Monday, 9 June 2025
NEWS FEED

โรงเรียนนายเรือจัดพิธีเปิดการฝึกภาคปฏิบัติในทะเลต่างประเทศของนักเรียนนายเรือประจำปีการศึกษา 2565

เมื่อวันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 08.30 น. พลเรือตรี ปรีดิวัฒน์ ดิลกนรนารถ รองผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือในฐานะผู้บังคับหมู่เรือฝึกนักเรียนนายเรือ เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกภาคปฏิบัติในทะเลต่างประเทศของนักเรียนนายเรือประจำปีการศึกษา 2565 และกล่าวให้โอวาทแก่กำลังพลหมู่เรือฝึกนักเรียนนายเรือ ณ ลานสวนสนามโรงเรียนนายเรือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ

สำหรับหมู่เรือฝึกนักเรียนนายเรือ ประกอบด้วย เรือหลวงนเรศวร เรือหลวงบางปะกง และเรือหลวงปัตตานี ทำการฝึกภาคปฏิบัติในทะเลต่างประเทศให้แก่นักเรียนนายเรือชั้นปีที่ 1 - 4 ประจำปีการศึกษา 2565 โดยทำการฝึกภาคทะเลระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566  - 19 มีนาคม 2565 รวม 26 วัน ระยะทาง 3,175 ไมล์ทะเล โดยเยือนเมืองท่าที่สำคัญได้แก่ พอร์ตกลัง ประเทศสหพันธรัฐมาเลเซีย และชางงี ประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์

ม.แม่โจ้ Kick Off เตรียมจัด 'ศึกกำปั้นสะท้านโลก' เฉลิมฉลอง 90 ปี มหาวิทยาลัยแม่โจ้

วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จัดกิจกรรม Kick Off 'ศึกกำปั้นสะท้านโลก' ร่วมเฉลิมฉลอง 90 ปี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เพื่อประชาสัมพันธ์ความคืบหน้า เตรียมพร้อมการจัดการแข่งขันชกมวย 'ศึกกำปั้นสะท้านโลก' ร่วมเฉลิมฉลอง 90 ปี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งจะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 21 เมษายน 2566 ณ เวทีมวยชั่วคราว มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยมี ดร.อำนวย ยศสุข นายกสภามหาวิทยาลัยแม่โจ้ พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ดร.สมชาย  เขียวแดง นายกสมาคมศิษย์เก่าแม่โจ้ ดร.เอกรัฐ ไชยโชติช่วง โปรโมเตอร์ ดร.ประภาส ปาระมีสัก โปรโมเตอร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์พาวิน มะโนชัย รองอธิการบดี เลขานุการกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย ผู้แทน ดร.องอาจ กิตติคุณชัย  บริษัท ซันสวีท จำกัด(มหาชน) กรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย ผู้สนับสนุนหลักการจัดงาน ร่วมแถลงความคืบหน้าการจัดกิจกรรม ณ อาคารแผ่พืชน์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้

ดร.อำนวย ยศสุข นายกสภามหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า 'มวย' เป็นกีฬาที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ทั้งมวยไทย และมวยสากล เป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีมาแต่โบราณ ช่วงแรกที่มวยสากลเข้าสู่ประเทศไทย เมื่อปี 2455 เราเรียกว่า 'มวยฝรั่ง' จากนั้นกีฬามวยสากลก็เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น มีนักมวยสากลชาวไทยชกชนะสร้างชื่อเสียงอยู่เนือง ๆ แล้วเมื่อพูดถึง 'มวยไทย' เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของประเทศเลยก็ว่าได้ทุกวันนี้มวยไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และการส่งเสริมให้มวยเป็นกีฬาที่สร้างมูลค่าเชิงเศรษฐกิจคู่กับสังคมไทย ดังนั้น 'ศึกกำปั้นสะท้านโลก ฉลองแม่โจ้ 90 ปี ซึ่งมีการจัดการแข่งขันหลากหลายรูปแบบ ทั้งมวยป้องกันแชมป์ IBF การแข่งขันชิงแชมป์โลกมวยไทย และมวยอื่น ๆ อีกหลายรายการ จึงเป็นการส่งเสริมศิลปะการต่อสู้ ทั้งในรูปแบบมวยไทย และมวยสากล ร่วมส่งเสริมวงการกีฬามวยของไทยให้ก้าวไกลในระดับสากล”

