Saturday, 21 June 2025
NEWS FEED

ผบ.ตร. บินด่วนนราธิวาส เร่งตรวจสอบเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ ถล่มแฟลตตำรวจ เบื้องต้น ผู้กองจราจร เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก

จากกรณี เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2565 เวลาประมาณ 12.50 น. ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นภายในบริเวณแฟลตข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส (แฟลต ตร)  ถ.สุริยะประดิษฐ์ เทศบาลเมืองนราธิวาส อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 1 ราย  คือ ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ พันธะนิยะ รอง สว.จร.เมืองนราธิวาส และบาดเจ็บจำนวนมาก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น 

จากการตรวจสอบในเบื้องต้น ทราบว่ามีคนร้ายจำนวน 1 คน แต่งกายคล้าย จนท.ได้นำรถยนต์กระบะประกอบระเบิด(คาร์บอมบ์) นำมาจอดไว้ภายในบริเวณแฟลตข้าราชการตำรวจ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างปิดกั้นพื้นที่ รอเข้าตรวจสอบเพื่อความปลอดภัย 

ILINK แย้ม Q4 สดใส รับงาน 'เกาะเต่า' หนุนกำไรพีคยาว วางงบร้อยล้าน ขยายคลังสินค้าใหม่

ILINK โชว์ยอดขายธุรกิจจัดจำหน่ายโต 2 หลัก (double-digit growth) ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 ตอบรับกระแสดิจิทัล และเทรนโซล่ารูฟพุ่ง พร้อมโชว์ความแข็งแกร่ง เตรียมขึ้นแท่นเป็นผู้นำอันดับ 1 งานโครงการ Submarine Cable ของไทย หลังคว้างานยักษ์ติดตั้งเคเบิลใต้น้ำเกาะเต่า โดยบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ หรือ ILINK นำเสนอข้อมูลภาพรวมธุรกิจและผลประกอบการของบริษัทฯ ผ่านงาน Opp Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า “9 เดือนแรกของปีนี้ ILINK ทำรายได้ 4,862.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.29% และมีกำไรสุทธิ 261.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.18% เมื่อเทียบกับงวด 9 เดือนของปีก่อน และสำหรับไตรมาส 3/65 ILINK มีรายได้ 1,806.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.42% และทำกำไรสุทธิ 85.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.17% จึงมั่นใจว่าทิศทางผลประกอบการไตรมาส สุดท้ายของปี จะเติบโตทะลุเป้าแน่นอน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับปัจจัยบวกจากการชนะงานจ้างก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำ ระบบ 33 เควี ไปยังเกาะเต่า ที่จะช่วยหนุนทั้งรายได้และกำไรยาวไปถึงปี 2567”

ศรชล.ภาค 1 บูรณาการร่วม ทรภ.1 จับกุมเรือขนน้ำมันเถื่อนในทะเล

วันที่ 21 พ.ย.65 เวลา 23.00 น. ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 (ศรชล.ภาค1) บูรณาการร่วม ทัพเรือภาคที่ 1 (ทรภ.1) ดำเนินการตรวจสอบ และ จับกุมเรือประมงดัดแปลงลักลอบขนน้ำมันผิดกฎหมาย บริเวณ ปากน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง 

จากการปฏิบัติการด้านการข่าว นำไปสู่การตรวจสอบ และจับกุมเรือ บ.ดิวันมารีน 8 พร้อมไต๋เรือและลูกเรือ รวม 5 คน ที่บริเวณปากน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง ตรวจสอบในเบื้องต้นพบเรือ บ.ดิวันมารีน 8 ซึ่งเป็นเรือประมงดัดแปลง มีการลักลอบขนนำ้มันผิดกฎหมาย (น้ำมันเถื่อน) ขึ้นสู่บก 

 

WICE โชว์งบ 9 เดือน กำไรโต 29% พร้อมให้ข้อมูลทิศทาง Q4/65 โตต่อเนื่อง ในงาน Opportunity Day

นายเอกพล พงศ์สถาพร (กลาง) ประธานกรรมการ ร่วมด้วย นายชูเดช คงสุนทร (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ และ นางสาวบุศรินทร์ ต่วนชะเอม (ขวา) ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE ให้ข้อมูลผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 2565 รายได้รวม 5,851 ล้านบาท กำไรสุทธิ 458 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 29% พร้อมให้ข้อมูลทิศทางธุรกิจไตรมาส 4/65 มั่นใจทำผลประกอบการนิวไฮต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

