Tuesday, 17 June 2025
NEWS FEED

รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญกำลังพลหน่วยปฏิบัติงานในสนาม ประจำปี 2566 ในพื้นที่กองกำลังสุรนารี

วันที่ 9 มกราคม 2566 พลเอกศิราวุฒิ วงศ์ขันตี รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้เเทน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเดินทางมาตรวจเยี่ยมเเละบำรุงขวัญกำลังพลป้องกันชายแดนในพื้นที่กองกำลังสุรนารี ณ อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร(ผามออีแดง) อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมี พลตรี บุญสิน พาดกลาง รองแม่ทัพภาคที่ 2 พลตรีวีระยุทธรักศิลป์ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี และผู้บังคับหน่วยในพื้นที่ ให้การต้อนรับและร่วมปฏิบัติภารกิจ

องค์การสวนสัตว์ ส่งนกกาฮัง (นกกก) กลับบ้าน ณ ดอยหลวงเชียงดาว ครั้งแรกของ จ.เชียงใหม่ ในรอบ 20 ปี

องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ยังคงมุ่งมั่นดำเนินการศึกษาวิจัยที่เป็นการกอบกู้วิกฤติการณ์การสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าตามธรรมชาติ ด้วยการนำสัตว์ป่าหายากกลับคืนสู่ธรรมชาติเพื่อประโยชน์ของการฟื้นฟูทรัพยากรและการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย  โดยการนำ 'นกกาฮัง' หนึ่งในนกเงือกขนาดใหญ่ที่สุดของไทยปล่อยคืนสู่พื้นที่ป่าอนุรักษ์ของจังหวัดเชียงใหม่ 'นกกาฮัง' หรือ 'นกกก' คู่แรกของจังหวัดเชียงใหม่ และเป็นนกกาฮังคู่ที่สองที่ทำการทดลองปล่อยคืนสู่ธรรมชาติภาคเหนือ ภายหลังจากการสูญหายไปจากผืนป่าภาคเหนือของประเทศไทยมานานกว่า 20 ปี                                                   

วันที่ 9 มกราคม 2566 ณ สถานีวิจัยสัตว์ป่าดอยเชียงดาว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ นายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย นายวุฒิชัยม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ นายกฤตภาส ขันทะธงสกุลดี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ นายสงัด บูรณภัทรโชติ นายอำเภอเชียงดาว นายณัฐกุล ขันทะสอน หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว คณะผู้บริหารองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ดร.วรพัฒน์ อรรถยุกติ ประธานมูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ-เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในพื้นที่ภาคเหนือ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น หัวหน้าหน่วยงานภาครัฐ ผู้นำชุมชน ผู้นำโรงเรียน ตัวแทนชาวบ้านในจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันเปิดโครงการ “การทดลองปล่อยนกกาฮังคืนสู่ธรรมชาติ เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพในเขตพื้นที่ภาคเหนือ” ณ สถานีวิจัยสัตว์ป่าดอยเชียงดาว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้แนวคิด 'นกกาฮังปิ๊กบ้าน' โดยการ นำนกกาฮังที่ได้รับการฟื้นฟูพฤติกรรมปล่อยคืนสู่ธรรมชาติในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ของดอยหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นของกระบวนการในการฟื้นฟูประชากรนกเงือกขนาดใหญ่ขึ้นใหม่อีกครั้ง ภายหลังการสูญพันธุ์ไปจากพื้นที่ป่าอนุรักษ์ภาคเหนือมานานนับ 20 ปี                                                    

จากความสำเร็จขั้นต้นของการนำนกกาฮังคู่แรก ที่ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ภาคเหนือ ณ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จ. ลำปาง เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งนกที่ทำการทดลองปล่อยยังคงสามารถอาศัยอยู่ได้ในพื้นที่ป่าธรรมชาติ คณะผู้วิจัยของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ร่วมกับมูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่ประกอบด้วยอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าในพื้นที่ภาคเหนือกว่า 6 แห่ง และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.)  และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.) จึงได้ดำเนินโครงการศึกษาวิจัย การทดลองปล่อยนกกาฮังคืนสู่ธรรมชาติฯ เป็นครั้งที่ 2 ณ พื้นที่ป่าอนุรักษ์ของสถานีวิจัยสัตว์ป่าดอยเชียงดาว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว (พื้นที่บริเวณดอยหลวงเชียงดาว) ขึ้น ซึ่งถือเป็นนกกาฮังคู่แรก ที่ทำการทดลองปล่อยคืนสู่ธรรมชาติอย่างเป็นทางการในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ 

