Sunday, 8 June 2025
NEWS FEED

ก.แรงงาน ผนึกกำลัง 3 มูลนิธิ ลงนามความร่วมมือ ส่งเสริมคนพิการมีงานทำ ยกระดับคุณภาพชีวิต

วันที่ 29 มีนาคม 2566 นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน 
เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือว่าด้วย “การส่งเสริมการมีงานทำของคนพิการ” ระหว่าง กระทรวงแรงงาน โดย กรมการจัดหางาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และสำนักงานประกันสังคม ร่วมกับ มูลนิธิเลนำคิน มูลนิธิภาณี ยิบอินซอย และมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ โดยมี บาทหลวงภัทรพงศ์ ศรีวรกุล ประธานมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ ประธานมูลนิธิเลนำคิน ประธานมูลนิธิภาณี ยิบอินซอย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน และหัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดชลบุรี ร่วมให้การต้อนรับ ณ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี

กาฬสินธุ์เตรียมส่งปปช.เชือดคดีตำรวจสืบเมืองกาฬสินธุ์รีดเงินยาบ้า

พนักงานสอบสวนเตรียมสรุปสำนวนคดีชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์เรียกรับเงิน 5 แสนบาทแลกปล่อยตัวคดียาเสพติดให้กับปปช.ลงดาบ เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวกับการทุจริตต่อหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ
จากกรณีตำรวจชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์ 3 นาย ถูกตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์จับกุมคาห้องสืบสวนภายในโรงพัก สภ.เมืองกาฬสินธุ์

หลังร่วมกันเรียกรับเงินจากญาติผู้ต้องหาคดียาเสพติด 5 แสนบาท แลกกับการไม่ดำเนินคดี ซึ่งหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ สั่งการให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาด และเบื้องต้นได้มีคำสั่งให้ออกราชการไว้ก่อน 3 ราย และแจ้งข้อกล่าวหาตามกฎหมาย ส่วนอีก 8 นายที่ถูกกล่าวหาซัดทอดอยู่ระหว่างการสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 29 มีนาคม 2566 ที่ห้องประชุม สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.อิทธเดช สุนทร ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ประชุมร่วมกับ พ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี

โดยพ.ต.อ.อิทธเดช สุนทร ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ระบุว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีเดียวกัน แต่ขั้นตอนต้องแบ่งการสอบสวนเป็น 2 ส่วน ซึ่งส่วนแรกเป็นการจับกุมตำรวจชุดสืบสวน 3 นาย ประกอบด้วย ยศ ด.ต. อายุ 27 ปี, ยศ ส.ต.อ. อายุ 30 ปี และ ยศ ส.ต.อ. อายุ 27 ปี  3 ราย พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 364,000 บาทในห้องสืบสวน ซึ่งเป็นการจับกุมตัว พร้อมของกลาง หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนได้สอบปาก 3 นายแล้ว และทั้งหมดให้การปฏิเสธ ขอไม่ให้การในชั้นสอบสวน และขอให้การในชั้นศาล รวมทั้งได้ตำแหน่งประกันตัวออกไป 

กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมกับ บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการส่งเสริม เผยแพร่ และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมผ่านเกม 

วันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๖  เวลา ๐๙.๓๐ น. นายโกวิท ผกามาศ  อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.)  ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการส่งเสริม เผยแพร่ และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมผ่านเกม กับ ดร. ศรุต วานิชพันธุ์  ผู้อำนวยการอาวุโส Sea (ประเทศไทย) ในฐานะผู้แทนจาก บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยมี นางสาวลิปิการ์ กำลังชัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม นางสาววราพรรณ ชัยชนะศิริ รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ผู้บริหาร สวธ. และนายดนุภณ ศรีเมฆ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามดังกล่าว  ณ ห้องประชุมชั้น ๔ สำนักพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์  กรมส่งเสริมวัฒนธรรม 
 