'รมว.วราวุธ' ร่วมหารือทวิภาคี ไทย - ซาอุดีอาระเบีย เสริมสร้างความร่วมมือไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

ช่วงค่ำวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ร่วมคณะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าเฝ้าฯ หารือทวิภาคีกับ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรี แห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกพิเศษของการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ปี 2565 (APEC 2022) ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างกันไปสู่ระดับที่สูงขึ้น

โดยมีข้อหารือสำคัญที่เกี่ยวข้อง อาทิ การส่งเสริมความร่วมมือ ทั้งในมิติการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน สังคมและวัฒนธรรม รวมถึงสาขาอื่น ๆ  เพื่อเสริมสร้างผลประโยชน์ร่วมกัน ทั้งยังมีการเชื่อมโยงวิสัยทัศน์ซาอุดีอาระเบีย (Saudi Vision 2030) และตะวันออกกลางสีเขียว (Middle East Green Initiative) เข้ากับแนวคิดเศรษฐกิจ BCG Model ของไทย เพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมีการลงนามแผนงานการขับเคลื่อนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย (พ.ศ. 2565 – 2567) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในด้านการจัดการเพื่อให้เกิดความยั่งยืน ความร่วมมือด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความร่วมมือการสำรวจทางธรณีวิทยา องค์ความรู้และเทคโนโลยี

สื่อต่างชาติยังทึ่ง ‘รถไฟลอยน้ำ’ เขื่อนป่าสักฯ ชวนคนไทยเที่ยวชมความสวยงามถึงสิ้นเดือนม.ค.66

เพจ โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า รถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักฯ ดังไกลถึงสำนักข่าวต่างชาติ บน South China Morning Post และ Reuters TV คนไทยยังไม่เคยไปลองแล้ว!!!

พอดีวันนี้ไปเจอคลิป รถไฟลอยน้ำ ใน Youtube บนช่อง South China Morning post และ Reuter ซึ่งทั้ง 2 ช่องเป็นสำนักข่าวใหญ่ระดับโลก 
คลิปจาก South China Morning post
https://youtu.be/YQLMogTXATI

โดยในคลิปให้ชมความสวยงาม ของรถไฟลอยน้ำบนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งมี Caption ให้รายละเอียดของการให้บริการรถไฟ เพื่อเปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของไทยให้กับต่างชาติ

สำหรับขบวนรถพิเศษนำเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จะเปิดให้บริการแบบเช้าไปเย็นกลับ ซึ่งในปีนี้ได้กำหนดจัดในทุกวันเสาร์ และอาทิตย์ ตลอดเดือนพฤศจิกายน 2565 – มกราคม 2566 รวม 24 วัน ประกอบด้วย 

>> วันที่ 5–6, 12-13, 19-20, 26-27 พฤศจิกายน 2565 
>> วันที่ 3-4, 10-11, 17-18, 24-25 ธันวาคม 2565 
>> วันที่ 7-8, 14-15, 21-22, 28-29 มกราคม 2566

กรมทะเลและชายฝั่ง ผนึกกำลัง เอ็มซีเอ็ม คอมมูนิเคชั่น และจังหวัดภูเก็ต จัดโครงการ Go Green Active กิจกรรมดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูปะการังอ่าวป่าตอง