'รมว.ยุติธรรม' มอบเงินเยียวยาผู้เสียหายและทายาท เหยื่อ Mountain B จำนวน 12 ราย เฉียดล้านบาท

ที่ ว่าการอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานมอบเงินเยียวยา จากคดีอาญา ตามพ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา คดีไฟไหม้ผับ Mountain B 12 ราย เป็นเงิน 954,104.75 บาท โดยมี นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ผู้เสียหายและทายาท เข้าร่วม

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า สำหรับลงพื้นที่เพื่อมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาให้กับประชาชนที่ตกเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เพลิงไหม้สถานบันเทิง Mountain B เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2565 ซึ่งมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จำนวนมากถึง 57 ราย ด้วยเหตุนี้ กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จึงได้นำเงินเยียวยามามอบให้แก่ผู้เสียหาย โดยลงพื้นที่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2565 มอบเงินเยียวยาให้แก่ผู้เสียชีวิตจำนวน 19 ราย รวมเป็นเงิน 2,176,899 บาท (สองล้านหนึ่งแสนเจ็ดหมื่นหกพันแปดร้อยเก้าสิบเก้าบาทถ้วน) และต่อมากรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้โอนเงินเยียวยาให้แก่ผู้เสียหายอีก 25 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 6 ราย และบาดเจ็บ 19 รายรวมเป็นเงิน 1,922,179 บาท (หนึ่งล้านเก้าแสนสองหมื่นสองพันหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเก้าบาทถ้วน)

‘นักวิชาการ’ วิจารณ์ยับ!! ปม ‘ช็อปปิงงานวิจัย’ พบบางรายมีชื่อในงานกว่า 40 ฉบับภายใน 1 ปี

นักวิชาการดังร่วมวิจารณ์สนั่น ปมพบนักวิชาการในต่างประเทศจ่ายเงินเพื่อซื้องานวิจัยก่อนจะยัดชื่อตัวเองเข้าไปด้วยโดยไม่ได้ทำจริง พบบางราย 1 ปี มีชื่อในงานวิจัยกว่า 40 ฉบับ เรียกร้องให้มีการตรวจสอบและจัดการขั้นเด็ดขาด

(9 ม.ค. 66) ได้เกิดประเด็นดรามาในวงการนักวิชาการ หลังมีประเด็นที่กำลังถูกถกเถียงกันอยู่ในเรื่องที่เกี่ยวกับนักวิชาการไทยในต่างประเทศรายหนึ่งได้ออกมาแฉว่ามีการซื้อขายออนไลน์เพื่อให้ได้ใส่ชื่อตัวเองเป็นผู้แต่งงานวิจัยโดยไม่ต้องทำจริง และเลือกได้ว่าอยากให้มีชื่อตัวเองอยู่ในงานไหน ซึ่งงานวิจัยที่มีผู้แต่งหลายคนจะเรียงชื่อตามลำดับความสำคัญและการมีส่วนร่วม ถ้าอยู่ลำดับแรกก็แพงหน่อย ลำดับถัดมาก็ราคาลดหลั่นลงไป

โดยเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุ

"ธุรกิจที่น่ากลัวที่สุดของสังคมวิจัยคือการที่นักวิจัยไป shopping งานวิจัยที่ตัวเองไม่ได้ทำ เช่น ไปอ่านงานที่คิดว่าอยากมีชื่อตัวเองใน paper นั้น ๆ แล้วใช้เงินไปซื้อตำแหน่งของการเป็นผู้แต่ง หรือผู้นิพนธ์ ในงานวิจัย ชื่อแรกก็จะแพงหน่อย ชื่อกลาง ๆ ก็จะถูกหน่อย เมื่อได้จำนวนผู้แต่งครบแล้ว งานวิจัยผี ๆ นี้ก็ส่งไปตีพิมพ์โดยคนที่จ่ายเงินเป็นผู้แต่งก็จะไปสามารถ claim ผลงานทางวิชาการ หรือไปใช้ขอทุนจากหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อถอนทุนคืนได้ งานวิจัยที่ออกมาจะมีผู้แต่งแบบหลากหลายสถาบัน หลายประเทศที่ไม่เคยเห็นหน้า หรือรู้จักกันเลย พฤติกรรมแบบนี้ไม่แตกต่างจากการคอร์รัปชันที่เกิดขึ้นในวงการราชการเลย ที่เสียใจคือ เห็นชื่อนักวิจัยของไทยในงานแบบนี้ด้วย"

