Monday, 23 June 2025
NEWS FEED

'สภาวะล่องลอย' อีกหนึ่งภัยเงียบจาก 'การติดมือถือ' กระตุ้น GEN Z ช็อปแหลกแบบยับยั้งตัวเองไม่ได้

ทุกวันนี้หลายคนคงคุ้นเคยกับ 'โนโมโฟเบีย' (No mobile phone phobia) หรือโรคกลัวการขาดโทรศัพท์มือถือ ที่สะท้อนผ่านความกระวนกระวาย เครียด หงุดหงิด มีอาการคลื่นไส้และเหงื่อออกตามร่างกาย อาการของเเต่ละคนที่เป็นโรคขึ้นอยู่กับระดับการติดโทรศัพท์มือถือของเเต่ละบุคคลว่าจะแสดงอาการออกมามากน้อยแตกต่างกัน

แต่อาการที่ว่านั้น ดูเล็กไปเลย เมื่อเทียบกับสภาวะใหม่ของคนติดมือถือยุคนี้ที่กำลังเผชิญอยู่แบบไม่รู้ตัว โดยเรื่องนี้ ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

ไม่นานมานี้ การวิจัยที่อิตาลีได้ค้นพบว่า อาการ 'ติดมือถือ' ก่อให้เกิดสภาวะที่เรียกว่า Flow Experience หรือ อาการล่องลอยหมกมุ่นอยู่กับการทำอะไรบางอย่างจนลืมเวลา ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์แบบยับยั้งตัวเองไม่ได้ 

โดยการทดลองนี้ทำกับกลุ่ม Gen Z แต่ก็น่าเชื่อได้ว่าคนเจนอื่นก็อาจจะมีผลคล้าย ๆ กัน แต่ผู้ใหญ่ที่มีงานและภารกิจอื่น หรือมีวุฒิภาวะและความยับยั้งชั่งใจมากกว่า อาจมีโอกาสน้อยลงกว่า Gen Z

'บิ๊กป้อม' กำชับมาตรการป้องกัน-ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน บังคับใช้กฎหมายเข้มข้น เพื่อลดการบาดเจ็บ-เสียชีวิต

พลเอก ประวิตร เน้นมาตรการเชิงรุกในการจัดการแก้ไขปัญหาป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ย้ำบังคับใช้กฎหมายควบคู่กับการสร้างจิตสำนึก และมีความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมเพิ่มจุดตรวจถนนสายรอง 

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (25 ตุลาคม 2565) ว่าคณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติเห็นชอบแผนบูรณาการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาล และช่วงวันหยุด พ.ศ. 2566 โดยให้วิเคราะห์จุดเกิดเหตุซ้ำซาก ทั้งช่วงเทศกาล และไม่ใช่เทศกาล เพื่อนำมาวางแผน ป้องกันความเสี่ยงเชิงรุก และใช้ระบบ War Room ช่วยในการติดตาม ประเมินผล 

รองนายกรัฐมนตรี กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกวดขันการกระทำที่ผิดวินัยจราจรอย่างสม่ำเสมอ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอาสาสมัครต่างๆ เตรียมความพร้อมล่วงหน้า และแจ้งให้หน่วยงานในสังกัด ที่เกี่ยวข้องทราบ รวมถึงให้ส่งเสริมการสร้าง 'วัฒนธรรมความปลอดภัย' ตลอดจนให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมาย ควบคู่กับการสร้างความตระหนักให้มีจิตสำนึก และมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะการขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด การดื่มแล้วขับและการไม่สวมหมวกนิรภัย โดยเพิ่มจุดตรวจในถนนสายรอง เน้น ในช่วงเวลา 16.00 -  20.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด และให้ทุกหน่วยงานดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดการบาดเจ็บ และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนอย่างต่อเนื่อง ให้เป็นไปตามแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2565 - 2570 เน้นมาตรการเชิงรุกในการจัดการและแก้ไขปัจจัยเสี่ยง ด้านคน ถนน และยานพาหนะ พร้อมทั้งเร่งรัดมาตรการสวมหมวกนิรภัย 100% โดยให้ความสำคัญกับพื้นที่อำเภอที่มีจำนวน ผู้เสียชีวิตจากการไม่สวมหมวกนิรภัยสูง ตลอดจนมุ่งเน้นมาตรการสร้างการรับรู้การบังคับใช้กฎหมาย อย่างเข้มงวด

