่บ้าน (Home Chemotherapy for CA Colon) 
-บริการรับยาร้านยาใกล้บ้าน ดูแลผู้ป่วย 4 กลุ่มโรคเรื้อรัง ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิต หอบหืด และจิตเวช ก่อนขยายไปยังโรคเรื้อรังอื่นๆ 

ครม.เคาะ!! ห้ามนำเข้าเศษพลาสติก 100% เริ่ม 68 ช่วยประเทศไทย ไม่เป็นถังขยะโลกอีกต่อไป

รองโฆษกรัฐบาล เผย ครม.เห็นชอบนโยบายกำกับการนำเข้าเศษพลาสติก คุมเข้ม 2 ปี สิ้นปี 67 ห้ามนำเข้าจากต่างประเทศ หวังปลดล็อกไทยเป็นที่รองรับขยะจากประเทศอื่น ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและราคาเศษพลาสติกในประเทศ

เมื่อไม่นานมานี้ (21 ก.พ.66) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ว่า ที่ประชุมครม. มีมติเห็นชอบนโยบายกำกับการนำเข้าเศษพลาสติกตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและราคาเศษพลาสติกในประเทศ และเพื่อมิให้ประเทศไทยเป็นที่รองรับเศษขยะจากประเทศอื่น โดยให้กรมศุลกากร กรมการค้าต่างประเทศ และกระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายดังกล่าว

นโยบายกำกับการนำเข้าเศษพลาสติกมีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้

1.) เมื่อสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป ห้ามนำเข้าเศษพลาสติกจากต่างประเทศ โดยให้กระทรวงพาณิชย์ออกประกาศกำหนดให้เศษพลาสติกเป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร

2.) การนำเข้าเศษพลาสติกในพื้นที่เขตปลอดอากร (ในช่วงปี 2566-2567) โดยจะอนุญาตเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรม 14 แห่งที่กำหนด ได้แก่ โรงงานทั้งหมดที่ใช้เศษพลาสติกเป็นวัตถุดิบในการผลิตเพื่อส่งออกที่ตั้งอยู่ในเขตปลอดอากร นำเข้าไม่เกินความสามารถในการผลิตจริง รวม 372,994 ตันต่อปี สำหรับปีที่ 1 (2566) ให้นำเข้าปริมาณร้อยละ 100 ของความสามารถในการผลิตจริง, ปีที่ 2 (2567) ให้นำเข้าปริมาณไม่เกินร้อยละ 50 ของความสามารถในการผลิตจริงโดยการนำเข้าจะต้องมีมาตรการควบคุมดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อมิให้เกิดมลพิษในประเทศ เช่น เศษพลาสติกที่นำเข้าต้องแยกชนิดและไม่ปะปนกัน สามารถนาเข้าสู่กระบวนการผลิตโดยไม่ต้องทำความสะอาด ต้องใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเพื่อส่งออกเท่านั้น เป็นต้น

3.) การนำเข้าเศษพลาสติกในพื้นที่ทั่วไป (ในช่วงปี 2566-2567) ให้นำเข้าเฉพาะกรณีที่ไม่มีเศษพลาสติกในประเทศหรือมีปริมาณไม่เพียงพอ โดยมีหลักเกณฑ์ เช่น ผู้ประกอบกิจการโรงงานต้องแสดงหลักฐานว่ามีความจำเป็นในการนำเข้าและไม่สามารถหาได้ในประเทศ, นำเข้าได้ในปริมาณที่สอดคล้องกับกำลังการผลิต, นำเข้ามาเพื่อเป็นวัตถุดิบเท่านั้น (ไม่รวมถึงการคัดแยกหรือย่อยพลาสติก), สามารถนำเข้าสู่กระบวนการผลิตโดยไม่ต้องทำความสะอาด

เจ้ากรมแพทย์ทหารบก และคณะ ตรวจเยี่ยมหน่วยสายแพทย์ โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน จังหวัดสุรินทร์