“การจัดการแข่งขันชกมวย 'ศึกกำปั้นสะท้านโลก' ร่วมฉลอง 90 ปี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ในครั้งนี้  เป็นกิจกรรมหนึ่งในการประชาสัมพันธ์ งานเกษตรแม่โจ้ 90 ปี  : เกษตร อาหาร สุขภาพ เป็นการส่งเสริมศักยภาพ 5 F คือ 1) Food (อาหาร)  2) Film (ภาพยนตร์และวีดีทัศน์)  3 ) Fashion (การออกแบบแฟชั่นไทย) 4) Fighting (ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย) และ 5) Festival (เทศกาลประเพณีไทย)  อีกทั้งเป็นการเผยแพร่องค์ความรู้ นวัตกรรม ของมหวิทยาลัยที่ได้สั่งสมมายาวนาน ให้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเราจะจัดงานใหญ่ปลายปี ระหว่างวันที่ 16 – 24 ธันวาคม 2566 ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ขอเชิญชวนเครือข่ายทุกภาคส่วนมาร่วมสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้อย่างยิ่งใหญ่ โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย นำเข้ามูลนิธิพัฒนามหาวิทยาลัยแม่โจ้ เพื่อใช้ในการพัฒนาวงการศึกษา และสร้างคุณประโยชน์คืนสู่สังคมต่อไป”
 
สำหรับการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ มีรายการหลัก 6 คู่ มีการประกบคู่เอก รายการป้องกันแชมป์ IBF แพนแปซิฟิกรุ่นไลต์เวท ระหว่าง เผด็จศึก จีพีพีเรือใบไข่มุก (แชมป์ IBF แพนแปซิฟิก) พบกับ อัล ทูยูกอน (ผู้ท้าชิงชาวฟิลิปปินส์) นอกจากนั้นยังจัดการแข่งขันชิงแชมป์โลกมวยไทย IBF รุ่นเฟเธอร์เวท, การแข่งขันมวยหญิง กำปั้นล่าฝันรุ่นแบนตั้มเวท กำหนด 4 ยก , การแข่งขันกำปั้นล่าฝัน มุ่งสู่บัลลังก์โลก รุ่นฟลายเวท กำหนด 6 ยก, กำปั้นล่าฝันรุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวท กำหนด 6 ยก และ กำปั้นล่าฝันรุ่นมิดเดิ้ลเวท กำหนด 6 ยก รวมถึงการชกมวยไทยดาวรุ่ง และมวยคาดเชือก อีกหลายคู่ ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสด ทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง JKN18 และรับชมผ่าน เฟสบุ๊คเพจ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ตั้งแต่เวลา 21.00 – 23.00 น.

คู่ที่ 1 กำปั้นล่าฝัน มุ่งสู่บัลลังก์โลก รุ่นฟลายเวท กำหนด 6 ยก
ฟ้าคำราม จีพีพีเรือใบไข่มุก Vร ฉัตรชัย ก.ลำพูน 
 
คู่ที่ 2 ป้องกันแชมปิ IBF แพนแปซิฟิก รุ่นไลต์เวท กำหนด 12 ยก
เผด็จศึก จีพีพีเรือใบไข่มุก Vร อัล ทูยูกอน (ชาวฟิลิปปินส์) 
 
คู่ที่ 3 ชิงแชมป์โลกมวยไทย IBF รุ่นเฟเธอร์เวท กำหนด 5 ยก
ทองธวัช เพชรเหรียญทอง VS โจเดวิด ศิษย์ไทยแลนด์ (ชาวสหรัฐฯ) 

ผบ.ตร. เปิดอบรมหลักสูตร บรอ. รุ่นที่ 10 มุ่งแลกเปลี่ยนต่อยอดแนวคิดทำงานร่วมกันผูกมิตรสร้างสัมพันธภาพ อย่างเป็นเครือข่ายที่ดีในอนาคต