หนุ่มโชว์ภาพมุมสูง น้ำท่วมหนักสิงห์บุรี แต่บ้านรอด เพราะทำโคกหนองนาโมเดล

กลายเป็นไวรัลในโลกโซเชียลเมื่อผู้ใช้งาน TikTok @looktao9892 ได้เผยคลิปบ้านหลังหนึ่งที่รอดพ้นจากน้ำท่วมหนักเพราะทำ 'โคกหนองนาโมเดล' ทำให้ชาวเน็ตที่เห็นต่างเข้ามาชื่นชม

ซึ่งคลิปดังกล่าวเป็นภาพมุมสูง ที่เผยให้เห็นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ สำหรับพื้นที่รอบ ๆ จมน้ำท่วม ที่สวนศรีวิเชียร อ.อำเภออินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ที่โดยรอบถูกน้ำท่วมไปหมดแล้ว แต่บ้านหลังดังกล่าวรอดมาได้เพราะนำโคกหนองนาโมเดล มาประยุกต์ใช้ เป็นการจัดการพื้นที่ทางการเกษตร โดยมีคันล้อมความกว้าง 5 เมตร ความสูงของคันล้อม 2 เมตร รวมพื้นที่แปลงนี้ทั้งหมด 12 ไร่ และดินที่นำมาทำคันล้อมได้จากการขุดสระปลาวาฬนั่นเอง

'โตโน่' ขอบคุณทุกธารน้ำใจที่ช่วยบริจาค ขอตอบแทนด้วยการบวชช่วงต้นปีหน้า

'โตโน่ - ภาคิน คำวิลัยศักดิ์' ขอบคุณทุกธารน้ำใจที่บริจาคร่วมโครงการ 'One Man and The River หนึ่งคนว่ายหลายคนให้' ประกาศลาบวชช่วงต้นปีหน้า

หลังจากที่นักร้องและนักแสดงหนุ่ม 'โตโน่ - ภาคิน คำวิลัยศักดิ์' ว่ายน้ำข้ามโขงเพื่อระดมทุนซื้อเครื่องมือทางการแพทย์สนับสนุน 2 โรงพยาบาลฝั่งไทยและฝั่งลาว ได้แก่ โรงพยาบาลนครพนม และ โรงพยาบาลแขวงคำม่วน ซึ่งยอดบริจาคทะลุเกินเป้าที่ตั้งไว้ค่อนข้างมาก

ล่าสุด 'โตโน่' ได้โพสต์ขอบคุณทุกธารน้ำใจและประกาศลาบวชช่วงต้นปีหน้า โดยระบุว่า

"การตัดสินใจนี้ขอมอบให้ทุกความรักที่พวกเรามีต่อกันระหว่าง ไทย ลาวนะครับ"

"ผมไม่รู้จะหาคำไหนมาบรรยาย หาคำไหนมาขอบคุณ หรือตอบแทนความรัก ความสามัคคี ความมีน้ำใจที่ทุกคนมาร่วมไม้ร่วมมือกัน เพื่อ แม่น้ำโขงของเรา เพื่อคุณหมอ คุณพยาบาล จากโรงพยาบาลของทั้ง 2 ฝั่งโขง ในครั้งนี้"