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 พลโท วุฒิไชย อิศระ เจ้ากรมแพทย์ทหารบก พลตรี ชูสิทธิ์ ศรีอุทโยภาส รอง เจ้ากรมแพทย์ทหารบก และคณะ ตรวจเยี่ยมหน่วยสายแพทย์ โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน โดยมี พันเอก ชินวิช เจริญพิบูลย์ รอง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 ร่วมให้การต้อนรับ มี พันเอก สุรังค์ วิทยาวงศรุจิ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน กล่าวรายงาน พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน ให้การต้อนรับ พันเอก สุรังค์ วิทยาวงศรุจิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน กล่าวว่าที่ผ่านมา โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน ได้รับการสนับสนุน ดูแล ให้คำแนะนำในทุกด้านอย่างดียิ่ง จากมณฑลทหารบกที่ 25 แพทย์ใหญ่ กองทัพภาคที่ 2 ทั้งนี้ โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน มีความมุ่งมั่น ที่จะปฏิบัติตาม นโยบาย ของกองทัพบก และกรมแพทย์ทหารบก ซึ่งส่งผลให้ ผลการดำเนินการของหน่วย มีแนวโน้มดีขึ้นมากกว่าแต่ก่อน ถึงแม้จะพบปัญหาอุปสักบ้าง 

ด้าน พลโท วุฒิไชย อิศระ เจ้ากรมแพทย์ทหารบก กล่าวว่า การเดินทางมาตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน ในวันนี้ ถือว่าเป็นการมาทำความรู้จักพบปะกำลังพลของโรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน และได้เยี่ยมชมการปฏิบัติงานในการให้บริการผู้ป่วยและญาติ ทั้งมารับทราบปัญหาข้อขัดข้องในการปฏิบัติงานของกำลังพล ที่ผ่านมาโรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน นับว่าเป็นหน่วยงานสายแพทย์ที่สำคัญ ที่ กองทัพบก และกรมแพทย์ทหารบก ได้ให้ความเชื่อมั่นตลอดมา ในการตรวจเยี่ยมครั้งนี้ ขอชื่นชมกำลังพล โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน ทุกนายที่ช่วยกันพัฒนาโรงพยาบาล จนประสบผลสำเร็จ และได้รับรางวัลมากมาย ทำให้เกิดความเชื่อมั่นแก่ผู้มารับบริการ รวมถึงประชาชนในจังหวัดสุรินทร์ และขอให้ทุกคนจงร่วมแรงร่วมใจแสดงออก ถึงความรักความสามัคคี มีความตั้งใจในการที่จะพัฒนาโรงพยาบาลให้เจริญรุ่งเรือง มีผลการปฏิบัติงานเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาประชาชน สำเร็จสมความมุ่งหมายของทางราชการและตามที่หน่วยเหนือกำหนดต่อไป 

'ไทย-ลาว' หารือ พัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศ เสริมเสถียรภาพ กระชับความสัมพันธ์ครอบคลุมทุกมิติ

(23 ก.พ. 66) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบหมายให้ พลเอกสนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ให้การต้อนรับ พลตรีพันแสง บุนพัน รองหัวหน้ากรมใหญ่เสนาธิการกองทัพประชาชนลาว (เทียบเท่าผู้บัญชาการทหารบก) ณ ห้องพระบารมีปกเกล้า ในศาลาว่าการกลาโหม

โดยพลเอกสนิธชนก ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวต้อนรับ รองหัวหน้ากรมใหญ่เสนาธิการกองทัพประชาชนลาว ในโอกาสเดินทางเยือนไทย ในฐานะแขกของกองทับบก และยินดีที่จะได้ร่วมหารือ เพื่อพัฒนาความร่วมมือระหว่างสองประเทศให้มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น สำหรับความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองประเทศนั้น มีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในทุกมิติ อาทิ ความร่วมมือในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี, ความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่ชายแดน, การเสริมสร้างเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงกับอนุภูมิภาคและภูมิภาค รวมถึงการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างผู้นำรัฐบาล