วันนี้ (24 ก.พ.66) ณ วิทยาลัยการตำรวจ กองบัญชาการศึกษา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์  ผบ.ตร. เป็นประธาน พิธีเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรการบริหารการรักษาความสงบเรียบร้อย ของสังคมภาครัฐร่วมเอกชน (บรอ.) รุ่นที่ 10 โดยมี พล.ต.ท.ณฐพล แสวงกิจ ผบช.ศ. พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผบช.ประจำ ตร. พล.ต.ต.ภูธร ปริศนานันทกุล ผบก.วตร. เข้าร่วม พร้อมผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตร 
     
หลักสูตร บรอ. เกิดขึ้นเนื่องจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตระหนักถึงความสำคัญ และประโยชน์ของ การมีส่วนร่วมจากภาคประชาสังคม เพื่อให้การขับเคลื่อนภารกิจด้านการอำนวยความยุติธรรม และการรักษาความสงบเรียบร้อย ของสังคมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีความทันสมัย ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมในทุกมิติ จึงได้กำหนดหลักสูตรการบริหาร การรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคมภาครัฐร่วมเอกชน หรือ บรอ. ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ภาคเอกชน ประชาชน ส่วนราชการอื่น ๆ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาองค์ความรู้  และสร้างความร่วมมือในการดำเนินการด้านต่าง ๆ ระหว่างกัน โดยมอบหมายให้ กองบัญชาการศึกษา เป็นผู้ดำเนินการฝึกอบรม

ภายหลังจากพิธีเปิด ผบ.ตร. ได้บรรยายพิเศษในหัวข้อ 'นโยบายบริหารราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ.2566' ประกอบด้วย 10 นโยบายการบริหารราชการ ของ ผบ.ตร. และ ภารกิจเร่งด่วนปราบปรามด้านยาเสพติด  ป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี  เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมเข้าใจ รู้ทิศทางแนวทางการทำงานของตำรวจตามนโยบายรัฐบาล ที่มีความจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการดูแลพี่น้องประชาชนทุกมิติ 

ผบ.ตร.นำข้าราชการตำรวจและประชาชนจิตอาสาทั่วประเทศกว่า 9,000 ราย ร่วมกิจกรรมจิตอาสาบริจาคโลหิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมจิตอาสาบริจาคโลหิตของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา โดยมี พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พล.ต.ท. นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ และ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจ ประชาชนจิตอาสาเข้าร่วมกิจกรรม ณ อาคารภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ กิจกรรมจิตอาสาบริจาคโลหิตของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลครั้งนี้ มีโรงพยาบาลตำรวจเป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินการ จัดกิจกรรมจิตอาสาพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันนี้ (24 ก.พ.66)เวลา 09.00 น. พื้นที่กรุงเทพมหานครจัดกิจกรรมที่โรงพยาบาลตำรวจ ส่วนต่างจังหวัดให้แต่ละหน่วยประสานสาธารณสุขจังหวัดจัดกิจกรรม โดยเชิญข้าราชการตำรวจและประชาชนจิตอาสาร่วมกันบริจาคโลหิตเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล มีผู้เข้าร่วมบริจาคโลหิตทั่วประเทศ จำนวน 9,407 ราย เป็นข้าราชการตำรวจจิตอาสา 7,621 ราย ประชาชนจิตอาสา 1,786 ราย 

ผบ.ตร. ชื่นชม ชุดปฏิบัติการพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำทีม SWAT ตำรวจไทย แข่งขันติดอันดับ TOP 5 ในการแข่งขันระดับหน่วยปฏิบัติการพิเศษโลก