นายโกวิท ผกามาศ  อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.)  กล่าวว่า สืบเนื่องจากในปี พ.ศ. 2563    ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้มีบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับ สำนักบริหารคณะกรรมการจัดระดับเกมแห่งสาธารณรัฐเกาหลี (Game Rating and Administration Committee  - GRAC) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและสร้างวินัยในการเล่นวีดิทัศน์ (เกม) และได้มีโอกาสเข้าร่วมงานจัดแสดงเกมนานาชาติ G – Star และเยือนภาคส่วนต่างๆ ในอุตสาหกรรมเกมของสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการจัดระดับเกมและอุตสาหกรรมเกม ระหว่างวันที่ 19 – 23 พฤศจิกายน 2565 ณ เมืองปูซาน และ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี โดยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมเกมในสาธารณรัฐเกาหลีที่ผ่านมานั้น สามารถนำองค์ความรู้และวิธีการต่างๆ มาประยุกต์ใช้ในราชอาณาจักรไทยได้  ดังนั้น กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จึงได้มีการดำเนินตามนโยบายหลัก 8 ด้าน ของรัฐบาลไทย ข้อที่ 3 ว่าด้วยเรื่องการทำนุบำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ข้อ 3.1 ส่งเสริมวัฒนธรรม และเอกลักษณ์ของชาติ รัฐบาลไทยนั้นให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้สถาบันทางสังคมร่วมปลูกฝังค่านิยมและวัฒนธรรมที่ดี รวมทั้งการทำนุบำรุงศาสนา การอนุรักษ์ ฟื้นฟู ศิลปวัฒนธรรมไทยและการยอมรับประเพณี วัฒนธรรมที่ดีที่มีความหลากหลาย เพื่อสร้างสังคมให้มีคุณภาพ คุณธรรม และอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข  

โดยสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงวัฒนธรรม Paradigm Shift เปลี่ยนฉากทัศน์วัฒนธรรม สู่ก้าวที่มั่นคงและยั่งยืน กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จึงได้นำเนื้อหาจากการหารือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของสาธารณรัฐเกาหลี นำมาใช้เพื่อส่งเสริมมิติทางวัฒนธรรม (Soft Power) ที่สามารถสร้างมูลค่าและเผยแพร่ค่านิยมและวัฒนธรรมความเป็นไทยผ่านอุตสาหกรรมเกม   

ในนามกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้บรรลุข้อตกลงบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการส่งเสริม เผยแพร่ และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมผ่านเกม ระหว่าง กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กับ บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมเกมของประเทศ และมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยการส่งเสริม พัฒนาศักยภาพ และองค์ความรู้ให้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชน ในการเรียนรู้วัฒนธรรมไทยผ่านเกม อันนำไปสู่การต่อยอดระดับอาชีพในอุตสาหกรรมเกม หรือทักษะต่างๆ ในการประกอบอาชีพอื่นๆได้  อธิบดี สวธ. กล่าวทิ้งท้าย 
ด้าน ดร. ศรุต วานิชพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส Sea (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในปัจจุบันมีการปรับตัวในการใช้เทคโนโลยีออนไลน์กันอย่างแพร่หลายในชีวิตประจำวัน จากสถิติในประเทศไทยพบว่ามีผู้เล่นเกมมากถึง ๓๐ ล้านคน โดยมีสัดส่วนของกลุ่มผู้เล่นเพื่อความสนุกสนานผ่อนคลาย และผู้ที่เล่นเกมเป็นกีฬาอีสปอร์ต  

จนสามารถพัฒนาตนเองจนเป็นนักกีฬามืออาชีพเข้าแข่งขันในรายการระดับโลกต่างๆและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้รับชมกีฬาอีสปอร์ตซึ่งเปรียบได้กับผู้ชื่นชอบรับชมกีฬาประเภทอื่นๆ เช่น ฟุตบอล อยู่เป็นจำนวนมากทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ที่สามารถรับชมร่วมกันในเวลาเดียวกันได้ ทำให้เราสามารถนำเสนอคอนเทนต์ต่างๆส่งตรงไปยังคนกลุ่มเหล่านี้ได้อย่างทั่วถึง ซึ่งจะเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพในการนำเสนอ เผยแพร่เนื้อหาที่สอดแทรกประยุกต์ความเป็นไทยเข้าไปในลักษณะการเผยแพร่ที่เป็น Soft Power