นอกจากนี้ ยังมีนักวิชาการอีกมากมายเช่น รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า “มีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่คนหนึ่งไปตีพิมพ์ในเรื่องของวัสดุนาโนเป็นชื่อที่หนึ่งโดยจ่ายค่าตีพิมพ์ไป 30,000 บาท โดยที่สายงานอยู่เทคนิคการแพทย์ ไม่ใช่วัสดุศาสตร์ แล้วนำบทความที่ตีพิมพ์นั้นมาเบิกกับมหาวิทยาลัยจำนวน 120,000 บาท เรื่องนี้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ต้องสืบสวนสอบสวนครับ เพราะตอนนี้มีเว็บไซต์ที่ขายการเอาชื่อไปแปะในวารสารวิชาการ กำลังเป็นประเด็นอยู่ #CHES ศูนย์ประสานงานบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ อ.อ๊อด ในฐานะ เลขาธิการ”

รองต่อศักดิ์ฯ ส่งตำรวจทางหลวง จิตอาสา มอบความสุข เด็กนักเรียนถิ่นทุรกันดาร ขนรถจักรยาน ขนม ตุ๊กตา จัดกิจกรรมปีใหม่ พ่วงวันเด็ก ล่วงหน้า

วันที่ 9 มกราคม 2566 เวลา 13.00 น.ที่โรงเรียนบ้านน้ำซับ ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ พ.ต.ท.จิระพันธ์ มณีรัตน์ สารวัตรตำรวจทางหลวงนครราชสีมา ร่วมกับ นายพงษ์เทพ มาลาชาสิงห์ ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอำเภอวังน้ำเขียว จิตอาสา 904 ตำรวจจิตอาสาทางหลวงนครราชสีมา และชมรมฮักเขาใหญ่

ร่วมกันจัดกิจกรรม วันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 ล่วงหน้า รวมถึงงานปีใหม่ พร้อมมอบ เสื้อกันหนาว ขนม น้ำผลไม้ น้ำดื่ม รถจักรยาน ตุ๊กตา ไปมอบให้เด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านน้ำซับ ที่อยู่ในพื้นที่ทุรกันดาร เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ สร้างความสุขให้เด็กๆ นักเรียน พร้อมยาสามัญประจำบ้าน ช่วยสร้างความอบอุ่นในช่วงหน้าหนาว โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว ช่วงกลางคืนจะมีอากาศหนาวเย็นอุณหภูมิลดเหลือ 16-17 องศา

ผบ.ตร. ชื่นชม ตำรวจสายตรวจ สภ.บางบัวทอง กระโดดน้ำช่วยชีวิตหญิงสาวคิดสั้นฆ่าตัวตาย ก่อนช่วยปฐมพยาบาลทำCPR จนปลอดภัย พร้อมมอบรางวัลทำดี

วันนี้ (9 ม.ค.66) เวลา 15.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบรางวัลโครงการ 'ทำดี มีรางวัล' แก่ตำรวจสายตรวจ สภ.บางบัวทอง จว.นนทบุรี ที่ช่วยหญิงคิดสั้นกระโดดน้ำ

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ.2566 เวลาประมาณ 02.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุ มีหญิงสาวลักษณะคล้ายจะคิดสั้นด้วยการกระโดดน้ำฆ่าตัวตายที่บริเวณคลองประปา ทาง ส.ต.อ.วิษณุ พันวอ และ ส.ต.ต.ณัฐพล คลิ้งขาว ผบ.หมู่(ป.) สภ.บางบัวทอง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที บริเวณคลองประปา พื้นที่ ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พบหญิงคนดังกล่าวอยู่กลางคลองประปาแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นายจึงตัดสินกระโดดน้ำลงไปช่วยเหลือหญิงสาวที่กำลังจะหมดแรงจมน้ำ ได้สำเร็จ จากนั้นจึงช่วยกันปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ด้วยการทำ CPR จนปลอดภัย ซึ่งตนได้สอบถามตำรวจสายตรวจทั้งสองนายทราบว่า มีการฝึกทบทวนยุทธวิธีและการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ สภ. เกือบทุกวันพุธของสัปดาห์ ส่วนสาเหตุที่หญิงคนดังกล่าวคิดสั้นนั้น เพราะเกิดจากความเครียดจากปัญหาส่วนตัวกับคนในครอบครัว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อญาติให้มารับตัวกลับที่พัก คลิปวีดีโอการช่วยเหลือของตำรวจ ถูกส่งต่อแพร่หลายในสังคมออนไลน์ ซึ่งสร้างความประทับใจและได้รับความชื่นชมจากสังคมเป็นอย่างมาก