วันที่ 24 ก.พ.66 พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวชื่นชมทีม SWAT Royal Thai Police เดินทางเข้าร่วมการแข่งขันทางยุทธวิธี UAE SWAT Challenge 2023 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 20 – 24 กุมภาพันธ์ 2566 โดยการแข่งขันแบ่งออกเป็น 5 Events หรือ 5 สถานการณ์ ได้แก่ 1.การช่วยเหลือตัวประกัน 2.การโจมตี 3.การกู้ภัย 4.หอคอย และ 5.สิ่งกีดขวาง โดยทีมที่ใช้เวลาน้อยที่สุดและไม่ละเมิดกฎการแข่งขันจะเป็นผู้ชนะ ห้วงการแข่งขัน 4 วันที่ผ่านมาทำผลงานได้ยอดเยี่ยม ในวันนี้สามารถคะแนนรวมเป็นลำดับที่ 5 จากผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 55 ทีม กว่า 25 ประเทศทั่วโลก (มีคะแนนนำทีมNYPD Orando police ฮ่องกง เวียดนาม ฯลฯ) 

ทั้งนี้ ในปี 2565 ที่ผ่านมา ทีม SWAT Royal Thai Police ได้คะแนนในลำดับที่ 9 จาก 34 ทีมทั่วโลก 

ส่วนในปี 2566 นี้ ท่าน ผบ.ตร. สั่งการให้เตรียมความพร้อม คัดเลือกนักกีฬา และจัดเตรียมการเก็บตัว นำอาวุธ ยุทโธปกรณ์ต่างๆ และประสานการปฏิบัติกับทางดูไบเป็นอย่างดี โดยมอบหมาย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. และพล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. อำนวยการตลอดระยะเวลาการแข่งขัน

ป.ป.ช.ฉะเชิงเทรา จัดกิจกรรมประชุมเชิงปฏิบัติการชมรม STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริต เพื่อจัดตั้งชมรม STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริต ระดับอำเภอ (ครั้งที่ 3)

วันศุกร์ ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 08.30 น. นายสมชาย ยิ้มแฉล้ม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา มอบหมายกลุ่มงานป้องกันการทุจริต จัดกิจกรรมประชุมเชิงปฏิบัติการชมรม STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริต เพื่อจัดตั้งชมรม STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริต ระดับอำเภอ (ครั้งที่ 3) อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา อำเภอบางน้ำเปรี้ยว ณ โรงแรมบ้านนายถึก ตำบลคลองนา อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา 

ทัพเรือภาคที่ 3 โดยหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งฝึกยิงอาวุธทางยุทธวิธีฝั่งทะเลอันดามันประจำปี 2566

วันนี้ 24 กุมภาพันธ์ 2566 เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมานาวาเอก ศุภสิทธิ์ บูรณะโอสถ รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง รักษาราชการผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กองทัพเรือพร้อมคณะผู้บังคับบัญชาเดินทางมาตรวจเยี่ยมการฝึกยิงอาวุธทางยุทธวิธีฝั่งทะเลอันดามันประจำปี 2566 ณ สนามฝึกยิงอาวุธ ทร. ทางด้านฝั่งทะเลอันดามัน สนามที่ 3 (สนาม c) อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา โดยมี นาวาเอก เฉลิมพร คล้ายทอง ผู้บังคับการกรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งเป็นผู้อำนวยการฝึกยิงอาวุธ 

เพื่อทดสอบความพร้อมรบและขีดความสามารถขององค์บุคคล องค์วัตถุและองค์ยุทธวิธี ในการใช้อาวุธประจำหน่วย ของกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22 กรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง โดยมีนาวาโท ศักรินทร์ ชื่อสงวน ผู้บังคับกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22 เป็นผู้บังคับหน่วยฝึกกองพันต่อสู้อากาศยานและการใช้อาวุธประจำหน่วยของกองพันรักษาฝั่งที่ 11 กรมรักษาฝังที่ 1 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งโดยมี นาวาโท กัณฑภณ ศุกระรงคะ ผู้บังคับกองพันรักษาฝั่งที่ 11เป็นผู้บังคับหน่วยฝึกยิงอาวุธกองพันรักษาฝั่ง ทำการฝึกยิงอาวุธทางยุทธวิธี ทางด้านฝั่งทะเลอันดามันเพื่อทดสอบขีด ความสามารถ ในการสนับสนุนการป้องกันภัยทางอากาศและการป้องกันฝั่งในพื้นที่รับผิดชอบของทัพเรือภาคที่ 3 บริเวณฝั่งทะเลอันดามันซึ่งประกอบด้วยปืนต่อสู้อากาศยานขนาด 37 มิลลิเมตร แท่นคู่และปืนใหญ่กลางกระสุนวิถีโค้งขนาด 155 มิลลิเมตร