ทหารจัดชุดลาดตระเวนร่วม ไทย-มาเลเซีย ลาดตระเวนช่องทางธรรมชาติ

พ.อ.ฐนิตพนธ์ หงษ์วิไล ผบ.ร.5/ผบ.ฉก.ร.5 มอบหมายให้ พ.อ.เรวัตร เซ่งเข็ม ผบ.ร.5 พัน.2/รอง ผบ.ฉก.ร.5 รับผิดชอบชายแดน ไทย-มาเลเซีย ด้าน จังหวัดสตูล จัดชุดลาดตระเวนร่วม ไทย-มาเลเซีย ลาดตระเวนช่องทาง ที่กลุ่ม ลักลอบขนของผิดกฎหมาย ของ อ.ควนโดน และ อ.เมือง จังหวัดสตูล เพราะเป็นช่องทางใช้ในการลักลอบขนของผิดกฎหมายในอดีต ใช้ระยะทาง ในการเดินเท้า 4-5 ชม.

และยังมีร่องรอย การใช้เส้นทาง ในอดีต ที่มี ขวดน้ำ และ กล่องอาหาร ตลอดเส้นทาง เส้นทางมีการขึ้น ลง เขา ชัน จำนวน 3 ยอด ค่อนข้างยากลำบากในการเดินทาง ปัจจุบัน จัดกำลัง เฝ้าตรวจร่วม ตชด. และ ป่าไม้ ในการเฝ้าเส้นทาง ไม่ปรากฏการใช้เส้นทางที่ผ่านมา


นิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำจังหวัดสตูล

'ทะลุแก๊ส' ถล่ม 'ทักษิณ' ขุดสังหารหมู่ตากใบ การบังคับใช้แต่กม. จนปราศจากการยื่นมืออันอบอุ่น

'ทะลุแก๊ส' ถล่ม 'ทักษิณ' ขุดสังหารหมู่ตากใบ ประวัติศาสตร์ที่รัฐไทยบังคับอยากให้ลืม

(25 ต.ค. 65)กลุ่มทะลุแก๊ซ – Thalugaz @thalugazzz ทวิตข้อความว่า 18 ปี #สังหารหมู่ตากใบ ประวัติศาสตร์ที่รัฐไทยบังคับอยากให้ลืม หลายคนที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ในวันนั้นต้องกลายเป็นผู้พิการ เพราะอวัยวะถูกกดจากการนอนทับกัน 4-5 ชั้นหลายชั่วโมงในรถทหาร อยู่ในสภาพหายใจแทบไม่ออก ปัสสาวะและอุจจาระราด

กรณีตากใบ เป็นเหตุการณ์ความรุนแรงที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2547 สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร โดยเหตุการณ์เริ่มต้นจากการชุมนุมเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านจำนวน 6 คนที่ถูกจับกุมตัว มีชาวบ้านในพื้นที่นั้นมามุงดูนับพันคนจนทหารต้องทำการปิดล้อมพื้นที่และสลายการชุมนุม มีผู้เสียชีวิตในพื้นที่ชุมนุม 6 คน

จากนั้นจึงมีการจับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวน 1,370 คน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 85 คน และถูกจับกุมประมาณ 1,300 คน นายทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์หลังจากนั้น 8 ปี ว่า “เสียใจที่เกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และก็จำไม่ค่อยได้เพราะนานมาแล้ว”

นายทักษิณ ยอมรับว่าการอยู่มานานก็เริ่มใช้อำนาจมากไป ความจริงตามหลักของรัฐศาสตร์ต้องใช้ทั้ง 2 อย่าง อย่างมือ 2 ข้าง มือหนึ่ง เขาเรียกกำปั้นเหล็ก ใช้กฎหมาย แต่มืออีกข้าง ต้องเป็นถุงมือกำมะหยี่ คอยดูคอยให้ความอบอุ่น

“ผมอยู่ในอำนาจนานเข้าเรื่องมันเยอะ ผมจึงบังคับใช้แต่กฎหมาย ไม่ดีเลย ถ้าผมอยู่ต่อไป ต้องใช้ถุงมือกำมะหยี่ มืออบอุ่นให้มาก กฎหมายให้ใช้เท่าที่จำเป็นเพื่อความสงบเรียบร้อย”