ผบ.ตร.ร่วมพิธีทำลายอาวุธปืนของกลาง กว่า 20,000 กระบอก หลังคดีถึงที่สุด สั่งกำชับตำรวจเข้มมาตรการอาวุธปืนต่อเนื่องตามนโยบายรัฐบาล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นประชาชน

วันที่ 23 ก.พ.66 เวลา 16.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เดินทางมาเป็นประธานในพิธีทำลายอาวุธปืนของกลาง โดยมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 พล.ต.ท.กฤษฎา สุรเชษฐพงษ์. ผบช.สกบ. พล.ต.ต.พงษ์พันธ์ วงศ์มณีเทศ ผบก.ภ.ระยอง เข้าร่วมพิธีเป็นสักขีพยาน ณ บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง

การจัดพิธีในครั้งนี้ สืบเนื่องจากตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินมาตรการปราบปรามอาวุธปืนผิดกฎหมายทุกมิติ เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายดังกล่าว ได้สั่งการหน่วยระดมกวาดล้างจับกุม ขยายผล ทลายเครือข่ายอาวุธปืนผิดกฎหมาย รวมทั้งการลักลอบค้าปืนออนไลน์ พร้อมกำชับการจำหน่าย ทำลายอาวุธปืนของกลาง เพื่อป้องกันมิให้มีการนำเอาอาวุธปืนดังกล่าวกลับมาใช้ก่อเหตุในคดีอาญา หรือลักลอบจำหน่ายไปยังบุคคลไม่หวังดี ตกอยู่ในมือของคนร้าย รวมทั้งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชนด้วย 

ผบ.ตร.จึงมอบหมายให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบการทำลายอาวุธปืนของกลางซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้สั่งการให้ สำนักงานส่งกำลังบำรุง โดยกรมสรรพาวุธ สำรวจอาวุธปืนของกลางที่เก็บรักษาไว้ตามคำสั่งศาลเพื่อรอทำลาย  และให้สถานีตำรวจทั่วประเทศสำรวจอาวุธปืนของกลางตามระเบียบที่หน่วยงานระดับสถานีสามารถทำลายได้เองเพิ่มเติมอีกด้วย

โดยพิธีทำลายอาวุธปืนของกลางของสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น เป็นการนำเอาอาวุธปืนของกลางซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาให้ริบเป็นของกลางและคดีถึงที่สุดแล้ว โดยถูกเก็บรักษาไว้ที่กองสรรพาวุธ แล้วขออนุมัติเพื่อจัดพิธีทำลายอาวุธปืนของกลาง โดยจะใช้วิธีการทำลายผ่านเครื่องจักรบดอัดให้เสียสภาพ แล้วนำไปหลอมในเตาหลอมอุณหภูมิสูง เพื่อให้อาวุธปืนของกลางทั้งหมดสิ้นสภาพที่จะนำมาใช้งานได้ โดยในครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์จาก บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) สนับสนุนเครื่องจักรคุณภาพสูงในการหลอมโลหะด้วยอุณหภูมิสูง

สมาคมนักเรียนไทย-จีน ผุด ‘YOUNG BRI’ โครงการเคลื่อนความสัมพันธ์ไทย-จีนให้เติบโต

นายกสมาคมนักเรียนไทย-จีน เผย ส่งท้ายเดือนแห่งความรัก แนะนำโครงการทัศนศึกษาเชิงปฏิบัติการ 'YOUNG BRI' ซึ่งจัดโดยสมาคมนักเรียนไทย-จีน และได้รับการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 ก.พ. 66 