โซเชียลอาลัย ‘ส.ต.อ เศรษฐการ ลอยขามป้อม’ ถูกเก๋งพุ่งชนเสียชีวิต ขณะปฏิบัติหน้าที่

(24 ก.พ. 66) โซเชียลแห่แชร์คลิปภาพระทึก รถเก๋งคันหนึ่งซิ่งชนรถจักรยานยนต์ตำรวจทางหลวงเสียชีวิต บนทางต่างระดับลำลูกกา มุ่งหน้าบางปะอิน โดยหลังเกิดเหตุคนขับได้จอดรถทิ้งไว้แล้วหนีไป ซึ่งจากลักษณะเบี่ยงรถหักหัวเข้าหารถตำรวจทางหลวงนายนี้แล้วพุ่งชน ลักษณะเหมือนจงใจขับชนหรือไม่

นี่เป็นคลิปภาพที่ได้มาจากกล้องติดหมวกของ สิบตำรวจเอก เศรษฐการ ลอยขามป้อม ผู้บังคับหมู่สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง บันทึกเอาไว้ได้ตั้งแต่ช่วงแรกที่ สิบตำรวจเอก เศรษฐการ ขอตรวจค้น แต่คนขับไม่ยอมหยุดรถให้ตรวจ กลับเร่งเครื่องขับหลบหนีอย่างรวดเร็ว เรื่อยมาจนถึงบริเวณสะพานต่างระดับ บนถนนกาญจนาภิเษก ด้านตะวันออก (บางปะอิน-บางพลี) หรือมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 30 ตำบลบึงคำพร้อย อำเภอลำลูกกา โดย รถเก๋ง สีดำ ได้ขับเบียดแล้วหักหัวรถพุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ สิบตำรวจเอก เศรษฐการ ขี่มาจนล้มคว่ำ เป็นเหตุให้เสียชีวิตทันที เหตุการณ์เกิดช่วงเย็นเมื่อวานนี้

หลังเกิดเหตุตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าตรวจสอบในจุดเกิดเหตุ พบร่าง สิบตำรวจเอก เศรษฐการ สวมเครื่องแบบตำรวจ นอนหงายหน้าอยู่บนพื้นถนนน สภาพที่ศีรษะมีบาดแผลฉีกขาด และห่างไปประมาณ 100 เมตร พบรถจักรยานยนต์ สีขาว ซึ่งเป็นรถที่ตำรวจนายนี้ขี่มาก่อนจะถูกชน ด้านหน้าพังเสียหาย และอีกจุดไม่ไกลกันพบรถเก๋ง สีดำ คันก่อเหตุถูกจอดทิ้งไว้ แต่ไม่พบตัวคนขับ โดยมีพยานเห็นว่า คนขับเป็นผู้ชาย สวมเสื้อสีดำ ลงรถแล้ววิ่งหนีไปทางถนนลำลูกกา จากนั้นตำรวจเข้าตรวจภายในรถเจอขวดเบียร์ สภาพถูกเปิดฝาดื่มแล้ว แต่ยังดื่มไม่หมดขวด

เบื้องต้นได้สอบถามข้อมูลจากพนักงานของกรมทางหลวง ซึ่งเป็นคนที่โทรศัพท์แจ้งเหตุกับตำรวจ เล่าว่า ขณะพวกตนปฏิบัติงานอยู่บนถนนฝั่งตรงข้าม ก็ได้ยินเสียงคล้ายรถชนกัน เมื่อหันมามองเห็นฝุ่นตลบและมีรถเก๋งสีดำ จอดอยู่ 1 คัน จึงขับรถวนมาตรวจสอบถึงได้เห็นตำรวจนายนี้นอนเสียชีวิตแล้ว 