แต่คำขอโทษอย่างเป็นทางการเกิดขึ้นในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่ออกแถลงการณ์ว่า “ผมขอโทษแทนรัฐบาลชุดที่แล้ว และขอโทษแทนรัฐบาลนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นเพราะรัฐบาลชุดที่แล้ว ผมมาขอโทษแทน ผมอยากยื่นมือออกไปแล้วบอกว่าผมเป็นคนผิด ผมขอกล่าวคำขอโทษด้วยด้วยใจจริง”


ที่มา: https://www.thaipost.net/x-cite-news/248882/

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งดำเนินคดีชุดจับ หลังพบเรียกรับ 2 แสนแลกผู้ต้องหายาเสพติด

จากกรณีเมื่อวันที่ (17 ต.ค. 65) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง 6 นายได้จับกุมตัว นายธนกร หรือโด่ง สุวรรณชนะ พร้อมยาบ้า จำนวน 10 มัด (รวม 20,000 เม็ด) ดำเนินคดีในความผิดฐาน จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย จากนั้นได้นำตัวไปขยายผลล่อซื้อยาเสพติดเพิ่มเติม ก่อนถูกกลุ่มชายฉกรรจ์พร้อมอาวุธครบมือ ชิงยาบ้าของกลางพร้อมรถของเจ้าหน้าที่ หลบหนีไป เหตุเกิดที่ที่ทำการกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดสงขลา ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา ต่อเนื่อง บนถนนนิคมสายโท (ศาลาเขียว) หมู่ที่ 11 ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำเสนอไปแล้วนั้น

จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว และเร่งรัดติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากเป็นเหตุที่คนร้ายก่อเหตุด้วยความอุกอาจพร้อมอาวุธสงครามโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.สงขลา และ พ.ต.อ.ศิรโกศล ปราบกรี ผกก.สภ.รัตภูมิ เร่งทำการสืบสวนคดีดังกล่าว 

จากการสืบสวนคดีดังกล่าวพบว่า หลังจากที่ชุดจับกุมได้นำตัวนายธนกรฯ มาควบคุมที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดสงขลาที่ 1 แล้ว ระหว่างการควบคุมตัวนายธนกรฯ ดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการเรียกรับเงินสด 1,000,000 บาท หรือยาบ้า 200,000 เม็ด เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีและปล่อยตัวนายธนกรฯ หลังจากนั้นนายธนกรฯ ได้ติดต่อญาติ เพื่อให้หาเงินหรือยามาแลกกับตน แต่ญาติไม่สามารถหาเงิน หรือยาบ้ามาแลกตัวนายธนกรฯได้ จากนั้นได้มีการต่อรองโดยขอแลกตัวนายธนกรฯ กับการนำยาไอซ์ จำนวน 8 กิโลกรัม และเงินสด จำนวน 200,000 บาท ทางชุดจับกุมตกลง และได้นัดหมายแลกเปลี่ยนตัวกันที่บริเวณศาลาเขียวริมถนนที่เกิดเหตุ ในวันที่ (18 ต.ค. 65) ช่วงเวลาเกิดเหตุ เมื่อถึงเวลานัดหมาย โดยมีชุดจับกุม 5 คน นั่งรถยนต์ไปรอที่จุดนัดหมาย ส่วนนายธนกรฯ จะมีชุดจับกุม 1 นาย แยกไปคุมตัวอยู่ในรถกระบะอีกคันหนึ่ง จอดอยู่ห่าง ๆ จากนั้นจึงได้มีกลุ่มแก็งค้ายาเสพติดทั้งหมด 9 คน ขับรถจำนวน 3 คัน มาล้อมรถไว้ จากนั้นได้ลงมาก่อเหตุชิงยาบ้าพร้อมรถของชุดจับกุม พร้อมอาวุธปืนไป ก่อนจะทิ้งชุดจับกุมไว้ข้างทางแล้วหลบหนีไป