รวมทั้งการรณรงค์ส่งเสริมค่านิยมพฤติกรรมการเล่นเกมที่ดีที่สามารถนำไปต่อยอดพัฒนาศักยภาพความสามารถของผู้เล่นให้เกิดประโยชน์ในแง่ต่างๆได้  ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่เราจะร่วมกันใช้ความเชี่ยวชาญของทั้งสองหน่วยงานในการร่วมกันต่อยอดการนำเสนอวัฒนธรรมไทยมิติใหม่ที่มีรูปแบบที่นำเอาความสร้างสรรค์ของนวัตกรรมมาผนวกเข้ากับเทคโนโลยี เพื่อให้สื่อสารถึงความเป็นไทยวัฒนธรรมไทยในรูปแบบที่เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันมากขึ้นและยังกระตุ้น  ให้เกิดแรงบันดาลใจในรูปแบบ Digital Inspiration ให้กับกลุ่มเป้าหมายเพื่อพัฒนาตนเอง ไปพร้อมๆกับการพัฒนาของอุตสาหกรรมดิจิทัลเอ็นเตอร์เทนเมนต์ซึ่งจะเป็นการยกระดับอีโคซิสเต็มของทั้งอุตสาหกรรมให้มีการเติบโตต่อไปในอนาคต 

‘NBDC’ โร่แจงปมดรามา หลังโพสต์ภาพไม่เหมาะสม ด้านแอดมินต้นเรื่อง ออกรับผิดชอบด้วยการ ‘ลาออก’

จากกรณีดรามา ที่ทางบริษัท NBDC ได้โพสต์ภาพที่ไม่เหมาะสม ล่าสุด เฟซบุ๊ก ‘ผลิตและจำหน่ายอาหารปลาและอาหารสุกร - Fish and animals' feed product’ แอดมินเพจ NBDC ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการลาออก โดยระบุว่า

เรื่อง ชี้แจงกรณี โพสข้อความและภาพที่ไม่เหมาะสมผ่านทางช่องทาง Facebook

วันที่ 29 มีนาคม 2566
จากกรณีที่แอดมินเพจของทางบริษัท NBDC ได้มีการโพสต์ภาพที่ไม่เหมาะสม จากการที่แอดมินทำ Viral ดังกล่าวมาทำ Content ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมของเพจเฟซบุ๊กของบริษัท ในการนี้บริษัทฯ ขอเรียนแจ้งว่า...

ทางบริษัทไม่มีนโยบายและส่งเสริมการกระทำที่รุนแรง อันมีผลต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้ทางบริษัทจึงขออภัยในการกระทำดังกล่าว ซึ่งภายในวันนี้พนักงานที่เกี่ยวข้องได้ขอแสดงความรับผิดชอบต่อทุกฝ่าย โดยการยื่นหนังสือลาออก ทั้งนี้ทางบริษัทฯ ยังได้เร่งประสานงานไปยังส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ผบ.ทร.ทำบุญครบ 100 วัน กำลังพลที่เสียชีวิตเรือหลวงสุโขทัยอับปาง

วันนี้ (29 มีนาคม 2566) เวลา 08.00 น.พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และนางจตุพร ชมเชิงแพทย์ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ เป็นประธานในพิธีทำบุญครบรอบ 100 วัน เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่กำลังพลที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ณ พุทธสถานเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา กองเรือยุทธการ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ตลอดจนคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ ให้การต้อนรับ ทั้งนี้มีกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย ที่รอดชีวิตจำนวน 76 นาย รวมถึงครอบครัวและญาติของกำลังพลจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง เข้าร่วมในพิธี 

โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบเงินช่วยเหลือและทุนการศึกษาจากกองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพเรือแก่ ทายาทและบุตรของกำลังพลที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง โดยแบ่งเป็นทายาทจากกรณีผู้สูญหาย จำนวน 5 ทุน และบุตรกำลังพลที่เสียชีวิตจำนวน 9 ทุน นอกจากนี้ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ ได้มอบเงินช่วยเหลือและทุนการศึกษาจากสมาคมภริยาทหารเรือ ให้แก่บุตรกำลังพลที่เสียชีวิตจำนวน 9 ทุน ทั้งนี้ผู้ที่ได้รับเงินช่วยเหลือและทุนการศึกษาเป็นผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาในการรับทุนเรียบร้อยแล้ว

พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า เหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ส่งผลให้กำลังพลเสียชีวิต 24 นาย สูญหาย 5 นาย และรอดชีวิต 76 นาย ในส่วนของการปฏิบัติ การค้นหากำลังพล 5 นายที่สูญหาย กองทัพเรือ และหน่วยงานต่าง ๆ ได้ทำการค้นหาอย่างต่อเนื่อง จนเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 กระทรวงกลาโหม ได้มีคำสั่งกระทรวงกลาโหม เรื่อง สันนิษฐานว่าข้าราชการกระทรวงกลาโหม ถึงแก่ความตายเพราะสูญหายในขณะปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยสันนิษฐานว่า กำลังพลกองทัพเรือจำนวน 5 นาย ได้ถึงแก่ความตายแล้ว ซึ่งได้รับการชดเชย และการเยียวยาตามสิทธิกำลังพลของกองทัพเรือ ทั้งนี้กองทัพเรือได้ให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวกำลังพลกองทัพเรือ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปางนั้น โดย พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ มีความเป็นห่วงครอบครัวกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตรวมถึงกำลังพลที่ยังคงสูญหายเป็นอย่างมาก จึงได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสิทธิกำลังพล ดำเนินการเพื่อให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน แก่ครอบครัวของกำลังพลในด้านต่าง ๆ อย่างเต็มที่

Reinventing University ส่งมอบศูนย์อัจฉริยะ มุ่งพัฒนาท้องถิ่นภาคใต้ ช่วย ม.ทุกแห่งทั่วประเทศ ขับเคลื่อนการทำงานได้อย่างคล่องตัว

(29 มี.ค.66) อนุกรรมการด้านการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย สป.อว. นำทีมโดย ศ.ดร.พีระพงศ์ ทีฆสกุล ประธานอนุกรรมการ, นายพันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี หัวหน้ากลุ่มภารกิจบริหารยุทธศาสตร์ พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการฯ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานโครงการ Reinventing University ของมหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคใต้ 5 แห่ง ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา จ.สงขลา โดยมีอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา รศ.ดร.ทัศนา ศิริโชติ รวมถึงผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏอีก 4 แห่ง ให้การต้อนรับและนำเสนอผลการดำเนินงาน 

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยทั้ง 5 แห่ง ได้ส่งมอบศูนย์อัจฉริยะเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นภาคใต้ 5 ศูนย์ ได้แก่...
1. ด้านการพัฒนานวัตกรรมท้องถิ่นและโลจิสติกส์ โดย มรภ.สุราษฎร์ธานี 
2. ด้านการเป็นผู้ประกอบการท้องถิ่น โดย มรภ.สงขลา 
3. ด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดย มรภ.นครศรีธรรมราช 
4. ด้านการเกษตรและอาหาร โดย มรภ.ยะลา 
5. และ ด้านการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ โดย มรภ.ภูเก็ต

ลูกสาวแฉ!! แม่ตัวเองรับญาติป่วยติดเตียงมาดูแล  หวังเงิน 8 พันบาท แต่ลับหลังทำร้าย-ให้กินข้าวบูด 

(29 มี.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลายเป็นเรื่องสะเทือนใจกรณีสาวรายหนึ่งได้โพสต์เรื่องราวที่เกิดขึ้นในครอบครัว หลังแม่นำญาติที่ป่วยติดเตียงมาดูแลที่บ้าน แต่ไม่ได้รับการดูแลอย่างที่ควรจะเป็น โดยเผยให้เห็นสภาพเตียง ห้องที่สกปรก จานข้าวที่มีมดขึ้น