ระหว่างตำรวจกำลังสืบสวนควานหาตัวคนขับรถเก๋ง สีดำ ปรากฏว่าเวลาประมาณ 20.30 น. เมื่อคืนนี้ (23 ก.พ.) นายกิตติรัช คนขับรถเก๋ง สีดำ ที่ขับชนรถจักรยานต์ของ สิบตำรวจเอก เศรษฐการ เสียชีวิต โผล่เข้ามอบตัวกับตำรวจที่สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง โดยตลอดช่วงที่ถูกสอบปากคำนานเกือบ 4 ชั่วโมง สังเกตว่าผู้ก่อเหตุมีสีหน้าเคร่งเครียด เบื้องต้นเจ้าตัวให้การว่า ก่อนเกิดเหตุจอดรถไว้ริมมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 เพื่อตกปลาในหนองน้ำ ระหว่างนั้นมีตำรวจทางหลวงมาไล่ เพราะเป็นจุดที่ไม่ให้จอด แต่เมื่อตำรวจพยายามขอตรวจค้น จึงพยายามขับรถหนี เพราะมีขวดเบียร์ และบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ในรถ จึงกลัวว่าจะถูกจับดำเนินคดี ส่วนสาเหตุที่ตนเองหักรถชนรถตำรวจนั้น นายกิตติรัช ผู้ก่อเหตุอ้างว่าตกใจ และพยายามขับรถหนี ซึ่งตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ ส่วนผลการตรวจแอลกอฮอล์และสารเสพติดในร่างกายของผู้ก่อเหตุเบื้องต้นยังไม่พบ

ขณะที่ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบเก็บหลักฐานรถเก๋งของผู้ก่อเหตุ และรถจักรยานยนต์ของตำรวจที่เสียชีวิต เบื้องต้นตรวจสอบพบว่าในรถเก๋งมีนามบัตรของผู้ก่อเหตุ ระบุว่ามีอาชีพเป็นครูสอนขับรถ ส่วนขวดเบียร์และบุหรี่ไฟฟ้าที่พบในรถเจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานไปก่อนหน้านี้แล้ว จากนั้นได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา ดำเนินคดีต่อเลยทันทีเมื่อคืนนี้

ระหว่างที่ตำรวจควบคุมตัว ผู้ก่อเหตุออกจากอาคารมาเจอกลุ่มคนขี่รถบิกไบก์จำนวนนับ 10 คน ซึ่งคนเหล่านี้ทราบว่าเป็นเพื่อนร่วมก๊วนขี่รถบิกไบก์และเคยเข้าร่วมอบรมการขับขี่ปลอดภัยกับตำรวจที่เสียชีวิตนายนี้ด้วย โดยมายืนรอดูหน้าผู้ก่อเหตุ ทันทีที่เห็นหน้าวิ่งกรูเข้าไปรุมประชาทัณฑ์ มีรายงานข่าวตำรวจนายนี้กำลังจะแต่งงานกับแฟนสาวอีกด้วย    

'ตรีนุช' เดินหน้าแก้หนี้ครู 5 ภูมิภาค Kick-off มหกรรมการเงินเพื่อครูไทย นำร่อง กาฬสินธุ์ ที่แรก

เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 ณ ห้องประชุมนิลปัทม์ โรงเรียนกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ กระทรวงศึกษาธิการ จัดงาน มหกรรมการเงินเพื่อครูไทย 'Unlock a better life' สร้างโอกาสใหม่ เพื่อชีวิตครูไทยที่ดีกว่า เพื่อเปิดโอกาสให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกกลุ่มได้เข้าถึงมาตรการความช่วยเหลือการแก้ไขปัญหาหนี้สินภายใต้เงื่อนไขพิเศษของสถาบันการเงินและสหกรณ์ออมทรัพย์ครู โดยมี นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายสุทิน แก้วพนา รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ผู้บริหารสถานศึกษา และบุคลากรการศึกษา เข้าร่วมคับคั่ง 