ในส่วนของชุดจับกุม เมื่อวันที่ (25 ต.ค.65) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมัติศาลจังหวัดสงขลา ออกหมายจับชุดจับกุมทั้ง 6 ราย ประกอบด้วย
1. จ่าเอกไพรัช  ผู้ช่วยปกครองจังหวัดสงขลา ปฏิบัติหน้าที่ประจำชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสงขลา (พิฆาตไพรี)
2. นายเฉลิมศักดิ์ สมาชิกอาสาสมัครรักษาดินแดน
3. นายเลิศฤทธิ์ สมาชิกอาสาสมัครรักษาดินแดน
4. นายอดิศักดิ์ สมาชิกอาสาสมัครรักษาดินแดน
5. นายพิษณุ สมาชิกอาสาสมัครรักษาดินแดน
6. นายสุทธิพงษ์ สมาชิกอาสาสมัครรักษาดินแดน

ผบ.ตร. มอบรางวัล 'นักเรียนนายร้อยตํารวจ' คว้าแชมป์ Thailand Cyber Top Talent 2022 ชูเป็นบุคลากรตำรวจรุ่นใหม่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 เวลา 11.00 น. ที่สํานักงานตํารวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. แสดงความยินดี และมอบรางวัลแก่  “นักเรียนนายร้อยตำรวจ” ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ Thailand Cyber Top Talent 2022 การแข่งขันด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ระดับประเทศ  

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า การแข่งขันด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ระดับประเทศ โดยสํานักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) จัดการแข่งขันด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ระดับประเทศ รายการ Thailand Cyber Top Talent 2022 ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซากรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยมีทีมนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไปจากทั่วประเทศ เข้าร่วมการแข่งขัน 393 ทีม

ผลการแข่งขันในระดับอุดุมศึกษาหรือSeniorทีมReboosterตัวแทนจากโรงเรยีนนายรอ้ยตํารวจคว้าแชมป์ระเทศไทย  ได้รับโล่ห์และเงินรางวัล 90,000 บาท โดยสมาชิกในทีมประกอบด้วย นรต.ทัศไนย มานิตย์ หรือ ต้น ชั้นปีที่ 3 , นรต.วรรณกร นุ่น ประดิษฐ์ หรือ เอิร์ธ ชั้นปีที่ 3 และ นรต.สุดฤทธิ์ วงษ์สุวรรณ หรือ สุดริด ชั้นปีที่ 2

โดยทีม Rebooster จาก รร.นรต. จะเป็นผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันใน รายการ Cyber SEA Game 2022 หรือ การแข่งขันด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ในระดับ อาเซียน ที่ประเทศญี่ปุ่น ต่อไป

รัฐบาลไทยโชว์ศักยภาพหนุน EV บนเวทีโลกอีกครั้ง จัดรถ BMW i7 ใหม่ล่าสุด EV 100% รับส่งผู้นำเอเปค

เอเปกครั้งนี้ ประเทศไทยเน้นรายละเอียดจริง ๆ ขนาดรถของผู้นำยังเป็น THE NEW BMW i7 ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าล้วน 100 % สำหรับใช้ต้อนรับผู้นำจากทุกประเทศอีกด้วย

ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก BMW Thailand ได้โพสต์ภาพ คาราวาน THE NEW BMW i7 ที่ส่งตรงมาจากประเทศเยอรมนี เพื่อรับหน้าที่ “The Official Mobility Partner for APEC 2022 Leaders” สำหรับผู้นำคนสำคัญจากเขตเศรษฐกิจสำคัญทั่วโลก ภายใต้ธีม “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล หรือ Open. Connect. Balance.” ในวันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2565 โดย THE NEW BMW i7 จะให้ความสะดวกสบายในทุก ๆ การเดินทาง เพื่อความสมบูรณ์แบบของการประชุม APEC 2022 ครั้งนี้