โดยมีการระบุข้อความว่า ไม่ทนอีกต่อไปแล้ว ใครพูดไม่ฟัง คือแม่ เอาผู้ป่วยติดเตียงที่เป็นลูกพี่ลูกน้องมาไว้ที่บ้าน เพราะอยากได้เงินจากทางญาติๆ เดือนละ 8,000 บาท  แต่ลับหลังคือตีเค้า ตบกะบาลบ้างไรบ้าง เอาข้าวบูดให้เค้ากินทุกวัน พอขี้แตก ก็ด่าก็ว่า มีแต่คนเห็น เห็นจนเอือม แต่ช่วยอะไรไม่ได้ มีหน่วยงานไหน ช่วยประสานให้ญาติมารับทีเถอะ สงสารเค้า พิการครึ่งซีก ทางญาติก็ทิ้งส่ง ทิ้งขว้าง ไม่สนใจไยดี ทั้งที่รู้เรื่อง โพสต์นี่กูขอประจาน ไม่มีความเป็นคนเลย

‘รฟท.- ขสมก.-กรุงไทย’ ร่วมดันบัตรเหมาจ่ายค่ารถไฟฟ้ายสีแดง-ขสมก. ราคา 2,000 บาท/เดือน ไม่จำกัดเที่ยว ยกระดับการเดินทางแบบไร้รอยต่อ

‘รฟท. ขสมก. และกรุงไทย’ ผนึกกำลัง เปิดตัว บัตรเหมาจ่ายนั่งรถไฟฟ้า ‘สายสีแดง-รถเมล์’ 2,000 บาท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. ตั้งเป้าจ่ายผ่านบัตรวันละหมื่นคน จากปัจจุบัน 4-5 พันคนต่อวัน ส่วนขสมก. คาดเพิ่มขึ้น 5.5-6 หมื่นคนต่อวัน จากเดิม 5 หมื่นคนต่อวัน พร้อมประเมินผล 6 เดือน หนุนรองรับพรรคการเมืองออกนโยบายประหยุดค่าครองชีพ

(29 มี.ค. 66) นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พร้อมด้วย นางพริ้มเพรา วงศ์สุทธิรัตน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.), นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง และ นายกิตติพัฒน์ เพียรธรรม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ร่วมกันเปิดโครงการบัตรเหมาจ่าย TRANSIT PASS RED LINE BKK X BMTA หรือ บัตรเหมาจ่ายรถไฟฟ้าสายสีแดงกับรถโดยสาร (รถเมล์) ของ ขสมก. เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ 2 ระบบ คือ ทางรางและทางบกเดินทางได้ด้วยการใช้บัตรใบเดียว

นายสุเทพ เปิดเผยว่า บัตรเหมาจ่ายจัดจำหน่ายใบละ 2,000 บาท และค่าธรรมเนียมออกบัตร 100 บาท รวมค่าใช้จ่าย 2,100 บาท โดยหาซื้อบัตรเหมาจ่ายได้จากจุดจำหน่ายบัตรของ ขสมก. และ รฟท. ส่วนการใช้งานสามารถใช้บัตรเหมาจ่ายแตะชำระค่าโดยสารที่เครื่องชำระค่าโดยสารอัตโนมัติ หรือ EDC บน รถเมล์ ขสมก. ที่ให้บริการปัจจุบัน 2,885 คัน และจุดรับชำระค่าโดยสารที่ รฟท. กำหนด หลังจากเติมเงินบัตรจะมีอายุการใช้งาน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่แตะชำระครั้งแรกที่ ขสมก. และ รฟท. อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ผู้โดยสารชำระค่าโดยสารครั้งแรกที่ ขสมก. วันที่ 1 เม.ย.66 บัตรจะใช้งานทั้ง ขสมก. และ รฟท. ได้ถึงวันที่ 30 เม.ย.66 เท่านั้น จนกว่าการเติมเงินครั้งถัดไป โดยสามารถใช้งานกับรถเมล์ ขสมก. ทุกประเภทแบบไม่จำกัดเที่ยว

ส่วนกรณีใช้ชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดงจะนับจำนวนเที่ยวสูงสุด 50 เที่ยวต่อการเติมเงินหนึ่งครั้ง หากใช้จำนวนเที่ยว 50 เที่ยวหมดก่อน 30 วัน จะไม่สามารถใช้ชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดงได้อีก แต่ยังใช้ชำระค่าโดยสารรถเมล์ ขสมก. ได้จนกว่าครบ 30 วัน เช่น ผู้โดยสารใช้งานรถไฟฟ้าสายสีแดงครั้งแรกวันที่ 1 เม.ย.66 ครบ 50 เที่ยวในวันที่ 25 เม.ย.66 ผู้โดยสารไม่สามารถใช้ชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดงได้อีก แต่ยังคงใช้ชำระค่าโดยสารรถเมล์ ขสมก. ได้จนถึงวันที่ 30 เม.ย.66 ตามปกติ จนกว่าจะเติมเงินรอบต่อไป 