โดยภายในงานมีการเปิดบูธให้คำปรึกษา ปรับโครงสร้างหนี้ ไกล่เกลี่ยหนี้ ส่งเสริมการออมและการลงทุน และให้ความรู้ด้านการบริหารและจัดการการเงิน จากหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ กระทรวงการคลัง, กระทรวงยุติธรรม, กรมส่งเสริมสหกรณ์, ธนาคารแห่งประเทศไทย, สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ, บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ, สมาคมธนาคารไทย, สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ, ธนาคารออมสิน, ธนาคารอาคารสงเคราะห์, ธนาคารกรุงไทย, กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา, สกสค., สคบศ. และสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์และพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง

นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการต้องการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูอย่างจริงจังเต็มที่ เพราะการเป็นหนี้ ทำให้ครูและครอบครัวมีความเดือดร้อนต่อการดำเนินชีวิต ส่งผลกระทบต่อคุณภาพในการเรียนการสอนที่อาจทำได้ไม่เต็มที่ ซึ่งการจัดงานมหกรรมการเงินเพื่อครูไทยฯ ระดับภูมิภาคนี้ เป็นการต่อยอดความสำเร็จจากการจัดงานมหกรรมการเงินเพื่อครูไทยฯ สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมื่อวันที่ 17-18 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ที่สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้เกือบ 300 ล้านบาท โดยการจัดงานในระดับภูมิภาคจะช่วยเปิดโอกาสให้ครูทุกพื้นที่ได้เข้าถึงมาตรการความช่วยเหลือการแก้ไขปัญหาหนี้สินภายใต้เงื่อนไขพิเศษของสถาบันการเงินและสหกรณ์ออมทรัพย์ครูมากยิ่งขึ้น

ครบรอบ 1 ปี 'แตงโม นิดา' กลับสู่อ้อมกอดพระเจ้า แฟนคลับนัดรวมตัว เตรียมจัดงานรำลึก 26 ก.พ.นี้

(24 ก.พ. 66) ครบรอบ 1 ปี การเสียชีวิตของนักแสดงสาว 'แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์' เหตุตกจากเรือสปีดโบตลงกลางแม่น้ำเจ้าพระยา คดีอาญากำลังนัดสืบพยานกลางปีนี้ ส่วนคดีแพ่งแม่แตงโมเรียกค่าเสียหายอีก 40.8 ล้านบาท ด้านแฟนคลับนัดรวมตัว รำลึกวันพบศพ 26 ก.พ.นี้

ย้อนรอยการเสียชีวิตของแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาววัย 37 ปี เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 22.40 น. วันที่ 24 ก.พ. 2565 เมื่อแตงโม นิดา พร้อมกับ น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ 'กระติก' ผู้จัดการส่วนตัว ได้เดินทางล่องเรือสปีดโบต ซึ่งมี 'ปอ' นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ เป็นเจ้าของ พร้อมพวกรวม 6 คน ไปรับประทานอาหารที่ร้านบ้านตานิด อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี

ก่อนจะล่องเรือลงมาถ่ายรูปที่สะพานพระราม 8 กระทั่งผ่านสะพานพระราม 7 พื้นที่ จ.นนทบุรี แตงโมได้ตกลงจากเรือสปีดโบตลงแม่น้ำเจ้าพระยา หลายฝ่ายต่างออกปฏิบัติการค้นหา กระทั่งพบศพแตงโมกลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม 1 อ.เมือง จ.นนทบุรี เมื่อช่วงสายของวันที่ 26 ก.พ. 2565

คดีนี้กลายเป็นมหากาพย์สั่นสะเทือนกระบวนการยุติธรรม เพราะมีข้อสงสัยจากสังคมเกิดขึ้นมากมาย ทั้งคำให้การของคนที่อยู่ในเรือที่อ้างว่า แตงโมไปปัสสาวะท้ายเรือ ทั้งที่วันเกิดเหตุแตงโมสวมชุดบอดี้สูทที่ไม่มีกระดุมหรือตะขอ แกะเป้าชุดบอดี้สูทไม่ได้ หรือการตั้งข้อสงสัยว่าจะเป็นการฆาตกรรมอำพราง เพราะพบข้อพิรุธหลายจุดบนศพ เช่น มีบาดแผลที่ไม่ควรเกิดจากการจมน้ำปกติ