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ทุ่มงบกว่า 12 ล้านบาท ส่งความสุขแก่เยาวชนทั่วประเทศ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566

วันนี้ (9 ม.ค. 66)  เวลา 09.30 น. นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการ นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมด้วยคณะกรรมการ และผู้บริหารมูลนิธิฯ จัดพิธีมอบชุดของขวัญวันเด็ก ประกอบด้วย สมุด ดินสอ ดินสอสี ไม้บรรทัด และกระเป๋าดินสอ เป็นของขวัญให้กับนักเรียนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีผู้แทนโรงเรียนเป็นผู้รับมอบ ณ ลานสำนักงานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ รวมทั้งจัดให้มีการส่งชุดของขวัญวันเด็กของมูลนิธิฯ เพื่อมอบให้กับเยาวชนในส่วนภูมิภาค ผ่านหน่วยงานต่าง ๆ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ตลอดจนหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมจำนวนของขวัญวันเด็กที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้นำมอบให้กับเยาวชน เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 คิดเป็นมูลค่ากว่า 12 ล้านบาท

‘อนุทิน’ ร่วมต้อนรับ นทท.จีน เที่ยวบินแรก ย้ำ!! ไม่ต้องแสดงใบรับวัคซีนโควิด-19

(9 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการต้อนรับผู้เดินทางเที่ยวบินแรกหลังจากจีนเปิดประเทศ ว่า เที่ยวบินแรกมาจากเซี๊ยะเหมิน จำนวน 269 คน ในวันนี้จะมีเที่ยวบินจากจีนเข้ามา 15 เที่ยวบิน จำนวน 3,465 คน คาดการณ์ว่าในปี 2566 จะมีผู้เดินทางจากจีนเข้าไทยราว 7-10 ล้านคน จากเดิมที่ก่อนมีโควิด-19 มีราว 20 ล้านคน และผู้เดินทางจากทั่วโลกเข้าไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นสัญญาณดีต่อภาคการท่องเที่ยว คนมีงานทำ และมีโอกาส

“ทั้งหมดเข้ามาภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 ของประเทศไทย ซึ่งมีความเหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นมาตรการที่เหมือนกันสำหรับผู้เดินทางเข้าไทยจากทุกประเทศ และมั่นใจประเทศไทยมีความพร้อมรับผู้เดินทางจากทุกประเทศ ไม่มีการแบ่งแยกจนกว่าจะมีความจำเป็น” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับมาตรการผู้เดินทางเข้าไทยนั้น ยกเลิกการแสดงเอกสารฉีดวัคซีนโควิด-19 เริ่มตั้งแต่ 9 ม.ค.2566 เป็นต้นไป เนื่องจากคณะกรรมการวิชาการตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มีการประชุมเมื่อช่วงเช้า มีความเห็นว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทยครอบคลุมจำนวนมาก รวมถึง ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกส่วนใหญ่ก็มีการฉีดวัคซีนจำนวนมากแล้ว ขณะที่การกำหนดให้แสดงเอกสารฉีดวัคซีนจะทำให้เกิดความไม่คล่องตัว จึงไม่มีความจำเป็นต้องแสดง ฉะนั้น มาตรการเข้าไทยตอนนี้ คงเหลือต้องมีประกันสุขภาพครอบคลุมการรักษาโรคโควิด-19 สำหรับผู้เดินทางจากประเทศที่กำหนดว่าเมื่อจะกลับเข้าประเทศนั้น ๆ จะต้องแสดงผลการตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR เพื่อที่หากตรวจพบเชื้อแล้วต้องรักษาในประเทศไทย จะได้มีการรองรับค่าใช้จ่าย