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง 25,000 คนต่อวัน แบ่งเป็นใช้จ่ายผ่านบัตรประเภทต่างๆ รถไฟฟ้าสายสีแดงรองรับ 4,000-5,000 คนต่อวัน ที่เหลือจ่ายค่าโดยสารผ่านเหรียญโดยสาร คาดว่ามีบัตรเหมาจ่ายจะเพิ่มให้มีผู้มาใช้จ่ายผ่านบัตรเป็น 10,000 คนต่อวัน ส่วนค่าโดยสารจำนวน 50 เที่ยว จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 1,250 บาท หรือ เฉลี่ย 25 บาทต่อเที่ยว เมื่อมีบัตรเหมาจ่ายจะจ่ายแค่ 1,100 บาท หรือเฉลี่ย 22 บาทต่อเที่ยว ช่วยประหยัดได้ 150 บาท หรือ 3 บาทต่อเที่ยว ขณะที่ซื้อบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ ขสมก. ประเภทรถเมล์แอร์แบบรายเดือนราคา 1,020 บาท แต่เมื่อซื้อบัตรแบบเหมาจ่ายจะจ่ายแค่ 900 บาทต่อ 30 วัน ซึ่งช่วยประหยัดได้ 120 บาทต่อเดือน

ด้านนางพริ้มเพรา กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้โดยสารที่ชำระค่าโดยสารผ่านเครื่อง EDC อยู่ที่ 50,000 คนต่อวัน หากมีบัตรเหมาจ่ายตั้งเป้าจะเพิ่มยอดชำระผ่านเครื่อง EDC อยู่ที่ 55,000-60,000 คนต่อวัน จากจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการรถเมล์ประมาณ 700,000 คนต่อวัน หลังจากนี้ ขสมก. และรถไฟฟ้าสายสีแดงจะใช้เวลาประมาณเมิน 6 เดือน เกี่ยวกับจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการ รวมทั้งระบบการใช้งานต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงให้สอดคล้องกับการใช้งานต่อไป

หลานเปลี่ยนภาพ ‘อุลตร้าแมน’ แทนเจ้าแม่กวนอิม ทำอาม่าจีนเดือด!! เพราะเผลอกราบไหว้อยู่เป็นเดือน

ไม่นานมานี้ ได้มีคลิปไวรัลที่มีการแชร์กันสนั่น เมื่ออาม่าชาวจีนคนหนึ่งออกอาการหัวเสีย หลังพบว่าหลานสาวแอบเอารูปยอดมนุษย์ ‘อุลตร้าแมน’ มาเปลี่ยนแทนเจ้าแม่กวนอิม แถมปล่อยให้อาม่าหลงกราบไหว้ขอพรอยู่นานเป็นเดือน

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่มณฑลกว่างตง โดยจากคลิปจะเห็นว่าอาม่ากำลังยืนถือภาพอุลตร้าแมนนั่งขัดสมาธิ และมีรัศมีเปล่งประกายสีทองเหมือนเทพเจ้า พร้อมกับด่าทอหลานสาวเป็นภาษาฮกเกี้ยนด้วยความโมโห

UOB จับมือ AIS อัดโปรแรง 850 บาทต่อเดือน  ถอย iPhone 14 ได้ แถมเปลี่ยนเครื่องใหม่ได้ทุก 2 ปี

AIS เอาจริงจับมือ UOB เปิดดีลพิเศษจ่ายเดือนละ 850 บาท ได้ iPhone ใช้เปลี่ยนเครื่องใหม่ทุก 2 ปี

(29 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานแถลงข่าวของ AIS นั้น มีการพูดถึงรายละเอียดการให้บริการระหว่าง AIS และ UOB ภายใต้ชื่อ UOB Best Buy เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงการใช้งานจากสมาร์ทโฟน 5G ได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top