ที่ปวดเศียรเวียนเกล้าก็คือ นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน มารดาของแตงโม ที่ออกมาตำหนิแอนนา วรินทร วัตรสังข์ เพื่อนสนิทของแตงโม ที่ออกมาคอลเอาต์ทวงถามความยุติธรรม รวมทั้งให้อภัย นายปอ ตนุภัทร และ นายโรเบิร์ต ไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ ซึ่งอ้างว่าจะให้ค่าเยียวยา 30 ล้านบาทแก่คุณแม่ ทำให้ชาวเน็ตต่างแสดงความคิดเห็นติดแฮชแท็ก #มีแม่เมื่อพร้อม

ผ่านไป 1 ปี กรณีการเสียชีวิตของแตงโม นิดา แยกออกเป็น 2 ส่วน คือ คดีอาญา และคดีแพ่ง

คดีอาญา อัยการจังหวัดนนทบุรีสั่งฟ้องผู้ต้องหารวม 6 คน เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2565 ได้แก่ นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ มี 5 ข้อหา ได้แก่ กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่พนักงานสอบสวน, เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่มีประกาศนียบัตรรับรอง, ทิ้งสิ่งของปฏิกูลใด ๆ ลงแม่น้ำ และเสพวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (อัลปราโซแลม) โดยผิดกฎหมาย

นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือ โรเบิร์ต มี 4 ข้อหา ได้แก่ กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ใช้เรือที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ, เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่มีประกาศนียบัตรรับรอง และทิ้งสิ่งของปฏิกูลใด ๆ ลงแม่น้ำ

นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ แซน มี 1 ข้อหา ได้แก่ กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

นายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หรือ จ็อบ มี 3 ข้อหา ได้แก่ กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ช่วยให้ผู้อื่นได้รับโทษ หรือได้รับโทษน้อยลง ทำลายซ่อนเร้นหลักฐาน และทิ้งสิ่งของปฏิกูลใด ๆ ลงแม่น้ำ

น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก อดีตผู้จัดการส่วนตัวแตงโม นิดา มี 3 ข้อหา ได้แก่ กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่พนักงานสอบสวน และทำลายซ่อนเร้นหลักฐาน

และนายภีม ธรรมธีรศรี หรือ เอ็ม แม้ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ถูกดำเนินคดี 2 ข้อหา ได้แก่ ใช้ผู้อื่นแจ้งความอันเป็นเท็จแก่พนักงานสอบสวน และทำลายซ่อนเร้นหลักฐาน

โดยศาลจังหวัดนนทบุรีอนุญาตให้ประกันตัวทั้ง 6 คน อยู่ในระหว่างนัดสอบถามคู่ความวันที่ 2 มี.ค. 2566 และนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยทั้งหกตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. 2566 ถึงวันที่ 16 ส.ค. 2567 ก่อนจะมีคำพิพากษาชั้นต้นหลังการสืบพยานเสร็จสิ้น

ส่วนคดีแพ่ง เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2565 ศาลจังหวัดนนทบุรีนัดเจรจาการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย ระหว่างผู้ต้องหา และนางพนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ของแตงโม ผลปรากฏว่าจำเลยได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมกับผู้เสียหายคือ นางพนิดา และชดใช้ค่าเสียหายต่อหน้าศาลแล้วในส่วนของคดีแพ่ง โดยวางเงินสด 4 แสน และแคชเชียร์เช็ค 1.6 ล้าน รวม 2 ล้านบาท พร้อมกันนี้ ยังได้ทำสัญญาให้เงินรายเดือน เดือนละ 30,000 บาท เป็นเวลา 20 ปี โดยไม่ตกถึงทายาทด้วย รวมมูลค่าทั้งหมด 9.2 ล้านบาท ทำให้นางภนิดาพอใจจึงได้ถอนคำร้องขอเป็นโจทก์ร่วมในคดีอาญาด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top