(23 ก.พ. 66) สำหรับงานดังกล่าว ได้มีพิธีเปิดซึ่งเริ่มขึ้นในวันที่ 23 ก.พ. 66 เวลา 8.30 น. ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ โดย นายสรวง สิทธิสมาน นายกสมาคมนักเรียนไทย-จีน เป็นผู้กล่าวต้อนรับนักเรียนนักศึกษาผู้เข้าร่วมโครงการ แนะนำที่มาและวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยกล่าวว่า 'YOUNG BRI' เป็นคำที่สื่อความหมายถึง 'คนรุ่นใหม่' และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม เทคโนโลยี ในระดับภูมิภาคที่คนไทยเรียกกันว่า 'หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง' (BRI : Belt and Road Initiative : 一带一路)

นายกสมาคมนักเรียนไทย-จีน ยังกล่าวอีกว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ถือว่าเป็น "วัยรุ่นหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ซึ่งในภายภาคหน้าก็จะเติบโตเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ไทย-จีน ซึ่งตรงกับอุดมการณ์ของสมาคมฯ ที่ว่า "เราคืออนาคตความสัมพันธ์ไทย-จีน"

หลังจากนั้นคุณ Fan Xuewei อุปทูตประจําสถานเอกอัครราชทูตจีนประจําประเทศไทย ได้กล่าวเปิดงาน โดยได้แนะนำประวัติความเป็นมา และประโยชน์ของ BRI ซึ่งได้เริ่มดำเนินการมาครบรอบ 10 ปีแล้ว ค้าขายและพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ๆ โดยเฉพาะในกลุ่ม BCG Model รวมถึงผลประโยชน์ในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ที่เอื้ออำนวยต่อห่วงโซ่การผลิต

คุณ FAN XUEWEI ยังกล่าวอีกว่า "นักเรียน นักศึกษาที่รัก เยาวชนเป็นอนาคตและความหวังของการแลกเปลี่ยนระหว่างทั้งสองประเทศ ผมหวังว่าผ่านกิจกรรมในวันนี้และพรุ่งนี้ พวกคุณจะสามารถเพิ่มพูนความเข้าใจในวัฒนธรรมจีน มีความเข้าใจเกี่ยวกับ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เกิดความสนใจและติดตามข้อมูลการพัฒนาในจีน แนะนำความสำเร็จของความร่วมมือจีน-ไทยให้กับคุณครูและนักเรียนที่อยู่รอบตัวคุณ และร่วมเป็นพลังสำคัญที่ส่งต่อ “จีน-ไทยครอบครัวเดียวกัน” จากรุ่นสู่รุ่น

กิจกรรมในวันแรก ได้รับการอำนวยการด้านสถานที่จากผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน คุณ Que Xiaohua ซึ่งได้กล่าวแนะนำศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ซึ่งเป็นหมุดหมายของความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจีน-ไทย ซึ่งเป็นศูนย์วัฒนธรรมแห่งแรกที่ก่อตั้งขึ้นในภูมิภาค ASEAN ซึ่งในวันนี้ได้จัดเตรียมสถานที่และกิจกรรม workshop มากมายไว้รองรับผู้เข้าร่วมกิจกรรม ให้ได้สัมผัสกับประสบการณ์ชงชาจีน วาดภาพจีน พู่กันจีน กู่เจิง และการห่อเกี๊ยวแบบจีน

ในช่วงของกิจกรรมนั้น มีการแบ่งกลุ่ม Workshop 5 กลุ่ม เวียนตาม 5 ฐานกิจกรรม ทั้งการชงชาสไตล์มังกร อ้อนไปด้วยเสียงกู่เจิง ระเริงร่ายพู่กันจีน ห่อเกี๊ยวแล้วกิน ฟินไปด้วยภาพวาดลายจีน จบท้ายด้วยการพาทัวร์หอสมุดสุดอลังที่เคยปรากฏบนจอสีมาหลายเรื่องเลยทีเดียว 

ในช่วงบ่ายของวันที่ 23 ก.พ. 66 เปลี่ยนบรรยากาศมาศึกษาดูงานด้านเทคโนโลยี กับบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้มารู้จักกับเทคโนโลยี 5G แห่งโลกอนาคต สัมผัสความก้าวหน้าของเทคโนโลยีจีน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top