แน่นอนว่า การเลือกใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) 100% สำหรับใช้เป็นยานพาหนะอย่างเป็นทางการ ตลอดระยะเวลาการประชุมสัปดาห์ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ทำให้ประเทศไทยได้โชว์ศักยภาพบนเวทีโลกอีกครั้ง โดยเฉพาะในด้านการสนับสนุนยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสอดคล้องกับเทรนด์รักษ์โลกยุคปัจจุบันอีกด้วย

เปิดใจฮีโรชั้นประถม ทำ CPR ช่วยเด็กจมน้ำ จนรอดชีวิต ชี้ ลองเข้าใจทฤษฎี การทำ CPR ใคร ๆ ก็ทำได้

เปิดใจ 'น้องหมัด' ปั๊มหัวใจยื้อชีวิตน้อง 6 ขวบพลัดตกน้ำ จนรอดปลอดภัย เผยจดจำการปฐมพยาบาล จากพี่ ๆ มูลนิธิกู้ภัยร่มไทรที่เคยมาอบรมเมื่อไม่นานมานี้ โซเชียลฯ ซูฮก 'กล้าหาญ-มีสติ-ช่วยถูกวิธี-เป็นตัวอย่างที่ดีของเยาวชน'

ฮีโรพี่ประถม CPR ช่วยชีวิตน้องอนุบาล

คำกล่าวที่ว่า “ฮีโร ไม่จําเป็นต้องมีพลังวิเศษ” คงเปรียบได้กับเหตุการณ์ที่กำลังถูกแชร์สนั่นโลกออนไลน์ของบ้านเราในขณะนี้ กับเรื่องราวอันน่ายกย่องของหนูน้อยวัยเพียง 12 ปี ผู้เข้าช่วยเหลือเด็กอนุบาล 2 วัย 6 ขวบ ที่ประสบเหตุจมน้ำ ด้วยการทำ CPR (Cardiopulmonary resuscitation) หรือการปฐมพยาบาลด้วยการปั๊มหัวใจ จนเด็กวัย 6 ขวบกลับมาหายใจได้อีกครั้ง

หลังจากที่เรื่องราวถูกส่งต่อออกไป ก็นำมาซึ่งเรียกชื่นชมอย่างล้มหลาม ถึงความกล้าหาญ มีไหวพริบ ความมีสติ และกล้าตัดสินใจในเวลาอันคับขัน ของเด็กชายวัย 12 ปีผู้นี้ ขณะเดียวกันก็มีหลายความเห็นที่บอกว่า ผู้ใหญ่หลายคนยังทำ CPR ไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ

ฮีโรหนุ่มน้อยผู้นี้คือ ด.ช.ศิราพัช ศรีงาม หรือ น้องหมัด นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนศาลาคู้ เขตมีนบุรี

น้องหมัดได้เปิดใจกับทีมข่าว MGR Live ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ขณะที่กำลังเล่นอยู่ที่บ้านเพื่อน บริเวณซอยราษฎร์อุทิศ 70 เขตมีนบุรี ก็ได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือว่ามีเด็กจมน้ำ ก่อนจะทราบว่าเด็กที่ประสบเหตุนั้นตนเองก็รู้จัก เพราะเป็นน้องที่อาศัยอยู่ละแวกบ้านใกล้เคียงกัน

“เหตุการณ์วันนั้นเป็นวันเสาร์ (22 ต.ค.65) ประมาณตอนเที่ยง ผมมาเล่นที่บ้านเพื่อน แล้วก็มีคุณลุงคนหนึ่งเห็นเหมือนเด็กเล่นน้ำ แต่ไม่ใช่ เขามาจอดดูซักพักนึงเห็นเด็กจมลงไป แล้วเขาก็ลงไปช่วย