'ตร.' เริ่มบังคับใช้ระบบตัดคะแนนใบขับขี่ สร้างวินัย เพิ่มความปลอดภัย ลดอุบัติเหตุ

โฆษก ตร.เผย เริ่มบังคับใช้วันนี้ ระบบตัดคะแนนใบขับขี่ ความผิดหลักตัดคะแนนทันทีที่ฝ่าฝืน ส่วนความผิดอื่น ๆ จะตัดเมื่อไม่ชำระค่าปรับ ถ้าถูกตัดเหลือ 0 จะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาต 90 วัน หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน

(9 ม.ค. 66) เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึง การตัดคะแนนใบขับขี่ ที่มีผลบังคับใช้วันนี้ (9 ม.ค.2566) ว่า “ระบบบันทึกคะแนนความประพฤติ" กำหนดไว้ใน ระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับระบบการบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ พ.ศ.2565 ซึ่งออกตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 142/1 เป็นความร่วมมือของ 4 หน่วยงาน คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการขนส่งทางบก ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)

ผู้ที่มีใบอนุญาตขับขี่แต่ละคน จะมีคะแนนความประพฤติคนละ 12 คะแนน หากทำผิดตามกฎจราจรในข้อหาที่ระบุไว้ จะถูกตัดคะแนนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด เช่น กลุ่มความผิดหลักที่เป็นปัจจัยในการเกิดอุบัติเหตุ (20 ฐานความผิด) จะถูกตัดคะแนนเมื่อทำผิดทันที ได้แก่

- ตัด 1 คะแนน เช่น ขับรถเร็วเกินกำหนด, ไม่สวมหมวกนิรภัย, ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย, ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย, ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ
- ตัด 2 คะแนน เช่น ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร (ฝ่าไฟแดง)
- ตัด 3 คะแนน เช่น ขับรถชนแล้วหนี
- ตัด 4 คะแนน เช่น เมาแล้วขับ, ขับรถในขณะเสพยาเสพติด

ส่วนกลุ่มความผิดอื่น ๆ 42 ฐานความผิด ตามบัญชีท้ายระเบียบ ความผิดกลุ่มนี้จะถูกตัดคะแนนเฉพาะกรณีไม่ชำระค่าปรับตามใบสั่งในเวลาที่กำหนดเท่านั้น เช่น ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรในทาง จอดในที่ห้ามจอด ไม่แสดงใบอนุญาตขับขี่ขณะขับรถ เป็นต้น

วิธีการตัดคะแนนนั้น จะดำเนินการโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้ระบบฐานข้อมูลใบสั่ง PTM ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการบันทึกการทำผิดกฎจราจรและตัดคะแนนในแต่ละครั้ง

โฆษก ตร. ย้ำว่า เมื่อผู้ขับขี่ถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 คะแนน จะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ หรือห้ามขับรถ เป็นเวลา 90 วัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้มีหนังสือแจ้งคำสั่งดังกล่าว และหากฝ่าฝืนไปขับรถในขณะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

การตัดคะแนน มุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนวินัยการขับขี่ จึงให้สิทธิผู้ที่ถูกตัดคะแนน สามารถขอคืนคะแนนได้ โดยการเข้าอบรมกับกรมการขนส่งทางบก กรณีที่คะแนนเหลือน้อยกว่า 6 คะแนน สามารถขอเข้ารับการอบรมได้ปีละ 2 ครั้ง ส่วนกรณีที่ถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 คะแนน และต้องการคะแนนกลับคืนมาทั้งหมด 12 คะแนน ก็สามารถขอเข้ารับการอบรม ซึ่งคะแนนจะมีอายุความเพียง 1 ปี เมื่อครบ 1 ปีที่กระทำผิด ระบบจะคืนคะแนนให้โดยอัตโนมัติ ประชาชนสามารถตรวจสอบคะแนนได้ 3 ช่องทาง ได้แก่

1.) เว็บไซต์ E-Ticket PTM ซึ่งพัฒนาโดยธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สามารถตรวจสอบใบสั่งค้างชำระ จ่ายค่าปรับ ตรวจสอบคะแนนความประพฤติ และตรวจสอบสถานะใบขับขี่
2.) แอปพลิเคชัน ขับดี (KHUB DEE) ซึ่งพัฒนาโดย NT เพื่อให้บริการข้อมูลข่าวสาร และตรวจสอบใบสั่งค้างชำระ และคะแนนความประพฤติ และดำเนินการด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่อันเป็นประโยชน์ต่าง ๆ ที่ทันสมัย
3.) แอปพลิชัน เป๋าตัง ให้บริการชำระค่าปรับผ่านระบบออนไลน์

