เมื่อวันที่ 5 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากพระลูกวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี และชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้วัด ว่าเกิดเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นยกพวกตีกัน มีทั้งอาวุธ มีด ปืน และระเบิดขว้างปาใส่กันเสียงดังสนั่นหวั่นไหว อีกทั้งยังตะโกนท้าทายใส่กันอยู่ตลอดเวลา หลังก่อเหตุพากันวิ่งหลบหนีเข้ามาในวัดจนทำให้พระภิกษุ สามเณร รวมถึงชาวบ้านที่อยู่ละแวกใกล้เคียง เกรงจะได้รับอันตราย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นถึง 3 ครั้ง ภายในหนึ่งอาทิตย์ 

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดดังกล่าวเพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยพระลูกวัดรูปหนึ่ง (สงวนชื่อนามสกุล) เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 66 เวลาประมาณ 01.30 น. มีกลุ่มวัยรุ่นสองกลุ่มไล่ตีกันมา มีทั้งมีด ระเบิด และปืน ไล่ตีกันมาจากถนน ก่อนจะวิ่งหลบหนีปีนรั้วเข้ามาในวัด แล้วมีการตะโกนด่าทอ ท้าทายใส่กัน อีกทั้งยังได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้นหลายครั้ง ทั้งที่วัดปิดประตูทางเข้าแล้ว บางคนถือมีดกันคนละเล่ม ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 66 เวลาประมาณ 16.00 น. มีเด็กนักเรียนมัธยมใกล้วัดถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บ

และล่าสุดครั้ง 3 เกิดขึ้นช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 4 พ.ค. 66 เวลาประมาณ 23.30 น.วัยรุ่นวิ่งไล่ตีกันมา มีเสียงปืน เสียงระเบิดเหมือนทุกครั้ง แล้วก็พากันปีนเข้ามาในวัดอีกเหมือนเดิม

พระลูกวัด กล่าวต่ออีกว่า เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทำให้พระภิกษุ สามเณร หวาดกลัวเกรงว่าจะถูกลูกหลง ไม่มีใครกล้าออกมาจากกุฏิ ต้องปิดล็อกประตู ซึ่งตลอดเวลาที่ทั้งสองกลุ่มห้ำหั่นกัน จะมีทั้งเสียงปืน เสียงระเบิดดังอยู่ตลอด ทำให้พระผู้ใหญ่ที่อายุมากตกใจ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเข้ามาช่วยตรวจสอบเพราะกลัวคู่กรณีเข้าใจผิดคิดว่ากลุ่มวัยรุ่นที่หนีเข้ามาในวัด เป็นลูกศิษย์วัด แล้วมาแก้แค้นยิงปืนเข้ามาแล้วทำให้พระหรือคนในวัดถูกลูกหลง จนเกิดการสูญเสีย

ชาวบ้านรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ใกล้วัด กล่าวว่า ภายในหนึ่งอาทิตย์เกิดเหตุวัยรุ่นไล่ตีกันบ่อยหลายครั้ง พอได้ยินเสียงปาระเบิดหรือเสียงปืน ต้องพาลูกเมียเข้าบ้านปิดประตูทันที เพราะกลัวถูกลูกหลงและจะได้รับอันตราย กลุ่มวัยรุ่นพวกนี้จะมีอายุระหว่าง 15-18 ปี เท่านั้น บางคนก็ไม่ได้เรียนหนังสือ อยากฝากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยเข้ามาตรวจสอบบ่อย ๆ อาจจะทำให้วัยรุ่นพวกนี้เกิดความเกรงกลัวขึ้นมาบ้าง ชาวบ้านจะได้อุ่นใจ

ทั้งนี้ กล้องวงจรปิดภายในวัด สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเอาไว้ได้อย่างชัดเจน โดยทั้งสองกลุ่มวิ่งไล่ตีกันมาโดยไม่สนใจว่าชาวบ้านจะได้รับความเดือดร้อนหรือได้รับอันตรายแต่อย่างใด ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ถึงเวลาแล้วที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเรียกความเชื่อมั่นให้กับชาวบ้าน อย่าปล่อยให้พระภิกษุ สามเณร และชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำ ต้องอยู่อย่างหวาดผวาแบบนี้เลย

ที่มา : https://www.naewna.com/local/728961