เสร็จแล้วเขาขึ้นมา ผมก็ได้ยินว่า "ช่วยด้วย ๆ" ผมก็เลยเดินมาดู ถ้าผมลงไปช่วยเองผมก็น่าจะจมเหมือนกันครับ ผมก็เห็นน้องเขาหมดสติ”

โชคดีที่น้องหมัดอยู่บริเวณนั้น จึงใช้ความรู้เรื่องการทำ CPR ปั๊มหัวใจช่วยเหลือเบื้องต้น จนหนูน้อยวัย 6 ขวบได้สติ ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากมูลนิธิกู้ภัยร่มไทร นำส่งโรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ในเวลาต่อมา

“ผมก็เลยเริ่มทำ CPR ตรง 1 ส่วน 4 ของร่างกายก็คือช่วงหัวใจ ตรงกลาง ตรงอก แล้วก็เอามือมาประกบกันแบบที่เคยเห็นกัน ผมก็ปั๊มไปเรื่อย ๆ ประมาณ 4-5 นาที ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าถ้าเราช่วยได้เราก็ดีใจครับ

หลังจากนั้นน้องเขาลืมตาแต่หายใจยังไม่ค่อยคล่องครับ เพราะสำลักน้ำ แล้วก็มีคนโทร.ตามกู้ภัย ตอนนั้นน้องเขาลุกได้แล้วครับ ก็ดีใจครับที่ได้ช่วย เป็นครั้งแรกเลย(ที่ได้ช่วยชีวิตคน)

จากทฤษฎีสู่ปฏิบัติจริง “ทำ CPR ใคร ๆ ก็ทำได้”

ถามถึงความรู้ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ฮีโรชั้นประถมก็กล่าวว่า เรียนรู้มาจากการจัดฝึกอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน CPR@AED ที่โรงเรียนของเขาจัดขึ้น ร่วมกับมูลนิธิกู้ภัยร่มไทร

อีกทั้งยังเป็นความบังเอิญอย่างมาก ที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยผู้มาให้ความช่วยเหลือ นำส่งน้องวัย 6 ขวบผู้ประสบเหตุจมน้ำไปยังโรงพยาบาล ก็เป็นหนึ่งในทีมวิทยากรจากมูลนิธิกู้ภัยร่มไทร ที่ไปทำการฝึกอบรมให้กับโรงเรียนศาลาคู้ในวันนั้นอีกด้วย

ในเวลาเพียงไม่ถึง 3 สัปดาห์หลังจากนั้น ใครจะไปคิดว่า จะมีนักเรียนได้นำความรู้เรื่องของการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานมาใช้จริง จนสามารถช่วยชีวิตคนได้

“วันที่ 5 ต.ค.65 ทางโรงเรียนเขาจัดงานเข้าค่ายลูกเสือ แล้วเขาก็ไปเชิญทางมูลนิธิกู้ภัยร่มไทรมาฝึกสอนทำ CPR ครับ ผมก็ตั้งใจจำสิ่งที่สอน ก็รู้สึกสนุกแล้วก็มีความสุข แล้วพี่ที่เขามาสอนเขาก็มาที่เกิดเหตุ มานำตัวส่งน้องโรงพยาบาลครับ ตอนนี้น้องก็ปลอดภัยแล้วครับ”

เกี่ยวกับเรื่องนี้ วิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานมูลนิธิกู้ภัยร่มไทรมีนบุรี ก็กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ชื่นชมฮีโรตัวน้อย พร้อมฝากถึงภาครัฐในการสนับสนุนการฝึกอบรมลักษณะนี้ให้หน่วยงานต่าง ๆ ด้วย

“ต้องขอแสดงความชื่นชมยินดีกับการจัดอบรมการทำ CPR และ AED ให้กับเด็กนักเรียน โดยเฉพาะต้องยินดีกับนักเรียนโรงเรียนศาลาคู้ ที่ได้ผ่านการอบรมเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565 โดย ด.ช.ศิราพัช ศรีงาม นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนศาลาคู้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top