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เป็นหน่วยงานหลักที่มีหน้าที่ดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ไม่ว่าจะเป็นป่าชายเลน หญ้าทะเล ชายหาด เกาะแก่งต่าง ๆ รวมทั้งพื้นที่ระบบนิเวศชายฝั่งทะเลที่สำคัญ โดยเฉพาะแนวปะการังซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย หลบภัย ของสัตว์น้ำนานาชนิด แหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน และแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำที่ถือเป็นส่วนหนึ่งในการดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวทะเล ดังนั้น กรมฯ ได้มีแนวคิดที่จะยกระดับการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของประเทศไทยให้เกิดความยั่งยืน จึงจับมือกับบริษัท เอ็มซีเอ็ม คอมมูนิเคชั่น จำกัด ริเริ่มโครงการ Go Green Active กิจกรรมดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูปะการังอ่าวป่าตอง โดยมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 ณ บริเวณหาดป่าตอง อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต สำหรับการจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมซึ่งส่งผลในเชิงสุขภาพ สร้างจิตสำนึกให้กับนักท่องเที่ยว ประชาชน ผู้ประกอบการในการลดปริมาณขยะ เพื่อลดสภาวะโลกร้อน และให้เห็นคุณค่าของการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีจิตสำนึก รวมทั้งสร้างทัศนคติในการใช้ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมอย่างรับผิดชอบ สำหรับการจัดกิจกรรมดังกล่าว ถือเป็นหนทางหนึ่งในการสร้างจิตสำนึกที่ยั่งยืน ทำให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมผ่านเครือข่ายผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่มีความชื่นชอบในการดำน้ำในพื้นที่ธรรมชาติ พร้อมทั้งเป็นกระบอกเสียงประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และเข้าใจในการปฏิบัติภารกิจกอบกู้มหาสมุทรผ่านการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ยกระดับกิจกรรมดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล รวมถึงสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมการสร้างทัศนคติในการอยู่ร่วมกันในสิ่งแวดล้อมอย่างมีความรับผิดชอบตามหลักแนวคิด Go Green เพื่อลดปริมาณการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและบำบัดสิ่งแวดล้อมด้วยการบริหารจัดการทรัพยากรทาง

นายอรรถพล กล่าวต่อว่า ในวันนี้ (19 พฤศจิกายน 2565) ตนได้นำทีมผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมโครงการ Go Green Active กิจกรรมดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูปะการังอ่าวป่าตอง ซึ่งภายในงานได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ อาทิ การจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติทางทะเล การจัดแสดงงานศิลปะจากขยะรีไซเคิล การแข่งขันดำน้ำชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา หรือ Open Water Princess Cup กิจกรรมดำน้ำเก็บขยะในแนวปะการัง เก็บขยะใต้ทะเล ชายหาด การดำน้ำปลูกฟื้นฟูปะการังโดยการเก็บชิ้นส่วนปะการังที่แตกหัก และกิจกรรมดำน้ำติดตั้งซ่อมแซมทุ่นสำหรับผูกจอดเรือแทนการทิ้งสมอป้องกันไม่ให้ทิ้งสมอบนแนวปะการัง เป็นต้น พร้อมกันนี้ กรมฯ ได้เชิญนักดำน้ำอาสาสมัครของกรมฯ จำนวน 250 คน พร้อมทั้งสนับสนุนยานพาหนะสำหรับอาสาสมัครเครือข่ายนักดำน้ำ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์ในการดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์ เรือยาง เรือ Diving Boat พลขับ อาหาร อุปกรณ์ดำน้ำ และทุ่นลอยเพื่อความปลอดภัยของนักดำน้ำและกำหนดจุดดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์ปะการัง

ภายหลังเสร็จสิ้นการจัดกิจกรรม เจ้าหน้าที่กรมฯ ได้รายงานผลการดำน้ำเก็บขยะในแนวปะการัง โดยนักดำน้ำอาสาสมัครสามารถเก็บขยะรวมน้ำหนักทั้งสิ้น 321.9 กก. ซึ่งแบ่งออกเป็นขยะประเภทเชือก 53.9 กก. คิดเป็นร้อยละ 16.74 และขยะประเภทอวน 31 กก. คิดเป็นร้อยละ 9.63 ขยะประเภทอื่นๆ 237 กก. คิดเป็นร้อยละ 73.63 ทั้งนี้ ขยะประเภทเชือกและอวนกรมฯ ไม่ได้ส่งให้ EFJ นำไปรีไซเคิล เนื่องจากสะอาดไม่พอต่อกระบวนการรีไซเคิล พร้อมกันนี้ กรมฯ ได้มอบใบประกาศเกียรติบัตรแก่นักดำน้ำอาสาสมัครในโอกาสที่ร่วมกันทำคุณประโยชน์ต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทางเอ็มซีเอ็ม คอมมูนิเคชั่น จังหวัดภูเก็ต เทศบาลเมืองป่าตอง นักดำน้ำอาสาสมัคร และประชาชนในพื้นที่ที่ร่วมกันดำเนินโครงการ Go Green Active กิจกรรมดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูปะการังอ่าวป่าตองจนประสบความสำเร็จ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดกิจกรรมในครั้งนี้จะเป็นกระบอกเสียงที่สามารถสร้างจุดเปลี่ยนและสร้างจิตสำนึกของประชาชนให้หันมาใส่ใจในสิ่งแวดล้อม อีกทั้งสร้างความประทับใจและประสบการณ์ที่ดีต่อนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศอีกด้วย “นายอรรถพล กล่าวทิ้งท้าย”

ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือติดตามความพร้อมการจัดงานวันกองทัพเรือ ประจำปี 2565 ภายใต้กรอบในการรำลึกครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี 'องค์บิดาของทหารเรือไทย' 

(21 พ.ย. 65)  พล.ร.อ.สุวิน  แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานวันกองทัพเรือ ติดตามความพร้อมในการจัดงานวันกองทัพเรือ ประจำปี 2565 ณ หอประชุมกองทัพเรือ

โดยกองทัพเรือกำหนดจัดงานวันกองทัพเรือ ประจำปี 2565 ในวันอังคารที่ 22 พ.ย.2565 ภายใต้กรอบครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่จะเวียนมาบรรจบในวันที่ 19 พ.ค.2566 เพื่อสร้างการรับรู้ต่อกำลังพลของกองทัพเรือ รวมถึงประชาชนให้ทราบถึงพระประวัติ และร่วมน้อมรำลึกถึงพระคุณของพระองค์ท่านที่ได้วางรากฐานกิจการทหารเรือไทยให้มีความมั่นคงในการเป็นรั้วของชาติทางทะเลอย่างเข้มแข็ง และเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนตราบปัจจุบัน 

'รมว.วราวุธ' ชี้ ภาคผลิตและบริการ คือหัวใจสำคัญของการปรับพฤติกรรมคนไทยไปสู่การบริโภคที่ยั่งยืน เพื่อมุ่งเป้าหมาย Net Zero GHG

วันนี้ (21 พฤศจิกายน 2565) เวลา 13.30 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "ทิศทางของนานาชาติและประเทศไทยในการขับเคลื่อนสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์" ในพิธีเปิดการประชุมวิชาการระดับภูมิภาค Asia Pacific Roundtable on Sustainable Consumption and Production (APRSCP) ครั้งที่ 16 จัดโดย สมาคมส่งเสริมการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน (ประเทศไทย) โดยมี มร.สันเจย์ กุมาร์ ประธานเครือข่ายส่งเสริมการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืนแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และ ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ประธานกรรมการการจัดงานและประธานเครือข่ายส่งเสริมการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืนแห่งประเทศไทย (Thai SCP Network) กล่าวต้อนรับ ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย นักวิชาการ องค์กรระหว่างประเทศ ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม จากประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กว่า 300 คน เข้าร่วมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ เพื่อส่งเสริม และแลกเปลี่ยนแนวทางการปฏิบัติที่จะนำไปสู่การสร้างความร่วมมือในด้านการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน และการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero Emission ณ โรงแรมปทุมวันปริ้นเซส กรุงเทพฯ และผ่านระบบ Video conference

นายวราวุธ กล่าวว่า วันนี้แนวคิดการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน หรือ Sustainable consumption and production ถือเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญที่จะพาประเทศไทยก้าวเข้าสู่สถานะความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero GHG ภายในปี ค.ศ. 2065 เพราะหากภาคอุตสาหกรรม ภาคการผลิต หรือภาคธุรกิจ มีการปรับเปลี่ยนแนวคิดในการผลิตสินค้าและการบริการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จะมีส่วนสำคัญที่จะทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและกรอบความคิดของคนในสังคมทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกได้ แต่ถ้าหากยังมีแนวคิดการผลิตและการบริการแบบเดิมก็จะเริ่มเผชิญกับกำแพงภาษีทางด้านสิ่งแวดล้อมที่มีมากขึ้น ดังนั้น การผลิตและการบริการนับจากนี้ไป จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยน ต้องมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รูปแบบการบริโภคของคนในสังคมก็จำเป็นต้องเปลี่ยน ต้องมีทัศนคติใหม่ เพื่อนำไปสู่การลดการใช้ทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือย เพื่อช่วยให้สังคมเกิดความยั่งยืนยิ่งขึ้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top