‘โอม ภวัต’ ทวีตขอโทษ สำนึกในความผิด หลังถูกแฉเคย ‘แกล้ง - รังแก’ เพื่อนออทิสติก

(9 ม.ค. 66) หลังจากกระแสของซีรีส์จากเกาหลีใต้ เรื่อง The Glory ที่เข้าฉายใน Netflix ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกโซเชียล เนื่องด้วยเนื้อหาของเรื่องเป็นการกลับมาแก้แค้นคนที่เคยมีพฤติกรรมบูลลี่ผู้อื่น ในขณะเดียวกันชาวเน็ตไทยบางคนได้ออกมาเปิดโปงพฤติกรรมในอดีตของดารา-นักแสดงที่มีชื่อเสียงในตอนนี้จนกลายเป็นประเด็นร้อนข้ามวันข้ามคืน โดยหนึ่งในคนที่ถูกเปิดโปงพฤติกรรมในอดีตก็คือนักแสดงหนุ่มอย่าง ‘โอม ภวัต จิตต์สว่างดี’ นั่นเอง

โดยก่อนหน้านี้ได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งออกมาทวีตข้อความว่า "เมื่อไหร่เพื่อนเก่าหนูจะโดนแหกเรื่องบูลลี่บ้างอะ รอมานานมาก ชายตึกเจมที่ชอบแกล้งเพื่อนตั้งแต่ประถมยัน ม.ปลายก็ยังคิดไม่ได้ แถมชอบเลือกเหยื่อเป็นคนที่มีอาการออทิสติกอีก เพราะเขาสู้มันไม่ได้ ไม่สนหรอกว่าตอนนี้เปลี่ยนไปยัง แต่นี่รู้จักมันมาแต่เด็ก สันดานแย่ยังไงก็แย่ยังงั้น จบ เอางี้ ใบ้ว่าเรียน ม.ปลายชายล้วน มหาลัยตึกข้าง ๆ เพิ่งแมสช่วงโควิด แกขอโทษคนนั้นคนนี้ต่อหน้าฟค.แล้วก็อย่าลืมกลับไปขอโทษคนที่แกเคยแกล้งเขาสารพัดด้วยนะ ใบ้มากกว่านี้พี่ ๆ ชาวเน็ตต้องช่วยหนูหารค่าทนายละ ซีนที่สาดน้ำใส่เพื่อนกลางโรงอาหารตอน ม.ต้น ยังจำติดตาอยู่ทุกวันนี้ แต่แฟนคลับน่าจะบอกว่าน้องเป็นเด็กดี เห็นเพื่อนขาดน้ำเลยสาดน้ำเขียวให้งับ"

ล่าสุด โอม ภวัต ก็ได้ออกมาทวีตข้อความถึงประเด็นดังกล่าวผ่านทวิตเตอร์ว่า "สำหรับเรื่องราวที่เป็นประเด็นอยู่ ผมต้องขอโทษด้วยครับที่ออกมาอธิบายช้า เพราะเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับคนอื่นด้วย ผมขออนุญาตชี้แจงนะครับ

ผมยอมรับครับว่าตอนเด็ก ๆ ผมซนและแสบมากพอสมควร ซึ่งหลาย ๆ ครั้งก็เป็นการเล่นคึกคะนองแบบเด็กผู้ชายโดยไม่ได้มีเจตนาจะก่อให้เกิดความรู้สึกไม่ดี

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์ตอนมัธยมต้นที่ผมและเพื่อน ๆ แกล้งเพื่อน ซึ่งตั้งแต่ตอนนั้นผมและเพื่อน ๆ ถูกอาจารย์ตักเตือน ลงโทษด้วยไม้เรียว และเรียกผู้ปกครองเข้าพบ

ผมและคุณพ่อคุณแม่ ได้ขอโทษเพื่อนและคุณพ่อคุณแม่เพื่อนสำหรับความผิดของผมในครั้งนั้น เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับผมและทำให้พยายามปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นมาตลอด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top